สืบสายหายไปเกือบสัปดาห์ แต่พระแพงกลับไม่โทรหาเขาเลยสักนิด เขาเองก็ไม่ เธอไม่รู้ว่าตัวเองต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนานเท่าไหร่ เขาบอกว่าเมื่อเธอทำงานให้เขาแล้วจะปล่อยเธอไป แต่เขากลับยังไม่บอกเธอให้ชัดเจนว่าเมื่อไหร่ หรือถ้าต้องการเธอ 60 ครั้งอย่างที่บอก แต่เขากลับไม่มาหาเธอเลย แล้วจะอีกนานแค่ไหนกันที่เธอต้องอยู่ที่นี่ โดยไม่สามารถติดต่อใครได้เลย
ความคิดต่างๆ ประดังประเดเข้ามาจนสับสนไปหมด พระแพงขดตัว กอดเข่าชั้นอยู่มุมหนึ่งของโซฟา ผล็อยหลับไปอย่างรู้ตัว
สืบสายเปิดประตู แล้วต้องแปลกใจที่ทั้งห้องมืดราวกับไม่มีคนอยู่ เขาสงสัยว่าพระแพงแอบหนีออกไปข้างนอก เพราะเขาไม่ได้มาหาเธอเกือบสัปดาห์ เมื่อเปิดไฟในห้องเขาก็ต้องตกใจที่เห็นเธอนอนขดตัวอยู่บนโซฟา และไม่รู้สึกตัวว่าเขาได้เข้ามาในห้องเลยด้วยซ้ำ
เขาตรงไปอุ้มเธอขึ้น เพื่อย้ายไปนอนที่เตียง พระแพงก็รู้สึกตัวและรีบดีดตัวหย่อนขาลงที่พื้น เพื่อยืน ด้วยอาการที่ทำอะไรไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าเขาจะมา เธอแต่งตัวไม่เรียบร้อย และออกจะล่อแหลม เธอจึงรีบวิ่งไปหยิบเสื้อยืดตัวโคร่ง มาสวมทับเสื้อกล้ามที่สวมอยู่ ไร้ซึ่งยกทรงที่จะประคองเต้าตูม
“ไม่เห็นต้องขนาดนั้น ยังไงฉันก็เห็นมันหมดแล้ว” เขาพูดอย่างเฉยชา
“มันเป็นเรื่องของความเรียบร้อย ไม่ใช่เห็นหรือไม่เห็น” เธอหน้างอ แต่แดงกร่ำด้วยความอาย
“เรียบร้อยเหรอ” เขาหัวเราะ เขายื่นมือมาจับที่ผมยุ่งเหยิงที่อยู่ในคอเสื้อออกให้เธอ
“อ๊ะ! ทำอะไร” เธอเอี้ยวตัวหลบ สืบสายได้แต่ยกมือค้าง
“จับมากกว่านี้ก็ทำมาแล้ว” เขาหดมือกลับและยิ้มเย้ยเธอ และประชดด้วยคำพูด
“ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องพูด” เธอหันหลังและเดินไปที่มุมคิดเชนบาร์ หยิบจับนั่นนี่วางเข้าที่แก้เขิน
“ทานอะไรหรือยัง”
เขาถามอย่างห่วงใย เพราะเขาไม่ได้มาหาเธอเกือบสัปดาห์ และเงินที่เขาทิ้งไว้ให้อาจจะใกล้หมดแล้ว เขาซื้ออาหารจากสโมสร มาฝากเธอ วันนี้เขาไปว่ายน้ำกับพัศวีเช่นเคย แต่ไม่ได้ไปต่อกับเขาที่ผับ เพราะรู้ว่าพัศวีต้องการไปที่ผับด้วยเหตุผลใด ซึ่งเขาไม่ต้องห่วงเขาแล้ว เพราะจากเหตุการณ์วันนั้น เขาได้ขอร้องแกลมบังคับให้คนของคงทรัพย์ที่คอยดูแล และเป็นการ์ดอยู่ที่นั่นคอยเป็นหูเป็นตา และคอยดูแลพัศวีแทนเขา
สืบสายวางกล่องอาหารลงบนโต๊ะ และเดินไปหยิบจานชามที่เก็บไว้ในตู้เหนือศีรษะของพระแพง โดยไม่ได้รอให้เธอขยับตัวหลีกทางให้ เขาอาศัยตัวเองที่สูงกว่า และร่างกายกำยำโอบด้านหลังของเธอจนมิด เธอไม่สามารถเดินออกไปไหนได้นอกจากยืนอยู่นิ่งๆ เขาหยิบมันลงมาส่งให้กับเธอ 2 ชุด สำหรับเธอและเขา
“แกะอาหารให้หน่อย”
เขาสั่งเธอ และเดินไปเข้าห้องน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าชำระร่างกาย ก่อนออกมาในชุดลำลองสบายๆ พร้อมนั่งรับประทานอาหารเย็นกับเธอ
อาหารที่ถูกอุ่นให้ร้อนถูกจัดวางใส่ภาชนะเรียบร้อย เธอเตรียมช้อนและส้อม พร้อมแก้วน้ำเย็นให้กับเขา ส่วนเธอดื่มเพียงน้ำเปล่าอุณหภูมิปกติ จนเขาต้องเอยถามด้วยความสงสัย เพราะเธอดื่มน้ำเหมือนคุณย่าของเขา
“ไม่ดื่มน้ำเย็นเหรอ”
“ฉันไม่ดื่มน้ำเย็น” เธอตอบแบบขอไปที
“ทำไมล่ะ” เขาถามโดยยังไม่ลงมือทาน แต่หยิบช้อนและส้อมไว้ในมือเรียบร้อยแล้ว
“ตอนเด็กๆ ดื่มน้ำเย็นแล้ว ป่วยบ่อย เลยไม่ดื่ม ชินแล้ว”
เธอบอกสาเหตุที่ไม่ดื่มน้ำเย็น และลงมือตักข้าวเปล่าเข้าปากนิดหนึ่ง โดยไม่สนใจและมองหน้าเขา เพราะไม่รู้ว่าจะวางตัวอย่างไร เมื่อเห็นเช่นนั้น เขาจึงตักกุ้งผัดซอสมะขามให้เธอ พระแพงนิ่งไปนิดหนึ่ง
“ฉันแพ้กุ้ง” เสียงเธออ่อย เพราะรู้ว่าเขาเจตนาดี แต่เธอทานไม่ได้
“อย่างนี้ก็ทานอะไรไม่ได้เลยสิ ไม่งั้นฉันคงสั่งปลาหมึกแทน เพราะฉันชอบปลาหมึกมากกว่า” เขาพูดพร้อมกับมองอาหาร 3-4 อย่างตรงหน้า ซึ่งล้วนแต่มีกุ้ง
“นั่นไข่เจียวอะไร” เธอชี้ไปที่ไข่เจียวแทน
“อ๋อ อันนี้ไข่เจียวปู ทานได้ไหม” เขามองไข่แล้วมองหน้าเธอ
“ฉันแพ้อาหารทะเล” เธอส่ายหน้า แล้วก็รวบช้อน
“งั้นฉันสั่งอย่างอื่นให้แทน” เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดสั่งอาหาร
“ขอเป็นปลาได้มั้ย” เธอบอกสิ่งที่เธออยากทาน
“ได้สิ” เขากดเลือกรายการโดยไม่ได้ถามเธอสักคำว่าเลือกอะไรให้เธอ เธอจะชอบไหม
ผ่านไปราว 20 นาที อาหารที่สั่งก็มาถึง เขาลงไปรับอาหารเองเพราะพระแพงแต่งตัวไม่เหมาะที่จะลงไปพบใคร เมื่อได้อาหารมาแล้ว เขาก็ยื่นให้เธอจัดการ
“เอากับข้าวพวกนี้ไปอุ่นให้ใหม่ด้วยสิ”
“ฉันให้นายทานก่อน ก็ไม่ยอมทาน มันถึงได้เย็นชืด” เธอบ่น
“ก็ฉันจะทานพร้อมเธอนี่” เขายิ้ม
เมื่อจัดการเรื่องอาหารให้เขาใหม่แล้ว ทั้งคู่ก็ได้เวลาลงมือทาน ต่างคนต่างเงียบ ไม่มีการพูดคุยใดๆ ทั้งสิ้น จนน่าอึดอัด พระแพงเคี้ยวข้าวอย่างยากลำบาก ค่อยๆกลืน เพราะไม่เคยรับประทานอาหารกับเขามาก่อน ทำตัวไม่ถูก ทั้งเขินอายที่ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองค่อนข้างข้ามขั้นไปไกลกว่านั้นแล้ว
เขาทานเสร็จแล้ว นั่งมองเธอเงียบๆ เพราะเธอไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองเขาเลย ทำให้ไม่รู้ว่าเขากำลังจ้องมองเธออยู่ หญิงสาวค่อนข้างรับประทานอาหารอย่างเรียบร้อย นั่งหลังตรง การจับช้อนและส้อมค่อนข้างระวังไม่ให้กระทบกับจานเสียงดังจนเกินงาม การรวบอาหารไม่เขี่ยกระจัดกระจาย การจับแก้วน้ำยกขึ้นดื่มค่อยๆจิบ ไม่รีบร้อน จนเกิดเสียงดังเวลาที่กลืนลงคอ ซึ่งต่างจากหญิงสาวที่ดูก้าวร้าว ใช้กำลัง โวยวาย เข้ามาทำร้ายทุบตีเขาในคืนนั้น
“จะจ้องอีกนานไหม ฉันอิ่มแล้ว” พระแพงพูดทั้งที่สายตายังอยู่ที่อาหารข้างหน้า เธอรู้สึกว่าเขากำลังมองเธออยู่ จากหางตา
“ไม่” เขาตอบสั้นๆ
และลุกจากไปนั่งที่โซฟา นั่นหมายถึงหน้าที่ของเธอคือ จัดการเก็บสำรับอาหารของเขาและล้างทำความสะอาดประหนึ่งทำหน้าที่แม่บ้านของเขานั่นเอง
เมื่อล้างจานทำความสะอาดทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาที่น่าอึดอัดอีกครั้ง เพราะเขานั่งอยู่ที่เดิม เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรจะอยู่ส่วนใด หากไปนั่งที่เตียง ก็เหมือนกับจงใจมากเกินไป แต่ถ้าอยู่ตรงนี้ ก็เหมือนพยายามจะหลบเขา ถ้าไปหาเขาที่โซฟา ก็ไม่รู้จะวางตัวหรือพูดคุยอะไรกับเขา เธอจึงยืนนิ่งอยู่หน้าอ่างล้างจานอยู่นาน
“มานี่สิ” เมื่อเขาเริ่มพูด ทำให้พระแพงถึงกับเป่าปาก เธอเดินไปนั่งลงข้างๆ เขา
“เอ่อ” เธออึกอัก
“ฉันจะคืนโทรศัพท์กับกระเป๋าเงินให้น่ะ” เขายื่นของทั้งสองอย่างที่อยู่ในซองสีน้ำตาลให้กับเธอ พระแพงรับซองนั้นและนำมันออกมาเช็คดู ทุกอย่างยังอยู่ครบ และในสภาพปกติ
“ขอบคุณ” เธอกล่าวเบาและกำลังจะลุก แต่เขาจับแขนเธอไว้ก่อน จนเธอเซล้มลงบนตักเขา
“อยากกลับบ้านไหม”
อยู่ดีๆเขาก็ถามขึ้นมา เธอคิดแค่ว่าเขาตั้งใจจะมานอนกับเธอ เพื่อชดเชยเงินหกแสนของเขา คิดไม่ถึงว่าเขายังนึกถึงความรู้สึกของเธอบ้าง พระแพงได้แต่อึกอัก ตอบไม่ถูก ได้แต่พยักหน้า และจะลุกขึ้นจากตักเขา แต่เขากลับกอดเธอไว้ ไม่ยอมปล่อยแขนเธอ
“พรุ่งนี้ฉันจะไปส่งที่บ้าน แต่คืนนี้เธอคงรู้นะว่าหน้าที่ของเธอต้องทำอะไร” พร้อมทั้งจูบเธอ จนพระแพงเผลอปล่อยซองน้ำตาล มันเขาออกไป เพราะไม่ทันตั้งตัว
เขาลุกขึ้น จูงมือพระแพงมาที่เตียง และถอดเสื้อของเธอออก และผลักเธอลงนอน แล้วดึงกางเกงตัวจิ๋วออกอย่างรวดเร็ว พระแพงได้แต่มองตาปริบๆ ทำอะไรไม่ถูก เพราะเขาไม่รอให้เธอตอบรับหรือปฏิเสธเลย ร่างกายที่เปลือยเปล่าของเธอกึ่งนอนกึ่งนั่งด้วยอาการตกใจ เขาจึงถอดเสื้อผ้าของตัวเองอย่างรวดเร็ว พระแพงจ้องมองเขาไม่ได้หลบสายตาไปทางใด เธอเพิ่งตั้งใจมองเรือนร่างและสำรวจร่างกายเขาอย่างชัดเจนในตอนนี้ เป็นครั้งแรก
สายตาที่สู้ตาเขา บอกความรู้สึกที่เธอต้องการเขา และความอยากรู้อยากเห็น ทำให้เกร็ง ด้วยความอึดอัด เพราะเธอไม่เคยจ้องเขาแบบนี้มาก่อน กับความรู้กสึกที่คิดว่าเธอจะมีปฏิกิริยาต่อเขาอย่างไร หลักจากการร่วมรักกันครั้งแรกที่ไม่ค่อยดีนัก ถึงแม้คืนนั้นจะต่อกันอีกหลายรอบ แต่เป็นเขาฝ่ายเดียวที่รุกเธอ การตอบสนองของเธอมันแค่ปฏิกิริยาตามธรรมชาติของร่างกายเท่านั้น
เขาอยากเห็นเธอตอบสนองจากความรู้สึกที่ต้องการเขา อย่างเร่าร้อน ในขณะที่แก่นกายของเขาเริ่มผงาดต่อหน้าเธอนั้น ดวงตาของเธอเบิกโพรง หัวใจเต้นแรง แขนขาเริ่มอ่อนแรง หายใจไม่ทั่วท้อง เธอมองสิ่งนั้นและหันกลับมามองที่แขนของตัวเอง พบว่ามันเล็กว่าข้อมือของเธอนิดเดียว แต่มันสามารถเข้ามาอยู่ในกายของเธอได้ ใจเธอสั่นและเต้นแรงจนต้องเบือนหน้าไปทางอื่นไม่ให้จ้องมองเขา ท่าที่นั่งอยู่และท้าวแขนไปด้านหลัง ดันอ้าขาออกอัตโนมัติ พระแพงขยับถอย
“มาสิ”
เขาเรียกเธอให้เข้ามาใกล้ๆ แต่เธอไม่กล้าแม้จะมองหน้าเขา เหมือนต้องมนต์สะกด เขาจับมือเธอให้แตะต้องน้องชายของเขา ที่ทั้งอุ่นและนุ่มลื่น สัมผัสของเส้นเลือดที่เต้นตุบๆ ในอุ้งมือของเธอ ทำให้เธอนึกถึงตอนที่เข้าไปตอดอยู่ในโพรงน้อยของเธอ
“เธอแค่จัดการมัน”
เมื่อเธอลังเล และจับมันอย่างกล้าๆกลัว โดยเขายังกุมมือเธออยู่ เขาจึงก้มลงจูบเธอ ใช้ปลายลิ้นซอกซอนเกี่ยวตวัดในปาก และลิ้นของเธออย่างเร่าร้อนดูดดื่ม
“ทำแบบที่ฉันจูบเธอกับมันสิ”
เขาหายใจแรง เมื่อแรงที่ลูบไล้สัมผัสกายเขาแรงขึ้น เมื่อเขาถอนริมฝีปากออก และดันมันเข้าใกล้เธอ พระแพงจูบส่วนปลายทั้งที่ยังหลับตา จินตนาการว่ากำลังจูบเขาแบบเดียวกับจูบปากของเขา ทำให้เขาถึงกับเกร็งไปทั้งร่าง เขาดันเข้าไปจนลึก และกดศีรษะเธอจนแนบ น้ำตาของเธอไหลออกมา เพราะความคับแน่น การเข้าและออกตามจังหวะที่เขาควบคุม ทำให้เธอได้แต่ตกใจจนดวงตาเบิกโพรง เพราะเธอแทบจะหายใจไม่ออก เขาครางและผ่อนลมหายใจเข้าออกตามจังหวะ และดึงมันออก ทำให้เธอถึงกับสำลัก
เขาผลักเธอให้นอนลงบนเตียง ดันขาทั้งสองข้างของเธอแยกออกจากกัน แหวกพงหญ้าของเธอ และดูดติ่งสาวอย่างหิวกระหาย เขาดูดมันไว้เต็มคำใช้ลิ้นคลึงดุนกับริมฝีปาก จนเธอกระตุกแอ่นกายท้าท้ายลมหายใจของเขา เธอร้องอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าเขาจะทำอย่างนั้น ดวงตาของเขามีประกายดุดัน ราวกับเสือร้ายที่กำลังขย่ำลูกกวาง แววตาที่จ้องมองเธอผ่านพงหญ้า เหมือนเตือนเธอว่ากงเล็บของเขากำลังจะขย่ำเข้าไปในกายเธอ เสียงคำรามยามที่เขาลากลิ้นผ่านช่องแคบและตวัดที่เนินสวาท เหมือนกระแสไฟแผ่ซานไปทั้งร่าง เธอถูกเครื่องกระตุ้นกำหนัดช็อต จนสะโพกกระเด้งรับลิ้นแข็งที่สอดใส่ จนเขารับรู้ถึงน้ำหวานที่กำลังหลั่งรินของเธอ เขาจึงผ่านน้องชายเข้าแทนที่อย่างรวดเร็ว
ความรู้สึกคับแน่นแทนที่ความนุ่มลื่น มันทั้งแข็งและอึดอัด เธอพยายามขยับ แต่เขากลับกดให้มันจมมิดไปกับร่างของเธอ ไม่ยอมถอนมันออกมาและหยุดนิ่ง
“ออกไปก่อน”
แรงกดของเขาดันให้ตุ้มสวาทของเธอจมลง จนต้องร้องขอ เพราะร่างของเธอเกร็งรับแทบไม่ไหว คล้ายจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ เขาเองก็เช่นกัน แรงสั่นจากภายในที่ทั้งสองคนรับรู้ได้พร้อมกัน
“รอก่อน”
เขาบอกให้เธอรอ เพราะเขาต้องช้าลงหน่อย ค่อยๆ เคลื่อนออก และเข้าไปใหม่ อย่างนั้นหลายครั้ง จนร่างกายผ่อนคลาย เมื่ออยู่ในจังหวะที่เหมาะสมแล้ว เขาจึงเร่งจังหวะสับไกและยิงกระสุนกระหน่ำ สาดส่าย จนเธอกรีดร้องครวญคราง ดวงตาพร่ามัวเห็นดาวนับร้อย
เขาและเธอนอนอสลบสไหลก่ายกอดกันอยู่อย่างนั้น ต่างฝ่ายต่างหลับไป เพราะความเหนื่อยล้า สืบสายเหนื่อยจากการว่ายน้ำ และกรำศึกกับพระแพง จนเผลอหลับไป ทำให้หญิงสาวที่ยังไม่ช่ำชอง ได้พักกายอย่างไม่ต้องพะวง ว่าเขาจะคืบคลานเข้าไปในร่างกายเธออีกตอนไหน ได้แต่ซุกตัวอยู่ข้างกายเขา และโอบวงแขนรัดเอวเขาไว้หลวมๆ ต้นขาเล็กพาดทับขาที่ใหญ่และแข็งแรงกว่าของเขา
ชีวิตโสดและสนุกสนานกับการท่องราตรีของพัศวี เป็นวัฏจักร แม้ค่ำคืนนี้เขาจะฉายเดี่ยว แต่ก็ยังมีสาวข้างกายเสมอ เนื้อน้อง เพื่อนสาวของนับหนึ่งเป็นคู่ควงของเขาในคืนนี้ เขาสานสัมพันธ์กับเนื้อน้องในคืนที่แรกที่รู้จักกัน เพราะได้อาสานั่งรถบริการผ่านแอพมือถือ ไปส่งเธอที่บ้านจึงมีเวลาส่วนตัวได้พูดคุยกัน ต่างฝ่ายต่างรู้สึกดีต่อกัน แต่ด้วยมิตรภาพระหว่างเพื่อน จึงค่อยเป็นค่อยไป ไม่ให้เกิดปัญหากระทบกันในกลุ่มภายหลัง
“ขอบคุณนะที่ออกมาเป็นเพื่อน”
เขากล่าวขอบคุณเนื้อน้องอย่างสุภาพ และส่งสายตาเจ้าชู้ เนื้อน้องมองเขาออกว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้ แต่ก็ชอบเพราะมันเป็นเสน่ห์ของเขา เธอไม่ได้รู้สึกอึดอัดหรือไม่พอใจ ที่ตลอดเวลาเขาทักทายสาวคนอื่น หรือขนาดหอมแก้มใกล้ชิดกันต่อหน้าเธอ เพราะเธอรู้จักเขาดีพอประมาณ การได้ควงเขามันก็เป็นความรู้สึกภูมิใจอย่างหนึ่งเช่นกัน แม้ทั้งคู่จะทำความรู้จักสนิทสนมกันมาพักหนึ่งแล้ว แต่เธอกับเขาก็ไม่เคยคิดที่จะจบกันที่เรื่องบนเตียงมาก่อน เขาและเธอคบกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีเคยมีเรื่องทางกายเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาให้สถานะเนื้อน้องเป็นเสมือนเพื่อนสาวคนสนิท หรือบางครั้งถึงกับขอให้เธออ้างตัวเป็นคนรักของเขาเพื่อกันหญิงสาว ที่เขาเริ่มเบื่อและตีตัวออกห่าง อย่างเช่นแก้วตา ที่ตอนนี้เขารู้สึกว่าเธอไม่น่าสนใจอีกต่อไป
“ชวนฉันมาเนี่ย ก็หาคนดีๆ ให้ฉันบ้างสิ แฟนแย่ๆ แบบนี้ ฉันเริ่มเบื่อแล้วสิ” คำพูดของเนื้อน้อง ทำให้เขาถึงกับหัวเราะ
“คนดีๆ ไม่ค่อยมีในผับน่ะสิ นอกจากคนแย่ๆ แบบฉัน เป็นแฟนพี่ต้องอดทน” เขาเย้าเธอ
“ว่าแต่มาที่นี่บ่อยๆ เนี่ยมีวาระแอบแฝงเหรอ”
เนื้อน้องขยับเข้าไปนั่งข้างๆเขา และแนบศีรษะลงบนไหล่ ถามเขาด้วยน้ำเสียงที่รู้ทัน การแสดงความใกล้ชิดเขาแบบนี้เป็นหน้าที่ของเธอ เพราะการไปไหนมาไหนกับเขาเพียงแค่สองคน คือการแสดงตัวว่าเป็นแฟนเขาต่อหน้าคนอื่น
“อืม” เขาทำเสียงเข้ม
“โอเค ฉันจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี”
เนื้อน้องยิ้ม และจูบเขาที่แก้ม และหันมาดื่มเครื่องดื่มของตัวเอง เขาโอบไหล่เธอและก้มลงจูบที่ศีรษะ เพราะเนื้อน้องค่อนข้างรู้ใจ และเข้าใจเขาเป็นอย่างดี ถึงแม้เพื่อนสนิทของเขาทั้งสอง คือ ธนญ และสืบสาย แต่ด้วยความเป็นผู้ชายเหมือนกัน ทำให้เรื่องความรู้สึกบางอย่างของผู้หญิง มันยากที่จะให้คำปรึกษา เขาโชคดีที่รู้จักนับหนึ่งและกลุ่มเพื่อนๆ เพราะทั้ง 5 สาว มีบุคลิกที่แตกต่างกันชัดเจน โดยเฉพาะเนื้อน้อง ที่เธอไม่ค่อยยึดติดเรื่องความเจ้าชู้หรือเรื่องการมีเพศสัมพันธ์แบบชั่วคราว ว่าเป็นสิ่งต้องห้าม หรือสิ่งที่ไม่ควรทำ เธอมองเรื่องความพึงพอใจ และความสุขของตัวเองเป็นหลัก
“คืนนี้เธออยากจะนอนกับฉันไหม” เขาถามขึ้นมาดื้อๆ ทั้งที่ไม่เคยคุยกันเรื่องพวกนี้มาก่อน
“มันเป็นหน้าที่ฉันด้วยเหรอ” เธอถามอย่างยียวน
“ใครๆ ก็อยากนอนกับฉัน เธอไม่อยากบ้างเหรอ” เขาถามอย่างสงสัย
“ไม่ นายมันของตาย” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะร่วน พัศวีถึงกับอ้าปากค้าง ดึงแก้วเหล้าของเธอมาดื่มเอง
“ไม่ต้องดื่มแล้ว เธอเมาแล้ว”
“นายจะบ้าเหรอ นั่นมันของฉัน”
เนื้อน้องพยายามยื้อแย่ง แม้แต่แก้วเปล่าเขายังไม่ยอมคืน เธอตีหน้าอกเขาไปเบาๆ จนเขาต้องยอมคืนให้ดีๆ การถึงเนื้อถึงตัวกันมันก็แค่การหยอกเย้า ไม่ได้มีความรู้สึกอื่น
ในสายตาของผู้หญิงคนอื่นต่างอิจฉาเนื้อน้องเป็นอย่างมาก เธอไม่ได้มีหน้าตาสวยงามอะไรมากมาย แค่หน้าตาสวยแบบเรียบ ๆ ที่พอไปวัดไปวาได้ ควงไปไม่อายใคร แต่หากเทียบกับสาวๆ คนอื่นๆ ของพัศวี มันต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ทั้งรูปร่าง หน้าตา ความโฉบเฉี่ยว โดดเด่น
“ฉันอยากนอนกับเธอ” เขากระซิบข้างหูอย่างจริงจัง แต่เนื้อน้องยังนิ่งอยู่ ทำเหมือนไม่ได้ยิน
พัศวีขอตัวไปทักทายคนรู้จักอีกด้านหนึ่งของบาร์ ทำให้เธอต้องนั่งอยู่เพียงลำพัง และเผลอคิดเรื่องที่เขาอยากมีอะไรกับเธอ เธอมองรูปร่างของเขา เลยไปถึงส่วนนั้นที่อยู่ใต้ผ้า เขาทั้งหล่อเหลา หุ่นดี มีเสน่ห์ แต่ทำไมเธอถึงอยากปฏิเสธมัน เธอไม่มีความต้องการเขาจริงหรือ เนื้อน้องได้แต่ถามตัวเอง แต่เวลาที่เธอเห็นเขาเคล้าเคลีย จูบหรือสัมผัสหญิงสาวคนอื่น เธอกลับรู้สึกชอบที่จะได้เห็น ได้มองมัน อยากรู้ว่าเขาทำอย่างไรกับสาวคนนั้น แต่เธอไม่เคยจินตนาการถึงตัวเองเลยสักครั้ง เธอไม่อยากให้เรื่องนั้นมาทำลายความรู้สึกดีๆ ระหว่างเขาและเธอ รวมถึงกลุ่มเพื่อนๆ ที่คบกัน
พัสวีที่ยืนอยู่ที่บาร์ กำลังทำความรู้จักหญิงสาวนางหนึ่ง ที่เพื่อนของเขาแนะนำให้ ภาพที่เห็นทำให้ใจของเนื้อน้องเริ่มเต้นแรง มือที่จับแก้วเหล้าเคล้าคลึงไปมาอยู่อย่างนั้น เมื่อเขากลับมาหาเธอ และพาหญิงสาวคนนั้นมาด้วย ทำให้เธอถึงกับหน้าตึง และเกร็งไปหมด แต่ก็ฝืนยิ้มให้กับเขา
“นี่คุณอัญชิสา” เขาแนะนำหญิงสาวให้เนื้อน้องรู้จัก เนื้อน้อง พยักหน้ารับ และยิ้มให้แบบฝืนๆ
“เธอเป็นแฟนคุณเหรอ” สาวคนใหม่ถามพัศวี
“เพื่อน” การที่เขาแนะนำเนื้อน้องว่าเพื่อน นั่นหมายถึงเขาถูกใจสาวคนนี้เข้าแล้ว และคงไม่พ้นไปต่อที่ไหนสักแห่ง
“เนื้อน้องค่ะ เราเรียนที่เดียวกัน” เธอแนะนำตัว
“คุณสองคนคงสนิทกันมากสินะคะ ปกติผู้หญิงกับผู้ชายไม่ค่อยมาด้วยกันลำพังแบบนี้” เธอถามอย่างคาดเดา
อัญชิสาเป็นหญิงสาวที่ใบหน้าเฉี่ยวคม มีเสน่ห์เย้ายวน รูปร่างสูง หน้าอกเต่งตึงกลมมน สะโพกผายเต็มตึง ผมยาวตรงพริ้วไหวดุจเส้นไหม เป็นประกายเงางาม
“ครับ”
พัศวีตอบแทน และนั่งลงที่เดิมของเขาข้างเนื้อน้อง และโอบไหล่เป็นเชิงสัญลักษณ์ เขาทำเช่นนี้เพียงเพื่อทดสอบหญิงสาวทั้งสองว่าจะมีความรู้สึกเช่นไรกับการกระทำของเขา อัญชิสาทอดสายตาที่เย้ายวน ในท่านนั่งไขว่ห้าง และเอนตัวพิงกับพนักด้านหลัง ในมือถือเครื่องดื่มไว้ หมุนข้อมือให้ของเหลวหมุนวนโดยรอบ
“ฉันอยากได้เธอ” เขากระซิบที่ข้างหูของเนื้อน้อง
“ไหนว่าอยากได้ฉัน”
เนื้อน้องถาม หันไปหาเขาและจูบที่ริมฝีปากของพัศวี และกัดเขาเบาๆ จนชายหนุ่มต้องรีบถอนปากออก เนื้อน้องหัวเราะเยาะเขา
“เราแค่เล่นกันน่ะ” พัศวีหันไปบอกกับอัญชิสาแก้เขิน ที่ถูกเนื้อน้องแกล้งให้อาย
“ค่ะ” อัญชิสารับคำสั้นๆ นึกขำ ที่ถูกพัศวีลากเข้ามาในเกมส์ของเขา
หนึ่งหนุ่มสองสาวพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน จนได้รู้ที่มาที่ไปของกันและกัน อัญชิสา มาที่นี่พร้อมเพื่อนของพัศวี เธอเป็นพี่สาวของเขา แต่เนื่องจากเพื่อนของเขากำลังคั่วหญิงสาวนางหนึ่ง จึงขอให้เธอมานั่งกับเขาแทน เพราะมีเนื้อน้องอยู่กับพัศวีเขาจึงไม่กลัวที่จะทิ้งปลาย่างไว้กับแมว
เธอเพิ่งกลับมาจากออสเตรเลีย จึงยังไม่ค่อยมีเพื่อน เพื่อนเก่าๆ ก่อนเดินทางไปที่นั่นก็ไม่ได้ติดต่อกันมานานมากแล้ว การที่ได้อยู่กับพวกพัศวีน่าจะดีกว่า เนื่องจากพวกเขาเรียนในมหาวิทยาลัยหลักสูตรนานาชาติ ความเป็นสากลน่าจะทำให้เข้ากับเธอได้ไม่น้อย
“แล้วกลับมาทำงานเลยไหมครับ” พัศวีชวนเธอคุย
“กะว่าจะพักสัก 2-3 เดือน ค่อยเริ่มเข้าไปศึกษางานที่บริษัทของคุณพ่อน่ะค่ะ”
เธอตอบด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร และเป็นกันเอง
“อีกราว 2 อาทิตย์ พวกผมก็จะเปิดภาคเรียนแล้ว ยังไงหากอยากไปเที่ยวที่ไหน จะให้พาเที่ยวก็บอกได้นะครับ”
พัศวีอาสาเพราะเขาค่อนข้างถูกใจเธอเป็นพิเศษ เธอมีบุคลิกที่คล้ายกับเกศิตาในบางครั้ง การได้พูดคุย และมองดูเธอทำให้เขานึกถึงเกศิตาขึ้นมา ตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้น เขามาที่นี่หลายครั้ง เพราะหวังจะได้พบเธอบ้าง แต่กลับไม่เคยได้เจอเธอเลยสักครั้ง ผับในกรุงเทพฯมันก็มีไม่มากในสังคมของพวกเขา หรือเธอพยายามที่จะหลบเขา
“ได้ค่ะ จะไม่เกรงใจนะ” เธอรับคำและยิ้มให้กับเขาอย่างอ่อนโยน
เนื้อน้องเป็นผู้ฟังมากกว่า เธอชอบมองเวลาที่พัศวีพูดคุยกับอัญชิสา เธอมองริมฝีปากที่ขยับ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาที่อ่อนโยน มันมีเสน่ห์และเพลิดเพลินสำหรับเธอ ฝ่ายอัญชิสานั้น ก็ดูเย้ายวนทุกท่วงท่ากิริยา น้ำเสียงและการพูดจาฉะฉานดูมีความมั่นใจ ความสวยงามที่ทำให้เคลิบเคลิ้มชวนฝัน
“เธอมองคุณอัญ มากกว่ามองฉันอีก” พัศวีแกล้มแหย่เธอ
“หึงเหรอ” เนื้อน้องเมินเขา มองไปทางอื่น
“ใช่หึง” เขาตอบหน้าตาย
เขามองเนื้อน้องอย่างค้นหา เมื่อคิดทบทวน หลายๆ ครั้งที่เขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่น เธอก็เอาแต่มองผู้หญิงแทนที่จะเป็นเขา เธอไม่เคยแสดงความหึงหวงหรือต้องการเขาเลยสักครั้ง แต่เธอกลับยอมที่จะเป็นแฟนกับเขา ถึงแม้จะเป็นแค่สมอ้าง แต่เมื่อนานวัน เขาเองก็รู้สึกดีกับเธอไม่น้อย มันเริ่มทำให้เขาต้องการเธอขึ้นมา เตียงที่มีไว้กับผู้หญิงคนอื่น แต่ไม่เคยมีเนื้อน้องบนเตียงของเขา บอกใครคงไม่มีใครเชื่อ
เมื่อแยกกับ อัญชิสาแล้ว เหลือเขากับเนื้อน้องเพียงลำพัง เขาอยากเป็นเจ้าของร่างกายเธอ จึงถามเธอออกไปอีกครั้ง
“นอนกับฉันเถอะ”
“วันนี้เธอถามฉัน 3 ครั้งแล้วนะ” เธอแปลกใจที่เขาพยายามพูดกับเธอเรื่องนี้
“ทำไมเธอไม่อยากนอนกับฉัน เธอไม่ชอบฉันเหรอ”
“ชอบสิ ก็นายเป็นเพื่อนฉัน”
“เธอชอบฉัน หรือชอบผู้หญิงของฉันกันแน่” เขาเสียงเข้มขึ้นมาทันที
“ตลก ฮ่ะฮ่ะฮ่า” เธอทำเสียงหัวเราะหน้าตาย
“เธอเอาแต่มองคนอื่นจูบฉัน มองฉันลูบคลำคนนั้นทีคนนี้ที คงอยากมองอย่างอื่นด้วยสินะ”
เขาพูดในสิ่งที่คิด และสังเกตเธอมาตลอด
“อยากสิ” เนื้อน้องยิ้มที่มุมปาก คำตอบของเธอทำให้เขาอึ้ง
“แต่ฉันอยากมองเธอกับฉันมากกว่าตอนนี้” พัศวีโกรธที่เธอตอบหน้าตาเฉยที่อยากเห็นเขามีอะไรกับคนอื่น
เขาได้แต่เงียบ ไม่พูดอะไรอีก จนเนื้อน้องอ่อนใจ ที่เขาเริ่มงอแงในเรื่องของเธอ เขาเป็นผู้ชายที่ไม่เคยพลาดเรื่องผู้หญิง แต่พอมีเธอเข้ามา เขากลับไม่สามารถมีอะไรกับเธอได้เหมือนกับที่มีกับคนอื่น เขาคงรู้สึกเสียเชิงมากกว่า ที่จะต้องการเธอจริงๆ หากเขาไม่ได้รักเธอ และเขาสามารถมีใครต่อใครได้อีกเรื่อย ๆ เขาจะมาสนใจที่อยากจะนอนกับเธอให้เป็นเรื่องใหญ่ทำไม เธอคิดเพียงเท่านี้ เธอชอบเขาที่อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขสนุกสนานด้วยกัน มันดีมากกับความรู้สึกของเธอแล้ว เธอไม่อยากเสียใจ หรือทะเลาะกับเขาหากเขายังไม่พอและมีคนอื่นอีกเรื่อย ๆ
พัศวีพาเธอมาที่โกดัง เมื่อประตูปิดลง เขาดับเครื่องยนต์ เนื้อน้องได้แต่มองหน้าเขา เพราะคาดเดาไม่ถูกว่าเขาจะทำอะไร เขาต้องการหักหาญน้ำใจเธอหรือเปล่า ความเงียบทำให้บรรยากาศระหว่างเขาและเธอเคร่งเครียด
“ฉันจะพาเธอมาดูบางอย่าง”
เขาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา และลงจากรถเปิดประตูให้กับเธอ เนื้อน้องลงมาด้วยความกลัว เพราะเธอยังไม่พร้อม และไม่ได้เตรียมใจมากับเรื่องนี้
เขาพาเธอไปนั่งที่โซฟาด้วยกัน และใช้รีโมทเปิดจอมอร์นิเตอร์ขนาดใหญ่เต็มผนัง และวีดีโอของเขากับผู้หญิงคนล่าสุดที่เขามีเซ็กซืด้วยกันที่นี่ นั่นก็คือเกศิตา เนื้อน้องถึงกับเกร็งและนิ่งอึ้ง ที่เขาเปิดมันให้เธอดู
“นั่นคือคนที่สั่งให้ลูกน้องทำร้ายฉัน”
เขามองที่จอ เรือนร่างของเกศิตา ทำให้เขาคิดถึงเธอและอยากสัมผัสเธออีกสักครั้ง เพราะเขาลืมเธอไม่ได้ เขาจึงได้พยายามที่หาผู้หญิงคนอื่นมาทดแทนความรู้สึกนั้น เนื้อน้องคือหญิงสาวที่เขายังไม่ได้คนหาในตอนนี้ การได้ดูวีดีโอนั่นมันกระตุ้นให้เขาอยากค้นหาเธอมากขึ้น และอารมณ์ชั่ววูบที่อยากเอาชนะเธอ และเธอก็เป็นคนที่เอ่ยปากบอกเขาเองว่าอยากเห็นเขานอนกับผู้หญิงอื่น จึงทำให้เขาต้องตัดสินใจพาเธอมาที่นี่ ทั้งที่ไม่อยากให้เธอมาอยู่ในที ที่เขาใช้ชั่วคราวกับคนอื่นที่ไม่ได้มีความหมายกับเขา
เนื้อน้องไม่กล้ามองมันตรงๆ เธอหันไปมองหน้าเขา จนเห็นแววตาที่ดุดัน แฝงไว้ด้วยความโหยหา หื่นกระหายต่อหญิงสาวในภาพ เขากัดริมฝีปากตัวเอง และกำมือแน่น เพื่อสะกดอารมณ์บางอย่าง เนื้อน้องจับมือเขาเพื่อให้เขาได้ผ่อนคลาย แต่กลับถูกเขาสะบัดออก เนื้อน้องไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“ในเมื่ออยากดู ก็ดูสิ จะมาสนฉันทำไม”
เขาจับใบหน้าของเธอให้หันกลับไปมองที่จอ โดยกอดประคองไว้ด้านหลัง เขาเอียงหน้าเข้ามาใกล้ๆ และพูดกับเธออย่างแผ่วเบา
“ฉันอยากทำกับเธอ”
และซุกไซร้ลงซอกคอ ทั้งที่ตายังจ้องมองภาพเบื้องหน้า ที่เขากับเกศิตากำลังสอดใส่ในกายเธอบนโซฟาตัวนี้ เนื้อน้องใจเต้นแรง และจ้องมองเขาไม่วางตา แก่นกายของเขาทรงพลังและไม่อาจเบนสายตาจากมันได้ ดวงตาของเนื้อน้องเต็มไปด้วยความรู้สึกสับสน และเร่าร้อน เธอกำลังรู้สึกโกรธที่เขาทำมันกับผู้หญิงคนนั้น ทั้งที่เธอดูจะชอบและต้องการเขามาก แต่เธอกลับทำร้ายเขาปางตาย ในทางกลับกัน เรือนร่างที่เย้ายวนของเธอทำให้เนื้อน้องอิจฉาและอยากลองสัมผัส อกอวบอูมที่พัศวีกำลังดูดดื่ม ทำให้เธออยากขยุ้มขยำมันให้แหลกคามือ เสียงกรีดร้องและลมหายใจกระเส่าพวกนั้นบอกถึงความเต็มตื้น หฤหรรษ์ของพวกเขา ความโกรธที่กำลังพุ่งพล่านในความคิด ทำให้เนื้อน้องลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
“มีสักที่ไหมในห้องนี้ที่เธอไม่ทำมันกับผู้หญิงคนนั้น” เนื้อโพร่งถามด้วยความอึดอัด
“ไหนบอกอยากดูฉันมีเซ็กซ์กับคนอื่นไง แล้วจะโมโหทำไม” เขาดึงมือให้นั่งลง
“ฉันอยากดูนาย แต่ยายคนนั้นทำร้ายนายนี่นา ดูหล่อนสิ ชอบนายขนาดนั้นแล้วยังทำร้ายนานอีก”
เนื้อน้องโมโหจนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ พัศวีจึงกอดเธอไว้ เพื่อให้ใจเย็นลง
“ฉันก็ชอบเขามาก” พัศวีสารภาพ ร่างกายของเกศิตาคือสิ่งที่เขาโหยหามาตลอด จนถึงตอนนี้
“ใช่นายอยากได้เขา ไม่ใช่ฉัน” และพยายามสลัดตัวเองออกจากอ้อมกอดของเขา
“ฉันจะไปส่งเธอที่บ้าน”
พัศวีคิดตามคำพูดของเนื้อน้อง ทำให้ได้สติ เขาไม่อยากลงเอยกับเธอเหมือนหญิงสาวคนอื่น ขณะที่ขับรถมาส่งเนื้อน้อง ตลอดทางเนื้อน้องไม่ได้พูดอะไร แต่เธอดูเศร้า หน้าถอดสี ดวงตาครุ่นคิดอย่างเห็นได้ชัด เขาอยากสัมผัสเธอ ต้องการเธอ แต่เขาอดคิดถึงเกศิตาไม่ได้ เนื้อน้องเป็นเพื่อนที่ดี จนบางครั้งเขาเผลอคิดว่าเธอเป็นแฟนของเขาจริงๆ
ธนญ พานับหนึ่งมาที่คอนโดหรูติดริมแม่น้ำ มองเห็นทิวทัศน์แม่น้ำและสะพานข้ามต่างๆ สวยงามชัดเจน มันเป็นห้องส่วนตัวของเขา ที่ใช้เวลามาดื่มกับเพื่อนที่ผับ หรือสโมสร ตั้งแต่คบกับเขามานับหนึ่งไม่เคยถามเรื่องส่วนตัวใดๆ กับเขาเลย จะรับรู้ต่อเมื่อเขาเป็นฝ่ายเล่าให้เธอฟังเอง เพราะเธอเคารพในความเป็นส่วนตัวของเขา เช่นเดียวกับที่เขาไม่เคยถามเธอก่อน มีแต่เธอเล่าให้เขาฟังก่อนเสมอ“ที่นี่สวยจัง” เธอมองทิวทัศน์ผ่านผนังกระจกหนา ที่เปิดม่านออกจนหมด“ห้องนี้ฉันซื้อไว้นอนกับผู้หญิง” เขาตอบเธอตรงๆ นับหนึ่งเบิกตากว้าง หันขวับมามองเขา“บางเรื่องไม่ต้องบอกฉันก็ได้” เธอต่อว่า“รู้ทีหลังจะมาโกรธฉัน”“ถ้าเขายอมนาย และนายก็ชอบ ฉันจะมีสิทธิ์ว่าหรือโกรธอะไรนายได้ล่ะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“ฉันไม่ชอบการมีแฟน” คำพูดของเขาทำให้นับหนึ่งหายใจติดขัด แต่ก็พยายามเก็บอาการเอาไว้“เราสองคนเป็นอะไรกันเหรอ” นับหนึ่งถามเขาตรงๆ“เพื่อน&rdq
หลังจากวันที่เธอตัดสินใจจบความสัมพันธ์ทางกายกับ ธนญ ความเป็นเพื่อนของทั้งคู่ก็จบลงด้วย แม้จะเจอกันในห้องเรียน ต่างฝ่ายต่างไม่เคยแม้แต่มองหน้ากัน นับหนึ่งเป็นคนที่เข้มแข็งแม้จะถูกหญิงสาวที่เคยอิจฉาเธอค่อนแคะ เธอก็ไม่โต้ตอบ หรือแสดงความโกรธหรืออารมณ์ใดๆ ให้ใครเห็นระหว่างสืบสายและพัศวี เธอยังคงพูดคุยด้วยปกติ แต่เพราะทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทของธนญ จึงต้องเมินเธอบางครั้งที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน เพื่อไม่ทำให้นับหนึ่งลำบากใจ มีแค่รอยยิ้มที่เห็นใจและเข้าใจเธอเท่านั้นฝนที่กำลังกระหน่ำปลายฤดู ราวกับพายุ แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้นักศึกษาทั้งชายหญิง ต่างพากันวิ่งเข้าใต้อาคาร โดยไม่ได้มองว่าใครเป็นใคร นับหนึ่งวิ่งชนกับใครคนหนึ่ง จนล้มลง เป้และของที่ถือมากระจายหล่นลงบนพื้นที่เปียกแฉะ เธอจงรีบเก็บมัน ทำให้ร่างกายเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน เสื้อสีขาวตัวบางแนบเนื้อ ทำให้มองเห็นสรีระ และยกทรงตัวงาม เมื่อเข้ามาใต้อาคาร ผู้คนต่างมองเธอ รูปร่างที่สวยงามเย้ายวน ทำให้หนุ่มๆ ตาระห้อย สาวๆต่างอิจฉา
ปลายลิ้นที่พลิ้วไหวของเขา ที่เนื้อน้องมองมันทำให้เธอเคลิ้มเคล้ม จนต้องดูดนิ้วของตัวเองตามแรงสัมผัสของเขา พัศวีสอดนิ้วของตัวเองเข้าไปในปากอวบอิ่มของเธอเพื่อให้เธอดูดกลืนเขา แทนนิ้วเรียวของเธอก่อนหน้า เขารับรู้ถึงแรงสัมผัสที่ปลายนิ้วของเขาเป็นจังหวะเดียวกับที่เขาตวัดมันกับกลีบจำปาของเธอ ยิ่งแรงและเร็ว เธอยิ่งดูดกลืนเขาลึกขึ้น เธอมีความต้องการเขาแล้ว เช่นเดียวกับที่เขาต้องการเธอพัศวี โถมร่างกายแข็งแกร่งของตัวเองขึ้นค่อมร่างบางของเธอไว้ ให้แก่นเสียดสีกับกลีบจำปาของเธอ ก่อนจะก้มตัวลงจูบเธออย่างดูดดื่ม แบบเดียวกับที่เขาจูบเนินเนื้อของเธอ ความหิวโหยของหนุ่มสาวแทบจะรอการกลืนกินกันและกันไม่ไหว แต่ต้องฝีนต้าน เพื่อความหฤหรรษ์ที่รอคอยกันมานาน“ต้องการมันไหม” เขาถาม“ฉันต้องการ” เนื้อน้องไม่อยากทนมันอีกแล้ว“เธอจะต้องเจ็บมากนะ” เขากระซิบบอก และเคล้าเคลียเธอไปมา“ขอร้อง” เธอไม่กลัวสิ่งใดอีกต่อไป เธอขอร้องให้เขาดับไฟในตัวเธอ เพราะมันกำลังเผาผลาญเธอแทบมอดไหมพัศวีจูบ
พระแพงไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาทำอยู่ เธอไม่พูด ได้แต่นั่งหน้าเครียดมองออกไปด้านข้าง สืบสายจอดรถให้เธอที่หน้าบ้านทั้งที่ยังจอดไม่สนิท พระแพงรีบเปิดประตูลงไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่สังเกตว่าพ่อของเธอเพิ่งลงจากรถคันหนึ่ง“แพง”พระแพงหันตามเสียงด้วยความตกใจ สืบสายเองก็ต้องตกใจที่ชายสูงวัยกำลังจ้องมองเขาอยู่ผ่านกระจกด้านหน้า พระแพงเดินไปหาเขา และช่วยหิ้วของในมือ“ใครน่ะ” พ่อของเธอถาม ทำให้พระแพงอึกอัก เมื่อเห็นเช่นนั้นสืบสายจึงลงจากรถ และเข้าไปแนะนำตัวกับเขา“ผมชื่อสืบสายครับ เป็นเพื่อนกับพระแพง” เขาทักทายผู้ใหญ่อย่างสุภาพ“เพื่อนที่มหาวิทยาลัยเหรอ ไม่เคยเห็นนายมาก่อน” ผู้ใหญ่มองออกว่าเขาไม่ใช่เพื่อนธรรมดา“พ่อคะเข้าบ้านเถอะ” พระแพงพยายามคะยั้นคะยอ“เข้าบ้านก่อนสิ ได้คุยกัน” พ่อเชิญเขา เพื่อทำความรู้จัก เพราะพระแพงทำท่าทางอึกอัก ไม่อยากให้เขาได้คุยกับพ่อ“ครับ” สืบสายไม่ปฏิเสธ รับคำสั้นๆ เดินต
นับหนึ่งนั่งมองพระอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าเหนือทิวไม้ อากาศที่หนาวเหน็บ ทำให้นึกถึงเขา อ้อมกอดที่เขาทิ้งไว้ ราวกับกองไฟที่ถูกสุม เขาต้องการเพียงร่างกายของเธอ เขาหลอกล่อเธอจนหนำใจ และจากไปโดยไม่มีแม้คำกล่าวลา เธอไม่ควรจะมานั่งเสียใจ เพราะเธอเองที่ผิด ผิดที่ไปรักเขา ผิดที่ไม่อาจต้านทานความต้องการของตัวเองได้“น้องหนึ่งครับ พรุ่งนี้ทีมศาสตราจารย์ประวิทย์จะนำคณะของ ดร.กลอส เข้าป่า ไปดูพืชอนุรักษ์ ที่ใกล้สูญพันธุ์ น้องหนึ่งจะไปด้วยไหมครับ เพราะมันค่อนข้างลำบาก ถ้ากลับออกมาไม่ทัน อาจต้องค้างแรมในป่าด้วย”พี่ชูชาติ เจ้าหน้าศูนย์วิจัยที่ทำหน้าที่ดูแลนักศึกษาฝึกงาน เข้ามาถามความสมัครใจ เพราะเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิง“ไปค่ะ หนึ่งไหว”เธอตอบรับคำทันที เพราะอย่างน้อยมันช่วยให้เธอไม่คิดมาก และไม่ต้องการให้มีเวลาคิดถึงเขาเช้าวันรุ่งขึ้น นับหนึ่งเตรียมของใช้ที่จำเป็นและสัมภาระใส่เป้สนาม เตรียมพร้อมการเข้าป่ากับเจ้าหน้าที่และกลุ่มเพื่อนนักศึกษาฝึกงาน จากมหาวิทยาลัยทางภาคเหนือ
ลานจอดรถที่แน่นขนัด ในมุมหนึ่งที่มืดมิด ร่างชองชายหนุ่มและหญิงสาวในเครื่องแต่งกายที่สมบูรณ์ แต่ร่างกายท่อนร่างกลับกำลังออกกำลัง โยกรับต่อกัน หอมหายใจถี่และแรง คงทรัพย์ประคองสะโพกของอรปวีร์ กดอาวุธของเขาเข้าออก ผ่านช่องซิบที่รูดลงจนสุด กระโปรงแค่คืบที่ปกปิดสะโพกกลมกลึงถูกรั้งขึ้น จนแทบมองไม่เห็นเมื่อร่างกายแนบชิดติดกันเขาเขย่าสะโพกของเธอจนต้องเอามือปิดปากกั้นเสียงเอาไว้ ความแปลกใหม่ตื่นเต้นเร้าใจ อรปวีร์ถูกคงทรัพย์จับได้ว่าเข้ามาขายบริการในผับอินดีสที่เขาดูแลอยู่ ในฐานะผู้จัดการฝ่ายรักษาความปลอดภัย เขาต้องการจะส่งตัวเธอให้เจ้าหน้าที่ แต่เธอกลับขอร้องและแลกเปลี่ยนด้วยการที่จะยอมมีอะไรกับเขา โดยไม่อายที่จะใช้ลานจอดรถนี้สร้างความหรรษาให้กับเขา และพยายามยื่นข้อเสนอบางอย่างทั้งที่เขายังสอดใส่“ฉันมีเพื่อนคนนึง ที่เคยมาที่นี่กับฉัน พระแพง นายรู้จักนี่” อรปวีร์หอบแรงจนเสียงกระเส่า“รู้จัก ทำไม”“ฉันอยากแนะนำนางให้คุณอำนาจ ฉันกับนางเคยโดยจับได้ค
ธนญ พัศวี และคงทรัพย์ ยืนจ้องมองอรปวีร์ ที่ถูกมัดติดกับเก้าอี้ เนื่องจากเธอพยายามหนี และออกแรงต่อสู้กับลูกน้องของคงทรัพย์ เธอถูกตบไป 2-3 ครั้ง จนใบหน้าแดงช้ำ“เธอทำตัวน่ารังเกียจ” พัศวีพูดพร้อมกับเบ้ปาก“พวกนายต่างหากที่เข้ามายุ่งกับเรื่องของฉัน” อรปวีร์เดือดดาน“ฉันเสียดายที่ครั้งหนึ่งเธอได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของสืบสาย เพื่อนฉันมันพลาดจริงๆ” ธนญยกมุมปากด้วยความรู้สึกสมเพช“ที่ลูกน้องฉันทำกับเธอมันก็สมควรแล้ว กล้าหลอกฉัน” คงทรัพย์ตวาดเมื่อเห็นว่าเธอไม่สำนึก และยังกล้าตีฝีปาก“ก็แกมันโง่ไง” อรปวีร์ยิ้มเย้ยเขาอรปวีร์ ไม่ได้รู้จักคงทรัพย์ดีไปกว่าพวกเขา ธนญและพัศวีได้แต่มองหน้ากัน และนึกเอาใจช่วยที่เธอบังอาจล่วงเกินคงทรัพย์ขนาดนี้ เขาทั้งสองขอตัวไปดื่มต่อ เพราะเขารู้ดีว่า ทำไมคงทรัพย์ถึงได้เป็นผู้ดูแล ผับอันดับหนึ่งของประเทศผู้หญิงอย่างอรปวีร์คงไม่กล้าไปอีกนาน ถึงแม้จะนึกสงสารและเห็นใจ 
นับหนึ่งหยิบเสื้อผ้าของเธอเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำ และจัดการทำความสะอาดมันโดยเปิดก๊อกน้ำให้ไหลผ่านคราบสกปรกที่ติดอยู่ จากนั้นจึงใช้ครีมอาบน้ำขยี้ชุดชั้นในและ ชุดเดรสเนื้อบาง อย่างเบามือ และแขวนมันไว้ในห้องน้ำก่อนจะใช้ดรายค่อยๆเป่าให้แห้งที่ละชิ้นเมื่อเขาเห็นเธอหายเข้าไปในห้องน้ำนานผิดปกติทั้งที่เตรียมกาแฟดำไว้ให้นานแล้ว จึงเดินเข้ามาดู จึงเห็นสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ ทำให้เขาถึงกับขมวดคิ้ว ที่เธอรีบจนไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย“ฉันเตรียมกาแฟดำไว้ให้ ไปดื่มก่อนสิ เดี๋ยวมันจะเย็นซะก่อน”และดึงดรายกับชุดที่เธอเป่าอยู่ออกจากมือ“ทำอะไร”นับหนึ่งพยายามดึงมันกลับ เพราะเขากำลังจับเสื้อผ้าของเธอเปล่าดรายแทนเธอทันทีที่สั่งให้ไปดื่มกาแฟ“เดี๋ยวฉันทำให้ เธออกไปได้แล้ว อย่าเสียเวลาอยู่ หรือ กำลังถ่วง”เขาพูดพร้อมกับสั่งให้เธอออกไป แต่กลับทิ้งเสียงกล่าวหาว่าเธอต้องการถ่วงเวลาเพื่ออยู่กับเขา“ฉันไม่ได้ต้องการมาที่นี่ และไม่เคยต้องการเจอกับนาย