ปลายลิ้นที่พลิ้วไหวของเขา ที่เนื้อน้องมองมันทำให้เธอเคลิ้มเคล้ม จนต้องดูดนิ้วของตัวเองตามแรงสัมผัสของเขา พัศวีสอดนิ้วของตัวเองเข้าไปในปากอวบอิ่มของเธอเพื่อให้เธอดูดกลืนเขา แทนนิ้วเรียวของเธอก่อนหน้า เขารับรู้ถึงแรงสัมผัสที่ปลายนิ้วของเขาเป็นจังหวะเดียวกับที่เขาตวัดมันกับกลีบจำปาของเธอ ยิ่งแรงและเร็ว เธอยิ่งดูดกลืนเขาลึกขึ้น เธอมีความต้องการเขาแล้ว เช่นเดียวกับที่เขาต้องการเธอ
พัศวี โถมร่างกายแข็งแกร่งของตัวเองขึ้นค่อมร่างบางของเธอไว้ ให้แก่นเสียดสีกับกลีบจำปาของเธอ ก่อนจะก้มตัวลงจูบเธออย่างดูดดื่ม แบบเดียวกับที่เขาจูบเนินเนื้อของเธอ ความหิวโหยของหนุ่มสาวแทบจะรอการกลืนกินกันและกันไม่ไหว แต่ต้องฝีนต้าน เพื่อความหฤหรรษ์ที่รอคอยกันมานาน
“ต้องการมันไหม” เขาถาม
“ฉันต้องการ” เนื้อน้องไม่อยากทนมันอีกแล้ว
“เธอจะต้องเจ็บมากนะ” เขากระซิบบอก และเคล้าเคลียเธอไปมา
“ขอร้อง” เธอไม่กลัวสิ่งใดอีกต่อไป เธอขอร้องให้เขาดับไฟในตัวเธอ เพราะมันกำลังเผาผลาญเธอแทบมอดไหม
พัศวีจูบปากเธอไว้เพื่อกั้นเสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก และใช้หอกมนุษย์ของเขาทะลวงแก่นกายของหญิงสาวในคราวเดียวจนตัวเธอเกร็งด้วยความเจ็บปวด เขารับรู้ถึงของเหลวที่ไหลซึม และกล้ามเนื้อที่บีบรัดเขาไว้แน่น เขาลูบผมเธอ ปลอบประโลม พรมจูบของเขาไปทั่วใบหน้าของเธอ ในขณะที่เนื้อน้องร้องไห้และสะอื้นด้วยความเจ็บปวด เขาเป่าปากผ่อนลมหายใจ เพราะเขาแทบจะทนต่อไปไม่ไหว แต่ร่างกายของเธอกำลังตกใจกับมัน เขาต้องทำให้เธอผ่อนคลายเสียก่อน
เขายกก้นขึ้นลงที่ละนิดเพื่อทดสอบ จนเนื้อน้องเริ่มคราง ทุกครั้งที่ครางเขาก็จูบเธอตอบ ล้อกันไปมา จนหญิงสาวเริ่มผ่อนคลาย และเขี่ยปลายถันของเธอเพื่อเพิ่มแรงกระสัน ในยามที่เขาขยับ เธอไม่หลับตาสักครั้ง ตั้งแต่เริ่มเกมส์สวาท มันท้าทายเขา เขาชอบที่เธอจ้องมองเขาแบบนี้ เขารู้สึกฮึกเหิม และอยากทำให้เธอมีความสุข
การที่ได้ค่อมร่างและควบขี่เธอโดยที่ยังจับจ้องที่ตาของเธอแบบนี้ ทำให้เขาเร่งจังวะขึ้นได้อีก รับรู้ความต้องการของเธอผ่านแววตา เสียครางเสียงร้องทุกครั้งที่สัมผัสจุดสยิว ทำให้เขาต้องบดขยี่มันถี่และแรงขึ้น เขารู้ว่าความเจ็บปวดของเธอหายไปหมดแล้ว มีเพียงความหฤหรรษ์และความอยากรู้อยากเห็นในเพศรสเข้ามาแทนที่ เธออยากให้เขาดูดอกเธอแบบเดียวกับที่เขาทำกับเกศิตา เธออยากให้เขาควบขี่เธอดุจม้าป่า และสัมผัสเธอในทุกๆ ที่ที่ต้องการ
“วี” เธอเพ้อเรียกเขาด้วยเสียงแหบเครือ ราวกับเม็ดไฟที่แตกกระจาย
“อีกนิดเดียว”
เขาใช้พลังทั้งหมดที่มีโหมกระหน่ำ ก่อนจะพ่นลาวาออกมา ร่างของทั้งคู่แข็งเกร็งแอ่นรับโอบกอดกันและกัน ก่อนที่จะหมดแรง ฟุบลงนอนในอ้อมกอดของกันและกัน แต่ถึงแม้จะหมดเรี่ยวแรง เขาก็ยังคงเล้าโลมเธออยู่ ลูบไล้สัมผัสเนินอก ร่างกายของเนื้อน้อง เพราะร่างกายของเธอ คือสิ่งที่เขาปรารถนามานาน จนกลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้สัมผัสมันอีก
“ฉันรักเธอ”
เขาจูบเธอและกล่าวคำรักเป็นการขอบคุณที่เธอมอบร่างกายที่แสนวิเศษนี้แก่เขา
“ฉันก็รักเธอ”
เธอตอบรับเขาอย่างไม่ลังเล เขาดึงเธอมากอด ก่อนจะผล็อยหลับไป
ร่างกายของนับหนึ่งที่ยังคงตอบสนองต่อธนญ ไม่มีจืดจาง มันทำให้ค่ำคืนที่แสนจะรัญจวนนี้กลับมาอีกครั้ง เขาต้องการเธอไม่มีสิ้นสุด ยิ่งผสมกับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ทำให้เขาหลงมัวเมากับร่างกายของเธอ มันกลับกระตุ้นความต้องการที่จะครอบครองไม่จบสิ้น
ร่างของเธอแทบแหลกเพราะไฟปรารถนาที่ลุกโชน เขาดูดกลืนเธอทุกสัมผัสบนร่างกาย ทั้งการหยิก กัด จนช้ำไปทั้งตัว โดยเฉพาะขาอ่อนด้านในที่ใกล้กับปากถ้ำที่แสนวิเศษของเธอ รอยแดงช้ำเป็นปื้น ทั้งจากการดูดและกัด เขาแค่ต้องการทำสัญลักษณ์เพื่อบอกความเป็นเจ้าของเรือนร่างนี้ ประกอบกับความโกรธที่เธอพยายามปฏิเสธเขาทั้งที่ร่างกายของเธอโถมเข้าหาเขาไม่หยุด
เขาคุมเกมส์ และบังคับให้เธอตอบสนอง แม้เธอพยายามต้าน สุดท้ายเธอก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต่อความต้องการของตัวเอง นับหนึ่งตอบสนองเขาเพราะความเมา เมื่อได้สติ เธอต้องการจะหยุดมัน เพราะไม่ต้องการเสียใจอีก แต่เขากลับกุมทุกอย่างไว้ในมือ ทั้งกายและใจ ที่เธอมอบให้เขา
“เธอคือคนที่สอนฉันกินอาหารข้างทาน แต่เธอกลับถากถางฉันต่อหน้าคนอื่น ฉันจะทำให้ดูว่า เวลากินอาหารข้างทาง เขาทำกันยังไง”
“ปล่อยนะนญ หนึ่งเจ็บ”
นับหนึ่งพยายามดิ้นให้ตัวเองหลุดจากการเกาะกุม เขารวบผมของเธอดึงรั้งไปด้านหลัง จับเธอให้นั่งลงบนแก่นกายของเขาในท่าคุกเข่า และกดขยี่ตุ้มกระสันจนร่างของเธอกระเด้งขึ้นลง สร้างจังหวะสปริงตัวงัดกับแก่นกายของเขาอยู่อย่างนั้น จนร่างกายสั่นไหวตามแรงปริงของเตียงนอนที่นุ่มเด้งล้อกัน จนต้องครางออกมา
“เจ็บเหรอ”
ลมหายใจหอบถี่ของเขาทำให้หัวใจเธอเต้นแรง เขาเคล้าคลึงจมูกสูดดมกลิ่นน้ำหอมที่เขารังสรรค์มันให้กับเธอ ราวกับสารกระตุ้นแรงกำหนัด อกอวบอูมที่กระเด้งขึ้นลงตามจังหวะทำให้เขาอยากมีอีกสองมือเพื่อเกาะกุมมันและบดขยี้เม็ดบัว ให้เธอต้องโอดครวญได้มากกว่านี้
เขาผลักหลังเธอลงไปบนเตียงก่อนจะควบขี่ม้าสาวเพื่อจะเข้าวินในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า เขาจวงแทงในจังหวะที่ถี่ ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ลาวาที่แตกซ่านในกายล้นเอ่อ เขาตบก้นของเธอจนแดง ผิวขาวละเอียดแดงช้ำ นับหนึ่งทั้งเจ็บและอาย
แม้จะเจ็บไปทั้งร่าง เธอก็ยังปรารถนาเขาอยู่ตลอดเวลา เพราะเธอรักเขา แต่เป็นเขาที่ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงโหยหาแต่เธอ เขาทำร้ายเธอให้ต้องเจ็บ แต่อีกใจหนึ่งก็สงสารเมื่อเห็นเธอร้องไห้เพราะความเจ็บปวด เขาเริ่มโกรธที่ตัวเองหยุดมันไม่ได้
ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่อง เขานั่งมองเธอผ่านเงามืด นับหนึ่งหลับไปทั้งน้ำตา แขนขาที่เปล่าเปลือยแดงช้ำเป็นจ้ำเขียว ก่อนจะลุกจากไปเงียบๆ
เช้าวันใหม่ที่แสนสดใสของพัศวีและเนื้อน้อง เกมส์รักที่รังสรรค์เพื่อกันและกัน สร้างความสุขที่สมบูรณ์สมกับที่รอคอยกันมานาน พัศวีจูบเนื้อน้องที่หน้าผาก เพื่อปลุกเธอให้ตื่น และเปลี่ยนมาจูบปากเพื่อทักทาย เนื้อน้องยิ้มอย่างมีความสุข มองร่างกายที่เปลือยเปล่าของเขาเดินไปที่หน้าต่าง เพื่อปิดมัน แสงแดดที่จับร่างของเขา ส่องสว่างราวเทพบุตร จนเธอไม่อาจวางตา ดวงตาที่จ้องมองเรือนร่างของเขา ดูราวกับหวงแหน และอยากสัมผัสมันอีก แม้จะสัมผัสมันมาแล้วทั้งคืน
“วี” เธอเรียกเขาแผ่วเบา และยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเอง
“อยากเหรอ” เขาหันมายิ้มให้กับเธอ เมื่อเห็นเธอนกมือขึ้นปิดหน้า
เนื้อน้องไม่กล้าตอบ แต่พยักหน้ารับ ก่อนที่พัศวีจะจับมือเธออกจากหน้า และนำมันมาจับเขาแทน เนื้อน้องจ้องมองมันที่ค่อยๆ ขยายตัวในมือของเธอที่ประคองมันไว้
“อยากลองทำไหม”
เขาลูบหัวเธอเบาๆ และดันมันให้สัมผัสที่ริมฝีปากอวบอิ่มของเนื้อน้อง ตาของเธอจ้องตาของเขา ลิ้นของเธอตวัดอยู่ภายใน เขาดันแก่นกายให้ลึกจนสัมผัสลำคอของเธอ แม้เธอจะพยายามใช้ลิ้นดันไม่ให้มันลึกกว่านี้ กลับทำให้เขาเสียวซ่านจนต้องครางและเป่าปากผ่อนลมหายใจ
“เธอกำลังแกล้งฉัน” เขาปวดตุบจนต้องโกงตัวและดึงออก และก้มลงจูบบดขยี้ปากของเธออย่างดูดดื่ม
“ฉันจะลงโทษเธอที่ซุกซน แต่เช้า”
พัศวีเล้าโลม ดูดดื่มเรือนกายกายของเนื้อน้องจนต้องร้องครวญคราง เพราะแรงปรารถนาที่ก่อตัวดังคลื่นใต้น้ำที่กำลังถาโถม ก่อนจะจับขาทั้งสองข้างแยกจากกัน ยกขึ้นพาดไหล่ และสอดใส่ร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว เขาเคล้าคลึงเม็ดถันที่แข็งของเธอไปมา ตามจังหวะที่ร่างกายเคลื่อนไหวล้อรับ เนื้อน้องมองท่อนเนื้อที่สอดเข้าและออกส่วนสงวนของเธออย่างตื่นเต้น เส้นเลือดที่โปร่งเป็นริ้วทางยาวตลอดแนว เสียดสีกลีบจำปาของเธอ จนเสียวซ่านไปหมด เธอเอามือสัมผัสมันที่เนินติ่งเนื้อ เพราะอยากรับความรู้สึกให้มากขึ้นอีก จนพัศวียิ้มออกมา
แฟนของเขาซุกซนและปรารถนามันมากกว่าเขาเสียอีก เพราะเธอเสียเวลาในการเก็บเกี่ยวมันมานาน นี่คงจะแปลกใหม่และน่าตื่นเต้นสำหรับเธอ เธอตบเขาที่แก้มที่ช้าลงด้วยความลืมตัว ทำให้เขานึกถึงเกศิตาขึ้นมาแวบหนึ่ง แรงปรารถนาของเนื้อน้องจะรุนแรงเท่าเธอไหม เขาหยุดอยู่เฉยๆ เพื่อแกล้งเธอ ทำให้เนื้อน้องแทบคลั่ง เธอตบเขาอีกอย่างตั้งใจ จนแก้มแดงเป็นรอยนิ้วมือเล็กๆ
“แน่ใจนะที่ทำแบบนี้”
เขากดไหล่เนื้อน้องลงติดที่นอนจนขยับไม่ได้ ในขณะที่ร่างกายส่วนล่างขยับอย่างรวดเร็ว จนเธอร้องเสียงหลงตาเบิกโพรง ราวกับพุแตก หูเธอดับจนไม่ได้ยินเสียงใดๆ ร่างที่กระตุกถูกสอดใส่อย่างไม่หยุดยัง นานจนเธอจุดระเบิดถึงสองครั้งติดต่อกัน ก่อนที่เขาจะพ่นลาวาร้อนของเขาออกมาอยากทะลักทะลวง และกดมันลงในลำคอของเธออีกครั้ง เพื่อรีดมันออกมาจนหมด
“แบบนี้ที่เธอชอบ”
เขาทับร่างของเธอซุกศีรษะลงข้างหู และถามเธออย่างผู้มีชัย
“คราวหน้าจะพาไปที่สตู เธอจะติดใจมากกว่านี้”
ตอนนี้เขาอยากให้เธอเป็นทั้งคนรักและโสเภณีสำหรับเขาเสียแล้ว เพราะขนาดครั้งแรกของเธอ แต่ไฟปรารถนาเธอกลับร้อนแรงจนเกินต้านทาน ถ้าเข้าโหมดเกมส์สวาทที่แท้จริง เธอจะวิเศษขนาดไหน
สืบสายนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่า สวมเพียงการเกงชั้นในแบบกางเกงบ็อกเซอร์ ค่อยๆ ลืมตาม เมื่อเขาได้ยินเสียงสิ่งของกระทบกันไปมา ร่างเล็กของหญิงสาวผมหยิกเป็นรอนที่รวบไว้สูงกลางศีรษะ กำลังยืนอยู่หลังอ่างล้างจาน ในชุดกางเกงขาสั้น สีครีม สวมเสื้อยืดสีขาวขนาดพอดีตัว เขาขยี่ตามองให้แน่ใจว่าเป็นใคร ก่อนจะลุกขึ้นหย่อนขาลงข้างเตียง
“เธอมาทำอะไรที่นี่” เขาถามเมื่อรู้ว่าหญิงสาวคือใคร
พระแพงหันกลับมาตามเสียง เธอเก็บแก้วที่ล้างเรียบร้อยแล้ว และเดินไปที่โต๊ะ หยิบแก้วชาร้อนผสมน้ำผึ้งมาให้เขา
“นายโทรตามให้มาขับรถกลับให้เมื่อคืน” เธอตอบอย่างเสียมิได้
“ฉันเนี่ยนะ”
เขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยินสักเท่าไหร่ ถึงเขาจะเมามาหรือจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา เขาไม่มีทางโทรหาคนอื่นอย่างแน่นอน
“ไม่เชื่อก็ตามใจ” เธอสะบัดหน้าและเดินไปที่โต๊ะทานข้าว ตักข้ามต้มร้อนๆ ไว้รอ
“แล้วนั่นอะไร” เขาถามและลุกขึ้นมาดู
“ทานสิ ฉันจะกลับแล้ว หมดหน้าที่แล้ว” เธอจัดเตรียมแก้วน้ำ และช้อนให้เขาก่อนจะเดินจากมา
“เดี๋ยว” เขาดึงมือเธอไว้ แต่พระแพงดึงมันกลับ
“มีอะไรอีก” เธอถามอย่างอึกอัก
“แน่ใจเหรอว่าหมดหน้าที่แล้ว”
เขากำลังร้องเอาสิทธิ์กับตัวเธอ พระแพงทำหน้าไม่ถูก ได้แต่มองไปที่อาหารและเม้มริมฝีปาก เขาจับเธอที่ปลายคาง และใช้หัวแม่มือ เขี่ยไปที่ริมฝีปากที่กดเม้มอยู่
พระแพงสะบัดหน้าหนีและเดินไปนั่งที่โซฟา สืบสายได้แต่ยิ้ม และนั่งลงทานข้าวต้มที่เธอเตรียมไว้ให้ พระแพงบีบมือตัวเองไม่ให้สั่น เพราะมันนานมากแล้วที่เขาไม่ได้แตะต้องเธอ
เขามาหยุดอยู่ที่หน้าเธอ และมองมือที่ประสานกันแน่น แล้วก็หัวเราะออกมา
“นั่งรอจนตัวเกร็งเชียวนะ”
เขาล้อเธอ และนั่งลงข้างๆ เขาโอบไหล่เธอ แต่เธอกลับเอียงตัวออก เธอไม่ต้องการให้เขาใกล้ชิดเธอ เพราะเธอกลัวว่าตัวเองจะเสียการควบคุม แต่เขากลับกอดเธอแน่นขึ้นและโถมกายลงบนโซฟา มองหน้าที่กำลังตกใจของเธอนิ่งๆ เขาไม่แสดงสีหน้าใดๆ แววตากำลังคิดอะไรบางอย่าง
“คุณจะทำอะไร”
“คิดว่าจะทำหรือไม่ทำดี”
เขาตอบหน้าตาเฉย จนเธอต้องผ่อนลมหายใจ และดันเขาขึ้น แต่เขายังขืนตัวทับเธออยู่ ยิ่งทำให้เธออึดอัด พระแพงพยายามดิ้น แต่เธอตัวเล็ก แรงที่ดันเขาแทบจะไม่รู้สึก ร่างกายกำยำแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อไม่ไหวติง โอกอดจ้องมองเธออยู่อย่างนั้น จนเธอต้องหยุดไปเอง และเบี่ยงหน้ามองไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาของเขา
“ฉันโทรหาเธอจริงเหรอ” เขาถามอย่างข้องใจ
“อืม”
“ฉันพูดว่ายังไง” เขาเลิกคิ้ว
“นายบอกเมาไม่ขับ ให้ฉันมาขับรถให้ ถ้าขับรถให้จะหักหนี้ให้เท่ากันนอนด้วยกัน 1 ครั้ง” เธอตอบเสียงอู้อี้ในลำคอ
“ฮ่ะฮ่าฮ่า” สืบสายหัวเราะที่เธอมาเพราะแค่จะปลดหนี้
ร่างกำยำของเขาหัวเราะจนโซฟาสะเทือน แรงสั่นทำให้ร่างกายของทั้งสองสัมผัสกันแน่นขึ้น พระแพงจึงพยายามจะดันเขาออกอีกรอบ แต่เขาก็จับมือเธอล็อคไว้บนศีรษะ เพื่อไม่ให้เธอปัดป้องเขา ร่างที่โน้มต่ำ ลง ใบหน้าห่างกันแค่คืบ จนลมหายใจของเขาเป่าอยู่ที่หูของเธอ ใจของพระแพงเต้นแรงจนเขาสัมผัสได้ สืบสายยิ้มออกมาและเล้าโลมเธอที่ซอกคอ ทำให้เธอรู้สึกสยิวและขนลุกไปทั่วทั้งกาย แรงดูดที่ริมฝีปากเม้มลงและตวัดด้วยปลายลิ้นนุ่มลื่น ผสานลมหายใจร้อนผ่าว ทำให้ร่างกายตื่นตัว คบแน่นไปหมด อกเล็กเริ่มตึงตัวจนแข็งชูชัน เบียดสัมผัสยกทรงตัวบาง
สืบสายจ้องมองรอยแดงที่เขาดูดดื่มเธอที่ซอกคอ เป็นรูปริมฝีปาก ผิวขาวละเอียดทำให้เด่นชัด อกที่เคลื่อนตัวขึ้นลงด้วยแรงหายใจหอบถี่ เขายกตัวขึ้นและปล่อยมือเธอ วางแขนข้างหนึ่งแนบไปกับขอบพนักพิงโซฟาตัวเขื่อง ทั้งที่ส่วนล่างยังค่อมเธออยู่ เขานั่งลงตรงหว่างขาของเธอ พาดขาของตัวเองทับขาของเธอหย่อนลงที่พื้น เขามองเธอ เพราะเธอไม่ยอมขยับตัวและไม่ยอมมองเขา สืบสายหยอกเย้าร่างกายของเธอโดยการสอดมือเข้าไปในเสื้อ ไต่ราวกับปูน้อยไปตามหน้าท้องแบนราบ จนถึงเนินอก เขาทำอยู่อย่างนั้น จนพระแพงต้องจับมือเขาไว้ เพราะมันทำให้เธอขนลุก และตอดตุบภายในจากแรงสัมผัสพวกนี้
“ปล่อย”
เขาสั่ง แต่เธอยึดมือเขาไว้ทั้งสองมือน้อยๆ ของเธอ และไม่ยอมทำตามคำสั่งของเขา
“นายสิต้องหยุด”
เธอตวาดใส่เขา เพราะร่างกายของเธอกำลังจะทนไม่ไหว พยายามดึงแขนเขาออกไปสุดกำลัง สืบสายรับรู้ถึงไอร้อนที่กำลังแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเธอ เขายิ้มและหัวเราะอยู่ในลำคอเบาๆ จนเธอรู้สึกอึดอัด อกที่มือของเขาเกาะกุมเริ่มแข็งขึง เต่งตึง แรงกระสันทำให้อกเล็กๆพองอิ่มชูชันจนน่าสัมผัส
“เธอต้องการมันมากแล้ว”
เขาพูด พร้อมกับดึงเธอไปที่เตียง และเหวี่ยงร่างพระแพงลงเบาๆ เขาจัดการถอดเสื้อผ้าของเธอและเขาอย่างช่ำชอง โดยไม่ต้องรออีกต่อไป เพราะเขาผงาดอยู่นานแล้ว แค่อยากเย้าแหย่ร่างกายเธอให้ตื่นเต็มที่ก่อนจะเริ่มกิจกรรมปลดหนี้ที่เธอมาเพื่อมัน
พระแพงมองแก่นกายที่ใหญ่กว่าแขนของตัวเอง ว่าเขาจะใช้มันกับเธออย่างไร เขาแค่ผลักเธอลงนอนราบและสอดมันเขาไปตามปกติ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ แม้จะผิดหวังนิดหน่อย แต่มันก็ยังทำหน้าที่ได้ดี สืบสายสังเกตุเห็นใบหน้าและแววตาที่ผิดหวัง แต่ได้หัวเราะอยู่ในใจ ที่เห็นเธอคาดหวังกิจกรรมบางอย่างจากเขา
เขาโยกจังหวะเข้าออกไปเรื่อย ๆ เฝ้าสังเกตสีหน้าแววตา และอกอวบที่กำลังเหวี่ยง เขาพยามค้นหา ความพิเศษของหญิงสาวที่เขาจ่ายมาถึงหกแสน เขากำลังทำมันเหมือนกับที่ทำกับคนอื่นๆ เขารู้สึกเบื่อกับมันแล้วหรือ วันนี้เขาต้องทำเพราะเธอแค่อยากปลดหนี้ หรือทำเพราะเธอต้องการเขาจริงๆ ความหิวกระหายที่มีต่อเธอในครั้งแรกมันหายไปไหน ตอนนี้ถึงเขาจะกำลังสัมผัสเธอเขาก็แทบจะไม่อยากจะทำมัน ที่เกิดขึ้นก็แค่เรื่องของร่างกายที่พร้อมและตื่นตัวเอง แต่ไม่ใช่เพราะเขาอยากทำมันกับเธอ แต่เขาก็รู้ว่าเธอต่างหากที่ต้องการเขามาก เขาปล่อยมันอย่างรวดเร็วในกายเธอ และจบกิจกรรมอย่างรวดเร็วโดยที่เธอยังไม่สุขสมเลยด้วยซ้ำ อาการที่ค้างคาแบบนี้ทำให้เธอหงุดหงิด และอึดอัดอยู่ภายใน แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“ฉันไม่อยากทำเท่าไหร่ แค่อยากช่วยเธอปลดหนี้ ก็เท่านั้น” เขาบอกเธอด้วยเสียงราบเรียบ
พระแพงถึงกับอึ้ง กับสิ่งที่เขาทำกับเธอ ขณะที่สืบสายกำลังจะลุกจากเตียง อารมณ์ที่พุ่งพล่านของพระแพง ทำให้เธอตบเขาอย่างแรงด้วยความโกรธ
“ถ้าไม่อยากทำ ทีหลังก็ไม่ต้องมาแตะตัวฉันอีก”
เธอโพล่งออกมา และลุกหนีไป แต่ไม่ทันจะพ้น จากขอบเตียง เธอก็ถูกสืบสายดึงเอาไว้ และเหวี่ยงลงไปที่เตียง เขาตบเธอคืนอย่างแรงเช่นกัน เพราะความโกรธ ที่เธอกล้าตบเขา เลือดแดงซึมออกที่มุมปาก แรงของพระแพงน้อยกว่าแรงของสืบสายมาก เขาแค่เจ็บๆ คันๆ แต่ของพระแพงแดงช้ำขึ้นทันที และยังเกิดรอยแตกจนเลือดไหลซึม แรงกระแทกทำให้เธอสลบไป
ด้วยความตกใจ สืบสายประคองร่างเธอขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด และเขย่าเบาๆ พร้อมกับเรียกชื่อเธอ แต่เธอกลับยังนอนนิ่งไม่ไหวติง อารมณ์ที่พุ่งพล่านก่อนหน้าค่อยเย็นลง เมื่อได้สติ เขาจึงจัดให้เธอนอนพักในท่าที่สบาย และเช็ดหน้าให้เธอด้วยน้ำเย็น และประคบแก้มของเธอไม่ให้บวม เขารู้สึกผิดที่ทำร้ายเธอ ผู้หญิงร่างกายบอบบางคนหนึ่งที่ต้องมารองรับอารมณ์ที่แปรปรวนของเขา
พระแพงเริ่มรู้สึกตัว แต่ยังไม่ตื่นจากภวังค์ เธอพยายามไขว่คว้าหาอะไรบางอย่าง สืบสายเข้ามาจับมือเธอไว้ ทำให้พระแพงสงบลง และดึงมือเขาไปกอดไว้กับอก เมื่อนึกขึ้นได้ว่าพระแพงต้องนอนกอดอะไรสักอย่างเสมอจึงจะนอนหลับ สืบสายนึกจะหาหมอนข้างมาให้เธอ แต่เธอกับไม่ยอมปล่อยมือเขา ทำให้เขาต้องแทรกกายเข้าไปนอนข้างๆ เธอ เมื่อเธอพลิกตัวเข้ามาหาเขา และกอดเขาไว้ในอ้อมแขน มันทำให้เขาเจ็บแปลบที่ใจ
พระแพงลืมตาขึ้นมา พบว่าใบหน้าแนบอยู่ที่อกของเขา มือของเธอกุมมือเขาไว้ และเขาก็โอบกอดเธออยู่ ขาของเธอตวัดเกี่ยวกายท่อนล่างของเขา ด้วยความตกใจจึงจะลุกขึ้น แต่เขากลับล็อคตัวเธอไว้ เมื่อหันไปมองหน้าของเขา ก็พบสายตาที่ดูดันจ้องมองเธออยู่ แววตาหวาดกลัวของเธอสั่นระริก
แก้มของเธอช้ำแดงและปวดตุบๆ จนต้องร้องออกมาเมื่อเคลื่อนไหวตัวแรง เขาปล่อยเธอ พระแพงประคองแก้มที่เจ็บ แม้ร่างกายจะยังมึนงง แต่เธอก็พยายามลุกขึ้น จนเขาต้องประคองไว้ เขารู้ว่าเธอกลัวเขา เพราะร่างกายเธอยังสั่น
“ฉันไม่ทำอะไรเธอแล้ว หยุดสั่นได้แล้ว” เขาดูเธอด้วยเสียงหนักแน่น จนเธอสะดุ้ง
สืบสายสายประคองเธอเข้าห้องน้ำ เพื่อให้อาบน้ำชำระร่างกาย จะได้ผ่อนคลาย แต่แทนที่เขาจะปล่อยเธอไว้เพียงลำพัง เขากลับอยากอาบน้ำกับเธอด้วยเสียอย่างนั้น
น้ำจากฝักบัวไหลผ่านร่างบางที่สมส่วนของพระแพง แขนขาที่เล็ก เมื่อเทียบกับเขา ทำให้เขารู้สึกเสียใจที่ทำร้ายเธอ เพราะเธอแทบจะไม่มีแรงต่อสู้ขัดขืนเขาได้เลยด้วยซ้ำ
“ฉันอยากอาบคนเดียว นายออกไปก่อนได้ไหม” เธอขอร้องเมื่อเขาเอาแต่จ้องมองเธอ
“ไม่”
เขาปฏิเสธ และใช้ฟองน้ำลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของเธอ พระแพงเกลียดการยั่วยวนไปตามร่ายกายด้วยการสัมผัสของเขา เพราะมันมักจะปลุกความต้องการในกายเธอเสมอ ฟองที่นุ่มลื่นฝ่ามือที่เขาลูบไล้เธอไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เขากอดเธอประคองอกอูมจากด้านหลัง จนเธอรู้สึกร้อนทั้งที่น้ำเย็นๆ ไหลผ่าน เขาวางคางไว้ที่ไหลปล่อยให้น้ไหลผ่านแผ่นหลังของตัวเอง เขากอดเธอนิ่งๆ ไว้อย่างนั้น
“ขอโทษที่ตบเธอ” เขากระซิบที่ข้างหู
“นายจะขอโทษทำไม ฉันทำร้ายนายก่อน ฉันทำให้นายโกรธ”
พระแพงร้องไห้ออกมาเมื่อเข้าเอ่ยคำขอโทษต่อเธอ จนเขาก็ต้องกอดเธอแน่นขึ้นเป็นการปลอบประโลม สัมผัสที่ลูบไล้อย่างอ่อนโยนทำให้ร่างกายเธอเริ่มหวั่นไหวอีกครั้ง พระแพงพยายามผลักเขาออก แต่เขาไม่ยอม
“ฉันไม่อยากให้นายแตะต้องฉัน” เธอบอกเขาตรงๆ
“เธอต้องการมันไม่ใช่เหรอ” เขารู้ว่าร่างกายของเธอกำลังตอบสนอง
“ฉันไม่อยาก” เธอหยุดคำพูดไว้แค่นั้น ก่อนที่เขาจะจูบเธอและเล้าโลมเคล้าคลึงไปทั่งร่าง
“คราวนี้เธอจะเสร็จ ฉันรับปาก”
เขาผลักเธอชิดผนัง ดันขาทั้งสองข้างแยกจากกัน และลดตัวลงจูบปากถ้ำของเธออย่างหิวกระหายสอดนิ้วเข้าไปสำรวจแทนกาย และเคล้าคลึงดูดดื่มเธอด้วยปลายลิ้นที่แหวกกลีบจำปาที่ชุ่มฉ่ำน้ำ นิ้วเรียวยาวที่ทำหน้าที่ดุจแก่นกายชาย รับรู้ถึงแรงบีบอัดภายใน จนเขาต้องผละริมฝีปากออกและงัดมันให้เสียดสีผ่านกลีบร่องดอกจำปาและติ่งสวาทเข้าออกตามแรงตอดและจังหวะการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น อีกมือหนึ่งจับที่โคนเนื้อที่เต่งตึงของตัวเองรอเวลาที่เธอพร้อม เพื่อสอดมันเข้าไปทำหน้าที่ให้สมบูรณ์
ร่างของพระแพงเริ่มโก่งตัวและกระตุก เขาจึงสอดท่อนลำเข้าไปแทน โดยการยกขาข้างหนึ่งของเธอขึ้นพาดท่อนแขนแข็งแรงของเขา โดยขาอีกข้างยังติดพื้นเพื่อพยุงกายไว้ จังหวะที่สอดใส่ถี่เร็วและแรงขึ้นอย่างถาโถมตามเสียงครวญครางที่พระแพงโหยหาและปรารถนา เขารับรู้ถึงแรงตอดภายในที่รัดแน่น เสียงน้ำที่สาดกระเซ็นตามจังหวะ แขนที่โอบรอบลำคอ แม้จะเล็กแต่กลับแข็งแรงทันควัน เมื่อต้องท้าทายกับความหฤหรรษ์ทางเพศ
ความเย็นชุ่มฉ่ำของน้ำที่ไหล่ผ่านร่างกายของทั้งสองทำให้เขาและเธอเริ่มผ่อนคลายและสนุกสนานไปกับการร่วมรัก แม้สืบสายจะรักปากจะให้เธอเสร็จ แต่เขารู้ถึงความต้องการของเธอว่าไม่มีวันพอ เขาจึงยื้อมันไว้ ถึงแม้เขาจะทรมานมากก็ตาม พระแพงกระตุกด้วยแรงกระสันสวาทในท่าเดียวถึงสองครั้ง ก่อนที่เขาจะยกเธอขึ้นโดยให้เธอกอดคอและโอบรอบลำตัวเขาไว้ ร่างเล็กเบาดังปุยนุ่ม เธอช่วยโยกตัวเองขึ้นลงอย่างสนุกสนาน เมื่อเขาเคลื่นตัวให้ศีรษะของเธอตรงกับสายน้ำที่โปรยปราย เธอเขย่าตัวเองขึ้นลงและปลดปล่อยตัวเองพร้อมกับเขาราวกับน้ำพุที่ระเบิดออก เธอปล่อยขาลง จนถอนตัวเองออกจากเขา พระแพงดันเขา และก้มลงดูดดื่มน้ำรักที่ยังค้างคาให้เขาเขาอย่างหิวกระหาย จึงร่างของเขาแทบระเบิด เขาจิกศีรษะของเธอออก แต่เธอกลับดึงดันมันเข้าออกแทน จนเขาร้องตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“ฉันจะทำโทษนาย”
เธอไม่ยอมปล่อยเขา เธอผลักเขาลงกับพื้นห้องน้ำที่เย็นเฉียบ และขึ้นขย่มแก่นกายที่ยังแข็งชันถึงแม้จะพ่นพิษไปแล้วของเขา เธอต้องการปลุกมังกรของเขาอีกครั้ง เพื่อให้เขาคลั่ง สาสมกับที่เขาทรมานเธอ ท่านั่งยอง ๆ ที่เธอสวมหัวมังกร ได้แนบชิดและสนิทแน่น สุดโคนที่ติ่งสวาทของเธอได้สัมผัส มันสร้างความเร่าร้อนและไฟปรารถนาที่แสนสาหัส เธอเร่งเร้าจนเขาแทบกระอักเลือด เส้นเลือดโปร่งนูนเป็นสันทั่วทั้งร่าง ใบหน้าที่แดงราวกับกำลังจะระเบิด เขาจังสะโพกที่กำลังสอดส่ายร่ายระบำ เพื่อเร่งจังหวะ จนเมื่อเธอเริ่มร้องครางออกมา และมีแรงอัดที่แก่นกายของเขา เขาจึงพ่นไฟจนปะทุลาวาพวยพุ่ง และดึงเธอมากอดแนบอก ก่อนที่เธอจะซุกซนทรมานเขาไปมากกว่านี้อีก
เขากอดประคองเธอพิงกับผนังเพื่อให้เธอนั่งพัก ก่อนที่จะลุกขึ้นปล่อยให้สายน้ำชำระล้างร่างกาย และปล่อยให้เธอได้จัดการกับตัวเองตามลำพัง แม้จะปลดปล่อยไปหลายครั้ง แต่เขากลับยังรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองยังต้องการเธออยู่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เขาไม่มีอารมณ์รู้สึกกับเธอเลยด้วยซ้ำ หรือเพราะแรงกระตุ้นดิบเถื่อนพวกนั้น ที่ทำให้เขากระหายเธอ สืบสายเริ่มสับสนกับมัน และไม่อยากยอมรับเหตุผลนั้นเลย
พระแพงอาบน้ำและแต่งกายเรียบร้อยแล้ว เดินมานั่งที่เก้าอี้ด้านข้างของชุดรับแขก สืบสายนั่งอยู่ที่โซฟาตัวยาว เขาเรียกเธอให้มานั่งคุยกันก่อนกลับ พระแพงไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไร แค่ความเงียบขรึมของเขาทำให้เธอหวั่นวิตก
“ต่อไปนี้เธอไม่ต้องมาหาฉันแล้วหละ การซื้อขายของเราจบแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะเอาเปรียบเธอ กลับไปใช้ชีวิตปกติของเธอตามเดิมเถอะ” เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ค่ะ”
เธอตอบรับเพียงสั้นๆ แต่ภายในใจพระแพงรู้ว่ามันไม่มีทางเหมือนเดิม
“เดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอ และเลยกลับบ้านเลย ไปเก็บของเถอะ”
“ไม่ต้องหรอก ฉันไม่อยากให้ใครเห็นนายอีก”
พระแพงปฏิเสธ พร้อมทั้งลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋าสะพายที่วางไว้ที่โต๊ะกินข้าว สืบสายจับแขนเธอไว้ก่อนที่เธอจะออกไป แต่พระแพงกลับสะบัดมันออก เขาไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงโกรธ เธอควรจะดีใจที่เขาปล่อยเธอให้เป็นอิสระถึงจะถูก
“อย่าดื้อสิ มันทางผ่านของฉันอยู่แล้ว”
“อ้อ แค่ทางผ่าน”
เธอประชดด้วยน้ำเสียงที่แข็ง เพราะเขาก็ไม่เคยยอมให้ใครมาก้าวร้าวใส่ง่ายๆ จึงได้แค่กระชากแขนเธอเดินตามเขาไป
สืบสายจอดรถให้เธอที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ที่เธอยืนยันจะลงตรงนั้น เพราะไม่ต้องการให้คนที่บ้านเห็นเขา พระแพงไม่มองเขาก่อนจากเลยด้วยซ้ำ ขณะที่สืบสายมองตาม จนเห็นว่าเธอกำลังทักทายกับเพื่อนผู้ชายคนเดิมที่ชื่อต้น ทำให้เขาต้องลงจากรถและเดินไปดึงแขนพระแพงให้กลับไปขึ้นรถอีกครั้ง พระแพงตกใจที่เขาทำเช่นนี้
“นายทำอะไรน่ะ” ต้นร้องห้ามและดึงแขนข้างหนึ่งของพระแพงไว้
“อย่ามายุ่ง เรื่องของผัวเมีย”
พระแพงไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาทำอยู่ เธอไม่พูด ได้แต่นั่งหน้าเครียดมองออกไปด้านข้าง สืบสายจอดรถให้เธอที่หน้าบ้านทั้งที่ยังจอดไม่สนิท พระแพงรีบเปิดประตูลงไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่สังเกตว่าพ่อของเธอเพิ่งลงจากรถคันหนึ่ง“แพง”พระแพงหันตามเสียงด้วยความตกใจ สืบสายเองก็ต้องตกใจที่ชายสูงวัยกำลังจ้องมองเขาอยู่ผ่านกระจกด้านหน้า พระแพงเดินไปหาเขา และช่วยหิ้วของในมือ“ใครน่ะ” พ่อของเธอถาม ทำให้พระแพงอึกอัก เมื่อเห็นเช่นนั้นสืบสายจึงลงจากรถ และเข้าไปแนะนำตัวกับเขา“ผมชื่อสืบสายครับ เป็นเพื่อนกับพระแพง” เขาทักทายผู้ใหญ่อย่างสุภาพ“เพื่อนที่มหาวิทยาลัยเหรอ ไม่เคยเห็นนายมาก่อน” ผู้ใหญ่มองออกว่าเขาไม่ใช่เพื่อนธรรมดา“พ่อคะเข้าบ้านเถอะ” พระแพงพยายามคะยั้นคะยอ“เข้าบ้านก่อนสิ ได้คุยกัน” พ่อเชิญเขา เพื่อทำความรู้จัก เพราะพระแพงทำท่าทางอึกอัก ไม่อยากให้เขาได้คุยกับพ่อ“ครับ” สืบสายไม่ปฏิเสธ รับคำสั้นๆ เดินต
นับหนึ่งนั่งมองพระอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าเหนือทิวไม้ อากาศที่หนาวเหน็บ ทำให้นึกถึงเขา อ้อมกอดที่เขาทิ้งไว้ ราวกับกองไฟที่ถูกสุม เขาต้องการเพียงร่างกายของเธอ เขาหลอกล่อเธอจนหนำใจ และจากไปโดยไม่มีแม้คำกล่าวลา เธอไม่ควรจะมานั่งเสียใจ เพราะเธอเองที่ผิด ผิดที่ไปรักเขา ผิดที่ไม่อาจต้านทานความต้องการของตัวเองได้“น้องหนึ่งครับ พรุ่งนี้ทีมศาสตราจารย์ประวิทย์จะนำคณะของ ดร.กลอส เข้าป่า ไปดูพืชอนุรักษ์ ที่ใกล้สูญพันธุ์ น้องหนึ่งจะไปด้วยไหมครับ เพราะมันค่อนข้างลำบาก ถ้ากลับออกมาไม่ทัน อาจต้องค้างแรมในป่าด้วย”พี่ชูชาติ เจ้าหน้าศูนย์วิจัยที่ทำหน้าที่ดูแลนักศึกษาฝึกงาน เข้ามาถามความสมัครใจ เพราะเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิง“ไปค่ะ หนึ่งไหว”เธอตอบรับคำทันที เพราะอย่างน้อยมันช่วยให้เธอไม่คิดมาก และไม่ต้องการให้มีเวลาคิดถึงเขาเช้าวันรุ่งขึ้น นับหนึ่งเตรียมของใช้ที่จำเป็นและสัมภาระใส่เป้สนาม เตรียมพร้อมการเข้าป่ากับเจ้าหน้าที่และกลุ่มเพื่อนนักศึกษาฝึกงาน จากมหาวิทยาลัยทางภาคเหนือ
ลานจอดรถที่แน่นขนัด ในมุมหนึ่งที่มืดมิด ร่างชองชายหนุ่มและหญิงสาวในเครื่องแต่งกายที่สมบูรณ์ แต่ร่างกายท่อนร่างกลับกำลังออกกำลัง โยกรับต่อกัน หอมหายใจถี่และแรง คงทรัพย์ประคองสะโพกของอรปวีร์ กดอาวุธของเขาเข้าออก ผ่านช่องซิบที่รูดลงจนสุด กระโปรงแค่คืบที่ปกปิดสะโพกกลมกลึงถูกรั้งขึ้น จนแทบมองไม่เห็นเมื่อร่างกายแนบชิดติดกันเขาเขย่าสะโพกของเธอจนต้องเอามือปิดปากกั้นเสียงเอาไว้ ความแปลกใหม่ตื่นเต้นเร้าใจ อรปวีร์ถูกคงทรัพย์จับได้ว่าเข้ามาขายบริการในผับอินดีสที่เขาดูแลอยู่ ในฐานะผู้จัดการฝ่ายรักษาความปลอดภัย เขาต้องการจะส่งตัวเธอให้เจ้าหน้าที่ แต่เธอกลับขอร้องและแลกเปลี่ยนด้วยการที่จะยอมมีอะไรกับเขา โดยไม่อายที่จะใช้ลานจอดรถนี้สร้างความหรรษาให้กับเขา และพยายามยื่นข้อเสนอบางอย่างทั้งที่เขายังสอดใส่“ฉันมีเพื่อนคนนึง ที่เคยมาที่นี่กับฉัน พระแพง นายรู้จักนี่” อรปวีร์หอบแรงจนเสียงกระเส่า“รู้จัก ทำไม”“ฉันอยากแนะนำนางให้คุณอำนาจ ฉันกับนางเคยโดยจับได้ค
ธนญ พัศวี และคงทรัพย์ ยืนจ้องมองอรปวีร์ ที่ถูกมัดติดกับเก้าอี้ เนื่องจากเธอพยายามหนี และออกแรงต่อสู้กับลูกน้องของคงทรัพย์ เธอถูกตบไป 2-3 ครั้ง จนใบหน้าแดงช้ำ“เธอทำตัวน่ารังเกียจ” พัศวีพูดพร้อมกับเบ้ปาก“พวกนายต่างหากที่เข้ามายุ่งกับเรื่องของฉัน” อรปวีร์เดือดดาน“ฉันเสียดายที่ครั้งหนึ่งเธอได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของสืบสาย เพื่อนฉันมันพลาดจริงๆ” ธนญยกมุมปากด้วยความรู้สึกสมเพช“ที่ลูกน้องฉันทำกับเธอมันก็สมควรแล้ว กล้าหลอกฉัน” คงทรัพย์ตวาดเมื่อเห็นว่าเธอไม่สำนึก และยังกล้าตีฝีปาก“ก็แกมันโง่ไง” อรปวีร์ยิ้มเย้ยเขาอรปวีร์ ไม่ได้รู้จักคงทรัพย์ดีไปกว่าพวกเขา ธนญและพัศวีได้แต่มองหน้ากัน และนึกเอาใจช่วยที่เธอบังอาจล่วงเกินคงทรัพย์ขนาดนี้ เขาทั้งสองขอตัวไปดื่มต่อ เพราะเขารู้ดีว่า ทำไมคงทรัพย์ถึงได้เป็นผู้ดูแล ผับอันดับหนึ่งของประเทศผู้หญิงอย่างอรปวีร์คงไม่กล้าไปอีกนาน ถึงแม้จะนึกสงสารและเห็นใจ 
นับหนึ่งหยิบเสื้อผ้าของเธอเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำ และจัดการทำความสะอาดมันโดยเปิดก๊อกน้ำให้ไหลผ่านคราบสกปรกที่ติดอยู่ จากนั้นจึงใช้ครีมอาบน้ำขยี้ชุดชั้นในและ ชุดเดรสเนื้อบาง อย่างเบามือ และแขวนมันไว้ในห้องน้ำก่อนจะใช้ดรายค่อยๆเป่าให้แห้งที่ละชิ้นเมื่อเขาเห็นเธอหายเข้าไปในห้องน้ำนานผิดปกติทั้งที่เตรียมกาแฟดำไว้ให้นานแล้ว จึงเดินเข้ามาดู จึงเห็นสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ ทำให้เขาถึงกับขมวดคิ้ว ที่เธอรีบจนไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย“ฉันเตรียมกาแฟดำไว้ให้ ไปดื่มก่อนสิ เดี๋ยวมันจะเย็นซะก่อน”และดึงดรายกับชุดที่เธอเป่าอยู่ออกจากมือ“ทำอะไร”นับหนึ่งพยายามดึงมันกลับ เพราะเขากำลังจับเสื้อผ้าของเธอเปล่าดรายแทนเธอทันทีที่สั่งให้ไปดื่มกาแฟ“เดี๋ยวฉันทำให้ เธออกไปได้แล้ว อย่าเสียเวลาอยู่ หรือ กำลังถ่วง”เขาพูดพร้อมกับสั่งให้เธอออกไป แต่กลับทิ้งเสียงกล่าวหาว่าเธอต้องการถ่วงเวลาเพื่ออยู่กับเขา“ฉันไม่ได้ต้องการมาที่นี่ และไม่เคยต้องการเจอกับนาย
เกศิตาที่กำลังว้าวุ่นเรื่องของพัศวี เธอไม่สามารถหยุดคิดเรื่องของเขาได้ ทำให้ต้องเอาอารมณ์ไปลงที่งาน แม้การประชุมในวันนี้จะสำคัญต่อเธอและบริษัท แต่การประชุมทำให้เธอไม่สามารถเก็บอารมณ์ที่ขุ่นมัวไว้ได้ ทำให้หุ้นส่วนทางธุรกิจบางคนไม่พอใจ และเกิดการโต้เถียงขั้นรุนแรง เกี่ยวกับการปรับผังโครงสร้างบริษัทและกลยุทธ์การตลาดที่ต้องสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติของโครงสร้างใหม่“ในฐานะที่ดิฉันเป็นประธานบริหารโครงการนี้ ดิฉันขอให้ทุกท่านกลับไปพิจารณาและปรับแก้แผนงานมาใหม่ อีก 2 วัน เรามาประชุมกันใหม่ ถ้าทำไม่ได้ดิฉันพร้อมยุบโครงการทันที”ด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดและมีพลัง ทำให้ทั้งห้องเงียบกริบ จนกระทั่งเธอเดินออกไป ในบรรดาผู้บริหารที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ คนเก่าแก่ ถึงกับตบโต๊ะ แสดงความไม่พอใจ และรวมกลุ่มที่จะต่อต้านเธอ“นังเด็กเมื่อวานซืน คิดว่าตัวเองแน่มาจากไหน วันๆ ทำแต่เรื่องฉาวโฉ่ แต่ยังกล้าชูคอเป็นนางหงส์ เป็นแค่ลูกนอกสมรส ของประทานคนก่อน กล้ามาผยอง”
ปารวัตรวางแฟ้มเอกสารข้อมูลที่เกศิตาสั่งให้ไปสืบ ลงบนโต๊ะของเธอ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“ประวัติของคุณเนื้อน้องที่เจ้านายสั่งให้ไปสืบครับ” เขารายงานด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดเกศิตาหยิบมันขึ้นมาดู พบรูปถ่าย หลายใบ ของคนใกล้ชิด เพื่อน และพัศวีที่ยืนกอดรัดแสดงความรักต่อกัน เธออ่านประวัติของเนื้อน้อง จึงรู้ว่า เกศิตาจะกำจัดเธอได้อย่างไร เพราะครอบครัวของเนื้อน้อง ทำธุรกิจภายใต้สังกัดของบริษัทที่เธอดูแล และที่สำคัญ ตอนนี้เนื้อน้องเข้ามามีบทบาทสำคัญในธุรกิจของครอบครัว“ขอบใจ นายเตรียมข้อมูลประชุมให้ฉันด้วย แล้วก็วันนี้หลังจบประชุม นายไปทำงานต่อที่คอนโดกับฉัน”เธอสั่งเขาอย่างเฉียบขาด แม้จะบอกว่าทำงาน แต่เขารู้ดีว่างานที่เธอต้องการให้เขาทำนั้นคืองานอะไร“ครับ”หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม ปารวัตรขับรถมาส่งเกศิตาที่คอนโดและตามขึ้นไปที่ห้องพัก ขณะที่กำลังเข้าไปในลิฟท์ที่ชั้นจอดรถอยู่นั้น มีเสียงคนตะโกนขอให้รอพวกเขาก่
หลังจากจบการประชุม ปารวัตรเดินตามเกศิตามาที่ห้องทำงานด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และครุ่นคิดอะไรบางอย่าง“ฉันมีงานที่ไหนต่อไหม วันนี้” เกศิตานั่งลงที่โต๊ะทำงาน ดึงแฟ้มงานที่รอการลายเซ็นอนุมัติของเธอก่อนจะถามเขา“หกโมงเย็นมีนัดทานอาหารค่ำกับลูกค้า บริษัทคัลเลอร์เวฟ คุณทรงกลด กับคุณนพดล ผมจองร้านอาหารให้แล้ว แต่ไม่ทราบว่าคุณเกศจะมีแพลนต่อที่อินดีสเหมือนเคยหรือเปล่าครับ ผมจะได้ติดต่อสำรองที่นั่งไว้ให้ เพราะช่วงสุดสัปดาห์อาจจะมีคนมาใช้บริการมากเป็นพิเศษ”เขาถามเธอเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด เพราะแขกทั้งสอง เป็นลูกค้า VIP ของพวกเขา“อืม จัดการได้เลย”“ครับ”ทันทีที่ได้คำตอบ เขาประสานงานและคอนเฟิร์มกับผู้จัดการทันที เพราะเขาได้ติดต่อล่วงหน้าไว้แล้วค่ำคืนนี้ ไม่เพียงแต่แขก VIP ของเกศิตา หากแต่มีแขก VIP ของณัฐการด้วยเช่นกัน เธอก็เลือกใช้อินดีสเป็นสถานที่รับรองลูกค้า วันนี้เธอแต่งตัวพร้อมกับการทำงานแ