หลังจากวันที่เธอตัดสินใจจบความสัมพันธ์ทางกายกับ ธนญ ความเป็นเพื่อนของทั้งคู่ก็จบลงด้วย แม้จะเจอกันในห้องเรียน ต่างฝ่ายต่างไม่เคยแม้แต่มองหน้ากัน นับหนึ่งเป็นคนที่เข้มแข็งแม้จะถูกหญิงสาวที่เคยอิจฉาเธอค่อนแคะ เธอก็ไม่โต้ตอบ หรือแสดงความโกรธหรืออารมณ์ใดๆ ให้ใครเห็น
ระหว่างสืบสายและพัศวี เธอยังคงพูดคุยด้วยปกติ แต่เพราะทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทของธนญ จึงต้องเมินเธอบางครั้งที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน เพื่อไม่ทำให้นับหนึ่งลำบากใจ มีแค่รอยยิ้มที่เห็นใจและเข้าใจเธอเท่านั้น
ฝนที่กำลังกระหน่ำปลายฤดู ราวกับพายุ แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้นักศึกษาทั้งชายหญิง ต่างพากันวิ่งเข้าใต้อาคาร โดยไม่ได้มองว่าใครเป็นใคร นับหนึ่งวิ่งชนกับใครคนหนึ่ง จนล้มลง เป้และของที่ถือมากระจายหล่นลงบนพื้นที่เปียกแฉะ เธอจงรีบเก็บมัน ทำให้ร่างกายเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน เสื้อสีขาวตัวบางแนบเนื้อ ทำให้มองเห็นสรีระ และยกทรงตัวงาม เมื่อเข้ามาใต้อาคาร ผู้คนต่างมองเธอ รูปร่างที่สวยงามเย้ายวน ทำให้หนุ่มๆ ตาระห้อย สาวๆต่างอิจฉา
นับหนึ่งจัดการตัวเอง โดยใช้เป้สะพายปิดด้านหลัง ส่วนด้านหน้าใช้ถุงที่ใส่ของ และวัตุดิบในการทดลองของเธอขึ้นมากอดไว้ที่อก เพื่อปกปิดมัน และเดินไปหลบในมุมที่ไม่มีผู้คนมากนัก เพราะเธอเพิ่งสังเกตว่าที่เข่ามีเลือดออก นับหนึ่งค้นหาทิชชู และพลาสเตอร์ที่เธอพกไว้เสมอ เพื่อเช็ดเลือดและแปะมัน
อีกมุมหนึ่ง ธนญเพิ่งเดินลงจากอาคารมากับสาวรุ่นน้องคนหนึ่ง เพราะฝนที่ตกหนัก ทำให้เขาและหญิงสาวนางนั้นต้องหยุดรอให้ฝนซาเหมือนกับคนอื่น เมื่อเขากวาดสายตาไปโดยรอบ เขาพบว่าผู้ชายหลายคนกำลังจ้องมองบางอย่าง ทำให้เขาสนใจ และมองตามทิศทางนั้นไป จนสะดุดหยุดจ้องเธอไม่วางตาเช่นกัน
นับหนึ่งว่าเป้และถุงสัมภาระไว้บนโต๊ะตัวหนึ่ง สวมเสื้อเชิ้ตเนื้อบาง เปียกฝนแนบเนื้อจนมองเห็นด้านใน ลายลูกไม้ของยกทรงสีขาวนูนเด่นขึ้นมาอย่างชัดเจน จนทำให้ใจของเขาเต้นแรง กระโปรงยีนแบบสั้นเหนือเขา ทำน้ำหยดไหลไปตามเรียวขายาว ที่หัวเข่าของเธอมีเลือดไหล เมื่อเธอได้ทิชชูและพลาสเตอร์แล้วนับหนึ่งจึงนั่งลง เช็ดมันเบาๆ ถึงแม้จะแสบ เธอก็ได้แต่ทน ใช้ฟันที่กัดริมฝีปากของตัวเอง ทำให้เขานึกถึงเธอในคืนสุดท้ายที่นอนด้วยกัน ธนญอึดอัด และสูดหายใจแรง และมองไปทางอื่น
เมื่อนับหนึ่งจัดการกับแผลที่เข่าเรียบร้อยแล้ว เธอก็มองไปโดยรอบ เพื่อดูว่ามีเพื่อนที่รู้จักอยู่แถวนี้ด้วยหรือไม่ เธอเห็นธนญ ยืนอยู่กับรุ่นน้องคนหนึ่งมีหน้าตาน่ารัก รูปร่างเล็ก สูงแค่ไหล่ของเขา เขาทั้งสองพูดคุยกัน รอยยิ้มของเขาทำให้นับหนึ่งนึกถึงช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน แม้นับหนึ่งอยากจะทักทายเขา แต่เธอก็ไม่ทำ เพราะมันไม่มีประโยชน์ เธอพบเขาก่อนหน้านี้ 2-3 ครั้ง เคยเข้าไปทัก เพราะคิดว่าเขายังเป็นเพื่อนของเธอ แต่เขากลับเมินไม่มองหน้าไม่พูดด้วย ทำราวเธอเป็นอากาศที่มองไม่เห็น ในเมื่อมันจบ เธอก็ยอมที่จะจบและอยู่ในโลกของตัวเองต่อไป
“วันนี้ไปฉลองปิดเทอมกันนะ”
ณัฐการโทรชวนนับหนึ่ง เพราะตั้งแต่เลิกคบกับธนญ นับหนึ่งดูเปลี่ยนไป ความร่าเริงของเธอหายไป และเอาแต่อยู่คนเดียวในห้องทดลอง ไม่ค่อยออกไปไหนมาไหนกับเพื่อนๆ เหมือนเมื่อก่อน
“ได้สิ ที่ไหนเหรอ”
นับหนึ่งรู้ว่าเวลาเศร้าของเธอควรจบลงได้แล้วเช่นกัน แม้ภาคเรียนนี้จะเป็นภาคเรียนที่แย่สำหรับเธอ แต่ด้วยความเข้มแข็งเธอจึงต้องผ่านมันไปเพื่อตัวเอง
“ที่เดิมอินดีส วันนี้ครบทีมจ้ามีแค่สาวๆ”
ณัฐการต้องการย้อนเวลาให้นับหนึ่งได้เริ่มต้นหนึ่งใหม่ เช่นเดียวกับครั้งแรกที่เธอเข้ามาเรียนที่นี่ และมาที่อินดีส ถึงแม้วันนั้นจะนำพาให้เธอได้มีความสัมพันธ์กับธนญ แต่วันนี้คือวันที่เธอจะลืมเขา
“ไปรับที่บ้านแล้วกันนะ ฉันเปียกไปหมด คงต้องกลับบ้านไปอาบน้ำก่อน”
เมื่อณัฐการวางสาย นับหนึ่งก็ไม่เห็นธนญแล้ว
5 สาวสวยประจำผับอินดีส ขาประจำ จนเป็นที่จดจำของพนักงาน เดินเข้ามาอย่างเฉิดฉาย พวกเธอ สร้างบรรยากาศให้ที่นี่คึกคักอีกครั้ง เพราะนานแล้วที่พวกเธอไม่ได้รวมกลุ่มกันมาแบบนี้ นับหนึ่งมาในลุกเรียบ ๆ แต่ยังดูสวยงาม ด้านหน้าปิดมิดชิดถึงแนวไหล่สีทองแขนยาว แต่เปิดด้านหลังถึงเอว โชว์แผ่นหลังขาวเนียน คลุมแนบสะโพกเหนือเข่า
“วันนี้เราจะสนุกกัน ลืมเรื่องทุกอย่างให้หมด” รัฐการโอบไหล่นับหนึ่งเป็นการให้กำลังใจ
“ขอบใจนะอิ๋ง” นับหนึ่งยิ้มรับขอบคุณณัฐการจากใจจริง
“เทอมหน้าเราก็จะเป็นนักศึกษาปีที่ 4 กันแล้ว ถึงตอนนั้นเราคงไม่มีเวลามาเที่ยวกันแบบนี้แน่เลย ต้องฝึกงานแถมทำรายงานเสนอจบอีก คิดถึงตอนนั้นแล้ว ฉันอยากกลับไปเป้นเด็กปีหนึ่งจัง” มัสยาพูดพร้อมกับหัวเราะอายๆ
“วันนี้เราเลยต้องเต็มที่ไปเลย มาพวกเราดื่มให้กับความโสดของพวกเรา”
ณัฐการยกแก้วขึ้น และชนแก้วกันเพื่อนๆอย่างสนุกสนาน เพื่อนๆทำให้นับหนึ่งกลับมาร่างเริงเหมือนเดิม พวกเธอทั้งร้องเพลง และลุกขึ้นเต้น โยกย้ายตามจังหวะเพลง โดยไม่แคร์สายตาใคร เป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่เข้ามาใช้บริการในผับแห่งนี้เป็นอันมาก
นับหนึ่งขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เมื่อกลับออกมาด้วยความเมา ตาของเธอพล่า มองไม่ชัดสักเท่าไหร่ จึงชนเข้ากับไหล่ของคนที่สวนมา จนเซเกือบจะล้ม เพราะส้นสูงที่สวมมาทำให้เธอไม่ได้ยืนเต็มเท้า แรงกระแทกทำให้เสียหลัก
“โอ๊ย!” เธอร้องเพราะเจ็บที่ไหล่ ด้วยสัญชาติญาณคนที่ชนเธอช่วยดึงเธอไว้ไม่ให้ล้ม
“ขอโทษครับ”
เขาขอโทษเธอ โดยยังไม่ทันมองหน้า นับหนึ่งเองก็เช่นกัน เมื่อสบตากัน มือที่กำต้นแขนของเธอดูจะร้อนผ่าวขึ้นทันที ธนญชนนับหนึ่งที่เพิ่งจะออกจากห้องน้ำ เขาไม่รู้ว่าเธอก็มาที่นี่ จึงตัดสินใจพาสาวคนใหม่มาเที่ยวที่นี่ด้วย พร้อมกับเพื่อนๆ ของเขา จริงๆ แล้วมันเกิดจากเนื้อน้อง ที่บอกกับพัศวีว่าพวกเขาจะมาฉลองปิดเทอมกัน หากเขาอยากพบเธอให้มาที่นี่ โดยไม่คิดว่าพัศวีจะมากับธนญ
ธนญปล่อยแขนเธอ เมื่อเธอยืนเองได้ดีแล้ว
“ขอบคุณค่ะ”
เธอกล่าวขอบคุณและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ธนญมองตามหลังเนียนขาวของเธอ ด้วยความรู้สึกเจ็บแปบในใจ
ที่โต๊ะ เพื่อนสาวของเธอมีสีหน้าค่อนข้างเครียด แต่นับหนึ่งกลับยิ้มร่าเริงปกติ และทักทายพัศวี และสืบสาย ที่เข้ามาคุยกับเพื่อนของเธอ
“หนึ่งพวกเราไปต่อที่อื่นไหม” เนื้อน้องถาม
“ไปทำไมล่ะ สืบสายกับ พัศวีเพิ่งมาเอง” นับหนึ่งปฏิเสธ
“แต่นญมาด้วยนะ” สืบสายตอบ
“ก็ช่างเขาสิ พวกนายก็มากับเขาไปนั่งกับเขาปกตินั่งแหละ พวกเรามาก่อน ทำไมต้องย้ายไปที่อื่น ฉันไม่สนใจหรอก”
นับหนึ่งพูดจาฉะฉานชัดเจน ทำให้เพื่อนๆ โล่งใจ เพราะมันคือคำพูดของนับหนึ่งคนเก่า
พัศวีกับสืบสายกลับไปที่นั่งของตัวเองซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก พอที่จะมองเห็นกันในระยะสายตา ธนญกลับมาที่โต๊ะ มองหน้าเพื่อนแปลกๆ ทำให้เขารู้ว่าเพื่อนๆ รู้ว่านับหนึ่งกับเพื่อนมาที่นี่คืนนี้ แต่เขาก็ไม่สนใจเช่นกัน เพราะหญิงสาวที่อยู่ข้างกายคอยเอาใจเขาอยู่ตลอดเวลา
บางจังหวะที่เขามองเห็นเธอ อดไม่ได้ที่จะมอง แต่ก็ต้องเมินไปทางอื่น เขารู้สึกว่าเธอจะเข้มแข็งและหยิ่งเกินไป ที่กล้ามาเผชิญหน้ากับเขาแบบนี้ เขาไม่เคยเห็นนับหนึ่งร้องเพลงและเต้นแบบนี้มาก่อน มันชวนมองและน่าหลงใหล เธอเป็นคนร่าเริงและสนุกสนานเวลาที่อยู่กับเพื่อนๆ เธอไม่เคยต้องรักษาภาพพจน์ หรือปิดบังสิ่งที่อยากแสดงออก เธอเป็นตัวของตัวเอง ในแบบที่เขาชอบ และคงชอบเธออยู่
พัศวีปลีกตัวออกไปที่มุมหนึ่ง เพื่อคุยกับเนื้อน้องลำพัง เนื้อน้องต่อว่าเขาที่ชวนธนญมาด้วย เพื่อนของเธอกำลังดีขึ้น การพบกับธนญ อาจทำให้นับหนึ่งแย่ลงอีก พัศวีได้แต่ขอโทษ เพราะเขาไม่คิดว่าธนญจะพาผู้หญิงคนใหม่มาด้วย แต่พัศวีก็เชื่อว่านับหนึ่งไม่มีทางอ่อนแอ เพราะเธอเข้มแข็งมาก และเธอกล้าเผชิญหน้ากับทุกสถานการณ์อยู่แล้ว เพราะเขายังจำเหตุการณ์ที่เธอช่วยเขาเรื่องเกศิตาได้ไม่ลืม นับหนึ่งเฉียบขาดและมีไหวพริบ เธอไม่มีทางยอมแพ้อะไรง่ายๆ
“วันนี้มีเพื่อนรุ่นน้องที่มาด้วยเขาให้ท่าฉัน เธอจะว่ายังไง” พัศวีเริ่มเข้าเรื่องของตัวเอง
“ถ้าเธอต้องการ ฉันจะว่าอะไรได้” เนื้อน้องเมินหน้าไม่พอใจ
“หึงเหรอ” เขาจับคางเธอให้หันมามองเขา
“ทำไมต้องหึง เราเป็นแค่เพื่อนกัน” เธอตอบและทำตาทะเล้นให้เขา
“เธอเป็นแฟนฉันนะ” เขาไม่ยอม
“แค่หลอกคนอื่น” เธอเชิดหน้าใส่เขา
“ฉันต้องการเธอมากกว่า” เขาก้มลงจูบเธอที่ริมฝีปากอย่างอ่อนโยน และผละออกมองมองเธออย่างเว้าวอน
“ฉันจะต้องทำหน้าที่นี้ต่อหน้าเพื่อนของฉันเหรอ”
เนื้อน้องลำบากใจ เพราะเธอไม่เคยเปิดเผยเรื่องระหว่างเธอและเขากับเพื่อนมาก่อน
“นอนกับฉันเถอะนะ เราจะได้เป็นแฟนกันจริงๆ” เขาขอเธออีกครั้ง
“นายนี่ ขอตัว ก่อนขอความรักอีกนะ ฉันไม่เอาตัวแลกกับความรักจอมปลอมของนายหรอกนะ”
เนื้อน้องกอดอก และใช้มือข้างหนึ่งตบแก้มเขาเบาๆ ก่อนจะลูบมันเย้าเขาเล่น
“ว๊า! อดอีกแล้ว”
เขาแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อน เขาชอบที่เนื้อน้องหวงตัว ยิ่งได้มายากเขายิ่งอยากได้และต้องการเธอมากขึ้น ก่อนที่จะแยกกันเขาดึงเธอมาจูบอีกครั้ง เพื่อเป็นการมัดจำ และยิ้มโปรยเสน่ห์ให้เธอ จนทำให้เนื้อน้องถึงกับหัวเราะขำในความเจ้าชู้ของเขา เดินตามเขากลับไปห่างๆ
“พี่วี มานี่สิ น้องมีรูปตอนที่ไปเที่ยวทะเลให้พี่ดู”
น้องเหรอ เนื้อน้องได้ยินเด็กรุ่นน้องเรียกชื่อตัวเองว่าน้อง เรียกพัศวีอย่างออดอ้อน ทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดที่สาวคนนั้นชื่อเดียวกับเธอ เขาจงใจเกินไปหรือเปล่าที่คั่วอยู่กับคนชื่อเดียวกับเธอ เธอเดินกลับมาที่โต๊ะด้วยความหงุดหงิด จนเพื่อนเพื่อนๆ สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
“อารมณ์เสียอะไรมาแก”
พัฒนารัตน์ยิ้มกว้าง ถามเธอด้วยความสงสัย เพราะสองสาวคู่ซี้ พัฒนารัตน์กับเนื้อน้องสนิทกันมากและเรียนคณะบริหารด้วยกัน
“ถ้าฉันทำไรที่พวกแกไม่เคยรู้มาก่อน ขอร้องอย่าตกใจกันนะ”
เธอพูดบางอย่าง จนทำให้ สี่สาวหันขวับมามองพร้อมกัน ด้วยความแปลกใจ
“เรื่องไรเหรอ” มัสยาถามก่อน
“เดี๋ยวรู้เองแหละ”
เนื้อน้องพูดจบ เธอก็ลุกขึ้นและเดินตรงไปยังโต๊ะที่พัศวีนั่งอยู่ โดยมีสาวน้อยนางหนึ่งนั่งอิงแขนเขาทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ ทำให้สี่สาวมองตามและอ้าปากค้าง และลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ลูกแพรที่กอดแขนธนญมองหน้าเนื้อน้องด้วยความข้องใจ ที่เนื้อน้องกำลังยืนจ้องเพื่อนของเธอกับพัศวี สืบสายเองได้แต่ยิ้ม เพราะไม่เคยเห็นเธอในลุกนี้มาก่อน ธนญไม่ได้มองเนื้อน้องหากแต่มองไปที่นับหนึ่ง เขาส่งสายตาเตือน หากเพื่อนของเธอมาวุ่นวายกับพวกเขาเพราะเธอ เขาจะไม่ยอมอยู่เฉย
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ” ลูกแพรเสียงแข็ง บุคลิกของลูกแพรค่อนข้างแรง และเอาเรื่อง
“ขอโทษนะคะ ฉันไม่รู้จักคุณ แต่เพื่อนของคุณควรจะไปนั่งที่อื่นไม่ใช่ที่นี่”
เนื้อน้องกอดอกมองด้วยสายตาดุดัน ที่ลูกแพรไม่ได้เป็นคู่กรณีกับเธอแต่กลับมาจิกเสียงถามเธออย่างเสียมารยาท
“ทำไมฉันจะนั่งข้างพี่วีไม่ได้”
หญิงสาวที่เรียกตัวเองว่าน้องลุกขึ้นในกิริยาที่ไม่พอใจ และค่อนข้างแรงเหมือนกับลูกแพร
“เพราะคนที่นั่งข้างวีได้มีแค่ฉันเท่านั้น แต่ถ้าอยากจะนอนมากกว่านั่งก็ขอฉันก่อนนะ” เนื้อน้องพูดจานิ่งๆ เชิดใส่
“น้อง” พัศวีเรียก
“น้องไหน” เนื้อน้องเอียงแก้มเชิงถาม
พัศวีลุกขึ้น และอ้อมมาด้านหลังเธอ แล้วกระซิบข้างหู
“เธอเล่นอะไร จริงจังไปไหม มันเสียมายาทนะ ฉันไม่อยากให้เสียงดัง”
เขาไม่เคยเห็นเนื้อน้องทำท่าหึงเขาแบบนี้มาก่อน
“พี่วี”
หญิงสาวที่ชื่อน้องทำท่าจะอ้อนเขา โดยจะเข้าไปกอดแขน แต่เนื้อน้องดึงเขาไว้ด้านหลัง
“เขาเป็นแฟนฉัน”
เนื้อน้องแสดงความเป็นเจ้าของทันที ทำให้สืบสายและพัศวีอ้าปากค้างและยิ้มออกมากพร้อมกัน
“จริงเหรอคะพี่วี”
“ครับ”
พัศวีตอบรับ และกอดเอวเนื้อน้องไว้ ให้แยกออกไปที่อื่น เพื่อคุยกันลำพัง นับหนึ่งยิ้มและหัวเราะออกมา จนเพื่อนๆ คนอื่นปล่อยลมหายใจและหัวเราะตาม ธนญมองนับหนึ่งและยิ้มที่มุมปาก นึกในใจว่าสาวๆ พวกนี้เหมือนกันหมด
“นี่เธอหึงจริง หรือแกล้งหึงกันแน่”
พัศวีดันเนื้อน้องติดผนัง เท้าแขนเหนือศีรษะก้มหน้าชิดเธอ และมองเข้าไปในดวงตาของเนื้อน้องเพื่อหาคำตอบ มือจับปลายคางให้หันมาสบตาเขา
“ฉันไม่พอใจที่หล่อนชื่อเดียวกับฉัน” เธอเบือนหน้าหนี
“หึง” เขาพูดและยิ้ม ก้มลงจูบเธอ เนื้อน้องดันเขาไว้ เพื่อห้าม
“ถ้าอยากนอนกับหล่อน ฉันจะไม่ยุ่ง”
“ไม่ ฉันอยากนอนกับเธอ” เขาปฏิเสธ
“ไม่” เนื้อน้องยังคงปฏิเสธ
“หล่อนค่อนข้างแรง อย่าไปยุ่งกับหล่อนเลย จะมีปัญหา หล่อนกับเพื่อนพอกันแหละ เล่นกันเป็นทีม”
เนื้อน้องเริ่มเย็นลง แต่ได้เตือน เพราะห่วงเขาและธนญ ผู้หญิงบางประเภทไม่ได้ให้แค่ความบันเทิง แต่มักจะสร้างปัญหาตามมา
“หึงหวง เป็นห่วง แต่ไม่ยอมนอนกับแฟนตัวเอง ให้ไปหากินที่อื่นมันอะไรกัน”
เขาตัดพ้อเธอ เนื้อน้องยิ้มเย้ยเขา และเดินจากไป เขาได้แต่มองตามตาระห้อย เพราะความใจแข็งของเธอ เนื้อน้องคือแบบฉบับของหญิงสาวที่ผู้ชายหลายคนอย่าได้เป็นแฟน ทำให้เขารู้สึกรักและหวงแหนเธอเพิ่มขึ้นทุกวัน
“พี่วี” เพื่อนของลูกแพรยังอยากอ้อนเขาอยู่ เพราะไม่เชื่อ
“แฟนพี่มองอยู่ เราควรจะนั่งห่างกันหน่อยนะ” เขายิ้มอย่างเป็นมิตร
“ฉันไม่ยักรู้มาก่อน ว่าพวกนายคบกัน” สืบสายแกล้งแซวเขา
“สักพักแล้ว แต่ไม่ได้บอกใคร น้องเขาไม่อยากรำคาญใจ” เขาตอบสืบสายด้วยรอยยิ้มที่ค่อนข้างภูมิใจ
“แต่นายยังไปนอนกับคนอื่นอยู่เลยนะ” สืบสายพูดตรงๆกับเขา โดยไม่ได้สนใจหญิงสาวสองคนที่นั่งอยู่
“อืม ฉันบอกเขาตลอด เขาไม่ได้ว่าอะไร เขาให้ฉันไปเอง”
เขาพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ จนทำให้สืบสายกับธนญมองตากันร้องว้าว และหัวเราะ หญิงสาวทั้งสองคนที่มาด้วยถึงกับวางแก้วกระแทกลงพร้อมกัน พวกเธอตั้งป้อมทำท่าเป็นศัตรู อย่างเห็นได้ชัด
“คุณไม่ควรทำกิริยาแบบนี้นะ เพราะหากคนของธนญเขาแสดงตัวบ้าง เธอจะหนาว คนนั้นร้ายกว่าเนื้อน้องเสียอีก”
พัศวีเห็นกิริยาที่ลูกแพรทำ รู้สึกไม่สบอารมณ์นัก จึงเตือนเธอ เพราะเขายังเชื่อว่าทั้งสองคนยังรักกัน และเขารู้สึกดีกับนับหนึ่งมากกว่าลูกแพร
ธนญ นิ่งเฉยดื่มเหล้าของตัวเอง ไม่ได้สนใจใครทั้งนั้น ส่วนลูกแพร ก็มองหน้าเขาเพื่อขอคำตอบที่พัศวีพูดเมื่อสักครู่ เขาไม่สนใจเธอ ยิ่งทำให้เธอร้อน ลูกแพรใจร้อนและค่อนข้างบุ่มบ่าม เธอลูกขึ้นและเดินตรงไปยังกลุ่มของนับหนึ่ง พัศวีส่ายหัวและดูแคลน ขนาดยังไม่ได้มีอะไรกับธนญ ยังขนาดนี้
“นญ นายไม่ห้ามเหรอ”
สืบสายตกใจที่เห็นเธอโมโห และพรุ่งตรงไปยังกลุ่มของนับหนึ่ง เขารู้ดีว่านับหนึ่งไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาหาเรื่อง ธนญทำหน้าเฉยเมย มองพวกเธอเพื่อดูว่านับหนึ่งจะทำอย่างไร
“ในนี้ใครเป็นแฟนพี่นญ”
ลูกแพรกอดอกมองทุกคนและหยุดที่นับหนึ่ง และส่งสายตาดุดัน เพราะนับหนึ่งสวยที่สุด ทั้งรูปร่างและหน้าตา บุคลิกภาพ
“เธอเป็นคนที่ไร้มารยาทมาก” เนื้อน้องแดกดัน เพราะไม่สบอารมณ์ตั้งแต่เมื่อครู่
“นี่ไม่ใช่เรื่องเธอ” ลูกแพรตวาด
“ขอโทษนะคะน้อง คุณใช้คำว่า ในนี้ใครเป็นแฟนพี่นญ จะไม่เกี่ยวกับเพื่อนพี่ได้อย่างไร เพราะหากใครเป็นแฟนของเพื่อน มันก็คือเพื่อนของเราถูกไหมคะ แล้วก็ อืมมม.. น้องมาหาเรื่องคนอื่นทั้งที่ไม่รู้ว่าโจทย์ของน้องคือใคร แบบนี้เขาเรียกว่าพาลค่ะ”
ณัฐการพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเพื่อเตือนติและสั่งสอนไปในที ทำให้ลูกแพรโมโหจนเต้น กำมือข้างลำตัว เมื่อหญิงสาวแสดงอาการแบบนี้ ทำให้คนอื่นๆ หันมามอง เพราะกลุ่มของนับหนึ่งค่อนข้างเป็นที่สนใจ นับหนึ่งยิ้มในคำพูดของณัฐการเพื่อนรัก จนทำให้ลูกแพรพุ่งตรงไปที่นับหนึ่งทันที
“ตอนนี้ฉันคบกับพี่นญ พวกเธอถ้าไม่ใช่แฟนอย่าได้เสนอหน้ามายุ่ง เพราะพี่นญไม่เคยบอกฉันว่าเขามีแฟน”
ลูกแพรเน้นเสียง นับหนึ่งปรายตามองธนญ เยาะเย้ยเขาด้วยรอยยิ้ม ผู้หญิงแบบนี้หรือที่เขาชอบ แม้แต่ควงมาออกงานแบบนี้ ก็เหมือนได้ของเรหลังมาเสียมากกว่า
“เหมือนนญก็ไม่เคยบอกพวกเรานะว่าเขามีแฟน ถ้าคุณไม่มาบอก พวกเราก็คงไม่ทราบ แต่ฉันว่า นญดูจะรสนิยมแย่ไปหน่อย ปกติของที่มีเขามีค่อนข้างดูดี มีราคา ไฮ.. แต่คุณดูเหมือน...ของเลหลังตามตลาดนัดมากกว่า ก็แปลกอยู่ ปกติเขาไม่ค่อยกินของข้างทาง วันนี้เจอคุณแล้ว จัดจ้านเชียว”
นับหนึ่งยิ้มทั้งแววตา คำพูดของนับหนึ่งดังขึ้นหลังเสียงเพลงหยุดลง จนทุกคนที่อยู่ในสถานที่นั้นถึงกับตลึงในคำพูดที่เสียงดังฟังชัดของเธอ ธนญ โกรธที่เธอกำลังดูถูกเขา และลูกแพรที่ทำให้เขาอับอาย พัศวีและสืบสายยิ้มให้กันอย่างสะใจ
“เธอ” ลูกแพรจะพุ่งตัวเขาหาเขา แต่เพื่อนของเธอดึงไว้ เพราะคนเริ่มมอง ธนญหยุดอยู่ด้านหลังลูกแพร
“ที่นี่สำหรับแขก VIP ไม่ทราบคุณธนญ จะช่วยพาเธอออกไป หรือจะให้การ์ดจัดการดีคะ” นับหนึ่งยืนขึ้นเผชิญหน้า
“ลูกแพร พวกเธอกลับไปซะ” ธนญพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ไม่” เธอตวาดเขาเสียงดัง
“การ์ด” ธนญเรียกการ์ดทันที และเดินกลับไปที่โต๊ะของเขา พัศวีหยิบกระเป๋าและโทรศัพท์ส่งให้ทั้งสองสาวโดยเร็ว และโน้มตัวลงพูดใกล้ๆ หูลูกแพร
“คนนั้นคือแฟนของนญ” ทำให้ลูกแพรฮึดฮัด จะกลับไปหาเรื่อง แต่ถูกการ์ดลากออกไปเสียก่อน
เพื่อนๆ ต่างยกนิ้วให้นับหนึ่ง และลงมานั่งคุยต่อเรื่องของเนื้อน้องและพัศวีแทน ถึงแม้หญิงสาวสองคนจะถูกลากตัวไป แต่พวกเขาก็ไม่ได้ไปร่วมโต๊ะของนับหนึ่ง เพราะรักษามารยาทต่อกัน วันนี้เฉพาะสาวๆมาฉลองในกลุ่มของพวกเธอ และที่สำคัญนับหนึ่งกับธนญ ยังมีระยะห่างของกันและกันอยู่
นับหนึ่งกลับถึงบ้านด้วยรถบริการของผับ ที่ณัฐการจัดการให้เนื่องจากเธอเมามากเช่นกัน ไม่สามารถมาส่งเธอได้ นับหนึ่งเมาเพราะดื่มจัด แต่ไม่อยากไปเบียดกันที่คอนโดของมัสยา จึงขอตัวกลับบ้าน จะได้นอนยาวโดยไม่ต้องรบกวนใคร
เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่เธอเมาโดยไม่มีธนญเป็นคนดูแลและขับรถมาส่ง ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่เธอสามารถดูแลตัวเองได้ดีมาตลอด แต่ด้วยอาการเมาหนัก เธอใช้เวลาอยู่นานกว่าจะสามารถพาร่างของตัวเองเข้าไปด้านในได้ นับหนึ่งนอนสลบไสลไร้สติที่โซฟา จนไม่รู้ว่ามีใครกำลังเข้ามาเงียบๆ
ธนญมองเธอนอนไร้สติไม่ไหวติง จึงอุ้มเธอขึ้นไปชั้นบนอย่างง่ายดาย นับหนึ่งกอดคอเขาด้วยสัญชาติญาณ เมื่อเขาโน้มตัวลงวางเธอที่เตียง กลิ่นหอมอ่อนๆจากน้ำหอมที่เขาปรุงให้ ทำให้ธนญชะงักนิดหนึ่ง เธอยังคงใช้มัน ซึ่งมันเป็นกลิ่นที่เข้ากับเธอได้ดีและไม่เหมือนใคร เพราะมีเพียงคนเดียวในโลกที่ใช้มัน เขาลืมตัวและจูบเธอที่หน้าผาก
เขาโหยหาร่างกายของเธอ วันนี้เธอทำให้เขาแทบคลั่ง ทั้งชุดที่ใส่ ทั้งกลิ่นน้ำหอม ทั้งหน้าตาที่แต่งแต้มสีสันจัดจ้านโฉบเฉี่ยว อีกทั้งคำพูดที่เหน็บแนมเรื่องผู้หญิงของเขา ทั้งที่ธนญพยายามบอกกับตัวเองว่า มีผู้หญิงอีกหลายคนที่พร้อมจะเสนอตัวให้กับเขา จะไปเสียดายทำไมแค่ผู้หญิงคนเดียว แต่นานวันเข้า เขากลับรู้สึกโหยหาและอยากสัมผัสแต่ร่างกายของเธอเพียงคนเดียว โดยเฉพาะวันนี้ที่ร่างกายเธอเปียกโชก จนเห็นชั้นใน เขาโกรธที่ไม่สามารถหลบซ่อนเธอจากสายตาของคนอื่น โกรธที่ร่ายกายของเขาตื่นเต้นเพราะเธอ
ธนญโกรธที่เธอยั่วยวนเขาด้วยสายตา และคำพูด ถึงตอนนี้ความเมาทำให้เขาไม่สามารถบังคับความต้องการของตัวเองได้ เขาต้องการเธอ เขามาหาเธอเพื่อสิ่งนั้นหรือเพราะอย่างอื่น
นับหนึ่งค่อยๆ ลืมตา เธอคิดว่าตัวเองกำลังฝัน ที่เห็นเขาอยู่ตรงหน้า เธอจูบเขา และจับที่แก้มลูบไล้มันอย่างแผ่วเบา ร่างกายหิวกระหายของเขา ทำให้เขาจูบเธอตอบด้วยความเร่าร้อน จนเธอแทบหายใจไม่ออก นับหนึ่งเริ่มรู้สึกตัวว่ามันไม่ใช่ความฝัน เธอจึงผลักเขาออก แต่มันไม่เป็นผล เพราะเขาจู่โจมเธออย่างหนักหน่วง เขาต้องการเธอมากเหลือเกิน
“อย่าทำแบบนี้”
นับหนึ่งขอร้องด้วยเสียงที่แหบพล่าและหายไปในลำคอ ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดดับไป พร้อมบทรักที่เธอโหยหาจากเขา
ทางด้านพัศวีที่อาสาไปส่งเนื้อน้องด้วยตัวเอง แต่เขากลับพาเธอไปที่อื่น มันเป็นห้อง ห้องหนึ่ง ที่เขาซื้อไว้สำหรับคนพิเศษของเขา มันไม่เคยต้อนรับใครมาก่อน เนื้อน้องเป็นคนแรกที่ได้มาเยือน เธอรู้สึกกลัวและตื่นเต้น แต่ก็พยายามวางท่าทางสงบนิ่ง ข่มความกลัวเอาไว้
“ห้องของนายเหรอ” เนื้อน้องถามเบาๆ
“ห้องของเรา”
เขาตอบ และยิ้มให้กับเธออย่างอ่อนโยน นำเธอมายืนที่กรอบหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดม่านออกจนหมด มองเห็นทิศทัศน์ด้านล่าง แสงไฟจากตึกและท้องถนนที่สวยงาม
“มันดึกมากแล้วนะ”
เธอพูดกับเขาด้วยเสียงแผ่วเบา เขากอดเธออย่างอบอุ่น เกยคางที่ไหล่ของเธอและชมเมืองที่ยังตื่นอยู่ไปพร้อมกับเธอ
“นายต้องการฉัน”
เนื้อน้องถาม เพราะเขาบอกว่าเขาต้องการเธอมาหลายครั้งแล้ว วันนี้อยู่ด้วยกันแบบนี้แล้วมันคงยากที่จะปฏิเสธ
“ฉันต้องการเธอ ฉันอยากรักเธอแบบที่ผู้ชายรักผู้หญิง” เขาหอมแก้มเธอเบาๆ
เนื้อน้องไม่ได้พูดอะไร เธอเพียงแค่หันมาจูบปากเขา และโอบรอบคอเขาอย่างอ่อนโยน เธอมองหน้าของเขา สำรวจคิ้วตา จมูกและปาก และยิ้มออกมากด้วยความชื่นชม
“นายทนที่จะไม่ทำอะไรฉัน ทั้งที่เอาแต่บอกว่าต้องการฉันได้อย่างไร” เธอเอียงแก้มถามเขาอย่างสงสัย
“เพราะฉันรักเธอ และไม่อยากเสียเธอไป ที่ฉันบอกเธอตามตรงเมื่อต้องการ และต้องไปนอนกับคนอื่น เพราะฉันรู้ว่าเธอเข้าใจฉัน”
เขาประคองแก้มทั้งสองของเนื้อน้องอย่างทนุถนอม
“แล้วผู้หญิงในวีดีโอนั่นล่ะ”
“ฉันชอบเรือนร่างเขา ชอบที่ได้ร่วมรักกับเขา”
เขาตอบตามความรู้สึกที่แท้จริง เนื้อน้องกอดเขาแนบอกอย่างหวงแหน
“ฉันเห็นนายทำกับคนอื่น ฉันหวง อิจฉา และกลัวมาก ๆ โดยเฉพาะผู้หญิงคนนั้น”
เนื้อน้องทุบที่อกเขา เขาโอบกอดเธอไว้แน่น ลูบไล้แผ่นหลังและสะโพกของเธอด้วยความปรารถนาที่มีต่อเธอทั้งกายและใจ เนื้อน้องรู้สึกถึงไอร้อนที่ฝ่ามือของเขาที่เกาะกุมสะโพกของเธอ จนเธอแทบจะทนต่อไปไม่ได้ ร่างกายของเธอเริ่มอ่อนระทวย อกเล็กของเธอเต่งตึงใต้ร่มผ้า หัวใจที่เต้นแรงเพราะอยากสัมผัสเขาเช่นเดียวกับผู้หญิงคนนั้น เธอสอดนิ้วเข้าไปในเสื้อและปลดกระดุมอย่างเชื่องช้า จนสามารถสัมผัสแผ่นอก ราวนมตึงแน่นด้วยกล้ามเนื้อ เธอลูบไล้เขาไปมา
พัศวีกุมมือของเธอ และยกขึ้นมาจูบนิ้วเรียวยาว แต่งแต้มเล็บที่สวยงามด้วยกากเพชร เขียนรวดลายชวนมอง เขาดูดและจูบมันอย่างเร่าร้อน จนหน้าอกของเธอร้อนผ่าว แก้มแดงระเรื่อ
“ฉันต้องการเธอ” เขาถามเพื่อให้เธออนุญาต เพราะเธอคือคนที่เขารัก
“ฉัน”
เนื้อน้องลังเล แต่ต้านทานไม่ไหว เพราะเธอพยุงตัวเองไว้ได้เพราะเขาโอบรอบเอวของเธอ คอเสื้อที่แหวกจนเห็นร่องอก ถูกโยงไว้ที่คอ เขาแค่กระตุกมัน ส่วนที่ปกปิดอกของเธอก็หลุดลงกองที่สะโพก แม้จะเล็กและสู้ของเกศิตาไม่ได้ แต่มันคือความโหยหาที่เขาอยากสัมผัสมาโดยตลอด
พัศวีพาเธอไปที่เตียงจับให้เธอนอนลง และปลดกระโปรงของเธอออก จนเหลือเพียงกางเกงชั้นในตัวจิ๋ว เนื้อน้องใช้ท่อนแขนปกปิดหน้าอกของเธอไว้ เพราะความเขินอาย ในขณะที่เขาถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นอย่างช้าๆ เพื่อให้เธอได้มองเห็นเขาทุกส่วนสัดอย่างชัดเจน
เขาโชว์แก่นกายชายที่กำลังพองตัวเพราะต้องการเธอ และจับมันให้เธอได้เห็นอย่างชัดเจน เขารู้ว่าเธอต้องการเห็นมัน ต้องการดูว่าเขาใช้ส่วนไหนในร่างกายกับผู้หญิงคนอื่นอย่างไร แต่เขากลับไม่เคยมีโอกาสได้ใช้มันกับเธอ เขาสอดนิ้วเข้าไปใต้กางเกงชั้นใน และลูบไล้มันเบาๆ จนกลีบจำปาของเธอเผยอออก ก่อนที่จะค่อยๆ ดึงกางเกงชั้นในตัวจิ๋วออกอย่างช้าๆ
พัศวีจูบที่เนินเนื้ออย่างแผ่วเบา และดุนมันด้วยลิ้นละมุน แม้กลีบจำปาจะแยกจากกัน แต่มันเป็นครั้งแรกที่เธอควรจะได้จดจำและรู้จักความสุขที่แท้จริง แม้เขาจะทรมานจากความต้องการของตัวเอง เขาก็ต้องอดทนเพื่อเธอ
ปลายลิ้นที่พลิ้วไหวของเขา ที่เนื้อน้องมองมันทำให้เธอเคลิ้มเคล้ม จนต้องดูดนิ้วของตัวเองตามแรงสัมผัสของเขา พัศวีสอดนิ้วของตัวเองเข้าไปในปากอวบอิ่มของเธอเพื่อให้เธอดูดกลืนเขา แทนนิ้วเรียวของเธอก่อนหน้า เขารับรู้ถึงแรงสัมผัสที่ปลายนิ้วของเขาเป็นจังหวะเดียวกับที่เขาตวัดมันกับกลีบจำปาของเธอ ยิ่งแรงและเร็ว เธอยิ่งดูดกลืนเขาลึกขึ้น เธอมีความต้องการเขาแล้ว เช่นเดียวกับที่เขาต้องการเธอพัศวี โถมร่างกายแข็งแกร่งของตัวเองขึ้นค่อมร่างบางของเธอไว้ ให้แก่นเสียดสีกับกลีบจำปาของเธอ ก่อนจะก้มตัวลงจูบเธออย่างดูดดื่ม แบบเดียวกับที่เขาจูบเนินเนื้อของเธอ ความหิวโหยของหนุ่มสาวแทบจะรอการกลืนกินกันและกันไม่ไหว แต่ต้องฝีนต้าน เพื่อความหฤหรรษ์ที่รอคอยกันมานาน“ต้องการมันไหม” เขาถาม“ฉันต้องการ” เนื้อน้องไม่อยากทนมันอีกแล้ว“เธอจะต้องเจ็บมากนะ” เขากระซิบบอก และเคล้าเคลียเธอไปมา“ขอร้อง” เธอไม่กลัวสิ่งใดอีกต่อไป เธอขอร้องให้เขาดับไฟในตัวเธอ เพราะมันกำลังเผาผลาญเธอแทบมอดไหมพัศวีจูบ
พระแพงไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาทำอยู่ เธอไม่พูด ได้แต่นั่งหน้าเครียดมองออกไปด้านข้าง สืบสายจอดรถให้เธอที่หน้าบ้านทั้งที่ยังจอดไม่สนิท พระแพงรีบเปิดประตูลงไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่สังเกตว่าพ่อของเธอเพิ่งลงจากรถคันหนึ่ง“แพง”พระแพงหันตามเสียงด้วยความตกใจ สืบสายเองก็ต้องตกใจที่ชายสูงวัยกำลังจ้องมองเขาอยู่ผ่านกระจกด้านหน้า พระแพงเดินไปหาเขา และช่วยหิ้วของในมือ“ใครน่ะ” พ่อของเธอถาม ทำให้พระแพงอึกอัก เมื่อเห็นเช่นนั้นสืบสายจึงลงจากรถ และเข้าไปแนะนำตัวกับเขา“ผมชื่อสืบสายครับ เป็นเพื่อนกับพระแพง” เขาทักทายผู้ใหญ่อย่างสุภาพ“เพื่อนที่มหาวิทยาลัยเหรอ ไม่เคยเห็นนายมาก่อน” ผู้ใหญ่มองออกว่าเขาไม่ใช่เพื่อนธรรมดา“พ่อคะเข้าบ้านเถอะ” พระแพงพยายามคะยั้นคะยอ“เข้าบ้านก่อนสิ ได้คุยกัน” พ่อเชิญเขา เพื่อทำความรู้จัก เพราะพระแพงทำท่าทางอึกอัก ไม่อยากให้เขาได้คุยกับพ่อ“ครับ” สืบสายไม่ปฏิเสธ รับคำสั้นๆ เดินต
นับหนึ่งนั่งมองพระอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าเหนือทิวไม้ อากาศที่หนาวเหน็บ ทำให้นึกถึงเขา อ้อมกอดที่เขาทิ้งไว้ ราวกับกองไฟที่ถูกสุม เขาต้องการเพียงร่างกายของเธอ เขาหลอกล่อเธอจนหนำใจ และจากไปโดยไม่มีแม้คำกล่าวลา เธอไม่ควรจะมานั่งเสียใจ เพราะเธอเองที่ผิด ผิดที่ไปรักเขา ผิดที่ไม่อาจต้านทานความต้องการของตัวเองได้“น้องหนึ่งครับ พรุ่งนี้ทีมศาสตราจารย์ประวิทย์จะนำคณะของ ดร.กลอส เข้าป่า ไปดูพืชอนุรักษ์ ที่ใกล้สูญพันธุ์ น้องหนึ่งจะไปด้วยไหมครับ เพราะมันค่อนข้างลำบาก ถ้ากลับออกมาไม่ทัน อาจต้องค้างแรมในป่าด้วย”พี่ชูชาติ เจ้าหน้าศูนย์วิจัยที่ทำหน้าที่ดูแลนักศึกษาฝึกงาน เข้ามาถามความสมัครใจ เพราะเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิง“ไปค่ะ หนึ่งไหว”เธอตอบรับคำทันที เพราะอย่างน้อยมันช่วยให้เธอไม่คิดมาก และไม่ต้องการให้มีเวลาคิดถึงเขาเช้าวันรุ่งขึ้น นับหนึ่งเตรียมของใช้ที่จำเป็นและสัมภาระใส่เป้สนาม เตรียมพร้อมการเข้าป่ากับเจ้าหน้าที่และกลุ่มเพื่อนนักศึกษาฝึกงาน จากมหาวิทยาลัยทางภาคเหนือ
ลานจอดรถที่แน่นขนัด ในมุมหนึ่งที่มืดมิด ร่างชองชายหนุ่มและหญิงสาวในเครื่องแต่งกายที่สมบูรณ์ แต่ร่างกายท่อนร่างกลับกำลังออกกำลัง โยกรับต่อกัน หอมหายใจถี่และแรง คงทรัพย์ประคองสะโพกของอรปวีร์ กดอาวุธของเขาเข้าออก ผ่านช่องซิบที่รูดลงจนสุด กระโปรงแค่คืบที่ปกปิดสะโพกกลมกลึงถูกรั้งขึ้น จนแทบมองไม่เห็นเมื่อร่างกายแนบชิดติดกันเขาเขย่าสะโพกของเธอจนต้องเอามือปิดปากกั้นเสียงเอาไว้ ความแปลกใหม่ตื่นเต้นเร้าใจ อรปวีร์ถูกคงทรัพย์จับได้ว่าเข้ามาขายบริการในผับอินดีสที่เขาดูแลอยู่ ในฐานะผู้จัดการฝ่ายรักษาความปลอดภัย เขาต้องการจะส่งตัวเธอให้เจ้าหน้าที่ แต่เธอกลับขอร้องและแลกเปลี่ยนด้วยการที่จะยอมมีอะไรกับเขา โดยไม่อายที่จะใช้ลานจอดรถนี้สร้างความหรรษาให้กับเขา และพยายามยื่นข้อเสนอบางอย่างทั้งที่เขายังสอดใส่“ฉันมีเพื่อนคนนึง ที่เคยมาที่นี่กับฉัน พระแพง นายรู้จักนี่” อรปวีร์หอบแรงจนเสียงกระเส่า“รู้จัก ทำไม”“ฉันอยากแนะนำนางให้คุณอำนาจ ฉันกับนางเคยโดยจับได้ค
ธนญ พัศวี และคงทรัพย์ ยืนจ้องมองอรปวีร์ ที่ถูกมัดติดกับเก้าอี้ เนื่องจากเธอพยายามหนี และออกแรงต่อสู้กับลูกน้องของคงทรัพย์ เธอถูกตบไป 2-3 ครั้ง จนใบหน้าแดงช้ำ“เธอทำตัวน่ารังเกียจ” พัศวีพูดพร้อมกับเบ้ปาก“พวกนายต่างหากที่เข้ามายุ่งกับเรื่องของฉัน” อรปวีร์เดือดดาน“ฉันเสียดายที่ครั้งหนึ่งเธอได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของสืบสาย เพื่อนฉันมันพลาดจริงๆ” ธนญยกมุมปากด้วยความรู้สึกสมเพช“ที่ลูกน้องฉันทำกับเธอมันก็สมควรแล้ว กล้าหลอกฉัน” คงทรัพย์ตวาดเมื่อเห็นว่าเธอไม่สำนึก และยังกล้าตีฝีปาก“ก็แกมันโง่ไง” อรปวีร์ยิ้มเย้ยเขาอรปวีร์ ไม่ได้รู้จักคงทรัพย์ดีไปกว่าพวกเขา ธนญและพัศวีได้แต่มองหน้ากัน และนึกเอาใจช่วยที่เธอบังอาจล่วงเกินคงทรัพย์ขนาดนี้ เขาทั้งสองขอตัวไปดื่มต่อ เพราะเขารู้ดีว่า ทำไมคงทรัพย์ถึงได้เป็นผู้ดูแล ผับอันดับหนึ่งของประเทศผู้หญิงอย่างอรปวีร์คงไม่กล้าไปอีกนาน ถึงแม้จะนึกสงสารและเห็นใจ 
นับหนึ่งหยิบเสื้อผ้าของเธอเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำ และจัดการทำความสะอาดมันโดยเปิดก๊อกน้ำให้ไหลผ่านคราบสกปรกที่ติดอยู่ จากนั้นจึงใช้ครีมอาบน้ำขยี้ชุดชั้นในและ ชุดเดรสเนื้อบาง อย่างเบามือ และแขวนมันไว้ในห้องน้ำก่อนจะใช้ดรายค่อยๆเป่าให้แห้งที่ละชิ้นเมื่อเขาเห็นเธอหายเข้าไปในห้องน้ำนานผิดปกติทั้งที่เตรียมกาแฟดำไว้ให้นานแล้ว จึงเดินเข้ามาดู จึงเห็นสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ ทำให้เขาถึงกับขมวดคิ้ว ที่เธอรีบจนไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย“ฉันเตรียมกาแฟดำไว้ให้ ไปดื่มก่อนสิ เดี๋ยวมันจะเย็นซะก่อน”และดึงดรายกับชุดที่เธอเป่าอยู่ออกจากมือ“ทำอะไร”นับหนึ่งพยายามดึงมันกลับ เพราะเขากำลังจับเสื้อผ้าของเธอเปล่าดรายแทนเธอทันทีที่สั่งให้ไปดื่มกาแฟ“เดี๋ยวฉันทำให้ เธออกไปได้แล้ว อย่าเสียเวลาอยู่ หรือ กำลังถ่วง”เขาพูดพร้อมกับสั่งให้เธอออกไป แต่กลับทิ้งเสียงกล่าวหาว่าเธอต้องการถ่วงเวลาเพื่ออยู่กับเขา“ฉันไม่ได้ต้องการมาที่นี่ และไม่เคยต้องการเจอกับนาย
เกศิตาที่กำลังว้าวุ่นเรื่องของพัศวี เธอไม่สามารถหยุดคิดเรื่องของเขาได้ ทำให้ต้องเอาอารมณ์ไปลงที่งาน แม้การประชุมในวันนี้จะสำคัญต่อเธอและบริษัท แต่การประชุมทำให้เธอไม่สามารถเก็บอารมณ์ที่ขุ่นมัวไว้ได้ ทำให้หุ้นส่วนทางธุรกิจบางคนไม่พอใจ และเกิดการโต้เถียงขั้นรุนแรง เกี่ยวกับการปรับผังโครงสร้างบริษัทและกลยุทธ์การตลาดที่ต้องสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติของโครงสร้างใหม่“ในฐานะที่ดิฉันเป็นประธานบริหารโครงการนี้ ดิฉันขอให้ทุกท่านกลับไปพิจารณาและปรับแก้แผนงานมาใหม่ อีก 2 วัน เรามาประชุมกันใหม่ ถ้าทำไม่ได้ดิฉันพร้อมยุบโครงการทันที”ด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดและมีพลัง ทำให้ทั้งห้องเงียบกริบ จนกระทั่งเธอเดินออกไป ในบรรดาผู้บริหารที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ คนเก่าแก่ ถึงกับตบโต๊ะ แสดงความไม่พอใจ และรวมกลุ่มที่จะต่อต้านเธอ“นังเด็กเมื่อวานซืน คิดว่าตัวเองแน่มาจากไหน วันๆ ทำแต่เรื่องฉาวโฉ่ แต่ยังกล้าชูคอเป็นนางหงส์ เป็นแค่ลูกนอกสมรส ของประทานคนก่อน กล้ามาผยอง”
ปารวัตรวางแฟ้มเอกสารข้อมูลที่เกศิตาสั่งให้ไปสืบ ลงบนโต๊ะของเธอ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“ประวัติของคุณเนื้อน้องที่เจ้านายสั่งให้ไปสืบครับ” เขารายงานด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดเกศิตาหยิบมันขึ้นมาดู พบรูปถ่าย หลายใบ ของคนใกล้ชิด เพื่อน และพัศวีที่ยืนกอดรัดแสดงความรักต่อกัน เธออ่านประวัติของเนื้อน้อง จึงรู้ว่า เกศิตาจะกำจัดเธอได้อย่างไร เพราะครอบครัวของเนื้อน้อง ทำธุรกิจภายใต้สังกัดของบริษัทที่เธอดูแล และที่สำคัญ ตอนนี้เนื้อน้องเข้ามามีบทบาทสำคัญในธุรกิจของครอบครัว“ขอบใจ นายเตรียมข้อมูลประชุมให้ฉันด้วย แล้วก็วันนี้หลังจบประชุม นายไปทำงานต่อที่คอนโดกับฉัน”เธอสั่งเขาอย่างเฉียบขาด แม้จะบอกว่าทำงาน แต่เขารู้ดีว่างานที่เธอต้องการให้เขาทำนั้นคืองานอะไร“ครับ”หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม ปารวัตรขับรถมาส่งเกศิตาที่คอนโดและตามขึ้นไปที่ห้องพัก ขณะที่กำลังเข้าไปในลิฟท์ที่ชั้นจอดรถอยู่นั้น มีเสียงคนตะโกนขอให้รอพวกเขาก่