“เออเนส พรุ่งนี้ต้องเดินทางแล้วนะลูก เตรียมตัวพร้อมหรือยัง” เสียงมัมมาริสาเอ่ยถามความพร้อมเป็นรอบที่สิบของวันนี้แล้ว และเขาคาดว่ากว่าจะผ่านพ้นคืนนี้ไป มัมของเขาคงต้องถามอีกเป็นสิบรอบแน่นอน
“เรียบร้อยแล้วครับมัม วันนี้มัมถามผมเป็นรอบที่สิบแล้วนะครับ” เออเนส มาร์ติน หนุ่มหล่ออายุ 25 ปี พูดหยอกเย้ามัมมาริสา เขารู้ดีว่ามัมของเขาตื่นเต้นมากที่จะได้เจอลูกสะใภ้และหลานคนแรกของตระกูลที่ตอนนี้นอนสบายอยู่ในท้องของมาลารินทร์พี่สะใภ้ของเขาได้เกือบสามเดือนแล้ว โดยเซดริกได้นัดทั้งสองครอบครัวเพื่อพบปะพูดคุยทำความรู้จักกันเอาไว้ เพราะจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วในอนาคต และปรึกษาเรื่องการแต่งงานของเขากับมาลารินทร์ด้วย
เซดริก คือพี่ชายต่างมารดาของเขา ที่มัมมาริสารักมาก เพราะเลี้ยงพี่ชายมาตั้งแต่อายุสิบขวบ แม่ของเซดริกเสียไปตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก จนแด๊ดโนแอลได้พบรักกับมัมมาริสาที่เป็นหญิงชาวไทย และแต่งงานกัน ห้าปีต่อจากนั้นมัมก็มีเออเนสป็นลูกชายคนแรกและคนเดียว มัมเองอยากมีลูกสาวมาก และพยายามหลายครั้งแต่ก็ไม่มีสักที จนในที่สุดก็ล้มเลิกความหวังไปโดยปริยาย เซดริกและเออเนสรักกันเหมือนพี่น้องกันจริง ๆ เพราะเซดริกเองก็ช่วยมัมมาริสาเลี้ยงน้องมาตั้งแต่เด็ก ๆ เขาทั้งสองคนจึงสนิทและรักกันมาก
เช้าวันต่อมาแด๊ดโนแอล มัมมาริสา และเออเนสก็เดินทางถึงประเทศไทยโดยเครื่องบินส่วนตัว โดยเข้าพักที่โรงแรม JC ชลบุรี ซึ่งเป็นโรงแรมของตระกูลมาร์ติน ซึ่งทุกโรงแรมของเขาจะสร้างที่พักส่วนตัวไว้บนชั้นสูงสุดของโรงแรมในทุกที่ เพื่อเอาไว้สำหรับบุคคลในครอบครัว หรือญาติสนิท เพื่อไว้ใช้ในการพักผ่อน หรือเวลาเดินทางมาตรวจดูงานในประเทศไทยทั้งสามคนใช้เวลาพักผ่อนในวันนี้ได้เต็มที่ ก่อนที่เซดริกและครอบครัวของมาลารินทร์จะเดินทาง มาถึงในวันพรุ่งนี้
เช้าวันต่อมา
มัมมาริสาตื่นตั้งแต่เช้าเพราะตื่นเต้นที่จะได้เจอลูกสะใภ้ จนแด๊ดโนแอลถึงกับแซวว่าเห่อลูกสะใภ้จนออกนอกหน้า ซึ่งมัมก็ไม่ได้โกรธ เพราะเธอก็ยอมรับว่ามันคือความจริง
“เซดริกโทรมาบอกว่าจะถึงประมาณ 10 โมงเช้าค่ะ สาเลยให้ทางห้องอาหารเตรียมอาหารไว้รอแล้ว” มัมมาริสาบอกกับแด๊ดโนเอลผู้เป็นสามี แด๊ดพยักหน้ารับรู้ แล้วยิ้มกับความกระตือรือร้นของภรรยาของตัวเอง
เมื่อทุกคนมาถึงหลังจากเก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว เซดริกก็พาทุกคนไปยังห้องอาหารของโรงแรม ซึ่งมีมัมมาริสา แด๊ดโนแอล และเออเนสรออยู่แล้ว เมื่อทุกคนได้พบกันก็พากันนั่งทานอาหารและพูดคุยอย่างมีความสุข ท่าทางมัมมาริสาจะถูกใจลูกสะใภ้เป็นอย่างมาก ถึงขนาดเอ่ยชมไม่ขาดปาก
นอกจากมาลารินทร์และนางวิมาลาผู้เป็นแม่ได้เดินทางมาแล้ว ก็ยังมีนางปทุมมาศซึ่งเป็นน้องสาวของนางวิมาลาซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของมาลารินทร์ กับปฏิญญา หรือน้องญา อายุ 18 ปี ลูกสาวของนางปทุมมาศ ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องสาวของมาลารินทร์ร่วมเดินทางมาด้วย ทุกคนพูดคุยกันถูอย่างกคอ ดูเหมือนมัมมาริสาเองก็รู้สึกเอ็นดูและถูกชะตากับน้องญามาก ๆ
เมื่อทานอาหารเช้าเรียบร้อยทุกคนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน เย็นนี้จะมีปาร์ตี้เล็ก ๆ จัดที่ริมหาดและจะมีการพูดคุยปรึกษากันเรื่องงานแต่งงานของเซดริกและมาลารินทร์ด้วย โดยทั้งสองครอบครัวจะใช้เวลาในการพักผ่อนที่นี่ราว ๆ สามวัน
หลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้ว เออเนสก็หยิบหนังสือเล่มโปรดแล้วเดินไปยังสระว่ายน้ำส่วนตัวของชั้นนี้ เขาชอบมานอนอ่านหนังสือหรือว่ายน้ำเล่นที่นี่เพราะสงบเงียบ ไม่มีบุคคลอื่นเข้ามาใช้ เพราะชั้นนี้เป็นชั้นส่วนตัวเฉพาะครอบครัวเท่านั้น
อีกด้านหนึ่ง...
“น้องญา จะไปไหนลูก” นางปทุมมาศเอ่ยถามบุตรสาว เมื่อเห็นเธอในชุดเสื้อคลุมตัวยาว
“น้องญาจะไปว่ายน้ำค่ะแม่พี่เซดริกบอกว่าที่ชั้นของเรามีสระว่ายน้ำส่วนตัวโดยเฉพาะด้วยนะคะแม่ไปด้วยกันไหมคะ?” สาวน้อยเอ่ยชักชวนผู้เป็นมารดา
แต่นางส่วยหัวปฏิเสธ เธอจึงไปแค่เพียงลำพัง
“ชั้นนี้เป็นชั้นเฉพาะครอบครัววันนี้ก็มีแค่คนในครอบครัวเรากับพี่เซดริก คงไม่มีคนอื่นหรอกเนอะ” น้องญาเอ่ยกับตัวเองในใจ
“ว๊าววววว... สวยมากเลยสระก็ใหญ่ด้วย” น้องญาเห็นสระว่ายน้ำแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นกับความสวยงามเป็นอย่างมากสาวน้อยถอดชุดคลุมว่ายน้ำออก เผยให้เห็นรูปร่างสวยสมส่วนในชุดบิกินี่สีดำเธอก้มศรีษะลงเพื่อรวบผมให้เรียบร้อย ..”
“วันนี้ได้ใส่บิกินี่สักทีเนอะ ดีจังที่เป็นสระว่ายน้ำส่วนตัวเลยไม่มีคนอื่น ไม่งั้นคงไม่กล้าใส่แน่ ๆ” ร่างเล็กลงเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน โดยไม่ได้สังเกตเลยว่า
มีสายตาคมของใครคนหนึ่งมองเธออยู่
“หึหึ .. ซ่อนรูปไม่เบาเลยนิ” เออเนสพึมพำกับตัวเองเขาเห็นร่างเล็กตั้งแต่เธอเดินเข้ามาแล้วแต่เพราะความตื่นเต้นกับสระว่ายน้ำตรงหน้า ทำให้น้องญามองไม่เห็นเขาเองหรือบางทีเธอคงเห็น แต่อาจทำเป็นไม่เห็นเพราะคงอยากอ่อยเขาเหมือนกับสาว ๆที่เขาเจอมานับไม่ถ้วนนั่นแหละ
เวลา 18.00 น. ปาร์ตี้ริมทะเลเริ่มขึ้นทุกคนมาถึงโดยพร้อมเพรียงกัน วันนี้มีอาหารทะเลสดๆ มากมาย มีโซนบาร์บิคิวอยู่อีกมุมไม่ห่างกันนัก ร่างเล็กของปฏิญญากำลังง่วนอยู่กับการย่างบาร์บีคิว เธอสาละวนย่างไปทาซ้อสไปอย่างสนุกสนานจนได้บาร์บีคิวเต็มถาดใหญ่ คนตัวเล็กจึงถือไปที่โต๊ะอาหารแต่คงเป็นเพราะบาร์บีคิวมันหนักเกินไปเธอจึงต้องยกข้อมือขึ้นจนมันบังสายตา เธอจึงต้องค่อย ๆ เดินไปมองทางไป แต่ในขณะที่กำลังเดินอยู่นั้นเอง
...ปึ๊กกกกก ..
“โอ้ย..!!” เสียงร้องของน้องญาดังขึ้น ทุกคนตกใจหันมองไปยังต้นเสียงทันที ร่างเล็กล้มลงกับพื้น ถาดกับบาร์บิคิวกระเด็นไปคนละทิศละทาง โดยที่เออเนสนั้นยืนอยู่ใกล้ ๆ คนตัวเล็กที่ล้มอย่างไม่เป็นท่า มาลารินทร์รีบเดินไปดูน้องสาวด้วยความเป็นห่วง
“เป็นอะไรไปน้องญา ลูกขึ้นก่อนมา พี่ช่วย” มาลารินทร์บอกน้องสาวพลางส่งมือดึงให้น้องสาวลุกขึ้น เธอลุกแล้วก็ล้มลงไปใหม่
“โอ้ยย..เจ็บข้อเท้าค่ะพี่รินทร์” น้องญาบอกพี่สาวพลางทำหน้าเหยเก มาลารินทร์บอกน้องสาวว่าเธอน่าจะขาแพลงแน่ ๆ
“น้องญาเดินถือถาดบาร์บีคิวมาคงไม่ทันเห็นผมน่ะครับ เลยเดินชนกัน” เออเนสบอกพี่สะใภ้ เธอพยักหน้ารับรู้
“พี่ว่าน้องญาขึ้นไปห้องพักเลยมั้ยเดี๋ยวพี่ให้ปริณไปส่ง” มาลารินทร์เอ่ยบอกน้องสาวแต่เขามองหาไม่เห็นน้องชายตัวดีเลย ไม่รู้หายไปไหน
“ที่รักครับมัมให้มาเรียกไปคุยเรื่องงานแต่งงานของเรากับแม่วิครับ” เซดริกเดินมาตามเมีย และเห็นน้องญาที่นั่งอยู่
“น้องญาขาแพลงค่ะ นี่รินทร์จะให้ปริณอุ้มขึ้นไปส่งที่ห้อง แต่ไม่รู้ว่าเขาหายไปไหน ไม่เห็นเลย” มาลารินทร์มองหาน้องชายอีกครั้งในขณะที่มัมกวักมือเรียกลูกชายกับลูกสะใภ้ให้มาเร็ว ๆ
“เดี๋ยวผมพาน้องขึ้นไปส่งเองครับพี่รินทร์เพราะผมก็มีส่วนทำให้น้องเขาเจ็บ พี่กับพี่เซดริกไปคุยกับมัมเถอะครับเรียกใหญ่แล้วนั่น” เออเนสบอกกับพี่สะใภ้
มาลารินทร์สองจิตสองใจ แต่ก็ต้องจำใจให้เออเนสอุ้มน้องญาไป ร่างสูงใหญ่ของเออเนสรวบร่างเด็กสาวขึ้นมาอุ้มพร้อมกับเดินก้าวพรวดๆ ไปยังลิฟท์ของผู้บริหาร โดยไม่พูดอะไรสักคำ กลิ่นหอมอ่อนๆของเด็กสาวกับร่างนุ่มนิ่มของเธอ มันช่างทำให้เขาหงุดหงิดงุ่นง่านใจชอบกล
“เห็นตัวแค่นี้ ดูท่าทางใส ๆ ..ไม่น่าเชื่อนะ .. คงวางแผนมาอย่างดีเลยสิท่า .. เหอะ.!! อ่อยเบอร์แรงซะด้วย"
เออเนสคิดในใจพลางยิ้มเหยียดที่มุมปาก
บรรยากาศภายในลิฟท์เงียบจนได้ยินเสียงหายใจของกันและกัน น้องญาตัวเกร็งอยู่ในอ้อมกอดของเออเนส เธอรู้สึกร้อนๆ หนาว ๆ แบบแปลกๆ ด้วยเพราะไม่เคยอยู่ใกล้บุรุษเพศคนไหนมาก่อน ใจเธอเต้นแรงจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน สาวน้อยก้มหน้างุด ไม่กล้ามองใบหน้าหล่อคมตรงหน้านั้น “อยู่กันสองคนแล้ว ไม่ต้องแอ๊บก็ได้มั้งครับ” อยู่ๆ เออเนสก็พูดทำลายความเงียบออกมา ทำให้น้องญาถึงกับงง ในสิ่งที่เขาพูดออกมา “คะ .. อะไรนะ พี่พูดแบบนี้หมายความว่าอะไรเหรอคะ?” สาวน้อยเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่กำลังอุ้มเธอไว้แนบอก เธอพอจะเข้าใจความหมายที่เขาพูดอยู่ แต่ไม่อยากเชื่อว่าผู้ชายอย่างเขาจะพูดอะไรแบบนี้ออกมาได้“ก็ที่เธอไปอ่อยฉันถึงสระว่ายน้ำเมื่อกลางวัน แล้วยังลงทุนชนฉันจนเธอล้มแล้วบอกว่าขาแพลงแบบนี้อีก ตอนนี้อยู่กันสองคนแล้ว จะมาเสียเวลาทำไม่ล่ะ อยากก็บอกว่าอยาก ง่ายจะตาย” เออเนสพูดออกมาหน้าตาเฉย ราวกับคำพูดแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขาอย่างนั้นแหละเมื่อคำพูดของเขากระจ่างชัดขนาดนี้ก็ไม่ต้องเพิ่มคำอธิบายใด ๆ ปฏิญญาก็เข้าใจได้อย่างถ่องแท้ ... เขากำลังคิดว่าเธออ่อยเขางั้นเหรอ“ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้” เธอเอ่ยบอกเออเนสเสียงแข็ง ทำให้
แสงแดดตอนสายสาดส่องลอดมาจากกระจกห้องนอน ทำให้ร่างเล็กของปฏิญญาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ปากเล็กอ้าปากหาวหวอดๆ เมื่อคืนเธอปวดข้อเท้ามากๆ ขยับแทบไม่ได้เลย แม่ของเธอต้องพยุงพาเข้าห้องน้ำ อาบน้ำกินข้าว แต่มันก็ยังปวดมากจนนอนไม่หลับ นางปทุมมาศต้องเรียกให้กินยาแก้ปวดทุก 4 ชม. เธอรับยาเม็ดจากมือแม่แล้วใส่ปาก หลังจากนั้นก็ดื่มน้ำตามลงไป น่าแปลกว่าตอนนี้เธอกลับกินยาเม็ดเองได้แล้ว ขนาดแม่เธอที่บดยามาให้เธอตั้งแต่เล็กจนโตยังแปลกใจเลย แต่เธอก็ยังปวดข้อเท้าตุบๆ นอนหลับๆ ตื่นๆ กว่าจะหลับลงได้ก็เกือบตีสามหลังจากทานข้าวเช้าที่แม่บ้านนำมาให้ที่ห้องพักแล้ว นางปทุมมาศก็นำผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตาและเนื้อตัวให้ลูกสาว จะได้สบายตัวขึ้น แล้วจึงให้ทานยา และให้น้องญานอนพักไปก่อน เพราะเซดริกได้ติดต่อให้คุณหมอช่วยมาตรวจดูอาการให้ โดยคุณหมอแจ้งว่าจะมาตรวจให้ราวๆ 11 โมงเช้าก๊อกๆๆ ..เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น นางปทุมมาศรีบเดินไปเปิดประตู มัมมาริสา เออเนส เซดริก และมาลารินทร์ ก้าวเข้ามาในห้องเพื่อเยี่ยมดูอาการของเด็กสาว"น้องญาเป็นยังงัยบ้างคะคุณมาศ พี่กับเออเนส อยากขอดูอาการน้องสักหน่อยค่ะ" มัมมาริสาพูดด้วยน้ำเสียงห่
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากทานอาหารเช้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมตัวออกเดินทางตามที่ตกลงกันไว้ ทุกคนขึ้นประจำที่บนรถตู้เพื่อเดินทางไปพักที่บ้านนางปทุมมาศ ขาดแต่มัมมาริสาซึ่งคงกำลังพูดคุยกับแด๊ดโนแอลและเออเนสอยู่ เพราะสองคนพ่อลูกจะต้องกลับฝรั่งเศสวันนี้ มาลารินทร์กับเซดริกนั่งด้านหน้าคู่กับคนขับ ส่วนนางปทุมมาศกับนางวิมาลานั่งเบาะแรก ดังนั้นช่วงต่อจากนั้นจึงว่างยาว น้องญาเลือกเข้าไปนั่งเบาะหลังท้ายสุดเพราะเป็นเบาะติดกันยาว ทำให้เธอสามารถนั่งยืดแข้งยืดขาได้อย่างสบายใจแกร๊ก...พรืด..เสียงประตูรถตู้เลื่อนเปิดออก ร่างของมัมมาริสายืนอยู่ตรงประตู น้องญายิ้มให้ มัมยิ้มตอบแล้วเดินขึ้นไปนั่งใกล้กับนางวิมาลาและนางปทุมมาศ น้องญาจึงไม่ได้สนใจอะไรอีก เธอนอนเหยียดยาวแบบสบายใจ เพราะทุกคนมากันครบแล้ว ตอนนี้รถกำลังเคลื่อนตัวออกจากโรงแรม เธอกะว่าจะนอนหลับให้สบาย เพราะวันก่อนที่เจ็บข้อเท้า เธอแทบจะไม่ได้นอนเลย เพียงครู่เดียวคนตัวเล็กก็หลับไปน้องญารู้สึกตัวอีกทีเมื่อรถโยกโยนตอนขับผ่านลูกระนาด เธอลืมตาขึ้นมาเล็กน้อย แต่เพราะเธอยังง่วงอยู่มากจึงสะลึมสะลือเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น รู้สึกได้ว่ามีฝ่ามือหนากำลังลูบ
หลังจากส่งมัมมาริสากับเออเนสขึ้นไปห้องพักเรียบร้อยแล้ว นางปทุมมาศกับน้องญาก็ลงมาที่ครัวเพื่อเตรียมอาหาร แต่เนื่องจากไม่ได้อยู่บ้านเสียหลายวันจึงไม่มีของสดเหลือติดบ้านเลย น้องญาจึงอาสาขับรถมอเตอร์ไซด์ออกไปซื้อของในตลาดสดที่เคยไปอยู่ประจำ เพราะตลาดอยู่ไม่ห่างจากบ้านมากนัก ขณะนั้นเออเนสกับมัมมาริสาก็เดินมายังครัวพอดี เธอเดินตรงมายังเด็กสาวพร้อมกับเอามือลูบหัวทุยเบาๆ อย่างเอ็นดู“ไหน .. วันนี้น้องญาจะทำอะไรให้มัมกินจ๊ะ” มัมมาริสาเอ่ยถามเด็กสาว พลางกอดเอวคอดนั้นไว้หลวม ๆ“วันนี้หนูจะทำแกงเขียวหวานปลากราย ทานกับขนมจีน ปลาทับทิมทอดสามรส หอยลายผัดฉ่า แกงส้มชะอมกุ้ง แล้วก็กุ้งทอดกระเทียมค่ะ” น้องญาเอ่ยเมนูให้มัมมาริสาฟัง นางถึงกับตาโต“โอ้โห.. เมนูน่าทานทั้งนั้นเลย แต่กุ้งทอดกระเทียมนี่ทำให้ใครแถวนี้เป็นพิเศษหรือเปล่าน๊า” มัมมาริสาเอ่ยแซว น้องญายิ้มหวานจนตาหยี“พอดีมีแต่อาหารรสจัดค่ะ แม่กลัวพี่เออเนสจะทานไม่ค่อยได้ เลยให้ทำเมนูที่ไม่เผ็ดให้ด้วย หนูเลยจะทำกุ้งทอดกระเทียมค่ะ”น้องญาตอบ มัมมาริสายิ้ม ขนาดเมนูที่จะทำให้ยังเลือกเป็นกุ้งที่ลูกชายคนเล็กเธอชอบเสียด้วย แสดงออกให้เห็นถึงความใส่ใจของเด็ก
หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว นางปทุมมาศกับน้องญาก็เข้าครัวเพื่อเตรียมตัวทำขนม โดยมีมัมมาริสาคอยเป็นลูกมือช่วยหยิบจับโน่นนี่ไปตามเรื่อง นางวิมาลาก็พักผ่อนอยู่ที่บ้าน ส่วนมาลารินทร์ไม่เข้ามาด้วยเพราะเธอยังแพ้ท้องเวลาได้กลิ่นถั่วก็ยังเหม็นอยู่ เพราะวันนี้ต้องมีกวนถั่วเพื่อทำไส้ขนมเม็ดขนุนด้วย น้องญากำลังคัดเลือกไข่เป็ดและทำความสะอาดเพื่อใช้ทำขนมเม็ดขนุนกับฝอยทองกรอบ หลังจากนั้นเธอก็ให้แม่กับมัมมาริสาทำกันไป ส่วนเธอก็แยกตัวไปทำขนมอาลัวให้เออเนสน้องญาผสมสีอ่อนๆ ลงไปในแป้งที่กวนสุกแล้ว เธอตักแป้งใส่ถุงบีบที่มีหัวบีบรูปดาว แล้วค่อยๆ บีบลงไปในถาดทีละอัน เออเนสมองคนตัวเล็กที่กำลังบีบขนมลงถาดอย่างตั้งอกตั้งใจ น่าแปลกที่ขนมที่บีบลงไปในถาดมีขนาดเท่ากันทุกชิ้นบ่งบอกถึงฝีมือและความใส่ใจของคนทำอย่างเด่นชัด เขาค่อยๆ เดินมาด้านหลังของเด็กสาวที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาบีบขนมจนไม่ได้สังเกตุว่ามีใครมายืนซ้อนอยู่ที่ด้านหลัง ร่างสูงยื่นหน้าเข้าไปใกล้กับแก้มนุ่มของเธอแล้วจรดจมูกโด่งลงยังผิวแก้มนวลเบาๆ จนเด็กสาวสะดุ้ง"หอมจัง" เออเนสพูดเบาๆ ทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้กับการกระทำของตัวเองเมื่อสักครู่ จนน้อง
1 ปีผ่านไป...ณ. ปารีส @ ฝรั่งเศสตอนนี้ปฏิญญาเดินทางมาอยู่ที่ฝรั่งเศสได้เกือบเดือนแล้ว โดยมัมมาริสาเดินทางมารับด้วยตนเองเมื่อเธอเรียนจบ หลังจากที่คุยกันแล้วว่าเธอคงจะเข้าเรียนในปีการศึกษาหน้า มัมมาริสาอยากให้เธอมาอยู่ที่นี่และลองใช้ชีวิตให้คุ้นชินก่อน เพราะเธอยังต้องปรับตัวอีกมาก อีกเหตุผลหนึ่งคือเธออยากเลือกสายวิชาและมหาวิทยาลัยที่เธออยากเรียนด้วยตัวเอง ซึ่งข้อนี้มัมมาริสาให้สิทธิ์เธอเต็มที่"ได้เวลาอาหารกลางวันแล้วค่ะ" ปฏิญญาบอกทุกคนที่ตอนนี้นั่งคุยกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ให้ไปรับประทานอาหารด้วยกัน เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด ทุกคนจึงอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา"มีแต่อาหารไทยน่าทานทั้งนั้นเลย น้องญามาอยู่นี่มัมต้องเจริญอาหารแน่ๆ " มัมมาริสาพูดพลางส่งยิ้มหวานให้เธอ"วันนี้มีอะไรบ้างล่ะ หน้าตาน่าทานนะ แต่แด๊ดไม่รู้จักชื่อเลย" แด๊ดโนแอลเอ่ยถามเด็กสาว"วันนี้มีแกงเลียงกุ้งสด กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา แกงจืดเต้าหู้อ่อน กุ้งทอดกระเทียมค่ะ" น้องญาตอบแด๊ด"กุ้งทอดกระเทียมทำพิเศษให้พี่เออเนสใช่ไหมเนี่ย ไม่เห็นมีอะไรพิเศษให้มัมบ้างเลย ชักจะน้อยใจแล้วนะ"มัมมาริสาเอ่ยหยอกเย้า ในขณะที่คนที่ถูกกล่าวถึงนั่งยิ้
น้องญานอนตัวแข็งทื่ออยู่ในอ้อมกอดของเออเนส เธอสบสายตาของชายหนุ่ม สายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยแรงปรารถนาอย่างปิดไม่มิด"รังเกียจฉันเหรอ" เขาเอ่ยถามหลังจากที่เธอยังนอนตัวแข็งทื่อและดันอกแกร่งของเขาให้ห่างจากตัวเธอ"ปะ..เปล่าค่ะ ไม่ได้รังเกียจ แต่น้องญาว่ามันไม่เหมาะสมที่จะทำแบบนี้ คะ..คือ.. น้องญายังเด็กอยู่เลยค่ะ" หญิงสาวรีบตอบเพราะกลัวเขาเข้าใจผิด ใครจะไปรังเกียจชายหนุ่มรูปหล่อ สะอาดเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบเขาล่ะ"ปีนี้อายุเท่าไหร่" เขาถามพลางใช้มือลูบผมที่ปรกหน้าของเธอออกและไล้ข้อนิ้วไปตามกรอบหน้าเนียนใสของหญิงสาว"19 ค่ะ อีกสามเดือนก็จะเต็ม 20" เธอตอบชายหนุ่ม หัวใจเต้นแรงแทบจะทะลุออกมานอกอก เกิดมาจนป่านนี้ยังไม่เคยนอนร่วมเตียงกับผู้ชายคนไหนแบบนี้มาก่อน"จะ 20 แล้ว ไม่ใช่เด็กแล้วนะ" เขาบอกกับเธอพลางลูบไล้ไปทั่วผิวกายนวลเนียนของเด็กสาว เธอรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ทุกที่ที่เขาสัมผัส เออเนสขยับเข้ามาใกล้จนลมหายใจร้อนของเขาปะทะริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ แต่ก่อนที่เขาจะประทับจูบลงที่ริมฝีปากสวยนั้น เสียงโทรศัพท์ของน้องญาก็ดังขึ้นกริ้งงงงงงงงงง.... หน้าจอแสดงชื่อมัมมาริสา ปฏิญญาฉวยโอกาสนั้นรีบลุกจากเตี
ปฏิญญาลงมาเดินเล่นที่ชายหาดเพียงลำพัง เวลาเย็นแบบนี้แดดอ่อนแสงลงมากแล้ว หาดทรายเม็ดเล็กละเอียดสีขาวสะอาดตา ตัดกับสีฟ้าเข้มของน้ำทะเลที่ทอดยาวไปไกลสุดสายตา เป็นภาพที่สวยงามมากจริงๆเด็กสาวถอดรองเท้าฟองน้ำถือไว้เพราะอยากใช้เท้าสัมผัสกับความละเอียดอ่อนของเม็ดทรายที่นุ่มนิ่มนั้นโดยตรง เธอยืนมองขอบฟ้าที่ไกลสุดสายตา แล้วทำให้คิดถึงแม่ปทุมมาศ ร่างเล็กนั่งลงบนหาดทรายในท่าชันเข่า ตอนนี้เวลาที่นี่เกือบจะหกโมงเย็น ที่เมืองไทยคงเกือบจะห้าทุ่มแล้ว คงดึกเกินไปถ้าเธอจะโทรหาแม่มาศในตอนนี้พอนั่งนึกอะไรเพลินๆ ก็ปรากฏภาพของเออเนสขึ้นในมโนภาพของเธอทันที ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันจนมาถึงวันนี้ เขาก็ยังเป็นผู้ชายคนเดิมที่มักจะทำตัวรุ่มร่ามกับเธอตลอดเวลาที่อยู่กันสองคน แต่ภายนอกถ้าคนอื่นมองจะเห็นเขาอีกลุคหนึ่งซึ่งดูเป็นคนเงียบๆ สุขุม และวางตัวได้ดีในระดับหนึ่ง แต่เธอรู้ดีว่าความจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นตลอดเวลากว่าหนึ่งปีที่ผ่านมาก่อนที่เธอจะเรียนจบ เขามักจะบินไปๆ มาๆ ระหว่างฝรั่งเศสกับไทย เพื่อไปเยี่ยมเซดริกและครอบครัวของเธอเป็นประจำเธอถามตัวเองว่าทำไมเธอถึงยอมให้เขาถึงเนื้อถึงตัวมาตลอด แล้วเธอก็ยอมรับกับใ
สามปีผ่านไป วันนี้เป็นวันรับปริญญาของน้ำฟ้ากับปฏิญญา หลังจากพิธีเช้าผ่านไปเรียบร้อยเซนส์ก็พาน้ำฟ้ากลับเพนท์เฮาส์เพื่อพักผ่อน เย็นนี้จะมีงานเลี้ยงฉลองบัณฑิตใหม่ที่คฤหาสน์มาร์ตินโดยมีครอบครัวของเซดริก พี่ชายของเออเนสบินมาจากประเทศไทยด้วย"เห้อ.. ปวดเท้าจัง"น้ำฟ้านั่งลงที่เตียงนอน หลังจากที่อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ที่เธอกับปฏิญญาบินหนีสองหนุ่มไปอิตาลีในคราวนั้น หลังจากกลับมาความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเซนส์ก็ดีขึ้นตามลำดับ เขาเข้าไปขอโทษพี่ชายและแม่ของเธอพร้อมกับอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้พวกท่านเข้าใจ และขออนุญาตเพื่อคบกันโดยเปิดเผย เขาอยากหมั้นกับน้ำฟ้าแต่แม่ของเธอบอกว่าไม่ต้องหมั้นให้ยุ่งยาก หากสองคนมั่นใจว่ารักกันชอบกันแม่ของน้ำฟ้าท่านอนุญาตให้อยู่ด้วยกันก่อน ทำให้เซนส์ดีใจมาก เขาซื้อเพนท์เฮาส์พร้อมกับรถหรูคันใหม่โดยใช้ชื่อน้ำฟ้าเป็นเจ้าของ เพื่อให้เธอและครอบครัวรู้ว่าเขาจริงจังและให้เกียรติเธอและรับเธอเข้ามาอยู่ด้วยกันที่เพนท์เฮาส์ใหม่ตั้งแต่นั้นมา"ปวดเท้ามากเหรอครับ พี่นวดให้นะ" เซนส์นั่งคุกเข่าลงตรงหน้าของคนรัก ฝ่ามือแกร่งโอบอุ้มเท้าเรียวเล็กของน้ำฟ้าขึ้นมาบีบนวดผ่อนคล
ตลอดเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาน้ำฟ้าและปฏิญญาใช้ชีวิตอยู่ที่อิตาลีภายใต้การดูแลอย่างดีของมัมมาริสา พวกเธอได้ตระเวนเที่ยวพักผ่อนในสถานที่ต่าง ๆ ทานอาหารอร่อย ๆ และได้ช้อปปิ้งอย่างมีความสุขครืดดดดด ครืดดดดดเสียงโทรศัพท์ของน้ำฟ้าดังขึ้น เธอปรายสายตามองไปที่หน้าจอเห็นชื่อพี่ชาย จึงรีบกดรับทันที"สวัสดีค่ะพี่พอล คิดยังไงถึงเธอหาฟ้าคะเนี่ย" น้ำฟ้าปั้นเสียงสดใสคุยกับพี่ชาย(ทำไมมาอิตาลีไม่บอกพี่สักคำ ปิดเครื่องไปเป็นอาทิตย์ รู้ไหมว่าพี่เป็นห่วงมากนะ) พอลพูดเสียงดุ"ฟ้าแค่มาพักผ่อนกับญาญ่าที่โรงแรมของมัมมาริสาแม่ของคุณเออเนสค่ะ อาทิตย์หน้าก็กลับแล้ว ขอโทษนะคะที่ไม่ได้บอกพี่พอล เอ๊ะ!! แล้วพี่พอลรู้ได้ไงคะว่าฟ้าอยู่อิตาลี?" น้ำฟ้าฉุกคิดขึ้นได้จึงรีบถามด้วยความสงสัย(ก็แฟนฟ้ามาตามหาฟ้าที่บริษัทพี่ตั้งแต่สองวันแรกที่ฟ้ามีปัญหากันไง ทะเลาะกันทำไมไม่คุยกันให้รู้เรื่อง หนีไปทำไม)"ไม่ได้หนีค่ะ แค่ไม่อยากเจอหน้า ฟ้าจะเลิกกับเขาแล้ว"(เออ ดี เลิกไปเลยเพราะพี่ก็ซัดมันไปซะน่วมแล้ว เหอะ.. มีอย่างที่ไหนวะ ทำให้น้องสาวเขาต้องหนีไปยังกล้ามาตามหากับพี่ชายเขาอีก)"ห๊ะ.. แล้วพี่ไปทำเขาทำไมอะ เขาเป็นอะไรมากไหม"
หลังจากที่น้ำฟ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเธอก็เดินออกมาบริเวณด้านหน้าเวทีเพื่อมาพบกับเซนส์ตามที่นัดแนะกันไว้ แต่เธอพยายามมองหาก็ไม่พบไม่รู้ว่าเขาไปรออยู่ที่ไหน"หายไปไหนนะพี่เซนส์" น้ำฟ้าบ่นพึมพำในขณะที่มือก็หอบดอกไม้ช่อโตที่เซนส์มอบให้เอาไว้แนบอก"อ้าว! ฟ้ายังไม่ไปอีกเหรอ?" เสียงปฏิญญาเอ่ยทักแล้วเดินตรงเข้ามาหา"รอพี่เซนส์อยู่น่ะสิ บอกให้พี่เขารออยู่แถวนี้ไม่รู้หายไปไหน""นี่ฉันก็รอพี่เออเนสอยู่เหมือนกัน เห็นบอกว่าจะไปรอที่ห้องพักก่อนแล้วจะเดินออกมารับ แต่ก็ไม่เห็นมา สักที เลยกะว่าจะเดินไปห้องพี่เออเนสเอง" น้ำฟ้าพยักหน้าให้เพื่อน"หรือว่าพี่เซนส์จะไปรอที่ห้องเขาแล้ว ฟ้าลองเดินไปดูดีไหม?" ปฏิญญาเอ่ยชวน"ญาญ่าไปก่อนเลย ฉันว่าจะรอตรงนี้อีกสักแป๊บ ถ้าไม่เจอจริงๆ เดี๋ยวฉันเดินไปเอง""เอางั้นเหรอ งั้นฉันไปก่อนนะ"น้ำฟ้าเดินดูจนทั่วบริเวณนั้นแต่ก็ไม่พบกับเซนส์ เธอตัดสินใจเดินไปที่ห้องพักส่วนตัวของเขา เขาเพิ่งมาถึงก่อนงานเริ่มแค่แป๊บเดียว บางทีเขาอาจจะเหนื่อยเลยไปรอที่ห้องก็อาจจะเป็นได้ เธอเดินผ่านพนักงานที่เฝ้าชั้นพิเศษนี้ตรงเคาท์เตอร์ซึ่งพนักงานก็ยิ้มบางๆ ให้น้ำฟ้า เธอคิดว่าพนักงานคงจะจำ
มาร์ตินกรุ๊ป @อิตาลีเซนส์เดินทางมาถึงอิตาลีก็ตรงเข้ามาที่บริษัทเพื่อมาหาแด๊ดโนแอลและมัมมาริสาทันที เพราะตอนนี้ท่านทำงานอยู่ที่นี่ส่วนที่ฝรั่งเศสท่านให้เออเนสกับเซนส์เป็นคนดูแลและตอนนี้พวกท่านก็รู้เหตุผลของการมาในครั้งนี้ของเซนส์เป็นอย่างดี มัมมาริสาเดินเข้าไปโอบกอดลูกชายบุญธรรมเหมือนปกติที่เคย แต่เซนส์เองก็ยังติดเกรงใจและเกร็งเสียทุกทีไป"แหม..มัมกอดนิดกอดหน่อยทำเป็นเกร็งนะ" มัมมาริสากระเซ้า เซนส์ยิ้มให้ท่านพร้อมกับก้มหัวทำความเคารพเช่นเคย"ดีแล้วที่แกตัดสินใจมาที่นี่ เมื่อวานแด๊ดเจอคุณคาเตอร์ รายนั้นพูดกับแด๊ดว่าอามิยาเลิกกับสามีแล้ว และตอนนี้ขอบินไปทำใจและจะไปอยู่กับเพื่อนสนิทก็คือแก" แด๊ดโนแอลพูดเสียงเรียบ เซนส์ถึงกับถอนหายใจพรืด"ผมไม่คิดว่าคุณคาเตอร์จะใช้อามิยาเป็นเครื่องมือแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นลูกสาวของเขาแท้ ๆ เห็นแก่ตัวจนไม่สมควรจะเป็นพ่อคน"เซนส์กัดฟันกรอด กำมือแน่น ครั้งที่แล้วพ่ออามิยาก็ใช้เธอเป็นเครื่องมือโดยให้เธอแต่งงานกับไมเคิลเพื่อพยุงฐานะของตัวเอง ส่วนครั้งนี้ก็ยังสร้างเรื่องให้ลูกสาวมีปัญหากับสามีโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของลูกสาวตัวเอง แถมยังพยายามเอาเธอใส่พานมาถว
การซ้อมใหญ่ผ่านไปด้วยดี สัปดาห์หน้าก็จะถึงวันงานแล้ว งานจะถูกจัดขึ้นที่โรงแรม Max Martin โดยเออเนสเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ของงานนี้ วันนี้ปฏิญญามาหาน้ำฟ้าพร้อมกับความไม่สบายใจเกี่ยวกับผู้หญิงที่ชื่ออามิยา เพราะเธอไปเห็นผู้หญิงคนนั้นกอดกับเออเนสอยู่ในห้องทำงาน ถึงแม้เออเนสจะอธิบายว่าอามิยาเป็นแค่เพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่มัธยม และเซนส์ก็บอกว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกันตั้งแต่มัธยมจริงๆ และยืนยันได้ว่าอามิยากับเออเนสเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นและที่สำคัญอามิยาก็แต่งงานแล้ว แต่น้ำฟ้าก็ยังแอบเห็นสีหน้าและแววตาที่วิตกกังวลของเพื่อนรักอยู่ดี@มาร์ตินกรุ๊ปประเทศไทย ณ.ห้องท่านรองรถคันหรูของเซนส์จอดลงยังลานจอดรถในที่จอดประจำตำแหน่ง เขาก้าวเท้าลงจากรถแล้วพาตัวเองไปยังห้องทำงานของเออเนสทันที หลังจากที่เขารู้เรื่องของอามิยาจากปฏิญญา เขาก็รีบออกมาจากคอนโดของน้ำฟ้าทันทีเพราะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอามิยา เธอถึงกล้าบินมาถึงที่นี่แกร๊กกกเซนส์ก้าวเข้าไปในห้องทำงานของเออเนสซึ่งตอนนี้กำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ ส่วนอามิยานั่งอยู่ที่โซฟาตัวยาวใกล้ ๆ กัน ทันทีที่เธอเห็นเซนส์ เธอก็ลุกขึ้นแล้วถลาเข้ากอดเซนส์พร้อมกับร
ครืดดดดด ครืดดดดดดเสียงโทรศัพท์ของเซนส์ดังขึ้น เขาหยิบมันขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อสูท เมื่อเห็นเป็นชื่อของน้ำฟ้า เขาก็ยิ้มออกมา มือหนาจัดแจงวางเอกสารตรงหน้าลงเพื่อกดรับสายทันที"ว่าไงครับคนสวย"(พี่เซนส์งานยุ่งไหมคะ)"ก็เหลือเคลียร์เอกสารนิดหน่อยครับ ฟ้ามีอะไรหรือเปล่า"(คุณแม่ฟ้าโทรมาหาค่ะ วันนี้คุณแม่กับพี่พอลว่าง ท่านเลยชวนพี่เซนส์ไปทานข้าวที่บ้าน พี่จะสะดวกไหมคะ)เซนส์เหลือบมองนาฬิกาข้อมือนิดหนึ่งแล้วรีบตอบกลับแฟนสาวทันที"ต้องสะดวกสิครับ ไม่อย่างงั้นเดี๋ยวคุณแม่กับพี่ชายไม่ปลื้มพี่ก็แย่สิน่ะสิ โอกาสดีแบบนี้ต้องรีบทำคะแนนหน่อย" เซนส์เอ่ยกระเซ้าคนรัก(ฮ่า ๆๆ ถ้าอย่างนั้นเลิกงานแล้วพี่เซนส์มารับฟ้าที่คอนโดนะคะ เพราะคุณแม่นัดทานข้าวที่บ้าน เดี๋ยวไปพร้อมกัน)"โอเคครับ บ่ายสามโมงครึ่งพี่ถึงคอนโดนะครับ แล้วเจอกันนะ"เซนส์วางสายจากน้ำฟ้าแล้วรีบเคลียร์งานทันที เพราะเหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงเศษ ๆ เขาก็ต้องไปรับน้ำฟ้าที่คอนโดตามที่นัดไว้แล้วน้ำฟ้าพาเซนส์มาที่บ้านเดี่ยวหลังหนึ่งที่มีอาณาบริเวณที่กว้างขวางและบรรยากาศร่มรื่นมาก จนไม่น่าเชื่อว่าท่ามกลางเมืองกรุงแบบนี้จะมีบ้านที่มีบรรยากาศแบบนี้ได้ ภ
"กูขอลาพักร้อนอาทิตย์นึงนะครับเพื่อน" เซนส์บอกกับเออเนสในขณะที่นั่งตรวจทานเอกสารและเช็คอีเมลล์จากลูกค้าในห้องทำงานของตัวเอง ในขณะที่เออเนสเข้ามาติดตามเรื่องปัญหาการก่อสร้างของคอนโดใหม่ที่อิตาลี "ฟ้าจะถล่มละมั้ง ปีชาติกูไม่เคยเห็นมึงลาพักร้อน นึกเฮี้ยนอะไรขึ้นมาวะ" เออเนสเอ่ยถามในขณะที่นั่งลงยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเซนส์ "กูจะพาน้ำฟ้าไปล่องเรือ" "อื้อหือ โรแมนติกซะด้วย" เออเนสเอ่ยแซว "กูจะเซอร์ไพรซ์ขอเขาเป็นแฟน กูไปหลอกถามน้องญามาแล้ว น้องญาบอกว่าผู้หญิงจะเซ็นสิทีฟกับเรื่องนี้มาก กูควรจะทำอะไรให้ฝ่ายหญิงมั่นใจในสถานะของตัวเองมากกว่านี้ มึงรู้ไหมเมื่อสองวันก่อนตอนกูอยู่อิตาลีน้ำฟ้าโทรหากู แต่มีย่ารับสายแล้วถามว่าน้ำฟ้าเป็นอะไรกับกู แต่ฟ้าไม่ตอบ ทำไมมีย่าถึงถามแบบนั้นวะ?" "กูว่ามีย่าน่าจะยังคิดอะไรกับมึงอยู่แน่ ๆ แด๊ดบอกกูว่าพ่อมีย่าติดหนี้การพนันเลยขายบริษัทให้ไมเคิลไป แล้วช่วงหลังก็มาขอเงินเรื่อย ๆ จนไมเคิลไม่ยุ่งด้วยอีก หลังจากนั้นพ่อมีย่าก็เหมือนจะคอยยุให้มีย่าเลิกกับไมเคิล อ้างว่าไมเคิลมีผู้หญิงอื่น แด๊ดบอกกูว่าเขาน่าจะล็อคเป้าหมายไว้ที่มึงนี่แหละ เพราะตอนนี้พ่อมีย่ารู้แ
เซนส์ก้มลงมองแท่งรักของตัวเองที่ถูกริมฝีปากสวยของน้ำฟ้าครอบครองอยู่ เธอทั้งดูดเลียและตวัดลิ้นไปทั่วลำรักจนเซนส์ต้องกัดฟันข่มความเสียว ขืนปล่อยไว้แบบนี้มีหวังเขาต้องเสร็จคาปากของเธอแน่ๆเซนส์ขยับตัวลุกขึ้นแล้วหยิบซองคอนดอมที่ลิ้นชักหัวเตียงขึ้นมาจัดการใส่ลงไปที่ท่อนเอ็นใหญ่ แล้วจับร่างเล็กของน้ำฟ้านอนตะแคงข้าง ส่วนตัวเขาก็นอนตะแคงซ้อนร่างเล็กของเธอไว้ แขนแกร่งสอดใต้ข้อพับขา ยกขาเรียวด้านบนขึ้น แล้วขยับสะโพกเข้าไปใกล้ๆ จับท่อนเอ็นถูไถไปมาที่ปากทางร่องสีชมพูที่เต็มไปด้วยน้ำรักแล้วใช้ท่อนเอ็นตีที่เนินสาวอวบนูนดังปั่ก ๆ"ซี๊ดดดดด พี่เซนส์ขา เอาฟ้าสักทีค่ะ ฟ้าไม่ไหวแล้ว อยากเหลือเกิน อ๊าาาา"น้ำฟ้าร้องครางเสียงกระเส่าพร้อมกับขยับร่องรักเข้ามาใกล้ๆ แล้วดันสะโพกกลืนกินท่อนเอ็นเข้าไปด้วยตัวเองทีเดียวจนมิดลำ .. ร้อนแรงจริงๆ แม่สาวน้อย"อ๊าาาาา"เสียงเธอครางกระเส่าแล้วเชิดหน้าขึ้นพลางขยับสะโพกสวยเข้าๆ ออก ๆ เพื่อสร้างความหฤหรรษ์ให้กับตัวเอง เสียงความฉ่ำแฉะของร่องสวยที่กลืนกินท่อนเอ็นใหญ่ดังออกมาอย่างชัดเจน เซนส์กระแทกแท่งรักเข้าสุดออกสุดถี่รัว จนคนตัวเล็กตัวสั่นเทิ้ม เธอกัดริมฝีปาก แหงนหน้ามองเซน
เซนส์คลานขึ้นไปบนเตียงแล้วคร่อมไปที่ร่างเล็กของน้ำฟ้า เขารวบมือทั้งสองข้างของเธอไว้ด้วยฝ่ามือใหญ่เพียงข้างเดียว น้ำฟ้าจ้องมองใบหน้าของเซนส์ที่ตอนนี้ดูเคร่งขรึมและดุดัน เธอสะบัดหน้าหนีเขาทันที เซนส์ถึงกับถอนหายใจพรืด"บอกพี่มาสิ ทำไมถึงดื้อแบบนี้ พี่เคยบอกแล้วไงว่าไม่ให้เข้าใกล้ผู้ชายคนไหน พี่หวง" เซนส์พูดเสียงแข็ง น้ำฟ้าหันหน้ากลับมามองหน้าเซนส์พร้อมกับรอยยิ้มเย้ยหยัน"หวงเหรอคะ หวงในฐานะอะไรอะ" น้ำฟ้ากลืนก้อนสะอื้น"ทำไมถึงถามแบบนั้น""ก็ฟ้าไม่รู้ไงว่าทุกวันนี้ฟ้าเป็นอะไรสำหรับพี่ เป็นแฟน? เป็นคู่นอน? หรือแค่คู่ขา" น้ำฟ้าพูดด้วยแววตาที่เจ็บปวด น้ำตาไหลออกจากหางตา เมื่อนึกถึงคำถามของผู้หญิงที่ชื่อมีย่า ที่ถามว่าเธอเป็นอะไรกับเซนส์ แต่เธอกลับให้คำตอบไม่ได้เซนส์เงียบ เขาจ้องมองคนใต้ร่างที่ตอนนี้เริ่มสะอื้นเบา ๆ แล้ว"หนูเป็นอะไร ทำไมเป็นแบบนี้" เซนส์ขมวดคิ้ว สีหน้าเริ่มเครียด"ถ้าพี่จะหวงฟ้าไม่อยากให้อยู่ใกล้ผู้ชายคนอื่น ไม่ว่าจะหวงในฐานะของคู่นอนหรือคู่ขาก็แล้วแต่ ถ้าอย่างนั้นฟ้าก็มีสิทธิ์หวงเหมือนกันใช่ไหม?" น้ำฟ้ามองจ้องเข้าไปในแววตาของเซนส์ จนเห็นใบหน้าตัวเองสะท้อนอยู่ในดวงตาคู่นั้น