บรรยากาศภายในลิฟท์เงียบจนได้ยินเสียงหายใจของกันและกัน น้องญาตัวเกร็งอยู่ในอ้อมกอดของเออเนส เธอรู้สึกร้อนๆ หนาว ๆ แบบแปลกๆ ด้วยเพราะไม่เคยอยู่ใกล้บุรุษเพศคนไหนมาก่อน ใจเธอเต้นแรงจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน สาวน้อยก้มหน้างุด ไม่กล้ามองใบหน้าหล่อคมตรงหน้านั้น
“อยู่กันสองคนแล้ว ไม่ต้องแอ๊บก็ได้มั้งครับ” อยู่ๆ เออเนสก็พูดทำลายความเงียบออกมา ทำให้น้องญาถึงกับงง ในสิ่งที่เขาพูดออกมา
“คะ .. อะไรนะ พี่พูดแบบนี้หมายความว่าอะไรเหรอคะ?” สาวน้อยเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่กำลังอุ้มเธอไว้แนบอก เธอพอจะเข้าใจความหมายที่เขาพูดอยู่ แต่ไม่อยากเชื่อว่าผู้ชายอย่างเขาจะพูดอะไรแบบนี้ออกมาได้
“ก็ที่เธอไปอ่อยฉันถึงสระว่ายน้ำเมื่อกลางวัน แล้วยังลงทุนชนฉันจนเธอล้มแล้วบอกว่าขาแพลงแบบนี้อีก ตอนนี้อยู่กันสองคนแล้ว จะมาเสียเวลาทำไม่ล่ะ อยากก็บอกว่าอยาก ง่ายจะตาย” เออเนสพูดออกมาหน้าตาเฉย ราวกับคำพูดแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขาอย่างนั้นแหละ
เมื่อคำพูดของเขากระจ่างชัดขนาดนี้ก็ไม่ต้องเพิ่มคำอธิบายใด ๆ ปฏิญญาก็เข้าใจได้อย่างถ่องแท้ ... เขากำลังคิดว่าเธออ่อยเขางั้นเหรอ
“ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้” เธอเอ่ยบอกเออเนสเสียงแข็ง ทำให้เขาเองนึกแปลกใจในท่าทีที่เปลี่ยนไปของเด็กสาวตรงหน้าอยู่ไม่น้อย
“ฉันบอกให้ปล่อยฉันลงไง”
สาวน้อยย้ำด้วยเสียงกร้าวอีกครั้ง ในขณะที่ลิฟท์เปิดออกพอดี ร่างแกร่งอุ้มร่างเล็กออกจากลิฟท์แล้วค่อย ๆ ปล่อยเธอลง น้องญากัดฟันด้วยความเจ็บแปลบที่ข้อเท้าข้างซ้าย สาวน้อยกัดริมฝีปากล่างแน่นๆ เพื่อข่มความเจ็บนั้น เธอก้มลงเพื่อที่จะถอดสายรัดที่ข้อเท้าของรองเท้าออก แต่ด้วยความที่เธอเจ็บเท้ามาก จึงทำแบบเก้ ๆ กัง ๆ เออเนสจึงนั่งลง แล้วเอื้อมมือแกร่งไปหวังจะช่วยเธอถอดรองเท้า แต่เสียงของปฏิญญาดังขึ้นมาห้ามเขาเสียก่อน
“หยุด .. ไม่ต้องมาช่วย ไม่ต้องมาแตะต้องตัวฉัน จะไปไหนก็ไป ฉันกลับห้องเองได้"
ร่างเล็กพูดกับชายหนุ่ม ในขณะที่ฝืนถอดรองเท้าออกได้จนสำเร็จ เออเนสมองสาวน้อยตรงหน้าด้วยแววตาฉงนสนเท่ห์ เธอดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากสาวน้อยน่ารัก ใส ๆ ทำไมอยู่ ๆ กลายเป็นสาวน้อยจอมวีนแบบนี้ไปได้
“อย่ามาทำเก่ง ขนาดถอดรองเท้ายังทำไม่ได้ แล้วจะเดินกลับห้องเองได้ยังงัย” เออเนสตอบกลับสาวน้อยตรงหน้า
“ฮึ..ทำไมฉันจะเดินไม่ได้ล่ะ ก็คุณพูดเองนี่ ว่าฉันแค่อ่อยคุณ แล้วไอ้ที่เจ็บเท้านี่คุณก็คิดว่าฉันไม่ได้เจ็บจริงๆ อยู่แล้วนิ อย่าฉลาดน้อย”
น้องญาเค้นเสียงตอบจนเสียงสั่นด้วยความโกรธ เกิดมายังไม่เคยโดนใครดูถูกได้ถึงขนาดนี้เลยจริง ๆ ให้ดิ้นตาย ร่างของคนตัวเล็กค่อย ๆ ฝืนเดินไปยังห้องของเธอที่อยู่ห่างจากลิฟท์ไปประมาณ 20 เมตร เธอกัดริมฝีปากแน่นจนห้อเลือด น้ำตาไหลด้วยความเจ็บ เจ็บตัวไม่เท่าไร แต่เจ็บใจมันสุดจะทน
เออเนสยืนดูร่างเล็กที่กำลังเดินกะโผลกะเผลกแล้วถึงกับส่ายหัวไปมา ใจหนึ่งก็อยากจะไปช่วยเธอ แต่อีกใจก็กลัวจะโดนไล่กลับมาอีก แล้วจู่ๆ ร่างเล็กก็ล้มลงไปอีก เออเนสรีบวิ่งเข้าไปช่วยน้องญาที่นั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่ทันที
“ดื้อจริง ๆ เดินจะไม่ไหวยังทำเป็นเก่งอีก” เขาดุคนตัวเล็กอย่างไม่จริงจังนัก ใบหน้าหล่ออยู่ใกล้กับใบหน้าเรียวสวยแค่คืบ เขาเห็นเธอปากคว่ำ น้ำตาไหล คงจะเจ็บมากนั่นแหละ
“เอ้า..ร้องไห้ขี้แยเป็นเด็กไปเลย มานี่ เดี๋ยวฉันช่วยเอง แล้วไม่ต้องออกฤทธิ์อีกล่ะ”
เออเนสบอกกับสาวน้อยตรงหน้า เขารวบร่างกลมกลึงนั้นขึ้นมาอุ้มในท่าเจ้าสาว แล้วเดินตรงไปยังห้องของเธอทันที ปฏิญญาหยิบการ์ดขึ้นมาเปิดประตูห้องพัก แล้วคนตัวโตก็อุ้มร่างเล็กเข้าไปในห้องนอน เขาค่อย ๆ วางเธอลงบนที่นอน น้องญานั่งลงบนเตียงในขณะที่คนตัวโตยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เขาสังเกตเห็นข้อเท้าของเธอเริ่มบวมช้ำ ส่วนน้องญาเองก็มองที่ข้อเท้าตัวเองเช่นกัน เธอเห็นว่ามันเริ่มบวมแล้ว จึงก้มหัวลงไปเพื่อที่จะดูใกล้ ๆ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เออเนสก็ก้มหัวลงไปเพื่อที่จะดูข้อเท้าของเธอเหมือนกัน ทั้งสองคนหัวโขกกันดังสนั่น น้องญาร้องโอ๊ย แล้วก็ปากคว่ำ ร้องไห้ออกมาดื้อ ๆ
“ฮือๆๆๆ อีตาบ้า ก้มมาโขกหัวฉันทำไมเนี่ย วันนี้ฉันเจ็บตัวเพราะนายสองครั้งแล้วนะ ฮือๆๆ” น้องญาร้องไห้พลางเอามือลูบหัวตัวเอง ทั้งเจ็บเท้า ทั้งเจ็บหัว ทั้งโมโห
“ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าเธอจะก้มหัวลงมา ก็ฉันเห็นเท้าเธอบวมก็เลยจะดูสักหน่อย นี่ฉันเองก็เจ็บเหมือนกันนะ ไม่ใช่เธอเจ็บคนเดียว ร้องไห้งอแงเป็นเด็กไปได้” เออเนสดุคนตัวเล็ก เธอจ้องหน้าเขาแล้วกัดริมฝีปากแน่น
“ก็ฉันอายุเพิ่ง 18 เองยังเด็กอยู่ ไม่ได้แก่เหมือนนายนี่ ดุอยู่ได้ ไอ้คนใจร้าย” น้องญาปากคว่ำมองใบหน้าหล่อตาปะหลับปะเหลือก เออเนสมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่ทำหน้าดุนั้นแล้วส่ายหัวเบา ๆ
“เอาเถอะๆ ฉันขี้เกียจเถียงกับเธอแล้ว รออยู่นี่เดี๋ยวไปหายาแก้ปวดมาให้” เขากล่าวสั้น ๆ แล้วเดินออกจากห้องนอนไป เขาหายไปครู่หนึ่งก็กลับมาพร้อมกับยาแก้ปวดกับน้ำดื่ม เขาส่งให้คนตัวเล็ก แต่เธอส่ายหน้า ไม่ยอมรับยาจากเขา
“เอ้า !! ทำไมไม่กินยาล่ะ แล้วมันจะหายไหม” เออเนสดุ เพราะคนตัวเล็กไม่ยอมกินยา
“ก็ ... ก็..ฉันกินยาเม็ดไม่เป็นนี่ มันกลืนไม่ได้” น้องญาพูดอ้อมแอ้มด้วยความอาย
“โอ๊ย...แม่คุณ อายุ 18 แต่กินยาเม็ดไม่ได้เนี่ยนะ เธอไม่ใช่เด็กสองขวบนะ กิน ๆ ไปเลย อย่าเรื่องมาก” เขาดุเธออีกแล้ว วันนี้ถ้านับ ๆ ดูนี่คือดุเป็นสิบรอบแล้ว ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนทำให้เธอเจ็บแท้ๆ
“ก็คนมันกินไม่ได้ จะให้ทำยังงัย อยากให้ฉันกินได้ก็ต้องบดให้สิ ฉันกินเป็นเม็ด ๆ แบบนี้ไม่เป็นนี่”
น้องญายังเถียงชายหนุ่มตรงหน้าไม่ยอมหยุด ก็เธอกินยาเม็ดใหญ่ไม่เป็นจริง ๆ เวลากินทีไรก็กลืนไม่ลง กินน้ำจนแทบจะหมดขวด ยายังติดอยู่ที่ลิ้น แถมบางทีพอพยายามกินนาน ๆ ไปยาเริ่มละลายก็ขมอีก คิดแล้วขมคอชะมัด เออเนสนั่งลงข้าง ๆ คนตัวเล็กแล้วหยิบยากับน้ำจากมือของเธอ
“ก็แค่เนี้ย.. เอายาเม็ดไปบดให้ตั้งแต่แรกก็หมดเรื่องแล้ว บ่นเป็นคนแก่อยู่นั่นแหละ” น้องญาบ่นกระปอดกระแปด
“ใครบอกว่าฉันจะบดยาให้เธอ ฉันไม่ได้ขยันขนาดนั้นหรอก แต่ฉันมีวิธีให้เธอกินยาเม็ดได้นะ กินง่ายเลยด้วย” เออเนสยิ้มกุ้มกริ่มใส่คนตัวเล็กที่ตอนนี้ทำหน้างงๆ
จู่ ๆ เออเนสก็เอายาเม็ดใส่ปากของเขาเองแล้วดื่มน้ำตามลงไป คนตัวเล็กตาโต ด้วยความงงงวย ใบหน้าหล่อโน้มเข้ามาใกล้เธอแล้วประกบปากของเขาเข้ากับริมฝีปากกระจับสีชมพูนั้น น้องญาเบิกตาโพลงอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เป็นจังหวะเดียวกับที่เขาส่งยาเข้าปากเธอพอดี
“อื้อๆๆๆ “ เธอครางอู้อี้ในคอได้สักพัก เออเนสก็ถอนริมฝีปากออกจากปากบางนุ่มนิ่มนั้นอย่างเสียดาย น้องญาหน้าแดงก่ำ เธออายแทบอยากจะมุดใต้เตียงหนี เหมือนเออเนสจะรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของเธอ เขายิ้มมุมปากอย่างพอใจ
“ก็กินได้แล้วนี่ ไม่เห็นจะยากเลยเห็นไหม ไว้ครั้งหน้าถ้ากินเองไม่ได้บอกนะ ฉันจะมาช่วยป้อนให้ กินยาแล้วก็นอนพักเถอะ ฉันไปล่ะ” เออเนสกล่าวทิ้งท้ายไว้ แล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้เธอนั่งหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก มือน้อย ๆ ทุบลงไปที่หมอนถี่ๆ
“นี่ๆๆๆๆ อีตาบ้าๆๆๆๆ ทำอะไรของนายเนี่ย”
แสงแดดตอนสายสาดส่องลอดมาจากกระจกห้องนอน ทำให้ร่างเล็กของปฏิญญาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ปากเล็กอ้าปากหาวหวอดๆ เมื่อคืนเธอปวดข้อเท้ามากๆ ขยับแทบไม่ได้เลย แม่ของเธอต้องพยุงพาเข้าห้องน้ำ อาบน้ำกินข้าว แต่มันก็ยังปวดมากจนนอนไม่หลับ นางปทุมมาศต้องเรียกให้กินยาแก้ปวดทุก 4 ชม. เธอรับยาเม็ดจากมือแม่แล้วใส่ปาก หลังจากนั้นก็ดื่มน้ำตามลงไป น่าแปลกว่าตอนนี้เธอกลับกินยาเม็ดเองได้แล้ว ขนาดแม่เธอที่บดยามาให้เธอตั้งแต่เล็กจนโตยังแปลกใจเลย แต่เธอก็ยังปวดข้อเท้าตุบๆ นอนหลับๆ ตื่นๆ กว่าจะหลับลงได้ก็เกือบตีสามหลังจากทานข้าวเช้าที่แม่บ้านนำมาให้ที่ห้องพักแล้ว นางปทุมมาศก็นำผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตาและเนื้อตัวให้ลูกสาว จะได้สบายตัวขึ้น แล้วจึงให้ทานยา และให้น้องญานอนพักไปก่อน เพราะเซดริกได้ติดต่อให้คุณหมอช่วยมาตรวจดูอาการให้ โดยคุณหมอแจ้งว่าจะมาตรวจให้ราวๆ 11 โมงเช้าก๊อกๆๆ ..เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น นางปทุมมาศรีบเดินไปเปิดประตู มัมมาริสา เออเนส เซดริก และมาลารินทร์ ก้าวเข้ามาในห้องเพื่อเยี่ยมดูอาการของเด็กสาว"น้องญาเป็นยังงัยบ้างคะคุณมาศ พี่กับเออเนส อยากขอดูอาการน้องสักหน่อยค่ะ" มัมมาริสาพูดด้วยน้ำเสียงห่
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากทานอาหารเช้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมตัวออกเดินทางตามที่ตกลงกันไว้ ทุกคนขึ้นประจำที่บนรถตู้เพื่อเดินทางไปพักที่บ้านนางปทุมมาศ ขาดแต่มัมมาริสาซึ่งคงกำลังพูดคุยกับแด๊ดโนแอลและเออเนสอยู่ เพราะสองคนพ่อลูกจะต้องกลับฝรั่งเศสวันนี้ มาลารินทร์กับเซดริกนั่งด้านหน้าคู่กับคนขับ ส่วนนางปทุมมาศกับนางวิมาลานั่งเบาะแรก ดังนั้นช่วงต่อจากนั้นจึงว่างยาว น้องญาเลือกเข้าไปนั่งเบาะหลังท้ายสุดเพราะเป็นเบาะติดกันยาว ทำให้เธอสามารถนั่งยืดแข้งยืดขาได้อย่างสบายใจแกร๊ก...พรืด..เสียงประตูรถตู้เลื่อนเปิดออก ร่างของมัมมาริสายืนอยู่ตรงประตู น้องญายิ้มให้ มัมยิ้มตอบแล้วเดินขึ้นไปนั่งใกล้กับนางวิมาลาและนางปทุมมาศ น้องญาจึงไม่ได้สนใจอะไรอีก เธอนอนเหยียดยาวแบบสบายใจ เพราะทุกคนมากันครบแล้ว ตอนนี้รถกำลังเคลื่อนตัวออกจากโรงแรม เธอกะว่าจะนอนหลับให้สบาย เพราะวันก่อนที่เจ็บข้อเท้า เธอแทบจะไม่ได้นอนเลย เพียงครู่เดียวคนตัวเล็กก็หลับไปน้องญารู้สึกตัวอีกทีเมื่อรถโยกโยนตอนขับผ่านลูกระนาด เธอลืมตาขึ้นมาเล็กน้อย แต่เพราะเธอยังง่วงอยู่มากจึงสะลึมสะลือเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น รู้สึกได้ว่ามีฝ่ามือหนากำลังลูบ
หลังจากส่งมัมมาริสากับเออเนสขึ้นไปห้องพักเรียบร้อยแล้ว นางปทุมมาศกับน้องญาก็ลงมาที่ครัวเพื่อเตรียมอาหาร แต่เนื่องจากไม่ได้อยู่บ้านเสียหลายวันจึงไม่มีของสดเหลือติดบ้านเลย น้องญาจึงอาสาขับรถมอเตอร์ไซด์ออกไปซื้อของในตลาดสดที่เคยไปอยู่ประจำ เพราะตลาดอยู่ไม่ห่างจากบ้านมากนัก ขณะนั้นเออเนสกับมัมมาริสาก็เดินมายังครัวพอดี เธอเดินตรงมายังเด็กสาวพร้อมกับเอามือลูบหัวทุยเบาๆ อย่างเอ็นดู“ไหน .. วันนี้น้องญาจะทำอะไรให้มัมกินจ๊ะ” มัมมาริสาเอ่ยถามเด็กสาว พลางกอดเอวคอดนั้นไว้หลวม ๆ“วันนี้หนูจะทำแกงเขียวหวานปลากราย ทานกับขนมจีน ปลาทับทิมทอดสามรส หอยลายผัดฉ่า แกงส้มชะอมกุ้ง แล้วก็กุ้งทอดกระเทียมค่ะ” น้องญาเอ่ยเมนูให้มัมมาริสาฟัง นางถึงกับตาโต“โอ้โห.. เมนูน่าทานทั้งนั้นเลย แต่กุ้งทอดกระเทียมนี่ทำให้ใครแถวนี้เป็นพิเศษหรือเปล่าน๊า” มัมมาริสาเอ่ยแซว น้องญายิ้มหวานจนตาหยี“พอดีมีแต่อาหารรสจัดค่ะ แม่กลัวพี่เออเนสจะทานไม่ค่อยได้ เลยให้ทำเมนูที่ไม่เผ็ดให้ด้วย หนูเลยจะทำกุ้งทอดกระเทียมค่ะ”น้องญาตอบ มัมมาริสายิ้ม ขนาดเมนูที่จะทำให้ยังเลือกเป็นกุ้งที่ลูกชายคนเล็กเธอชอบเสียด้วย แสดงออกให้เห็นถึงความใส่ใจของเด็ก
หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว นางปทุมมาศกับน้องญาก็เข้าครัวเพื่อเตรียมตัวทำขนม โดยมีมัมมาริสาคอยเป็นลูกมือช่วยหยิบจับโน่นนี่ไปตามเรื่อง นางวิมาลาก็พักผ่อนอยู่ที่บ้าน ส่วนมาลารินทร์ไม่เข้ามาด้วยเพราะเธอยังแพ้ท้องเวลาได้กลิ่นถั่วก็ยังเหม็นอยู่ เพราะวันนี้ต้องมีกวนถั่วเพื่อทำไส้ขนมเม็ดขนุนด้วย น้องญากำลังคัดเลือกไข่เป็ดและทำความสะอาดเพื่อใช้ทำขนมเม็ดขนุนกับฝอยทองกรอบ หลังจากนั้นเธอก็ให้แม่กับมัมมาริสาทำกันไป ส่วนเธอก็แยกตัวไปทำขนมอาลัวให้เออเนสน้องญาผสมสีอ่อนๆ ลงไปในแป้งที่กวนสุกแล้ว เธอตักแป้งใส่ถุงบีบที่มีหัวบีบรูปดาว แล้วค่อยๆ บีบลงไปในถาดทีละอัน เออเนสมองคนตัวเล็กที่กำลังบีบขนมลงถาดอย่างตั้งอกตั้งใจ น่าแปลกที่ขนมที่บีบลงไปในถาดมีขนาดเท่ากันทุกชิ้นบ่งบอกถึงฝีมือและความใส่ใจของคนทำอย่างเด่นชัด เขาค่อยๆ เดินมาด้านหลังของเด็กสาวที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาบีบขนมจนไม่ได้สังเกตุว่ามีใครมายืนซ้อนอยู่ที่ด้านหลัง ร่างสูงยื่นหน้าเข้าไปใกล้กับแก้มนุ่มของเธอแล้วจรดจมูกโด่งลงยังผิวแก้มนวลเบาๆ จนเด็กสาวสะดุ้ง"หอมจัง" เออเนสพูดเบาๆ ทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้กับการกระทำของตัวเองเมื่อสักครู่ จนน้อง
1 ปีผ่านไป...ณ. ปารีส @ ฝรั่งเศสตอนนี้ปฏิญญาเดินทางมาอยู่ที่ฝรั่งเศสได้เกือบเดือนแล้ว โดยมัมมาริสาเดินทางมารับด้วยตนเองเมื่อเธอเรียนจบ หลังจากที่คุยกันแล้วว่าเธอคงจะเข้าเรียนในปีการศึกษาหน้า มัมมาริสาอยากให้เธอมาอยู่ที่นี่และลองใช้ชีวิตให้คุ้นชินก่อน เพราะเธอยังต้องปรับตัวอีกมาก อีกเหตุผลหนึ่งคือเธออยากเลือกสายวิชาและมหาวิทยาลัยที่เธออยากเรียนด้วยตัวเอง ซึ่งข้อนี้มัมมาริสาให้สิทธิ์เธอเต็มที่"ได้เวลาอาหารกลางวันแล้วค่ะ" ปฏิญญาบอกทุกคนที่ตอนนี้นั่งคุยกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ให้ไปรับประทานอาหารด้วยกัน เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด ทุกคนจึงอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา"มีแต่อาหารไทยน่าทานทั้งนั้นเลย น้องญามาอยู่นี่มัมต้องเจริญอาหารแน่ๆ " มัมมาริสาพูดพลางส่งยิ้มหวานให้เธอ"วันนี้มีอะไรบ้างล่ะ หน้าตาน่าทานนะ แต่แด๊ดไม่รู้จักชื่อเลย" แด๊ดโนแอลเอ่ยถามเด็กสาว"วันนี้มีแกงเลียงกุ้งสด กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา แกงจืดเต้าหู้อ่อน กุ้งทอดกระเทียมค่ะ" น้องญาตอบแด๊ด"กุ้งทอดกระเทียมทำพิเศษให้พี่เออเนสใช่ไหมเนี่ย ไม่เห็นมีอะไรพิเศษให้มัมบ้างเลย ชักจะน้อยใจแล้วนะ"มัมมาริสาเอ่ยหยอกเย้า ในขณะที่คนที่ถูกกล่าวถึงนั่งยิ้
น้องญานอนตัวแข็งทื่ออยู่ในอ้อมกอดของเออเนส เธอสบสายตาของชายหนุ่ม สายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยแรงปรารถนาอย่างปิดไม่มิด"รังเกียจฉันเหรอ" เขาเอ่ยถามหลังจากที่เธอยังนอนตัวแข็งทื่อและดันอกแกร่งของเขาให้ห่างจากตัวเธอ"ปะ..เปล่าค่ะ ไม่ได้รังเกียจ แต่น้องญาว่ามันไม่เหมาะสมที่จะทำแบบนี้ คะ..คือ.. น้องญายังเด็กอยู่เลยค่ะ" หญิงสาวรีบตอบเพราะกลัวเขาเข้าใจผิด ใครจะไปรังเกียจชายหนุ่มรูปหล่อ สะอาดเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบเขาล่ะ"ปีนี้อายุเท่าไหร่" เขาถามพลางใช้มือลูบผมที่ปรกหน้าของเธอออกและไล้ข้อนิ้วไปตามกรอบหน้าเนียนใสของหญิงสาว"19 ค่ะ อีกสามเดือนก็จะเต็ม 20" เธอตอบชายหนุ่ม หัวใจเต้นแรงแทบจะทะลุออกมานอกอก เกิดมาจนป่านนี้ยังไม่เคยนอนร่วมเตียงกับผู้ชายคนไหนแบบนี้มาก่อน"จะ 20 แล้ว ไม่ใช่เด็กแล้วนะ" เขาบอกกับเธอพลางลูบไล้ไปทั่วผิวกายนวลเนียนของเด็กสาว เธอรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ทุกที่ที่เขาสัมผัส เออเนสขยับเข้ามาใกล้จนลมหายใจร้อนของเขาปะทะริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ แต่ก่อนที่เขาจะประทับจูบลงที่ริมฝีปากสวยนั้น เสียงโทรศัพท์ของน้องญาก็ดังขึ้นกริ้งงงงงงงงงง.... หน้าจอแสดงชื่อมัมมาริสา ปฏิญญาฉวยโอกาสนั้นรีบลุกจากเตี
ปฏิญญาลงมาเดินเล่นที่ชายหาดเพียงลำพัง เวลาเย็นแบบนี้แดดอ่อนแสงลงมากแล้ว หาดทรายเม็ดเล็กละเอียดสีขาวสะอาดตา ตัดกับสีฟ้าเข้มของน้ำทะเลที่ทอดยาวไปไกลสุดสายตา เป็นภาพที่สวยงามมากจริงๆเด็กสาวถอดรองเท้าฟองน้ำถือไว้เพราะอยากใช้เท้าสัมผัสกับความละเอียดอ่อนของเม็ดทรายที่นุ่มนิ่มนั้นโดยตรง เธอยืนมองขอบฟ้าที่ไกลสุดสายตา แล้วทำให้คิดถึงแม่ปทุมมาศ ร่างเล็กนั่งลงบนหาดทรายในท่าชันเข่า ตอนนี้เวลาที่นี่เกือบจะหกโมงเย็น ที่เมืองไทยคงเกือบจะห้าทุ่มแล้ว คงดึกเกินไปถ้าเธอจะโทรหาแม่มาศในตอนนี้พอนั่งนึกอะไรเพลินๆ ก็ปรากฏภาพของเออเนสขึ้นในมโนภาพของเธอทันที ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันจนมาถึงวันนี้ เขาก็ยังเป็นผู้ชายคนเดิมที่มักจะทำตัวรุ่มร่ามกับเธอตลอดเวลาที่อยู่กันสองคน แต่ภายนอกถ้าคนอื่นมองจะเห็นเขาอีกลุคหนึ่งซึ่งดูเป็นคนเงียบๆ สุขุม และวางตัวได้ดีในระดับหนึ่ง แต่เธอรู้ดีว่าความจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นตลอดเวลากว่าหนึ่งปีที่ผ่านมาก่อนที่เธอจะเรียนจบ เขามักจะบินไปๆ มาๆ ระหว่างฝรั่งเศสกับไทย เพื่อไปเยี่ยมเซดริกและครอบครัวของเธอเป็นประจำเธอถามตัวเองว่าทำไมเธอถึงยอมให้เขาถึงเนื้อถึงตัวมาตลอด แล้วเธอก็ยอมรับกับใ
"อื้อ~ หนาวววว" คนตัวเล็กนั่งคอพับอยู่ในอ่างอาบน้ำในสภาพกึ่งเปลือย มีแพนตี้ตัวน้อยกับบราแบบเกาะอกปกปิดของสงวน เออเนสถอนหายใจยาวเพื่อสกัดกั้นอารมณ์ของตัวเอง เขาค่อยๆ ถอดบราและแพนตี้ตัวน้อยออกจากเรียวขาสวย แล้วเปิดน้ำอุ่นเพื่อล้างหน้าตาเนื้อตัวแล้วอาบน้ำให้กับเธอ เสร็จแล้วก็นำผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาห่อหุ้มร่างเปลือยขาวโพลนนั้น แล้วรวบร่างขึ้นอุ้มไปยังเตียงนอนขนาดใหญ่ร่างแกร่งค่อยๆ วางคนตัวเล็กลงแล้วปลดผ้าเช็ดตัวออกเพื่อจะเช็ดตัวและสวมชุดใหม่ให้ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร คนตัวเล็กก็ดิ้นไปมามือไขว่คว้าสะเปะสะปะ"อื้มๆๆ .. หนาววว"มือเล็กควานหาผ้าห่มเพราะรู้สึกหนาว เมื่อมือสัมผัสถูกผ้าเช็ดตัวที่เออเนสถืออยู่เธอก็ดึงเข้าหาตัวอย่างแรงจนเออเนสล้มลงบนที่นอนหนาหนุ่มแล้วคร่อมร่างเล็กนั้นไว้พอดี ใบหน้าของเธอและเขาแนบชิดกัน จมูกชนจมูก ดูเหมือนคนตัวเล็กพอจะรู้สึกตัวขึ้นมาบ้างแล้ว เธอค่อยๆ ปรือตาขึ้นมามองเจ้าของลมหายใจอุ่นๆ ที่กำลังหายใจรดใบหน้าเธออยู่ในระยะประชิด"พะ..พี่เออเนส"ริมฝีปากรูปกระจับอวบอิ่มเผยอน้อยๆ เมื่อเอ่ยเรียกชื่อชายหนุ่มที่ตัวเองแอบมีใจให้ เขากำลังมองเธอด้วยสายตาแห่งความปรารถนาที่ปิดไม่มิ
เซนส์อาสาช่วยปฏิญญาพาเออเนสขึ้นมายังห้องนอนชั้นบนของคฤหาสน์ ซึ่งกว่าจะพาขึ้นมาได้ก็ต้องหิ้วปีกกันขึ้นมาอย่างทุลักทุเลเต็มทน ร่างแกร่งของเออเนสทิ้งตัวลงบนที่นอนทันที"ขอบคุณพี่เซนส์มากเลยนะคะ ดูท่าทางพี่เออเนสจะเป็นเยอะมากเลยนะเนี่ย" ปฏิญญากล่าวขอบคุณเซนส์ก่อนที่เขาจะขอตัวลงไปข้างล่าง ปฏิญญาพลิกตัวเออเนสให้นอนหงายและหนุนหมอนให้สูงขึ้น แต่เออเนสขอขยับตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง เขาบอกว่านั่งแบบนี้แล้วไม่เวียนหัว ปฏิญญาก็เลยตามใจเขา เธอเอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อและคลายเข็มขัดให้เขา จะได้ไม่อึดอัด เออเนสมองแฟนสาวตรงหน้าพร้อมกับเอามือลูบศรีษะเล็กๆ ของเธอเบาๆ"พี่ไม่เป็นอะไรมากหรอก หนูไม่ต้องเป็นห่วง ดูสิ หน้าจ๋อยเลย" เออเนสเอามือเกาคางปฏิญญาเพื่อหยอกล้อเธอให้คลายกังวล"อาการเป็นยังไงบ้างคะ ดีขึ้นบ้างไหม""ก็ดีขึ้นนิดหน่อย ไม่เวียนหัวแล้ว แต่ยังมีคลื่นไส้อยู่บ้างครับ นึกถึงกุ้งเผาแล้วพี่นี่ขนหัวลุกเลย"ปฏิญญาขึ้นไปนั่งบนเตียงแล้วโอบกอดคนรักไว้ เออเนสซุกใบหน้าลงที่ซอกคอของเธอ เขารู้สึกดีขึ้นมากเมื่อได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากร่างกายของแฟนสาว"อดทนหน่อยนะคะ..มัมบอกว่าแพ้แป๊บเดียว เดี๋ยวก็หายค่ะ" ปฏิญญ
สองปีต่อมา วันนี้เป็นวันรับปริญญาของปฏิญญา ทุกคนต่างมาร่วมแสดงความยินดี ทั้งมัมมาริสา แด๊ดโนแอล เซนส์ที่มาร่วมยินดีทั้งกับน้องสาวสุดที่รักและน้ำฟ้าแฟนสาวของเขาที่รับปริญญาพร้อมกัน แม่ปทุมมาศและป้าวิมาลาแม่ของมาลารินทร์ ที่เดินทางมาจากเมืองไทยด้วยเครื่องบินส่วนตัวของมาร์ตินกรุ๊ปพร้อมกับเซดริกและมาลารินทร์ที่ตอนนี้เธอกำลังตั้งท้องลูกคนที่สาม อายุครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว ฟาเบียนลูกชายคนโตอายุหกขวบ ส่วนฟาบริซน้องชาย อายุได้ ห้าขวบหลังจากงานพิธีรับปริญญาเสร็จสิ้น ทุกคนก็มีนัดเลี้ยงฉลองกันที่คฤหาสน์มาร์ตินในช่วงเย็นโดยมีน้ำฟ้ามาร่วมเลี้ยงฉลองด้วย เพราะคุณพอลพี่ชายของเธอกับคุณแม่ติดงานเซ็นสัญญากับลูกค้าที่แอลเอ จึงจะกลับมาเลี้ยงฉลองย้อนหลังให้ในอาทิตย์หน้าบรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข ฟาเบียนกับฟาบริซวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน พวกผู้ใหญ่ต่างก็พูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันตามประสา"พี่รินทร์ท้องใหญ่มากเลยค่ะ ห้าเดือนจริงเหรอคะเนี่ย" ปฏิญญาค่อยๆ เอามือลูบท้องของพี่สาว มันแข็งมากๆ จังหวะหนึ่งเธอรู้สึกเหมือนมีอะไรดุ๊กดิ๊กตุงๆ ออกมาจากท้องของพี่สาวจนเธอรู้สึกได้"อุ๊ย!! น้องเซลีนดิ้นทักทายน้าเหรอคะเนี่ย
เออเนสวางปฏิญญาลงบนเตียงอ่อนนุ่มแล้วคลานขึ้นไปครอมร่างเล็กนั้นไว้ ทั้งสองจ้องมองตากันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาอย่างเต็มเปี่ยม เออเนสไล้ปลายนิ้วไปยังกลีบปากเต็มอิ่มของเธอเบาๆ เขาก้มลงประทับริมฝีปากหนาลงไปยังริมฝีปากอวบอิ่ม แล้วขบเม้มกลีบปากสวยอย่างแผ่วเบา ลิ้นร้อนค่อยๆ สอดแทรกเข้าไปในโพรงปากเล็กแล้วจูบอย่างดูดดื่ม ปฏิญญายกมือขึ้นคล้องรอบลำคอของเขาพร้อมกับสอดแทรกนิ้วมือเข้าไปในกลุ่มผมดกหนาเบาๆ"อืมมม"เสียงครางทุ้มต่ำของเออเนสดังขึ้นเมื่อความรู้สึกของเขากำลังดำดิ่งสู่ห้วงปรารถนาอย่างลึกซึ้ง ฝ่ามือหนาสอดเข้าไปยังเสื้อชุดนอนแบบกระโปรงของคนใต้ร่างแล้วถอดออกอย่างง่ายดาย เออเนสลากไล้จมูกโด่งดอมดมยังซอกคอหอมกรุ่นแล้วขบเม้มจนเกิดสีดอกกุหลาบ ทุกที่ที่ริมฝีปากหนาลากผ่านทำให้ปฏิญญาร้อนๆ หนาวๆ อย่างบอกไม่ถูก ไรขนอ่อนตามตัวของเธอลุกชัน"อ๊ะ~อ๊าาา"ปฏิญญาร้องครางอย่างเสียดเสียวเมื่อยอดอกสีชมพูระเรื่อนั้นถูกครอบครองและดูดดุนอย่างหนักหน่วงจนเกิดเสียงดังจ๊วบๆ ตลอดเวลา ฝ่ามือหนาของเขาลูบไล้ไปทั่วและหยุดตรงเนินเนื้ออวบอูมเกลี้ยงเกลา นิ้วแกร่งหมุนวนบริเวณยอดเกสรที่ตอนนี้มีน้ำหวานสีใสหล่อเลี้ยงจนเปี
สองเดือนผ่านไป "วันนี้เลิกเรียนเร็ว ไปเดินห้างกันมั้ย?" ปฏิญญาเอ่ยชวนน้ำฟ้า เพราะวันนีอาจารย์ยกคลาสช่วงบ่ายเลยทำให้มีเวลาว่างเพิ่มขึ้น"ก็ดีเหมือนกันนะ วันนี้วันศุกร์ เดี๋ยวขากลับฉันจะได้แวะซื้อของสดไปทำอาหารให้พี่เออเนสเลย""โอเค งั้นเราไปกัน" สองสาวเดินจับมือกันลงมาจากอาคารเรียนเพื่อจะไปยังลานจอดรถ แต่ยังไม่ทันได้เดินออกไปก็ได้ยินเสียงคนเรียกเสียก่อน"ปฏิญญา น้ำฟ้า" สองสาวหันหน้าไปยังเสียงเรียกพร้อมๆ กัน เธอสองคนคุ้นเคยกับเสียงนั้นเป็นอย่างดี"อมารี" ปฏิญญาเอ่ยเสียงเรียกชื่ออย่างแผ่วเบา ตั้งแต่วันนั้นที่เธอไปคุยกับคุณน้าเรื่องค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดและรักษาพยาบาลให้กับอมารีแล้ว เธอก็ไม่เคยติดต่อกลับไปอีกเลย"ฉันอยากขอเวลาคุยด้วยสักหน่อย ขอเวลาให้ฉันสักสิบนาทีได้ไหม?""อืม.. ได้สิ ถ้าอย่างนั้นไปคุยที่คาเฟ่ในมหาลัยก็แล้วกัน"ทั้งสามคนก้าวเข้ามาในคาเฟ่ เลือกที่นั่งตรงมุมสงบเพื่อสะดวกในการพูดคุยกัน หลังจากพนักงานนำเครื่องดื่มมาเสริฟแล้วอมารีก็เป็นฝ่ายเริ่มต้นบทสนทนาทันที"ฉันอยากจะมาขอบคุณที่เธอช่วยชีวิตฉันไว้ ถ้าไม่ได้เธอช่วยเรื่องค่าผ่าตัดป่านนี้ฉันคงตายไปแล้ว" อมารีพูดด้วยเสียงสั่นเครื
ปฏิญญาซุกใบหน้าเล็กเข้ากับแผงอกแน่นๆ ของเออเนส กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเขาและสัมผัสอบอุ่นที่คุ้นเคยนั้นทำให้เธอรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก นานหลายนาทีกว่าใบหน้าสวยจะขยับออกจากอกแกร่งนั้น แต่เออเนสยังคงกอดร่างเล็กไม่ยอมปล่อย"น้องญาไม่โกรธที่อมารีทำกับเราเหรอครับ" เขาถามเธอพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้"ตอนแรกก็โกรธนะคะ เพราะคิดว่าทำไมเธอต้องหักหลังน้องญาด้วยทั้งๆ ที่เราเป็นเพื่อนกัน แต่สิ่งที่เธอเจอมามันคงจะทำให้เธอเจ็บปวดและแค้นมากเลยตัดสินใจทำแบบนั้น ยิ่งตอนนี้เธออยู่ในอันตรายเป็นตายเท่ากัน น้องญาเลยอยากให้พี่เออเนสช่วย อย่างน้อยก็ถือเป็นการไถ่โทษที่พี่เคยทำให้เธอเสียใจ อีกอย่างหนึ่งน้องญาสงสารพ่อแม่ของเธอค่ะ ถ้าเธอเป็นอะไรไปท่านคงเสียใจมาก น้องญาเคยสูญเสียพ่อมาก่อน น้องญาเข้าใจความรู้สึกนั้นดีค่ะ"เออเนสจ้องมองไปที่ดวงหน้าสวยจิ้มลิ้มตรงหน้า ปฏิญญาเป็นผู้หญิงที่จิตใจดีคนหนึ่ง จะมีสักกี่คนที่จะคิดเห็นใจคนที่ตั้งใจทำร้ายเพื่อนแบบเปิดเผยอย่างอมารี"ได้ครับ ถ้าหนูอยากให้พี่ช่วย พี่ก็จะตามใจหนู แล้วต้องใช้เงินเท่าไหร่" เออเนสเอ่ยถามพร้อมกับใช้นิ้วเกลี่ยผมนุ่มของเธอทัดที่ใบหู ปฏิญญาส่งใบแจ้งค่าใช้จ่ายให
"ขอโทษนะครับ คุณใช่ญาติของคุณอมารีหรือเปล่าครับ" เสียงคุณหมอเอ่ยถามขึ้นทำให้ทุกคนหันกลับไปมองยังคุณหมอทันที"ใช่ค่ะ ฉันเป็นแม่ของอมารีค่ะ""เมื่อตอนเช้ามืดคนไข้มีอาการชัก อาเจียน แล้วก็หมดสติ มีอาการหัวใจหยุดเต้นซึ่งทางทีมแพทย์ได้ปั๊มหัวใจคนไข้ จนหัวใจกลับมาเต้นเป็นปกติ แพทย์จึงให้ตรวจเอ็กซเรย์สมองพบว่ามีเส้นเลือดฝอยในสมองผิดปกติครับ ซึ่งเส้นเลือดฝอยนั้นเกิดแตกขึ้นทำให้มีเลือดออกมากดทับเนื้อสมอง" คุณหมออธิบายในขณะที่แม่ของอมารีเริ่มจะร้องไห้"แล้วแบบนี้จะทำยังไงดีคะคุณหมอ" แม่ของอมารีเอ่ยถามทั้งน้ำตา"เราต้องผ่าตัดเพื่อเอาก้อนเลือดที่กดทับตรงเนื้อสมองออก วิธีนี้จะทำให้ผู้ป่วยพ้นขีดอันตรายได้ แต่ถ้าไม่ผ่าตัดก็อาจทำให้อาการทรุดลงหรืออาจเสียชีวิตได้ครับ" คุณหมออธิบายจบแม่ของอมารีก็ทรุดตัวลงนั่งแล้วร้องไห้ออกมาทันที"เสียค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไรคะหมอ" แม่ของอมารีเอ่ยถามทั้งที่น้ำตายังนองหน้า ในขณะที่คุณหมอส่งใบรายละเอียดค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ในการผ่าตัดมาให้ นางก็เอื้อมมือไปรับด้วยฝ่ามือที่สั่นเทา"ถ้าญาติคนไข้พร้อมเมื่อไรแจ้งหมอได้ทันทีนะครับ หมอขอตัวก่อนนะครับ" หลังจากคุณหมอเดินจากไป แม่ของอมาร
ปฏิญญาก้าวเดินออกมาโดยมีเออเนสวิ่งตามมาติดๆ ปากก็ยังคงร้องเรียกชื่อเธออยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่เจ็บหรือไม่รู้สึกอะไร แต่เธอกลัว กลัวความเสียใจที่จะเกิดขึ้นซ้ำๆ เหมือนกับครั้งก่อนๆ ที่เธอเคยให้โอกาสเขามาตลอด แต่มันก็ยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ทั้งหมดทั้งมวลไม่เคยพ้นเรื่องผู้หญิงสักที เธอเหนื่อย อยากพัก อยากให้เวลาทั้งหมดกับการเรียนที่เหลือ อีกแค่สองปีเธอก็จะเรียนจบแล้ว และถ้าตามสัญญาของการหมั้นนั้นคือ เมื่อเธอเรียนจบเธอจะต้องแต่งงานกับเออเนส"น้องญา" เสียงมัมมาริสาร้องเรียกทำให้ร่างเล็กชะงักเท้าทันที"มาหามัมกับแด๊ดหน่อยค่ะลูก" ปฏิญญาจำต้องเดินไปยังชุดรับแขกกลางห้องโถงที่มัมมาริสาและแด๊ดโนแอลนั่งอยู่โดยมีเออเนสเดินซึมตามหลังมา"หนูเห็นสิ่งที่พี่เขาให้ดูแล้วใช่ไหมลูก" มัมมาริสาเอ่ยถาม"ค่ะ" ปฏิญญาพยักหน้าตอบ"หนูจะตัดสินใจอย่างไรกับเรื่องนี้ลูก ตอนนี้เราอยู่กันพร้อมหน้าแล้ว มาเปิดอกคุยกันดีกว่านะ หนูคิดเห็นยังไงก็บอกได้เลยค่ะ มัมเคารพการตัดสินใจของหนู" มัมมาริสาถามพร้อมกับเอื้อมมือไปจับมือเล็กอย่างให้กำลังใจ"......"ปฏิญญาก้มหน้านิ่ง เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง"บอกแด๊ดมาเถอะน้องญา แด๊ดเ
หลังจากจัดการธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ววันรุ่งขึ้นมัมมาริสาก็รีบบินกลับทันทีเพราะแด๊ดโนแอลโทรตามไม่หยุด งอแงเป็นเด็กจนมัมมาริสาหัวจะปวดเออเนสกับเซนส์อาบน้ำแต่งตัวลงมานั่งดื่มกาแฟที่ห้องอาหารแต่เช้า วันนี้เขาสองคนต้องรีบจัดการธุระให้เรียบร้อย เผื่อมัมมาริสาส่งข่าวมาให้ไปเคลียร์กับสองสาวจะได้เดินทางได้ทันที"เช้านี้มึงไปประชุมแทนกูด้วยนะไอ้เซนส์" เออเนสออกคำสั่ง"แล้วมึงจะไปไหน?" เซนส์จิบกาแฟแล้วมองหน้าเพื่อนรัก"กูจะไปโรงพยาบาล นี่เพิ่งผ่านมาสามวัน น่าจะยังตรวจสารในร่างกายได้ กูจะใช้เป็นหลักฐานยืนยันกับเมียกูว่ากูโดนวางยา มึงสั่งคนของเราดึงคลิปวงจรปิดช่วงเวลานั้นให้กูด้วย ช่วงเวลาที่กูอยู่ในห้องมันไม่น่าเกินห้านาที เป็นไปไม่ได้ที่เวลาแค่นั้นกูจะมีเซ็กส์กับยัยมารี" " เออเนสยิ้มอย่างมีความหวัง"ถ้างั้นตอนบ่ายมึงอยู่คุยกับคู่ค้าของแด๊ดที่นัดไว้แทนกูด้วย กูจะไปคุยกับอามิยาให้รู้เรื่องสักที"สามวันที่ผ่านมานี้เซนส์กับเออเนสโทรหามัมมาริสาทุกวัน เพื่อเร่งเร้าให้มัมคุยกับสองสาวให้ยอมเคลียร์ใจกับพวกเขาเสียที เพราะพวกเขาคิดถึงสองสาวจนแทบไม่เป็นอันหลับอันนอน"เป็นงัยบ้างคะเด็กๆ อยู่เที่ยวที่นี่มาสี่ห
"แล้วน้ำฟ้าล่ะลูก มีปัญหาอะไรหรือเปล่า มัมเห็นร้องไห้ไม่หยุดเลย" มัมมาริสาหันมาถามน้ำฟ้าที่ผ่านการร้องไห้มาจนตาบวมช้ำ"ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณน้า" น้ำฟ้ากล่าวปฏิเสธ"น้ำฟ้าเป็นแฟนของพี่เซนส์ค่ะมัม เขาสองคนคบกันมานานเป็นปีแล้วค่ะ" ปฏิญญาเป็นฝ่ายพูดขึ้นเอง เธออยากให้มัมมาริสาได้รับรู้สถานะของเพื่อนรักของเธอ และตัวเธอเองก็อยากรู้เรื่องของเซนส์จากปากของมัมมาริสาด้วย"จริงเหรอลูก มัมดีใจจังเลยที่พี่เซนส์ผู้เย็นชาของมัมมีแฟนกับเขาสักที ถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันแล้วนะ เพราะพี่เซนส์ก็ถือว่าเป็นลูกคนนึงของมัมเหมือนกัน แบบนี้มัมก็จะได้สะใภ้ทีเดียวสองคนเลยสิ โชคดีจัง" มัมมาริสายิ้มพร้อมกับลูบศรีษะเล็กของน้ำฟ้าด้วยความเอ็นดู"เอ่อ.. คือ.. หนูจะเลิกกับพี่เซนส์แล้วค่ะ" น้ำฟ้าพูดเสียงสั่นเครือ"อ้าว.. ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะลูก พี่เซนส์ไปทำอะไรไม่ดีกับหนูน้ำฟ้าคะ" น้ำฟ้าเงียบไม่กล้าตอบออกไป ได้แต่ก้มหน้านิ่งๆ"น้ำฟ้าไปเห็นพี่เซนส์อยู่กับผู้หญิงคนอื่นในห้องพักของพี่เซนส์ที่ Max Martin ค่ะ เธอชื่อ อามิยา" ปฏิญญาเป็นฝ่ายตอบคำถามนี้แทนน้ำฟ้า"อามิยาเหรอ? ... อ้อ.. ผู้หญิงคนนี้เคยเป็นแฟนกับเซนส์ตอนเรีย