1 ปีผ่านไป...
ณ. ปารีส @ ฝรั่งเศส
ตอนนี้ปฏิญญาเดินทางมาอยู่ที่ฝรั่งเศสได้เกือบเดือนแล้ว โดยมัมมาริสาเดินทางมารับด้วยตนเองเมื่อเธอเรียนจบ หลังจากที่คุยกันแล้วว่าเธอคงจะเข้าเรียนในปีการศึกษาหน้า มัมมาริสาอยากให้เธอมาอยู่ที่นี่และลองใช้ชีวิตให้คุ้นชินก่อน เพราะเธอยังต้องปรับตัวอีกมาก อีกเหตุผลหนึ่งคือเธออยากเลือกสายวิชาและมหาวิทยาลัยที่เธออยากเรียนด้วยตัวเอง ซึ่งข้อนี้มัมมาริสาให้สิทธิ์เธอเต็มที่
"ได้เวลาอาหารกลางวันแล้วค่ะ" ปฏิญญาบอกทุกคนที่ตอนนี้นั่งคุยกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ให้ไปรับประทานอาหารด้วยกัน เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด ทุกคนจึงอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา
"มีแต่อาหารไทยน่าทานทั้งนั้นเลย น้องญามาอยู่นี่มัมต้องเจริญอาหารแน่ๆ " มัมมาริสาพูดพลางส่งยิ้มหวานให้เธอ
"วันนี้มีอะไรบ้างล่ะ หน้าตาน่าทานนะ แต่แด๊ดไม่รู้จักชื่อเลย" แด๊ดโนแอลเอ่ยถามเด็กสาว
"วันนี้มีแกงเลียงกุ้งสด กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา แกงจืดเต้าหู้อ่อน กุ้งทอดกระเทียมค่ะ" น้องญาตอบแด๊ด
"กุ้งทอดกระเทียมทำพิเศษให้พี่เออเนสใช่ไหมเนี่ย ไม่เห็นมีอะไรพิเศษให้มัมบ้างเลย ชักจะน้อยใจแล้วนะ"มัมมาริสาเอ่ยหยอกเย้า ในขณะที่คนที่ถูกกล่าวถึงนั่งยิ้มเมื่อได้ทานกุ้งกระเทียมของโปรด
"มีสิคะ น้องญาทำลาบหมูแซ่บๆ ไว้ให้มัมด้วยค่ะ รสจัดแบบดั้งเดิมที่มีแต่เราสองคนเท่านั้นที่ทานได้ค่ะ" เด็กสาวบอกแล้วยิ้มตาหยี มัมตาโตเมื่อเห็นลาบหมูในจานส่งกลิ่นหอมจนน้ำลายสอ
หลังจากทานอาหารเรียบร้อยทุกคนก็แยกย้ายไปพักผ่อน ราวๆ บ่ายสามโมงซึ่งเป็นเวลาดื่มน้ำชายามบ่าย น้องญาก็จัดเตรียมเครื่องดื่มและขนมไทยที่เธอทำเองเตรียมพร้อมไว้รอสมาชิกในครอบครัว
"วันนี้มีขนมปังกระเทียมกับอาลัวค่ะ" เด็กสาวเอ่ยเสียงใสเมื่อสมาชิกทุกคนมากันพร้อมหน้าพร้อมตา เออเนสดื่มชาและทานขนมอาลัวของโปรด
"น้องญา พรุ่งนี้เราไปหาซื้อของสดเข้าครัวกันไหมลูก" มัมมาริสาเอ่ยชวน เพราะปกติมัมจะพาเธอไปซื้อของสดและเครื่องปรุงต่างๆสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
"ไปค่ะมัม" เด็กสาวตอบรับด้วยหน้าตาที่สดใส
"น้องญามาอยู่จะครบเดือนแล้ว มัมยังไม่ค่อยได้พาออกไปเที่ยวไหนเลย มัวแต่ยุ่งๆ ช่วยแด๊ดดูแลโรงแรมที่เพิ่งเปิดใหม่ เดี๋ยวสุดสัปดาห์หน้ามีวันหยุดยาว เราไปเที่ยวทะเลกันดีกว่า" มัมมาริสาบอกกับเด็กสาวที่นั่งยิ้มแป้น เมื่อได้ยินว่าจะได้ไปเที่ยว
"น้องญาเตรียมตัวล่วงหน้าได้เลยนะลูก เดี๋ยวพรุ่งนี้หลังซื้อของสดแล้วมัมจะพาไปหาซื้อชุดว่ายน้ำสวยๆ ไว้ใส่ไปเที่ยวทะเลกัน"
"ว๊าววว .. อากาศดี สถานที่สวยจังเลยค่ะ" น้องญาตื่นตาตื่นใจกับโรงแรมหรูที่ติดกับชายหาดกว้าง น้ำทะเลสีฟ้าเข้ม หาดทรายสีขาวสะอาดตา
"โรงแรมนี้เป็นโรงแรมของเราเอง มัมไม่ได้บอกเธอรึไง" เออเนสถามคนตัวเล็กพร้อมกับหยิบกระเป๋าของเธอวางลงที่เดิม
"กระเป๋าเอาไว้ที่นี่แหละ เดี๋ยวมีคนเอาขึ้นไปให้" เออเนสบอกพร้อมกับจูงมือเด็กสาวเพื่อไปขึ้นลิฟท์ผู้บริหารไปยังชั้นบนสุดของโรงแรม ที่ใช้เป็นที่พักของครอบครัว ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าเขาต้องพาน้องญามาเที่ยวกันตามลำพังสองคน เพราะแด๊ดกับมัมดันติดลูกค้าสำคัญ
เออเนสพาเด็กสาวขึ้นมายังห้องพักในขณะที่พนักงานนำกระเป๋าขึ้นมาให้พอดี
"ห้องเธออยู่นี่นะ ส่วนห้องของฉันอยู่ข้างๆ นี่แหละ เดี๋ยวสี่โมงเย็นจะมารับไปเดินเล่นชายหาด ตอนนี้แดดร้อน" เออเนสส่งคีย์การ์ดให้น้องญา เธอพยักหน้ารับรู้แล้วเปิดประตูเข้าห้องไป
"ภายในห้องสีขาว ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรู เมื่อเปิดผ้าม่านออกจะเป็นกระจกใสที่สามารถเห็นชายหาดและทะเลไกลสุดลูกหูลูกตา
"เย็นนี้จะออกไปเดินเล่น แล้วก็เล่นน้ำทะเลให้สนุกไปเลย แต่ตอนนี้เมื่อยจัง~" หญิงสาวบิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบจากการนั่งรถหลายชั่วโมง เธอลากกระเป๋าเข้าไปในห้องนอนแล้วจัดเสื้อผ้าเข้าตู้เรียบร้อย
"ปิ๊งป่องงงง" เสียงกดกริ่งที่หน้าห้อง เธอส่องตาแมวพบว่าเป็นรูมเซอร์วิสซึ่งนำอาหารมาส่งให้ ตามคำสั่งของเออเนส
"ว๊าววว .. น่ากินยังเลย กำลังหิวพอดี" คนตัวเล็กจัดการกับอาหารตรงหน้าทันที
"ฟู่ววววว" เสียงพ่นลมออกจากปากเล็ก อาหารที่นี่อร่อยมากจริงๆ เธอทานจนหมดเกลี้ยง
"เมื่อหนังท้องตึง หนังตาก็หย่อนเป็นธรรมดาสินะ นอนพักสักแป๊บนึงดีกว่า" ร่างบางเอามือลูบท้อง แล้วเดินเข้าไปในห้องนอน แล้วล้มตัวลงนอนนบนเตียงนุ่มขนาดใหญ่นั้นทันที
ความรู้สึกกึ่งหลับกึ่งตื่นเหมือนมีคนมานั่งอยู่บนเตียงใกล้ๆ เพราะเตียงหนานั้นยุบยวบลง
"หนาวจัง" เธอบ่นคล้ายละเมอแต่ก็รู้สึกเหมือนมีไออุ่นเข้าสู่ร่างกาย ร่างบอบบางรีบซุกเข้าหาความอบอุ่นนั้นทันที
"อื้มม .. อุ่นจัง" เธอพูดเบาๆ แล้วหลับต่ออย่างมีความสุข
ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ที่เธอตั้งเวลาไว้แผดเสียงร้องเตือน มือบางไขว่คว้าหาต้นตอของเสียงเพื่อจะปิดมัน แต่แล้วเธอก็สัมผัสได้ถึงร่างกายของใครอีกคนที่กำลังกอดรัดร่างเล็กของเธออยู่ หญิงสาวลืมตาโพลงด้วยความตกใจ เธอเห็นดวงตาคมกริบคู่นั้นมองเธออยู่ก่อนแล้ว
"พะ..พี่เออเนส พี่เข้ามาได้ยังงัยคะ" น้องญาเอ่ยถามพร้อมกับทำท่าจะลุกขึ้น แต่ถูกลำแขนแข็งแรงนั้นดึงร่างเล็กลงมาสู่อ้อมกอดของเขาเหมือนเดิม
"ห้องเรามีประตูเชื่อมกัน ฉันก็เลยเข้ามาดูว่าเธอทานอะไรหรือยัง แต่ไม่เจอในห้องโถง เลยเดินมาดูที่ห้องนอน" เขาตอบเรียบๆ
"ละ..แล้วทำไมพี่มานอนตรงนี้ ทำไมไม่กลับห้องตัวเองล่ะคะ"
"ก็ฉันมานั่งบนเตียงดูว่าเธอหลับสนิทรึยัง ตอนกำลังจะกลับเธอบ่นว่าหนาว แล้วดึงฉันมากอดเองนี่ ดีแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่ลักหลับเธอ คนอะไรหลับลึกขนาดนี้"
"มะ..ไม่จริงมั้งคะ" น้องญาเอ่ยเสียงสั่นเมื่อเออเนสกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น จนทรวงอกนุ่มของเธอบดเบียดไปยังอกแกร่งของเขา ใบหน้าชิดจนจมูกชนกัน ริมฝีปากของชายหนุ่มฉกฉวยไปที่ริมฝีปากกระจับสีชมพูระเรื่อนั้นทันที เขาบดจูบเคล้าคลึงไปทั่วกลีบปากนุ่ม แล้วสอดลิ้นอุ่นๆ นั้นเข้าไปในโพรงปากเล็กเพื่อควานหาความหวานในโพรงปากนุ่มๆ นั้น
"อื้อๆๆ" น้องญาร้องครางเบาๆ พร้อมกับพยายามดันตัวเองออกห่างจากลำตัวของชายหนุ่ม จนเออเนสค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกอย่างแสนเสียดาย
Write Talk: พี่เออเนสขโมยจูบน้องอีกแล้วค่ะ คราวนี้น้องจะขู่ฟ้องใครดีล่ะเนี่ย แล้วมากันแค่สองคนซะด้วย จะรอดไหมน้องญาเอ๋ย
น้องญานอนตัวแข็งทื่ออยู่ในอ้อมกอดของเออเนส เธอสบสายตาของชายหนุ่ม สายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยแรงปรารถนาอย่างปิดไม่มิด"รังเกียจฉันเหรอ" เขาเอ่ยถามหลังจากที่เธอยังนอนตัวแข็งทื่อและดันอกแกร่งของเขาให้ห่างจากตัวเธอ"ปะ..เปล่าค่ะ ไม่ได้รังเกียจ แต่น้องญาว่ามันไม่เหมาะสมที่จะทำแบบนี้ คะ..คือ.. น้องญายังเด็กอยู่เลยค่ะ" หญิงสาวรีบตอบเพราะกลัวเขาเข้าใจผิด ใครจะไปรังเกียจชายหนุ่มรูปหล่อ สะอาดเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบเขาล่ะ"ปีนี้อายุเท่าไหร่" เขาถามพลางใช้มือลูบผมที่ปรกหน้าของเธอออกและไล้ข้อนิ้วไปตามกรอบหน้าเนียนใสของหญิงสาว"19 ค่ะ อีกสามเดือนก็จะเต็ม 20" เธอตอบชายหนุ่ม หัวใจเต้นแรงแทบจะทะลุออกมานอกอก เกิดมาจนป่านนี้ยังไม่เคยนอนร่วมเตียงกับผู้ชายคนไหนแบบนี้มาก่อน"จะ 20 แล้ว ไม่ใช่เด็กแล้วนะ" เขาบอกกับเธอพลางลูบไล้ไปทั่วผิวกายนวลเนียนของเด็กสาว เธอรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ทุกที่ที่เขาสัมผัส เออเนสขยับเข้ามาใกล้จนลมหายใจร้อนของเขาปะทะริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ แต่ก่อนที่เขาจะประทับจูบลงที่ริมฝีปากสวยนั้น เสียงโทรศัพท์ของน้องญาก็ดังขึ้นกริ้งงงงงงงงงง.... หน้าจอแสดงชื่อมัมมาริสา ปฏิญญาฉวยโอกาสนั้นรีบลุกจากเตี
ปฏิญญาลงมาเดินเล่นที่ชายหาดเพียงลำพัง เวลาเย็นแบบนี้แดดอ่อนแสงลงมากแล้ว หาดทรายเม็ดเล็กละเอียดสีขาวสะอาดตา ตัดกับสีฟ้าเข้มของน้ำทะเลที่ทอดยาวไปไกลสุดสายตา เป็นภาพที่สวยงามมากจริงๆเด็กสาวถอดรองเท้าฟองน้ำถือไว้เพราะอยากใช้เท้าสัมผัสกับความละเอียดอ่อนของเม็ดทรายที่นุ่มนิ่มนั้นโดยตรง เธอยืนมองขอบฟ้าที่ไกลสุดสายตา แล้วทำให้คิดถึงแม่ปทุมมาศ ร่างเล็กนั่งลงบนหาดทรายในท่าชันเข่า ตอนนี้เวลาที่นี่เกือบจะหกโมงเย็น ที่เมืองไทยคงเกือบจะห้าทุ่มแล้ว คงดึกเกินไปถ้าเธอจะโทรหาแม่มาศในตอนนี้พอนั่งนึกอะไรเพลินๆ ก็ปรากฏภาพของเออเนสขึ้นในมโนภาพของเธอทันที ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันจนมาถึงวันนี้ เขาก็ยังเป็นผู้ชายคนเดิมที่มักจะทำตัวรุ่มร่ามกับเธอตลอดเวลาที่อยู่กันสองคน แต่ภายนอกถ้าคนอื่นมองจะเห็นเขาอีกลุคหนึ่งซึ่งดูเป็นคนเงียบๆ สุขุม และวางตัวได้ดีในระดับหนึ่ง แต่เธอรู้ดีว่าความจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นตลอดเวลากว่าหนึ่งปีที่ผ่านมาก่อนที่เธอจะเรียนจบ เขามักจะบินไปๆ มาๆ ระหว่างฝรั่งเศสกับไทย เพื่อไปเยี่ยมเซดริกและครอบครัวของเธอเป็นประจำเธอถามตัวเองว่าทำไมเธอถึงยอมให้เขาถึงเนื้อถึงตัวมาตลอด แล้วเธอก็ยอมรับกับใ
"อื้อ~ หนาวววว" คนตัวเล็กนั่งคอพับอยู่ในอ่างอาบน้ำในสภาพกึ่งเปลือย มีแพนตี้ตัวน้อยกับบราแบบเกาะอกปกปิดของสงวน เออเนสถอนหายใจยาวเพื่อสกัดกั้นอารมณ์ของตัวเอง เขาค่อยๆ ถอดบราและแพนตี้ตัวน้อยออกจากเรียวขาสวย แล้วเปิดน้ำอุ่นเพื่อล้างหน้าตาเนื้อตัวแล้วอาบน้ำให้กับเธอ เสร็จแล้วก็นำผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาห่อหุ้มร่างเปลือยขาวโพลนนั้น แล้วรวบร่างขึ้นอุ้มไปยังเตียงนอนขนาดใหญ่ร่างแกร่งค่อยๆ วางคนตัวเล็กลงแล้วปลดผ้าเช็ดตัวออกเพื่อจะเช็ดตัวและสวมชุดใหม่ให้ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร คนตัวเล็กก็ดิ้นไปมามือไขว่คว้าสะเปะสะปะ"อื้มๆๆ .. หนาววว"มือเล็กควานหาผ้าห่มเพราะรู้สึกหนาว เมื่อมือสัมผัสถูกผ้าเช็ดตัวที่เออเนสถืออยู่เธอก็ดึงเข้าหาตัวอย่างแรงจนเออเนสล้มลงบนที่นอนหนาหนุ่มแล้วคร่อมร่างเล็กนั้นไว้พอดี ใบหน้าของเธอและเขาแนบชิดกัน จมูกชนจมูก ดูเหมือนคนตัวเล็กพอจะรู้สึกตัวขึ้นมาบ้างแล้ว เธอค่อยๆ ปรือตาขึ้นมามองเจ้าของลมหายใจอุ่นๆ ที่กำลังหายใจรดใบหน้าเธออยู่ในระยะประชิด"พะ..พี่เออเนส"ริมฝีปากรูปกระจับอวบอิ่มเผยอน้อยๆ เมื่อเอ่ยเรียกชื่อชายหนุ่มที่ตัวเองแอบมีใจให้ เขากำลังมองเธอด้วยสายตาแห่งความปรารถนาที่ปิดไม่มิ
เด็กสาวทำท่าจะขยับสะโพกถอยหนีเมื่อรู้สึกได้ถึงความคับแน่น และเจ็บแปลบบริเวณกึ่งกลางกายสาว จนเออเนสต้องค่อยๆ ปลอบประโลมเธออีกครั้ง"ไม่ต้องกลัว อย่าเกร็งนะ เจ็บนิดเดียว"เขากระซิบเสียงแหบพร่าที่ใบหูของเธอ แล้วประกบริมฝีปากหนาได้รูปนั้นที่ปากสวยของเธออีกครั้ง เพื่อให้เด็กสาวผ่อนคลายลงอีกสักหน่อย ริมฝีปากอุ่นชื้นเลื่อนลงมาโลมเลียดูดดึงยอดปทุมถันอวบใหญ่นั้นอีกครั้ง ฝ่ามือแกร่งโลมไล้ไปทั่วผิวกายนุ่มนิ่มหอมกรุ่น ในขณะที่ร่างเล็กกำลังตกอยู่ในวังวนของความเสียวซ่านอยู่นั้น เออเนสก็ดันแท่งรักขนาดใหญ่เข้าไปในช่องทางรักคับแคบของเด็กสาวจนสุดลำ "สวบบ .. ปึ่ก" "กรี๊ดดดดดดด " เสียงร้องแสดงความเจ็บปวดเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมลุกล้ำเข้าไปภายในใจกลางสาวที่ไม่เคยมีผู้ใดล่วงล้ำมาก่อน เด็กสาวน้ำตาไหล หายเมาเป็นปลิดทิ้ง"อึ่ก..ฮือ..พี่เออเนสทำอะไร น้องญาเจ็บ" เด็กสาวเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลจากหางตา"ซี๊ดดดด...อืมมมม" เสียงครางทุ้มต่ำของเออเนสดังขึ้นในลำคอ เขารู้สึกคับแน่นที่แท่งรักและอยากจะขยับมันใจจะขาด"ฉันจะค่อยๆ ขยับนะ ไม่เจ็บแล้ว ไม่ต้องเกร็งนะ"เสียงทุ้มนุ่มนวลค่อยๆ เอ่ยขึ้นมาเพื่อไม่ให้เด็กสาวต้องเป็นกังวลใจ
น้องญานอนตัวแข็งทื่อเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเออเนสเมื่อคืนมันเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ความฝันอย่างที่เธอเข้าใจ“จะลุกไปไหนแต่เช้า”เออเนสเอ่ยถามคนตัวเล็กพลางกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นแล้วใช้จมูกโด่งซุกไซร้ไปตามซอกคอที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จนปฏิญญาต้องหดคอหนีด้วยความเสียวปนเขินอาย“ปล่อยน้องญาได้แล้วค่ะ น้องญาหิวแล้ว” คนตัวเล็กเอ่ย เพราะตอนนี้ท้องของเธอร้องประท้วงด้วยความหิวจริง ๆ เธอเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนผนัง บอกเวลา 11.00น.แล้ว“เดี๋ยวสั่งอาหารมาให้ นิ่งเป็นหลับขยับเป็นกินจริง ๆ ด้วย เด็กอะไร”เออเนสบ่นแบบไม่จริงจังนัก แต่ก็ยอมคลายอ้อมแขนจากร่างเด็กสาว แต่ยังไม่ปล่อยให้เธอลุกออกไป ในขณะที่เขาเองก็กดโทรศัพท์สั่งอาหารให้เธอทันทีหลังจากสั่งอาหารเรียบร้อยคนตัวเล็กจึงออกมาจากอ้อมกอดนั้นได้ เธอลุกขึ้นยืนหวังจะเดินไปยังห้องน้ำ แต่ก็ต้องหยุดทันที เพราะเวลาที่เธอขยับแต่ละครั้งจะรู้สึกเจ็บที่จุดกลางกายสาวเป็นอย่างมาก เธอทำหน้าเบ้จนเออเนสลุกขึ้นแล้วเดินมาจ้องหน้าเธอใกล้ ๆ ใบหน้าเรียวเล็กนั้นแดงก่ำด้วยความเขินอาย“เป็นยังไง เดินไม่ไหว เจ็บล่ะสิ?”เออเนสพูดแค่นั้นก็ลุกขึ้นทั้งที่ร่างกายเปลือ
หลังจากอาหารถูกนำมาจัดเตรียมให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เออเนสก็หยิบเสื้อผ้าจากกระเป๋าของเขาที่เพิ่งไปขนมาจากห้องตัวเองมาไว้ห้องนี้เมื่อตอนเช้า ขึ้นมาใส่ แล้วเดินไปที่ห้องนอนที่คนตัวเล็กยังคงนอนอยู่ในท่าเดิม ร่างแกร่งนั่งลงบนเตียงแล้วเอื้อมมือไปเขย่าร่างเล็ก"ปฏิญญา ตื่นได้แล้ว อาหารมาแล้วนะ""อื้อๆๆ"คนตัวเล็กบิดร่างไปมาแล้วลุกขึ้นนั่งด้วยความงัวเงีย เออเนสเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของเธอ แล้วหยิบชุดลำลองของเด็กสาว ซึ่งเป็นเสื้อยืดตัวยาวมาสวมใส่ให้ ในขณะที่เธอยังหาวหวอดๆ อยู่ หลังจากนั้นก็รวบร่างเล็กขึ้นอุ้มแล้วพาเดินไปยังโต๊ะอาหาร"พี่เออเนสปล่อยเถอะค่ะ น้องญาเดินเองได้" เด็กสาวพูดไปพลางก้มหน้าซุกอกแกร่งด้วยความเขินอาย แต่คนตัวโตก็ยังก้าวเดินพรวดๆ ไปยังเก้าอี้แล้วจัดแจงวางคนตัวเล็กให้นั่งลง ส่วนเขาเดินอ้อมไปนั่งที่ฝั่งตรงกันข้ามหลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้ว น้องญาก็เดินไปยังโซนห้องนั่งเล่นที่ด้านข้างติดกับระเบียง เธอนั่งบนโซฟาตัวยาว แล้วเปิดทีวีดูรายการทั่วๆ ไปเออเนสเดินผ่านคนตัวเล็กออกไปยังหน้าระเบียง เขาจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ ปฏิญญาทำหน้าแปลกใจ เพราะก่อนหน้านี้เธอไม่เคยเห็นเขาสูบบุหรี่มาก่อน ร่
เออเนสดันร่างบางให้นอนราบลงกับเตียงนุ่ม ในขณะที่ริมฝีปากของทั้งคู่ยังคงจูบกันอย่างดูดดื่ม ฝ่ามือหนาแทรกเข้าไปยังชุดนอนกระโปรงบางเบาของหญิงสาว แล้วถอดออกอย่างง่ายดาย ตะขอบราด้านหน้าถูกปลดอย่างชำนิชำนาญด้วยมือเพียงข้างเดียวของชายหนุ่มจมูกโด่งซุกไซร้ไปยังซอกคอหอมกรุ่น ขบเม้มผิวเนียนและจูบไล่เรื่อยลงมาที่หัวไหล่และเนินอก ริมฝีปากอุ่นชื้นเข้าครอบครองยอดปทุมถันสีชมพูแล้วขบเม้มดูดดึงอย่างหิวโหย"จ๊วบบบบบบ" เขาสลับดูดเลียยอดทับทิมสีชมพูสวยทั้งสองข้างไปมาแล้วบีบเคล้นอย่างมันมือ"อื้มมมม" ปฏิญญาครางเสียงหวานในลำคอและเผลอแอ่นอกให้เขาดูดเลียอย่างเต็มอกเต็มใจเมื่อดูดกินสองเต้าเต่งตึงจนเป็นที่พอใจแล้ว ลิ้นร้อนก็ค่อยๆจูบไล่ลงมายังเนินนูนอวบใหญ่ที่เกลี้ยงเกลาของเด็กสาว แพนตี้ลูกไม้ตัวน้อยถูกถอดออกอย่างง่ายดายด้วยฝีมือของเขาอีกตามเคย ลิ้นร้อนตวัดเลียที่รอยแยกอย่างช้าๆ คล้ายๆ กับจะทรมานคนตัวเล็กให้พลุ่งพล่านด้วยแรงปรารถนา"อ๊ะ..~อ๊าาา" ร่างบางร้องคราง เธอยกสะโพกร่อนไปมาด้วยความเสียวที่ลิ้นร้อนละเลงเลีย สลับกับดูดดุนที่ร่องสวาทแบบเน้นๆเออเนสผละจากร่างเล็กและลุกขึ้นจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองทันที แท่งร
หลังจากกินยาตามคำสั่งเออเนสเรียบร้อยแล้ว น้องญาก็เดินเข้าไปในบ้านที่ควรจะเรียกว่าคฤหาสน์น่าจะเหมาะสมกว่า เด็กสาวเดินไปหามัมมาริสาที่กำลังนั่งอ่านหนังสือสบายๆอยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น"กินข้าวเรียบร้อยแล้วเหรอลูก" นางเอ่ยทัก คนตัวเล็กนั่งลงใกล้ๆ กับหญิงสูงวัยกว่าที่ท่านกำลังมองเธอด้วยสายตาเอ็นดูพลางใช้มือลูบศีรษะเล็กๆ ของเธอ"กินแล้วค่ะมัม วันนี้น้องญาตื่นสายมากๆ เลยไม่ได้ทำอาหารไทยให้มัมทานเลย ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเย็นนี้น้องญาจะทำให้ทานอย่างสุดฝีมือเลยค่ะ" เด็กสาวพูดแล้วยิ้มละไมให้กับมัมมาริสา"วันนี้น้องญาจะทำแกงจืดเต้าหู้หมูสับของโปรดของแด๊ดด้วยค่ะ แต่ไม่รู้พี่เออเนสจะกลับบ้านหรือเปล่า กุ้งกระเทียมน้องญาจะเป็นหม้ายไหมหนอ" น้องญาเอ่ย ท้ายประโยคเธอทำเสียงอ่อยๆ มัมมาริสาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาลูกชายทันที"ครับมัม" เสียงปลายทางรับสายแล้วตอบกลับมาสั้นๆ ตามนิสัยของเขา"เย็นนี้กลับมาทานข้าวบ้านไหมลูก น้องจะได้ทำกุ้งกระเทียมของโปรดไว้ให้" มัมมาริสาเอ่ยถาม"ครับ" สั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความ"พี่เขาบอกว่าเย็นนี้จะกลับบ้านนะลูก เดี๋ยววันนี้หนูไปซื้อของที่ห้างกับพี่เซนส์แล้วกันนะจ๊ะ พอดีช่วงบ่ายมัมมีน
สามปีผ่านไป วันนี้เป็นวันรับปริญญาของน้ำฟ้ากับปฏิญญา หลังจากพิธีเช้าผ่านไปเรียบร้อยเซนส์ก็พาน้ำฟ้ากลับเพนท์เฮาส์เพื่อพักผ่อน เย็นนี้จะมีงานเลี้ยงฉลองบัณฑิตใหม่ที่คฤหาสน์มาร์ตินโดยมีครอบครัวของเซดริก พี่ชายของเออเนสบินมาจากประเทศไทยด้วย"เห้อ.. ปวดเท้าจัง"น้ำฟ้านั่งลงที่เตียงนอน หลังจากที่อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ที่เธอกับปฏิญญาบินหนีสองหนุ่มไปอิตาลีในคราวนั้น หลังจากกลับมาความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเซนส์ก็ดีขึ้นตามลำดับ เขาเข้าไปขอโทษพี่ชายและแม่ของเธอพร้อมกับอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้พวกท่านเข้าใจ และขออนุญาตเพื่อคบกันโดยเปิดเผย เขาอยากหมั้นกับน้ำฟ้าแต่แม่ของเธอบอกว่าไม่ต้องหมั้นให้ยุ่งยาก หากสองคนมั่นใจว่ารักกันชอบกันแม่ของน้ำฟ้าท่านอนุญาตให้อยู่ด้วยกันก่อน ทำให้เซนส์ดีใจมาก เขาซื้อเพนท์เฮาส์พร้อมกับรถหรูคันใหม่โดยใช้ชื่อน้ำฟ้าเป็นเจ้าของ เพื่อให้เธอและครอบครัวรู้ว่าเขาจริงจังและให้เกียรติเธอและรับเธอเข้ามาอยู่ด้วยกันที่เพนท์เฮาส์ใหม่ตั้งแต่นั้นมา"ปวดเท้ามากเหรอครับ พี่นวดให้นะ" เซนส์นั่งคุกเข่าลงตรงหน้าของคนรัก ฝ่ามือแกร่งโอบอุ้มเท้าเรียวเล็กของน้ำฟ้าขึ้นมาบีบนวดผ่อนคล
ตลอดเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาน้ำฟ้าและปฏิญญาใช้ชีวิตอยู่ที่อิตาลีภายใต้การดูแลอย่างดีของมัมมาริสา พวกเธอได้ตระเวนเที่ยวพักผ่อนในสถานที่ต่าง ๆ ทานอาหารอร่อย ๆ และได้ช้อปปิ้งอย่างมีความสุขครืดดดดด ครืดดดดดเสียงโทรศัพท์ของน้ำฟ้าดังขึ้น เธอปรายสายตามองไปที่หน้าจอเห็นชื่อพี่ชาย จึงรีบกดรับทันที"สวัสดีค่ะพี่พอล คิดยังไงถึงเธอหาฟ้าคะเนี่ย" น้ำฟ้าปั้นเสียงสดใสคุยกับพี่ชาย(ทำไมมาอิตาลีไม่บอกพี่สักคำ ปิดเครื่องไปเป็นอาทิตย์ รู้ไหมว่าพี่เป็นห่วงมากนะ) พอลพูดเสียงดุ"ฟ้าแค่มาพักผ่อนกับญาญ่าที่โรงแรมของมัมมาริสาแม่ของคุณเออเนสค่ะ อาทิตย์หน้าก็กลับแล้ว ขอโทษนะคะที่ไม่ได้บอกพี่พอล เอ๊ะ!! แล้วพี่พอลรู้ได้ไงคะว่าฟ้าอยู่อิตาลี?" น้ำฟ้าฉุกคิดขึ้นได้จึงรีบถามด้วยความสงสัย(ก็แฟนฟ้ามาตามหาฟ้าที่บริษัทพี่ตั้งแต่สองวันแรกที่ฟ้ามีปัญหากันไง ทะเลาะกันทำไมไม่คุยกันให้รู้เรื่อง หนีไปทำไม)"ไม่ได้หนีค่ะ แค่ไม่อยากเจอหน้า ฟ้าจะเลิกกับเขาแล้ว"(เออ ดี เลิกไปเลยเพราะพี่ก็ซัดมันไปซะน่วมแล้ว เหอะ.. มีอย่างที่ไหนวะ ทำให้น้องสาวเขาต้องหนีไปยังกล้ามาตามหากับพี่ชายเขาอีก)"ห๊ะ.. แล้วพี่ไปทำเขาทำไมอะ เขาเป็นอะไรมากไหม"
หลังจากที่น้ำฟ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเธอก็เดินออกมาบริเวณด้านหน้าเวทีเพื่อมาพบกับเซนส์ตามที่นัดแนะกันไว้ แต่เธอพยายามมองหาก็ไม่พบไม่รู้ว่าเขาไปรออยู่ที่ไหน"หายไปไหนนะพี่เซนส์" น้ำฟ้าบ่นพึมพำในขณะที่มือก็หอบดอกไม้ช่อโตที่เซนส์มอบให้เอาไว้แนบอก"อ้าว! ฟ้ายังไม่ไปอีกเหรอ?" เสียงปฏิญญาเอ่ยทักแล้วเดินตรงเข้ามาหา"รอพี่เซนส์อยู่น่ะสิ บอกให้พี่เขารออยู่แถวนี้ไม่รู้หายไปไหน""นี่ฉันก็รอพี่เออเนสอยู่เหมือนกัน เห็นบอกว่าจะไปรอที่ห้องพักก่อนแล้วจะเดินออกมารับ แต่ก็ไม่เห็นมา สักที เลยกะว่าจะเดินไปห้องพี่เออเนสเอง" น้ำฟ้าพยักหน้าให้เพื่อน"หรือว่าพี่เซนส์จะไปรอที่ห้องเขาแล้ว ฟ้าลองเดินไปดูดีไหม?" ปฏิญญาเอ่ยชวน"ญาญ่าไปก่อนเลย ฉันว่าจะรอตรงนี้อีกสักแป๊บ ถ้าไม่เจอจริงๆ เดี๋ยวฉันเดินไปเอง""เอางั้นเหรอ งั้นฉันไปก่อนนะ"น้ำฟ้าเดินดูจนทั่วบริเวณนั้นแต่ก็ไม่พบกับเซนส์ เธอตัดสินใจเดินไปที่ห้องพักส่วนตัวของเขา เขาเพิ่งมาถึงก่อนงานเริ่มแค่แป๊บเดียว บางทีเขาอาจจะเหนื่อยเลยไปรอที่ห้องก็อาจจะเป็นได้ เธอเดินผ่านพนักงานที่เฝ้าชั้นพิเศษนี้ตรงเคาท์เตอร์ซึ่งพนักงานก็ยิ้มบางๆ ให้น้ำฟ้า เธอคิดว่าพนักงานคงจะจำ
มาร์ตินกรุ๊ป @อิตาลีเซนส์เดินทางมาถึงอิตาลีก็ตรงเข้ามาที่บริษัทเพื่อมาหาแด๊ดโนแอลและมัมมาริสาทันที เพราะตอนนี้ท่านทำงานอยู่ที่นี่ส่วนที่ฝรั่งเศสท่านให้เออเนสกับเซนส์เป็นคนดูแลและตอนนี้พวกท่านก็รู้เหตุผลของการมาในครั้งนี้ของเซนส์เป็นอย่างดี มัมมาริสาเดินเข้าไปโอบกอดลูกชายบุญธรรมเหมือนปกติที่เคย แต่เซนส์เองก็ยังติดเกรงใจและเกร็งเสียทุกทีไป"แหม..มัมกอดนิดกอดหน่อยทำเป็นเกร็งนะ" มัมมาริสากระเซ้า เซนส์ยิ้มให้ท่านพร้อมกับก้มหัวทำความเคารพเช่นเคย"ดีแล้วที่แกตัดสินใจมาที่นี่ เมื่อวานแด๊ดเจอคุณคาเตอร์ รายนั้นพูดกับแด๊ดว่าอามิยาเลิกกับสามีแล้ว และตอนนี้ขอบินไปทำใจและจะไปอยู่กับเพื่อนสนิทก็คือแก" แด๊ดโนแอลพูดเสียงเรียบ เซนส์ถึงกับถอนหายใจพรืด"ผมไม่คิดว่าคุณคาเตอร์จะใช้อามิยาเป็นเครื่องมือแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นลูกสาวของเขาแท้ ๆ เห็นแก่ตัวจนไม่สมควรจะเป็นพ่อคน"เซนส์กัดฟันกรอด กำมือแน่น ครั้งที่แล้วพ่ออามิยาก็ใช้เธอเป็นเครื่องมือโดยให้เธอแต่งงานกับไมเคิลเพื่อพยุงฐานะของตัวเอง ส่วนครั้งนี้ก็ยังสร้างเรื่องให้ลูกสาวมีปัญหากับสามีโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของลูกสาวตัวเอง แถมยังพยายามเอาเธอใส่พานมาถว
การซ้อมใหญ่ผ่านไปด้วยดี สัปดาห์หน้าก็จะถึงวันงานแล้ว งานจะถูกจัดขึ้นที่โรงแรม Max Martin โดยเออเนสเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ของงานนี้ วันนี้ปฏิญญามาหาน้ำฟ้าพร้อมกับความไม่สบายใจเกี่ยวกับผู้หญิงที่ชื่ออามิยา เพราะเธอไปเห็นผู้หญิงคนนั้นกอดกับเออเนสอยู่ในห้องทำงาน ถึงแม้เออเนสจะอธิบายว่าอามิยาเป็นแค่เพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่มัธยม และเซนส์ก็บอกว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกันตั้งแต่มัธยมจริงๆ และยืนยันได้ว่าอามิยากับเออเนสเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นและที่สำคัญอามิยาก็แต่งงานแล้ว แต่น้ำฟ้าก็ยังแอบเห็นสีหน้าและแววตาที่วิตกกังวลของเพื่อนรักอยู่ดี@มาร์ตินกรุ๊ปประเทศไทย ณ.ห้องท่านรองรถคันหรูของเซนส์จอดลงยังลานจอดรถในที่จอดประจำตำแหน่ง เขาก้าวเท้าลงจากรถแล้วพาตัวเองไปยังห้องทำงานของเออเนสทันที หลังจากที่เขารู้เรื่องของอามิยาจากปฏิญญา เขาก็รีบออกมาจากคอนโดของน้ำฟ้าทันทีเพราะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอามิยา เธอถึงกล้าบินมาถึงที่นี่แกร๊กกกเซนส์ก้าวเข้าไปในห้องทำงานของเออเนสซึ่งตอนนี้กำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ ส่วนอามิยานั่งอยู่ที่โซฟาตัวยาวใกล้ ๆ กัน ทันทีที่เธอเห็นเซนส์ เธอก็ลุกขึ้นแล้วถลาเข้ากอดเซนส์พร้อมกับร
ครืดดดดด ครืดดดดดดเสียงโทรศัพท์ของเซนส์ดังขึ้น เขาหยิบมันขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อสูท เมื่อเห็นเป็นชื่อของน้ำฟ้า เขาก็ยิ้มออกมา มือหนาจัดแจงวางเอกสารตรงหน้าลงเพื่อกดรับสายทันที"ว่าไงครับคนสวย"(พี่เซนส์งานยุ่งไหมคะ)"ก็เหลือเคลียร์เอกสารนิดหน่อยครับ ฟ้ามีอะไรหรือเปล่า"(คุณแม่ฟ้าโทรมาหาค่ะ วันนี้คุณแม่กับพี่พอลว่าง ท่านเลยชวนพี่เซนส์ไปทานข้าวที่บ้าน พี่จะสะดวกไหมคะ)เซนส์เหลือบมองนาฬิกาข้อมือนิดหนึ่งแล้วรีบตอบกลับแฟนสาวทันที"ต้องสะดวกสิครับ ไม่อย่างงั้นเดี๋ยวคุณแม่กับพี่ชายไม่ปลื้มพี่ก็แย่สิน่ะสิ โอกาสดีแบบนี้ต้องรีบทำคะแนนหน่อย" เซนส์เอ่ยกระเซ้าคนรัก(ฮ่า ๆๆ ถ้าอย่างนั้นเลิกงานแล้วพี่เซนส์มารับฟ้าที่คอนโดนะคะ เพราะคุณแม่นัดทานข้าวที่บ้าน เดี๋ยวไปพร้อมกัน)"โอเคครับ บ่ายสามโมงครึ่งพี่ถึงคอนโดนะครับ แล้วเจอกันนะ"เซนส์วางสายจากน้ำฟ้าแล้วรีบเคลียร์งานทันที เพราะเหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงเศษ ๆ เขาก็ต้องไปรับน้ำฟ้าที่คอนโดตามที่นัดไว้แล้วน้ำฟ้าพาเซนส์มาที่บ้านเดี่ยวหลังหนึ่งที่มีอาณาบริเวณที่กว้างขวางและบรรยากาศร่มรื่นมาก จนไม่น่าเชื่อว่าท่ามกลางเมืองกรุงแบบนี้จะมีบ้านที่มีบรรยากาศแบบนี้ได้ ภ
"กูขอลาพักร้อนอาทิตย์นึงนะครับเพื่อน" เซนส์บอกกับเออเนสในขณะที่นั่งตรวจทานเอกสารและเช็คอีเมลล์จากลูกค้าในห้องทำงานของตัวเอง ในขณะที่เออเนสเข้ามาติดตามเรื่องปัญหาการก่อสร้างของคอนโดใหม่ที่อิตาลี "ฟ้าจะถล่มละมั้ง ปีชาติกูไม่เคยเห็นมึงลาพักร้อน นึกเฮี้ยนอะไรขึ้นมาวะ" เออเนสเอ่ยถามในขณะที่นั่งลงยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเซนส์ "กูจะพาน้ำฟ้าไปล่องเรือ" "อื้อหือ โรแมนติกซะด้วย" เออเนสเอ่ยแซว "กูจะเซอร์ไพรซ์ขอเขาเป็นแฟน กูไปหลอกถามน้องญามาแล้ว น้องญาบอกว่าผู้หญิงจะเซ็นสิทีฟกับเรื่องนี้มาก กูควรจะทำอะไรให้ฝ่ายหญิงมั่นใจในสถานะของตัวเองมากกว่านี้ มึงรู้ไหมเมื่อสองวันก่อนตอนกูอยู่อิตาลีน้ำฟ้าโทรหากู แต่มีย่ารับสายแล้วถามว่าน้ำฟ้าเป็นอะไรกับกู แต่ฟ้าไม่ตอบ ทำไมมีย่าถึงถามแบบนั้นวะ?" "กูว่ามีย่าน่าจะยังคิดอะไรกับมึงอยู่แน่ ๆ แด๊ดบอกกูว่าพ่อมีย่าติดหนี้การพนันเลยขายบริษัทให้ไมเคิลไป แล้วช่วงหลังก็มาขอเงินเรื่อย ๆ จนไมเคิลไม่ยุ่งด้วยอีก หลังจากนั้นพ่อมีย่าก็เหมือนจะคอยยุให้มีย่าเลิกกับไมเคิล อ้างว่าไมเคิลมีผู้หญิงอื่น แด๊ดบอกกูว่าเขาน่าจะล็อคเป้าหมายไว้ที่มึงนี่แหละ เพราะตอนนี้พ่อมีย่ารู้แ
เซนส์ก้มลงมองแท่งรักของตัวเองที่ถูกริมฝีปากสวยของน้ำฟ้าครอบครองอยู่ เธอทั้งดูดเลียและตวัดลิ้นไปทั่วลำรักจนเซนส์ต้องกัดฟันข่มความเสียว ขืนปล่อยไว้แบบนี้มีหวังเขาต้องเสร็จคาปากของเธอแน่ๆเซนส์ขยับตัวลุกขึ้นแล้วหยิบซองคอนดอมที่ลิ้นชักหัวเตียงขึ้นมาจัดการใส่ลงไปที่ท่อนเอ็นใหญ่ แล้วจับร่างเล็กของน้ำฟ้านอนตะแคงข้าง ส่วนตัวเขาก็นอนตะแคงซ้อนร่างเล็กของเธอไว้ แขนแกร่งสอดใต้ข้อพับขา ยกขาเรียวด้านบนขึ้น แล้วขยับสะโพกเข้าไปใกล้ๆ จับท่อนเอ็นถูไถไปมาที่ปากทางร่องสีชมพูที่เต็มไปด้วยน้ำรักแล้วใช้ท่อนเอ็นตีที่เนินสาวอวบนูนดังปั่ก ๆ"ซี๊ดดดดด พี่เซนส์ขา เอาฟ้าสักทีค่ะ ฟ้าไม่ไหวแล้ว อยากเหลือเกิน อ๊าาาา"น้ำฟ้าร้องครางเสียงกระเส่าพร้อมกับขยับร่องรักเข้ามาใกล้ๆ แล้วดันสะโพกกลืนกินท่อนเอ็นเข้าไปด้วยตัวเองทีเดียวจนมิดลำ .. ร้อนแรงจริงๆ แม่สาวน้อย"อ๊าาาาา"เสียงเธอครางกระเส่าแล้วเชิดหน้าขึ้นพลางขยับสะโพกสวยเข้าๆ ออก ๆ เพื่อสร้างความหฤหรรษ์ให้กับตัวเอง เสียงความฉ่ำแฉะของร่องสวยที่กลืนกินท่อนเอ็นใหญ่ดังออกมาอย่างชัดเจน เซนส์กระแทกแท่งรักเข้าสุดออกสุดถี่รัว จนคนตัวเล็กตัวสั่นเทิ้ม เธอกัดริมฝีปาก แหงนหน้ามองเซน
เซนส์คลานขึ้นไปบนเตียงแล้วคร่อมไปที่ร่างเล็กของน้ำฟ้า เขารวบมือทั้งสองข้างของเธอไว้ด้วยฝ่ามือใหญ่เพียงข้างเดียว น้ำฟ้าจ้องมองใบหน้าของเซนส์ที่ตอนนี้ดูเคร่งขรึมและดุดัน เธอสะบัดหน้าหนีเขาทันที เซนส์ถึงกับถอนหายใจพรืด"บอกพี่มาสิ ทำไมถึงดื้อแบบนี้ พี่เคยบอกแล้วไงว่าไม่ให้เข้าใกล้ผู้ชายคนไหน พี่หวง" เซนส์พูดเสียงแข็ง น้ำฟ้าหันหน้ากลับมามองหน้าเซนส์พร้อมกับรอยยิ้มเย้ยหยัน"หวงเหรอคะ หวงในฐานะอะไรอะ" น้ำฟ้ากลืนก้อนสะอื้น"ทำไมถึงถามแบบนั้น""ก็ฟ้าไม่รู้ไงว่าทุกวันนี้ฟ้าเป็นอะไรสำหรับพี่ เป็นแฟน? เป็นคู่นอน? หรือแค่คู่ขา" น้ำฟ้าพูดด้วยแววตาที่เจ็บปวด น้ำตาไหลออกจากหางตา เมื่อนึกถึงคำถามของผู้หญิงที่ชื่อมีย่า ที่ถามว่าเธอเป็นอะไรกับเซนส์ แต่เธอกลับให้คำตอบไม่ได้เซนส์เงียบ เขาจ้องมองคนใต้ร่างที่ตอนนี้เริ่มสะอื้นเบา ๆ แล้ว"หนูเป็นอะไร ทำไมเป็นแบบนี้" เซนส์ขมวดคิ้ว สีหน้าเริ่มเครียด"ถ้าพี่จะหวงฟ้าไม่อยากให้อยู่ใกล้ผู้ชายคนอื่น ไม่ว่าจะหวงในฐานะของคู่นอนหรือคู่ขาก็แล้วแต่ ถ้าอย่างนั้นฟ้าก็มีสิทธิ์หวงเหมือนกันใช่ไหม?" น้ำฟ้ามองจ้องเข้าไปในแววตาของเซนส์ จนเห็นใบหน้าตัวเองสะท้อนอยู่ในดวงตาคู่นั้น