ปฏิญญาลงมาเดินเล่นที่ชายหาดเพียงลำพัง เวลาเย็นแบบนี้แดดอ่อนแสงลงมากแล้ว หาดทรายเม็ดเล็กละเอียดสีขาวสะอาดตา ตัดกับสีฟ้าเข้มของน้ำทะเลที่ทอดยาวไปไกลสุดสายตา เป็นภาพที่สวยงามมากจริงๆ
เด็กสาวถอดรองเท้าฟองน้ำถือไว้เพราะอยากใช้เท้าสัมผัสกับความละเอียดอ่อนของเม็ดทรายที่นุ่มนิ่มนั้นโดยตรง เธอยืนมองขอบฟ้าที่ไกลสุดสายตา แล้วทำให้คิดถึงแม่ปทุมมาศ ร่างเล็กนั่งลงบนหาดทรายในท่าชันเข่า ตอนนี้เวลาที่นี่เกือบจะหกโมงเย็น ที่เมืองไทยคงเกือบจะห้าทุ่มแล้ว คงดึกเกินไปถ้าเธอจะโทรหาแม่มาศในตอนนี้
พอนั่งนึกอะไรเพลินๆ ก็ปรากฏภาพของเออเนสขึ้นในมโนภาพของเธอทันที ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันจนมาถึงวันนี้ เขาก็ยังเป็นผู้ชายคนเดิมที่มักจะทำตัวรุ่มร่ามกับเธอตลอดเวลาที่อยู่กันสองคน แต่ภายนอกถ้าคนอื่นมองจะเห็นเขาอีกลุคหนึ่งซึ่งดูเป็นคนเงียบๆ สุขุม และวางตัวได้ดีในระดับหนึ่ง แต่เธอรู้ดีว่าความจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น
ตลอดเวลากว่าหนึ่งปีที่ผ่านมาก่อนที่เธอจะเรียนจบ เขามักจะบินไปๆ มาๆ ระหว่างฝรั่งเศสกับไทย เพื่อไปเยี่ยมเซดริกและครอบครัวของเธอเป็นประจำ
เธอถามตัวเองว่าทำไมเธอถึงยอมให้เขาถึงเนื้อถึงตัวมาตลอด แล้วเธอก็ยอมรับกับใจตัวเองไม่นานมานี้ ว่าเธอ ชอบเขา ชอบมากเสียด้วย แต่เธอไม่อาจคาดเดาความรู้สึกที่แท้จริงของเขาได้เลย
"หนีมานั่งตรงนี้เอง เดินหาตั้งนาน" เออเนสนั่งลงข้างๆ เด็กสาว แล้วเอียงคอมองเธอที่กำลังมองขอบทะเลกว้างด้านหน้าอยู่อย่างนั้น
"คิดถึงแม่เหรอ"
เออเนสเอ่ยถามเมื่อเห็นเด็กสาวดูซึมๆ ไป เขาจับคางเล็กน่ารักนั้นให้หันมามองใบหน้าหล่อเหลาของเขาเพื่อสบตากับเขาตรงๆ ดวงตากลมโตของเธอมีน้ำใสๆ คลอที่หน่วยตา แล้วรวมกันไหลลงมาอาบแก้มใส เขาไล้ข้อนิ้วแกร่งเพื่อเช็ดน้ำตาให้เด็กสาว แล้วขยับเข้าไปใกล้ร่างเล็ก โอบกอดเธอไว้อย่างปลอบโยน
นานหลายนาทีที่ปฏิญญานั่งลงซบกับอกแกร่งของเขาอยู่แบบนั้น จนพระอาทิตย์เริ่มจะตกดิน
"พระอาทิตย์ตกแล้ว สวยจังเลยค่ะ"
เด็กสาวพูดขึ้นเบาๆ เออเนสปล่อยให้เด็กสาวนั่งชมความสวยงามของพระอาทิตย์ตกอยู่ครู่ใหญ่ก่อนที่จะชวนเธอขึ้นไปเตรียมตัวสำหรับดินเนอร์มื้อพิเศษที่เขาสั่งให้ทางโรงแรมจัดให้ที่สระว่ายน้ำส่วนตัวที่ชั้นบนสุดของโรงแรม
อาหารชั้นดีกับไวน์ชั้นเลิศ พร้อมกับบรรยากาศแสนโรแมนติคบนตึกชั้นบนสุดที่สูงหลายสิบชั้นของโรงแรมหรู ทำให้ปฏิญญาผ่อนคลายจากการคิดถึงบ้านลงได้มาก เธอคอยบอกตัวเองเสมอว่าต้องเข้มแข็งและต้องเรียนให้จบเพื่ออนาคตที่ดีของตัวเอง
"ดื่มไวน์หน่อยมั้ย" เออเนสส่งแก้วไวน์ให้กับเด็กสาว
"ไม่ดีกว่าค่ะ น้องญาดื่มไม่เป็น"เธอส่ายหน้าและไม่ยอมรับมัน
"ที่นี่อากาศหนาวเย็น ดื่มไวน์จะช่วยให้ร่างกายเธออบอุ่นขึ้นนะ ลองดูสิ" เออเนสส่งแก้วให้อีกครั้งพลางเลิกคิ้วขึ้นสูงเป็นการเชื้อเชิญ
"ก็ได้ค่ะ" ปฏิญญารับแก้วไวน์มาแบบเสียไม่ได้ เพราะเกรงใจคนรินให้ เธอสูดกลิ่นหอมแล้วค่อยๆ ลองจิบดู
"อืมม.. รสชาติก็ไม่ได้แย่" เด็กสาวคิดในใจ เมื่อกลืนไวน์ไปแล้วเธอก็รู้สึกอุ่นท้องขึ้นจริงๆ เธอจึงขอเติมไวน์เรื่อยๆ จนเออเนสต้องปราม
"เธอเพิ่งดื่มครั้งแรก อย่าดื่มเยอะ เดี๋ยวก็เมาหรอก"เออเนสหยิบแก้วไวน์ที่เธอส่งมาให้แล้ววางไว้บนโต๊ะ ไม่ยอมรินให้เธออีก
"ทามมายม่ายรินมาให้น้องญาอีกคะ งกหราาา วายขวดแค่หลักหมื่นแค่เนี้ย.. ขนหน้าแข้งพี่จาร่วงรึงายยย" เด็กสาวพูดยานคาง มองเขาตาขวาง
"หึ ..รั้นดีนักนะ เดี๋ยวถ้าเมาฉันจะปล่อยให้นอนอยู่ที่นี่ ไม่แบกกลับห้องหรอกนะ" เขาขู่คนตัวเล็ก แต่ก็ยอมรินไวน์ส่งให้เด็กสาว
จนไวน์หมดไปเกือบสองขวด เออเนสเห็นว่าคนตัวเล็กดูท่าจะไม่ไหวจริงๆ
"นี่..พอเถอะ เธอดื่มเยอะแล้ว เดี๋ยวฉันพาไปส่งที่ห้อง" เออเนสพูดพร้อมกับค่อยๆ พยุงร่างเล็กให้ลุกขึ้นมา น้องญาแขนขาอ่อนเหมือนจะหมดแรง แต่เธอก็ยังมีสติครบถ้วนแค่รู้สึกว่าโลกมันแกว่งๆ พิกล
"โอ้ย!! ทามมายร้อนจางงง" เด็กสาวบ่น แล้วสะบัดมือออกจากร่างแกร่งและเดินไปที่สระว่ายน้ำ เออเนสรีบเดินตามไปทันที
"เธอจะทำอะไร?" เขาถามเมื่อเห็นคนตัวเล็กกำลังถอดกางเกงยีนส์ข้าสั้นสีดำนั้นออกจากตัว
"ก็มันร้อนอ่าาา .. จาลงน้ำ มันร้อน" เธอตอบเสียงงานคาง พร้อมกับกางเกงขาสั้นที่หลุดออกจากตัว
คนตัวเล็กเหลือแค่ชุดบอดี้สูทแขนสั้นที่ลักษณะคล้ายชุดว่ายน้ำอยู่แล้ว เธอนั่งที่ริมสระฝั่งที่น้ำตื้น แล้วลงไปในสระทันที
พรึ่บบบ.. เออเนสถอดเสื้อและกางของตัวเองออก เหลือแต่บ็อกเซอร์ตัวเดียว เพื่อเตรียมพร้อมหากเกิดอะไรกับคนตัวเล็ก แล้วนั่งดูเธอดำผุดดำว่ายในสระฝั่งตื้นๆ นั้น
"หายร้อนรึยัง ถ้าหายแล้วก็ขึ้นมา จะได้กลับห้อง เดี๋ยวก็ได้เป็นหวัดหรอก" เขาเอ่ยถามเด็กสาวที่ยังคงนั่งแช่น้ำคอตกอยู่อย่างนั้น แต่เธอไม่ยอมตอบ
"นี่..ปฏิญญา เธอไม่ได้ยินที่ฉันถามรึไง" เออเนสถามอีกครั้ง แต่คำตอบคือ...เงียบ เออเนสจึงค่อยๆเดินลงไปในสระน้ำตื้นที่คนตัวเล็กนั่งคอตกอยู่ เขาก้มลงมองใบหน้าแดงซ่านด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ของเธอแล้วถึงกับส่ายหน้า
"นี่เธอหลับเหรอ .. เหอะ! หลับไปได้ยังงัยเนี่ย" เออเนสส่ายหัวให้กับความเมาแล้วรั่วของหญิงสาว
ร่างสูงอุ้มคนตัวเล็กในสภาพตัวเปียกปอน พาเดินกลับไปยังห้องพักของเธอ แล้ววางร่างเล็กไว้ที่อ่างอาบน้ำ
"ทำไงดีล่ะทีนี้ ปล่อยไว้แบบนี้คงได้ปอดบวมตาย เห้อ!!! "
ร่างสูงนั่งลงที่ขอบอ่างอาบน้ำ เขาคงต้องรีบช่วยคนตัวเล็กเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่จะเป็นหวัดไปจริงๆ เขามองดูคนตัวเล็กที่กำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่ ผิวเนื้อนวลเนียนที่โผล่พ้นชุดบอดี้สูทมานั้นทำให้ใจของชายหนุ่มเต้นแรงผิดปกติ เขารู้ดีว่าชุดบอดี้สูทแบบนี้มันต้องถอดกระดุมตรงไหน .. นั่นแหละ ที่ทำให้เขาใจเต้นรัวเป็นกลองเพลอยู่ตอนนี้
" หนาววว~~หน่าวอ่าาาา"
เสียงคนตัวเล็กเพ้อเบาๆ เออเนสตัดสินใจลงไปนั่งในอ่างอาบน้ำ แล้วแกะกระดุมตรงเป้าชุดบอดี้สูทออกจนเห็นแพนตี้ลายลูกไม้สีขาวตัวจิ๋วที่ตอนนี้กำลังเปียกน้ำ ทำให้เห็นไปถึงไหนต่อไหน แล้วถอดชุดบอดี้สูทออกทางศีรษะ ทันทีที่ชุดถูกถอดออก ทรวงอกอวบใหญ่ก็อวดโฉมสู่สายตาของชายหนุ่มทันที
Write Tall: โอ้ย.. อีน้องเมาไวน์แล้วสิ ทีนี้จะทำไงดี อีพี่จะทำอะไรน้องมั้ยนะ 🤔🤔🤨
"อื้อ~ หนาวววว" คนตัวเล็กนั่งคอพับอยู่ในอ่างอาบน้ำในสภาพกึ่งเปลือย มีแพนตี้ตัวน้อยกับบราแบบเกาะอกปกปิดของสงวน เออเนสถอนหายใจยาวเพื่อสกัดกั้นอารมณ์ของตัวเอง เขาค่อยๆ ถอดบราและแพนตี้ตัวน้อยออกจากเรียวขาสวย แล้วเปิดน้ำอุ่นเพื่อล้างหน้าตาเนื้อตัวแล้วอาบน้ำให้กับเธอ เสร็จแล้วก็นำผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาห่อหุ้มร่างเปลือยขาวโพลนนั้น แล้วรวบร่างขึ้นอุ้มไปยังเตียงนอนขนาดใหญ่ร่างแกร่งค่อยๆ วางคนตัวเล็กลงแล้วปลดผ้าเช็ดตัวออกเพื่อจะเช็ดตัวและสวมชุดใหม่ให้ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร คนตัวเล็กก็ดิ้นไปมามือไขว่คว้าสะเปะสะปะ"อื้มๆๆ .. หนาววว"มือเล็กควานหาผ้าห่มเพราะรู้สึกหนาว เมื่อมือสัมผัสถูกผ้าเช็ดตัวที่เออเนสถืออยู่เธอก็ดึงเข้าหาตัวอย่างแรงจนเออเนสล้มลงบนที่นอนหนาหนุ่มแล้วคร่อมร่างเล็กนั้นไว้พอดี ใบหน้าของเธอและเขาแนบชิดกัน จมูกชนจมูก ดูเหมือนคนตัวเล็กพอจะรู้สึกตัวขึ้นมาบ้างแล้ว เธอค่อยๆ ปรือตาขึ้นมามองเจ้าของลมหายใจอุ่นๆ ที่กำลังหายใจรดใบหน้าเธออยู่ในระยะประชิด"พะ..พี่เออเนส"ริมฝีปากรูปกระจับอวบอิ่มเผยอน้อยๆ เมื่อเอ่ยเรียกชื่อชายหนุ่มที่ตัวเองแอบมีใจให้ เขากำลังมองเธอด้วยสายตาแห่งความปรารถนาที่ปิดไม่มิ
เด็กสาวทำท่าจะขยับสะโพกถอยหนีเมื่อรู้สึกได้ถึงความคับแน่น และเจ็บแปลบบริเวณกึ่งกลางกายสาว จนเออเนสต้องค่อยๆ ปลอบประโลมเธออีกครั้ง"ไม่ต้องกลัว อย่าเกร็งนะ เจ็บนิดเดียว"เขากระซิบเสียงแหบพร่าที่ใบหูของเธอ แล้วประกบริมฝีปากหนาได้รูปนั้นที่ปากสวยของเธออีกครั้ง เพื่อให้เด็กสาวผ่อนคลายลงอีกสักหน่อย ริมฝีปากอุ่นชื้นเลื่อนลงมาโลมเลียดูดดึงยอดปทุมถันอวบใหญ่นั้นอีกครั้ง ฝ่ามือแกร่งโลมไล้ไปทั่วผิวกายนุ่มนิ่มหอมกรุ่น ในขณะที่ร่างเล็กกำลังตกอยู่ในวังวนของความเสียวซ่านอยู่นั้น เออเนสก็ดันแท่งรักขนาดใหญ่เข้าไปในช่องทางรักคับแคบของเด็กสาวจนสุดลำ "สวบบ .. ปึ่ก" "กรี๊ดดดดดดด " เสียงร้องแสดงความเจ็บปวดเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมลุกล้ำเข้าไปภายในใจกลางสาวที่ไม่เคยมีผู้ใดล่วงล้ำมาก่อน เด็กสาวน้ำตาไหล หายเมาเป็นปลิดทิ้ง"อึ่ก..ฮือ..พี่เออเนสทำอะไร น้องญาเจ็บ" เด็กสาวเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลจากหางตา"ซี๊ดดดด...อืมมมม" เสียงครางทุ้มต่ำของเออเนสดังขึ้นในลำคอ เขารู้สึกคับแน่นที่แท่งรักและอยากจะขยับมันใจจะขาด"ฉันจะค่อยๆ ขยับนะ ไม่เจ็บแล้ว ไม่ต้องเกร็งนะ"เสียงทุ้มนุ่มนวลค่อยๆ เอ่ยขึ้นมาเพื่อไม่ให้เด็กสาวต้องเป็นกังวลใจ
น้องญานอนตัวแข็งทื่อเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเออเนสเมื่อคืนมันเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ความฝันอย่างที่เธอเข้าใจ“จะลุกไปไหนแต่เช้า”เออเนสเอ่ยถามคนตัวเล็กพลางกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นแล้วใช้จมูกโด่งซุกไซร้ไปตามซอกคอที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จนปฏิญญาต้องหดคอหนีด้วยความเสียวปนเขินอาย“ปล่อยน้องญาได้แล้วค่ะ น้องญาหิวแล้ว” คนตัวเล็กเอ่ย เพราะตอนนี้ท้องของเธอร้องประท้วงด้วยความหิวจริง ๆ เธอเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนผนัง บอกเวลา 11.00น.แล้ว“เดี๋ยวสั่งอาหารมาให้ นิ่งเป็นหลับขยับเป็นกินจริง ๆ ด้วย เด็กอะไร”เออเนสบ่นแบบไม่จริงจังนัก แต่ก็ยอมคลายอ้อมแขนจากร่างเด็กสาว แต่ยังไม่ปล่อยให้เธอลุกออกไป ในขณะที่เขาเองก็กดโทรศัพท์สั่งอาหารให้เธอทันทีหลังจากสั่งอาหารเรียบร้อยคนตัวเล็กจึงออกมาจากอ้อมกอดนั้นได้ เธอลุกขึ้นยืนหวังจะเดินไปยังห้องน้ำ แต่ก็ต้องหยุดทันที เพราะเวลาที่เธอขยับแต่ละครั้งจะรู้สึกเจ็บที่จุดกลางกายสาวเป็นอย่างมาก เธอทำหน้าเบ้จนเออเนสลุกขึ้นแล้วเดินมาจ้องหน้าเธอใกล้ ๆ ใบหน้าเรียวเล็กนั้นแดงก่ำด้วยความเขินอาย“เป็นยังไง เดินไม่ไหว เจ็บล่ะสิ?”เออเนสพูดแค่นั้นก็ลุกขึ้นทั้งที่ร่างกายเปลือ
หลังจากอาหารถูกนำมาจัดเตรียมให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เออเนสก็หยิบเสื้อผ้าจากกระเป๋าของเขาที่เพิ่งไปขนมาจากห้องตัวเองมาไว้ห้องนี้เมื่อตอนเช้า ขึ้นมาใส่ แล้วเดินไปที่ห้องนอนที่คนตัวเล็กยังคงนอนอยู่ในท่าเดิม ร่างแกร่งนั่งลงบนเตียงแล้วเอื้อมมือไปเขย่าร่างเล็ก"ปฏิญญา ตื่นได้แล้ว อาหารมาแล้วนะ""อื้อๆๆ"คนตัวเล็กบิดร่างไปมาแล้วลุกขึ้นนั่งด้วยความงัวเงีย เออเนสเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของเธอ แล้วหยิบชุดลำลองของเด็กสาว ซึ่งเป็นเสื้อยืดตัวยาวมาสวมใส่ให้ ในขณะที่เธอยังหาวหวอดๆ อยู่ หลังจากนั้นก็รวบร่างเล็กขึ้นอุ้มแล้วพาเดินไปยังโต๊ะอาหาร"พี่เออเนสปล่อยเถอะค่ะ น้องญาเดินเองได้" เด็กสาวพูดไปพลางก้มหน้าซุกอกแกร่งด้วยความเขินอาย แต่คนตัวโตก็ยังก้าวเดินพรวดๆ ไปยังเก้าอี้แล้วจัดแจงวางคนตัวเล็กให้นั่งลง ส่วนเขาเดินอ้อมไปนั่งที่ฝั่งตรงกันข้ามหลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้ว น้องญาก็เดินไปยังโซนห้องนั่งเล่นที่ด้านข้างติดกับระเบียง เธอนั่งบนโซฟาตัวยาว แล้วเปิดทีวีดูรายการทั่วๆ ไปเออเนสเดินผ่านคนตัวเล็กออกไปยังหน้าระเบียง เขาจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ ปฏิญญาทำหน้าแปลกใจ เพราะก่อนหน้านี้เธอไม่เคยเห็นเขาสูบบุหรี่มาก่อน ร่
เออเนสดันร่างบางให้นอนราบลงกับเตียงนุ่ม ในขณะที่ริมฝีปากของทั้งคู่ยังคงจูบกันอย่างดูดดื่ม ฝ่ามือหนาแทรกเข้าไปยังชุดนอนกระโปรงบางเบาของหญิงสาว แล้วถอดออกอย่างง่ายดาย ตะขอบราด้านหน้าถูกปลดอย่างชำนิชำนาญด้วยมือเพียงข้างเดียวของชายหนุ่มจมูกโด่งซุกไซร้ไปยังซอกคอหอมกรุ่น ขบเม้มผิวเนียนและจูบไล่เรื่อยลงมาที่หัวไหล่และเนินอก ริมฝีปากอุ่นชื้นเข้าครอบครองยอดปทุมถันสีชมพูแล้วขบเม้มดูดดึงอย่างหิวโหย"จ๊วบบบบบบ" เขาสลับดูดเลียยอดทับทิมสีชมพูสวยทั้งสองข้างไปมาแล้วบีบเคล้นอย่างมันมือ"อื้มมมม" ปฏิญญาครางเสียงหวานในลำคอและเผลอแอ่นอกให้เขาดูดเลียอย่างเต็มอกเต็มใจเมื่อดูดกินสองเต้าเต่งตึงจนเป็นที่พอใจแล้ว ลิ้นร้อนก็ค่อยๆจูบไล่ลงมายังเนินนูนอวบใหญ่ที่เกลี้ยงเกลาของเด็กสาว แพนตี้ลูกไม้ตัวน้อยถูกถอดออกอย่างง่ายดายด้วยฝีมือของเขาอีกตามเคย ลิ้นร้อนตวัดเลียที่รอยแยกอย่างช้าๆ คล้ายๆ กับจะทรมานคนตัวเล็กให้พลุ่งพล่านด้วยแรงปรารถนา"อ๊ะ..~อ๊าาา" ร่างบางร้องคราง เธอยกสะโพกร่อนไปมาด้วยความเสียวที่ลิ้นร้อนละเลงเลีย สลับกับดูดดุนที่ร่องสวาทแบบเน้นๆเออเนสผละจากร่างเล็กและลุกขึ้นจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองทันที แท่งร
หลังจากกินยาตามคำสั่งเออเนสเรียบร้อยแล้ว น้องญาก็เดินเข้าไปในบ้านที่ควรจะเรียกว่าคฤหาสน์น่าจะเหมาะสมกว่า เด็กสาวเดินไปหามัมมาริสาที่กำลังนั่งอ่านหนังสือสบายๆอยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น"กินข้าวเรียบร้อยแล้วเหรอลูก" นางเอ่ยทัก คนตัวเล็กนั่งลงใกล้ๆ กับหญิงสูงวัยกว่าที่ท่านกำลังมองเธอด้วยสายตาเอ็นดูพลางใช้มือลูบศีรษะเล็กๆ ของเธอ"กินแล้วค่ะมัม วันนี้น้องญาตื่นสายมากๆ เลยไม่ได้ทำอาหารไทยให้มัมทานเลย ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเย็นนี้น้องญาจะทำให้ทานอย่างสุดฝีมือเลยค่ะ" เด็กสาวพูดแล้วยิ้มละไมให้กับมัมมาริสา"วันนี้น้องญาจะทำแกงจืดเต้าหู้หมูสับของโปรดของแด๊ดด้วยค่ะ แต่ไม่รู้พี่เออเนสจะกลับบ้านหรือเปล่า กุ้งกระเทียมน้องญาจะเป็นหม้ายไหมหนอ" น้องญาเอ่ย ท้ายประโยคเธอทำเสียงอ่อยๆ มัมมาริสาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาลูกชายทันที"ครับมัม" เสียงปลายทางรับสายแล้วตอบกลับมาสั้นๆ ตามนิสัยของเขา"เย็นนี้กลับมาทานข้าวบ้านไหมลูก น้องจะได้ทำกุ้งกระเทียมของโปรดไว้ให้" มัมมาริสาเอ่ยถาม"ครับ" สั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความ"พี่เขาบอกว่าเย็นนี้จะกลับบ้านนะลูก เดี๋ยววันนี้หนูไปซื้อของที่ห้างกับพี่เซนส์แล้วกันนะจ๊ะ พอดีช่วงบ่ายมัมมีน
เออเนสเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของปฏิญญา เขาหลุบตาลงมองเซนส์ที่กำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเลือดให้กับเธออยู่แล้วจึงส่งผ้าเช็ดหน้าของเขาให้กับเซนส์ แต่ปฏิญญากลับรับมาเองเสียก่อน"ขอบคุณสำหรับผ้าเช็ดหน้านะคะ ดิฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ คุณเออเนสเก็บผ้าเช็ดหน้าไว้ดีกว่า มันจะเปื้อนเสียเปล่าๆ" ปฏิญญาแค่นเสียงตอบกลับ แล้วจ้องลึกไปยังดวงตาสีน้ำตาลเข้มของอีกฝ่ายอย่างกับอยากจะค้นหาความรู้สึกบางอย่างจากดวงตาของเขา แต่เธอกลับพบแค่เพียงความว่างเปล่าฝ่ามือเรียวของสาวสวยข้างกายเออเนส เป็นฝ่ายเอื้อมมาหยิบผ้าเช็ดหน้าของชายหนุ่มคืนมาด้วยตนเอง สองสาวประสานสายตากันแว่บหนึ่ง ปฏิญญาเห็นแววตาเย้ยหยันในดวงตาของเจ้าหล่อน ที่มองมาอย่างเปิดเผย"น้องญาเลือดออกเยอะเลยครับ แผลคงจะลึกเอาการอยู่ เดี๋ยวพี่พาไปหาหมอดีกว่าครับ" เซนส์กล่าวในขณะที่กดห้ามเลือดไว้ โดยมีพนักงานในร้านนำกล่องปฐมพยาบาลเบื้องต้นมาให้ เขาจึงรีบทำแผลให้เธอไว้ชั่วคราวก่อน"ผมขอตัวพาน้องญาไปโรงพยาบาลก่อนนะครับนาย"เซนส์พูดกับผู้เป็นนาย ในขณะที่ออเนสจ้องมองเซนส์ด้วยแววตาที่ชายหนุ่มเข้าใจความรู้สึกของผู้เป็นนายได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ใครจะดูไม่ออก แต่เขาในฐานะเ
น้องญาเอามือเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างลวกๆ ในขณะที่เซนส์เองกำลังนั่งมองเธออยู่ เขาเข้าใจความรู้สึกของเด็กสาวดี และเขาเองก็รับรู้ถึงความสัมพันธ์ของเออเนสกับปฏิญญาด้วย เพราะเขาเป็นคนไปซื้อยาคุมฉุกเฉินให้เธอตามคำสั่งของเออเนสด้วยตัวเอง ในขณะที่เออเนสก็กำชับกับเขาให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับตามความต้องการของปฏิญญา"น้องญาทานยาเม็ดเล็กเม็ดแรกที่พี่ให้ไปเมื่อตอนกี่โมงครับ" เซนส์เอ่ยถามเด็กสาว เธอตกใจในคำถามที่ชายหนุ่มถามจนหน้าซีดเผือด"พี่เซนส์..ระ..รู้เหรอคะ" น้องญาเอ่ยถามเสียงตะกุกตะกัก"ครับ พี่เป็นคนไปซื้อยาให้เองตามคำสั่งของนาย แต่น้องญาไม่ต้องเป็นห่วงเพราะพี่จะไม่บอกใคร"ปฏิญญารู้สึกหน้าชาขึ้นมาอีกเมื่อรู้ว่าแม้กระทั่งยาคุมเขาก็ยังใช้ให้ลูกน้องคนสนิทไปซื้อให้แทน เธอปวดหนึบในหัวใจไม่รู้กี่ครั้งแล้วในวันนี้"กินไปตอนบ่ายสองโมงค่ะ""ถ้าอย่างนั้นตอนตีสองพี่จะโทรมาปลุกนะ""ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวน้องญาตั้งปลุกโทรศัพท์เอง ขอบคุณพี่เซนส์มากเลยนะคะ"ปฏิญญากล่าวเสียงเครือ ยิ่งเซนส์ดูแลและเป็นห่วงเธอมากเท่าไรเธอก็ยิ่งปวดใจมากเท่านั้น เพราะสิ่งเหล่านี้เธอกลับไม่ได้รับจากเออเนสเลยแม้แต่น้อยเช้าวันต่อมา
เซนส์อาสาช่วยปฏิญญาพาเออเนสขึ้นมายังห้องนอนชั้นบนของคฤหาสน์ ซึ่งกว่าจะพาขึ้นมาได้ก็ต้องหิ้วปีกกันขึ้นมาอย่างทุลักทุเลเต็มทน ร่างแกร่งของเออเนสทิ้งตัวลงบนที่นอนทันที"ขอบคุณพี่เซนส์มากเลยนะคะ ดูท่าทางพี่เออเนสจะเป็นเยอะมากเลยนะเนี่ย" ปฏิญญากล่าวขอบคุณเซนส์ก่อนที่เขาจะขอตัวลงไปข้างล่าง ปฏิญญาพลิกตัวเออเนสให้นอนหงายและหนุนหมอนให้สูงขึ้น แต่เออเนสขอขยับตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง เขาบอกว่านั่งแบบนี้แล้วไม่เวียนหัว ปฏิญญาก็เลยตามใจเขา เธอเอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อและคลายเข็มขัดให้เขา จะได้ไม่อึดอัด เออเนสมองแฟนสาวตรงหน้าพร้อมกับเอามือลูบศรีษะเล็กๆ ของเธอเบาๆ"พี่ไม่เป็นอะไรมากหรอก หนูไม่ต้องเป็นห่วง ดูสิ หน้าจ๋อยเลย" เออเนสเอามือเกาคางปฏิญญาเพื่อหยอกล้อเธอให้คลายกังวล"อาการเป็นยังไงบ้างคะ ดีขึ้นบ้างไหม""ก็ดีขึ้นนิดหน่อย ไม่เวียนหัวแล้ว แต่ยังมีคลื่นไส้อยู่บ้างครับ นึกถึงกุ้งเผาแล้วพี่นี่ขนหัวลุกเลย"ปฏิญญาขึ้นไปนั่งบนเตียงแล้วโอบกอดคนรักไว้ เออเนสซุกใบหน้าลงที่ซอกคอของเธอ เขารู้สึกดีขึ้นมากเมื่อได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากร่างกายของแฟนสาว"อดทนหน่อยนะคะ..มัมบอกว่าแพ้แป๊บเดียว เดี๋ยวก็หายค่ะ" ปฏิญญ
สองปีต่อมา วันนี้เป็นวันรับปริญญาของปฏิญญา ทุกคนต่างมาร่วมแสดงความยินดี ทั้งมัมมาริสา แด๊ดโนแอล เซนส์ที่มาร่วมยินดีทั้งกับน้องสาวสุดที่รักและน้ำฟ้าแฟนสาวของเขาที่รับปริญญาพร้อมกัน แม่ปทุมมาศและป้าวิมาลาแม่ของมาลารินทร์ ที่เดินทางมาจากเมืองไทยด้วยเครื่องบินส่วนตัวของมาร์ตินกรุ๊ปพร้อมกับเซดริกและมาลารินทร์ที่ตอนนี้เธอกำลังตั้งท้องลูกคนที่สาม อายุครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว ฟาเบียนลูกชายคนโตอายุหกขวบ ส่วนฟาบริซน้องชาย อายุได้ ห้าขวบหลังจากงานพิธีรับปริญญาเสร็จสิ้น ทุกคนก็มีนัดเลี้ยงฉลองกันที่คฤหาสน์มาร์ตินในช่วงเย็นโดยมีน้ำฟ้ามาร่วมเลี้ยงฉลองด้วย เพราะคุณพอลพี่ชายของเธอกับคุณแม่ติดงานเซ็นสัญญากับลูกค้าที่แอลเอ จึงจะกลับมาเลี้ยงฉลองย้อนหลังให้ในอาทิตย์หน้าบรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข ฟาเบียนกับฟาบริซวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน พวกผู้ใหญ่ต่างก็พูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันตามประสา"พี่รินทร์ท้องใหญ่มากเลยค่ะ ห้าเดือนจริงเหรอคะเนี่ย" ปฏิญญาค่อยๆ เอามือลูบท้องของพี่สาว มันแข็งมากๆ จังหวะหนึ่งเธอรู้สึกเหมือนมีอะไรดุ๊กดิ๊กตุงๆ ออกมาจากท้องของพี่สาวจนเธอรู้สึกได้"อุ๊ย!! น้องเซลีนดิ้นทักทายน้าเหรอคะเนี่ย
เออเนสวางปฏิญญาลงบนเตียงอ่อนนุ่มแล้วคลานขึ้นไปครอมร่างเล็กนั้นไว้ ทั้งสองจ้องมองตากันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาอย่างเต็มเปี่ยม เออเนสไล้ปลายนิ้วไปยังกลีบปากเต็มอิ่มของเธอเบาๆ เขาก้มลงประทับริมฝีปากหนาลงไปยังริมฝีปากอวบอิ่ม แล้วขบเม้มกลีบปากสวยอย่างแผ่วเบา ลิ้นร้อนค่อยๆ สอดแทรกเข้าไปในโพรงปากเล็กแล้วจูบอย่างดูดดื่ม ปฏิญญายกมือขึ้นคล้องรอบลำคอของเขาพร้อมกับสอดแทรกนิ้วมือเข้าไปในกลุ่มผมดกหนาเบาๆ"อืมมม"เสียงครางทุ้มต่ำของเออเนสดังขึ้นเมื่อความรู้สึกของเขากำลังดำดิ่งสู่ห้วงปรารถนาอย่างลึกซึ้ง ฝ่ามือหนาสอดเข้าไปยังเสื้อชุดนอนแบบกระโปรงของคนใต้ร่างแล้วถอดออกอย่างง่ายดาย เออเนสลากไล้จมูกโด่งดอมดมยังซอกคอหอมกรุ่นแล้วขบเม้มจนเกิดสีดอกกุหลาบ ทุกที่ที่ริมฝีปากหนาลากผ่านทำให้ปฏิญญาร้อนๆ หนาวๆ อย่างบอกไม่ถูก ไรขนอ่อนตามตัวของเธอลุกชัน"อ๊ะ~อ๊าาา"ปฏิญญาร้องครางอย่างเสียดเสียวเมื่อยอดอกสีชมพูระเรื่อนั้นถูกครอบครองและดูดดุนอย่างหนักหน่วงจนเกิดเสียงดังจ๊วบๆ ตลอดเวลา ฝ่ามือหนาของเขาลูบไล้ไปทั่วและหยุดตรงเนินเนื้ออวบอูมเกลี้ยงเกลา นิ้วแกร่งหมุนวนบริเวณยอดเกสรที่ตอนนี้มีน้ำหวานสีใสหล่อเลี้ยงจนเปี
สองเดือนผ่านไป "วันนี้เลิกเรียนเร็ว ไปเดินห้างกันมั้ย?" ปฏิญญาเอ่ยชวนน้ำฟ้า เพราะวันนีอาจารย์ยกคลาสช่วงบ่ายเลยทำให้มีเวลาว่างเพิ่มขึ้น"ก็ดีเหมือนกันนะ วันนี้วันศุกร์ เดี๋ยวขากลับฉันจะได้แวะซื้อของสดไปทำอาหารให้พี่เออเนสเลย""โอเค งั้นเราไปกัน" สองสาวเดินจับมือกันลงมาจากอาคารเรียนเพื่อจะไปยังลานจอดรถ แต่ยังไม่ทันได้เดินออกไปก็ได้ยินเสียงคนเรียกเสียก่อน"ปฏิญญา น้ำฟ้า" สองสาวหันหน้าไปยังเสียงเรียกพร้อมๆ กัน เธอสองคนคุ้นเคยกับเสียงนั้นเป็นอย่างดี"อมารี" ปฏิญญาเอ่ยเสียงเรียกชื่ออย่างแผ่วเบา ตั้งแต่วันนั้นที่เธอไปคุยกับคุณน้าเรื่องค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดและรักษาพยาบาลให้กับอมารีแล้ว เธอก็ไม่เคยติดต่อกลับไปอีกเลย"ฉันอยากขอเวลาคุยด้วยสักหน่อย ขอเวลาให้ฉันสักสิบนาทีได้ไหม?""อืม.. ได้สิ ถ้าอย่างนั้นไปคุยที่คาเฟ่ในมหาลัยก็แล้วกัน"ทั้งสามคนก้าวเข้ามาในคาเฟ่ เลือกที่นั่งตรงมุมสงบเพื่อสะดวกในการพูดคุยกัน หลังจากพนักงานนำเครื่องดื่มมาเสริฟแล้วอมารีก็เป็นฝ่ายเริ่มต้นบทสนทนาทันที"ฉันอยากจะมาขอบคุณที่เธอช่วยชีวิตฉันไว้ ถ้าไม่ได้เธอช่วยเรื่องค่าผ่าตัดป่านนี้ฉันคงตายไปแล้ว" อมารีพูดด้วยเสียงสั่นเครื
ปฏิญญาซุกใบหน้าเล็กเข้ากับแผงอกแน่นๆ ของเออเนส กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเขาและสัมผัสอบอุ่นที่คุ้นเคยนั้นทำให้เธอรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก นานหลายนาทีกว่าใบหน้าสวยจะขยับออกจากอกแกร่งนั้น แต่เออเนสยังคงกอดร่างเล็กไม่ยอมปล่อย"น้องญาไม่โกรธที่อมารีทำกับเราเหรอครับ" เขาถามเธอพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้"ตอนแรกก็โกรธนะคะ เพราะคิดว่าทำไมเธอต้องหักหลังน้องญาด้วยทั้งๆ ที่เราเป็นเพื่อนกัน แต่สิ่งที่เธอเจอมามันคงจะทำให้เธอเจ็บปวดและแค้นมากเลยตัดสินใจทำแบบนั้น ยิ่งตอนนี้เธออยู่ในอันตรายเป็นตายเท่ากัน น้องญาเลยอยากให้พี่เออเนสช่วย อย่างน้อยก็ถือเป็นการไถ่โทษที่พี่เคยทำให้เธอเสียใจ อีกอย่างหนึ่งน้องญาสงสารพ่อแม่ของเธอค่ะ ถ้าเธอเป็นอะไรไปท่านคงเสียใจมาก น้องญาเคยสูญเสียพ่อมาก่อน น้องญาเข้าใจความรู้สึกนั้นดีค่ะ"เออเนสจ้องมองไปที่ดวงหน้าสวยจิ้มลิ้มตรงหน้า ปฏิญญาเป็นผู้หญิงที่จิตใจดีคนหนึ่ง จะมีสักกี่คนที่จะคิดเห็นใจคนที่ตั้งใจทำร้ายเพื่อนแบบเปิดเผยอย่างอมารี"ได้ครับ ถ้าหนูอยากให้พี่ช่วย พี่ก็จะตามใจหนู แล้วต้องใช้เงินเท่าไหร่" เออเนสเอ่ยถามพร้อมกับใช้นิ้วเกลี่ยผมนุ่มของเธอทัดที่ใบหู ปฏิญญาส่งใบแจ้งค่าใช้จ่ายให
"ขอโทษนะครับ คุณใช่ญาติของคุณอมารีหรือเปล่าครับ" เสียงคุณหมอเอ่ยถามขึ้นทำให้ทุกคนหันกลับไปมองยังคุณหมอทันที"ใช่ค่ะ ฉันเป็นแม่ของอมารีค่ะ""เมื่อตอนเช้ามืดคนไข้มีอาการชัก อาเจียน แล้วก็หมดสติ มีอาการหัวใจหยุดเต้นซึ่งทางทีมแพทย์ได้ปั๊มหัวใจคนไข้ จนหัวใจกลับมาเต้นเป็นปกติ แพทย์จึงให้ตรวจเอ็กซเรย์สมองพบว่ามีเส้นเลือดฝอยในสมองผิดปกติครับ ซึ่งเส้นเลือดฝอยนั้นเกิดแตกขึ้นทำให้มีเลือดออกมากดทับเนื้อสมอง" คุณหมออธิบายในขณะที่แม่ของอมารีเริ่มจะร้องไห้"แล้วแบบนี้จะทำยังไงดีคะคุณหมอ" แม่ของอมารีเอ่ยถามทั้งน้ำตา"เราต้องผ่าตัดเพื่อเอาก้อนเลือดที่กดทับตรงเนื้อสมองออก วิธีนี้จะทำให้ผู้ป่วยพ้นขีดอันตรายได้ แต่ถ้าไม่ผ่าตัดก็อาจทำให้อาการทรุดลงหรืออาจเสียชีวิตได้ครับ" คุณหมออธิบายจบแม่ของอมารีก็ทรุดตัวลงนั่งแล้วร้องไห้ออกมาทันที"เสียค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไรคะหมอ" แม่ของอมารีเอ่ยถามทั้งที่น้ำตายังนองหน้า ในขณะที่คุณหมอส่งใบรายละเอียดค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ในการผ่าตัดมาให้ นางก็เอื้อมมือไปรับด้วยฝ่ามือที่สั่นเทา"ถ้าญาติคนไข้พร้อมเมื่อไรแจ้งหมอได้ทันทีนะครับ หมอขอตัวก่อนนะครับ" หลังจากคุณหมอเดินจากไป แม่ของอมาร
ปฏิญญาก้าวเดินออกมาโดยมีเออเนสวิ่งตามมาติดๆ ปากก็ยังคงร้องเรียกชื่อเธออยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่เจ็บหรือไม่รู้สึกอะไร แต่เธอกลัว กลัวความเสียใจที่จะเกิดขึ้นซ้ำๆ เหมือนกับครั้งก่อนๆ ที่เธอเคยให้โอกาสเขามาตลอด แต่มันก็ยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ทั้งหมดทั้งมวลไม่เคยพ้นเรื่องผู้หญิงสักที เธอเหนื่อย อยากพัก อยากให้เวลาทั้งหมดกับการเรียนที่เหลือ อีกแค่สองปีเธอก็จะเรียนจบแล้ว และถ้าตามสัญญาของการหมั้นนั้นคือ เมื่อเธอเรียนจบเธอจะต้องแต่งงานกับเออเนส"น้องญา" เสียงมัมมาริสาร้องเรียกทำให้ร่างเล็กชะงักเท้าทันที"มาหามัมกับแด๊ดหน่อยค่ะลูก" ปฏิญญาจำต้องเดินไปยังชุดรับแขกกลางห้องโถงที่มัมมาริสาและแด๊ดโนแอลนั่งอยู่โดยมีเออเนสเดินซึมตามหลังมา"หนูเห็นสิ่งที่พี่เขาให้ดูแล้วใช่ไหมลูก" มัมมาริสาเอ่ยถาม"ค่ะ" ปฏิญญาพยักหน้าตอบ"หนูจะตัดสินใจอย่างไรกับเรื่องนี้ลูก ตอนนี้เราอยู่กันพร้อมหน้าแล้ว มาเปิดอกคุยกันดีกว่านะ หนูคิดเห็นยังไงก็บอกได้เลยค่ะ มัมเคารพการตัดสินใจของหนู" มัมมาริสาถามพร้อมกับเอื้อมมือไปจับมือเล็กอย่างให้กำลังใจ"......"ปฏิญญาก้มหน้านิ่ง เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง"บอกแด๊ดมาเถอะน้องญา แด๊ดเ
หลังจากจัดการธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ววันรุ่งขึ้นมัมมาริสาก็รีบบินกลับทันทีเพราะแด๊ดโนแอลโทรตามไม่หยุด งอแงเป็นเด็กจนมัมมาริสาหัวจะปวดเออเนสกับเซนส์อาบน้ำแต่งตัวลงมานั่งดื่มกาแฟที่ห้องอาหารแต่เช้า วันนี้เขาสองคนต้องรีบจัดการธุระให้เรียบร้อย เผื่อมัมมาริสาส่งข่าวมาให้ไปเคลียร์กับสองสาวจะได้เดินทางได้ทันที"เช้านี้มึงไปประชุมแทนกูด้วยนะไอ้เซนส์" เออเนสออกคำสั่ง"แล้วมึงจะไปไหน?" เซนส์จิบกาแฟแล้วมองหน้าเพื่อนรัก"กูจะไปโรงพยาบาล นี่เพิ่งผ่านมาสามวัน น่าจะยังตรวจสารในร่างกายได้ กูจะใช้เป็นหลักฐานยืนยันกับเมียกูว่ากูโดนวางยา มึงสั่งคนของเราดึงคลิปวงจรปิดช่วงเวลานั้นให้กูด้วย ช่วงเวลาที่กูอยู่ในห้องมันไม่น่าเกินห้านาที เป็นไปไม่ได้ที่เวลาแค่นั้นกูจะมีเซ็กส์กับยัยมารี" " เออเนสยิ้มอย่างมีความหวัง"ถ้างั้นตอนบ่ายมึงอยู่คุยกับคู่ค้าของแด๊ดที่นัดไว้แทนกูด้วย กูจะไปคุยกับอามิยาให้รู้เรื่องสักที"สามวันที่ผ่านมานี้เซนส์กับเออเนสโทรหามัมมาริสาทุกวัน เพื่อเร่งเร้าให้มัมคุยกับสองสาวให้ยอมเคลียร์ใจกับพวกเขาเสียที เพราะพวกเขาคิดถึงสองสาวจนแทบไม่เป็นอันหลับอันนอน"เป็นงัยบ้างคะเด็กๆ อยู่เที่ยวที่นี่มาสี่ห
"แล้วน้ำฟ้าล่ะลูก มีปัญหาอะไรหรือเปล่า มัมเห็นร้องไห้ไม่หยุดเลย" มัมมาริสาหันมาถามน้ำฟ้าที่ผ่านการร้องไห้มาจนตาบวมช้ำ"ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณน้า" น้ำฟ้ากล่าวปฏิเสธ"น้ำฟ้าเป็นแฟนของพี่เซนส์ค่ะมัม เขาสองคนคบกันมานานเป็นปีแล้วค่ะ" ปฏิญญาเป็นฝ่ายพูดขึ้นเอง เธออยากให้มัมมาริสาได้รับรู้สถานะของเพื่อนรักของเธอ และตัวเธอเองก็อยากรู้เรื่องของเซนส์จากปากของมัมมาริสาด้วย"จริงเหรอลูก มัมดีใจจังเลยที่พี่เซนส์ผู้เย็นชาของมัมมีแฟนกับเขาสักที ถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันแล้วนะ เพราะพี่เซนส์ก็ถือว่าเป็นลูกคนนึงของมัมเหมือนกัน แบบนี้มัมก็จะได้สะใภ้ทีเดียวสองคนเลยสิ โชคดีจัง" มัมมาริสายิ้มพร้อมกับลูบศรีษะเล็กของน้ำฟ้าด้วยความเอ็นดู"เอ่อ.. คือ.. หนูจะเลิกกับพี่เซนส์แล้วค่ะ" น้ำฟ้าพูดเสียงสั่นเครือ"อ้าว.. ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะลูก พี่เซนส์ไปทำอะไรไม่ดีกับหนูน้ำฟ้าคะ" น้ำฟ้าเงียบไม่กล้าตอบออกไป ได้แต่ก้มหน้านิ่งๆ"น้ำฟ้าไปเห็นพี่เซนส์อยู่กับผู้หญิงคนอื่นในห้องพักของพี่เซนส์ที่ Max Martin ค่ะ เธอชื่อ อามิยา" ปฏิญญาเป็นฝ่ายตอบคำถามนี้แทนน้ำฟ้า"อามิยาเหรอ? ... อ้อ.. ผู้หญิงคนนี้เคยเป็นแฟนกับเซนส์ตอนเรีย