น้องญานอนตัวแข็งทื่ออยู่ในอ้อมกอดของเออเนส เธอสบสายตาของชายหนุ่ม สายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยแรงปรารถนาอย่างปิดไม่มิด
"รังเกียจฉันเหรอ" เขาเอ่ยถามหลังจากที่เธอยังนอนตัวแข็งทื่อและดันอกแกร่งของเขาให้ห่างจากตัวเธอ
"ปะ..เปล่าค่ะ ไม่ได้รังเกียจ แต่น้องญาว่ามันไม่เหมาะสมที่จะทำแบบนี้ คะ..คือ.. น้องญายังเด็กอยู่เลยค่ะ" หญิงสาวรีบตอบเพราะกลัวเขาเข้าใจผิด ใครจะไปรังเกียจชายหนุ่มรูปหล่อ สะอาดเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบเขาล่ะ
"ปีนี้อายุเท่าไหร่" เขาถามพลางใช้มือลูบผมที่ปรกหน้าของเธอออกและไล้ข้อนิ้วไปตามกรอบหน้าเนียนใสของหญิงสาว
"19 ค่ะ อีกสามเดือนก็จะเต็ม 20" เธอตอบชายหนุ่ม หัวใจเต้นแรงแทบจะทะลุออกมานอกอก เกิดมาจนป่านนี้ยังไม่เคยนอนร่วมเตียงกับผู้ชายคนไหนแบบนี้มาก่อน
"จะ 20 แล้ว ไม่ใช่เด็กแล้วนะ" เขาบอกกับเธอพลางลูบไล้ไปทั่วผิวกายนวลเนียนของเด็กสาว เธอรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ทุกที่ที่เขาสัมผัส เออเนสขยับเข้ามาใกล้จนลมหายใจร้อนของเขาปะทะริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ แต่ก่อนที่เขาจะประทับจูบลงที่ริมฝีปากสวยนั้น เสียงโทรศัพท์ของน้องญาก็ดังขึ้น
กริ้งงงงงงงงงง.... หน้าจอแสดงชื่อมัมมาริสา ปฏิญญาฉวยโอกาสนั้นรีบลุกจากเตียงทันที
"ค่ะมัม" หญิงสาวรับสายเสียงสั่น
"น้องญาเป็นอะไรไปลูก เสียงสั่นเชียว"
"อ้อ. แอร์มันเย็นค่ะมัม" เด็กสาวพูดปดคำโต
"มัมอุตส่าห์วางแผนอย่างดี ดันมามีงานด่วน เลยอดไปเที่ยวกับหนูเลย พี่เออเนสดูแลหนูดีไหม"
"ดีค่ะมัม พี่เขาบอกว่าจะพาไปเดินเล่นชายหาดตอนเย็นค่ะ"
"ดีแล้วลูก เที่ยวให้สนุกนะ ถ่ายรูปสวยๆ มาฝากมัมด้วยล่ะ" มัมมาริสาเอ่ยทิ้งท้ายก่อนที่จะวางสายไป
ปฏิญญาเหลียวมองรอบๆ ห้องอย่างหวาดระแวง เธอไม่เห็นเออเนสในห้องแล้ว เขาคงออกไปตอนที่เธอคุยกับมัมมาริสานั่นแหละ
น้องญาจัดแจงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดบอดี้สูทเสื้อกล้ามสีเนื้ออ่อน ใส่กางเกงยีนส์ขาสั้นสีดำ ผมยาวสลวยถูกถักเป็นเปียหลวมๆ สองข้าง แต่งหน้าโทนสีส้มอ่อน ปัดแก้มสีพีซดูน่ารักสมวัย เมื่อเสร็จเรียบร้อยเธอก็ออกจากห้องไปยังหน้าห้องของเออเนส แล้วกดกริ่งเบาๆ
ปิ๊งป่อง ... ร่างเล็กยืนรออยู่สักครู่ประตูห้องก็ถูกเปิด เออเนสในชุดเปลือยท่อนบน ผ้าขนหนูพันช่วงล่างไว้แบบหมิ่นเหม่ ฝ่ามือแกร่งของเขากำลังใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมหมาดๆ นั้นอยู่
หยดน้ำยังเกาะพราวตามเนื้อตัวที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรงและซิกแพคลอนสวยอย่างคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ น้องญาเผลอจ้องร่างกายนั้นอยู่นาน จนคนถูกจ้องต้องประท้วง
"จะยืนจ้องอยู่หน้าห้องอีกนานมั้ย เข้ามาสิ"เออเนสพูดพร้อมกับหันหลังกลับเดินเข้าไปในห้อง ปฏิญญาเริ่มได้สติ เธอรีบเดินก้าวเข้าห้องมาอย่างเก้ๆ กังๆ
"เดี๋ยวน้องญารอพี่ตรงนี้นะคะ" เธอชี้มายังชุดโซฟาบริเวณห้องโถง แล้วเดินไปนั่งทันที
"โอ้ยยย !!! ทำไมหัวใจเต้นแรงขนาดนี้เนี่ย" น้องญาคิดในใจ เธอหายใจลึกๆ และพยายามปรับอารมณ์ให้เป็นปกติที่สุด
พรึ่บบบ .. จู่ๆร่างแกร่งก็นั่งลงบนโซฟาใกล้กับคนตัวเล็ก เธอตกใจสะดุ้งโหยง จนเออเนสต้องหันกลับไปมอง
"เธอเป็นอะไรมากมั้ย ตัวสั่นยังกับลูกนก" เขาเอ่ยถามพลางมองใบที่ใบหน้าของเธอที่แดงปลั่งไปทั้งหน้าลามไปถึงใบหู
"ปะ..เปล่าค่ะ .. คะ..คือ แอร์มันเย็นน่ะค่ะ" เธอแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ
"หึ.." เออเนสหัวเราะในลำคอ
"เอ่อ..ที่นัดกันไว้ว่าจะลงไปเดินเล่น น้องญาไปคนเดียวดีกว่าค่ะ เผื่อพี่เออเนสอยากพักผ่อน" เธอพูดจบก็รีบลุกขึ้นยืนและก้าวเดินเพื่อที่จะออกไปข้างนอก แต่ถูกฝ่ามือแกร่งสองข้างรวบเอวเอาไว้แล้วจับให้นั่งคร่อมลงบนตักแกร่งโดยหันหน้าเข้าหากัน เด็กสาวเบิกตาโพลงด้วยความตกใจเมื่อใบหน้าทั้งสองอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ
เธอรีบใช้สองมือยันอกแกร่งเปล่าเปลือยนั้นทันที แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือตอนนี้เธอกำลังนั่งทับบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ใต้ผ้าขนหนู ถึงแม้จะมีผ้ามากั้นแต่เธอก็ยังรู้สึกได้ถึงความแข็งขึงของเจ้าสิ่งนั้นที่อยู่ตรงบริเวณสามเหลี่ยมอวบอูมของเธอพอดิบพอดี
น้องญาตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับเขยื้อน เพราะเกรงว่าจะเป็นการกระตุ้นเจ้าสิ่งนั้นให้มันตื่นยิ่งกว่าเดิม เธอเบือนหน้าหนีสายตาที่โลมเลียของเออเนส หัวใจเต้นแรงและหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก
"เช็ดผมให้ฉันหน่อย" เสียงทุ้มน่าฟังเอ่ยบอกกับเด็กสาวบนร่าง
"คะ .. อะไรนะคะ" น้องญาถามตะกุกตะกัก
เออเนสส่งผ้าเช็ดตัวผืนเล็กให้เธอ แล้วชี้มาที่ผมเปียกของเขา น้องญารับผ้าเช็ดตัวมาจากเขา แต่ด้วยความที่เธอตัวเตี้ยกว่าเออเนสมาก ทำให้เธอต้องขยับขาที่นั่งคร่อมชายหนุ่ม เปลี่ยนมาเป็นคุกเข่าแล้วยันตัวเองขึ้น เพื่อที่จะเช็ดผมให้เขาได้
"อื้ม..แบบนี้ก็ดี จะได้ไม่ต้องนั่งทับเจ้าตัวปัญหานั่น" ปฏิญญาคิดในใจ แต่.... เธอคิดผิด ผิดมหันต์มากๆ
ด้วยช่วงตัวของเออเนสยาวกว่าเธอเยอะ แล้วช่วงแขนเด็กสาวก็สั้น แถมเออเนสยังนั่งพิงโซฟาอีก เธอจึงต้องยื่นมือเข้าไปและขยับหัวเข่าสองข้างเข้าไปใกล้ยิ่งกว่าเดิม ส่งผลให้หน้าอกของเธออยู่ตรงใบหน้าของเขาเต็มๆ
เออเนสยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ เหมือนคนตัวเล็กตั้งอกตั้งใจในการเช็ดผมให้เขามากเสียจนลืมสนใจสองเต้างามที่ตอนนี้ขยับเขยื้อนไปมาอยู่ตรงหน้าของชายหนุ่ม
กลิ่นกายสาวหอมกรุ่นทำให้อารมณ์ของชายหนุ่มกระเจิดกระเจิง แถมสองเต้าตูมเต่งยังกระเพื่อมไปมาล่อตาล่อใจอยู่ตรงหน้าเขาอีกด้วย
หมับ.. ฝ่ามือแกร่งสองข้างของเขาจับไปที่สองเต้างามขนาดใหญ่เกินตัวของเด็กสาวทันที
"ว๊ายย .. พี่แอลตันจะทำอะไรคะ ปล่อยน้องญาเดี๋ยวนี้เลยนะ" เธอแหวใส่ชายหนุ่ม เขาใช้ลำแขนแข็งแรงโอบร่างเล็กนั้นลงมาปะทะกับหน้าอกแกร่งทันที
"ก็หน้าอกเธอมันแกว่งไปแกว่งมา อยู่ตรงหน้าฉัน ฉันก็เลยช่วยพยุงไว้ให้ แค่นั้นเอง" เขาพูดกับเด็กสาวหน้าตาเฉย เธอได้ฟังถึงกับอ้าปากหวอ มือน้อยๆ ทุบลงไปยังอกแกร่งนั้นทันที
"พูดอะไรน่าเกลียด ปล่อยน้องญาเดี๋ยวนี้นะคะ" คนตัวเล็กลุกออกจากโซฟาแล้วโยนผ้าเช็ดผมคืนให้เขา
"เช็ดเองไปเลยค่ะ น้องญาจะลงไปเดินที่ชายหาด" เธอทำหน้าบึ้งใส่ชายหนุ่มแล้วหมุนตัวเดิมออกจากห้องไป
"ชิ!! คนอะไรเนี่ย เจ้าเล่ห์ที่สุด" น้องญ่าบ่นอุบอิบ
Write Talk: โอ้โห.. อีพี่มันเจ้าเล่ห์จังล่ะ เผลอเป็นไม่ได้ เอาเปรียบน้องตลอดเลย ไอ้คนหื่น น้องญาอย่าไปอยู่ใกล้อีพี่นะ หนีไปปปปปป
ปฏิญญาลงมาเดินเล่นที่ชายหาดเพียงลำพัง เวลาเย็นแบบนี้แดดอ่อนแสงลงมากแล้ว หาดทรายเม็ดเล็กละเอียดสีขาวสะอาดตา ตัดกับสีฟ้าเข้มของน้ำทะเลที่ทอดยาวไปไกลสุดสายตา เป็นภาพที่สวยงามมากจริงๆเด็กสาวถอดรองเท้าฟองน้ำถือไว้เพราะอยากใช้เท้าสัมผัสกับความละเอียดอ่อนของเม็ดทรายที่นุ่มนิ่มนั้นโดยตรง เธอยืนมองขอบฟ้าที่ไกลสุดสายตา แล้วทำให้คิดถึงแม่ปทุมมาศ ร่างเล็กนั่งลงบนหาดทรายในท่าชันเข่า ตอนนี้เวลาที่นี่เกือบจะหกโมงเย็น ที่เมืองไทยคงเกือบจะห้าทุ่มแล้ว คงดึกเกินไปถ้าเธอจะโทรหาแม่มาศในตอนนี้พอนั่งนึกอะไรเพลินๆ ก็ปรากฏภาพของเออเนสขึ้นในมโนภาพของเธอทันที ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันจนมาถึงวันนี้ เขาก็ยังเป็นผู้ชายคนเดิมที่มักจะทำตัวรุ่มร่ามกับเธอตลอดเวลาที่อยู่กันสองคน แต่ภายนอกถ้าคนอื่นมองจะเห็นเขาอีกลุคหนึ่งซึ่งดูเป็นคนเงียบๆ สุขุม และวางตัวได้ดีในระดับหนึ่ง แต่เธอรู้ดีว่าความจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นตลอดเวลากว่าหนึ่งปีที่ผ่านมาก่อนที่เธอจะเรียนจบ เขามักจะบินไปๆ มาๆ ระหว่างฝรั่งเศสกับไทย เพื่อไปเยี่ยมเซดริกและครอบครัวของเธอเป็นประจำเธอถามตัวเองว่าทำไมเธอถึงยอมให้เขาถึงเนื้อถึงตัวมาตลอด แล้วเธอก็ยอมรับกับใ
"อื้อ~ หนาวววว" คนตัวเล็กนั่งคอพับอยู่ในอ่างอาบน้ำในสภาพกึ่งเปลือย มีแพนตี้ตัวน้อยกับบราแบบเกาะอกปกปิดของสงวน เออเนสถอนหายใจยาวเพื่อสกัดกั้นอารมณ์ของตัวเอง เขาค่อยๆ ถอดบราและแพนตี้ตัวน้อยออกจากเรียวขาสวย แล้วเปิดน้ำอุ่นเพื่อล้างหน้าตาเนื้อตัวแล้วอาบน้ำให้กับเธอ เสร็จแล้วก็นำผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาห่อหุ้มร่างเปลือยขาวโพลนนั้น แล้วรวบร่างขึ้นอุ้มไปยังเตียงนอนขนาดใหญ่ร่างแกร่งค่อยๆ วางคนตัวเล็กลงแล้วปลดผ้าเช็ดตัวออกเพื่อจะเช็ดตัวและสวมชุดใหม่ให้ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร คนตัวเล็กก็ดิ้นไปมามือไขว่คว้าสะเปะสะปะ"อื้มๆๆ .. หนาววว"มือเล็กควานหาผ้าห่มเพราะรู้สึกหนาว เมื่อมือสัมผัสถูกผ้าเช็ดตัวที่เออเนสถืออยู่เธอก็ดึงเข้าหาตัวอย่างแรงจนเออเนสล้มลงบนที่นอนหนาหนุ่มแล้วคร่อมร่างเล็กนั้นไว้พอดี ใบหน้าของเธอและเขาแนบชิดกัน จมูกชนจมูก ดูเหมือนคนตัวเล็กพอจะรู้สึกตัวขึ้นมาบ้างแล้ว เธอค่อยๆ ปรือตาขึ้นมามองเจ้าของลมหายใจอุ่นๆ ที่กำลังหายใจรดใบหน้าเธออยู่ในระยะประชิด"พะ..พี่เออเนส"ริมฝีปากรูปกระจับอวบอิ่มเผยอน้อยๆ เมื่อเอ่ยเรียกชื่อชายหนุ่มที่ตัวเองแอบมีใจให้ เขากำลังมองเธอด้วยสายตาแห่งความปรารถนาที่ปิดไม่มิ
เด็กสาวทำท่าจะขยับสะโพกถอยหนีเมื่อรู้สึกได้ถึงความคับแน่น และเจ็บแปลบบริเวณกึ่งกลางกายสาว จนเออเนสต้องค่อยๆ ปลอบประโลมเธออีกครั้ง"ไม่ต้องกลัว อย่าเกร็งนะ เจ็บนิดเดียว"เขากระซิบเสียงแหบพร่าที่ใบหูของเธอ แล้วประกบริมฝีปากหนาได้รูปนั้นที่ปากสวยของเธออีกครั้ง เพื่อให้เด็กสาวผ่อนคลายลงอีกสักหน่อย ริมฝีปากอุ่นชื้นเลื่อนลงมาโลมเลียดูดดึงยอดปทุมถันอวบใหญ่นั้นอีกครั้ง ฝ่ามือแกร่งโลมไล้ไปทั่วผิวกายนุ่มนิ่มหอมกรุ่น ในขณะที่ร่างเล็กกำลังตกอยู่ในวังวนของความเสียวซ่านอยู่นั้น เออเนสก็ดันแท่งรักขนาดใหญ่เข้าไปในช่องทางรักคับแคบของเด็กสาวจนสุดลำ "สวบบ .. ปึ่ก" "กรี๊ดดดดดดด " เสียงร้องแสดงความเจ็บปวดเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมลุกล้ำเข้าไปภายในใจกลางสาวที่ไม่เคยมีผู้ใดล่วงล้ำมาก่อน เด็กสาวน้ำตาไหล หายเมาเป็นปลิดทิ้ง"อึ่ก..ฮือ..พี่เออเนสทำอะไร น้องญาเจ็บ" เด็กสาวเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลจากหางตา"ซี๊ดดดด...อืมมมม" เสียงครางทุ้มต่ำของเออเนสดังขึ้นในลำคอ เขารู้สึกคับแน่นที่แท่งรักและอยากจะขยับมันใจจะขาด"ฉันจะค่อยๆ ขยับนะ ไม่เจ็บแล้ว ไม่ต้องเกร็งนะ"เสียงทุ้มนุ่มนวลค่อยๆ เอ่ยขึ้นมาเพื่อไม่ให้เด็กสาวต้องเป็นกังวลใจ
น้องญานอนตัวแข็งทื่อเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเออเนสเมื่อคืนมันเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ความฝันอย่างที่เธอเข้าใจ“จะลุกไปไหนแต่เช้า”เออเนสเอ่ยถามคนตัวเล็กพลางกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นแล้วใช้จมูกโด่งซุกไซร้ไปตามซอกคอที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จนปฏิญญาต้องหดคอหนีด้วยความเสียวปนเขินอาย“ปล่อยน้องญาได้แล้วค่ะ น้องญาหิวแล้ว” คนตัวเล็กเอ่ย เพราะตอนนี้ท้องของเธอร้องประท้วงด้วยความหิวจริง ๆ เธอเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนผนัง บอกเวลา 11.00น.แล้ว“เดี๋ยวสั่งอาหารมาให้ นิ่งเป็นหลับขยับเป็นกินจริง ๆ ด้วย เด็กอะไร”เออเนสบ่นแบบไม่จริงจังนัก แต่ก็ยอมคลายอ้อมแขนจากร่างเด็กสาว แต่ยังไม่ปล่อยให้เธอลุกออกไป ในขณะที่เขาเองก็กดโทรศัพท์สั่งอาหารให้เธอทันทีหลังจากสั่งอาหารเรียบร้อยคนตัวเล็กจึงออกมาจากอ้อมกอดนั้นได้ เธอลุกขึ้นยืนหวังจะเดินไปยังห้องน้ำ แต่ก็ต้องหยุดทันที เพราะเวลาที่เธอขยับแต่ละครั้งจะรู้สึกเจ็บที่จุดกลางกายสาวเป็นอย่างมาก เธอทำหน้าเบ้จนเออเนสลุกขึ้นแล้วเดินมาจ้องหน้าเธอใกล้ ๆ ใบหน้าเรียวเล็กนั้นแดงก่ำด้วยความเขินอาย“เป็นยังไง เดินไม่ไหว เจ็บล่ะสิ?”เออเนสพูดแค่นั้นก็ลุกขึ้นทั้งที่ร่างกายเปลือ
หลังจากอาหารถูกนำมาจัดเตรียมให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เออเนสก็หยิบเสื้อผ้าจากกระเป๋าของเขาที่เพิ่งไปขนมาจากห้องตัวเองมาไว้ห้องนี้เมื่อตอนเช้า ขึ้นมาใส่ แล้วเดินไปที่ห้องนอนที่คนตัวเล็กยังคงนอนอยู่ในท่าเดิม ร่างแกร่งนั่งลงบนเตียงแล้วเอื้อมมือไปเขย่าร่างเล็ก"ปฏิญญา ตื่นได้แล้ว อาหารมาแล้วนะ""อื้อๆๆ"คนตัวเล็กบิดร่างไปมาแล้วลุกขึ้นนั่งด้วยความงัวเงีย เออเนสเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของเธอ แล้วหยิบชุดลำลองของเด็กสาว ซึ่งเป็นเสื้อยืดตัวยาวมาสวมใส่ให้ ในขณะที่เธอยังหาวหวอดๆ อยู่ หลังจากนั้นก็รวบร่างเล็กขึ้นอุ้มแล้วพาเดินไปยังโต๊ะอาหาร"พี่เออเนสปล่อยเถอะค่ะ น้องญาเดินเองได้" เด็กสาวพูดไปพลางก้มหน้าซุกอกแกร่งด้วยความเขินอาย แต่คนตัวโตก็ยังก้าวเดินพรวดๆ ไปยังเก้าอี้แล้วจัดแจงวางคนตัวเล็กให้นั่งลง ส่วนเขาเดินอ้อมไปนั่งที่ฝั่งตรงกันข้ามหลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้ว น้องญาก็เดินไปยังโซนห้องนั่งเล่นที่ด้านข้างติดกับระเบียง เธอนั่งบนโซฟาตัวยาว แล้วเปิดทีวีดูรายการทั่วๆ ไปเออเนสเดินผ่านคนตัวเล็กออกไปยังหน้าระเบียง เขาจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ ปฏิญญาทำหน้าแปลกใจ เพราะก่อนหน้านี้เธอไม่เคยเห็นเขาสูบบุหรี่มาก่อน ร่
เออเนสดันร่างบางให้นอนราบลงกับเตียงนุ่ม ในขณะที่ริมฝีปากของทั้งคู่ยังคงจูบกันอย่างดูดดื่ม ฝ่ามือหนาแทรกเข้าไปยังชุดนอนกระโปรงบางเบาของหญิงสาว แล้วถอดออกอย่างง่ายดาย ตะขอบราด้านหน้าถูกปลดอย่างชำนิชำนาญด้วยมือเพียงข้างเดียวของชายหนุ่มจมูกโด่งซุกไซร้ไปยังซอกคอหอมกรุ่น ขบเม้มผิวเนียนและจูบไล่เรื่อยลงมาที่หัวไหล่และเนินอก ริมฝีปากอุ่นชื้นเข้าครอบครองยอดปทุมถันสีชมพูแล้วขบเม้มดูดดึงอย่างหิวโหย"จ๊วบบบบบบ" เขาสลับดูดเลียยอดทับทิมสีชมพูสวยทั้งสองข้างไปมาแล้วบีบเคล้นอย่างมันมือ"อื้มมมม" ปฏิญญาครางเสียงหวานในลำคอและเผลอแอ่นอกให้เขาดูดเลียอย่างเต็มอกเต็มใจเมื่อดูดกินสองเต้าเต่งตึงจนเป็นที่พอใจแล้ว ลิ้นร้อนก็ค่อยๆจูบไล่ลงมายังเนินนูนอวบใหญ่ที่เกลี้ยงเกลาของเด็กสาว แพนตี้ลูกไม้ตัวน้อยถูกถอดออกอย่างง่ายดายด้วยฝีมือของเขาอีกตามเคย ลิ้นร้อนตวัดเลียที่รอยแยกอย่างช้าๆ คล้ายๆ กับจะทรมานคนตัวเล็กให้พลุ่งพล่านด้วยแรงปรารถนา"อ๊ะ..~อ๊าาา" ร่างบางร้องคราง เธอยกสะโพกร่อนไปมาด้วยความเสียวที่ลิ้นร้อนละเลงเลีย สลับกับดูดดุนที่ร่องสวาทแบบเน้นๆเออเนสผละจากร่างเล็กและลุกขึ้นจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองทันที แท่งร
หลังจากกินยาตามคำสั่งเออเนสเรียบร้อยแล้ว น้องญาก็เดินเข้าไปในบ้านที่ควรจะเรียกว่าคฤหาสน์น่าจะเหมาะสมกว่า เด็กสาวเดินไปหามัมมาริสาที่กำลังนั่งอ่านหนังสือสบายๆอยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น"กินข้าวเรียบร้อยแล้วเหรอลูก" นางเอ่ยทัก คนตัวเล็กนั่งลงใกล้ๆ กับหญิงสูงวัยกว่าที่ท่านกำลังมองเธอด้วยสายตาเอ็นดูพลางใช้มือลูบศีรษะเล็กๆ ของเธอ"กินแล้วค่ะมัม วันนี้น้องญาตื่นสายมากๆ เลยไม่ได้ทำอาหารไทยให้มัมทานเลย ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเย็นนี้น้องญาจะทำให้ทานอย่างสุดฝีมือเลยค่ะ" เด็กสาวพูดแล้วยิ้มละไมให้กับมัมมาริสา"วันนี้น้องญาจะทำแกงจืดเต้าหู้หมูสับของโปรดของแด๊ดด้วยค่ะ แต่ไม่รู้พี่เออเนสจะกลับบ้านหรือเปล่า กุ้งกระเทียมน้องญาจะเป็นหม้ายไหมหนอ" น้องญาเอ่ย ท้ายประโยคเธอทำเสียงอ่อยๆ มัมมาริสาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาลูกชายทันที"ครับมัม" เสียงปลายทางรับสายแล้วตอบกลับมาสั้นๆ ตามนิสัยของเขา"เย็นนี้กลับมาทานข้าวบ้านไหมลูก น้องจะได้ทำกุ้งกระเทียมของโปรดไว้ให้" มัมมาริสาเอ่ยถาม"ครับ" สั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความ"พี่เขาบอกว่าเย็นนี้จะกลับบ้านนะลูก เดี๋ยววันนี้หนูไปซื้อของที่ห้างกับพี่เซนส์แล้วกันนะจ๊ะ พอดีช่วงบ่ายมัมมีน
“เออเนส พรุ่งนี้ต้องเดินทางแล้วนะลูก เตรียมตัวพร้อมหรือยัง” เสียงมัมมาริสาเอ่ยถามความพร้อมเป็นรอบที่สิบของวันนี้แล้ว และเขาคาดว่ากว่าจะผ่านพ้นคืนนี้ไป มัมของเขาคงต้องถามอีกเป็นสิบรอบแน่นอน“เรียบร้อยแล้วครับมัม วันนี้มัมถามผมเป็นรอบที่สิบแล้วนะครับ” เออเนส มาร์ติน หนุ่มหล่ออายุ 25 ปี พูดหยอกเย้ามัมมาริสา เขารู้ดีว่ามัมของเขาตื่นเต้นมากที่จะได้เจอลูกสะใภ้และหลานคนแรกของตระกูลที่ตอนนี้นอนสบายอยู่ในท้องของมาลารินทร์พี่สะใภ้ของเขาได้เกือบสามเดือนแล้ว โดยเซดริกได้นัดทั้งสองครอบครัวเพื่อพบปะพูดคุยทำความรู้จักกันเอาไว้ เพราะจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วในอนาคต และปรึกษาเรื่องการแต่งงานของเขากับมาลารินทร์ด้วยเซดริก คือพี่ชายต่างมารดาของเขา ที่มัมมาริสารักมาก เพราะเลี้ยงพี่ชายมาตั้งแต่อายุสิบขวบ แม่ของเซดริกเสียไปตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก จนแด๊ดโนแอลได้พบรักกับมัมมาริสาที่เป็นหญิงชาวไทย และแต่งงานกัน ห้าปีต่อจากนั้นมัมก็มีเออเนสป็นลูกชายคนแรกและคนเดียว มัมเองอยากมีลูกสาวมาก และพยายามหลายครั้งแต่ก็ไม่มีสักที จนในที่สุดก็ล้มเลิกความหวังไปโดยปริยาย เซดริกและเออเนสรักกันเหมือนพี่น้องกันจริง ๆ เพราะเซ
หลังจากกินยาตามคำสั่งเออเนสเรียบร้อยแล้ว น้องญาก็เดินเข้าไปในบ้านที่ควรจะเรียกว่าคฤหาสน์น่าจะเหมาะสมกว่า เด็กสาวเดินไปหามัมมาริสาที่กำลังนั่งอ่านหนังสือสบายๆอยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น"กินข้าวเรียบร้อยแล้วเหรอลูก" นางเอ่ยทัก คนตัวเล็กนั่งลงใกล้ๆ กับหญิงสูงวัยกว่าที่ท่านกำลังมองเธอด้วยสายตาเอ็นดูพลางใช้มือลูบศีรษะเล็กๆ ของเธอ"กินแล้วค่ะมัม วันนี้น้องญาตื่นสายมากๆ เลยไม่ได้ทำอาหารไทยให้มัมทานเลย ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเย็นนี้น้องญาจะทำให้ทานอย่างสุดฝีมือเลยค่ะ" เด็กสาวพูดแล้วยิ้มละไมให้กับมัมมาริสา"วันนี้น้องญาจะทำแกงจืดเต้าหู้หมูสับของโปรดของแด๊ดด้วยค่ะ แต่ไม่รู้พี่เออเนสจะกลับบ้านหรือเปล่า กุ้งกระเทียมน้องญาจะเป็นหม้ายไหมหนอ" น้องญาเอ่ย ท้ายประโยคเธอทำเสียงอ่อยๆ มัมมาริสาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาลูกชายทันที"ครับมัม" เสียงปลายทางรับสายแล้วตอบกลับมาสั้นๆ ตามนิสัยของเขา"เย็นนี้กลับมาทานข้าวบ้านไหมลูก น้องจะได้ทำกุ้งกระเทียมของโปรดไว้ให้" มัมมาริสาเอ่ยถาม"ครับ" สั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความ"พี่เขาบอกว่าเย็นนี้จะกลับบ้านนะลูก เดี๋ยววันนี้หนูไปซื้อของที่ห้างกับพี่เซนส์แล้วกันนะจ๊ะ พอดีช่วงบ่ายมัมมีน
เออเนสดันร่างบางให้นอนราบลงกับเตียงนุ่ม ในขณะที่ริมฝีปากของทั้งคู่ยังคงจูบกันอย่างดูดดื่ม ฝ่ามือหนาแทรกเข้าไปยังชุดนอนกระโปรงบางเบาของหญิงสาว แล้วถอดออกอย่างง่ายดาย ตะขอบราด้านหน้าถูกปลดอย่างชำนิชำนาญด้วยมือเพียงข้างเดียวของชายหนุ่มจมูกโด่งซุกไซร้ไปยังซอกคอหอมกรุ่น ขบเม้มผิวเนียนและจูบไล่เรื่อยลงมาที่หัวไหล่และเนินอก ริมฝีปากอุ่นชื้นเข้าครอบครองยอดปทุมถันสีชมพูแล้วขบเม้มดูดดึงอย่างหิวโหย"จ๊วบบบบบบ" เขาสลับดูดเลียยอดทับทิมสีชมพูสวยทั้งสองข้างไปมาแล้วบีบเคล้นอย่างมันมือ"อื้มมมม" ปฏิญญาครางเสียงหวานในลำคอและเผลอแอ่นอกให้เขาดูดเลียอย่างเต็มอกเต็มใจเมื่อดูดกินสองเต้าเต่งตึงจนเป็นที่พอใจแล้ว ลิ้นร้อนก็ค่อยๆจูบไล่ลงมายังเนินนูนอวบใหญ่ที่เกลี้ยงเกลาของเด็กสาว แพนตี้ลูกไม้ตัวน้อยถูกถอดออกอย่างง่ายดายด้วยฝีมือของเขาอีกตามเคย ลิ้นร้อนตวัดเลียที่รอยแยกอย่างช้าๆ คล้ายๆ กับจะทรมานคนตัวเล็กให้พลุ่งพล่านด้วยแรงปรารถนา"อ๊ะ..~อ๊าาา" ร่างบางร้องคราง เธอยกสะโพกร่อนไปมาด้วยความเสียวที่ลิ้นร้อนละเลงเลีย สลับกับดูดดุนที่ร่องสวาทแบบเน้นๆเออเนสผละจากร่างเล็กและลุกขึ้นจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองทันที แท่งร
หลังจากอาหารถูกนำมาจัดเตรียมให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เออเนสก็หยิบเสื้อผ้าจากกระเป๋าของเขาที่เพิ่งไปขนมาจากห้องตัวเองมาไว้ห้องนี้เมื่อตอนเช้า ขึ้นมาใส่ แล้วเดินไปที่ห้องนอนที่คนตัวเล็กยังคงนอนอยู่ในท่าเดิม ร่างแกร่งนั่งลงบนเตียงแล้วเอื้อมมือไปเขย่าร่างเล็ก"ปฏิญญา ตื่นได้แล้ว อาหารมาแล้วนะ""อื้อๆๆ"คนตัวเล็กบิดร่างไปมาแล้วลุกขึ้นนั่งด้วยความงัวเงีย เออเนสเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของเธอ แล้วหยิบชุดลำลองของเด็กสาว ซึ่งเป็นเสื้อยืดตัวยาวมาสวมใส่ให้ ในขณะที่เธอยังหาวหวอดๆ อยู่ หลังจากนั้นก็รวบร่างเล็กขึ้นอุ้มแล้วพาเดินไปยังโต๊ะอาหาร"พี่เออเนสปล่อยเถอะค่ะ น้องญาเดินเองได้" เด็กสาวพูดไปพลางก้มหน้าซุกอกแกร่งด้วยความเขินอาย แต่คนตัวโตก็ยังก้าวเดินพรวดๆ ไปยังเก้าอี้แล้วจัดแจงวางคนตัวเล็กให้นั่งลง ส่วนเขาเดินอ้อมไปนั่งที่ฝั่งตรงกันข้ามหลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้ว น้องญาก็เดินไปยังโซนห้องนั่งเล่นที่ด้านข้างติดกับระเบียง เธอนั่งบนโซฟาตัวยาว แล้วเปิดทีวีดูรายการทั่วๆ ไปเออเนสเดินผ่านคนตัวเล็กออกไปยังหน้าระเบียง เขาจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ ปฏิญญาทำหน้าแปลกใจ เพราะก่อนหน้านี้เธอไม่เคยเห็นเขาสูบบุหรี่มาก่อน ร่
น้องญานอนตัวแข็งทื่อเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเออเนสเมื่อคืนมันเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ความฝันอย่างที่เธอเข้าใจ“จะลุกไปไหนแต่เช้า”เออเนสเอ่ยถามคนตัวเล็กพลางกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นแล้วใช้จมูกโด่งซุกไซร้ไปตามซอกคอที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จนปฏิญญาต้องหดคอหนีด้วยความเสียวปนเขินอาย“ปล่อยน้องญาได้แล้วค่ะ น้องญาหิวแล้ว” คนตัวเล็กเอ่ย เพราะตอนนี้ท้องของเธอร้องประท้วงด้วยความหิวจริง ๆ เธอเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนผนัง บอกเวลา 11.00น.แล้ว“เดี๋ยวสั่งอาหารมาให้ นิ่งเป็นหลับขยับเป็นกินจริง ๆ ด้วย เด็กอะไร”เออเนสบ่นแบบไม่จริงจังนัก แต่ก็ยอมคลายอ้อมแขนจากร่างเด็กสาว แต่ยังไม่ปล่อยให้เธอลุกออกไป ในขณะที่เขาเองก็กดโทรศัพท์สั่งอาหารให้เธอทันทีหลังจากสั่งอาหารเรียบร้อยคนตัวเล็กจึงออกมาจากอ้อมกอดนั้นได้ เธอลุกขึ้นยืนหวังจะเดินไปยังห้องน้ำ แต่ก็ต้องหยุดทันที เพราะเวลาที่เธอขยับแต่ละครั้งจะรู้สึกเจ็บที่จุดกลางกายสาวเป็นอย่างมาก เธอทำหน้าเบ้จนเออเนสลุกขึ้นแล้วเดินมาจ้องหน้าเธอใกล้ ๆ ใบหน้าเรียวเล็กนั้นแดงก่ำด้วยความเขินอาย“เป็นยังไง เดินไม่ไหว เจ็บล่ะสิ?”เออเนสพูดแค่นั้นก็ลุกขึ้นทั้งที่ร่างกายเปลือ
เด็กสาวทำท่าจะขยับสะโพกถอยหนีเมื่อรู้สึกได้ถึงความคับแน่น และเจ็บแปลบบริเวณกึ่งกลางกายสาว จนเออเนสต้องค่อยๆ ปลอบประโลมเธออีกครั้ง"ไม่ต้องกลัว อย่าเกร็งนะ เจ็บนิดเดียว"เขากระซิบเสียงแหบพร่าที่ใบหูของเธอ แล้วประกบริมฝีปากหนาได้รูปนั้นที่ปากสวยของเธออีกครั้ง เพื่อให้เด็กสาวผ่อนคลายลงอีกสักหน่อย ริมฝีปากอุ่นชื้นเลื่อนลงมาโลมเลียดูดดึงยอดปทุมถันอวบใหญ่นั้นอีกครั้ง ฝ่ามือแกร่งโลมไล้ไปทั่วผิวกายนุ่มนิ่มหอมกรุ่น ในขณะที่ร่างเล็กกำลังตกอยู่ในวังวนของความเสียวซ่านอยู่นั้น เออเนสก็ดันแท่งรักขนาดใหญ่เข้าไปในช่องทางรักคับแคบของเด็กสาวจนสุดลำ "สวบบ .. ปึ่ก" "กรี๊ดดดดดดด " เสียงร้องแสดงความเจ็บปวดเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมลุกล้ำเข้าไปภายในใจกลางสาวที่ไม่เคยมีผู้ใดล่วงล้ำมาก่อน เด็กสาวน้ำตาไหล หายเมาเป็นปลิดทิ้ง"อึ่ก..ฮือ..พี่เออเนสทำอะไร น้องญาเจ็บ" เด็กสาวเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลจากหางตา"ซี๊ดดดด...อืมมมม" เสียงครางทุ้มต่ำของเออเนสดังขึ้นในลำคอ เขารู้สึกคับแน่นที่แท่งรักและอยากจะขยับมันใจจะขาด"ฉันจะค่อยๆ ขยับนะ ไม่เจ็บแล้ว ไม่ต้องเกร็งนะ"เสียงทุ้มนุ่มนวลค่อยๆ เอ่ยขึ้นมาเพื่อไม่ให้เด็กสาวต้องเป็นกังวลใจ
"อื้อ~ หนาวววว" คนตัวเล็กนั่งคอพับอยู่ในอ่างอาบน้ำในสภาพกึ่งเปลือย มีแพนตี้ตัวน้อยกับบราแบบเกาะอกปกปิดของสงวน เออเนสถอนหายใจยาวเพื่อสกัดกั้นอารมณ์ของตัวเอง เขาค่อยๆ ถอดบราและแพนตี้ตัวน้อยออกจากเรียวขาสวย แล้วเปิดน้ำอุ่นเพื่อล้างหน้าตาเนื้อตัวแล้วอาบน้ำให้กับเธอ เสร็จแล้วก็นำผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาห่อหุ้มร่างเปลือยขาวโพลนนั้น แล้วรวบร่างขึ้นอุ้มไปยังเตียงนอนขนาดใหญ่ร่างแกร่งค่อยๆ วางคนตัวเล็กลงแล้วปลดผ้าเช็ดตัวออกเพื่อจะเช็ดตัวและสวมชุดใหม่ให้ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร คนตัวเล็กก็ดิ้นไปมามือไขว่คว้าสะเปะสะปะ"อื้มๆๆ .. หนาววว"มือเล็กควานหาผ้าห่มเพราะรู้สึกหนาว เมื่อมือสัมผัสถูกผ้าเช็ดตัวที่เออเนสถืออยู่เธอก็ดึงเข้าหาตัวอย่างแรงจนเออเนสล้มลงบนที่นอนหนาหนุ่มแล้วคร่อมร่างเล็กนั้นไว้พอดี ใบหน้าของเธอและเขาแนบชิดกัน จมูกชนจมูก ดูเหมือนคนตัวเล็กพอจะรู้สึกตัวขึ้นมาบ้างแล้ว เธอค่อยๆ ปรือตาขึ้นมามองเจ้าของลมหายใจอุ่นๆ ที่กำลังหายใจรดใบหน้าเธออยู่ในระยะประชิด"พะ..พี่เออเนส"ริมฝีปากรูปกระจับอวบอิ่มเผยอน้อยๆ เมื่อเอ่ยเรียกชื่อชายหนุ่มที่ตัวเองแอบมีใจให้ เขากำลังมองเธอด้วยสายตาแห่งความปรารถนาที่ปิดไม่มิ
ปฏิญญาลงมาเดินเล่นที่ชายหาดเพียงลำพัง เวลาเย็นแบบนี้แดดอ่อนแสงลงมากแล้ว หาดทรายเม็ดเล็กละเอียดสีขาวสะอาดตา ตัดกับสีฟ้าเข้มของน้ำทะเลที่ทอดยาวไปไกลสุดสายตา เป็นภาพที่สวยงามมากจริงๆเด็กสาวถอดรองเท้าฟองน้ำถือไว้เพราะอยากใช้เท้าสัมผัสกับความละเอียดอ่อนของเม็ดทรายที่นุ่มนิ่มนั้นโดยตรง เธอยืนมองขอบฟ้าที่ไกลสุดสายตา แล้วทำให้คิดถึงแม่ปทุมมาศ ร่างเล็กนั่งลงบนหาดทรายในท่าชันเข่า ตอนนี้เวลาที่นี่เกือบจะหกโมงเย็น ที่เมืองไทยคงเกือบจะห้าทุ่มแล้ว คงดึกเกินไปถ้าเธอจะโทรหาแม่มาศในตอนนี้พอนั่งนึกอะไรเพลินๆ ก็ปรากฏภาพของเออเนสขึ้นในมโนภาพของเธอทันที ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันจนมาถึงวันนี้ เขาก็ยังเป็นผู้ชายคนเดิมที่มักจะทำตัวรุ่มร่ามกับเธอตลอดเวลาที่อยู่กันสองคน แต่ภายนอกถ้าคนอื่นมองจะเห็นเขาอีกลุคหนึ่งซึ่งดูเป็นคนเงียบๆ สุขุม และวางตัวได้ดีในระดับหนึ่ง แต่เธอรู้ดีว่าความจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นตลอดเวลากว่าหนึ่งปีที่ผ่านมาก่อนที่เธอจะเรียนจบ เขามักจะบินไปๆ มาๆ ระหว่างฝรั่งเศสกับไทย เพื่อไปเยี่ยมเซดริกและครอบครัวของเธอเป็นประจำเธอถามตัวเองว่าทำไมเธอถึงยอมให้เขาถึงเนื้อถึงตัวมาตลอด แล้วเธอก็ยอมรับกับใ
น้องญานอนตัวแข็งทื่ออยู่ในอ้อมกอดของเออเนส เธอสบสายตาของชายหนุ่ม สายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยแรงปรารถนาอย่างปิดไม่มิด"รังเกียจฉันเหรอ" เขาเอ่ยถามหลังจากที่เธอยังนอนตัวแข็งทื่อและดันอกแกร่งของเขาให้ห่างจากตัวเธอ"ปะ..เปล่าค่ะ ไม่ได้รังเกียจ แต่น้องญาว่ามันไม่เหมาะสมที่จะทำแบบนี้ คะ..คือ.. น้องญายังเด็กอยู่เลยค่ะ" หญิงสาวรีบตอบเพราะกลัวเขาเข้าใจผิด ใครจะไปรังเกียจชายหนุ่มรูปหล่อ สะอาดเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบเขาล่ะ"ปีนี้อายุเท่าไหร่" เขาถามพลางใช้มือลูบผมที่ปรกหน้าของเธอออกและไล้ข้อนิ้วไปตามกรอบหน้าเนียนใสของหญิงสาว"19 ค่ะ อีกสามเดือนก็จะเต็ม 20" เธอตอบชายหนุ่ม หัวใจเต้นแรงแทบจะทะลุออกมานอกอก เกิดมาจนป่านนี้ยังไม่เคยนอนร่วมเตียงกับผู้ชายคนไหนแบบนี้มาก่อน"จะ 20 แล้ว ไม่ใช่เด็กแล้วนะ" เขาบอกกับเธอพลางลูบไล้ไปทั่วผิวกายนวลเนียนของเด็กสาว เธอรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ทุกที่ที่เขาสัมผัส เออเนสขยับเข้ามาใกล้จนลมหายใจร้อนของเขาปะทะริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ แต่ก่อนที่เขาจะประทับจูบลงที่ริมฝีปากสวยนั้น เสียงโทรศัพท์ของน้องญาก็ดังขึ้นกริ้งงงงงงงงงง.... หน้าจอแสดงชื่อมัมมาริสา ปฏิญญาฉวยโอกาสนั้นรีบลุกจากเตี
1 ปีผ่านไป...ณ. ปารีส @ ฝรั่งเศสตอนนี้ปฏิญญาเดินทางมาอยู่ที่ฝรั่งเศสได้เกือบเดือนแล้ว โดยมัมมาริสาเดินทางมารับด้วยตนเองเมื่อเธอเรียนจบ หลังจากที่คุยกันแล้วว่าเธอคงจะเข้าเรียนในปีการศึกษาหน้า มัมมาริสาอยากให้เธอมาอยู่ที่นี่และลองใช้ชีวิตให้คุ้นชินก่อน เพราะเธอยังต้องปรับตัวอีกมาก อีกเหตุผลหนึ่งคือเธออยากเลือกสายวิชาและมหาวิทยาลัยที่เธออยากเรียนด้วยตัวเอง ซึ่งข้อนี้มัมมาริสาให้สิทธิ์เธอเต็มที่"ได้เวลาอาหารกลางวันแล้วค่ะ" ปฏิญญาบอกทุกคนที่ตอนนี้นั่งคุยกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ให้ไปรับประทานอาหารด้วยกัน เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด ทุกคนจึงอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา"มีแต่อาหารไทยน่าทานทั้งนั้นเลย น้องญามาอยู่นี่มัมต้องเจริญอาหารแน่ๆ " มัมมาริสาพูดพลางส่งยิ้มหวานให้เธอ"วันนี้มีอะไรบ้างล่ะ หน้าตาน่าทานนะ แต่แด๊ดไม่รู้จักชื่อเลย" แด๊ดโนแอลเอ่ยถามเด็กสาว"วันนี้มีแกงเลียงกุ้งสด กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา แกงจืดเต้าหู้อ่อน กุ้งทอดกระเทียมค่ะ" น้องญาตอบแด๊ด"กุ้งทอดกระเทียมทำพิเศษให้พี่เออเนสใช่ไหมเนี่ย ไม่เห็นมีอะไรพิเศษให้มัมบ้างเลย ชักจะน้อยใจแล้วนะ"มัมมาริสาเอ่ยหยอกเย้า ในขณะที่คนที่ถูกกล่าวถึงนั่งยิ้