หลังจากส่งมัมมาริสากับเออเนสขึ้นไปห้องพักเรียบร้อยแล้ว นางปทุมมาศกับน้องญาก็ลงมาที่ครัวเพื่อเตรียมอาหาร แต่เนื่องจากไม่ได้อยู่บ้านเสียหลายวันจึงไม่มีของสดเหลือติดบ้านเลย น้องญาจึงอาสาขับรถมอเตอร์ไซด์ออกไปซื้อของในตลาดสดที่เคยไปอยู่ประจำ เพราะตลาดอยู่ไม่ห่างจากบ้านมากนัก ขณะนั้นเออเนสกับมัมมาริสาก็เดินมายังครัวพอดี เธอเดินตรงมายังเด็กสาวพร้อมกับเอามือลูบหัวทุยเบาๆ อย่างเอ็นดู
“ไหน .. วันนี้น้องญาจะทำอะไรให้มัมกินจ๊ะ” มัมมาริสาเอ่ยถามเด็กสาว พลางกอดเอวคอดนั้นไว้หลวม ๆ
“วันนี้หนูจะทำแกงเขียวหวานปลากราย ทานกับขนมจีน ปลาทับทิมทอดสามรส หอยลายผัดฉ่า แกงส้มชะอมกุ้ง แล้วก็กุ้งทอดกระเทียมค่ะ” น้องญาเอ่ยเมนูให้มัมมาริสาฟัง นางถึงกับตาโต
“โอ้โห.. เมนูน่าทานทั้งนั้นเลย แต่กุ้งทอดกระเทียมนี่ทำให้ใครแถวนี้เป็นพิเศษหรือเปล่าน๊า” มัมมาริสาเอ่ยแซว น้องญายิ้มหวานจนตาหยี
“พอดีมีแต่อาหารรสจัดค่ะ แม่กลัวพี่เออเนสจะทานไม่ค่อยได้ เลยให้ทำเมนูที่ไม่เผ็ดให้ด้วย หนูเลยจะทำกุ้งทอดกระเทียมค่ะ”
น้องญาตอบ มัมมาริสายิ้ม ขนาดเมนูที่จะทำให้ยังเลือกเป็นกุ้งที่ลูกชายคนเล็กเธอชอบเสียด้วย แสดงออกให้เห็นถึงความใส่ใจของเด็กสาวที่มีต่อเออเนสอย่างเห็นได้ชัด น้องญาหยิบเสื้อแขนยาวและหมวกแก๊ปมาสวมเพื่อเตรียมตัวออกจากบ้านไปตลาด มัมมาริสาเห็นดังนั้นจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“อ้าว..แล้วนั่นหนูจะไปไหนล่ะลูก แต่งตัวทะมัดทะแมงเชียว” มัมมาริสาถามพลางเดินมาช่วยน้องญาเก็บผมเข้าไปยังหมวกแก๊ปให้เรียบร้อย
“จะออกไปตลาดสดแถวนี้แหละค่ะ พอดีไม่ได้อยู่หลายวันของสดเลยไม่มีค่ะมัม หนูขี่มอเตอร์ไซด์ไปแป๊บเดียวก็ถึงแล้วค่ะ” น้องญาตอบพลางกล่าวขอบคุณที่มัมมาริสาช่วยเก็บผมใส่หมวกให้
“งั้นฉันขอไปด้วย ไปนั่งรถเล่น” เออเนสเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินตามคนตัวเล็กที่เดินน้ำหน้าไปแล้ว
“น้องญาว่าอย่าดีกว่าค่ะพี่เออเนส คือแดดที่นี่มันร้อนมาก เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะคะ” น้องญาเอ่ยด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรหรอก นี่เพิ่งจะเก้าโมงกว่า ๆ เอง แดดไม่ได้ร้อนมากสักหน่อย” เออเนสกล่าวตอบ พร้อมกับขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายน้องญาทันที คนตัวเล็กเลยปล่อยเลยตามเลย และขับรถออกจากบ้านไป ทิ้งให้มัมมาริสายืนยิ้มไม่หุบ
“แหม..ยิ้มไม่หุบเลยนะครับมัม อย่าบอกนะว่ามีแผนอะไรอีก ถึงได้ยิ้มแบบนี้” เซดริกเอ่ยแซวมัม หลังจากที่เขาออกมายืนดูทั้งสามคนคุยกันอยู่ได้พักใหญ่
“ก็ไม่มีอะไร น้องญาเขาน่ารักดี” นางตอบเลี่ยง ๆ แต่เหมือนเซดริกจะรู้ทันไปซะหมด
“น้องญาน่ะน่ารักครับ แต่ไอ้น้องชายผมนี่สิมันน่ากลัวนะมัม มันเจ้าชู้เงียบจะตาย” เซดริกเอ่ยเตือนมัม นางเองก็ลืมคิดถึงข้อนี้ไปเหมือนกัน
หลังจากขับรถออกมาจากบ้านแล้ว น้องญาก็เลือกที่จะขับช้า ๆ เพราะวันนี้แดดไม่ร้อนจริง ๆ อากาศดีมาก ดูครึ้ม ๆ เหมือนฝนจะตกเธอเลยถือโอกาสขี่รถกินลมไปด้วยเลย เออเนสขยับเข้ามาชิดน้องญา จนอกแกร่งของเขาชิดกับแผ่นหลังของเธอ ลำแขนแข็งแรงของเขากอดคนตัวเล็กและเอาคางของตัวเองวางไว้บนหัวไหล่มนของเธอ
“อุ๊ย !! พี่เออเนส” เธอร้องด้วยความตกใจกับการกระทำของชายหนุ่ม
“ขยับออกไปหน่อยก็ได้ค่ะ ทำไมต้องชิดขนาดนี้ด้วยคะ กอดซะเน่นเลย น้องญาอึดอัดค่ะ”
เธอบอกชายหนุ่มแต่เขาทำเหมือนไม่สนใจ แถมยังเอาจมูกโด่งคลอเคลียสูดกลิ่นหอมที่ซอกคอของคนตัวเล็กอีกต่างหาก ทำเอาหัวใจของเธอเต้นแรงแทบจะทะลุออกมานอกอก
“หอมจัง” เออเนสเอ่ยเบา ๆ พลางกดจูบที่ท้ายทอยของเด็กสาว จนเธอต้องหดคอหนี กว่าจะขี่รถถึงตลาด เธอก็โดนเขากอดและจูบโน่นจุ๊บนี่ไปตลอดทาง เธอห้ามอย่างไรเขาก็ไม่ยอมฟัง
หลังจากที่ได้ของครบตามที่ต้องการแล้ว สองหนุ่มสาวก็พากันหิ้วของพะรุงพะรังมาใส่ตะกร้าใหญ่ที่หน้ารถจนเต็ม
“ขากลับพี่เออเนสขี่ไหมคะ น้องญาจะได้ซ้อนบ้าง” เธอบอกคนตัวโตให้ขี่รถแทนเธอ เพราะไม่อยากถูกเขากอดจูบไปตลอดทาง แต่เขาเหมือนจะรู้ทัน
“ไม่ล่ะ ฉันไม่ถนัดขี่มอเตอร์ไซด์ ขอซ้อนดีกว่า สบายดี”
เขาเอ่ยยิ้ม ๆ น้องญาจึงจำต้องเป็นฝ่ายขี่รถกลับตามเดิม ซึ่งก็เหมือนเดิม ระหว่างทางคนตัวโตก็กอดเธอแน่น คลอเคลียซอกคอขาวไม่หยุด แถมรอบนี้เอี้ยวตัวมาหอมแก้มนุ่มของเธออีกต่างหาก เป็นเพราะถนนสายนี้เป็นถนนสายใน ซึ่งไม่ใช่ทางหลัก จึงไม่มีคนพลุกพล่าน นานๆ จะมีรถผ่านสักคัน แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยวอะไร
“โอ๊ย!!! พี่เออเนส นั่งดี ๆ เป็นไหมคะ ยุกๆยิกๆ อยู่นั่นแหละ จะกอดจะจูบไปถึงไหนกันเนี่ย มือไม้ยัังกะปลาหมึกเลย” น้องญาเอ่ยอย่างเหนื่อยใจ แต่อีกฝ่ายก็ใช้ลูกด้าน คือหน้าด้านอย่างเดียว พูดอะไรก็ไม่ฟังเอาแต่ทำหน้ามึน กว่าจะกลับมาถึงบ้านได้ น้องญาก็แทบช้ำไปหมด
เมื่อถึงบ้านสองหนุ่มสาวก็ถือของพะรุงพะรังเข้ามาในครัว โดยมีมัมมาริสาและนางปทุมมาศช่วยกันทำอาหารมื้อนี้ด้วย เมื่อทำอาหารเสร็จก็เกือบเที่ยงพอดี ทุกคนพร้อมกันที่โต๊ะอาหารและรับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อย
“น้องญาทำกับข้าวเก่งมากเลยนะเนี่ย เด็กสาว ๆ สมัยนี้ทำอาหารกันไม่ค่อยจะเป็นแล้วนะคะน้องมาศ” มัมมาริสาเอ่ยชมน้องญา
“เรามีกันแค่สองคนแม่ลูกค่ะพี่สา ตั้งแต่พ่อของน้องญาเสียเราก็ต้องสู้กันมาทุกอย่าง น้องญาเลยไม่ได้ไปเที่ยวเล่นเหมือนกับเด็กอื่น ๆ ในรุ่นเดียวกัน เพราะต้องช่วยแม่ทำงานทุกอย่าง แล้วก็ต้องทำขนมส่งขายด้วย” นางปทุมมาศเอ่ยถึงบุตรสาว มัมมาริสาพยักหน้ารับรู้ ยิ่งรู้สึกเอ็นดูเด็กสาวมากขึ้นไปอีก
“ว๊า!!. กุ้งทอดกระเทียมหมดซะแล้ว เออเนสเหมาหมดเลย อร่อยมากล่ะสิท่า”
เซดริกเอ่ยแซว เมื่อเห็นน้องชายเจริญอาหารเป็นพิเศษ คนโดนแซวได้แต่ยิ้มให้พี่ชาย แต่ไม่พูดอะไร ยังคงก้มหน้าก้มตาทานอาหารต่อไป
“เดี๋ยวพรุ่งนี้มาศกับน้องญาจะทำขนมไทยให้พี่สาทานนะคะ มาศจำได้ว่าพี่สาชอบขนมไทยมาก เมื่อตอนเปิดโรงแรม JC มาศกับน้องญาเป็นคนไปทำขนมให้ตอนเปิดงาน ไม่รู้ว่าพี่สาจะจำได้ไหม” นางปทุมมาศเอ่ยกับมัมมาริสา เธอทำท่านึกอยู่สักพักก็พยักหน้าหงึกๆ
“อ้อ... จำได้ค่ะ จำได้แล้ว น้องมาศทำขนมได้สวยและอร่อยมากจริง ๆ พี่ชอบทานเม็ดขนุนกับฝอยทองกรอบมาก ๆ เลยค่ะ จำได้ว่าหลังจากปิดงานไปแล้วยังให้คนที่โรงแรมมาสั่งทำอีกตั้งหลายครั้ง พูดแล้วก็อยากทานเลยค่ะ” มัมมาริสากล่าว
“ผมชอบทานขนมอะไรก็ไม่รู้ครับ มันเป็นก้อนเล็กๆ มีหลายๆ สี ข้างนอกกรอบ ข้างในนิ่มและหอมด้วยครับ” เออเนสบอกกับนางปทุมมาศ
“อ้อ.. เขาเรียกขนมอาลัวค่ะ อันนั้นฝีมือน้องญาเขาประดิดประดอยทำ บีบเป็นก้อนเล็ก ๆ ใช้เวลาทำนานเลยนะคะ กว่าจะได้ทานเกือบสองวันเลยนะ” นางปทุมมาศบอกกับทุกคน
“แล้วแบบนี้ผมจะได้ทานไหมครับเนี่ย ไม่รู้ว่าคนทำเขาจะทำให้ผมทานไหมหนอ” เออเนสกล่าวพลางมองไปยังน้องญาที่นั่งทานข้าวอยู่ฝั่งตรงข้าม
“ถ้าอยากทานเดี๋ยวน้องญาทำให้ทานได้ค่ะ” เธอตอบ ชายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจ
หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว นางปทุมมาศกับน้องญาก็เข้าครัวเพื่อเตรียมตัวทำขนม โดยมีมัมมาริสาคอยเป็นลูกมือช่วยหยิบจับโน่นนี่ไปตามเรื่อง นางวิมาลาก็พักผ่อนอยู่ที่บ้าน ส่วนมาลารินทร์ไม่เข้ามาด้วยเพราะเธอยังแพ้ท้องเวลาได้กลิ่นถั่วก็ยังเหม็นอยู่ เพราะวันนี้ต้องมีกวนถั่วเพื่อทำไส้ขนมเม็ดขนุนด้วย น้องญากำลังคัดเลือกไข่เป็ดและทำความสะอาดเพื่อใช้ทำขนมเม็ดขนุนกับฝอยทองกรอบ หลังจากนั้นเธอก็ให้แม่กับมัมมาริสาทำกันไป ส่วนเธอก็แยกตัวไปทำขนมอาลัวให้เออเนสน้องญาผสมสีอ่อนๆ ลงไปในแป้งที่กวนสุกแล้ว เธอตักแป้งใส่ถุงบีบที่มีหัวบีบรูปดาว แล้วค่อยๆ บีบลงไปในถาดทีละอัน เออเนสมองคนตัวเล็กที่กำลังบีบขนมลงถาดอย่างตั้งอกตั้งใจ น่าแปลกที่ขนมที่บีบลงไปในถาดมีขนาดเท่ากันทุกชิ้นบ่งบอกถึงฝีมือและความใส่ใจของคนทำอย่างเด่นชัด เขาค่อยๆ เดินมาด้านหลังของเด็กสาวที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาบีบขนมจนไม่ได้สังเกตุว่ามีใครมายืนซ้อนอยู่ที่ด้านหลัง ร่างสูงยื่นหน้าเข้าไปใกล้กับแก้มนุ่มของเธอแล้วจรดจมูกโด่งลงยังผิวแก้มนวลเบาๆ จนเด็กสาวสะดุ้ง"หอมจัง" เออเนสพูดเบาๆ ทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้กับการกระทำของตัวเองเมื่อสักครู่ จนน้อง
1 ปีผ่านไป...ณ. ปารีส @ ฝรั่งเศสตอนนี้ปฏิญญาเดินทางมาอยู่ที่ฝรั่งเศสได้เกือบเดือนแล้ว โดยมัมมาริสาเดินทางมารับด้วยตนเองเมื่อเธอเรียนจบ หลังจากที่คุยกันแล้วว่าเธอคงจะเข้าเรียนในปีการศึกษาหน้า มัมมาริสาอยากให้เธอมาอยู่ที่นี่และลองใช้ชีวิตให้คุ้นชินก่อน เพราะเธอยังต้องปรับตัวอีกมาก อีกเหตุผลหนึ่งคือเธออยากเลือกสายวิชาและมหาวิทยาลัยที่เธออยากเรียนด้วยตัวเอง ซึ่งข้อนี้มัมมาริสาให้สิทธิ์เธอเต็มที่"ได้เวลาอาหารกลางวันแล้วค่ะ" ปฏิญญาบอกทุกคนที่ตอนนี้นั่งคุยกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ให้ไปรับประทานอาหารด้วยกัน เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด ทุกคนจึงอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา"มีแต่อาหารไทยน่าทานทั้งนั้นเลย น้องญามาอยู่นี่มัมต้องเจริญอาหารแน่ๆ " มัมมาริสาพูดพลางส่งยิ้มหวานให้เธอ"วันนี้มีอะไรบ้างล่ะ หน้าตาน่าทานนะ แต่แด๊ดไม่รู้จักชื่อเลย" แด๊ดโนแอลเอ่ยถามเด็กสาว"วันนี้มีแกงเลียงกุ้งสด กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา แกงจืดเต้าหู้อ่อน กุ้งทอดกระเทียมค่ะ" น้องญาตอบแด๊ด"กุ้งทอดกระเทียมทำพิเศษให้พี่เออเนสใช่ไหมเนี่ย ไม่เห็นมีอะไรพิเศษให้มัมบ้างเลย ชักจะน้อยใจแล้วนะ"มัมมาริสาเอ่ยหยอกเย้า ในขณะที่คนที่ถูกกล่าวถึงนั่งยิ้
น้องญานอนตัวแข็งทื่ออยู่ในอ้อมกอดของเออเนส เธอสบสายตาของชายหนุ่ม สายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยแรงปรารถนาอย่างปิดไม่มิด"รังเกียจฉันเหรอ" เขาเอ่ยถามหลังจากที่เธอยังนอนตัวแข็งทื่อและดันอกแกร่งของเขาให้ห่างจากตัวเธอ"ปะ..เปล่าค่ะ ไม่ได้รังเกียจ แต่น้องญาว่ามันไม่เหมาะสมที่จะทำแบบนี้ คะ..คือ.. น้องญายังเด็กอยู่เลยค่ะ" หญิงสาวรีบตอบเพราะกลัวเขาเข้าใจผิด ใครจะไปรังเกียจชายหนุ่มรูปหล่อ สะอาดเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบเขาล่ะ"ปีนี้อายุเท่าไหร่" เขาถามพลางใช้มือลูบผมที่ปรกหน้าของเธอออกและไล้ข้อนิ้วไปตามกรอบหน้าเนียนใสของหญิงสาว"19 ค่ะ อีกสามเดือนก็จะเต็ม 20" เธอตอบชายหนุ่ม หัวใจเต้นแรงแทบจะทะลุออกมานอกอก เกิดมาจนป่านนี้ยังไม่เคยนอนร่วมเตียงกับผู้ชายคนไหนแบบนี้มาก่อน"จะ 20 แล้ว ไม่ใช่เด็กแล้วนะ" เขาบอกกับเธอพลางลูบไล้ไปทั่วผิวกายนวลเนียนของเด็กสาว เธอรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ทุกที่ที่เขาสัมผัส เออเนสขยับเข้ามาใกล้จนลมหายใจร้อนของเขาปะทะริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ แต่ก่อนที่เขาจะประทับจูบลงที่ริมฝีปากสวยนั้น เสียงโทรศัพท์ของน้องญาก็ดังขึ้นกริ้งงงงงงงงงง.... หน้าจอแสดงชื่อมัมมาริสา ปฏิญญาฉวยโอกาสนั้นรีบลุกจากเตี
ปฏิญญาลงมาเดินเล่นที่ชายหาดเพียงลำพัง เวลาเย็นแบบนี้แดดอ่อนแสงลงมากแล้ว หาดทรายเม็ดเล็กละเอียดสีขาวสะอาดตา ตัดกับสีฟ้าเข้มของน้ำทะเลที่ทอดยาวไปไกลสุดสายตา เป็นภาพที่สวยงามมากจริงๆเด็กสาวถอดรองเท้าฟองน้ำถือไว้เพราะอยากใช้เท้าสัมผัสกับความละเอียดอ่อนของเม็ดทรายที่นุ่มนิ่มนั้นโดยตรง เธอยืนมองขอบฟ้าที่ไกลสุดสายตา แล้วทำให้คิดถึงแม่ปทุมมาศ ร่างเล็กนั่งลงบนหาดทรายในท่าชันเข่า ตอนนี้เวลาที่นี่เกือบจะหกโมงเย็น ที่เมืองไทยคงเกือบจะห้าทุ่มแล้ว คงดึกเกินไปถ้าเธอจะโทรหาแม่มาศในตอนนี้พอนั่งนึกอะไรเพลินๆ ก็ปรากฏภาพของเออเนสขึ้นในมโนภาพของเธอทันที ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันจนมาถึงวันนี้ เขาก็ยังเป็นผู้ชายคนเดิมที่มักจะทำตัวรุ่มร่ามกับเธอตลอดเวลาที่อยู่กันสองคน แต่ภายนอกถ้าคนอื่นมองจะเห็นเขาอีกลุคหนึ่งซึ่งดูเป็นคนเงียบๆ สุขุม และวางตัวได้ดีในระดับหนึ่ง แต่เธอรู้ดีว่าความจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นตลอดเวลากว่าหนึ่งปีที่ผ่านมาก่อนที่เธอจะเรียนจบ เขามักจะบินไปๆ มาๆ ระหว่างฝรั่งเศสกับไทย เพื่อไปเยี่ยมเซดริกและครอบครัวของเธอเป็นประจำเธอถามตัวเองว่าทำไมเธอถึงยอมให้เขาถึงเนื้อถึงตัวมาตลอด แล้วเธอก็ยอมรับกับใ
"อื้อ~ หนาวววว" คนตัวเล็กนั่งคอพับอยู่ในอ่างอาบน้ำในสภาพกึ่งเปลือย มีแพนตี้ตัวน้อยกับบราแบบเกาะอกปกปิดของสงวน เออเนสถอนหายใจยาวเพื่อสกัดกั้นอารมณ์ของตัวเอง เขาค่อยๆ ถอดบราและแพนตี้ตัวน้อยออกจากเรียวขาสวย แล้วเปิดน้ำอุ่นเพื่อล้างหน้าตาเนื้อตัวแล้วอาบน้ำให้กับเธอ เสร็จแล้วก็นำผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาห่อหุ้มร่างเปลือยขาวโพลนนั้น แล้วรวบร่างขึ้นอุ้มไปยังเตียงนอนขนาดใหญ่ร่างแกร่งค่อยๆ วางคนตัวเล็กลงแล้วปลดผ้าเช็ดตัวออกเพื่อจะเช็ดตัวและสวมชุดใหม่ให้ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร คนตัวเล็กก็ดิ้นไปมามือไขว่คว้าสะเปะสะปะ"อื้มๆๆ .. หนาววว"มือเล็กควานหาผ้าห่มเพราะรู้สึกหนาว เมื่อมือสัมผัสถูกผ้าเช็ดตัวที่เออเนสถืออยู่เธอก็ดึงเข้าหาตัวอย่างแรงจนเออเนสล้มลงบนที่นอนหนาหนุ่มแล้วคร่อมร่างเล็กนั้นไว้พอดี ใบหน้าของเธอและเขาแนบชิดกัน จมูกชนจมูก ดูเหมือนคนตัวเล็กพอจะรู้สึกตัวขึ้นมาบ้างแล้ว เธอค่อยๆ ปรือตาขึ้นมามองเจ้าของลมหายใจอุ่นๆ ที่กำลังหายใจรดใบหน้าเธออยู่ในระยะประชิด"พะ..พี่เออเนส"ริมฝีปากรูปกระจับอวบอิ่มเผยอน้อยๆ เมื่อเอ่ยเรียกชื่อชายหนุ่มที่ตัวเองแอบมีใจให้ เขากำลังมองเธอด้วยสายตาแห่งความปรารถนาที่ปิดไม่มิ
เด็กสาวทำท่าจะขยับสะโพกถอยหนีเมื่อรู้สึกได้ถึงความคับแน่น และเจ็บแปลบบริเวณกึ่งกลางกายสาว จนเออเนสต้องค่อยๆ ปลอบประโลมเธออีกครั้ง"ไม่ต้องกลัว อย่าเกร็งนะ เจ็บนิดเดียว"เขากระซิบเสียงแหบพร่าที่ใบหูของเธอ แล้วประกบริมฝีปากหนาได้รูปนั้นที่ปากสวยของเธออีกครั้ง เพื่อให้เด็กสาวผ่อนคลายลงอีกสักหน่อย ริมฝีปากอุ่นชื้นเลื่อนลงมาโลมเลียดูดดึงยอดปทุมถันอวบใหญ่นั้นอีกครั้ง ฝ่ามือแกร่งโลมไล้ไปทั่วผิวกายนุ่มนิ่มหอมกรุ่น ในขณะที่ร่างเล็กกำลังตกอยู่ในวังวนของความเสียวซ่านอยู่นั้น เออเนสก็ดันแท่งรักขนาดใหญ่เข้าไปในช่องทางรักคับแคบของเด็กสาวจนสุดลำ "สวบบ .. ปึ่ก" "กรี๊ดดดดดดด " เสียงร้องแสดงความเจ็บปวดเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมลุกล้ำเข้าไปภายในใจกลางสาวที่ไม่เคยมีผู้ใดล่วงล้ำมาก่อน เด็กสาวน้ำตาไหล หายเมาเป็นปลิดทิ้ง"อึ่ก..ฮือ..พี่เออเนสทำอะไร น้องญาเจ็บ" เด็กสาวเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลจากหางตา"ซี๊ดดดด...อืมมมม" เสียงครางทุ้มต่ำของเออเนสดังขึ้นในลำคอ เขารู้สึกคับแน่นที่แท่งรักและอยากจะขยับมันใจจะขาด"ฉันจะค่อยๆ ขยับนะ ไม่เจ็บแล้ว ไม่ต้องเกร็งนะ"เสียงทุ้มนุ่มนวลค่อยๆ เอ่ยขึ้นมาเพื่อไม่ให้เด็กสาวต้องเป็นกังวลใจ
น้องญานอนตัวแข็งทื่อเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเออเนสเมื่อคืนมันเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ความฝันอย่างที่เธอเข้าใจ“จะลุกไปไหนแต่เช้า”เออเนสเอ่ยถามคนตัวเล็กพลางกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นแล้วใช้จมูกโด่งซุกไซร้ไปตามซอกคอที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จนปฏิญญาต้องหดคอหนีด้วยความเสียวปนเขินอาย“ปล่อยน้องญาได้แล้วค่ะ น้องญาหิวแล้ว” คนตัวเล็กเอ่ย เพราะตอนนี้ท้องของเธอร้องประท้วงด้วยความหิวจริง ๆ เธอเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนผนัง บอกเวลา 11.00น.แล้ว“เดี๋ยวสั่งอาหารมาให้ นิ่งเป็นหลับขยับเป็นกินจริง ๆ ด้วย เด็กอะไร”เออเนสบ่นแบบไม่จริงจังนัก แต่ก็ยอมคลายอ้อมแขนจากร่างเด็กสาว แต่ยังไม่ปล่อยให้เธอลุกออกไป ในขณะที่เขาเองก็กดโทรศัพท์สั่งอาหารให้เธอทันทีหลังจากสั่งอาหารเรียบร้อยคนตัวเล็กจึงออกมาจากอ้อมกอดนั้นได้ เธอลุกขึ้นยืนหวังจะเดินไปยังห้องน้ำ แต่ก็ต้องหยุดทันที เพราะเวลาที่เธอขยับแต่ละครั้งจะรู้สึกเจ็บที่จุดกลางกายสาวเป็นอย่างมาก เธอทำหน้าเบ้จนเออเนสลุกขึ้นแล้วเดินมาจ้องหน้าเธอใกล้ ๆ ใบหน้าเรียวเล็กนั้นแดงก่ำด้วยความเขินอาย“เป็นยังไง เดินไม่ไหว เจ็บล่ะสิ?”เออเนสพูดแค่นั้นก็ลุกขึ้นทั้งที่ร่างกายเปลือ
หลังจากอาหารถูกนำมาจัดเตรียมให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เออเนสก็หยิบเสื้อผ้าจากกระเป๋าของเขาที่เพิ่งไปขนมาจากห้องตัวเองมาไว้ห้องนี้เมื่อตอนเช้า ขึ้นมาใส่ แล้วเดินไปที่ห้องนอนที่คนตัวเล็กยังคงนอนอยู่ในท่าเดิม ร่างแกร่งนั่งลงบนเตียงแล้วเอื้อมมือไปเขย่าร่างเล็ก"ปฏิญญา ตื่นได้แล้ว อาหารมาแล้วนะ""อื้อๆๆ"คนตัวเล็กบิดร่างไปมาแล้วลุกขึ้นนั่งด้วยความงัวเงีย เออเนสเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของเธอ แล้วหยิบชุดลำลองของเด็กสาว ซึ่งเป็นเสื้อยืดตัวยาวมาสวมใส่ให้ ในขณะที่เธอยังหาวหวอดๆ อยู่ หลังจากนั้นก็รวบร่างเล็กขึ้นอุ้มแล้วพาเดินไปยังโต๊ะอาหาร"พี่เออเนสปล่อยเถอะค่ะ น้องญาเดินเองได้" เด็กสาวพูดไปพลางก้มหน้าซุกอกแกร่งด้วยความเขินอาย แต่คนตัวโตก็ยังก้าวเดินพรวดๆ ไปยังเก้าอี้แล้วจัดแจงวางคนตัวเล็กให้นั่งลง ส่วนเขาเดินอ้อมไปนั่งที่ฝั่งตรงกันข้ามหลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้ว น้องญาก็เดินไปยังโซนห้องนั่งเล่นที่ด้านข้างติดกับระเบียง เธอนั่งบนโซฟาตัวยาว แล้วเปิดทีวีดูรายการทั่วๆ ไปเออเนสเดินผ่านคนตัวเล็กออกไปยังหน้าระเบียง เขาจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ ปฏิญญาทำหน้าแปลกใจ เพราะก่อนหน้านี้เธอไม่เคยเห็นเขาสูบบุหรี่มาก่อน ร่
ตุ้บบบบ เสียงกล่องอาหารและขนมที่ร่วงหล่นพื้น ทำให้เออเนสกับหญิงสาวคนนั้นหันมามองยังต้นเสียงทันที เออเนสเมื่อเห็นปฏิญญายืนอยู่ที่หน้าประตูเขาถึงกับหน้าถอดสี รีบปล่อยกอดหญิงสาวคนนั้นทันที ส่วนหญิงสาวคนนั้นก็หันหลังกลับมามองปฏิญญาแบบเต็มตัวปฏิญญาสังเกตุเห็นหญิงสาวคนนั้นคล้ายคนเอเซียหรือน่าจะเป็นลูกครึ่ง ซึ่งจัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งเลยทีเดียว ดวงตาของเธอคนนั้นแดงก่ำคล้ายกับผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก พิศมองไปมารูปร่างหน้าตาของผู้หญิงคนนี้ดูละม้ายคล้ายกับตัวของเธอเอามากๆ"สาวเอเซียคงเป็นสเปคของเขาสินะ?" ปฏิญญาคิดในใจ ดูเหมือนคนที่ได้สติก่อนจะเป็นเออเนส เขารีบผละจากหญิงสาวคนนั้นแล้วเดินเข้ามาหาปฏิญญาทันที ร่างสูงย่อตัวลงเก็บถุงอาหารที่ร่วงพื้นขึ้นมาแล้วกอดประคองแฟนสาว โดยที่ปฏิญญาได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อ"มีย่า นี่ปฏิญญา คู่หมั้นของฉัน ที่เคยเล่าให้เธอฟังไง" เออเนสพูดกับหญิงสาวที่ชื่อมีย่า เธอคนนั้นพยักหน้ารับรู้แล้วคลี่ยิ้มบางๆ ทั้งๆ ที่ดวงหน้ายังคงเศร้าหมอง"น้องญาครับ นี่ อามิยา หรือมีย่า เป็นเพื่อนสนิทของพี่เอง" เออเนสบอกกับแฟนสาว เธอมองหน้าชายหนุ่มด้วยสีหน้าเรียบเฉย พร้อมกับดึงสาย
อมารีเดินไปยังสวนหย่อมของคณะที่มีโต๊ะว่างอยู่ เธอนั่งลงพร้อมกับวางกระเป๋าบนโต๊ะอย่างแรง ใบหน้างอง้ำดวงตาแดงก่ำ เธอหวนคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานตอนบ่ายแล้วก็ยังโมโหไม่หาย หลังจากที่เธอซ้อมเดินแบบและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จกำลังจะกลับ พี่อลิซก็เดินเข้ามาหา"มารี พี่มีอะไรคุยด้วยหน่อย""เรื่องเปลี่ยนตัวเดินหรือเปล่าคะพี่ลิซ ยัยปฏิญญาโดนเปลี่ยนตัวเหรอ"มารีพูดพลางเหยียดยิ้ม บางทีเธอก็หมั่นไส้ปฏิญญาอยู่เหมือนกัน ที่ใครๆ ต่างก็ชอบพูดชมว่ายัยนั่นสวยอย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งๆ ที่เธอก็เห็นว่าไม่ได้สวยอะไรมากมายขนาดนั้นสักหน่อย พอรู้ว่าปฏิญญาโดนเปลี่ยนตัวก็ยิ่งสะใจ"ใช่ เรื่องเปลี่ยนตัวเดินแบบนี่แหละ คุณคริสขอให้เปลี่ยนปฏิญญามาเดินชุดฟินาเล่แทนเธอ" อมารีถึงกับอ้าปากค้างด้วยความงุนงง"อะ อะไรนะ ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ" อมารีถามอลิซพร้อมกับกำมือแน่น"มันเป็นความต้องการของคุณคริส เราคงขัดไม่ได้หรอก เธอคงต้องไปเดินตำแหน่งแทนปฏิญญา""ไม่ค่ะพี่ลิซ มารีจะขอถอนตัวจากงานนี้" อมารีกำมือแน่นด้วยความโกรธ"เธอทำแบบนั้นไม่ได้นะมารี อีกสามวันก็จะเป็นวันงาน แล้วจะไปหาใครมาแทนได้ทันล่ะ" อลิซพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน"ก็ทีเ
"วันนี้เลิกซ้อมเท่านี้นะคะ เดี๋ยวจะนัดซ้อมอีกครั้งก่อนวันงานหนึ่งวันที่โรงแรม Max Martin เดี๋ยวพี่ไลน์นัดอีกทีค่ะ" พี่อลิซบอกกับน้องๆ ทุกคน"เอ่อ..เดี๋ยวน้องปฏิญญาอยู่คุยกับพี่สักครู่นะคะ" พี่อลิซบอกกับปฏิญญา แว่บหนึ่งที่เธอหันไปเพื่อมองหาน้ำฟ้า แต่เธอกลับเห็นอมารีที่ยืนเหยียดยิ้มแปลกๆ ให้กับเธอ"น้องปฏิญญาคะ""คะ""คือพี่มีเรื่องอยากแจ้งน้องนิดนึงค่ะ พี่คริสตี้อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งการเดินแบบของน้อง" อลิซพูดเสียงห้วนคล้ายไม่พอใจอยู่ในที"ยังไงเหรอคะ?" ปฏิญญาถามพร้อมกับเตรียมใจล่วงหน้าในขณะที่น้ำฟ้าเดินเข้ามาพอดี"พี่คริสตี้อยากให้น้องมาเดินชุดฟินาเล่แทนอมารีค่ะ""อะ อะไรนะคะ?" ปฏิญญาทวนคำด้วยความงุนงง"พี่คริสเขาเป็นเจ้าของห้องเสื้อ เขาอยากได้แบบไหนก็ต้องตามใจเขาแหละค่ะ" พี่อลิซพูด"แล้วแบบนี้อมารีจะไม่รู้สึกแย่เหรอคะ น้องญาไม่อยากให้อมารีรู้สึกไม่ดี""เรื่องนั้นพี่จัดการเองค่ะ ถ้าอย่างนั้นก็เอาเป็นตามนี้ละกันนะคะ" พี่อลิซพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินจากไป"เป็นไรแก ยังคิดเรื่องนั้นอยู่อีกเหรอ" น้ำฟ้าเอ่ยถามปฏิญญาในขณะที่เธอกำลังขับรถกลับไปส่งน้ำฟ้าที่คอนโด"ฉันเป็นห่วงความรู้สึกขอ
รถพอร์ชคันหรูของปฏิญญาเคลื่อนตัวเข้าจอดยังใต้คอนโดราคาแพงของน้ำฟ้า เพราะวันนี้น้ำฟ้ารับปากจะไปเป็นเพื่อนซ้อมเดินแบบเหมือนเช่นเคย ความเป็นจริงเธอนัดกับน้ำฟ้าตอนสิบโมง เพราะพี่จัสมินนัดซ้อมตอนสิบเอ็ดโมง แต่เพราะเออเนสดันพูดไม่ถูกหูเธอขึ้นมาเธอเลยออกมาจากเพนท์เฮาส์ในตอนนั้นทันทีร่างเล็กขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นรถสปอตหรูคุ้นตาที่จอดอยู่ข้างๆ กับรถของน้ำฟ้า"นั่นมันรถพี่เซนส์หนิ ทำไมมาจอดที่นี่ได้อะ ยังเช้าอยู่เลยนะ ... หรือว่า..." ใบหน้าสะสวยเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มในทันที"เห็นเงียบๆ แบบนี้ร้ายเงียบเหมือนกันนะพี่เซนส์ คอยดูเถอะ จะแซวให้ม้วนเลย" ปฏิญญาก้าวเข้าไปในลิฟท์แล้วกดไปยังชั้นที่น้ำฟ้าพักอยู่ทันที ปิ๊งงงงง ป่องงงงง เสียงกดออดดังอยู่ที่หน้าประตูคอนโดของน้ำฟ้านานพอสมควรกว่าพื่อนของเธอจะมาเปิดประตูให้"ยะ..ญาญ่า ทำไมมาเร็วจังล่ะ ไหนว่านัดกันตอนสิบโมงไง" น้ำฟ้าเอ่ยถามเมื่อปฏิญญาเดินสาวเท้าเข้ามาในห้อง"ก็ตื่นเร็ว ไม่รู้จะทำอะไรไง เลยมาก่อนเวลา ทำไมอะมาก่อนไม่ได้รึไง หรือว่ามีใครแอบซ่อนเอาไว้เหรอ?" ปฏิญญายิ้มร้ายใส่"เอ่อ..ปะ..เปล่า พอดีฉันเพิ่งตื่นไง เกรงใจแกต้องมารอฉันแต่งตัวนาน" น้ำฟ้าตอบตะก
"พี่ขอไลน์น้องญาไว้หน่อยนะคะ เดี๋ยวพี่รวบรวมนางแบบได้ครบแล้วจะทำเป็นไลน์กลุ่มค่ะ เวลานัดซ้อมหรือมีข่าวอะไรแจ้งจะได้ทราบกัน" พี่จัสมินบอกพร้อมกับยื่นโทรศัพท์มาให้เธอ สัปดาห์ต่อมาติ๊ง/ติ๊งเสียงไลน์ของปญิญญาดังขึ้นพร้อมกันกับอมารี ทั้งสองคนต่างหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูทันที"พี่จัสมินทักมานัดให้ไปซ้อมเย็นพรุ่งนี้แล้วอะน้ำฟ้า"ปฏิญญาบอกกับน้ำฟ้า"โอเค เดี๋ยวไปเป็นเพื่อน""ซ้อมอะไรเหรอ?" อมารีเอ่ยถาม"เดินแบบงานการกุศลของมหาลัยน่ะ เมื่ออาทิตย์ก่อนพี่จัสมินกะพี่อแมนด้ามาทาบทามญาญ่าด้วยตัวเองเลยนะ" น้ำฟ้าตอบในขณะที่อมารีกำโทรศัพท์ในมือแน่น"เอ๊ะ! ในกลุ่มมีไลน์ของมารีด้วยนี่นา พี่เขามาทาบทามเธอเหมือนกันเหรอ ดีจังเลยจะได้ไปซ้อมด้วยกัน" ปฏิญญายิ้มให้อมารีในขณะที่อีกฝ่ายพยักหน้าน้อยๆ ด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยหลังจากวันนั้นปฏิญญาก็ไปซ้อมเดินแบบทุกเย็น เพราะเหลือเวลาแค่สามสัปดาห์ก็จะถึงกำหนดงานการกุศลแล้ว"ที่รักกลับค่ำทุกวันเลย เรียนหนักเหรอครับ" เออเนสเอ่ยถามเมื่อแฟนสาวกลับมาถึงเพนท์เฮาส์เกือบสองทุ่ม"ต้นเดือนหน้ามหาลัยจัดงานการกุศลค่ะ รุ่นพี่เขาก็เลยมาขอให้น้องญาไปเป็นนางแบบ ก็เลยต้องซ้อมทุกวันเลย" ป
เออเนสก้มหน้าลงซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่นของแฟนสาว กลิ่นหอมอ่อนๆ รวมกับกลิ่นแอลกอฮอลล์จากลมหายใจของเธอช่วยกระตุ้นอารมณ์ดิบที่กำลังคุกรุ่นอยู่ภายในกายหนุ่มให้รุ่มร้อนมากยิ่งขึ้นฝ่ามือหนาดึงสายชุดเดรสให้ร่นลงมาที่ใต้อก สองเต้าตูมเต่งที่ถูกปิดจุกด้วยสติกเกอร์สีเนื้ออ่อนทะลักล้นออกมาอวดโชว์ต่อสายตาของชายหนุ่ม เออเนสดึงสติกเกอร์ที่ปิดจุกออกแล้วตะโบมดูดดุนยอดอกสีชมพูระเรื่อนั้นอย่างเมามันจนมันเปลี่ยนเป็นสีแดงเถือก"อ๊ะ ..อ๊าาา"ปฏิญญาร้องครางด้วยความเจ็บปนเสียวเมื่อยอดอกทั้งสองข้างถูกดูดดุนอย่างหนัก ในขณะที่ฝ่ามือหนาค่อยๆดึงชายชุดเดรสสั้นถลกขึ้นจนมากองอยู่ที่เอว เออเนสถอดแพนตี้สีดำลายลูกไม้ตัวจิ๋วของเธอออก แล้วส่งนิ้วเข้าไปทักทายร่องรัก ที่ตอนนี้ผลิตน้ำหวานสีใสออกมามากมาย"น้ำเยอะแบบนี้พร้อมแล้วใช่ไหม?" เออเนสก้มลงเอ่ยกระซิบข้างหูด้วยเสียงแหบพร่าจนปฏิญญาขนลุกเกรียว เธอเผลอกัดริมฝีปากด้วยความเสียวซ่านเมื่อเออเนสส่งนิ้วเรียวยาวเข้าไปสำรวจภายในช่องทางรักของเธอพร้อมกับขยับชักเข้าออกถี่ๆ"อ๊ะ..อูยยย ซี๊ดดด" เสียงปฏิญญาสูดปากร้องครางเมื่อเออเนสก้มลงดูดยอดอกอย่างมูมมามอีกครั้ง ในขณะที่ฝ่ามือแกร่งยังคงส่
น้ำฟ้ายังคงเต้นรำอย่างสนุกสนาน ในขณะที่เซนส์ยืนกอดอกมองดูอยู่เงียบๆ"ปฏิญญาไปห้องน้ำนานจังล่ะ ป่านนี้ยังไม่มาอีกไม่ใช่หนีกลับไปแล้วนะ" อมารีพูดกับน้ำฟ้าซึ่งกำลังยืนเต้นอยู่ใกล้ๆ"ญาญ่ามันไปกะผัวมันไม่ต้องห่วงมันหรอก กระเป๋ายังอยู่นี่เลย จะกลับได้ยังไง" น้ำฟ้าชี้ให้อมารีดูกระเป๋าสะพายราคาแพงของปฏิญญาที่วางอยู่บนโต๊ะ เธอนั่งลงที่เก้าอี้พร้อมกับหยิบแก้วเครื่องดื่มสีอำพันขึ้นมาดื่มโดยไม่สนใจเซนส์ที่ยืนเป็นหุ่นปูนปั้นอยู่ใกล้ๆ"สวัสดีครับสาวๆ ขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับ" เสียงชายหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่งเอ่ยทัก"เชิญเลยค่ะพ่อรูปหล่อ" น้ำฟ้ายิ้มตาหวานฉ่ำแล้วเลื่อนเก้าอี้ให้ชายหนุ่มผู้มาใหม่ให้เขานั่งใกล้ๆ กับเธอ"มากันสองคนเหรอครับ""มากันสามคนค่ะ แต่เพื่อนคนสวยอีกคนของฉันไปเข้าห้องน้ำ" เขาพยักหน้ารับรู้"สาวๆชื่ออะไรกันครับ ผมเจ็ทครับ""ฉันชื่อน้ำฟ้า ส่วนคนนี้ชื่ออมารีค่ะ คุณชื่อเจ็ทเหรอคะ ใช่เครื่องบินเจ็ทหรือเปล่าน๊าา อยากขี่จัง" น้ำฟ้าหัวเราะลงลูกคอเสียงอ่อนเสียงหวาน จนอมารีต้องสะกิดต้นแขนพร้อมกับกระซิบเบาๆ"จะอ่อยอะไรใครก็ดูหน้าเจ้าที่แกด้วยนะ หน้าอย่างกะยักษ์แล้วนั่น" น้ำฟ้าหัวเราะร่วน เธอยังคงพู
."เกรดออกแล้ว ญาญ่าคะแนนดีมากเลยนะเนี่ย" น้ำฟ้าพูดพร้อมกับดูคะแนนสอบของเพื่อนและของตัวเอง"ของฟ้าก็คะแนนดีเหมือนกันนะ ห่างกันแต่นิดเดียวเอง" ปฏิญญาบอกกับน้ำฟ้าพร้อมกับส่งยิ้มให้จนตาหยี"ของมารีก็คะแนนดีเหมือนกัน ผ่านหมดทุกวิชาเลย" ปฏิญญาบอกกับอมารี ทุกคนต่างดีใจที่สอบผ่านแถมได้คะแนนดีกันทุกคน"แบบนี้มันต้องฉลองกันสักหน่อยดีมั้ย" อมารีเอ่ยชวน"อืม ก็ดีเหมือนกันนะ นานมากแล้วที่ไม่ได้ไปเที่ยวผับกันเลย คืนนี้จัดกันสักหน่อยดีกว่า" น้ำฟ้าเห็นด้วย"ว่าแต่จะไปไหนดีล่ะ ญาญ่าต้องขออนุญาตคู่หมั้นก่อนมั้ยเนี่ย?" อมารีถามญาญ่า"พวกเธอเลือกร้านกันได้เลย ฉันไปได้แน่นอน ถ้าเลือกร้านได้ก็ไลน์มาบอกละกันนะ เดี๋ยวฉันต้องกลับบ้านก่อน เมื่อคืนมัมโทรมาบ่นว่าคิดถึง" ปฏิญญาบอกกับเพื่อน"เชิญเถอะจ้ะ หมั่นไส้คนแม่ผัวรัก เชอะ" น้ำฟ้าเชิดหน้าเอ่ยล้อเลียนเพื่อนสาว ปฏิญญาตีแขนน้ำฟ้าเบาๆอย่างหยอกล้อ ก่อนที่จะเดินเลี่ยงออกไป@ TNK ผับ น้ำฟ้ากับอมารีนั่งดื่มอยู่ชั้นบนโซนของโซนวีไอพี ผับนี้เป็นผับหรูที่มีคนนิยมมาเที่ยวมากที่สุด สองสาวนั่งดื่มกันสักพักหนึ่งแล้ว แต่ปฏิญญาก็ยังไม่มา"ยัยฟ้า เราจะโดนปฏิญญามันเทไหมเนี่ย ป่า
หลังจากทานอาหารด้วยกันเรียบร้อยแล้ว ปฏิญญาก็เข้ามานั่งคุยกับน้ำฟ้าในห้องนอน ส่วนเซนส์ก็นั่งพักผ่อนรอเธออยู่ที่โซฟารับแขกด้านนอก สองสาวคุยกันอยู่ครู่หนึ่งปฏิญญาก็ขอตัวกลับ"เรากลับก่อนนะฟ้า เธอจะได้พักผ่อนจะได้หายไวๆ""จ้ะ ขอบใจนะญาญ่า ที่อุตส่าห์ซื้ออาหารและยามาให้" สองสาวโอบกอดซึ่งกันและกันก่อนที่ปฏิญญาจะขอตัวกลับไปสัปดาห์ต่อมา @มหาลัย Harmony "ใกล้สอบแล้ว งานเยอะชะมัดเลย" ปฏิญญาบ่นอุบอิบพลางทิ้งตัวคว่ำหน้าลงที่โต๊ะม้าหินใต้อาคารเรียนอย่างเหนื่อยอ่อน"อาทิตย์หน้าก็ถึงงานหมั้นแล้ว เธอควรพักผ่อนบ้างนะญาญ่า เดี๋ยวหน้าโทรมจะไม่สวยนะ" น้ำฟ้าเอ่ยแซว"อะไรนะ! งานหมั้น ปฏิญญาจะหมั้นเหรอ?" อมารีโพล่งออกมาเสียงดัง ทำเอาปฏิญญากับน้ำฟ้าถึงกับตกใจ ทั้งสองคนต่างมองอมารีเป็นตาเดียวกัน จนเธอเองเหมือนจะรู้สึกตัวจนต้องฝืนยิ้มแห้งๆ ออกมา"อะ..เอ่อ ขอโทษที่เสียงดังนะ เราแค่ตกใจน่ะ""อ๋อ.. พอดีเรากลับไปจัดงานหมั้นที่บ้านเกิดที่ประเทศไทยน่ะ ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้บอกเธอนะมารี" ปฏิญญาบอกกับอมารี"ไม่เป็นไร ยังไงถ้ามีโอกาสได้แต่งงานจริงๆ แล้วค่อยไปก็ยังได้นะ" อมารีพูดพร้อมกับยิ้มอ่อนให้กับปฏิญญา ทำเอาเธอถึ