“ผมจับตัวคุณมาเอง” เสียงทุ้มเอ่ยตอบอย่างตรงไปตรงมา จากนั้นเขาก็ลากเก้าอี้มานั่งมองหน้าเธอไม่วางตา
พิริสาเริ่มกลืนน้ำลายไม่ลงคอ แค่สายตาของเขาก็ทำเธอกลัวมากพออยู่แล้ว อีกทั้งน้ำเสียงทุ้มต่ำดูเยือกเย็นทำเธอเริ่มไปไม่เป็น ทว่าก็นึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เธอเป็นถึงทายาทมาเฟียอิตาลี แถมสามีก็เป็นหัวหน้ามาเฟียรัสเซีย ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาไม่ได้สนใจเธอเท่าไหร่ก็เถอะ อย่างน้อยอ้างชื่อพวกเขามาเป็นคำขู่ คนร้ายตรงหน้าจะได้รู้สึกเกรงตัวเธอบ้าง
“คุณจับตัวฉันมาต้องการอะไร ไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร คุณพ่อฉันเป็นมาเฟีย สามีฉันก็เป็นมาเฟีย”
“ผมรู้ รู้ทุกอย่าง ถึงได้พาคุณมาที่นี่ไง แล้วคุณล่ะรู้รึเปล่าว่าผมเป็นใคร”
“อย่าบอกว่าจับตัวฉันมาเรียกค่าไถ่”
“ผมไม่เคยต้องการเงิน แต่ต้องการทำลายชีวิตใครบางคนมากกว่า”
“พูดให้ฉันเข้าใจง่ายๆ ได้ไหมว่าต้องการอะไร”
“ได้ ขี้เกียจอ้อมค้อมเหมือนกัน ผมแค่อยากให้เซรเกย์มันตาย แต่มันก็ไม่ตาย เลยอยากจะจับคุณมาทำเมียให้มันตายทั้งเป็น”
“อะไรนะ!” ไม่ได้ เธอปล่อยให้เค้าทำกับเธอแบบนี้ไม่ได้
“คนอย่างฉันไม่ยอมเป็นเมียใครง่ายๆ หรอกนะ อีกอย่างเซรเกย์ก็คงไม่ได้รู้สึกอะไรถ้าคุณจะจับฉันทำเมีย เพราะตอนนี้เค้าจำฉันไม่ได้ จำได้แต่นังหมอจอมฉกแฟนเก่าเค้าโน่น” พูดไปก็เจ็บใจไป แต่ยังไงเธอก็ต้องพูดเพื่อยกเป็นเหตุผลประกอบไม่ให้ต้องเสียตัวให้คนอื่นที่ไม่ใช่สามีตัวเอง
“อย่ามาหลอกผมซะให้ยาก”
“หลอกบ้าอะไรเล่า พูดแล้วยังเจ็บใจอยู่เลยเนี่ย หึ่!!”
พิริสากอดอกแผดเสียงฝาดด้วยความหงุดหงิด เธออุตส่าห์พูดเรื่องจริงที่แสนเจ็บใจ เขาก็ยังหาว่าเธอหลอกลวง
เรนจ้องมองหญิงสาวที่กำลังมีท่าทีกระฟัดกระเฟียดก็เริ่มที่จะเชื่อในคำพูดของเธอ แต่เขาก็ไม่เชื่อว่าเซรเกย์จะไม่สนใจคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียถูกต้องตามกฎหมาย จะรักไม่รักถูกแย่งไปก็เหมือนถูกหยามอยู่ดี
“มองหน้าทำไมนักหนา เออ... แล้วแค้นอะไรเซรเกย์นักหนาถึงได้จะฆ่าเค้า” รู้ตัวการที่ทำให้สามีของเธอเครื่องบินตกก็นั่งมองตาขวางไม่สบอารมณ์เป็นที่สุด สามีเธอเจ็บหนักไม่พอ ยังต้องมาความจำเสื่อมจำเธอไม่ได้
สิ่งที่น่าเจ็บใจที่สุดคือสามีเธอไปจำตอนที่ยังรักกับแฟนเก่าได้เสียอย่างนั้น เพราะคนตรงหน้าเธอคนนี้คนเดียวเชียว หากตอนนี้เธออยู่เหนือกว่าเขาหน่อยล่ะก็อยากจะข่วนหน้าให้เป็นแนวหลายๆ แนวไปเลย
“มันฆ่าได้แม้กระทั่งพ่อตัวเอง คนอย่างมันไม่สมควรมีชีวิตอยู่บนโลก” เรนกำหมัดกัดฟันกรอดเมื่อต้องพูดถึงเรื่องราวที่เจ็บปวดอยู่ในใจ เพราะพ่อของเซรเกย์ก็คือพ่อของเขาเหมือนกัน
“เดี๋ยวนะ...” พิริสาคิดว่าคนตรงหน้าเธอต้องเข้าใจผิดอะไรไปแน่ แล้วทำไมเขาต้องทำท่าทางแค้นเคืองเซรเกย์ขนาดนั้น หรือว่าที่เค้าเหมือนสามีเธอขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าเป็นลูกชายของพ่อเซรเกย์อีกคนเหรอ
“อย่าบอกนะว่าคุณเป็นลูกอีกคนของพ่อเซรเกย์อะ”
เรนนั่งเงียบไม่ยอมตอบอะไร แค่นี้พิริสาก็รู้แล้วว่าเรื่องที่เธอสันนิษฐานมันเป็นเรื่องจริง แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นหลักตอนนี้ก็คือเขากำลังเข้าใจผิดว่าเซรเกย์ฆ่าพ่อตัวเอง แท้ที่จริงลูเซียสฆ่าตัวตายเองต่างหาก หลังจากที่รู้ว่าทำยังไงก็ไม่สามารถขึ้นเป็นหัวหน้ามาเฟียในรัสเซียได้
“เงียบแบบนี้แสดงว่าใช่ ฉันจะบอกให้ว่าเซรเกย์ไม่ได้ฆ่าพ่อตัวเอง พ่อเค้าต่างหากเลือกจะฆ่าตัวตายเอง”
“เห็นกับตางั้นเหรอ”
“ถึงไม่เห็นแต่ฉันก็เชื่อ บ้านพ่อคุณไม่มีกล้องวงจรปิดรึไง”
“ถ้ามันไม่ถูกเผาจนวอดวายมันก็คงจะเหลือหลักฐานให้ผมเห็นมากกว่านี้ไง” วันนั้นหากเขาเข้าไปหาพ่อของเขาเร็วกว่านั้นอีกสักนิด พ่อของเขาก็คงไม่ต้องมีจุดจบแบบนั้น
ก่อนที่วาเลรีคนสนิทของเขาจะตายเพราะต่อสู้กับพวกของวาดิมหัวหน้ามามาเฟียรัสเซียคนเก่า วาเรลีได้บอกเขาว่าเห็นเซรเกย์จ่อปืนจะยิงพ่อของเขาเพื่อช่วยเหลือวาดิม เพียงแค่วาเลรีบอกแค่นั้นเขาก็รับรู้ได้ว่าพ่อของเขาไม่ได้ฆ่าตัวตายอย่างที่ทุกคนรับรู้ และเขาก็จะทำให้คนที่มันฆ่าได้แม้กระทั่งพ่อตัวเองได้ลงนรก
“จะพูดยังไงก็ไม่เชื่อใช่ไหม” แม้พิริสาจะไม่ได้เห็นกับตาก็เชื่อว่าเซรเกย์และวาดิมไม่คิดโกหก
“ใช่ ผมไม่เชื่อ” พูดจบก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามากอด วินาทีนั้นพิริสากลัวจนตัวสั่นเป็นลูกนกตกน้ำ
“โอ้ย นี่ อย่าทำอะไรฉันนะ ถ้าคุณทำอะไรฉันคุณมันก็แค่คนไม่มีศักดิ์ศรี” เธอต้องขู่โดยยกเอาเรื่องศักดิ์ศรีขึ้นมานี่แหละ รู้ว่าคนที่เป็นมาเฟียหรือถูกเลี้ยงโดยมาเฟียเห็นเรื่องศักดิ์ศรีเป็นเรื่องสำคัญ
ตอนนี้เธอต้องงัดวิธีการเอาตัวรอดทุกวิถีทางเพื่อที่จะไม่ต้องตกเป็นของผู้ชายคนอื่นนอกจากสามีตัวเอง แล้วก็หวังว่าคำพูดของเธอมันจะใช้ได้ผลกับคนที่กำลังจะทำมิดีมิร้ายกับเธอตอนนี้ด้วย
“หายไปได้ยังไง” ในวันที่เซรเกย์กำลังเตรียมตัวจะออกจากโรงพยายาล เขาก็ต้องมีเรื่องให้ได้ปวดหัวอีกเรื่อง เมื่อบอริสเข้ามารายงานเรื่องของพิริสา“ผมขอโทษครับนายที่ปล่อยให้นายหญิงหายไปได้ ตอนนี้เราได้แจ้งกับทุกคนให้เร่งตามหา รวมถึงแจ้งกับคุณฟาเบียนแล้วด้วยครับ”“อย่ามัวแต่ขอโทษฉัน รีบไปหาเธอให้เจอเดี๋ยวนี้เลย”“เธอคงงอนคุณเรื่องฉันแน่เลยค่ะ” หมอสาวเข้ามากุมมือปลอบใจเซรเกย์หลังจากที่บอริสออกจากห้องไปแล้ว“ผมไม่คิดว่าคนที่ผมเลือกเป็นภรรยาจะไม่มีเหตุผล” สีหน้าของวาดิมเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ตื่นมาก็รู้ว่าตัวเองความจำเสื่อม แถมยังได้รับตำแหน่งหัวหน้ามาเฟียแทนเพื่อนรักอย่างวาดิมไปแล้วอีกที่น่าตกใจมากกว่านั้นก็เพราะรู้ว่าพ่อของเขาเป็นคนฆ่าครอบครัวของวาดิม แถมเขายังแต่งงานกับพิริสา ลูกสาวของดันเต้ มาเฟียชาวอิตาลี แล้วยังต้องมาปวดหัวกับการที่เห็นภรรยาตนอาละวาดมิล่าหมอสาวที่เป็นแฟนเก่าของเขาเพราะหึงหวงในตัวของเขาไหนตอนนี้เธอจะหายตัวไปอีก เขาอยากจะบ้าเสียให้ได้ หากครอบครัวของพิริสารู้ว่าเขาจำเธอไม่ได้แถมยังทะเลาะกันจนเธอหายไป ปัญหาใหญ่ของมาเฟียสองฝั่งได้เกิดแน่“คุณกับเธออาจจะไม่ได้รักกันก็ได้นะค
“น้องฉันไม่ใช่คนแบบนั้น ฉันจะไม่ถืออะไรนายในตอนที่นายจำอะไรไม่ได้ แต่ฉันว่านายกับมิล่าไม่น่าจะต้องมาอยู่ในชีวิตของกันและกันอีกแล้ว เพราะหลังจากนี้นายก็ไม่ได้อยู่โรงพยาบาล ส่วนเรื่องความจำของนาย ฉันจะหาหมอเก่งๆ มาดูแลนายแทนละกัน”เซรเกย์พยักหน้ารับคำของฟาเบียน เขาเองก็ไม่ได้อยากอยู่ใกล้มิล่าเพราะกลัวใจของตัวเองจะเผลอไปทำเรื่องที่ผิด อีกอย่างมันก็คงจะดีกับการรักษาครอบครัวของเขาด้วยถึงแม้ว่าตอนนี้จะจำภาพที่เป็นครอบครัวกับพิริสาไม่ได้ก็เถอะ แต่การตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลมมันก็เป็นการดีต่ออนาคตข้างหน้า หากวันหน้าความจำของเขากลับมาเป็นเหมือนเดิม จะได้ไม่ต้องมีเรื่องให้ลำบากใจภายหลังทางด้านพิริสาเริ่มหายใจหายคอได้โล่งเมื่อเรนไม่ได้ทำอะไรกับร่างกายของเธออย่างที่เขาตั้งใจ อีกทั้งตอนนี้ยังมีหญิงสาวลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นคนของเรนมาอยู่เป็นเพื่อนชวนคุย“เจ้านายของริโอะจะกลับมาทำอะไรไม่ดีกับฉันอีกไหมอะ” ถามหญิงสาวหน้าตาน่ารักน่าชังด้วยท่าทางระแวง“คุณริสาไม่ต้องกลัวอะไรนะคะ คนอย่างคุณเรนไม่ขืนใจผู้หญิงค่ะ”“ทำไมริโอะเชื่อแบบนั้นล่ะ”“พ่อของคุณเรนจะสอนเสมอว่าไม่ให้ใช้ผู้หญิงร่วมกับใคร แล้วแม่คุณเรนก็จะสอน
หลังจากฟาเบียนและชิเอะกลับไปได้ วาดิมและเซรเกย์ก็นั่งจดจ่ออยู่กับหน้าจอมือถือและโน๊ตบุ๊ค คอยดูรายงานที่นักสืบส่งมาให้ จนแล้วจนรอดแม้นักสืบจะไปค้นหาทุกสถานที่แล้ว แต่ก็ไม่ยักจะมีวี่แววร่องรอยของพิริสาจริงๆเซรเกย์นั่งถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า นึกโทษตัวเองที่หากเขาไม่ใจร้อนตำหนิพิริสาจนเธอไม่พอใจ เรื่องราววุ่นวายก็คงไม่ต้องเกิดขึ้น“ถ้าคนของเราทำอะไรไม่ได้เลย ตอนนี้ก็คงต้องรอคนของพ่อชิเอะ”“เห็นทีฉันต้องส่งมาเฟียไปเรียนวิชาจากพวกยากูซ่าแล้วมั้ง” เซรเกย์ส่ายหัวด้วยความอ่อนใจ“นายจำไม่ได้สักนิดเลยเหรอว่าเคยรักริสายังไง ตอนที่ริสารู้ว่าแกจำเธอไม่ได้เธอเอาแต่โทรมาร้องให้กับว่านเป็นพักใหญ่เลย”“ฉันอยากรู้จริงๆ วาดิม ฉันไม่ได้แต่งงานกับริสาเพราะนายใช่ไหม” เมื่อวาดิมเปิดประเด็นคุยเรื่องพิริสา เขาก็อยากจะถามเพื่อนให้ละเอียดเช่นกัน“ฉันว่านายน่าจะรู้นิสัยตัวเองดี แถมนายยังเป็นคนตามตื๊อริสาเองด้วย”“แต่เธอดูเป็นคนไม่มีเหตุผล ฉันไม่น่าจะชอบคนแบบนั้น”“อะไรที่นายคิดว่าเธอไม่มีเหตุผล”“ก็เธอหึงฉันกับมิล่า มิล่าแค่รักษาฉันเธอก็อาละวาดไล่มิล่าให้ไปไกลๆ ฉัน ฉันก็เลยต่อว่าเธอจนเธองอนแล้วหนีไป จนตอนนี้ไ
ทั้งสองแลกหมัดกันอย่างไม่ยั้งมือ เป็นเวลาเดียวกันที่ริโอะพาพิริสาออกมาที่หน้าบ้านพอดี สองสาวเห็นภาพความรุนแรงต่างก็ยืนอ้าปากค้างตกอกตกใจและเป็นพิริสาที่ใช้เวลาที่ริโอะกำลังเผลอ วิ่งเข้าไปห้ามทั้งสองหนุ่ม ถือว่าเธอคิดถูกที่ฝ่าฝืนคำสั่งของเรนออกมาจากห้อง ไม่เช่นนั้นคงได้มีใครได้ตายกันไปข้างหนึ่งแน่“เป็นพี่น้องกันจะฆ่ากันให้ตายให้ได้เลยเหรอ” สิ้นเสียงตะโกนของพิริสา เซรเกย์ก็หยุดการกระทำทุกอย่างทันที เช่นเดียวกับเรนที่หยุดมือแล้วหันไปมองริโอะด้วยสายตาไม่สบอารมณ์“บอกว่าอย่าให้ริสาออกมาไง”คนที่ถูกตวาดได้แต่ยืนก้มหน้า แม้จะถูกดุแต่เธอก็คิดว่าตัวเองทำถูกต้อง ไม่รู้ว่าทำไมเรนถึงได้เลือกที่จะใช้กำลังก่อนที่จะพูดคุย ทั้งที่เขาก็รับปากกับพิริสาไปแล้ว“หมายความว่ายังไงริสา” เซรเกย์มองหน้าพิริสาตาแทบถลน อยากได้คำตอบจากปากหญิงสาวใจแทบขาด“นี่คุณเรน เค้าเป็นลูกอีกคนของพ่อคุณ เค้าคิดว่าคุณฆ่าพ่อตัวเองเลยอยากฆ่าคุณ พอคุณไม่ตายเค้าก็จับฉันมาเพื่อแก้แค้นคุณไง”“ฉันไม่ได้ฆ่าพ่อ” เซรเกย์หันมองไปยังคนที่เป็นสายเลือดเดียวกัน“ฉันไม่เชื่อ” เรนยังคงยืนยันในความคิดของตัวเอง ขนาดการพูดคุยกันดีๆ เซรเกย์ยังทำไ
“เหมือนริสาจะบอกฉันว่า ความจำของนายไปหยุดอยู่ตอนที่คบหากับมิล่า แล้วนายก็ยังรักมิล่า ริสาหวงหึงนายมากๆ ก็น่าจะเพราะเหตุผลนี้ แก้ตามที่ฉันคิดก็คือนายต้องทำให้ริสารู้ว่านายไม่ได้คิดจะไปสานสัมพันธ์อะไรกับมิล่า แล้วก็ทำหน้าที่ของสามีที่นายควรจะทำ”เซรเกย์ยังคงยืนเงียบ ใช่ว่าเขาจะไม่ทำอย่างที่เรนพูด แต่พิริสาไม่ยอมเข้าใจว่าเขากำลังพยายามทำอยู่ต่างหาก เธอเอาแต่คิดว่าเขาจะถูกแย่ง ถึงได้พูดกันไม่รู้เรื่องเช่นตอนนี้“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ฉันอยากรู้ว่าลูกคุณพ่อยังมีคนอื่นนอกจากนายอีกหรือเปล่า”“ฉันมีพี่ชาย แต่ตอนนี้เค้าไม่สนใจที่จะออกมาใช้ชีวิตภายนอกหลังจากที่เสียภรรยาแล้วก็คุณพ่อไป แล้วเค้าก็คงไม่ได้อยากรู้จักนายเหมือนกัน”“พวกนายดูรักคุณพ่อมากเลยสินะ”“ใช่ คุณพ่อกับพวกฉันมีความผูกพันธ์กันมาก เค้าสอนการใช้ชีวิตให้พวกฉันหลายอย่าง ถึงแม้ฉันจะรู้ว่าเค้าทำเรื่องผิดร้ายแรง แต่พวกฉันก็โกรธเค้าไม่ลง”เซรเกย์ยืนนิ่งงัน ดวงตาคมฉายแววน้อยใจ ริมฝีปากหนายกยิ้มเย้ยหยันตัวเองเล็กน้อย และแล้วเขาก็ได้รู้เสียทีว่าพ่อของเขาเลือกที่จะให้ความรักกับครอบครัวของเรนมากกว่าเขาและแม่เสมอมา ถึงตอนนี้จะรู้สึกน้อยใจไปก็เท
“ถ้าคุณอึดอัดจะไม่นอนที่นี่ก็ได้นะคะ”“คุณกำลังประชดผมอยู่ใช่ไหม”“มองฉันเป็นคนงี่เง่าไปซะทุกเรื่องเลยสินะคะ ฉันแค่เห็นว่าคุณยังจำฉันไม่ได้ การที่ต้องมานอนร่วมเองกับคนที่คุณคิดว่าแปลกหน้าคงไม่ชอบ”“ยังไงคุณก็คือภรรยาผม ผมก็ต้องอยู่ใกล้คุณให้ชิน”ตื๊ด ตื๊ด... ‘ดูแลตัวเองดีๆ นะคะ’เหมือนจังหวะนรกที่ทำให้สองสามีภรรยาที่เริ่มจะพูดคุยกันดีๆ มองจ้องไปยังโทรศัพท์มือถือราคาแพง วินาทีที่เซรเกย์เห็นข้อความของมิล่าโชว์หลาที่หน้าจอของตัวเองก็เริ่มกลืนน้ำลายไม่ลงคอ เห็นทีจะมีเรื่องให้เขาต้องปวดหัวอีกแล้วส่วนพิริสาก็เริ่มบุ้ยปาก ดวงตากลมโตมองจ้องไปยังโทรศัพท์มือถือของเซรเกย์ตาเขม็ง “ยัยนี่ดูท่าจะห่วงคุณเกินหน้าเกินตาไปนะคะ” พูดจบก็หันหน้าขวับมองออกไปยังนอกหน้าต่าง เซรเกย์ที่เห็นเช่นนั้นก็ได้แต่นั่งถอนหายใจเงียบๆ“คุณรู้ไหมว่าเรนจับฉันมาทำไมกันแน่”“เรนบอกผมว่าตั้งใจทำไม่ดีกับคุณ แต่ทำไม่ลง นั่นมันก็เป็นความโชคดีของคุณ”“แล้วมันไม่ใช่ความโชคดีของคุณเหรอคะที่เมียตัวเองยังไม่ตกเป็นของคนอื่น หรือว่าไม่ได้สนใจ” หันมากระฟัดกระเฟียดใส่คนเป็นสามี ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นขอบตาของเธอก็เริ่มร้อนผ่าว มีชื่อมิล
“มาหาถึงที่นี่คงมีเรื่องสำคัญใช่ไหม” หมอสาวมองหญิงสาวหน้าตาน่ารักน่าชัง ลูกครึ่งไทยรัสเซียที่กำลังนั่งฝั่งตรงข้ามด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่นัก แม้คนตรงข้ามจะเป็นน้องสาวของเซรเกย์ก็เถอะ“ค่ะ สำคัญมาก มนต์รู้ว่าคุณริสาทะเลาะกับพี่เซรเกย์ก็เพราะคุณ” มนต์ธาราทิ้งตังลงนั่งได้ก็โพล่งถึงเรื่องที่เธอต้องการคุยกับมิล่าทันที เรื่องวุ่นวายในครอบครัวพี่ชายของเธอตอนนี้มันเป็นเพราะเซรเกย์จำเรื่องราวในตอนที่รู้จักกับพิริสาไม่ได้ก็จริง แต่มันจะไม่เลวร้ายไปกว่านั้นหากมิล่าไม่คิดที่จะแย่งเซรเกย์ไปจากพิริสา แม้ปากจะบอกว่าไม่ได้คิดจะทำ แต่การกระทำมีหรือผู้หญิงด้วยกันอย่างเธอจะดูไม่ออก“เพราะความงี่เง่าของพี่สะใภ้เธอต่างหาก” หมอสาวยกยิ้มมุมปากเย้ยหยัน“คิดว่ามนต์ไม่รู้จักนิสัยพี่สะใภ้ของมนต์ แล้วก็นิสัยของคุณเหรอคะ อะไรที่คุณตั้งใจจะทำขอให้หยุดซะ ถึงพี่ชายของมนต์จะรู้สึกรักคุณ แต่เขาก็ไม่คิดจะกลับไปสนใจผู้หญิงที่ทิ้งเขาไปหรอกค่ะ อีกอย่างพี่เซรเกย์ก็ไม่คิดที่จะทิ้งคนที่แต่งงานด้วยถึงแม้จะจำไม่ได้ก็ตาม”“ไม่ต้องมาบอก ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน กลัวว่าพี่ชายเธอจะถูกแย่งจากพี่สะใภ้เหมือนที่เธอเคยแ
เซรเกย์ไม่อยากเก็บความสงสัยเอาไว้ในหัว เขาพอจะทราบว่าก่อนที่พิริสาจะรู้ตัวว่าเป็นลูกสาวของดันเต้ มาเฟียอิตาลีที่อยู่ในตำแหน่งพ่อตาของเขาตอนนี้ เธอเคยทำงานเป็นเลขาของรามิลมาก่อน คิดว่าคงจะรู้เรื่องของรามิลมากกว่าเขาที่เป็นเพื่อน แต่ก็ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก“ผมคุยอะไรด้วยได้หรือเปล่า” เซรเกย์เอ่ยถามคนเป็นภรรยาขณะที่เธอจะล้มตัวนอนข้างๆ เขา“พูดมาสิคะ”“รามิลเคยเป็นเจ้านายคุณใช่ไหม”“ใช่ค่ะ”“เค้ามีผู้หญิงคนอื่นมาเกาะแกะรึเปล่า”“ไม่นะคะ คุณมิลไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงค่ะ ถามทำไมคะ” รามิลไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงมาเกาะแกะอะไรทั้งนั้นตลอดสองปีที่เธอทำงานกับเขา จนเธอเองยังคิดว่าเขาโสดจนแอบชอบ เรื่องนี้เซรเกย์ก็รับรู้ เพียงแค่ตอนนี้เขาจำเรื่องราวเหล่านั้นไม่ได้เท่านั้น แล้วเธอก็ไม่คิดจะลงรายละเอียดเรื่องนี้ให้เขาฟังด้วย“รามิลกับน้องผมหมั้นกันมานานแล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้จัดงานแต่งซะที มนต์บอกว่ายังอยากเที่ยว แต่ผมกลัวว่ามันจะมีอะไรมากกว่านั้น”“คุณคิดมากไปรึเปล่าคะ สองคนนั้นเค้าก็ดูรักกันดี การแต่งงานมันอาจจะไม่ใช่จุดหมายของเค้าสองคนก็ได้ อย่าบอกนะคะว่าคุณไปเค้นให้คุณมนต์ต้องแต่งงาน” เธอไม่เ
“ริสา”“สรุปว่าพวกคุณรู้ตั้งแต่แรกว่าฉันจะมีลูกไม่ได้หลังจากใช้ยาถอนพิษเหรอคะ”“ผมขอโทษริสา แต่ที่ผมไม่บอกเพราะกลัวว่าคุณจะไม่ยอมรักษาตัว ถ้าปล่อยให้พิษนั่นอยู่ในร่างกายนานๆ มันทำลายระบบประสาทหลายอย่าง”พิริสาไม่คิดจะฟังอะไรทั้งนั้น เมื่อเห็นเซรเกย์เข้ามาใกล้ เธอก็รีบวิ่งหนี หากเขาบอกเธอถึงความจริงของผลข้างเคียง วันนั้นเธอก็อาจจะทำใจยอมรับเรื่องที่จะมีลูกไม่ได้ก็ได้ แต่ตอนนี้เธอมีความหวังจนไม่อาจจะผิดหวังได้แล้ว ทำไมเรื่องมันต้องกลายมาเป็นแบบนี้ด้วย“ฮื่อ ฮือ ฮือ ฮือ...” เธอวิ่งไปไม่รู้จุดหมาย พร้อมน้ำตาพรั่งพรูและเสียงสะอึกสะอื้น เมื่อหัวใจถูกบีบรัดมากเข้าเธอก็เริ่มหูอื้อตาลาย และหมดสติไป“ริสา” เซรเกย์วิ่งไปรับร่างของพิริสาได้ทันท่วงที จากนั้นก็รีบสาวเท้าพาเธอเข้าไปให้โอเว่นดูอาการพิริสายังนอนให้หมอตรวจโดยที่น้ำตายังคงไหลไม่หยุด ทั้งยังไม่คิดที่มองหน้าทั้งหมอโอเว่นและสามีของเธอ เพราะยังโกรธเรื่องที่พวกเขาไม่ยอมบอกเธอถึงผลข้างเคียงทุกอย่างของการใช้ยาถอนพิษ ทำให้เธอต้องรู้สึกผิดหวังมากๆ ในตอนนี้“ผมว่าเรากำลังจะมีข่าวดีแล้วล่ะ” จากการที่โอเว่นได้เริ่มศึกษาแพทย์แผนจีน เขาก็พอจะจับชีพจ
ตั้งแต่มาถึงร้านสมุนไพรได้ พิริสาก็ถูกหมอจีนตรวจชีพจรอยู่พักใหญ่ เพราะไม่เคยเจอคนที่เลือดลมเดินทางแปลกๆ เช่นหญิงสาวมาก่อน“อืม...แปลกๆ” หมอสมุนไรวัยเกือบแปดสิบสีหน้าเคร่งเครียดเป็นพิเศษ ก่อนจะปล่อยมือจากชีพจรของหญิงสาวและหยิบตำราใจใต้ลิ้นชักขึ้นมาดูเซรเกย์ที่เห็นว่าได้จังหวะเขาจึงเริ่มออกอุบายที่วางแผนเอาไว้ “ผมลืมเอามือถือมาจากในรถ ริสาไปเอาให้ผมหน่อยได้ไหม”“ได้สิคะ”ให้หลังพิริสาไปได้ เซรเกย์ก็ถือโอกาสพูดคุยรายละเอียดทุกอย่างกับหมอจีน หวังว่าเขาจะเป็นที่พึ่งให้กับคนที่ลูกยากได้จริงๆ อย่างที่ริโอะได้พูดเอาไว้ทางด้านพิริสาเธอก็เอาแต่หาโทรศัพท์มือถือของเซรเกย์อยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายก็เจอมันก็ตกอยู่ที่ใต้เบาะที่นั่งของเขา กว่าจะกลับเข้าไปในร้านยาได้ เธอก็เห็นหมอจีนเตรียมสมุนไพรเอาไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว“หมอจัดยาให้เรียบร้อยแล้วนะริสา”“เหรอคะ ไวดีจังเลย”“คุณต้องดื่มยาต้มนี่ทุกวัน วันละสามเวลาเป็นเวลาสามเดือน”“แค่นี้จะพอเหรอคะ” ดวงตาคู่สวยเริ่มเพ่งมองไปยังห่อสมุนไพรเล็กๆ ที่ตั้งอยู่สามห่อ“แล้วผมจะส่งสมุนไพรตามไปให้ทุกครึ่งเดือน ระหว่างนี้ก็งดอาหารหมักดอง แล้วก็ต้องทานอาหารที่ทำสดใหม่เ
“ริโอะ”ขณะที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ เสียงที่แสนคุ้นหูก็ดังแว่วมาแต่ไกลทำให้ริโอะรีบหันไปยังต้นเสียงด้วยความรวดเร็ว “อ้าวคุณริสา มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”“เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ”“มานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยค่ะ เราเข้าบ้านกันดีกว่าค่ะ ริโอะทำขาหมูไว้ให้คุณริสาด้วยนะคะ”“คุณเรนบอกแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันยังไม่อยากเข้าไปในบ้าน อยากคุยกับริโอะก่อน”“มีอะไรเหรอคะ”“ริโอะกำลังงอนคุณเรนอยู่ใช่ไหม”สีหน้าที่กำลังเปื้อนยิ้มเริ่มเจื่อนลง ไม่ผิดหรอกที่เรนเข้าใจเช่นนั้น แต่นั่นก็เป็นเพราะเขาสร้างข้อจำกัดให้เธอจนเธอรู้สึกอึดอัด“ฉันรู้ว่าที่คุณเรนห้ามริโอะทุกอย่างก็เพราะเป็นห่วง แล้วฉันก็รู้ว่าริโอะรู้ตัวว่าริโอะทำทุกอย่างได้ ฉันก็เลยบอกให้คุณเรนกับริโอะแก้ปัญหากันคนละครึ่งทาง”“ยังไงเหรอคะ” แววตาของริโอะในตอนนี้เต็มไปด้วยความสงสัย การแก้ปัญหาคนละครึ่งทางหมายความว่ายังไง“ลองคุยกับคุณเรนอีกรอบสิ” พิริสาหันหน้าไปมองเรนที่กำลังยืนดูเธอและริโอะอยู่ห่างๆ“ฉันขอตัวไปรอในบ้านนะ”หลังจากพิริสาลุกออกไป เรนก็เข้ามานั่งแทนที่ของเธอ เพราะเรนต้องการที่จะคุยกับริโอะตามที่พิริสาและเซรเกย์แนะนำ
“อื้อ...” ดวงตาคู่สวยหลับตาปี๋ เสียงครางของความเจ็บจุกถูกดูดเข้าไปในลำคอสามี หลังจากนั้นเธอก็หัวสั่นหัวครอนไปกับแรงกระกระทั้นจากการมอบบทสวาทของสามีตัวโตเซรเกย์บดสะโพกส่งเจ้าแท่งร้อนมโหฬารเข้าออกร่องสวาทถี่รัวไม่มีผ่อนอยู่นานสองนาน เสียงครางของคนทั้งสองที่กำลังแลกลิ้นถูกดูดกลืนเข้าไปในลำคอของกันและกัน เมื่อร่องสวาทดูดกลืนแท่งร้อนมโหฬารหนักเข้าก็เริ่มตอดรัดรุนแรงเพราะใกล้จะถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง“อื้อ.. อื้อ...” และแล้วพิริสาก็บิดเกร็งแอ่นเร่าตาปรือเยิ้ม มือไม้จิกอยู่ที่ลำแขนแกร่งของคนเป็นสามีจนแทบจะฝังเนื้อเซรเกย์เสียบเจ้าแท่งร้อนคาร่องสวาทเอาไว้ไม่ขยับ เพราะต้องการปล่อยให้คนตัวเล็กได้ผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันเขาก็ยังบดจูบด้วยลีลาเร่าร้อนเพื่อเล้าโลมคนตัวเล็กให้พร้อมรับกับลีลาสวาทของเขาอีกรอบเมื่อจับจังหวะการหายใจของภรรยาตัวเล็กว่าเป็นปกติเขาก็เริ่มสาวแท่งร้อนดึงออกจนสุดกดเข้าจนมิดไปกับร่องสวาทที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำรักอีกรอบให้เร็วและแรงกว่าเดิม จนเกิดเป็นเสียงเนื้อที่กำลังเปียกแฉะกระทบกันดังสนั่นไปทั่วห้อง“เซรเกย์ อื้อ...” พิริสาหัวสั่นหัวครอน ความเสียวซ่านพุ่งเข้ามาในร่างกายจนเริ่มจะแตะข
“อ๋อ ฉันว่าหาของบำรุงสักพักแกก็คงจะกลับมาแข็งแรงเองนั่นแหละ อย่าลืมสิว่าแกเพิ่งผ่านการรักษาตัวมานะ เดี๋ยวอีกสักพักลองไปตรวจร่างกายใหม่ก็ได้”“เซรเกย์ก็บอกฉันแบบนั้น”“จุนน้า...”“ยัยหนู” เห็นหลานสาวตัวกลมวัยเกือบสองขวบก็รีบเข้าไปรวบอุ้มมานั่งที่ตัก ก่อนจะหอมไปที่พวงแก้มย้วยๆ อีกฟอดใหญ่“คิดถึงจังเลย คิดถึงจังเลย” พิริสากอดรัดฟัดเหวี่ยงกับลูกสาวของกลิ่นชวากันจนหายคิดถึง ยิ่งเห็นหลานก็อยากจะมีลูกใจจะขาด ทว่าก็ต้องทำใจเพราะไม่รู้ว่าร่างกายของเธอจะสามารถมีลูกได้เมื่อไหร่ทางด้านสองหนุ่มที่กำลังคุยกันอยู่ด้านนอก เมื่อมองผ่านกระจกเห็นพิริสากำลังเล่นอยู่กับเจ้าตัวกลมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขก็หันมามองหน้ากันด้วยสายตาที่กำลังบ่งบอกถึงความเป็นกังวล โดยเฉพาะเซรเกย์“ดูท่าริสาคงอยากจะมีลูกมากๆ ฉันรู้ว่าริสานิสัยเหมือนว่าน ทางที่ดีนายควรรีบบอกเรื่องที่เธอควรรู้จะดีกว่า” วาดิมเสนอความเห็นหลังจากรับรู้ความจริงว่าเพราะอะไรกันแน่พิริสาถึงยังมีลูกไม่ได้“ฉันยังไม่พร้อมเห็นริสาผิดหวัง เอาเป็นว่าหลังจากการตรวจร่างกายครั้งหน้าไม่ดีขึ้นก็ค่อยบอกเธอตอนนั้น”“อืม ถือว่าฉันเตือนแล้วนะ”เซรเกย์ยืนถอนหายใ
“แล้วริสาจะไปเที่ยวหานะคะคุณพ่อคุณแม่” พิริสาเข้าไปกอดพ่อกับแม่ในขณะที่พวกเขากำลังจะเดินทางกลับอิตาลีหลังจากที่เบาใจเรื่องอาการเจ็บป่วยของเธอแล้ว“ยายจ๋า รักษาสุขภาพด้วยนะ แล้วริสาจะพาเจ้าตัวเล็กไปวิ่งเล่นด้วย” เธอผละออกมาจากดันเต้และรสสุคนเข้ามากอดสอางค์“เราก็ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ แล้วยายจะส่งสมุนไพรบำรุงร่างกายมาให้นะ”“ขอบคุณค่ะ” ฟอด ฟอด สาวเจ้าหอมซ้ายหอมขวาคนเป็นยายฟอดใหญ่ๆ เป็นประจำทุกครั้งที่ต้องจากกัน ไม่ว่าเธอจะโตมากแค่ไหนเธอก็ยังชอบทำตัวเป็นเด็กกับยายของเธอเสมอ เพราะรู้ว่ายายนั้นชอบเห็นความสดใสของเธอ และเธอเองก็ชอบที่จะเห็นรอยยิ้มของคนเป็นยายรวมไปถึงพ่อกับแม่ไปนานๆ“แล้วก็ดูแลลูกฉันให้ดีล่ะ ถ้ามีเรื่องให้ลูกฉันเจ็บตัวอีก ฉันพาลูกฉันกลับไปดูแลเองจริงๆ ด้วย” ดันเต้หันมาส่งเสียงดุให้เซรเกย์ส่งท้ายก่อนกลับ เชื่อว่าเซรเกย์จะดูแลลูกสาวของเขาได้ดี ทว่าก็อดที่จะกำชับอีกครั้งตามประสาพ่อที่หวงและห่วงลูกไม่ได้สิ้นเสียงแข็งของคนเป็นพ่อ พิริสาก็รีบเข้าไปกอดเอวเซรเกย์เอาไว้แน่น “ไม่นะคะคุณพ่อ ริสารักเซรเกย์ม๊ากมาก ไม่ยอมไปไหนหรอกค่ะ”รสสุคนและสอางค์ต่างก็ส่ายหน้าให้กับคำพูดของดันเต้ ทว่าก็อม
“คิดอะไรอยู่” เดินออกมาจากห้องแต่งตัวได้ก็เข้ามาสวมกอดคนตัวเล็กที่กำลังยืนกอดอกเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยอาการเหม่อลอยพิริสารีบผลักคนที่เปลือยท่อนบนโชว์แผงกล้ามออกจากตัว “ทำไมไม่ใส่เสื้อคะ” มองกล้ามเนื้อคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีครู่เดียวก็ต้องหลบสายตาไปมองทางอื่น เพราะตอนนี้เธอกำลังหน้าร้อนผ่าวเพราะไม่ชินกับการมองผู้ชายถอดเสื้อ“คุณเขินเหรอ” ริมฝีปากหนาอมยิ้มกรุ่มกริ่ม“ใครจะไม่เขินล่ะ”“หันมาดูให้เต็มตาสิ มันเป็นของคุณนะ คุณจะเขินทำไม” เขาดึงมือเธอมาลูบบนเนินอกที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ“ของฉันเหรอ” แม้จะเคอะๆ เขินๆ แต่แผงกล่ามของเขามันก็น่าสัมผัสอยู่ไม่น้อย เลยถือวิสาสะลูบๆ คลำๆ อยู่เช่นนั้นจนรับรู้ได้ว่าตัวของเขาไม่มีไขมันแม้แต่นิดเดียว“ใช่ ก็ผมเป็นของคุณ เป็นสามีคุณ จะดูตรงอื่นด้วยไหม”“ไม่ต้องค่ะ” รีบถอยห่างพร้อมยกมือทั้งสองข้างปิดตา เธอไม่รู้หรอกว่าคนที่เธอมองว่าเขาเจ้าเล่ห์จะพูดจริงหรือพูดเล่น ทว่าเธอก็ไม่เสี่ยงเปิดตาเอาไว้ แค่เห็นแผงกล้ามของเขาเธอก็เขินจนปั้นหน้าไม่ถูกแล้ว หากเห็นอย่างอื่นคงได้วิ่งออกไปข้างนอกแน่“เวลาคุณเขิน น่ารักมากเลยรู้ไหม”“แกล้งฉันใช่ไหมคะ” มือทั้งสองค่อ
พิริสาสะดุ้งตกใจเมื่อตื่นมาแล้วเห็นเซรเกย์อยู่ข้างกาย ทว่าก็ต้องยกมือทาบอกค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองนั้นแต่งงานกับเซรเกย์แล้วดวงตาคู่สวยค่อยๆ จ้องไปที่ใบหน้าคมครู่นึง เธอไปหลงรักคนที่สายตาเจ้าเล่ห์หัวปักหัวปำได้อย่างไร เขาทำอะไรให้เธอรักมากมายขนาดนั้นได้ ทั้งเธอก็ปฏิเสธไม่เชื่อไม่ได้ เพราะทุกคนต่างก็ยืนยันว่าเธอหวงเซรเกย์อย่างกับจงอางหวงไข่“อยากกินผมเหรอ” ลืมตาขึ้นได้ก็เอ่ยยียวนกวนประสาทคนตัวเล็ก“อุ้ย ตกใจหมดเลยคุณเนี่ย”“ก็จ้องผมตั้งนานแล้ว จะจูบก็ไม่จูบซะที” พูดจบก็ตวัดแขนหมายจะโอบรั้งคนตัวเล็กเข้ามากอด แต่พิริสาก็ไหวตัวทัน เธอรีบพลิกตัวลงจากเตียง แล้วสาวเท้าเข้าไปห้องน้ำเพื่ออาบน้ำล้างหน้าล้างตาจะได้ลงไปอยู่กับแม่เซรเกย์มองตามหลังภรรยาตัวเล็กด้วยความขบขัน จะว่าไปการที่เธอจำเขาไม่ค่อยได้ก็ทำให้เธอน่าแกล้งเหมือนกัน ตอนนี้เขาไม่ค่อยกังวลเรื่องความจำของเธอแล้ว ด้วยรู้ว่าอีกไม่นานเธอก็จะจำช่วงเวลาที่มีกับเขาได้ทุกเรื่อง เพราะสมุนไพรทุกอย่างที่หมอโอเว่นจะต้องใช้สกัดเป็นยาถอนพิษตอนนี้ได้มาครบแล้ว เหลือเพียงแค่รอให้ทุกคนนำกลับมาให้กับมือของหมอโอเว่นเท่านั้น“พวกคุณ
“ผมคงต้องขอคุยกับคุณริสาอย่างละเอียดอีกพักใหญ่เลยครับ” หมอโอเว่นเอ่ยก่อนที่พิริสาจะรู้สึกฉงนหนักไปมากกว่านี้“คุณเป็นใครคะ?”“ผมหมอโอเว่นครับ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ”ดวงตาคู่สวยมองจ้องมายังหมออาวุโสแปลกหน้า คำว่ายินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง เขาเคยรู้จักเธอ หรือ เธอเคยรู้จักเขามาก่อนเช่นนั้นหรือเมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา หมอโอเว่นก็เริ่มอธิบายความเป็นมาเป็นไปของอาการหญิงสาว ก่อนจะซักถามความจำของเธอว่าตอนนี้จำอะไรได้บ้างสรุปแล้วก็ได้ความว่าตอนนี้พิริสาจำทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ ทว่าเธอก็จำได้เพียงแค่ตอนที่เพิ่งได้เจอกับพ่อของเธอไม่เท่าไหร่นัก ซึ่งนั่นมันก็เป็นช่วงเวลาที่เธอเพิ่งจะเริ่มคบหากับเซรเกย์เป็นแฟนทั้งยังตกใจมากที่จู่ๆ รู้ตัวว่าตัวเองได้แต่งงานกับเซรเกย์ในเวลาอันรวดเร็ว จนต้องขอคุยกับเซรเกย์เป็นการส่วนตัวอีกรอบหลังจากคุยกับทุกคนเรียบร้อย“ฉันแต่งงานกับคุณแล้วจริงๆ เหรอ อะไรที่ทำให้ฉันแต่งกับคุณได้เร็วขนาดนั้น”“คุณรักผมมากไง”“ฉันน่ะเหรอคะ ฉันยอมรับว่ารู้สึกดีกับคุณมาก แต่ก็ยังไม่ถึงกับรักมากนะคะ”“อย่าพูดให้ผมใจเสียสิ”“ก็ฉันจำไม่ได้จริงๆ นี่คะ แต่จะว่าไปเรื่องราวท