ไลลา
ฉันเดินเข้ามาคุยโทรศัพท์ในห้องนอน ถ้าพี่เรย์รู้ว่าใครโทรมานะ.. ฉันโดนเขารังแกอีกแน่
“มีอะไร” ฉันถามออกไป ไม่ค่อยอยากจะคุยกับเขาสักเท่าไร
“คิดถึง โทรหาไม่ได้หรอ” เสียงปลายสายตอบมา
“นายไม่ควรคิดถึงใคร นอกจากภรรยาของตัวเอง” ฉันตอบด้วยความหงุดหงิด
“ยังไม่หายโกรธโน่อีกหรอ” มิโน่พูดด้วยน้ำเสียงเศร้า แล้วทำไมฉันต้องหวั่นไหวกับน้ำเสียงของเขาด้วยเนี้ย
“ไม่ได้โกรธสักหน่อย” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
“งั้นให้โน่เลี้ยงข้าวสักมื้อนะ ถ้าไม่โกรธจริงๆ ห้ามปฏิเสธล่ะ” ฉันรอบถอนหายใจที่ไม่สามารถปฏิเสธเขาได้
“ก็คงงั้นแหละ” จำต้องตกลงไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ขอโน่ไปหาไลลาได้ไหม”
“มิโน่!” ฉันพูดด้วยเสียงดุ
“ล้อเล่นน่า ถ้าไลลาไม่รังเกียจขอโทรรึแชทหาได้ไหม” มิโน่พูดด้วยเสียงอ้อนๆ
“ไลลาไม่เคยรังเกียจมิโน่นะ” ถึงจะโกรธแค่ไหนฉันก็เกลียดมิโน่ไม่ลง
“จริงหรอ งั้นแสดงว่ายัง รั..” ฉันรีบพูดขัดขึ้นก่อนที่มิโน่จะพูดคำบางอย่างออกมา
“แค่นี้ก่อนนะ มีสายเข้าอ่ะ” ฉันกดวางสายมิโน่ทันที ใจฉันเต้นตึกๆ มือกำโทรศัพท์แน่น อะไรกัน ทำไมนะพอรู้ว่าเขาจะพูดอะไร
ใจฉันมันก็เต้นแรง หวั่นไหวงั้นหรอ
“คุยกับใคร” ฉันเผลอสะดุ้งตัวแรง พี่เรย์มาตั้งแต่เมื่อไรเนี้ย
“เปล่าค่ะ” ฉันไม่กล้าสบสายตาพี่เรย์เลย
“ทำไมต้องหลบตาด้วย” พี่เรย์จ้องหน้าฉันนิ่ง เหมือนฉันทำความผิดแล้วไม่ยอมรับ
“ก็เปล่านิค่ะ ไปกินข้าวกันเถอะเดี๋ยวจะเย็นซะก่อน” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่อง ขืนยังอยู่ในห้องนี้ต่อ ไม่เป็นผลดีต่อฉันแน่
“ไม่กิน” พี่เรย์พูดด้วยเสียงดุ
“ก็ไหนหิวข้าวค่ะ” ฉันถามออกไป
“ตอนนี้อยากกินอย่างอื่นแทน” พี่เรย์ยืนกอดอกจ้องฉันเขม็ง
“แต่ไลลาหิวข้าวค่ะ” ฉันเดินตรงไปที่ประตู พี่เรย์จับต้นแขนฉันไว้แน่นเขาบีบอย่างแรง
“เจ็บนะ!” ฉันนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ พยายามแกะมือหนาออกจากต้นแขน
“คุยกับใคร!!” พี่เรย์ตะคอกใส่หน้า
“จะคุยกับใครมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่นิ ปล่อย!” ฉันสะบัดแขนอย่างแรง ก็สามารถหลุดจากมือหนาได้
“หึ!! เดี๋ยวจะเกี่ยวให้ดู!” พี่เรย์กระชากตัวฉันอย่างแรง ทำให้ร่างบางของฉันปะทะกับร่างหนา พี่เรย์ใช้แขนอันแข็งแรงของเขารัดเอวฉันแน่น
“ปล่อยนะ!” ฉันระดมทุบหน้าอกหนาหวังให้เขาปล่อย
พี่เรย์จับฉันโยนใส่เตียงนอน ฉันรีบคลานหนีไปอีกทางแต่ก็โดนเขาจับข้อเท้าลากลงมาอยู่ใต้ร่างหนา
พี่เรย์โฉมริมฝีปากหนาประกบจูบริมฝีปากบางของฉันอย่างรุนแรง
มือหนากระชากเสื้อครึ่งตัวของฉันจนขาด กระโปรงก็โดนฉีกตามรอยแยกจนขาดเหมือนกัน ป่าเถื่อนที่สุด
“พี่เรย์ค่ะ อย่าทำอะไรไลลาเลยนะ” ฉันอ้อนวอนเผื่อเขาจะหยุดการกระทำแสนป่าเถื่อนนี้ได้
“ก็ไลลาดื้อนิค่ะ เพราะฉะนั้นต้องโดนทำโทษ” พี่เรย์ในตอนนี้น่ากลัวมาก เหมือนพวกโรคจิตหื่นกระหาย สายตาพี่เรย์ร้อนแรงรู้สึกเหมือนจะหลอมละลายไปซะให้ได้
“อย่านะ” ฉันยึดมือพี่เรย์ไว้เมื่อเขาดึงแพนตี้จิ๋วของฉัน สองมือฉันมัวแต่ยึดกางเกงแพนตี้ มือหนาอีกข้างของพี่เรย์ก็โฉมดึงบราซิลิโคลออกจากรวดเร็ว เขาก้มหน้าลงมาใช้ริมฝีปากหนาครอบครองยอดอกทันที สร้างความเสียวสะท้านไปทั่งตัว ฉันปล่อยมือจากแพนตี้มาทึ่งเรือนผมพี่เรย์แทน
“อ๊ะ...โอ๊ยยย” ฉันเผลอร้องออกมาเมื่อพี่เรย์กัดยอดอกอย่างแรง
มือหนาข้างหนึ่งก็บีบเคล้นก้อนเนื้อนิ่มแรงๆ รู้สึกเหมือนมันจะหลุดออกจากอกอยู่แล้ว ทำไมเขาถึงรุนแรงขนาดนี้ มืออีกข้างก็ลากไต่ผ่านท้องน้อยลงไปกอบกุมโนนเนื้อช่วงล่างนิ้วร้ายแวกเข้าไปสร้างความรัญจวนใจอย่างหนัก รู้สึกเหมือนเขาจะเพิ่มเป็นสองนิ้วด้วยซ้ำนิ้วหัวแม่มือบดขยี่ติ่งเสียวจนฉันเผลอบิดเร่าอย่างอดไม่ได้
“อ๊า...อ๊ะ...อ๊ะ” ฉันไม่มีแรงต้านเขาเลยเหมือนโดนเขาสูบพลังงานไปจนหมด
“จำไว้นะไลลา อย่าดื้อกับพี่อีก” พี่เรย์พูดชิดแก้มเนียน จากนั้นพี่เรย์ก็เคลื่อนตัวลงต่ำอย่างรวดเร็ว เขาจับขาทั้งสองข้างของฉันพาดไว้ที่บ่าแกร่งสองแขนอันแข็งแรงล็อกขาฉันไว้แน่น
“อย่านะ พี่เรย์ อ๊ะ..อ๊า” สุดจะกลั้นเมื่อพี่เรย์ลงลิ้นหนากับจุดเสียวกลางกายของฉัน ลิ้นร้ายปัดกวาดไปทั่วโถงถ้ำ
“อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊า” ฉันดิ้นเร้าไปกับจังหวะลิ้นของเขาทั้งดูดทั้งแม้มสลับกันไป รู้สึกเหมือนตัวลอยสูงขึ้น..สูงขึ้น แล้วก็ตกวูบลงมายังพื้นอันเย็นเฉียบ
พี่เรย์เคลื่ยนตัวขึ้นมาประกบจูบที่ริมฝีปากบางของฉันอย่างเร่าร้อน จากนั้นเขาก็ผละตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ฉันมองตามร่างหนาก็เห็นพี่เรย์อดเสื้อผ้าออกแล้วก็หยิบกล่องสีดำนั้นออกมาจากกระเป๋าเสื้อ นี่เขาเอามันมาด้วยหรอ เขาหยิบมาหนึ่งชิ้นแล้วฉีกมันออกมาใส่ที่แก่นกายของตัวเอง
“พร้อมจะรับบทลงโทษรึยัง” พี่เรย์พูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งมาให้
ถ้าตอบว่าไม่พร้อมเขาจะหยุดไหมล่ะ ฉันเบี่ยนหลบสายตาของเขา เหมือนจะทำให้พี่เรย์พอใจมากเมื่อเขายัดแก่นกายเข้ามารวดเดียวจนสุด
“โอ๊ยยย...” ฉันผวาสุดตัว ทำไมต้องป่าเถื่อนขนาดนี้ ฉันแอบเอาคืนด้วยการข่วนหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้าของพี่เรย์ เกิดรอยเล็บและมีเลือดไหลซิบ คิดว่าทำให้เจ็บเป็นอยู่คนเดียวรึไง
“อ่า...ชอบแบบซาดิสก็ไม่บอก เดี๋ยวพี่เรย์จัดให้ครับ” ยังไงฉันก็เสียเปรียบเขาอยู่ดี
พี่เรย์จับฉันพลิกตัวคุกเข่าคล้ายสัตว์สี่ขา ฉันรีบเอามือยันพื้นเตียงไว้กลัวหน้าคะมำ
จากนั้นพี่เรย์ก็สอดใส่จากด้านหลังอย่างรวดเร็ว
“อ๊ะ..” จะรุนแรงอะไรหนักหนาเนี้ย
พี่เรย์เริ่มขยับช้าๆ เนิบๆ แล้วก็เริ่มเร็วขึ้นถี่ขึ้น ยิ่งลึกก็ยิ่งจุก เขากระแทกเข้ามาไม่มียั้ง ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกเวียนหัวนิดๆ แล้วล่ะ ถ้าเขายังไม่หยุดฉันได้เป็นลมแน่
เพี๊ยะ!! เพี๊ยะ!!
เสียงฝ่ามือหนาฟาดบั้นท้ายฉันอย่างแรงรู้สึกแสบร้อนบริเวณช่วงท้าย สองมือหนาเอื้อมมาบีบเคล้นก้อนเนื้อนิ้วชี้เขี่ยขยี่กับยอดอกที่แข็งเป็นไต
“อ่า...ตอดแรงชิบ” เขาสถบคำหยาบออกมา
พี่เรย์เร่งจังหวะเร็วขึ้นส่งแรงกระแทกมาไม่ยั้ง และแล้วฉันก็รู้สึกเหมือนถูกโยนขึ้นแตะฝั่งฝันอย่างสมอารมณ์
“อ๊ะ/อ่า” สองเสียงประสานกันเมื่อถึงจุดที่ต้องการ
ฉันหอบหายยกใหญ่ จู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทำไมเขาชอบรังแกร่างกายฉันจัง ระหว่างเราสองคนมันคืออะไร แค่สนุกอย่างนั้นใช้ไหม...
“ไลลา” เขากอดฉันจากด้านหลังมือหนากุมอยู่ที่หน้าท้องฉัน ฉันใช้หลังมือเช็ดน้ำตาออกไม่อยากให้เขาเห็น“พี่ขอโทษ...ที่รุนแรงเกินไป” นี่เขาเห็นฉันเป็นเด็กรึไง ตบหัวแล้วลูบหลังงั้นหรอ“ชั่งเถอะค่ะ” ฉันลุกขึ้นนั่งหันหลังให้เขา“หิวข้าวแล้วค่ะ จะอาบน้ำก่อน” พูดจบฉันก็เดินเข้าห้องน้ำไปโดยที่ไม่ใส่อะไรเลย ยังไงเขาก็เห็นหมดแล้วนิจะใส่หรือไม่ใส่ก็ไม่ต่างกันฉันเดินออกมาจากน้องน้ำก็ไม่เจอพี่เรย์อยู่ในห้องนอน เสียงจากทีวีด้านนอกบ่งบอกว่าเขายังอยู่ในห้องฉัน“กินข้าวกันพี่อุ่นให้แล้ว” พี่เรย์เดินมาจูงมือฉันไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว เราต่างนั่งกินข้าวกันเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไร“เมื่อไรจะกลับค่ะ” ฉันถามขึ้นหลังจากกินข้าวเสร็จ“โอเคร พี่กลับก็ได้ แต่ไลลาต้องเอาเบอร์มาให้พี่ก่อน” พี่เรย์ยกมือขึ้นเกาหัวอย่างหงุดหงิด“ทำไมต้องให้” ฉันกอดอกจ้องหน้าเขานิ่ง เห็นเขาชอบทำท่านี้เลยทำมั้ง“อย่าดื้อกับพี่” พี่เรย์พูดด้วยเสียงดุฉันแบมือขอโทรศัพท์พี่เรย์ ซึ่งเขาก็ยื่นให้อย่างรู้งาน ฉันกดแค่เบอร์ให้ส่วนเขาจะแม้มว่าอะไรก็ให้แม้มเองแล้วกัน“พี่กลับล่ะนะ” เขาเดินมายืนอยู่ตรงหน้า หอมแก้มดังฟอดแล้วก็จุ๊บที่ปากหนึ่งทีจู่ๆ ใจฉัน
ไลลาครบสามวันที่ฉันไม่รับงานร่องรอยจากคนใจร้ายหายไปหมดแล้ว เขาไม่โพล่หน้ามาให้เห็นเลย แล้วฉันจะนึกถึงเขาทำไมเนี้ย เขาไม่มากวนก็ดีแล้วนิติ่งต่อง...ใครมาแต่เช้าหรือว่าเขาจะมา ฉันรีบเดินตรงไปที่ประตู เปิดประตูต้อนรับแขกผู้มาเยื่อน“หายไปไหนมา” ฉันพูดขึ้นทั้งที่ยังไม่ทันมองหน้าแขก“ก็ไปทำงานสิครับ ถามแปลกๆ” อ้าว ไดมอนด์เองหรอ ฉันทำหน้าตกใจเล็กน้อย“แล้ววันนี้ไม่ทำรึไง” ฉันถามน้องชายเมื่อเดินเข้ามาในห้องแล้ว“ทางค่ายให้พักผ่อนสองอาทิตย์นะ” ไดมอนด์บอก“แล้วของที่มอนด์ให้ไปเอาอยู่ไหนล่ะ” พูดขึ้นมาก็ดีล่ะฉันเดินไปหยิบถุงกระดาษสีดำออกมาโยนให้ไอ้น้องบ้าทันที“เฮ้ยย เดียวพังหรอกโยนมาได้” ไดมอนด์รีบรับของอย่างเร็ว“แกกลัวอะไรพัง ห๊ะ! ไอ้น้องบ้าใช้ให้พี่ไปเอาอะไรให้ มันน่านัก” ฉันเดินเข้าไปบิดหูไดมอนด์ด้วยความโมโห แกรู้ไหมไอ้มอนด์ว่าพี่แกต้องเจออะไรบ้าง“โอ๊ยยย พี่ไลลาเบาๆ เจ็บบบ” ไดมอนด์ร้องโอดโอ๊ยย แค่นี้มันยังน้อยไป“ก็เพราะไอ้ของบ้าๆ นั้น มันทำให้พี่แกโดน...” ฉันต้องชงักคำพูดไว้ทันที“อะไร” ไดมอนด์เอามือลูบหูปอยๆ“ไม่มีอะไร” ฉันสะบัดหน้าหนีอย่างหงุดหงิด“อะไรของพี่เนี้ย มาถึงก็ทำร้ายน้อง”
ไลลาพอถ่ายแบบเสร็จฉันก็โทรหาน้องชายว่าเสร็จงานแล้วจะได้กลับบ้านไปหาพ่อกันแล้วมันก็บอกให้ฉันไปรับที่ค่ายเพลง ไม่อยากจะไปสักเท่าไรถ้าไม่จำเป็นฉันขับรถมาจอดที่ใต้ตึกเหมือนวันนั้นแป๊ะ ฉันกดโทรหาไดมอนด์แต่ก็ไม่รับสายฉันลงจากรถเดินเข้าไปในตึก ตอนกลางวันตึกเปิดประตูไว้ตลอดไม่ต้องใช้คีการ์ดเหมือนตอนกลางคืน“ขอโทษค่ะ ไม่ทราบว่าไดมอนด์อยู่ไหนคะ พอดีว่าไลลาเป็นพี่สาวของไดมอนด์นะคะ”ฉันถามผู้ชายสองคนที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะรับแขก พอสองคนนี้หันหน้าใจจะแทบถอยหนี แต่นึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ได้เห็นหน้าฉันในวันนั้น“ว๊าว...สวย” ผู้ชายที่หน้าเหมือนลูกครึ่งพูด“แล่มเลย” เสียงพูดชายที่หน้าตาไปทางเอเชียพูด เขาสักเต็มตัวเลยเหะฉันยืนเกาหัวแก้เก้อ ก็เล่นชมซึ่งๆ หน้าแบบนี้ ใครไม่เขินบ้างล่ะ“ชื่อซัมดี เรียกเฮียซัมดีก็ได้” ผู้ชายที่หน้าเหมือนลูกครึ่งชื่อซัมดี“งั้นคนนี้ก็เฮียเจใช้ไหมคะ” ฉันลองเดา เพราะไดมอนด์เคยบอกไว้“รู้จักเฮียด้วยหรอ” เฮียเจพูดอย่างตื่นเต้น“ไดมอนด์พูดถึงเฮียสองคนบ่อยๆ นะคะ” ฉันอธิบายให้พวกเฮียเข้าใจ“ว่าแต่ไดมอนด์อยู่ไหนคะ” ฉันถามอีกครั้ง“อ๋อ น่าจะอยู่ห้องซาด์วกับเฮียเรย์มันแหละ” พอไ
ติ่ง!เสียงข้อความเข้าโทรศัพท์ฉันเองพี่เรย์ : อยู่ไหนฉันลุกออกจากที่นั่งเดินไปหลังบ้าน ทานข้าวเสร็จพอดีไลลา : จำเป็นต้องบอกด้วยหรอค่ะพี่เรย์ : อย่าดื้อกับพี่ ไม่งั้นจะโดนทำโทษทำไมชอบขู่จังไลลา : อยู่บ้านค่ะพี่เรย์ : บ้านใครไลลา : ก็บ้านไลลาสิพี่เรย์ : แล้วไปท่าจะบ้า ฉันเผลอยิ้มให้กลับโทรศัพท์พี่เรย์ : กลับตอนไหนไลลา : ไม่บอกพี่เรย์ : โดนแน่ไลลา : จะกลับเดี๋ยวนี้แหละค่ะพี่เรย์ : มาหาที่ห้องด้วย ขัดคำสั่งโดนอะไรของเขาเนี้ย ชอบขู่จังเลยนะฉันเก็บโทรศัพท์กำลังจะเดินเข้าไปในบ้าน หันตัวมาก็ชนกับร่างหนาของมิโน่เกือบหงายหลัง ดีที่มิโน่เร็วกว่าคว้าตัวฉันไว้ได้ทัน“ขอบใจ” ฉันยิ้มอย่างขอบคุณ ไม่งั้นเจ็บตัวแน่“คุยกับใครอยู่หรอ” มิโน่ถามฉัน“คุยกับเพื่อนนะ” ฉันตอบมิโน่“อิจฉาเพื่อนคนนั้นจัง ที่ได้รอยยิ้มของไลลาไป” มิโน่พูดเหมือนน้อยใจ“พูดอะไรนะ ไลลาก็ยิ้มให้เพื่อนทุกคนอยู่แล้ว” ฉันก็ยิ้มปกตินิ ไม่ได้พิเศษอะไรสักหน่อย“จะกลับตอนไหน ให้โน่ไปส่งไหม” มิโน่อาสา“ไลลาเอารถมานะ”“แล้วไดมอนด์กลับด้วยรึเปล่า”“คงไม่มั้ง เขาอยู่ในช่วงพักผ่อนคงจะอยากอยู่บ้านสักพัก”“ไลลา ถ้าตอนนี้ยังไม่มีใค
หนึ่งทุ่มตรงผมมารอไดมอนด์อยู่ที่ผับของโลโค่ ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยกระวนกระวาย ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เมื่อไรไดมอนด์มันจะมาสักทีว่ะ“ไดมอนด์ยังไม่มาหรอ” โลโค่ถามขึ้น“อื้ม..” ผมพยักหน้าให้โลโค่แล้วจับแก้วเหล้ากระดกน้ำสีอำพันเข้าปากรวดเดียวหมดแก้ว แล้วก็ตามมาอีกสองสามแก้วติดๆ“จะรีบเมาไปไหนครับ กระดกเอาๆ อยู่ได้” โลโค่หันมาท้วงตอนนี้คิดไรไม่ออกจริงๆ ใจมันร้อนรุ่มยังไงก็ไม่รู้“มาถึงนานแล้วหรอเฮีย” มาสักทีนะ ปล่อยให้ผู้ใหญ่รอได้ไงไอ้เด็กบ้าก็ได้แต่ด่ามันในใจล่ะครับ“ถึงสักพัก” ตอบมันเสร็จก็หันมายกแก้วต่อ“คุยกันไปก่อนนะ ไปดูแขกข้างล่างก่อน” โลโค่เดินออกไปแล้ว“เฮียมีเรื่องจะสารภาพ” ผมจ้องหน้าไดมอนด์นิ่ง“อะไรของเฮียครับ ไม่สบายเปล่า” นั้นสินะ ตอนนี้ผมคงดูผิดปกติกว่าแต่ก่อนมาก“คือเฮียแอบไปสอยเด็กของมอนด์มา” ในที่สุดผมก็บอกไดมอนด์“เด็กผม คนไหนครับ” สีหน้าไดมอนด์ยังดูปกติ“คนที่เป็นนางแบบหุ่นเอ็กซ์ๆ นะ” ผมหันมากระดกน้ำสีอำพันเข้าปากอีกรอบ“เมย์หรือฟ้าล่ะ ที่หุ่นเอ็กซ์ๆ ก็สองคนนี้แหละครับ” ไดมอนด์ตอบ แล้วมันก็ดื่มน้ำสีอำพันเหมือนกัน“ไม่ใช่ทั้งสอง” ผมหันมายกแก้วอีกครั้ง“แล้วคนไหนล
ฉันตื่นมาสูดอากาศบริบริสุทธิ์ยามเช้าที่ระเบียงห้องนอน มองไปทิศตะวันออกก็เห็นพระอาทิตย์กำลังขึ้นสู่ท้องฟ้าของวันใหม่ ตะวันทอแสงกระทบต้นกล้าอ่อนที่กำลังเจริญเติบโตเป็นต้นข้าว รู้สึกดีจัง อยู่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา“ไลลา ตื่นยังลูก ลงมาใส่บาตรกับแม่เร็ว” เสียงคุณนายลันดาเรียกฉัน“ค๊า..แม่” ฉันตอบรับ รีบเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันอย่างรวดเร็ว“อายุวันโน สุขังพลัง” ฉันยกมือขึ้นเหนือหัวเมื่อพระให้พรเสร็จ“ป่ะ กินข้าวกันลูก” ฉันเดินกอดแม่เข้าบ้านไป“นี่เรามีปัญหาอะไรรึเปล่า ทำไมอยู่ๆ ก็กลับมาบ้านโดยไม่บอกใคร” สงสัยพ่อโทรมารายงานเรียบร้อยแล้ว“ก็คิดถึงแม่ไงค่ะ” ฉันบอกแม่พร้อมกับหอมแก้มดังฟอด“กินข้าวเสร็จแล้วพาแม่ไปตลาดหน่อยนะ” แม่บอก“ได้ค่ะ” ฉันรับปากแม่เสร็จก็ตักข้าวใส่ปากต่อ ฝีมือแม่ไม่เปลี่ยนไปเลยตลาด.....“เอ้า พี่ลันดาพาใครมาด้วยล่ะนั้น” เสียงแม่ค้าขายผักถามขึ้น“ก็ไลลาไงจำไม่ได้หรอ” แม่ฉันตอบ“ไลลาเองหรอ ป้าก็จำไม่ได้สวยเหมือนแม่เลยนะเนี้ย” ป้าขายผักชม“เออ นี่พี่ลันดาทำไมไม่ให้ไลลาลงประกวดนางนพมาศล่ะ หมู่บ้านของเรายังหาคนไม่ได้เลย นี่ก็ใกล้วันลอยกระทงแล้วด้วย” ป้าขายผักบอก“ต้องถาม
“ผมชื่อเรย์ครับ เป็นแฟนไลลา ว่าที่พี่เขยไดมอนด์” พี่เรย์พูดจบก็ยิ้มหวานให้แม่ฉัน นี่เขาพูดอะไรของเขา แม่ฉันทำหน้างงใหญ่ล่ะ“แฟนไลลาหรอลูก” แม่ถามพี่เรย์“ครับ เรย์ขอเป็นลูกแม่อีกคนได้ไหมครับ” ฉันยืนอึ้งเป็นใบ้ พูดไม่ออกอยู่สองคนกับไดมอนด์ไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูดอะไรแบบนี้“ได้สิลูก” ที่ยิ่งกว่าก็คือแม่ฉันก็เป็นไปกับเขาด้วย“แม่ ใจง่ายจัง” ฉันเดินมากอดแม่พร้อมกับหอมแก้ม“เอ้า ก็ว่าที่ลูกเขยหล่อซะขนาดนี้แม่จะปฏิเสธได้ไง” ดูแม่ฉันพูดเข้า“แม่อ่ะ” ฉันเขินแล้วนะ แล้วดูเขาสิยิ้มอยู่ได้ ไอ้น้องชายก็อีกคน ทำไมฉันรู้สึกว่าตัวเองโชคดีจังงานลอยกระทง“สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้อง คุณป้าน้าอาทั้งหลายที่มาร่วมงานลอยกระทงกันในวันนี้ ก็มาอุดหนุนกระทงของเด็กๆ ได้นะครับที่ท่าน้ำไว้สำหรับลอยกระทง แล้วเราก็มีการประกวดนางนพมาศด้วยนะครับ มาชมมาเชียร์ให้กำลังใจกันได้ที่หน้าเวทีกันเลยนะครับ”บรรยากาศภายในงานถูกตกแต่งอย่างสวยงาม กำแพงวัดประดับไปด้วยโคมดวงเล็กๆ ผู้คนต่างก็มาร่วมงานกันอย่างหนาตา“ตื่นเต้นหรอ” เสียงพี่เรย์ถามฉัน เขาไม่ยอมห่างฉันเลย นี่ก็มานั่งเฝ้าอยู่ด้านหลังจนนางนพมาศคนอื่นๆ ขยับเก้าอี้หนีฉันหมดล่ะ“น
จ๋อม!เสียงพี่เรย์ลงมาในอ่าง คนบ้า ทำไมชอบแกล้งกันแบบนี้นะมือหนาเอื้อมมือมาจากด้านหลังกอบกุมเอาทรวงอกที่เต่งตึงของฉัน พร้อมกับออกแรงบีบหนักเบาสลับกันไป“คิดถึงนะครับ ตอนที่ติดต่อไลลาไม่ได้ รู้ไหมว่าพี่ทรมานใจแค่ไหน พี่โดนไดมอนด์ชกไปตั้งสามหมัดแนะ” ฉันหันกลับมาหาพี่เรย์“เจ็บไหม” สองมือของฉันลูบไล้ตามสันกรามของเขา พี่เรย์ดึงมือฉันไปจูบที่หลังมือ“ไม่ครับ ถ้ามันทำให้พี่ได้เจอไลลาอีก พี่ยอม” พี่เรย์สบตากับฉัน นัยน์ตาของเขาบ่งบอกถึงความห่วงหาฉันแค่ไหนฉันค่อยๆ ยืดตัวไปข้างหน้าให้ริมฝีปากบางของฉันทาบทับกับริมฝีปากหนาครั้งนี้ฉันอยากเป็นคนเริ่มบ้าง ฉันส่งลิ้นเล็กเข้าไปกวาดน้ำหวานในโพงปากของพี่เรย์ เหมือนที่เขาชอบทำ ลิ้นบางเกี่ยวกระหวัดหยอกล้อกับลิ้นหนาดูดดึงสลับกันไป“อืม...” เสียงพี่เรย์พึมพำอย่างพอใจฉันยกเรียวแขนขึ้นโอบรอบคอหนา เอียงหน้าเล็กน้อยให้จูบเขาได้ถนัดขึ้น จากนั้นก็เปลี่ยนมาซุกไซ้ร์ซอกคอหนาแทน ฉันทั้งดูดทั้งแม้มจนเกิดรอยแดงไปทั่วลำคอ“เก่งจัง..อ่า” พี่เรย์ออกปากชม ก็จำมาจากเขาทั้งนั้นแหละมือหนาข้างหนึ่งของพี่เรย์ก็ลูบไล้ไปทั่วตามร่างกายของฉัน ส่วนอีกข้างกอบกุมโนนเนื้ออวบนูนของ
แถมอีกนิด...หลังจากคลอดลูกฉันก็ฟิตหุ่นอย่างหนักจนตอนนี้ฉันก็กลับมาหุ่นดีเหมือนเดิมแล้วราเรซก็เป็นเด็กดีมากไม่งอแง้ให้ฉันต้องเหนื่อยเลย“แม่ค่ะ ฝากราเรซแป๊บนะ” ฉันหันไปบอกแม่ ตอนนี้แม่ฉันมาอยู่ช่วยเลี้ยงหลานชั่วคราว“จะไปไหนลูก” แม่หันมาถามฉัน“ไปธุระนิดหน่อยค่ะ”ตอบแม่เสร็จฉันก็เดินขึ้นรถคู่ใจตรงดิ่งไปยัง ST ผับ เพราะอะไรนะหรอ หึ!สายของฉันรายงานมาว่า สามีฉันและเพื่อนๆ ของเขารวมทั้งไอ้น้องชายตัวแสบด้วยกำลังถ่ายเอ็มวีเพลงโปรโมทค่ายของพวกเขาพวกนั้นพานางแบบสาวสวยหุ่นเอ็กซ์ยี่สิบกว่าคนใส่บิกินี่มาถ่ายแต่นั้นก็ไม่เท่าไรหรอก พอได้เห็นรูปที่สายของฉันส่งมาก็ทำให้ฉันปิ๊ดแตกทันทีเมื่อสามีตัวดีของฉันนั่งอยู่บนโซฟาแล้วมีสาวๆ นั่งขนาบข้างคนหนึ่งก็ลูบไล้อีกคนก็เต้นยั่วและที่สำคัญพี่เรย์จับก้นแล้วก็โอบยัยพวกนั้นด้วย เพราะฉะนั้นต้องมีฉันร่วมแฟรมด้วยก็ฉันนะนางแบบหุ่นเอ็กซ์ตัวแม่“สวัสดีค่ะ ทุกคน” เมื่อฉันปรากฏตัวก็ทำให้ทั้งหมดหันมามองเป็นตาเดียวใช่ว่ามองเพราะฉันคือเมียของพี่เรย์หรอกนะ แต่ที่มองก็เพราะว่าฉันใส่บิกินี่สุดวาบหวิวแม้แต่ตัวฉันเองก็ยังรู้สึก“แบะ! เจ้า” เฮียซัมดี“แล่มมาก” เฮียเจ
บทส่งท้าย....วันนี้เป็นวันที่ฉันมีความสุขที่สุดในชีวิต เป็นความฝันของลูกผู้หญิงทุกคนที่ใฝ่ฝันไว้ว่าอยากจะใส่ชุดแต่งงานสีขาวกระโปรงยาวๆ เดินไปบนพื้นพรมที่โปรยไปด้วยดอกกุหลาบหลายสีงานแต่งของฉันจัดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ในห้องแต่งตัวที่ทางโรงแรมเขาเตรียมไว้ให้“พร้อมรึยังลูก” พ่อเดินเข้ามาถามฉัน“ค่ะ” ฉันลุกขึ้นยืนเข้าไปกอดพ่อ“ลูกสาวพ่อสวยจังเลย” ความอบอุ่นจากพ่อทำให้ฉันคลายความกังวลลงได้ไม่มีอ้อมกอดไหนจะอุ่นเท่ากับอ้อมกอดของพ่อแม่แล้วล่ะตื่นเต้นจัง ฉันเดินค้วงแขนพ่อเข้ามาในงาน มีแขกมาร่วมงานกันมากมายเพื่อนของฉันก็มาด้วย มิโน่ เฌอรีน และหนูน้อยมิริน พวกเขาส่งยิ้มแสดงความยินดีมาให้กับฉันฉันมองไปเบื้องหน้าก็เจอกับผู้ชายหน้าคม ผิวขาวออร่าพุงเหมือนวันแรกที่เจอกันเขาอยู่ในชุดสูทสีขาวทำให้เขาดูน่ามองยิ่งนัก เขายืนส่งยิ้มแสนอบอุ่นมาให้“พ่อฝากลูกสาวพ่อด้วยนะ เรย์” พ่อฉันบอกเขา พร้อมกับจับมือฉันไปวางไว้บนมือหนาที่ยื่นมารอรับอยู่แล้ว“เรย์จะรักและดูแลไลลา ให้ดีที่สุด เรย์ให้สัญญาครับ” พี่เรย์ยืนยันคำมั่นกับพ่อของฉัน“แม่ฝากไลลาด้วยนะเรย์” ฉันเดินเข้าไปกอดผู้เป็นแม่ด้วยควา
หนึ่งเดือนต่อมา ณ บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง“พ่อครับ ผมทำลูกสาวพ่อท้องครับ” เสียงผู้ชาย หล่อ ผิวขาว หน้าคม พูดขึ้น“ล้อเล่นใช่ไหมเนี้ย” ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าพ่อ ทำสีหน้างงงวยเป็นเสียงสนทนาระหว่างพ่อของฉันกับว่าที่สามี พี่เรย์ นี่เขาคุยกับผู้ใหญ่ไม่เป็นรึไงจะมาขอลูกสาวเขาแต่มาบอกกับพ่อเขาว่าทำลูกสาวเขาท้องเนี้ยนะ“จริงครับพ่อ” เสียงน้องชายตัวดีพูดเสริม ไดมอนด์“ต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีลูกชายผมมันใจร้อนไปหน่อยไม่รอให้ผมที่เป็นพ่อของมันมาพูดให้นะครับ” เสียงผู้ชายสูงวัยคนหนึ่งพูดขึ้นเมื่อเขาเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับภรรยาของเขา“ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ” ฉันยกมือไหว้ท่านทั้งสอง เขาคือพ่อแม่ว่าที่สามีฉันเอง“ก็พ่อช้านิครับ” พี่เรย์หันไปโว๊ยพ่อตัวเอง“จะมาขอลูกสาวเขาทั้งที ไม่เตรียมสินสอดทองหมั้นมาแล้วใครเขาจะยกลูกสาวให้ ห๊ะ! ไอ้เรย์” พ่อพี่เรย์บ่นลูกชาย“นี่ค่ะ สินสอดแล้วก็ของหมั้น” แม่พี่เรย์วางพานที่เต็มไปด้วยเงินสด ทองแหวนเพชรและเครื่องประดับอื่นๆ มีใบโฉนดที่ดินด้วยฉันมองหน้าพี่เรย์อย่าง งงๆ“แล้วผมจะกล้าขัดได้ไง ในเมื่อพร้อมกันซะขนาดนี้” พ่อฉันได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ“เรื่องสินสอดนะให้เขาคุยกันเอง
“เบาๆ สิ เดี๋ยวกระเทือนลูก” พี่เรย์แกล้งดุฉัน“แค่นี้เอง ไม่กระเทือนหรอกน่า” ฉันบอกพี่เรย์“งั้นมาต่อแขนต่อขาลูกหน่อยไหม” นั้นไงพอเห็นไม่ว่าอะไรเข้าหน่อยนี่ เอาใหญ่เลย“มาเล่นเกมส์กันก่อนดีกว่า” ฉันเสนอ“เกมส์อะไร” พี่เรย์พูดอย่างหงุดหงิดนิดๆ“มาเป่ายิงชุบกัน ผู้ชนะมีสิทธิ์ถอดเสื้อผ้าชิ้นไหนก็ได้ของผู้แพ้” ฉันอยากทรมานเขาเล่น“งั้นพี่ยอมแพ้ ไลลาถอดพี่ได้เลย” พี่เรย์พูดจบก็ทำท่าจะถอดเสื้อผ้าตัวเอง“ไม่ค่ะ ต้องเป่ายิงชุบก่อน” ไม่ยอมง่ายๆ หรอก อยากหื่นดีนัก“มาค่ะ ยันยิงเยาปักกะเป้ายิงชุบ” ฉันชนะฉันจับชายเสื้อข้างล่างของพี่เรย์แล้วก็ดึงออกทางศีรษะ“ถอดกางเกงเลยไม่ได้หรอ” ดูทำพูดเข้า ใจร้อนจริงฉันส่ายหน้าให้แทนคำตอบ“ยันยิงเยาปักกะเป้ายิงชุบ” พี่เรย์ชนะ“ถอดกระโปรงเลย” พูดจบก็พุงตัวมาจับฉันถอดกระโปรง“ทำไมไม่ถอดเสื้อก่อนเล้า..พี่เรย์ มันจั๊กจี้นะ ฮ่าๆ” เขาพยายามจะถอดกระโปรงให้ได้พอฉันยึดจับกระโปรงไว้พี่เรย์ก็จี้เอวฉัน“มาต่อเลย” เขายึดกระโปรงไปเป็นที่เรียบร้อย คนบ้าฉันต้องเอาหมอนมาวางที่ตักไว้แทนมันวาบหวิวไปหน่อย“ยันยิงเยาปักกะเป้ายิงชุบ” พี่เรย์ชนะอีกแล้ว“ถอดกางเกงในเลยทีนี้” โอ๊ยย
“อ้าว พี่เรย์มาได้ไงคะ” เฌอรีนถามเขาตอนนี่พี่เรย์จ้องหน้าฉันนิ่ง แววตาเสียใจไหววูบไปกับน้ำตาที่เริ่มคลอ“เพราะแบบนี้สินะ ถึงไม่ยอมบอกพี่” พี่เรย์พูด สายตาเจ็บปวด“ไม่ใช่นะ ไลลามะ...” ฉันพยายามอธิบาย“พี่เข้าใจแล้วล่ะ” พี่เรย์กำลังจะเดินข้ามถนนหนีฉันไป“ฉันท้องกับพี่แก ยัยเฌอบ้า” ฉันหันมาตะคอกเฌอรีนฉันรีบวิ่งตามข้ามถนนโดยไม่ทันระวังตัว“ไลลา ระวัง” ฉันหันหน้ากลับมามองเฌอรีน เธอกำลังวิ่งตามฉันมาปริ๊นนนน โครม...เฌอรีนผลักฉันให้พ้นทางแต่ฉันก็กอดเฌอรีนไว้ด้วยเธอพลิกตัวเองไปทางรถยนต์ทำให้เฌอรีนโดนชนเต็มๆ“เฌอรีน!!” ฉันร้องลั่นเมื่อเห็นเลือดจากหัวของเฌอรีน“ละ..ลูก ฉัน” มือของเธอกุมท้องตัวเองไว้“ไม่เป็นไรๆ ลูกยังโอเคร ไม่เป็นไรนะ” น้ำตาฉันไหลพราก สงสารเฌอรีน“ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แกสมควรตาย ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ” ฉันหันไปตามเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งนั้น แพทตี้หรอยัยแพทตี้เป็นคนขับรถชนเฌอรีน“ไลลา!” พี่เรย์วิ่งตาตั้งมาจากไหนก็ไม่รู้“ช่วยพยุงเฌอรีนหน่อย” ฉันบอกให้พี่เรย์ พยุงเฌอรีนแทนฉันฉันลุกขึ้นเดินตรงไปที่ยัยแพทตี้ ที่กำลังหัวเราะเหมือนคนบ้า“ซะใจมากใช่ไหม มานี่” ฉันกระชากผมแพทตี้อย่างแรงตามด้วยฝ่าม
หลังจากกลับมาจากถ่ายแบบที่ทะเล ฉันก็ขอพี่แมนนี่พักหน่อยเพราะเริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบาย พี่เรย์ก็ทำงานอยู่ที่ค่ายเพลงไม่ค่อยได้กลับมาคอนโด ไปหาดีไหมน่าจะยุ่งอยู่รึเปล่าฉันขับรถมาจอดที่ใต้ตึก LayMusic ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในตึกขึ้นไปยังชั้นสองตรงไปที่ห้องสุดทางเดิน ฉันเลือนประตูกระจกไปด้านข้าง โคมไฟบนโต๊ะส่องแสงพอให้มองเห็นภายในห้อง ใบหน้าคมขาวเนียนกำลังนอนหลับอยู่บนโซไฟตัวใหญ่ เวลาหลับก็ดูไม่มีพิษมีภัยอยู่หรอก แต่ถ้าตื่นล่ะก็คนล่ะเรื่องเลย ฉันเดินไปหยิบผ้าห่มที่โต๊ะข้างโซฟามาคลุมร่างหนา ดูใกล้ๆ ก็น่ารักเหมือนกันนะเนี้ย ฉันนั่งลงกับพื้นพรมมองหน้าพี่เรย์ ฉันค่อยๆ ยื่นหน้าไปหอมแก้มเขาเบาๆ“แอบลักหลับพี่หรอ ไลลา” พี่เรย์พูดทั้งที่ยังไม่ลืมตา“รู้ได้ไงว่าเป็นใคร” ยังไม่ลืมตาซะหน่อยพี่เรย์ลุกขึ้นนั่งแล้วก็ดึงฉันไปนั่งตรงกลาง แขนแกร่งก็โอบรอบเอวฉันไว้หลวมๆ“ก็เมียพี่นิ ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ”เพิ๊ยะ ฉันตีแขนเขาไปหนี่งที พูดจาแสลงหู“ใครเมียพี่ค่ะ” ยังไม่ได้แต่งกันสักหน่อย“ทบทวนความจำสักหน่อยไหมล่ะ” เห็นไหมล่ะ พอตื่นมาก็หื่นใส่เลย“ทบทวนเรื่องไหนคะ เรื่องพี่เรย์กับมินนี่นะหรอ” ฉันเลยแขวะเข้าให้“ไม่
สองเดือนต่อมา...เสียงคลื่นน้ำสีเขียวมรกตสาดซัดเข้าชายฝั่ง ลมเย็นพัดผ่านกระทบผิวกายทำให้รู้สึกเย็นสบาย ตอนนี้ฉันมาถ่ายแบบที่ทะเล บรรยากาศดีมาก และการถ่ายแบบที่ทะเลชุดที่ใส่ถ่ายก็ต้องเป็นบิกินี่ ไม่ได้ถ่ายคนเดียวมีนายแบบด้วยนะ ไม่ใช่คนอื่นคนไกลน้องชายฉันเอง ไดมอนด์ เพราะว่าถ่ายกับน้องตัวเองฉันก็เลยรับงานนี้ และเจ้าของงานก็คือ มิโน่ เป็นอีกคนที่ไม่ยอมให้ถ่ายกับนายแบบคนอื่น แล้วฉันก็ไม่ได้บอกพี่เรย์ด้วย ถ้าเขารู้ไม่ยอมให้ถ่ายแน่“ดีมากครับ สวยครับ” เสียงตากล้องชม เมื่อฉันกับน้องชายเริ่มโพสต์ท่าทาง“โอเครครับ เยี่ยมๆ ทุกคนเก่งมาก” ตากล้องชมทีมงานทุกคนเมื่อทำงานเสร็จ“พี่ไลลา น้ำค่ะ” ของขวัญถือน้ำมาให้ฉัน พร้อมกับเสื้อคลุม“แล้วน้ำฉันล่ะ” ไดมอนด์หันไปถามของขวัญ“ไดมอนด์ขา น้ำเย็นๆ มาแล้วค่ะ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเอาน้ำมาให้ไดมอนด์“พี่ไลลาร้อนไหมเดี่ยวของขวัญไปเอาพัดลมแบตเตอรี่มาให้” ของขวัญถามอย่างใจดี“ฉันอยากกำลังอยากได้อยู่พอดี ไปเอามาให้หน่อยสิ” เอะยังๆ อยู่นะน้องชายฉันเนี้ย“นาย เอ้ย..คุณโดมอนด์ ก็เรียกพวกสาวๆ ของคุณสิค่ะ พวกนั้นอยากจะบริการคุณจะแย่อยู่แล้ว” พูดจบของขวัญก็เดินหนีไป
ฉันกลับมาจากทำงานเป็นเวลาบ่ายสอง เมื่อเช้าตอนออกไปรถพี่เรย์ก็จอดอยู่กลับมาก็ยังจอดอยู่ที่เดิม กลับมาตั้งแต่เมื่อคืนแต่ก็ไม่มาหาฉัน ทีเมื่อวานล่ะทำเป็นห่วงก้าง เชอะ!ฉันเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของพี่เรย์ เธอควรจะกลับห้องตัวเองนะไลลา แต่มือฉันมันกดกริ่งหน้าห้องเขาไปแล้ว“มาหาใครครับ” พี่เรย์ทำหน้านิ่งทันทีที่เห็นฉันเป็นอะไรอีกล่ะ? ทำเป็นถามว่ามาหาใคร แต่ก็เปิดประตูซะกว้างเลยนะ กลัวฉันไม่เข้าไปล่ะสิ ไม่เนียนเอาซะเลย“งั้นไม่รบกวนล่ะคะ” ฉันแกล้งจะเดินกลับห้องแขนเรียวยาวก็คว้าเอวฉันเข้าไปในห้องปั๊บ นึกว่าจะแน่“จะรีบไปไหน” พี่เรย์พูด ทำหน้าดุใส่“ก็กลับห้องสิคะ ถามได้” แกล้งกลับซะเลย“มากดกริ่งห้องเขา แล้วไม่เข้ามามันเสียมารยาท” ใครบอกมาเนี้ย ไม่เห็นจะเคยได้ยิน“ก็เจ้าของห้องหน้าบูด ไม่รับแขกนี่ค่ะ” พอโดนฉันว่าหน้าบูด ก็ปล่อยแขนออกจากเอวฉันแล้วก็หันหลังให้ทันที อะไรของเขา“เป็นอะไรค๊า” อ้อนสักหน่อย เดี๋ยวจะเสียเที่ยวที่เขาอุตส่าห์เล่นใหญ่ขนาดนี้แล้วฉันเดินไปกอดเอวหนาจากด้านหลัง เอาหน้ากับคางมน ถูไปมากับแผ่นหลังกว้าง“ไม่ต้องมาอ่อยซะให้ยาก” เนะยังไม่ยอมอีก“เหรอคะ” ฉันแกล้งล้วงมือขึ้นไป
“ไปรถโน่นะ ไลลาไม่มีรถแล้ว” ฉันหันกลับมาบอกมิโน่“เชิญคร๊าบบบ คุณหนูไลลา” ฉันชงักกับคำพูดเล่นของมิโน่ เขากำลังพยายามอยู่สินะฉันหันไปยิ้มบางๆ ให้มิโน่ตอนนี้ฉันกับมิโน่นั่งอยู่ในร้านอาหารกึ่งบาร์แถวหมู่บ้านของพวกเรา เราเลือกนั่งโต๊ะที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวติดกับระเบียงไม้ที่รั้วประดับไปด้วยดอกไม้หลายชนิดอย่างสวยงาม“นึกว่าจะพาไปกินร้านอาหารหรูๆ ซะอีก” ฉันแกล้งพูดแซวมิโน่“ก็ไลลาชอบกินอาหารแบบบ้านๆ นิ ในร้านหรูมันไม่มีหรอก” มิโน่ตอบพร้อมกับส่งยิ้มมาให้“ทำเป็นรู้ดี..” ฉันแอบแขวะนิดหน่อย“อะไรที่เกี่ยวกับไลลา โน่รู้หมดแหละ” มิโน่สบตาฉันนิ่ง นัยน์ตาของเขาไหววูบเหมือนกำลังกลัวอะไรสักอย่าง“เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน ก็ลองไม่รู้สิ มีนอยแน่” ฉันทำทีเป็นพูดเล่นไป ใช่ฉันรู้ รู้ว่ามิโน่ต้องการจะสื่ออะไร“ที่รู้ทุกอย่าง ไม่ใช่ในฐานะเพื่อนสักหน่อย” มิโน่พูดแล้วก็เบือนหน้าหนีไปอีกทาง“มิโน่” ฉันเอื้อมมือไปกุมมือมิโน่ที่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร“โน่มาช้าไปใช่ไหม” มิโน่สบตาฉันนิ่ง นัยตาดูเศร้าสร้อย“โน่ไม่ได้มาช้าหรอก แค่ไลลาไม่ได้รอโน่แล้ว” ถึงจะรู้ว่าเขาต้องเสียใจ แต่ฉันก็ไม่สามารถกลับไปได้จริงๆ“นั้นสินะ ใ