พี่เรย์หยิบมันขึ้นมา เขาจ้องหน้าฉันเขม็ง ตายแล้วเขาจะคิดว่าฉันเป็นคนยังไงเนี้ย อยากจะบ้าตาย ไอ้น้องบ้ามันใช้ให้ฉันมาเอาอะไรให้มันเนี้ย ถ้ามันมาหาเมื่อไรนะ จะตบให้คว้ำเลย ฉันรอบกลืนน้ำลายเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของพี่เรย์
“ไซร์พี่เลย...ขอลองได้ป่ะ” พี่เรย์ชูมันขึ้นมาแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
“อยากได้ก็เอาไปสิค่ะ” ฉันรีบลุกขึ้นเตรียมพุ่งไปที่ประตูแต่ว่าก็ช้ากว่าพี่เรย์ เขาคว้าเอวคอดฉันไว้แน่น
“ว๊าย....” ฉันเผลอร้องอุทานออกมา พี่เรย์ใช้แขนรัดเอวฉันไว้แน่นทำให้แผ่นหลังฉันชิดกับหน้าอกแกร่งของเขา มืออีกข้างก็ชูกล่องเจ้าปัญหานั้นขึ้น
“ถ้าน้องไลลากลับ...พี่จะไปลองกับใครล่ะครับ” พี่เรย์พูดกระซิบที่ข้างหู ลมหายใจรดที่หลังหูทำให้ฉันรู้สึกร้อนวูบวาบอย่างบอกไม่ถูก
“ก็เรื่องของพี่สิ” ฉันตอบพร้อมกับดิ้นแรงๆ ให้หลุดออกจากอ้อมแขนของพี่เรย์ แต่ก็ไม่เป็นผล
“ปล่อยไลลานะ” ฉันหันหน้าไปขึงตาใส่บ่งบอกถึงความไม่พอใจ แต่พี่เรย์กลับทำลอยหน้าลอยตาไม่สนใจในสิ่งที่ฉันบอก
“อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลยน่า” เขาพูดเหมือนกับว่าฉันแกล้งดีดดิ่งอย่างนั้นแหละ
“ปล่อยนะ” ฉันพยายามเกะมือพี่เรย์ออกจากเอว ทั้งหยิกทั้งข่วนจนแขนพี่เรย์เริ่มแดงเป็นรอยเล็บของฉัน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
“หึ! จะให้ปล่อยไปง่ายๆ ได้ไง ในเมื่อน้องไลลาคนสวยลงทุนซื้อหมากฝรั่งมาฝากเด็กในค่ายพี่ซะขนาดนี้” คำพูดของพี่เรย์รู้สึกเหมือนถูกตบด้วยคำพูดยังไงก็ไม่รู้
“พูดบ้าอะไร ปล่อยไลลาได้แล้ว” ฉันชักจะเหลืออดกับเขาแล้วนะ
“ตอนนี้ไดมอนด์ไม่อยู่แล้ว เดียวพี่ทำแทนมันเองนะ” คำพูดส่องแววเรื่องไม่ดีถูกเอ่ยออกมาจากริมฝีปากหนา เขาพูดกระซิบที่ข้างหู
“รับรอง..พี่เด็ดกว่าไอ้เด็กน้อยไดมอนด์นั้นอีก” นี่เขาคิดทุเรศๆ แบบนี้ได้ไง ฉันกับไดมอนด์เนี้ยนะ เขาบ้าไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าหน้าตาดีไม่ได้ทำให้สมองดีไปด้วยเลย
“ทุเรศ! ไม่มีใครเขาคิดอกุศลเหมือนพี่หรอก” ในที่สุดเขาก็ปล่อยแขนออกจากเอวฉัน พอรู้ตัวว่าเป็นอิสระฉันก็หันไปตบหน้าเขาหนึ่งทีโทษฐานที่คิดแต่เรื่องทุเรศ
พี่เรย์หันหน้ากลับมาเหมือนไม่รู้สึกอะไร แถมยังทำท่าทางกวนโอ๊ยด้วยการเอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้มข้างที่ถูกฉันตบ เหมือนพวกนักเลงชอบทำกัน แล้วฉันก็พึงรู้ตัวว่าไม่ควรต่อกลอนกับเขาเลย เมื่อพี่เรย์เดินไปล็อกประตู
“ทำอะไรนะ” ฉันถามออกไปเสียงสั่นนิดๆ เริ่มรู้สึกกลัวคนตรงหน้าขึ้นมาซะงั้น
“ทำอะไรดีล่ะ” พี่เรย์ถามกลับมาด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาท พี่เรย์ค่อยๆ ก้าวเข้ามาหาฉันด้วยท่าทางคุกคาม
“อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นไลลาจะโทรแจ้งตำรวจ” ฉันลองขู่เขาดูเผื่อจะกลัวบ้าง
“กว่าตำรวจจะมาก็น่าจะได้หลายยกแล้วนะ” เขาพูดอะไรออกมาเนี้ย
“ไม่คิดเลยนะค่ะว่าพี่เรย์จะเป็นคนแบบนี้” ไม่จำเป็นต้องพูดดีล่ะ
“แบบไหนค่ะ” พี่เรย์ทำหน้ายียวนไม่เลิก
“ไม่คิดว่าจะอดอยากปากแห้งขนาดนี้” ฉันเชิดหน้าพูดอย่างดูถูก
“หึ! น้องไลลาก็ไม่ต่างจากพี่หรอก เห็นยิ๊มๆ แบบนี้นะ...ตอนหัวค่ำก็อยู่กับสามีชาวบ้านพอตกดึกก็มากินเด็กพี่ถึงในค่าย” คำพูดดูถูกจากคนตรงหน้าทำให้ฉันควันออกหูทันที
“รู้ไม่จริงอย่ามาพูดดีกว่า!!” ฉันเดินเข้าไปผลักอกพี่เรย์อย่างแรงจนเขาเซนิดๆ พี่เรย์คว้าเอวฉันเข้าไปชิดกับอกแกร่งแขนอันแข็งแรงของเขารัดแน่นจนฉันแทบหายใจไม่ออก
“พี่เรย์ปล่อยนะ” พี่เรย์ใช้มือข้างหนึ่งล็อกท้ายทอยฉันไว้เขาก้มลงมาบดจูบที่ริมฝีปากฉันอย่างรุนแรงเหมือนต้องการจะสั่งสอนฉัน ลิ้นร้ายกวาดไปทั่วโพรงปากฟันของเขาขูดกับริมฝีปากล่างฉันรู้สึกถึงคาวเลือดนิดๆ แขนอีกข้างก็รัดเอวฉันไว้แน่น ฉันกำมือทุบอกเขาแรงๆ เพื่อให้เขาปล่อยแต่ก็ไม่เลย เขาไม่สะทกสะท้านสักนิด ฉันเริ่มเจ็บมือแล้วล่ะ พอฉันหยุดทุบอกเขาก็ถอดริมฝีปากออกจ้องตาฉันเขม็ง ร่างของฉันถูกผลักลงใส่โซฟาตัวใหญ่ตามด้วยร่างหนาขึ้นมาคร่อมตัวฉันไว้
“ปล่...” ฉันยังไม่ทันได้พูดเป็นคำพี่เรย์ก็จู่โจมฉวยริมฝีปากหนาทาบทับริมฝีปากบางของฉันอีกครั้ง เขาโจนจ้วงรุนแรงราวกับหื่นกระหาย พี่เรย์ล้วงมือขึ้นมาจากชายเสื้อด้านล่างไต่ไล่ขึ้นมาเขาลูบไปมาบริเวณใต้ราวนมทำให้ฉันรู้สึกหวาบหวิวปนเสียวสะท้านเรียกให้ขนในกายลุกชัน ริมฝีปากหนาล่ะจากริมฝีปากบางของฉันเปลี่ยนมาซุกไซ้ซอกคอฉันแทน ตอนนี้ในหัวฉันมึนไปหมด คำด่าที่คิดไว้ก่อนหน้านี้ถูกเขาลบออกไปหมดเพียงแค่เขาจูบ
“อย่ากัดนะ” ฉันร้องเตือนเมื่อรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ลำคอ เขาทั้งดูดทั้งแม้ม ตอนนี้คอของฉันคงเต็มไปด้วยรอยคิสมากส์จากเขา พี่เรย์เลิกเสื้อฉันขึ้นมาไว้บนอกสองมือหนาก็บีบเคล้นหน้าอกอย่างแรงจนฉันเผลอร้องครางออกมา
“อ๊ะ..” สองมือบางของฉันพยายามจับมือเขาไว้ แต่เขาก็ไม่ยอมหยุด ตอนนี้เหมือนกับว่าฉันจับมือเขาให้บีบหน้าอกตัวเองอย่างนั้นแหละ
“พอได้แล้ว!!” เมื่อหยุดมือเขาไม่ได้ฉันก็ใช้มือเล็กทุบที่ไหล่เขาแทน ทั่งหยิกทั้งข่วนแต่มันก็ไม่สามารถหยุดเขาได้เลย พี่เรย์รวบมือทั้งสองข้างของฉันด้วยมือข้างเดียว เขาดึงสายไฟมาจากไหนก็ไม่รู้มาพันข้อมือฉันไว้ทำให้ฉันไม่สามารถทุบตีเขาได้อีก
“อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ” ฉันท่วงเขาอีกครั้งหวังให้เขามีสติ“อย่าทำเป็นอินโนเซ้นท์หน่อยเลย ดูก็รู้ว่าน้องไลลานะผ่านการทดสอบมาเยอะ” คำพูดของเขาเหมือนน้ำมันราดไฟ อยากจะข่วนหน้าเขานัก“ไลลาจะเป็นยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับพี่ เพราะฉะนั้นหยุดทำเรื่องต่ำๆ สักที!” ฉันพ่นคำใส่หน้าพี่เรย์อย่างเหลืออด ถ้าคิดว่าฉันเป็นคนแบบนั้นจะมายุ้งกับฉันทำไมพี่เรย์ดึงเสื้อฉันขึ้นไปกองไว้ที่ข้อมือที่เขาใช้สายไฟมัดไว้ ริมฝีปากหนาก้มลงมาชิดกับหน้าอกฉัน ลิ้นหนาค่อยๆ เขี่ยกระแซะบราซิลิโคนฉันออกทีล่ะนิด สร้างความปั่นป่วนในท้องน้อยทำให้รู้สึกสยิวขนลุกชันไปทั้งตัว“อือ...” เสียงเขาครางออกมาอย่างพอใจเมื่อบราซิลิโคนได้หลุดออกเผยให้เห็นก้อนเนื้อที่ใหญ่เกินตัวขาวเนียน“อย่า..มอง..” ฉันรู้สึกอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนที่เขาได้เห็นมันเต็มตา พยายามใช้แขนปิดแต่ก็ปิดไม่สนิท“ปิดทำไม สวยดี” คำพูดของพี่เรย์ทำให้ใบหน้าฉันรู้สึกร้อนผ่าว นี้ฉันเขินหรอเนี้ยบ้าไปแล้วร่างกายฉันอ่อนเปรี้ยทันทีที่ริมฝีปากหนากำลังครอบครองยอดอกที่เต่งตึงของฉัน มือข้างหนึ่งก็ทั้งบีบ นวด เคล้น คลึง อย่างสนุกมือ“อ๊ะ...อือ..” ฉันเผลอครางออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่“พ
พี่เรย์จับแก่นกายตัวเองจ่อมาที่กลางกายฉัน เขาถูไถขึ้นลงกับจุดเสียว“อ่า..” เสียงพี่เรย์ครางออกมาข้างๆ หูฉันฉันกัดปากล่างตัวเองแน่นกลั้นเสียงน่าอายของตัวเอาไว้ ร่างกายเริ่มรู้สึกแปลกๆ“ห้องนี้เก็บเสียงครับ” พี่เรย์พูดล้อเลียน เขาคงจะใช้ห้องนี้ทำกิจกรรมยามว่างบ่อยล่ะสิ ฉันส่งสายตาค้อนไปให้หนึ่งที“อ๊ะ! ...” ฉันเผลอครางลั่นเมื่อพี่เรย์ยัดแก่นกายเขาเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว“อ่า...อย่างเกร็งสิไลลา พี่เสียว..อ่า..” ความรู้สึกตอนนี้เหมือนช่วงล่างของฉันมันจะฉีกขาดออกจากกัน มันเจ็บระบมไปทั่วหน้าขา“เอามันออกไป...ไลลาเจ็บ อ๊ะ...” ฉันใช้มือดันหน้าท้องพี่เรย์ไว้ไม่ให้เขาดันตัวเขามาอีก แค่นี้ก็เจ็บจะแย่แล้วพี่เรย์โฉบริมฝีปากหนาลงมาประกบริมฝีปากบางของฉันไว้ เขาจูบอย่างอ่อนโยนทำให้ฉันคลอยตามกับความหวานที่พี่เรย์มอบให้“อ๊ะ..อึก!” ฉันต้องนิ่วหน้าทันทีที่พี่เรย์ดันแก่นกายเขามาอีก ฉันโอบกอดร่างหนาไว้แน่น จิกเล็บขูดลงที่หลังเพื่อระบายความเจ็บช่วงล่างที่เขากระทำ พี่เรย์แช่แก่นกายไว้อยู่อย่างนั้น ริมฝีปากหนาก็พรมจูบฉันทั่วใบหน้าเพื่อซับเหงื่อให้ฉัน“หายเจ็บรึยัง...” ฉันไม่กล้าตอบได้แต่พยักหน้าให้ พี่เรย์เ
เช้า....ฉันลืมตาขึ้นมาก็เจอความมืดสนิทหันไปมองนาฬิกาดิจิตอลเรืองแสงที่แขวงไว้ที่ฝาผนังสูงบอกเวลาตอนนี้ 06:20 เช้าแล้วนี่ รู้สึกหนักที่เอวคอดเหมือนมีอะไรทับอยู่ แขนพี่เรย์นี่เอง เขานอนกอดฉันทั้งคืนเลยหรอ ฉันค่อยๆ จับแขนพี่เรย์ออกจากเอว โอ๊ย..เจ็บช่วงล่างจัง พอขยับตัวความเจ็บก็แล่นปิ๊ดจนขาสั่นเล็กน้อย อยากข่วนหน้าเขานัก รังแกคนอื่นแล้วยังนอนสบายใจอยู่ได้ฉันรีบหาเสื้อผ้าตัวเองมาใส่อย่างรวดเร็ว ต้องรีบออกไปก่อนที่จะมีคนมาเห็น และก็ไม่ลืมหยิบถุงกระดาษสีดำออกมาด้วย แต่ฉันไม่ได้หยิบไอ้กล่องเจ้าปัญหานั้นออกมาด้วยหรอก เห็นแล้วหงุดหงิดชะมัดฉันขับรถออกมาจากค่าย LayMusic ก็สวนกับรถสีดำคันหนึ่งมีผู้ชายนั่งมาสองคนที่มองเห็นก็เพราะเขาลดกระจกรถลงคงจะเป็นเพื่อนของพี่เรย์ แล้วทำไมต้องนึกถึงด้วยเขาเนี้ย ฉันรีบสลัดหัวให้เขาออกไปจากความคิดฉันขับช้าลงเพื่อมองหาร้านขายยาแล้วก็เจอ แรดได้ก็ต้องดูแลตัวเองด้วยจริงไหม“สวัสดีค่ะ” เสียงทักทายจากเภสัชกร“ยาคุมฉุกเฉินค่ะ” ฉันรีบบอกเภสัชกร เขามองหน้าฉันแล้วก็ยิ้มให้ หน้าฉันมีอะไรหรอ ฉันหันไปสองหน้าที่ตู้กระจกก็แทบจะเอาหน้าแซกแผ่นดินหนี จะอะไรซะอีกล่ะ ก็รอยคิสมา
ไลลาฉันเดินเข้ามาคุยโทรศัพท์ในห้องนอน ถ้าพี่เรย์รู้ว่าใครโทรมานะ.. ฉันโดนเขารังแกอีกแน่“มีอะไร” ฉันถามออกไป ไม่ค่อยอยากจะคุยกับเขาสักเท่าไร“คิดถึง โทรหาไม่ได้หรอ” เสียงปลายสายตอบมา“นายไม่ควรคิดถึงใคร นอกจากภรรยาของตัวเอง” ฉันตอบด้วยความหงุดหงิด“ยังไม่หายโกรธโน่อีกหรอ” มิโน่พูดด้วยน้ำเสียงเศร้า แล้วทำไมฉันต้องหวั่นไหวกับน้ำเสียงของเขาด้วยเนี้ย“ไม่ได้โกรธสักหน่อย” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง“งั้นให้โน่เลี้ยงข้าวสักมื้อนะ ถ้าไม่โกรธจริงๆ ห้ามปฏิเสธล่ะ” ฉันรอบถอนหายใจที่ไม่สามารถปฏิเสธเขาได้“ก็คงงั้นแหละ” จำต้องตกลงไปอย่างเลี่ยงไม่ได้“ขอโน่ไปหาไลลาได้ไหม”“มิโน่!” ฉันพูดด้วยเสียงดุ“ล้อเล่นน่า ถ้าไลลาไม่รังเกียจขอโทรรึแชทหาได้ไหม” มิโน่พูดด้วยเสียงอ้อนๆ“ไลลาไม่เคยรังเกียจมิโน่นะ” ถึงจะโกรธแค่ไหนฉันก็เกลียดมิโน่ไม่ลง“จริงหรอ งั้นแสดงว่ายัง รั..” ฉันรีบพูดขัดขึ้นก่อนที่มิโน่จะพูดคำบางอย่างออกมา“แค่นี้ก่อนนะ มีสายเข้าอ่ะ” ฉันกดวางสายมิโน่ทันที ใจฉันเต้นตึกๆ มือกำโทรศัพท์แน่น อะไรกัน ทำไมนะพอรู้ว่าเขาจะพูดอะไรใจฉันมันก็เต้นแรง หวั่นไหวงั้นหรอ“คุยกับใคร” ฉันเผลอสะดุ้งตัวแรง พี่เรย์ม
“ไลลา” เขากอดฉันจากด้านหลังมือหนากุมอยู่ที่หน้าท้องฉัน ฉันใช้หลังมือเช็ดน้ำตาออกไม่อยากให้เขาเห็น“พี่ขอโทษ...ที่รุนแรงเกินไป” นี่เขาเห็นฉันเป็นเด็กรึไง ตบหัวแล้วลูบหลังงั้นหรอ“ชั่งเถอะค่ะ” ฉันลุกขึ้นนั่งหันหลังให้เขา“หิวข้าวแล้วค่ะ จะอาบน้ำก่อน” พูดจบฉันก็เดินเข้าห้องน้ำไปโดยที่ไม่ใส่อะไรเลย ยังไงเขาก็เห็นหมดแล้วนิจะใส่หรือไม่ใส่ก็ไม่ต่างกันฉันเดินออกมาจากน้องน้ำก็ไม่เจอพี่เรย์อยู่ในห้องนอน เสียงจากทีวีด้านนอกบ่งบอกว่าเขายังอยู่ในห้องฉัน“กินข้าวกันพี่อุ่นให้แล้ว” พี่เรย์เดินมาจูงมือฉันไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว เราต่างนั่งกินข้าวกันเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไร“เมื่อไรจะกลับค่ะ” ฉันถามขึ้นหลังจากกินข้าวเสร็จ“โอเคร พี่กลับก็ได้ แต่ไลลาต้องเอาเบอร์มาให้พี่ก่อน” พี่เรย์ยกมือขึ้นเกาหัวอย่างหงุดหงิด“ทำไมต้องให้” ฉันกอดอกจ้องหน้าเขานิ่ง เห็นเขาชอบทำท่านี้เลยทำมั้ง“อย่าดื้อกับพี่” พี่เรย์พูดด้วยเสียงดุฉันแบมือขอโทรศัพท์พี่เรย์ ซึ่งเขาก็ยื่นให้อย่างรู้งาน ฉันกดแค่เบอร์ให้ส่วนเขาจะแม้มว่าอะไรก็ให้แม้มเองแล้วกัน“พี่กลับล่ะนะ” เขาเดินมายืนอยู่ตรงหน้า หอมแก้มดังฟอดแล้วก็จุ๊บที่ปากหนึ่งทีจู่ๆ ใจฉัน
ไลลาครบสามวันที่ฉันไม่รับงานร่องรอยจากคนใจร้ายหายไปหมดแล้ว เขาไม่โพล่หน้ามาให้เห็นเลย แล้วฉันจะนึกถึงเขาทำไมเนี้ย เขาไม่มากวนก็ดีแล้วนิติ่งต่อง...ใครมาแต่เช้าหรือว่าเขาจะมา ฉันรีบเดินตรงไปที่ประตู เปิดประตูต้อนรับแขกผู้มาเยื่อน“หายไปไหนมา” ฉันพูดขึ้นทั้งที่ยังไม่ทันมองหน้าแขก“ก็ไปทำงานสิครับ ถามแปลกๆ” อ้าว ไดมอนด์เองหรอ ฉันทำหน้าตกใจเล็กน้อย“แล้ววันนี้ไม่ทำรึไง” ฉันถามน้องชายเมื่อเดินเข้ามาในห้องแล้ว“ทางค่ายให้พักผ่อนสองอาทิตย์นะ” ไดมอนด์บอก“แล้วของที่มอนด์ให้ไปเอาอยู่ไหนล่ะ” พูดขึ้นมาก็ดีล่ะฉันเดินไปหยิบถุงกระดาษสีดำออกมาโยนให้ไอ้น้องบ้าทันที“เฮ้ยย เดียวพังหรอกโยนมาได้” ไดมอนด์รีบรับของอย่างเร็ว“แกกลัวอะไรพัง ห๊ะ! ไอ้น้องบ้าใช้ให้พี่ไปเอาอะไรให้ มันน่านัก” ฉันเดินเข้าไปบิดหูไดมอนด์ด้วยความโมโห แกรู้ไหมไอ้มอนด์ว่าพี่แกต้องเจออะไรบ้าง“โอ๊ยยย พี่ไลลาเบาๆ เจ็บบบ” ไดมอนด์ร้องโอดโอ๊ยย แค่นี้มันยังน้อยไป“ก็เพราะไอ้ของบ้าๆ นั้น มันทำให้พี่แกโดน...” ฉันต้องชงักคำพูดไว้ทันที“อะไร” ไดมอนด์เอามือลูบหูปอยๆ“ไม่มีอะไร” ฉันสะบัดหน้าหนีอย่างหงุดหงิด“อะไรของพี่เนี้ย มาถึงก็ทำร้ายน้อง”
ไลลาพอถ่ายแบบเสร็จฉันก็โทรหาน้องชายว่าเสร็จงานแล้วจะได้กลับบ้านไปหาพ่อกันแล้วมันก็บอกให้ฉันไปรับที่ค่ายเพลง ไม่อยากจะไปสักเท่าไรถ้าไม่จำเป็นฉันขับรถมาจอดที่ใต้ตึกเหมือนวันนั้นแป๊ะ ฉันกดโทรหาไดมอนด์แต่ก็ไม่รับสายฉันลงจากรถเดินเข้าไปในตึก ตอนกลางวันตึกเปิดประตูไว้ตลอดไม่ต้องใช้คีการ์ดเหมือนตอนกลางคืน“ขอโทษค่ะ ไม่ทราบว่าไดมอนด์อยู่ไหนคะ พอดีว่าไลลาเป็นพี่สาวของไดมอนด์นะคะ”ฉันถามผู้ชายสองคนที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะรับแขก พอสองคนนี้หันหน้าใจจะแทบถอยหนี แต่นึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ได้เห็นหน้าฉันในวันนั้น“ว๊าว...สวย” ผู้ชายที่หน้าเหมือนลูกครึ่งพูด“แล่มเลย” เสียงพูดชายที่หน้าตาไปทางเอเชียพูด เขาสักเต็มตัวเลยเหะฉันยืนเกาหัวแก้เก้อ ก็เล่นชมซึ่งๆ หน้าแบบนี้ ใครไม่เขินบ้างล่ะ“ชื่อซัมดี เรียกเฮียซัมดีก็ได้” ผู้ชายที่หน้าเหมือนลูกครึ่งชื่อซัมดี“งั้นคนนี้ก็เฮียเจใช้ไหมคะ” ฉันลองเดา เพราะไดมอนด์เคยบอกไว้“รู้จักเฮียด้วยหรอ” เฮียเจพูดอย่างตื่นเต้น“ไดมอนด์พูดถึงเฮียสองคนบ่อยๆ นะคะ” ฉันอธิบายให้พวกเฮียเข้าใจ“ว่าแต่ไดมอนด์อยู่ไหนคะ” ฉันถามอีกครั้ง“อ๋อ น่าจะอยู่ห้องซาด์วกับเฮียเรย์มันแหละ” พอไ
ติ่ง!เสียงข้อความเข้าโทรศัพท์ฉันเองพี่เรย์ : อยู่ไหนฉันลุกออกจากที่นั่งเดินไปหลังบ้าน ทานข้าวเสร็จพอดีไลลา : จำเป็นต้องบอกด้วยหรอค่ะพี่เรย์ : อย่าดื้อกับพี่ ไม่งั้นจะโดนทำโทษทำไมชอบขู่จังไลลา : อยู่บ้านค่ะพี่เรย์ : บ้านใครไลลา : ก็บ้านไลลาสิพี่เรย์ : แล้วไปท่าจะบ้า ฉันเผลอยิ้มให้กลับโทรศัพท์พี่เรย์ : กลับตอนไหนไลลา : ไม่บอกพี่เรย์ : โดนแน่ไลลา : จะกลับเดี๋ยวนี้แหละค่ะพี่เรย์ : มาหาที่ห้องด้วย ขัดคำสั่งโดนอะไรของเขาเนี้ย ชอบขู่จังเลยนะฉันเก็บโทรศัพท์กำลังจะเดินเข้าไปในบ้าน หันตัวมาก็ชนกับร่างหนาของมิโน่เกือบหงายหลัง ดีที่มิโน่เร็วกว่าคว้าตัวฉันไว้ได้ทัน“ขอบใจ” ฉันยิ้มอย่างขอบคุณ ไม่งั้นเจ็บตัวแน่“คุยกับใครอยู่หรอ” มิโน่ถามฉัน“คุยกับเพื่อนนะ” ฉันตอบมิโน่“อิจฉาเพื่อนคนนั้นจัง ที่ได้รอยยิ้มของไลลาไป” มิโน่พูดเหมือนน้อยใจ“พูดอะไรนะ ไลลาก็ยิ้มให้เพื่อนทุกคนอยู่แล้ว” ฉันก็ยิ้มปกตินิ ไม่ได้พิเศษอะไรสักหน่อย“จะกลับตอนไหน ให้โน่ไปส่งไหม” มิโน่อาสา“ไลลาเอารถมานะ”“แล้วไดมอนด์กลับด้วยรึเปล่า”“คงไม่มั้ง เขาอยู่ในช่วงพักผ่อนคงจะอยากอยู่บ้านสักพัก”“ไลลา ถ้าตอนนี้ยังไม่มีใค
แถมอีกนิด...หลังจากคลอดลูกฉันก็ฟิตหุ่นอย่างหนักจนตอนนี้ฉันก็กลับมาหุ่นดีเหมือนเดิมแล้วราเรซก็เป็นเด็กดีมากไม่งอแง้ให้ฉันต้องเหนื่อยเลย“แม่ค่ะ ฝากราเรซแป๊บนะ” ฉันหันไปบอกแม่ ตอนนี้แม่ฉันมาอยู่ช่วยเลี้ยงหลานชั่วคราว“จะไปไหนลูก” แม่หันมาถามฉัน“ไปธุระนิดหน่อยค่ะ”ตอบแม่เสร็จฉันก็เดินขึ้นรถคู่ใจตรงดิ่งไปยัง ST ผับ เพราะอะไรนะหรอ หึ!สายของฉันรายงานมาว่า สามีฉันและเพื่อนๆ ของเขารวมทั้งไอ้น้องชายตัวแสบด้วยกำลังถ่ายเอ็มวีเพลงโปรโมทค่ายของพวกเขาพวกนั้นพานางแบบสาวสวยหุ่นเอ็กซ์ยี่สิบกว่าคนใส่บิกินี่มาถ่ายแต่นั้นก็ไม่เท่าไรหรอก พอได้เห็นรูปที่สายของฉันส่งมาก็ทำให้ฉันปิ๊ดแตกทันทีเมื่อสามีตัวดีของฉันนั่งอยู่บนโซฟาแล้วมีสาวๆ นั่งขนาบข้างคนหนึ่งก็ลูบไล้อีกคนก็เต้นยั่วและที่สำคัญพี่เรย์จับก้นแล้วก็โอบยัยพวกนั้นด้วย เพราะฉะนั้นต้องมีฉันร่วมแฟรมด้วยก็ฉันนะนางแบบหุ่นเอ็กซ์ตัวแม่“สวัสดีค่ะ ทุกคน” เมื่อฉันปรากฏตัวก็ทำให้ทั้งหมดหันมามองเป็นตาเดียวใช่ว่ามองเพราะฉันคือเมียของพี่เรย์หรอกนะ แต่ที่มองก็เพราะว่าฉันใส่บิกินี่สุดวาบหวิวแม้แต่ตัวฉันเองก็ยังรู้สึก“แบะ! เจ้า” เฮียซัมดี“แล่มมาก” เฮียเจ
บทส่งท้าย....วันนี้เป็นวันที่ฉันมีความสุขที่สุดในชีวิต เป็นความฝันของลูกผู้หญิงทุกคนที่ใฝ่ฝันไว้ว่าอยากจะใส่ชุดแต่งงานสีขาวกระโปรงยาวๆ เดินไปบนพื้นพรมที่โปรยไปด้วยดอกกุหลาบหลายสีงานแต่งของฉันจัดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ในห้องแต่งตัวที่ทางโรงแรมเขาเตรียมไว้ให้“พร้อมรึยังลูก” พ่อเดินเข้ามาถามฉัน“ค่ะ” ฉันลุกขึ้นยืนเข้าไปกอดพ่อ“ลูกสาวพ่อสวยจังเลย” ความอบอุ่นจากพ่อทำให้ฉันคลายความกังวลลงได้ไม่มีอ้อมกอดไหนจะอุ่นเท่ากับอ้อมกอดของพ่อแม่แล้วล่ะตื่นเต้นจัง ฉันเดินค้วงแขนพ่อเข้ามาในงาน มีแขกมาร่วมงานกันมากมายเพื่อนของฉันก็มาด้วย มิโน่ เฌอรีน และหนูน้อยมิริน พวกเขาส่งยิ้มแสดงความยินดีมาให้กับฉันฉันมองไปเบื้องหน้าก็เจอกับผู้ชายหน้าคม ผิวขาวออร่าพุงเหมือนวันแรกที่เจอกันเขาอยู่ในชุดสูทสีขาวทำให้เขาดูน่ามองยิ่งนัก เขายืนส่งยิ้มแสนอบอุ่นมาให้“พ่อฝากลูกสาวพ่อด้วยนะ เรย์” พ่อฉันบอกเขา พร้อมกับจับมือฉันไปวางไว้บนมือหนาที่ยื่นมารอรับอยู่แล้ว“เรย์จะรักและดูแลไลลา ให้ดีที่สุด เรย์ให้สัญญาครับ” พี่เรย์ยืนยันคำมั่นกับพ่อของฉัน“แม่ฝากไลลาด้วยนะเรย์” ฉันเดินเข้าไปกอดผู้เป็นแม่ด้วยควา
หนึ่งเดือนต่อมา ณ บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง“พ่อครับ ผมทำลูกสาวพ่อท้องครับ” เสียงผู้ชาย หล่อ ผิวขาว หน้าคม พูดขึ้น“ล้อเล่นใช่ไหมเนี้ย” ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าพ่อ ทำสีหน้างงงวยเป็นเสียงสนทนาระหว่างพ่อของฉันกับว่าที่สามี พี่เรย์ นี่เขาคุยกับผู้ใหญ่ไม่เป็นรึไงจะมาขอลูกสาวเขาแต่มาบอกกับพ่อเขาว่าทำลูกสาวเขาท้องเนี้ยนะ“จริงครับพ่อ” เสียงน้องชายตัวดีพูดเสริม ไดมอนด์“ต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีลูกชายผมมันใจร้อนไปหน่อยไม่รอให้ผมที่เป็นพ่อของมันมาพูดให้นะครับ” เสียงผู้ชายสูงวัยคนหนึ่งพูดขึ้นเมื่อเขาเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับภรรยาของเขา“ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ” ฉันยกมือไหว้ท่านทั้งสอง เขาคือพ่อแม่ว่าที่สามีฉันเอง“ก็พ่อช้านิครับ” พี่เรย์หันไปโว๊ยพ่อตัวเอง“จะมาขอลูกสาวเขาทั้งที ไม่เตรียมสินสอดทองหมั้นมาแล้วใครเขาจะยกลูกสาวให้ ห๊ะ! ไอ้เรย์” พ่อพี่เรย์บ่นลูกชาย“นี่ค่ะ สินสอดแล้วก็ของหมั้น” แม่พี่เรย์วางพานที่เต็มไปด้วยเงินสด ทองแหวนเพชรและเครื่องประดับอื่นๆ มีใบโฉนดที่ดินด้วยฉันมองหน้าพี่เรย์อย่าง งงๆ“แล้วผมจะกล้าขัดได้ไง ในเมื่อพร้อมกันซะขนาดนี้” พ่อฉันได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ“เรื่องสินสอดนะให้เขาคุยกันเอง
“เบาๆ สิ เดี๋ยวกระเทือนลูก” พี่เรย์แกล้งดุฉัน“แค่นี้เอง ไม่กระเทือนหรอกน่า” ฉันบอกพี่เรย์“งั้นมาต่อแขนต่อขาลูกหน่อยไหม” นั้นไงพอเห็นไม่ว่าอะไรเข้าหน่อยนี่ เอาใหญ่เลย“มาเล่นเกมส์กันก่อนดีกว่า” ฉันเสนอ“เกมส์อะไร” พี่เรย์พูดอย่างหงุดหงิดนิดๆ“มาเป่ายิงชุบกัน ผู้ชนะมีสิทธิ์ถอดเสื้อผ้าชิ้นไหนก็ได้ของผู้แพ้” ฉันอยากทรมานเขาเล่น“งั้นพี่ยอมแพ้ ไลลาถอดพี่ได้เลย” พี่เรย์พูดจบก็ทำท่าจะถอดเสื้อผ้าตัวเอง“ไม่ค่ะ ต้องเป่ายิงชุบก่อน” ไม่ยอมง่ายๆ หรอก อยากหื่นดีนัก“มาค่ะ ยันยิงเยาปักกะเป้ายิงชุบ” ฉันชนะฉันจับชายเสื้อข้างล่างของพี่เรย์แล้วก็ดึงออกทางศีรษะ“ถอดกางเกงเลยไม่ได้หรอ” ดูทำพูดเข้า ใจร้อนจริงฉันส่ายหน้าให้แทนคำตอบ“ยันยิงเยาปักกะเป้ายิงชุบ” พี่เรย์ชนะ“ถอดกระโปรงเลย” พูดจบก็พุงตัวมาจับฉันถอดกระโปรง“ทำไมไม่ถอดเสื้อก่อนเล้า..พี่เรย์ มันจั๊กจี้นะ ฮ่าๆ” เขาพยายามจะถอดกระโปรงให้ได้พอฉันยึดจับกระโปรงไว้พี่เรย์ก็จี้เอวฉัน“มาต่อเลย” เขายึดกระโปรงไปเป็นที่เรียบร้อย คนบ้าฉันต้องเอาหมอนมาวางที่ตักไว้แทนมันวาบหวิวไปหน่อย“ยันยิงเยาปักกะเป้ายิงชุบ” พี่เรย์ชนะอีกแล้ว“ถอดกางเกงในเลยทีนี้” โอ๊ยย
“อ้าว พี่เรย์มาได้ไงคะ” เฌอรีนถามเขาตอนนี่พี่เรย์จ้องหน้าฉันนิ่ง แววตาเสียใจไหววูบไปกับน้ำตาที่เริ่มคลอ“เพราะแบบนี้สินะ ถึงไม่ยอมบอกพี่” พี่เรย์พูด สายตาเจ็บปวด“ไม่ใช่นะ ไลลามะ...” ฉันพยายามอธิบาย“พี่เข้าใจแล้วล่ะ” พี่เรย์กำลังจะเดินข้ามถนนหนีฉันไป“ฉันท้องกับพี่แก ยัยเฌอบ้า” ฉันหันมาตะคอกเฌอรีนฉันรีบวิ่งตามข้ามถนนโดยไม่ทันระวังตัว“ไลลา ระวัง” ฉันหันหน้ากลับมามองเฌอรีน เธอกำลังวิ่งตามฉันมาปริ๊นนนน โครม...เฌอรีนผลักฉันให้พ้นทางแต่ฉันก็กอดเฌอรีนไว้ด้วยเธอพลิกตัวเองไปทางรถยนต์ทำให้เฌอรีนโดนชนเต็มๆ“เฌอรีน!!” ฉันร้องลั่นเมื่อเห็นเลือดจากหัวของเฌอรีน“ละ..ลูก ฉัน” มือของเธอกุมท้องตัวเองไว้“ไม่เป็นไรๆ ลูกยังโอเคร ไม่เป็นไรนะ” น้ำตาฉันไหลพราก สงสารเฌอรีน“ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แกสมควรตาย ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ” ฉันหันไปตามเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งนั้น แพทตี้หรอยัยแพทตี้เป็นคนขับรถชนเฌอรีน“ไลลา!” พี่เรย์วิ่งตาตั้งมาจากไหนก็ไม่รู้“ช่วยพยุงเฌอรีนหน่อย” ฉันบอกให้พี่เรย์ พยุงเฌอรีนแทนฉันฉันลุกขึ้นเดินตรงไปที่ยัยแพทตี้ ที่กำลังหัวเราะเหมือนคนบ้า“ซะใจมากใช่ไหม มานี่” ฉันกระชากผมแพทตี้อย่างแรงตามด้วยฝ่าม
หลังจากกลับมาจากถ่ายแบบที่ทะเล ฉันก็ขอพี่แมนนี่พักหน่อยเพราะเริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบาย พี่เรย์ก็ทำงานอยู่ที่ค่ายเพลงไม่ค่อยได้กลับมาคอนโด ไปหาดีไหมน่าจะยุ่งอยู่รึเปล่าฉันขับรถมาจอดที่ใต้ตึก LayMusic ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในตึกขึ้นไปยังชั้นสองตรงไปที่ห้องสุดทางเดิน ฉันเลือนประตูกระจกไปด้านข้าง โคมไฟบนโต๊ะส่องแสงพอให้มองเห็นภายในห้อง ใบหน้าคมขาวเนียนกำลังนอนหลับอยู่บนโซไฟตัวใหญ่ เวลาหลับก็ดูไม่มีพิษมีภัยอยู่หรอก แต่ถ้าตื่นล่ะก็คนล่ะเรื่องเลย ฉันเดินไปหยิบผ้าห่มที่โต๊ะข้างโซฟามาคลุมร่างหนา ดูใกล้ๆ ก็น่ารักเหมือนกันนะเนี้ย ฉันนั่งลงกับพื้นพรมมองหน้าพี่เรย์ ฉันค่อยๆ ยื่นหน้าไปหอมแก้มเขาเบาๆ“แอบลักหลับพี่หรอ ไลลา” พี่เรย์พูดทั้งที่ยังไม่ลืมตา“รู้ได้ไงว่าเป็นใคร” ยังไม่ลืมตาซะหน่อยพี่เรย์ลุกขึ้นนั่งแล้วก็ดึงฉันไปนั่งตรงกลาง แขนแกร่งก็โอบรอบเอวฉันไว้หลวมๆ“ก็เมียพี่นิ ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ”เพิ๊ยะ ฉันตีแขนเขาไปหนี่งที พูดจาแสลงหู“ใครเมียพี่ค่ะ” ยังไม่ได้แต่งกันสักหน่อย“ทบทวนความจำสักหน่อยไหมล่ะ” เห็นไหมล่ะ พอตื่นมาก็หื่นใส่เลย“ทบทวนเรื่องไหนคะ เรื่องพี่เรย์กับมินนี่นะหรอ” ฉันเลยแขวะเข้าให้“ไม่
สองเดือนต่อมา...เสียงคลื่นน้ำสีเขียวมรกตสาดซัดเข้าชายฝั่ง ลมเย็นพัดผ่านกระทบผิวกายทำให้รู้สึกเย็นสบาย ตอนนี้ฉันมาถ่ายแบบที่ทะเล บรรยากาศดีมาก และการถ่ายแบบที่ทะเลชุดที่ใส่ถ่ายก็ต้องเป็นบิกินี่ ไม่ได้ถ่ายคนเดียวมีนายแบบด้วยนะ ไม่ใช่คนอื่นคนไกลน้องชายฉันเอง ไดมอนด์ เพราะว่าถ่ายกับน้องตัวเองฉันก็เลยรับงานนี้ และเจ้าของงานก็คือ มิโน่ เป็นอีกคนที่ไม่ยอมให้ถ่ายกับนายแบบคนอื่น แล้วฉันก็ไม่ได้บอกพี่เรย์ด้วย ถ้าเขารู้ไม่ยอมให้ถ่ายแน่“ดีมากครับ สวยครับ” เสียงตากล้องชม เมื่อฉันกับน้องชายเริ่มโพสต์ท่าทาง“โอเครครับ เยี่ยมๆ ทุกคนเก่งมาก” ตากล้องชมทีมงานทุกคนเมื่อทำงานเสร็จ“พี่ไลลา น้ำค่ะ” ของขวัญถือน้ำมาให้ฉัน พร้อมกับเสื้อคลุม“แล้วน้ำฉันล่ะ” ไดมอนด์หันไปถามของขวัญ“ไดมอนด์ขา น้ำเย็นๆ มาแล้วค่ะ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเอาน้ำมาให้ไดมอนด์“พี่ไลลาร้อนไหมเดี่ยวของขวัญไปเอาพัดลมแบตเตอรี่มาให้” ของขวัญถามอย่างใจดี“ฉันอยากกำลังอยากได้อยู่พอดี ไปเอามาให้หน่อยสิ” เอะยังๆ อยู่นะน้องชายฉันเนี้ย“นาย เอ้ย..คุณโดมอนด์ ก็เรียกพวกสาวๆ ของคุณสิค่ะ พวกนั้นอยากจะบริการคุณจะแย่อยู่แล้ว” พูดจบของขวัญก็เดินหนีไป
ฉันกลับมาจากทำงานเป็นเวลาบ่ายสอง เมื่อเช้าตอนออกไปรถพี่เรย์ก็จอดอยู่กลับมาก็ยังจอดอยู่ที่เดิม กลับมาตั้งแต่เมื่อคืนแต่ก็ไม่มาหาฉัน ทีเมื่อวานล่ะทำเป็นห่วงก้าง เชอะ!ฉันเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของพี่เรย์ เธอควรจะกลับห้องตัวเองนะไลลา แต่มือฉันมันกดกริ่งหน้าห้องเขาไปแล้ว“มาหาใครครับ” พี่เรย์ทำหน้านิ่งทันทีที่เห็นฉันเป็นอะไรอีกล่ะ? ทำเป็นถามว่ามาหาใคร แต่ก็เปิดประตูซะกว้างเลยนะ กลัวฉันไม่เข้าไปล่ะสิ ไม่เนียนเอาซะเลย“งั้นไม่รบกวนล่ะคะ” ฉันแกล้งจะเดินกลับห้องแขนเรียวยาวก็คว้าเอวฉันเข้าไปในห้องปั๊บ นึกว่าจะแน่“จะรีบไปไหน” พี่เรย์พูด ทำหน้าดุใส่“ก็กลับห้องสิคะ ถามได้” แกล้งกลับซะเลย“มากดกริ่งห้องเขา แล้วไม่เข้ามามันเสียมารยาท” ใครบอกมาเนี้ย ไม่เห็นจะเคยได้ยิน“ก็เจ้าของห้องหน้าบูด ไม่รับแขกนี่ค่ะ” พอโดนฉันว่าหน้าบูด ก็ปล่อยแขนออกจากเอวฉันแล้วก็หันหลังให้ทันที อะไรของเขา“เป็นอะไรค๊า” อ้อนสักหน่อย เดี๋ยวจะเสียเที่ยวที่เขาอุตส่าห์เล่นใหญ่ขนาดนี้แล้วฉันเดินไปกอดเอวหนาจากด้านหลัง เอาหน้ากับคางมน ถูไปมากับแผ่นหลังกว้าง“ไม่ต้องมาอ่อยซะให้ยาก” เนะยังไม่ยอมอีก“เหรอคะ” ฉันแกล้งล้วงมือขึ้นไป
“ไปรถโน่นะ ไลลาไม่มีรถแล้ว” ฉันหันกลับมาบอกมิโน่“เชิญคร๊าบบบ คุณหนูไลลา” ฉันชงักกับคำพูดเล่นของมิโน่ เขากำลังพยายามอยู่สินะฉันหันไปยิ้มบางๆ ให้มิโน่ตอนนี้ฉันกับมิโน่นั่งอยู่ในร้านอาหารกึ่งบาร์แถวหมู่บ้านของพวกเรา เราเลือกนั่งโต๊ะที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวติดกับระเบียงไม้ที่รั้วประดับไปด้วยดอกไม้หลายชนิดอย่างสวยงาม“นึกว่าจะพาไปกินร้านอาหารหรูๆ ซะอีก” ฉันแกล้งพูดแซวมิโน่“ก็ไลลาชอบกินอาหารแบบบ้านๆ นิ ในร้านหรูมันไม่มีหรอก” มิโน่ตอบพร้อมกับส่งยิ้มมาให้“ทำเป็นรู้ดี..” ฉันแอบแขวะนิดหน่อย“อะไรที่เกี่ยวกับไลลา โน่รู้หมดแหละ” มิโน่สบตาฉันนิ่ง นัยน์ตาของเขาไหววูบเหมือนกำลังกลัวอะไรสักอย่าง“เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน ก็ลองไม่รู้สิ มีนอยแน่” ฉันทำทีเป็นพูดเล่นไป ใช่ฉันรู้ รู้ว่ามิโน่ต้องการจะสื่ออะไร“ที่รู้ทุกอย่าง ไม่ใช่ในฐานะเพื่อนสักหน่อย” มิโน่พูดแล้วก็เบือนหน้าหนีไปอีกทาง“มิโน่” ฉันเอื้อมมือไปกุมมือมิโน่ที่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร“โน่มาช้าไปใช่ไหม” มิโน่สบตาฉันนิ่ง นัยตาดูเศร้าสร้อย“โน่ไม่ได้มาช้าหรอก แค่ไลลาไม่ได้รอโน่แล้ว” ถึงจะรู้ว่าเขาต้องเสียใจ แต่ฉันก็ไม่สามารถกลับไปได้จริงๆ“นั้นสินะ ใ