สิ้นประโยคของหญิงสาว มาเทโอมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าจนมินตรารู้สึกประหม่า และเดาสายตาของเขาไม่ออกเลยว่าตอนนี้กำลังคิดอะไรอยู่
“ได้ ผมตกลง อีกสามวันเจอกัน”
น้ำเสียงทุ้มราบเรียบที่เอ่ยตอบได้ตรงตามความต้องการของมินตราได้ สาวเจ้าก็เปรยยิ้มร่าโล่งใจที่การเจรจาผ่านไปได้โดยง่ายกว่าที่คิด
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ อย่างงั้นมะลิขอตัวกลับเลยนะคะ”
สาวเจ้ารีบลุกขึ้นเปรยยิ้มให้เขาอีกครั้งก้มหัวให้เขาเล็กน้อยก่อนจะกลับ นึกในใจใครว่ามาเทโอโหด เขาออกจะใจดีกว่าที่เธอคิดตั้งเยอะ ท่าทีน่าเอ็นดูของหญิงสาวทำมาเทโอยิ้มอ่อนมองตามหลังจนเธอลับตาไป นึกพอใจที่บริษัทหาคู่ส่งคนมาแทนที่คนเดิมแบบนี้ค่อยน่าคุยด้วยหน่อย ความน่ารักของเธอลดอาการโทสะของเขาลงได้เยอะเลยทีเดียว
“แกว่าฉันจะไปหาผู้หญิงจากไหนทันอะตุ๊ด”
พอใจกุมขมับหนึบเธอเสยผมจนแทบจะหลุดหมดหัวแล้วยังคิดไม่ออกเลยจะหาทางออกเรื่องนี้ยังไง ลำพังผู้หญิงถ้าหาได้ก็ต้องมาเสนอข้อตกลงของมาเทโอให้พวกเธอฟังว่าจะรับได้หรือไม่อีก
“ถ้าฉันรู้ฉันหาแล้วย่ะ ไม่รอให้ชะนีอย่างแกมานั่งบ่นฉันปาวปาวแบบนี้หรอก”
สภาพสีหน้าของณัฐพลไม่ได้แตกต่างไปจากพอใจเลย จะไปหาผู้หญิงจากไหนที่ยอมเป็นเมียออกหน้าของมาเทโอ แต่ห้ามสำคัญตัวเป็นเจ้าของ และต้องยอมรับให้ได้เมื่อเขามีสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่น อันที่จริงเขาและพอใจไม่ได้อยากรับงานแบบนี้แต่เพราะคนระดับมาเทโอเลยปฏิเสธลำบากจริงๆ คราแรกคิดว่าเรื่องราวจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แต่คนที่เขาเห็นว่าเป็นมิตรดันกลายเป็นมิจฉาชีพเสียอย่างนั้น
“เพราะแกเลย หลงผู้ชายจนเสียการเสียงานหมดแล้วเนี่ย”
นิ้วชี้เรียวชี้ไปที่หน้าของณัฐพลครั้งแล้วครั้งเล่า โมโหเพื่อนก็โมโหแต่ยังไงก็ต้องมาหารือปรึกษากันสองคนอยู่ดี เพราะทั้งบริษัทมีเพียงเธอและณัฐพลเท่านั้นที่รู้เรื่องข้อตกลงของมาเทโอ
ก๊อกๆๆ
สองสายตามองไปยังหน้าประตูด้วยสีหน้าแปลกใจ เมื่อเห็นมินตราเดินหน้าระรื่นเข้ามา
“พี่พอใจ พี่นัตตี้คะ มะลิหาวิธีแก้ปัญหาได้แล้วค่ะ”
“ยังไงจ้ะชะนีน้อย”
ณัฐพลเอ่ยเสียงอ่อนไม่ได้มีท่าทีตื่นเต้น เพราะเขาคิดวิธีแก้ปัญหากับพอใจมาหลายรอบแล้ว แต่ไม่มีข้อไหนที่เห็นว่าจะแก้ปัญหาได้ เขาคิดว่าเรื่องที่มินตราจะเสนอทางออกคงไม่พ้นเหมือนๆ ที่เขาเคยคิดกัน
“เมื่อกี้มะลิขอขึ้นรถคุณแอลไปที่บ้านคุณมาเทโอค่ะ ไปขอโทษเค้าแล้วก็เสนอตัวเป็นคู่เดทแทนค่ะ เค้าคุยง่ายเหมือนกันนะคะ ตกลงโดยที่ยังคุยด้วยกันไม่กี่คำเลย”
“อ อะไรนะ”
พอใจลุกขึ้นพรวด หายใจหอบถี่แทบลมจับ หนุ่มหน้าหวานอย่างณัฐพลก็มีอาการเดียวกันกับพอใจไม่มีผิดเพี้ยน
“ว๊ายย ตายแล้วชะนีน้อย”
ท่าทีที่ตกอกตกใจของพอใจและณัฐพลทำมินตราเริ่มหน้าเจื่อน
“รู้หรือเปล่าว่าเป็นผู้หญิงของคุณเรียวต้องทำอะไรบ้าง”
พอใจเข้ามานั่งข้างน้องสาว สีหน้าของเธอเป็นกังวลจนมินตราดูออกว่าเธอต้องทำอะไรให้พี่สาวเธอเครียดหนักแน่
“ก็เดทกันเหมือนคู่รักคนอื่นๆ ไงคะ ถ้าใช่ก็ไปต่อ ถ้าไม่ใช่ก็เลิกลากันไป ไม่แน่คุณมาเทโออาจจะไม่อยากเดทกับมะลิต่อก็ได้ค่ะ”
“โอ้ย ฉันจะเป็นลม”
พอใจหลับตาก้มหัวเลื้อยลงกับโต๊ะทำงาน จนณัฐพลต้องรั้งใบหน้าของเพื่อนรักให้เงยขึ้นมาก่อน ด้วยต้องอธิบายให้มินตราฟังให้รู้เรื่องว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในความเสี่ยงแค่ไหน
“เงยหน้ามาเดี๋ยวนี้ มาอธิบายให้น้องแกฟังก่อน”
“ทำไมดูตกใจกันขนาดนั้นล่ะคะ”
มินตราเริ่มนั่งไม่ติดหันซ้ายทีขวาทีมองพี่ๆ ทั้งสองสลับกันไปมา
“ตุ๊ด แกพูดเลย ฉันไม่ไหว ฉันเครียดดดด”
“เฮ้อ”
และแล้วณัฐพลก็ต้องเป็นคนอธิบายว่าสิ่งที่มินตราคิดมันไม่ใช่แบบนั้นแม้แต่นิดเดียว เพราะเธอจะไม่ใช่คู่เดทของมาเทโอเท่านั้น แต่ต้องการเป็นเมียแต่ง และทำหน้าที่เมียทุกอย่าง ห้ามทำตัวเป็นเจ้าของ และต้องยอมรับให้ได้เมื่อเขานอนกับผู้หญิงคนอื่น ต้องทำตัวเป็นเมียที่สงบเสงียมและห้ามให้ความลับนี้หลุดไปถึงหูใครเด็ดขาด มินตรารู้ตัวว่าทำอะไรพลาดไปครั้งใหญ่แบบนั้นก็นิ่งอึ้งไปพักใหญ่
“แต่ ปกติบริษัทเราไม่รับดิวแบบนี้ไม่ใช่หรอคะ”
“ก็นั่นระดับมาเฟีย เค้าให้หายังไงเราก็ต้องหาให้”
ณัฐพลเอ่ยอย่างอ่อนใจ
“แล้วจะทำยังไงดีล่ะคะ”
มือเรียวทั้งสองจิกกันแน่น ก้มหน้างุดแทบจะน้ำตาไหล หากย้อนเวลาไปได้เธอปรึกษาพี่สาวเธอก่อนคงดี ตั้งแต่เกิดมาจนถึงป่านนี้ ยังไม่เคยที่จะมีแฟน จู่ๆ จะให้มาเป็นเมียคนแปลกหน้าที่ไหนก็ไม่รู้ เธอรู้สึกว่าคงจะทำใจยอมรับเรื่องนี้ได้ยาก
“อ อ๊ายย อื้มม คุณเรียว อ๊ายย”
ก๊อกๆๆ
เคนชิเดินดุ่มมาเคาะประตูห้องมาเทโอ เขารู้ได้เลยว่ามาขัดจังหวะเจ้านายของเขาในนาทีที่กำลังมีความสุขอยู่กับพริตตี้สาวคงได้โดนหมายหัวแน่ แต่ก็ต้องรีบตามเจ้านาย เพราะสองสาวที่รออยู่ห้องรับแขกไล่ยังไงก็ไม่ยอมกลับไป แถมขู่เขาอีกว่าหากมาเทโอไม่ลงมาเจอก็จะขึ้นมาหาเอง ตอนนี้เขาเลยต้องมาทำเรื่องที่น่าลำบากใจที่สุด
“อะไรวะ”
เสียงมาเทโอตวาดลั่น หลังจากเสียงร้องครางโหยหวนของพริตตี้สาวเงียบไป
“คุณพอใจกับน้องสาวมาขอพบครับ”
ร่างสูงใหญ่เปลือยท่อนบนพันผ้าขนหนูท่อนล่างเปิดประตูด้วยท่าทีกระฟัดกระเฟียด เคนชิเห็นเจ้านายก็รีบก้มหน้ารายงานถึงเรื่องด่วนให้เขาฟังทันที
“พวกเธอมากวนอะไรฉันอีก”
เสียงแข็งเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์
“ไม่ทราบเหมือนกันครับ บอกว่าต้องคุยกับคุณเรียวให้ได้ ถ้าคุณเรียวไม่ลงไปพวกเค้าจะขึ้นมาเอง”
“โถ่ โว้ย”
มาเทโอส่ายหัวหน้าหงิกงอแสดงออกถึงความไม่พอใจที่สุด ก่อนจะสาวเท้าเดินผ่านหน้าเคนชิลงไปข้างล่าง หากสองสาวนั่นมาหาเขาด้วยเรื่องไร้สาระได้ถูกคาดโทษแน่
“พวกคุณมารบกวนเวลาของผม รู้ใช่ไหมว่าถ้ามาด้วยเรื่องไม่สำคัญผมจะโมโหแค่ไหน”
สองสาวหันหน้าตามเจ้าของเสียง เมื่อเห็นว่าเขาเปลือยโชว์แผงกล้ามและรอยสักจึงรีบหลบสายตากันทั้งคู่
“ฉันจะมายกเลิกข้อตกลงที่น้องฉันรับปากคุณไว้ค่ะ”
พอใจไม่พูดพร่ำทำเพลง เธอโพล่งเหตุผลที่มาที่นี่ออกไปเสียงดังฟังชัด มาเฟียหนุ่มที่มีโทสะอยู่พอตัวแล้วยิ่งมาได้ยินความมากเรื่องของหญิงสาวทั้งสองเขาก็ยิ่งโมโหหนักขึ้นเป็นหลายเท่าตัว
ปึ้งง.. เพล้ง “ว๊าย/อ๊ายย”
ชายหนุ่มเตะโต๊ะกลางโซฟาจนกระเด็นแตกเสียงดังลั่น สองสาวที่เห็นการกระทำเช่นนั้นจึงนั่งไม่ติดลุกยืนกอดกันกลม
“คุณกำลังเล่นตลกอะไรกับผมห้ะ”พอใจรีบรวบรวมความกล้าทำใจดีสู้เสือ ยังไงเธอก็จะปล่อยให้น้องสาวมาเป็นผู้หญิงของมาเทโอไม่ได้“คือมะลิไม่รู้ว่าคุณทำข้อตกลงอะไรไว้กับผู้หญิงคนก่อนหน้า เธอคิดว่าแค่เดทแล้วคบหาดูใจกันเฉยๆ เท่านั้น ให้เวลาฉันอีกนิดนะคะเดี๋ยวฉันจะรีบหาผู้หญิงที่ตรงตามความต้องการของคุณมาให้”“ไม่รอ มะลิตกลงกับผมเองว่าจะเอาตัวเองมาแทน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแล้ว”มาเทโอตวาดลั่น“แต่มะลิเข้าใจผิดนะคะคุณเรียว เธอจะมาเป็นเมียให้คุณไม่ได้หรอกค่ะ”พอใจเอ่ยเสียงสั่น“ไม่ได้ก็ตายมันตรงนี้”ว่าจบก็ดึงปืนกระบอกสั้นจ่อไปยังสองสาว จนเหล่าบอดี้การ์ดที่อยู่บริเวณนั้นต่างตกอกตกใจตามกันเป็นแถว แต่คนที่ตกใจกว่าเห็นจะเป็นสองสาว มินตราเริ่มกลัวจนน้ำตากตก เธอจะปล่อยให้ใครมาตายไม่ได้“โอเคค่ะ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มะลิจะเป็นผู้หญิงของคุณ”สิ้นเสียงของมินตรา มาเทโอจึงลดปืนลงได้แต่ก็ยังไม่คลายอารมณ์โมโหอยู่ดี“มะลิ”“เรากลับกันเถอะนะคะ”พอใจมองหน้ามะลิอย่างตกใจ ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดต่อรองอะไรกับมาเทโอต่อ ก็ถูกมินตราดึงลากให้เดินตามออกไปจากที่นี่กะทันหัน“ถ้าสองคนนั้นมาที่นี่ในตอนที่ฉันไม่อนุญาติ โยนออกนอ
“ฉันแน่ใจว่าพรุ่งนี้เกรซจะไม่มาร่วมโต๊ะอาหาร เรื่องนั้นสบายใจได้”มาเทโอรู้จักนิสัยของกชกรดีว่าเป็นคนเย่อหยิ่งทระนงตนแค่ไหน และพอจะรู้ว่าเธอก็มีใจให้เขาถึงได้ตอบตกลงที่จะหมั้นตามคำขอของมเหศักดิ์โดยง่าย แต่เขาไม่ได้คิดอยากมีใครเป็นบ่วงผูกคอ เพราะชีวิตไม่คิดเรื่องการมีครอบครัวในหัวแม้แต่น้อย และรู้ดีว่ามเหศักดิ์ไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดของเขาแน่นอน จึงจำเป็นต้องหาคนมาตบตาเป็นเมียออกหน้าแม้นจะรู้ว่าพ่อตนเกลียดความไม่ตรงไปตรงมาเป็นที่สุดก็เถอะ“อืม ฉันเตือนเพราะเป็นห่วงนายเท่านั้น พรุ่งนี้ไม่เจอ วันหน้าก็ต้องเจอกันอยู่ดี”“ขอบใจ”ไอเซย่า บราวน์ หรือ แอล หนุ่มหล่อร่างสูงกำยำสัญชาติอเมริกัน ตัดผมทรงวินเทจเซ็ตเนี้ยบ ดวงตาคมนัยน์ตาสีฟ้า คิ้วคมเข้มหางคิ้วมีรอยบาก มีลักยิ้มที่แก้มซ้ายแต่คนไม่ค่อยรู้เพราะเขาได้ฉายาว่าเสือยิ้มยาก เป็นคนมีฝีมือในการใช้มีดสั้นมาก ค่อนข้างสุขุม เงียบๆ ไม่ค่อยพูด คนนอกมองเขาเหมือนว่าเป็นคนหยิ่ง แต่แท้ที่จริงไม่รู้วิธีการที่จะเข้าหาคนมากกว่าว่าจะต้องทำยังไง เขาไม่ได้มองว่ามาเทโอเป็นเพื่อนหรือเป็นเจ้านายเท่านั้น แต่มองเหมือนพี่น้องแท้ๆ ด้วยครั้งที่เขาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้าน
“น้องแกล่ะ”มเหศักดิ์ออกมาต้อนรับการันต์ลูกชายบุญธรรมคนโต ชายสูงวัยที่ยังดูแข็งแรงเริ่มมองหน้าการันต์อย่างไม่ค่อยจะดีเท่าไรนัก เพราะเห็นว่าการันต์ลงจากรถตู้พร้อมลูกน้องอีกสองคนเท่านั้น แต่ไม่ยักจะเห็นกชกรน้องสาวของการันต์ลูกบุญธรรมอีกคนของเขามเหศักดิ์ ชายสูงวัย ที่ใครๆ ต่างก็ยกให้เป็นมาเฟียใหญ่ เขามีอิทธิพลมากในแวดวงนักธุรกิจ แต่กว่าเขาจะมาถึงจุดนี้ได้ก็ผ่านทั้งธุรกิจมืด สีขาวสีเทาปะปนกันไป แต่ตอนนี้เขาเลือกที่จะลามือจากธุรกิจมืดแล้ว หลังจากที่เสียลูกสาวแท้ๆ คนเดียวของเขาไป และด้วยอายุจึงทำให้ตอนนี้ก็เริ่มจะวางมือจากธุรกิจทั้งหมดแล้ว โดยการยกธุรกิจกลางคืนให้มาเทโอได้ดูแล และเรื่องธุรกิจอสังหายักษ์ใหญ่เป็นหน้าที่ของการันต์โดยมีกชกรเป็นผู้ช่วย“ยัยเกรซไม่ยอมมาด้วยครับ”การันต์ส่ายหัวและคิดว่าพ่อของเขารู้ดีว่าทำไมวันนี้กชกรถึงไม่ยอมมา“ยังเคืองอยู่สินะ”“ก็คงจะเป็นอย่างงั้นแหละครับ จะหมั้นกันอยู่แล้วจู่ๆ เรียวก็มาบอกว่ามีคนรักซะอย่างงั้น”“ฉันผิดเองที่ให้สองคนนั้นหมั้นกันกะทันหัน ทั้งที่ยังไม่ถามความสมัครใจของเรียวก่อน”เรื่องนี้มเหศักดิ์รู้สึกผิดต่อลูกๆ พอสมควร ที่เขาทำไปก็เพราะอยากให้
“ผมไม่อยากรบกวนคุณพ่อครับ แล้วทางครอบครัวมะลิก็ไม่ได้คิดมากอะไรด้วยครับ”“คุณมะลิคบกับเรียวตั้งแต่เมื่อไรครับ ก่อนหน้านี้ผมไม่เห็นเรียวจะพูดถึงคุณเลย”หลังจากการันต์นั่งฟังมาเทโอและพ่อตนคุยกันมาสักพัก เขาก็เริ่มหันมาคุยกับมินตราด้วยความอยากรู้ เพราะก่อนหน้าเขาคิดมาตลอดว่ามาเทโอไม่คิดคบใครจริงจัง ด้วยพอจะรู้ข่าวมาบ้างว่าชายหนุ่มเลือกที่จะใช้เงินซื้อนางแบบพริตตี้มานอนด้วยไม่ซ้ำหน้า ไม่รู้เหมือนกันว่ามินตรารู้เรื่องนี้หรือเปล่า“เอ่อ”มือเรียวรีบหันไปแตะหน้าขาของมาเทโอ ชายหนุ่มเห็นเช่นนั้นจึงกุมมือหญิงสาวเอาไว้หลวมๆ ก่อนจะเอ่ยปากตอบแทน“เป็นปีแล้ว ที่ยังไม่บอกใครเพราะอยากให้แน่ใจก่อนว่าจะใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงคนนี้จริงๆ”มาเทโอว่าจบก็หันมาทำท่ายิ้มหวานกับมินตรา หญิงสาวที่จำได้ว่าถูกกำชับให้ทำตัวเป็นคนที่รักกันมากกับชายหนุ่ม จึงใช้มืออีกข้างที่ยังว่าง ยกมือขึ้นมาหยิกแก้มของมาเทโอเล่นเบาๆ“พี่เรียวเป็นคนน่ารักกับมะลิมากๆ เลยค่ะ”“เหรอครับ ผมเคยเห็นแต่เรียวในบทโหด อยากรู้เหมือนกันนะครับว่าถ้าเรียวอยู่ในโหมดน่ารักเป็นยังไง”ภาพความน่ารักของทั้งคู่ทำการันต์และมเหศักดิ์ไม่อยากจะเชื่อสายตา แต่ก
“คุณพ่อดูไม่ค่อยโอเคนะ ที่เธอไม่ไปร่วมโต๊ะอาหารวันนี้”การันต์กลับบ้านมาได้ก็มาเอ่ยเตือนน้องสาว เพราะเขาไม่อยากให้คนเป็นพ่อมองน้องตนไม่ดี“ใครอยากจะไปเห็นหน้ายัยนั่นให้ช้ำใจล่ะคะ”คนตรงไปตรงมาอย่างกชกร สบถออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ เธอแสดงออกมาเนิ่นนานว่าพึงพอใจในตัวของมาเทโอ จนพ่อเห็นว่าทั้งสองต่างไม่มีใครจึงอยากให้หมั้นกัน แต่จู่ๆ ก็มีหนามแท่งโตมายอกอกเธอจนได้ พี่ชายเธอควรจะขอบคุณเธอด้วยซ้ำที่ไม่ไปให้เสียบรรยากาศในวันนี้ เพราะเธอคงจะพูดคุยดีๆ กับมาเทโอและว่าที่ภรรยาเขาไม่ได้“จะอะไรกับมันนักหนา ผู้ชายที่มาขายขนมจีบแกมีตั้งเยอะตั้งแยะ ดูดีมีชาติตระกูลทั้งนั้น”การันต์ส่ายหัว น้องสาวตนไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ แถมคนที่มาสนใจน้องสาวของเขาแต่ละคนก็ดูดีทั้งฐานะชาติตระกูล ไม่รู้ว่ากชกรฝังใจอะไรกับมาเทโอนักหนา“ก็เกรซไม่ได้ชอบพวกเค้านี่คะ”“ทางที่ดีตัดใจซะ ฉันบอกแกได้แค่นี้”การันต์เอ่ยเสียงแข็งกับน้องสาวจอมเอาแต่ใจ เขาเตือนเธอได้เท่านี้ ก่อนจะเดินดุ่มกลับห้องไปพักผ่อนและแล้วก็มาถึงวันที่สองสาวย้ายเข้าคอนโดใกล้ที่ทำงาน ส่วนมากจะเป็นของพอใจเสียส่วนใหญ่ที่ขนมาแล้วจะต้องจัดวางกันมือเป็นระวิง ส่วนของมิ
“ดูเธอสิ ฮ่าๆๆ”มเหศักดิ์โบกไม้โบกมือกลับไปยังมินตรา ขณะที่หญิงสาวหันมาโบกมือให้พวกเขาหน้าระรื่นหลังจากหันมาเห็นกัน ท่าทางของเธอสดใสน่าเอ็นดูไม่น้อย ท่าทีเช่นนี้ของเธอยิ่งทำให้เขานั้นเห็นภาพความสดใสของลูกสาวในวันเก่าๆ มากขึ้น“ครับ”มาเทโอยิ้มแห้งจำต้องยกมือโบกไปมาตอบกลับมินตรา ก่อนจะส่งสายตาคาดโทษให้เธอนั้นหยุดการกระทำ สาวเจ้าจึงยอมยืนนิ่งโพสท่าสง่าเช่นเดิมได้“ต้องการคนไหนคะวันนี้”ตุ๊กตาเห็นอัศวินเดินเข้ามาหาได้ เธอก็ทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างรู้งาน“คนนั้น ชุดขาว”ตุ๊กตามองไปยังคนบนเวทีที่อัศวินสนใจ เธอเริ่มหน้าเสีย เพราะนั่นมินตราเด็กเด็กของลูกพีช และเธอคงจะพามาให้อัศวินไม่ได้“เอ่อ คนนั้นไม่ใช่เด็กตุ๊กตาค่ะ น้องคนนั้นได้ไหมคะพึ่งมาเป็นนางแบบครั้งแรกเหมือนกัน”ตุ๊กตาชี้ไปทางนางแบบหน้าสวยชุดสีชมพู“ไม่ ผมต้องการคนนั้น 3เท่าจากเดิมตกลงไหม ไม่ว่าจะเป็นเด็กของใครคุณต้องดิวมาให้ได้”อัศวินส่ายหัวช้าๆ จ้องมองตุ๊กตาด้วยสายตาและท่าทีว่าเขาพอใจนางแบบชุดขาวมาก และไม่ว่ายังไงเขาก็จะต้องได้เธอคนนี้มาเป็นคู่นอนในคืนนี้“เอ่อ ไม่ได้จริงๆ ค่ะ”“ผมให้คุณต่างหาก5แสน”เมื่อถูกคะนั้นคะยอด้วยเม็ด
“นี่ลูกสะใภ้ฉัน”“อ อะไรนะครับ”อัศวินเริ่มไปไม่เป็นเมื่อได้ยินเช่นนั้น ไม่ทันที่อัศวินจะได้ตอบโต้หรือถามคำถามอะไร ปากกระบอกปืนของมเหศักดิ์ก็จ่อไปยังหัวของเขาจนต้องลุกลี้ลุกลนหนีออกไป เพราะรู้ว่ามเหศักดิ์ไม่ได้ยกปืนมาแค่ขู่แน่“ไปให้พ้นหน้าฉัน ไม่อย่างงั้นแกโดนถ่วงน้ำแน่”มเหศักดิ์กัดฟันจนขึ้นเป็นสันกราม ความโกรธในใจดั่งลาวาประทุ ที่เห็นคนในครอบครัวกลายเป็นสิ่งซื้อขายหลังจากสถานการณ์เลวร้ายผ่านไปได้ทุกคนก็เข้ามาคุยกันในห้องของมเหศักดิ์ถึงเรื่องความเป็นมาที่เกิดขึ้น มินตราที่เอาแต่เกาะอยู่กับพอใจถูกมาเทโอดึงมาโอบเอาไว้ หากปล่อยให้พ่อของเขาเห็นว่าเธอไม่เข้าหาในสถานการณ์น่ากลัวเช่นนี้คงถูกสงสัยเรื่องความสัมพันธ์แน่“มะลิถูกโมเดลลิ่งหลอกมาครับคุณพ่อ”ชายหนุ่มเอ่ยด้วยวาจาไม่ค่อยสบอารมณ์นัก หากพ่อของเขาไม่อยู่ตรงหน้า คงได้ลั่นไกใส่อัศวินไปนัดสองนัด เหมือนที่อยากจะทำกับตุ๊กตาแต่ติดว่าเธอหนีหน้าเขาไปก่อนและให้ลูกพีชมาบอกความจริงแทน“มันเป็นใคร”“ผมเห็นว่าเป็นผู้หญิงเลยให้แอลจัดการแล้วครับ เธอต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย แล้วหลังจากนั้นเธอก็จะไม่ได้อยู่ในวงการนี้อีก”“อืม พอใจหรือเปล่าหนูมะลิ”ม
มินตราค่อยๆ ขยับเปลือกตาขึ้น เธอรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างเขี่ยอยู่ที่หน้าผากของเธอ เปลือกตาเริ่มลืมได้ไม่เต็มตานักก็เริ่มหรี่ลงมุดหน้ากับอะไรบางอย่างที่ไม่ได้นุ่มนิ่มมากนัก หลบแสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านม่านเข้ามาส่องตา“จะลุกจากตัวผมได้หรือยัง”“ขอโทษค่ะ”สาวเจ้ารีบผุดลุกดีดตัวผึง เมื่อรู้ตัวว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังนอนกอดไม่ใช่ตุ๊กตา ถึงว่าหาความนิ่มไม่เจอเลย ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหันไปนอนกอดมาเทโอตั้งแต่ตอนไหน“สายแล้วเหรอคะเนี่ย”มินตราไม่ได้มีเวลาตกใจมาก เธอรีบหยิบมือถือดูเวลาได้ก็หน้าตาตื่น รีบลุกลี้ลุกลนออกจากเตียงจนมาเทโอมองท่าที่ของหญิงสาวด้วยความแปลกใจไม่รู้ว่าเธอจะรีบไปไหน“รีบอะไรขนาดนั้น”“จะรีบออกไปตลาดเช้าค่ะ”ว่าจบก็รีบปรี่ไปค้นเสื้อผ้าในกระเป๋าเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตา เตรียมตัวไปตลาดเช้า เพราะหากช้ากว่านี้จะไปไม่ทัน แล้วจะไม่ได้ของอร่อยมาไว้ต้อนรับมเหศักดิ์ตามที่ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานที่รู้ว่าพ่อของมาเทโอจะมา“คุณมะลิซื้อของที่นี่เป็นประจำเหรอคะ”พรนับพันมาช่วยมินตราจ่ายตลาด เธอเห็นว่าหญิงสาวเดินตามตรอกซอกซอยได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่คิดว่าผู้หญิงของมาเทโอจะเดินตลาดธรรมดาๆ
คนตัวเล็กหลับตาพริ้มแอ่นสะท้าน มือเรียวทั้งสองวาดจิกเกร็งอยู่กับหมอนนุ่ม ริมฝีปากบางขบเม้มไม่ยอมละ ขณะที่สามีตัวโตกำลังเล่นลิ้นอยู่กับยอดอกอิ่ม มาเทโอรู้สึกคุ้นกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวของมินตรามากเป็นพิเศษ ภาพจำครั้งที่เคยนอนร่วมรักกันอยู่บนเตียงค่อยๆ หลั่งไหลมาเป็นระยะ จนเขาต้องหยุดการกระทำฟุบใบหน้าลงกับกลางอกอิ่ม“พี่เรียวโอเคไหมคะ เราหยุดแค่นี้ดีไหม”มินตราเริ่มลืมตามองคนเป็นสามีหลังจากรับรู้ได้ว่ามาเทโอหยุดการกระทำและกำลังถอนหายใจเหนื่อยอยู่บนตัวของเธอ“ไม่”มาเทโอสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้อารมณ์ค้างคาอยู่อย่างนี้แน่ เมื่อรู้สึกดีขึ้นกิจกรรมสวาทก็เริ่มดำเนินต่อ และครั้งนี้ดูจะร้อนแรงและดิบเถื่อนอยู่พอสมควรยิ่งได้ใกล้ชิดดอมดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ได้สัมผัสผิวเนื้อเนียนนุ่มนิ่มเสมือนร่างกายของมินตราเป็นทั้งแม่เหล็กดึงดูดอารมณ์วาบหวามและเป็นทั้งเชื้อเพลิงเติมไฟสวาทให้กับเขาได้เป็นอย่างดีมาเทโอไล่ละเลงลิ้นสัมผัสร่างกายคนตัวเล็กครู่ใหญ่ก่อนจะเริ่มสอดใส่มังกรหัวโปนอัดแน่นเข้าไปในร่องสวาทแล้วเริ่มบรรเลงเพลงรักด้วยลีลาเร่าร้อน ทำสาวเจ้าหัวสั่นหัวคลอนครางเสียงหวานแทบจะตลอดทั
“ฉันซื้อตุ๊กตาหมีจริงๆ เหรอ”มาเทโอเห็นไอเซย่าเข้ามาในห้องทำงานตอนเช้าได้ก็รีบเอ่ยถามถึงเรื่องตุ๊กตาหมีทันที เพราะยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นว่าเขาจะไปคนไปซื้อของพวกนั้นด้วยตัวเอง“อืม นายรีบซื้อมาง้อคุณมะลิ ตอนนั้นฉันก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาเหมือนกัน”ไอเซย่านึกไปถึงภาพตอนนั้นเขาก็อดมีท่าทีขบขันไม่ได้“แสดงว่าฉันใส่ใจเธอมากเลยล่ะสิ”“ที่สุด”มาเทโอนึกยังไงก็นึกภาพตัวเองไม่ออกว่าตอนนั้นมีความคิดความอ่านแบบไหนถึงได้เลือกที่จะทำตัวอ่อนโยนกับผู้หญิงได้ขนาดนั้น แต่ก็ต้องละการคิดเรื่องนี้ไปก่อนเพราะเขามีอีกเรื่องที่อยากรู้มากกว่า“เออแล้วนี่ตำรวจได้เบาะแสอะไรการันต์บ้างไหม”มาเทโอเห็นว่านี่ก็ผ่านงานศพของกชกรและภาคภูมิมาพักใหญ่แล้วแต่ตำรวจก็ยังตามหาการันต์ไม่เจอเลย เขากลัวว่าการันต์ยังจะมีชีวิตอยู่และหวนกลับมาทำร้ายพวกเขาได้อีก“ไม่ ฉันหวังว่ามันจะหายสาบสูญไปในทะเล”ไอเซย่าส่ายหัวและหวังว่าการันต์จะไม่มีโอกาสจะกลัยมาใช้ชีวิตได้อีก แต่ถึงกลับมาได้เขาก็ไม่ได้คิดกลัวเพราะการันต์มีหมายจับและไม่มีอำนาจอะไรในมือแล้ว“อ่อ อีกเรื่องที่ฉันจะถามนาย”“อะไร”“ถ้าฉันไปอยู่ญี่ปุ่นกับคุณพ่อนายจะไปด้วยหรือเปล่า
“ย่าไม่อยากเห็นหลานย่าอ่อนแอแบบนี้เลยลูก”พุดกรองนั่งกอดหลานตัวเล็กด้วยสีหน้าห่อเหี่ยวหัวใจ ทั้งที่ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตามีความสุขแล้วก็ยังจะมามีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นอีกจนได้“มะลิไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ค่ะ แต่มันห้ามไม่ได้จริงๆ ค่ะ มะลิกลัวว่าพี่เรียวจะกลับมาจำมะลิไม่ได้”มินตราสะอึกสะอื้นซุกอยู่กับอกอุ่นของพุดกรอง“ย่าเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้น หมอก็บอกเองไม่ใช่เหรอลูกว่าอาการของเรียวน่าจะเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น เข้มแข็งเข้าไว้นะลูกนะ คนเราคู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอก มันอาจจะมีอุปสรรคเข้ามาบ้างถ้าผ่านไปได้ความรักของหนูกับเรียวก็จะมั่นคงขึ้น”“ค่ะคุณย่า”พุดกรองได้แต่นั่งลูบหัวทุยไล่ไปถึงหลังปลอบคนตัวเล็กที่สะอื้นตัวสั่นเทาด้วยความสงสารจับใจเวลาพ้นผ่านร่วมเดือนกว่าตอนนี้บาดแผลตามร่างกายของมาเทโอหายเป็นปกติ และกลับมาอยู่ที่บ้านได้เป็นเดือนแล้ว แต่ก็ยังไร้วี่แววการกลับมาของมินตราจนทุกคนต่างก็กังวลในความสัมพันธ์ของสองสามีภรรยาไปตามๆ กันเพราะฝ่ายภรรยาหากสามีไม่ตามกลับก็ไม่ยอมกลับ ส่วนคนเป็นสามีก็ปล่อยเอ้อระเหยเพราะจำภรรยาตัวเองไม่ได้เลยไม่ชินที่จะอยู่ด้วยกันและไม่คิดจะตามภรรยาตัว
“พี่เรียว ฮือๆๆ”“คุณมะลิ”มินตราเข่าทรุดจนพรนับพันต้องรีบรวบมานั่งที่เก้าอี้ หญิงสาวเริ่มสะอื้นตัวโยนเมื่อรับรู้ความจริงว่ามาเทโออาการหนักและหมอกำลังช่วยชีวิตอยู่ในห้องผ่าตัด“ทำไมคะ ทำไม ฮือๆๆ”มินตราแทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรง เธอตัวอ่อนปวกเปียกยิ่งรู้ว่ามาเทโอเป็นแบบนี้ก็เพราะมุ่งมั่นที่จะตามหาเธอก็ยิ่งรู้สึกแย่ ทั้งที่ได้กลับมาเจอกันแท้ๆ แต่กลับต้องมาเกิดเรื่องร้ายแบบนี้ขึ้น ตอนนี้โชคชะตากำลังเล่นตลกอะไรกับชีวิตของเธอกันแน่“เมื่อไรพี่เรียวจะตื่นมาคุยกับมะลิคะ มะลิมีเรื่องจะคุยกับพี่เรียวตั้งเยอะเลย คุณพ่อเล่าให้มะลิฟังว่าตอนเด็กๆ พี่เรียวชอบหนีไปแอบบนต้นไม้ให้คุณพ่อตามหาเป็นว่าเล่น พี่เรียวดื้อเหมือนกันนะคะ พี่เรียวจำได้ไหมว่าเราจะไปพักผ่อนกันที่บ้านสวนของคุณย่ารีบๆ ตื่นมานะคะตอนนี้ผลไม้ที่สวนกำลังออกผลเยอะเลย เราจะได้ไปทานผลไม้สดๆ จากต้นเลยดีไหมคะ”ร่วมครึ่งเดือนแล้วที่มินตรามานั่งคุยกับสามีที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงไม่มีเว้นว่าง หลังจากการผ่าตัดหมอบอกให้เธอสบายใจได้ว่าสามีของเธอยังไงก็ฟื้นคืนกลับมาเป็นคนปกติได้แน่นอน แต่เธอก็ยังไม่เป็นว่าเขาจะลืมตาตื่นหรือรู้สึกตัวบ้างเลย“เฮ้อ”สาวเ
“โลกกลมเหมือนกันนะคะ มันเป็นเรื่องบังเอิญมากๆ ที่มะลิได้มาแต่งงานกับเรียว”มารตีออกมานั่งคุยกับตฤณภพที่หน้าบ้านกลางดึกหลังจากที่ลูกๆ ของพวกเธอหลับกันไปแล้ว“ฟ้าคงลิขิตมาแล้ว พี่ดีใจที่ลูกเราได้เรียวมาดูแล”“ม่านก็เหมือนกันค่ะ ม่านอยากให้ถึงเวลาที่เราได้กลับบ้านแย่แล้วค่ะ”“พี่ก็อยากกลับไปเห็นที่ที่เคยอยู่เหมือนกันว่าตอนนี้มีอะไรที่เปลี่ยนไปแล้วบ้าง อีกอย่างมินทร์จะได้เข้าเรียนมหาลัยด้วย”ตฤณภพผ่านอะไรมาจนถึงตอนนี้ก็เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างฟ้าได้กำหนดมาแล้ว แม้จะผ่านเรื่องราวร้ายๆ มามากมายแต่เขาก็ลืมมันไปได้เพราะคิดว่าต่อจากนี้คงจะมีแต่ความสุข“เราจะบอกกับพวกเค้าเลยไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น”เคนชิกระซิบถามไอเซย่าขณะที่กำลังล่องเรือไปยังเกาะพร้อมกับเจ้าหน้าที่ที่ชำนาญการภาคพื้นทะเลแห่งนี้“ให้พวกเค้ากลับไปถึงกรุงเทพก่อนจะดีกว่า”ไอเซย่าไม่อยากให้มินตราได้รับรู้จนกว่าจะกลับถึงกรุงเทพ เพราะหากรู้ว่าอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุของมาเทโอเป็นตายเท่ากันทุกคนคงใจเสียกันนานแน่ ให้ไปรับรู้ด้วยตัวเองที่โรงพยาบาลเลยจะดีกว่า“ยินดีที่ได้เจอนะครับคุณภพคุณม่าน ผมแอลแล้วนี่ก็เคนชิ ผมเป็นคนสนิทของคุณเรียวครับ
“หนูจ้ะ”มารตีพอจะยกยิ้มออกเพราะหญิงสาวที่ลูกชายเธอช่วยเอาไว้เมื่ออาทิตย์ก่อนเริ่มรู้สึกตัวแล้ว“โอ้ย”มินตราพยายามลุกขึ้นแต่ก็รู้สึกปวดหัวและอ่อนเพลียเหลือเกิน“อย่าเพิ่งลุกจะ ตอนนี้หนูมีแผลที่หัวอยู่อาจจะปวดๆ นิดหน่อยนะ พี่ภพคะหนูคนนี้ตื่นแล้วค่ะ”“เหรอ”ตฤณภพรีบเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกะละมังน้ำและผ้าขนหนู เพราะจะได้เวลาที่ภรรยาของเขาต้องเช็ดตัวให้หญิงสาวที่บาดเจ็บ“เป็นยังไงบ้างหนู แล้วเป็นยังไงมายังไงถึงได้ตกน้ำตกท่ามาได้ ดีที่ลูกชายลุงเห็นหนูลอยอยู่ใกล้ฝั่งเลยช่วยเอาไว้ได้”มินตรามองจ้องผู้ใหญ่ทั้งสองสลับกันไปมา ก่อนจะมีน้ำตารื้นสะอื้นตัวสั่นเทา คนทั้งสองตรงหน้าเธอตอนนี้แม้พวกเขาจะดูมีอายุมากกว่าในภาพที่เธอเคยเห็น แต่ก็จำได้ว่าพวกเขาคือพ่อกับแม่ของเธอไม่ผิดไปจากที่คิดแน่“เป็นอะไรไปจ้ะ”มารตีมองอาการของหญิงสาวด้วยสีหน้าเป็นห่วง“คุณพ่อคุณแม่คะ มะลิเองค่ะ คุณพ่อคุณแม่ฝากมะลิไว้กับคุณย่าพุดกรองจำได้ใช่ไหมคะ”“อ อะไรนะ”คำพูดปนเสียงสะอื้นของหญิงสาวที่นอนเจ็บทำมารตีและตฤณภพตัวชาวาบ ทั้งสองจ้องหน้ากันโดยที่ไม่มีคำพูดใดๆ เอื้อนเอ่ยออกมาจากปาก มีเพียงน้ำตาที่ทะลักออกมาพรั่งพรูบ่งบอกถึง
“ทำไมการันต์ถึงได้ไหวตัวเร็วขนาดนั้น ทั้งที่เราเองก็เพิ่งจะรู้เรื่องไม่ถึงวัน”ขึ้นรถได้ไอเซย่าก็หันมาคุยกับมาเทโอด้วยความฉงนใจ“ภาคภูมิ”เป็นมเหศักดิ์ที่ให้ความกระจ่างกับสองหนุ่ม หากเขาไม่ไว้ใจคนอื่นมากเกินไปคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มาเทโอได้ยินเช่นนั้นก็เอาแต่นั่งเงียบลำดับเหตุการณ์เท่าที่สังเกตมาก็คิดว่ามเหศักดิ์น่าจะเดาอะไรไม่ผิด เพราะครั้งที่มารตีและตฤณภพหายตัวไปเขาก็เห็นการันต์และภาคภูมิสุงสิงกันอยู่บ่อยๆ ทั้งที่งานก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน และหากครั้งนี้ภรรยาของเขาจะต้องเป็นอะไรไปเขาไม่เอาคนพวกนั้นไว้แน่“พาฉันมาทำอะไรที่นี่”มินตราถูกกชกรลากออกมาจากรถตู้มานั่งที่ริมหน้าผาสูง ตอนนี้ฟ้ามืดครึ้มไร้ดวงดาวมีเพียงแสงไฟจากหน้ารถตู้คันที่พาเธอมาเท่านั้น มินตรามองซ้ายมองขวาแอบมีแววตาไหวระริก หัวใจเต้นถี่รัวเพราะความกลัวคืบคลานเข้ามาในใจมากพอสมควร“รอตาแกมาเซ็นยกทุกอย่างให้ฉันไง”“พวกคุณใช่ไหมที่เป็นคนตามฆ่าพ่อกับแม่ฉัน”“ฉลาดนี่ เห็นตรงนั้นไหม พี่ฉันฆ่าพ่อแม่แกแล้วโยนลงน้ำไปตรงนั้น อยากไปอยู่กับพวกมันไหมล่ะ เดี๋ยวถ้าตาแกเซ็นทุกอย่างให้พวกฉันแล้วจะช่วยสงเคราะห์ให้”แม้ตอนนั้นกชกรจะยังเป็นเ
“คุณย่าไปคุยอะไรกับคุณเหมนานสองนานคะ ดูทั้งสองคนท่าทางไม่ดีเลยนะคะ”พอใจชะเง้อมองมเหศักดิ์และย่าของเธอผ่านหน้าต่างแทบจะตลอดเวลา แถมตอนนี้สองคนนั้นยังมีน้ำตากันทั้งคู่จนเธอต้องหันมาถามหาความเห็นจากคนเป็นแม่“อีกเดี๋ยวคงได้รู้เรื่องกันเองนั่นแหละ”ไพลินหันไปมองมินตราที่นั่งกอดกับมาเทโอไม่ยอมปล่อย ใบหน้าของลูกสาวคนเล็กเต็มไปด้วยคราบน้ำตาจนน่าสงสาร เธอไม่รู้เลยว่าหากมเหศักดิ์ได้รู้ว่ามินตราเป็นหลานแท้ๆ ของตัวเองจะยินดีที่จะรับมินตราเป็นคนในครอบครัวหรือจะจองล้างจองผลาญเหมือนกับตอนที่ทำกับมารตีและตฤณภพ ได้แต่ภาวนาในใจขอคุณพระคุณเจ้าว่าอย่างให้มีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นอีกเลยพุดกรองคุยกับมเหศักดิ์ได้พักใหญ่ก็พากันกลับเจ้ามาในบ้าน ทั้งสองมีคราบน้ำตากันทั้งคู่จนคนที่นั่งอยู่ด้านในต่างก็มีสีหน้าตกอกตกใจไปตามๆ กัน“มาหาตาของเราสิมะลิ”“คะ? “มินตรามองหน้ามาเทโอขณะเดียวกันกับเขาก็จับจ้องมาที่หน้าเธอด้วยความสังสัยเหมือนกัน ก่อนที่มินตราจะผละออกจากอกมาเทโอเดินเข้ามาหาพุดกรอง“คุณเหมเป็นพ่อแท้ๆ ของของมารตีแม่ของเรายังไงล่ะ”พุดกรองเข้ามาจับไหล่หลานสาวเอาไว้หลวมๆ ก่อนจะเปรยยิ้มและบอกความจริงให้มินตราไ
“พี่คุยกับคุณแม่แล้วก็คุณย่าแล้วนะ ตอนแรกก็เหมือนจะโกรธแต่พวกท่านบอกว่าถ้ารักกันจริงก็ให้ทางคุณเรียวพาผู้ใหญ่ไปบอกกล่าวสู่ขอให้เป็นเรื่องเป็นราว”พอใจรีบเข้ามาหามินตราหลังจากจัดการเจรจาเกริ่นกับทางย่าและแม่ของเธอเรื่องการแต่งงานของมินตรา กว่าจะคุยกันให้เข้าใจได้เล่นเอาสมองของเธอแทบจะไหลออกมาจากหู เพราะต้องสรรหาคำพูดชักแม่น้ำทั้งห้ามาให้แม่และย่าเธอหายเคืองใจมินตรา กว่าจะคุยกันจบปาไปเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงอยู่เหมือนกัน“ขอบคุณพี่พอใจมากๆ เลยนะคะ”มินตราสวมกอดพอใจแน่น น้ำแทบรื้นเพราะความกังวลในใจหายไปก้อนใหญ่หลังจากที่รู้ว่าย่ากับแม่ไม่คิดโกรธเรื่องที่เธอแต่งงานโดยที่ไม่บอกไม่กล่าวแล้ว“หลังจากนี้จะได้หมดเรื่องอึดอัดใจสักที”พอใจรู้ว่าความฝันของน้องสาวคือการมีครอบครัวที่สมบูรณ์ เพื่อความสุขของมินตราเธอพร้อมจะช่วยเหลืออย่างไม่มีข้อแม้อยู่แล้ว ตอบแทนที่มินตราเลือกที่จะช่วยเหลือเธออย่างไม่มีข้อแม้เหมือนกันและแล้ววันนี้มินตราและมาเทโอก็ได้เดินทางมาที่บ้านสวนของพุดกรองที่จันทบุรี ส่วนไพลินและพอใจเดินทางล่วงหน้ามาตั้งแต่เมื่อวานแล้วเพื่อมาเตรียมตัวรับแขกผู้ใหญ่ฝ่ายมาเทโอกันในวันนี้“ผมต้องขอโท