ฮันนีมูนที่แปลว่าดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์หลังจากงานแต่งงานที่ขอนแก่นผ่านพ้นไป ตามด้วยงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสอย่างเลิศหรูอลังการสมกับที่เป็นทายาทนักธุรกิจใหญ่อันดับต้นๆของเมืองไทย จัดขึ้นที่โรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพมหานคร จากนั้นฉันกับคุณธามก็ได้ย้ายสำมโนครัว จากคอนโดหรูของคุณธามสู่คฤหาสต์หลังใหญ่ แต่ก็ยังทิ้งเสื้อผ้าไว้บางส่วนเผื่อว่าจะแอบมาหวานกันสองคนในบางโอกาส แล้วยังมีคอนโดนอีกแห่งที่ได้จากคุณนัท ห้องนั้นตั้งใจเอาไว้ให้น้ำมนต์เผื่อเขามาเรียนกรุงเทพฯ แต่ระยะนี้ถ้าวันไหนอยากหวานเราก็แอบไปดูผืนน้ำเกลียวคลื่นเมื่อเรือด่วนเจ้าพระยาแล่นผ่านไปผ่านมา และไฟสวยๆของสะพานพระรามแปดยามค่ำคืนกันสามคนพ่อแม่ลูก หนึ่งเดือนต่อมาพรุ่งนี้ฉันก็จะได้ไปเที่ยวครั้งแรกในชีวิตที่ได้ไปเมืองนอก ฉันตื่นเต้นมากนอนไม่หลับมาหลายคืน คุณธามกับฉันก็ลุยงานเคลียร์คิวเพื่อเตรียมตัวไปฮันนีมูนกันที่มัลดิฟส์ เกาะที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยของน้ำทะเลหาดทรายขาวสะอาด พอถึงตอนนี้ก็ไปมันทั้งที่ท้องโย้นี่ล่ะ ตอนนี้อายุครรภ์ก็ห้าเดือนแล้วถือว่าได้พาลูกไปเที่ยวในตัว"ลูกสาวคะเราจะได้ไปเที่ยวกันแล้วนะ" คุณธามลูบไล้หน้าท้องนูนหลังจากจบกิ
หลานปู่หลานตาหลานยายคฤหาสถ์ของคุณปู่หลังกลับจากทริปมัลดิฟส์ ฉันกับคุณธามก็วนมาลูบเดิมคือทำงานเพิ่มเติมคือความหวานที่หมั่นเติมให้กันทุกวัน ที่เตียงนุ่มฉันกำลังไถสมาร์ทโฟนดูคอมเม้นท์ในอินสตาแกรมหลังจากที่ได้ลงรูปทริปมัลดีฟส์ไปหมาดๆ ก็จะมีเพื่อนน้ำของฉันที่เข้ามาคอมเม้นท์ทันที"อยากเห็นหน้าหลานแล้ว" น้ำฝนฉันรีบตอบคอมเม้นท์นั้นไปว่า "คิดถึง" แล้วส่งรูปหัวใจไปหนึ่งดวงส่วนFCที่รักกันแน่นหนึบเหนียวแน่นก็ไม่ทิ้งไม่หนีหายไปไหน เข้ามากดหัวใจเข้ามาคอมเม้นท์กันสนุกสนาน"ลูกได้เวลาฟังเพลงก่อนนอนแล้วที่รัก" คุณธามที่ออกมาจากห้องน้ำก็เดินตรงมาที่เตียงแล้วหยิบสมาร์ทโฟนของเขาติดมือมาปิดไฟห้องนอนเหลือเพียงไฟหัวเตียงสีเหลืองนวล แล้วคุณธามก็เข้ายูทูปเปิดเพลงโมสาร์ทเปียโนอันไพเราะให้ลูกสาวตัวน้อยในท้องฟัง ส่วนฉันก็เคลิ้มเคลิ้มไปกับเสียงเปียโนแผ่วเบา "แม่นอนก่อนนะลูก" ฉันบอกลูกแล้วปิดตาลงคุณธามก็สอดมือเข้ามาโอบฉันเช่นเคยโดยไม่ลืม Good night kiss ก่อนนอนเป็นประจำทุกวัน"รักนะคะที่รัก" สามเดือนผ่านไปตอนนี้ฉันใกล้จะเก้าเดือนแล้วก็ได้แต่พักผ่อนอยู่กับบ้าน ช่วงนี้อยู่ในช่วงลาคลอด คุณธามออกไปทำงานแต่เช้า
จุดเริ่มต้นของคนคลั่งรักธามนิธิที่ทำแต่งานใช่ว่าเขาไม่เคยมีความรักเสียเมื่อไหร่ แต่มันนานเสียจนลืมไปแล้วว่าเนื้อสาวมันนุ่มขนาดไหน จนได้พบกับนักศึกษาฝึกงานที่เจอกันแวบแรกในลิฟท์ก็ทำเอาเขาใจสั่น แต่ต้องเก็บอาการไว้สุดฤทธิ์ต้องรักษามาตรฐานท่านรองประธานไว้ให้มั่น"คุณเก็บของแล้วตามผมมา" นั่นแหละคือเสียงที่เขาตั้งใจให้มันดุมันเข้มเพื่อปกปิดส่วนลึกในใจ ความใกล้ชิดในหลายวันทำให้เขารู้ดีอยู่แก่ใจว่า ไม่อาจปล่อยมือจากสาวน้อยที่สดใส มีลักยิ้มทรงเสน่ห์และผมม้านั่นอีก รวมๆแล้ว เขาอาจจะบ้ารักหรือคลั่งรักไม่ได้หลับได้นอนอยากมาทำงานแต่เช้าทุกวัน เพื่อให้ได้พบหน้าได้ใกล้ชิดนิดหน่อยก็ยังดี หากได้ติดสอยห้อยตามไปทุกที่ เขาจะบริการทุกระดับให้ประทับใจเปย์ได้เขาก็จะเปย์ ในวันนั้นที่หญิงสาวแกล้งเขาโดยจงใจวางมือน้อยๆ บนหน้าขาของเขา จนสะดุ้งสุดตัวรีบขยับขาหนีนี่เธอไม่รู้จริงๆใช่ไหมว่าผู้ชายเขาถือแต่เธอก็รีบหดมือกลับทำเหมือนไม่ได้ตั้งใจแล้วพูดว่า "ขอโทษค่ะ"พูดแล้วยังแกล้งแอ๊บใสซื่อหดมือกลับอีก ไม่รู้อะไรใช่ไหมว่าปลุกเสือให้ตื่นแล้ววิ่งหนีกลับมันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกแม่สาวน้อยหน้าม้า มาให้พี่กินซะดีๆแล้
สวมบทนักศึกษาฝึกงาน"สายแล้ว สายแล้ว" ฉันยกข้อมือซ้ายดูเวลาอีกครั้งพอลงจากรถเมล์ได้ก็ใส่เกียร์หมาวิ่งแบบไม่คิดชีวิตแฮ่ก! แฮ่ก!แฮ่ก! วิ่งหอบจนลิ้นห้อย แต่ใจสู้สุดชีวิตมองหาจุดหมายอยู่ที่ลิฟต์"รอด้วยค่า รอด้วยค่า..."ฉันใช้พลังเสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทางทำให้ลิฟต์เปิดออกในทันที รีบยื่นขาขาวๆเข้าไปในลิฟต์โดยไม่ลืมขอบคุณผู้มีพระคุณในเช้านี้ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร ฉันจึงพนมมือไหว้รอบทิศทางทั่วทุกคนได้รับอานิสงส์ไปพร้อมกัน แล้วพ่นลมหายใจหอมสดชื่่นออกมาจนผมหน้ามาปลิวไสว พรืด..."ขอบคุณค่ะ..." นิ้วเรียวกดปุ่มลูกศรขึ้นทันทีมองดูที่ตัวเลข 5 แสดงว่ามีคนขึ้นไปชั้นเดียวกัน คราวนี้ลิฟต์ปิดอีกครั้งทุกคนอยู่ในความสงบ มีสายตาหลายคู่แอบเหล่มองมาที่ฉันแล้วเลื่อนสายตาไปที่บัตรพื้นสีฟ้าตัวหนังสือสีดำที่คล้องคออยู่นักศึกษาฝึกงานที่มีทั้งชื่อจริงและชื่อเล่นพร้อมรูปแบบเก๋ไก๋ของฉันแล้วอมยิ้มเอ็นดูในความน่ารักสร้างสีสันเล็กๆ แหละ...ฉันไม่รู้ว่ามะโนไปเองหรือเปล่า ว่าหลายคนแอบอิจฉาในความขาวใส ผิวขาวอมชมพูเห็นเลือดฝาดดูมีสุขภาพดีที่ฉันได้มาจากว่านหางจรเข้ จากกระถางหลังห้องที่ใส่ปุ๋ยรดน้ำเอาใจใส่อย่างกับลูกในอ
ท่านรองประธาน"เก็บของแล้วตามผมมา" เขาหันมาสั่งแล้วเดินกลับห้องโดยไม่หันมามองฉัน จนพี่อรขยับเข้ามาถามอย่างใคร่รู้"น้ำขิงจะไปไหนเหรอ?""ไปทำงานกับท่านรองฯค่ะ"ฉันทำสีหน้าบอกบุญไม่รับ บุ้ยใบ้ไปตามทางเดินนั้นที่ห้องอีกห้องที่เดินผ่านมาเมื่อเช้า"ว้า! แย่จัง ต่อไปพี่คงเหงาเเย่เลย""คราวนี้ไม่มีคนช่วยงานพี่แล้ว" พี่อรทำสีหน้าเสียดาย ส่วนฉันเก็บของไปก็คุยไป อันที่จริงสมบัติฉันก็ไม่มีอะไรมากแค่โน๊ตบุ๊คหนึ่งตัวกับกระเป๋าสะพายใบเล็กและอุปกรณ์สำนักงานอีกนิดหน่อยปากกาสองสามด้าม"ตื๊ด...ตื๊ด...ตื๊ด” โทรศัพท์สายในดังขึ้น พี่อรสบตากับฉันแล้วเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์มาแนบหู"สวัสดีค่ะ""ค่ะ...ค่ะ...ได้ค่ะ" พี่อรฟังเสียงจากปลายสายกรอกตาไปมาสองสามครั้งทำหน้าที่เป็นผู้ฟังที่ดีแล้ววางสาย"เร็วเข้า น้ำขิง คุณธามเรียกแล้ว"ทีนี้สิ่งของทั้งหมดของฉันถูกรวบมาไว้ในอ้อมแขนแล้วรีบเดินจ้ำอ้าวทันที ห้องท่านรองฯอยู่ก่อนห้องท่านประธานหนึ่งห้อง นับจากลิฟต์ทางเข้าฉันเดินย้อนขึ้นสิบก้าวก็ถึงแต่หน้าห้องกลับไม่มีโต๊ะตั้งไว้หน้าห้องสักตัว ซึ่งแปลว่าฉันต้องเข้าไปด้านใน ฉันจึงเคาะประตูห้องแล้วผลักเข้าไป"ขออนุญาตค่ะ" เสียง
เรียกว่าคุณธามในที่สุดฉันก็อยู่ในรถปอร์เช่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแรงและเร็วโดยมีท่านรองฯเป็นคนขับ ฉันนั่งหลังพิงเบาะตัวตรงด้วยความเกร็งภายในรถไม่มีการพูดคุยใดๆทุกอย่างเงียบสงบ ในที่สุดเขาเป็นฝ่ายทนไม่ไหวทำลายความเงียบด้วยการเปิดเพลง จนฉันเคลิ้มกำลังจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ แต่แล้วเมื่อได้ยินเสียงเพลงวิญญาณของดีเจ ก็มาสะกิดให้คิดถึงงานของคืนนี้"ตายละวาคืนนี้มีงาน"พอนึกถึงคืนนี้ฉันแทบไม่มีเวลาเตรียมตัว ภาวนาขอให้กลับไปทันผับเปิดเป็นพอ เพลงที่เคยเตรียมไว้มีหลายแทร็คให้ใช้งานได้เมื่อยามคับขัน การเดินทางจากกรุงเทพฯถึงนครปฐมกินเวลากว่า 2 ชั่วโมงคิดคำนวณแล้วน่าจะเฉียดฉิว @ โรงงานฉันถือกระเป๋าเอกสารและโน๊ตบุ๊คของท่านรองฯ เดินตามเข้าไปในออฟฟิศของโรงงาน ตื่นตาตื่นใจกับทัศนียภาพโดยรอบ เมื่อเข้าไปในออฟฟิศฉันยกมือไหว้ทุกผู้ทุกคนไปตลอดทาง ตั้งแต่ปากประตูจนถึงด้านใน"สวัสดีค่า""สมัยหน้าคุณจะลงสมัครสส.เหรอ?"ดูเขาพูดเข้าสิฟังได้ที่ไหน ฉันหุบยิ้มทันทีแกล้งทำสีหน้าเศร้าสลดเดินตาม ท่านรองฯอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อยขึ้นทันตาเห็นคนอะไรชอบดับฝันคนอื่น...ชิ คุณธนัทก็ไม่เห็นจะเป็นแบบนี้อดีตดาวมหาวิทยาลัยอย
สายตี๊ดเซ็กซี่ขยี้ใจ"ต่อไปให้เรียกคุณธามก็พอ” ฉันยิ้มกว้าง"ได้ค่ะ คุณธาม" ครืด...ครืด สมาร์ทโฟนของฉันสั่นอีกแล้วต้องเป็นไอ้กอล์ฟแน่ๆ"กอล์ฟ""เพื่อนโทรมาแล้วค่ะ”ฉันรับสายแล้วรีบรวบรวมกระเป๋าใบเล็กใบน้อยเตรียมพร้อมจะลงรถ ฉันมองไปทางท่านรองฯเห็นเขาทำทีไม่สนใจแต่แอบตะแคงข้างมาทางฉันแบบเนียนๆ"ฮัลโหล""แกอยู่ไหนวะน้ำขิง""อยู่หน้าเซเว่น""เออ ทำไมไม่เห็นมีเลยวะ""อยู่บนรถ เดี๋ยวไป"ฉันวางสายจากกอล์ฟ กวาดตามองหาโดยรอบเห็นรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่จอดอยู่ ไอ้กอล์ฟลงจากรถแล้วมองหาฉันเหมือนกันท่านรองฯก็มองตามสายตาฉันในทันที เขาพยักหน้าแล้วชี้ไปที่เพื่อนฉัน "นั่นใช่ไหม?เพื่อนคุณ""ใช่ค่ะ น้ำขิงไปก่อนนะคะ""นั่งรถดีๆล่ะ" อื้อ...เขาเป็นห่วงฉันด้วย เขานี่นะจะห่วงฉัน"ค่ะคุณธาม"ฉันเหลือบมองเขาอีกครั้งอยากจะโบกมือบ๊าย...บายก็ไม่กล้า จึงยกมือไหว้อย่างนอบน้อมแล้วลงจากรถทันทีไอ้กอล์ฟเพื่อนฉันถึงกับตาค้าง นักศึกษาสาวสวยลงจากรถของใครก็ไม่รู้และคนขับมันก็ไม่เคยเห็นดูสายตามันสิ...มันมองฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ เดินตรงมาหาคว้ากระเป๋าไปจากมือแล้วเอาไปสะพาย วาดขายาวๆของมันคร่อมรถทันทีเตะขาตั้งแล้วส
อย่ามาเล่นกับไฟ"อะไรวะแค่นี้เหงื่อแตกเลยคุณธาม"สายตาคมหาได้สนใจเพื่อนเขาแต่อย่างใด เขายังให้ความสนใจกับท่วงท่าและลีลานั้นไม่วางตากระดกแก้วเหล้าราคาแพงรวดเดียวหมดแก้วให้แอลกอฮอล์ช่วยละกัน...ธามนิธิ"เติมเหล้าให้เพื่อนพี่หน่อยน้องฟ้า" กรณ์หันมาสั่งสาวสวยที่คอยให้บริการชงเหล้าสำหรับวันนี้"ได้ค่ะ..." จากนั้นแก้วเหล้าราคาแพงถูกยื่นให้เขาในทันที"เออๆชงมา"ธามนิธิตอนนี้เขาได้กลับจากธุดงค์เป็นที่เรียบร้อย แล้วชายหนุ่มพอใจกับรสชาตินุ่มนวลของเหล้าราคาแพงที่ไม่ได้ดื่มมานานหลายปี เขาเอนหลังพิงโซฟาสายตาจับจ้องที่หญิงสาวจนเพลินตา สะโพกกลมกลึงกับช่วงขาเรียวยาวดูมีเสน่ห์กว่าชุดนักศึกษาที่สวมใส่อยู่ทุกวันหญิงสาวเล่นต่อไปอีกสักพักก็หมดเวลาของดีเจน้ำขิง กำลังลงจากสเตทถูกผู้จัดการเรียกไว้ "น้ำขิง คุณโน๊ตเรียกแน่ะ" ผู้จัดการร้านบุ้ยใบ้ไปที่ห้องVipโต๊ะของสามหนุ่ม"ได้ค่ะ เดี๋ยวน้ำขิงขอเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ""ได้จ้า แล้วอย่าลืมไปนะ""ค่ะ พี่อุ้ม” ฉันรับคำแล้วเข้าห้องน้ำทันที แม้ว่ากอล์ฟเพื่อนฉันจะมารอดักคุยด้วยก็ตาม "เออ...เดี๋ยวมา"ฉันหายเข้าไปในห้องน้ำแล้วออกมาพร้อมกับความสดชื่น ซึ่งกอล์ฟมันก็มารอดั