ท่านรองประธาน
"เก็บของแล้วตามผมมา" เขาหันมาสั่งแล้วเดินกลับห้องโดยไม่หันมามองฉัน จนพี่อรขยับเข้ามาถามอย่างใคร่รู้
"น้ำขิงจะไปไหนเหรอ?"
"ไปทำงานกับท่านรองฯค่ะ"
ฉันทำสีหน้าบอกบุญไม่รับ บุ้ยใบ้ไปตามทางเดินนั้นที่ห้องอีกห้องที่เดินผ่านมาเมื่อเช้า
"ว้า! แย่จัง ต่อไปพี่คงเหงาเเย่เลย"
"คราวนี้ไม่มีคนช่วยงานพี่แล้ว" พี่อรทำสีหน้าเสียดาย ส่วนฉันเก็บของไปก็คุยไป อันที่จริงสมบัติฉันก็ไม่มีอะไรมากแค่โน๊ตบุ๊คหนึ่งตัวกับกระเป๋าสะพายใบเล็กและอุปกรณ์สำนักงานอีกนิดหน่อยปากกาสองสามด้าม
"ตื๊ด...ตื๊ด...ตื๊ด” โทรศัพท์สายในดังขึ้น
พี่อรสบตากับฉันแล้วเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์มาแนบหู
"สวัสดีค่ะ"
"ค่ะ...ค่ะ...ได้ค่ะ" พี่อรฟังเสียงจากปลายสายกรอกตาไปมาสองสามครั้งทำหน้าที่เป็นผู้ฟังที่ดีแล้ววางสาย
"เร็วเข้า น้ำขิง คุณธามเรียกแล้ว"
ทีนี้สิ่งของทั้งหมดของฉันถูกรวบมาไว้ในอ้อมแขนแล้วรีบเดินจ้ำอ้าวทันที ห้องท่านรองฯอยู่ก่อนห้องท่านประธานหนึ่งห้อง นับจากลิฟต์ทางเข้า
ฉันเดินย้อนขึ้นสิบก้าวก็ถึงแต่หน้าห้องกลับไม่มีโต๊ะตั้งไว้หน้าห้องสักตัว ซึ่งแปลว่าฉันต้องเข้าไปด้านใน ฉันจึงเคาะประตูห้องแล้วผลักเข้าไป
"ขออนุญาตค่ะ" เสียงของฉันมักไปก่อนตัวเสมอ
"เชิญครับ...นี่โต๊ะของคุณ"
เมื่อก้าวเข้าห้องทำงานของท่านรองฯ ด้านในมีโต๊ะสำนักงานใหม่เอี่ยมตั้งไว้หนึ่งตัวซึ่งโต๊ะของฉันอยู่ทางขวามือเมื่อเปิดประตูเข้าด้านใน จัดโต๊ะเสร็จแล้วฉันเหลือบมองท่านรองฯที่สนใจกับเอกสารมากมายที่กองอยู่บนโต๊ะ เขามองมาทางฉันพอดีทำให้เราสบตากันด้วยความบังเอิญ
"คุณน้ำขิง"
"ค๊ะ..." ฉันลุกจากเก้าอี้แล้วเดินตรงไปหาเขาทันที
เขายื่นแฟ้มที่เขาเปิดดูเมื่อสักครู่ทั้งหมดให้ฉัน
"คุณช่วยเอาไปอ่านแล้วสรุปให้ผมที"
"ผมขี้เกียจอ่าน"
อย่างนี้ก็ได้ด้วย...
"ได้ค่ะ..."
คิดว่าฉันโดนรับน้องแล้วล่ะ จึงรับแฟ้มทั้งหมดมาไว้ในอ้อมแขนแล้วหอบมาวางที่โต๊ะทำปากขมุบขมิบ
"จะแกล้งกันหรือไง"
จากนั้นฉันสุ่มหยิบแฟ้มอันที่หนึ่งเปิดอ่านทีละหน้าอย่างตั้งใจ ความรู้สึกเหมือนกับตอนเรียนเป๊ะ!
อ่านแล้วเลคเชอร์โน๊ตย่อให้พอเข้าใจ
ส่วนท่านรองฯนั้นเขาเอาแต่นั่งไถสมาร์ทโฟนสบายใจเฉิบ
"ชิ...ถือว่าเป็นเจ้านายนั่งสบายเลย" ฉันนั่งพึมพำอยู่คนเดียวหวังว่าเขาคงไม่รู้ว่าฉันนินทา
ครืด...ครืด สมาร์ทโฟนของฉันสั่นครืดคราดจึงรีบปัดหน้าจอทันที แอบชำเลืองมองเขาก็เห็นเขาเหลือบตามองมาเหมือนกัน
"ฮัลโหล เจ๊"
"คุยได้ไหม?" เจ๊ก็ยังอุตส่าห์จะถามอีกเนอะ ฉันรีบป้องปากกระซิบกระซาบก่อนจะโดนท่านรองฯเด้งออกนอกห้อง
"ไม่ค่อยสะดวกค่ะ คุยในไลน์ดีกว่าค่ะ"
"อะเคร..." เสียงอีเจ๊รับคำแล้ววางสายไป
โน๊ตบุ๊คของฉันเชื่อมต่อไลน์ไว้เพื่อความสะดวกในการสื่อสาร และส่งไลน์ติดต่องานได้สะดวกรวดเร็ว จากนั้นไลน์เจ๊ท๊อฟฟี่ก็เด้งมาทันที
เจ๊ท๊อฟฟี่: พี่มีงานให้ช่วยหน่อยวันเสาร์บ่าย
น้ำขิง: งานอะไรคะ
เจ๊ท๊อฟฟี่: เดินแบบชุดว่ายน้ำ
น้ำขิง: โป๊หรือเปล่าคะ
เจ๊ท๊อฟฟี่: ไม่โป๊หรอกสไตล์สาวสปอร์ตี้
น้ำขิง: มีตัวอย่างชุดมาให้ดูไหมคะ
เจ๊ท๊อฟฟี่: เดี๋ยวพี่ส่งไปให้ดู ของน้ำขิงจะเป็นเซ็ทวันพีชสวยๆ
น้ำขิง: ขอดูก่อนนะคะว่าโอเคไหม
เจ๊ท๊อฟฟี่เป็นเอเจนซี่รายใหญ่ของวงการพริตตี้ ผู้มีพระคุณกับฉัน
ที่ฉันเรียนจนใกล้จบได้ก็เพราะเจ๊แก จรรยาบรรณของเจ๊เขาค่อนข้างดีเสมอต้นเสมอปลายจนฉันยกให้เป็นผู้จัดการส่วนตัว สกรีนงานทั้งหมดด้วยความไว้วางใจ
เจ๊ท๊อฟฟี่: ว่าไงยะ? โอเคไหม
น้ำขิง: โอเคค่ะ
ฉันดูตัวอย่างชุดแล้วไม่โป๊เกินไป คอนเซ็ปต์ของเซ็ทนี้เป็นชุดว่ายน้ำแนวสปอร์ตดูแล้วเท่ห์ซะมากกว่าเซ็กซี่ การรับงานแต่ละครั้งฉันบอกเจ๊แกเสมอว่าฉันยังเป็นนักศึกษาอยู่ เกรงใจทางมหาวิทยาลัยกลัวเสียชื่อเสียง
ฉันรับงานแบบนี้ในวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ ในช่วงกลางวันจนถึงบ่ายไม่เกินเย็นเพราะมีคิวไปเปิดแผ่นที่ผับดังย่านทองหล่อในเวลาสองทุ่มร้านประจำ
ตอนบ่าย ฉันต้องพรีเซนท์งานจากแฟ้มเมื่อเช้าที่อ่านได้ทั้งหมดสองแฟ้มต่อหน้าท่านรองฯ ฉันค้นพบว่าเขาเป็นคนให้เกียรติฉันพอสมควร ให้พรีเซนท์จนจบโดยไม่ขัดจังหวะกลางคัน
"พรืด..." ฉันพ่นลมหายใจออกมาจนหน้าม้าปลิว แล้วใช้มือจัดทรงให้เจ้าที่แบบลวกๆ
"โอเค ผมให้คุณผ่าน"
"ผมมีงานเยอะ คุณต้องเป็นผู้ข่วยที่ดีใช้ไหวพริบที่เรียนมาทั้งหมด"
"ทำงานให้ผมแบบมืออาชีพ"
แต่ฉันเป็นแค่นักศึกษาฝึกงานเองนะ (ฉันนิ่วหน้าทันที ฉันรู้เขาดูออก)
"ถึงแม้ว่าคุณจะยังไม่มีประสบการณ์"
"แต่คุณต้องศึกษาเอานะ" ใบหน้าแก่ๆของเขาดูเอาจริงเอาจังมาก
"ค่ะ..."
"อ้อ...อีกอย่างนะทุกวันอังคารและวันศุกร์"
"เราต้องเข้าโรงงานที่นครปฐมด้วยกันนะ"
"เตรียมตัวให้พร้อมมาแต่เช้าหน่อย"
ฉันเห็นเขาจิกตาใส่ฉัน ตอนที่บอกว่าให้มาแต่เช้าก็พอจะรู้ว่าจงใจตำหนิฉันที่มาถึงบริษัทสายเกือบทุกวัน
และแล้ววันศุกร์ก็มาถึง
"รอด้วยค่ะ รอด้วยค่ะ " ฉันกระหืดกระหอบอีกตามเคยวิ่งเข้าลิฟต์อีกแล้ว
"ขอบคุณค่ะ" ฉันขอบคุณพี่ชายคนนึงของแผนกบัญชีเป็นชายหนุ่มหน้าใสแม้แว่นจะหนาไปสักนิด ซึ่งเขาก็ยิ้มรับอย่างใจดี
"ฮึ่ม! "
เสียงกระแอมจากด้านในเป็นเสียงทุ้มนุ่มหูที่คุ้นเคย จึงหันไปมองเพื่อความแน่ใจเงยหน้ามองเขาจนคอเคล็ด คนอะไรสูงอย่างกับเปรต ฉันนึกในใจ
"อ๊ะ...สวัสดีค่ะท่านรองฯ"
ฉันยิ้มทะเล้นบนใบหน้าเมื่ออยู่ด้วยกันหลายวันก็เริ่มคุ้นเคยกับหน้าดุๆ ของเขาเมื่อฉันยิ้มลักยิ้มก็ยิ้มด้วย
น่าร้าก...
ท่านรองฯเห็นฉันมาเช้ากว่าทุกวันคงจะปลื้มใจ เขามองมาทางฉันตาเป็นประกายพยักหน้าหงึกหงัก
ในมือฉันถือกระเป๋าใบเล็กมาด้วย ข้างในมีชุดทำงานดีเจและโน๊ตบุ๊ค โดยจงใจถือแอบไว้ข้างตัวกลัวเขาจะทัก เมื่อพนักงานคนอื่นทะยอยออกจากลิฟต์ จนหมดเหลือแต่ฉันกับท่านรองฯ ฉันเลิ่กลั่กไม่ไหวเก็บอาการไม่อยู่ดูมีพิรุธมาก
"นั่นกระเป๋าอะไรของคุณ?"
ว่าแล้ว! ซื้อหวยไม่ถูกเลยน้ำขิงเอ๊ย ฉันอยากเอามือตบหน้าผากตัวเองหนึ่งฉาด
ตาดีชะมัดคนอะไร...
"อ้อ คือกระ..."
พอดีลิฟต์เปิดจังหวะนั้นพอดีช่วยชีวิตไว้ได้อย่างหวุดหวิด ฉันโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก "เห้อ! เกือบไปแล้ว"
ที่ชั้น5 พี่อรมาแต่เช้าเช่นเคย ฉันเดินเลยไปทักพี่อรก่อนแบบว่าคิดถึงน่ะ
"สวัสดีค่ะพี่อร"
"สวัสดีจ้าน้ำขิง"
ฉันโบกไม้โบกมือทักทายสดใส แต่ต้องชะงักเมื่อมีสายตาคมหันมามองก่อนที่เขาจะเข้าห้องไป
"จะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ"
"ผมรีบนะอย่ามัวเล่นอยู่" เสียงดุเสียงหนักแน่นอันเป็นซิกเนเจอร์ของท่านรองฯลอยลมมา
"ค่ะ " วันนี้เขาดุฉันแต่เช้าเลยแต่ฉันก็ไม่คิดจะเข็ดคิดเหรอว่าจะกลัว
ฉันนั่งรอเขาเซ็นตเอกสารบนโต๊ะเสร็จแล้ว จากนั้นฉันจึงโทรตามแผนกต่างๆมารับคืนไป จากนั้นสองขาของฉันก็เดินตามขายาวๆของเขาไปที่ลานจอดรถทันที กระโปรงนักศึกษาก็แคบเดินไม่ค่อยสะดวก
รู้อย่างนี้ใส่กระโปรงพลีทมาดีกว่า แต่ดีที่ใส่รองเท้าผ้าใบมาฉันจึงใช้การวิ่งแทน ง่ายดี
ลานจอดรถผู้บริหารที่มีปอร์เช่สีขาวจอดอยู่ท่านรองฯผลุบหายเข้าไปในรถ ด้านคนขับฉันขยี้ตารัวๆ นี่มันปอร์เช่ โอ๊ยวาสนาของยัยน้ำขิงจริงจริ๊ง(ฉันคิดในใจ) มองไปที่รถตาไม่กระพริบ ยืนอยู่อย่างนั้นไม่กล้าเปิดประตูเข้าไป
ท่านรองฯลดกระจกลงทำสายตาดุใส่ฉัน
"ขึ้นรถสิคุณ เดี๋ยวสาย"
"ค่ะท่านรองฯ"
ฉันจึงเปิดประตูแล้วหย่อนก้นลงไปก่อนจากนั้นยกเท้าทั้งคู่เข้าไปแล้วนั่งอย่างกับนางพญา(ฉันเคยเห็นใน TikTok) เมื่อคนดังขึ้นรถหรู
แล้วฉันก็ปล่อยไก่จนได้เมื่อคาดเบลล์ไม่ได้สักที เขาเห็นแล้วรำคาญใจ
"มา...ผมช่วย" เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ดึงสายเบลล์อย่างรวดเร็ว
ตอนที่เขาโน้มตัวลงมา ลมหายใจอันร้อนผ่าวของเขารดที่ต้นคอขาวของฉันจนตัวแข็งทื่อ ส่วนเขาสบายๆสีหน้าเรียบเฉย ฉันไม่คิดว่าเขาอบอุ่นก็เป็นด้วย เทคแคร์ก็เนียนตาอย่างกับพระเอกในซีรีส์เกาหลีที่ดูอยู่ทุกวัน
ออนไรท์
เรียกว่าคุณธามในที่สุดฉันก็อยู่ในรถปอร์เช่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแรงและเร็วโดยมีท่านรองฯเป็นคนขับ ฉันนั่งหลังพิงเบาะตัวตรงด้วยความเกร็งภายในรถไม่มีการพูดคุยใดๆทุกอย่างเงียบสงบ ในที่สุดเขาเป็นฝ่ายทนไม่ไหวทำลายความเงียบด้วยการเปิดเพลง จนฉันเคลิ้มกำลังจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ แต่แล้วเมื่อได้ยินเสียงเพลงวิญญาณของดีเจ ก็มาสะกิดให้คิดถึงงานของคืนนี้"ตายละวาคืนนี้มีงาน"พอนึกถึงคืนนี้ฉันแทบไม่มีเวลาเตรียมตัว ภาวนาขอให้กลับไปทันผับเปิดเป็นพอ เพลงที่เคยเตรียมไว้มีหลายแทร็คให้ใช้งานได้เมื่อยามคับขัน การเดินทางจากกรุงเทพฯถึงนครปฐมกินเวลากว่า 2 ชั่วโมงคิดคำนวณแล้วน่าจะเฉียดฉิว @ โรงงานฉันถือกระเป๋าเอกสารและโน๊ตบุ๊คของท่านรองฯ เดินตามเข้าไปในออฟฟิศของโรงงาน ตื่นตาตื่นใจกับทัศนียภาพโดยรอบ เมื่อเข้าไปในออฟฟิศฉันยกมือไหว้ทุกผู้ทุกคนไปตลอดทาง ตั้งแต่ปากประตูจนถึงด้านใน"สวัสดีค่า""สมัยหน้าคุณจะลงสมัครสส.เหรอ?"ดูเขาพูดเข้าสิฟังได้ที่ไหน ฉันหุบยิ้มทันทีแกล้งทำสีหน้าเศร้าสลดเดินตาม ท่านรองฯอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อยขึ้นทันตาเห็นคนอะไรชอบดับฝันคนอื่น...ชิ คุณธนัทก็ไม่เห็นจะเป็นแบบนี้อดีตดาวมหาวิทยาลัยอย
สายตี๊ดเซ็กซี่ขยี้ใจ"ต่อไปให้เรียกคุณธามก็พอ” ฉันยิ้มกว้าง"ได้ค่ะ คุณธาม" ครืด...ครืด สมาร์ทโฟนของฉันสั่นอีกแล้วต้องเป็นไอ้กอล์ฟแน่ๆ"กอล์ฟ""เพื่อนโทรมาแล้วค่ะ”ฉันรับสายแล้วรีบรวบรวมกระเป๋าใบเล็กใบน้อยเตรียมพร้อมจะลงรถ ฉันมองไปทางท่านรองฯเห็นเขาทำทีไม่สนใจแต่แอบตะแคงข้างมาทางฉันแบบเนียนๆ"ฮัลโหล""แกอยู่ไหนวะน้ำขิง""อยู่หน้าเซเว่น""เออ ทำไมไม่เห็นมีเลยวะ""อยู่บนรถ เดี๋ยวไป"ฉันวางสายจากกอล์ฟ กวาดตามองหาโดยรอบเห็นรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่จอดอยู่ ไอ้กอล์ฟลงจากรถแล้วมองหาฉันเหมือนกันท่านรองฯก็มองตามสายตาฉันในทันที เขาพยักหน้าแล้วชี้ไปที่เพื่อนฉัน "นั่นใช่ไหม?เพื่อนคุณ""ใช่ค่ะ น้ำขิงไปก่อนนะคะ""นั่งรถดีๆล่ะ" อื้อ...เขาเป็นห่วงฉันด้วย เขานี่นะจะห่วงฉัน"ค่ะคุณธาม"ฉันเหลือบมองเขาอีกครั้งอยากจะโบกมือบ๊าย...บายก็ไม่กล้า จึงยกมือไหว้อย่างนอบน้อมแล้วลงจากรถทันทีไอ้กอล์ฟเพื่อนฉันถึงกับตาค้าง นักศึกษาสาวสวยลงจากรถของใครก็ไม่รู้และคนขับมันก็ไม่เคยเห็นดูสายตามันสิ...มันมองฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ เดินตรงมาหาคว้ากระเป๋าไปจากมือแล้วเอาไปสะพาย วาดขายาวๆของมันคร่อมรถทันทีเตะขาตั้งแล้วส
อย่ามาเล่นกับไฟ"อะไรวะแค่นี้เหงื่อแตกเลยคุณธาม"สายตาคมหาได้สนใจเพื่อนเขาแต่อย่างใด เขายังให้ความสนใจกับท่วงท่าและลีลานั้นไม่วางตากระดกแก้วเหล้าราคาแพงรวดเดียวหมดแก้วให้แอลกอฮอล์ช่วยละกัน...ธามนิธิ"เติมเหล้าให้เพื่อนพี่หน่อยน้องฟ้า" กรณ์หันมาสั่งสาวสวยที่คอยให้บริการชงเหล้าสำหรับวันนี้"ได้ค่ะ..." จากนั้นแก้วเหล้าราคาแพงถูกยื่นให้เขาในทันที"เออๆชงมา"ธามนิธิตอนนี้เขาได้กลับจากธุดงค์เป็นที่เรียบร้อย แล้วชายหนุ่มพอใจกับรสชาตินุ่มนวลของเหล้าราคาแพงที่ไม่ได้ดื่มมานานหลายปี เขาเอนหลังพิงโซฟาสายตาจับจ้องที่หญิงสาวจนเพลินตา สะโพกกลมกลึงกับช่วงขาเรียวยาวดูมีเสน่ห์กว่าชุดนักศึกษาที่สวมใส่อยู่ทุกวันหญิงสาวเล่นต่อไปอีกสักพักก็หมดเวลาของดีเจน้ำขิง กำลังลงจากสเตทถูกผู้จัดการเรียกไว้ "น้ำขิง คุณโน๊ตเรียกแน่ะ" ผู้จัดการร้านบุ้ยใบ้ไปที่ห้องVipโต๊ะของสามหนุ่ม"ได้ค่ะ เดี๋ยวน้ำขิงขอเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ""ได้จ้า แล้วอย่าลืมไปนะ""ค่ะ พี่อุ้ม” ฉันรับคำแล้วเข้าห้องน้ำทันที แม้ว่ากอล์ฟเพื่อนฉันจะมารอดักคุยด้วยก็ตาม "เออ...เดี๋ยวมา"ฉันหายเข้าไปในห้องน้ำแล้วออกมาพร้อมกับความสดชื่น ซึ่งกอล์ฟมันก็มารอดั
ฉันเมา"ผมไปส่ง” สายตาคมสื่ออารมณ์ที่หลากหลายยากแก่การคาดเดา ฉันลังเลใจว่าเขาจะมาไม้ไหนกันแน่ ทุกวันที่ออฟฟิศเป็นท่านรองฯที่คอยจิกกัดฉันตลอดทั้งวันแล้วไหงวันนี้เขาใจดีหรือว่ากินยาผิดสำแดงมาหรือเปล่า"น้ำขิงยังมีคิวอีกหนึ่งชั่วโมงค่ะ""ไม่เป็นไร ผมรอได้" สายตาเขาเป็นประกายระยิบระยับ มือใหญ่ยังลูบเบาๆที่ต้นแขนอย่างทะนุถนอมชวนให้คนเคลิบเคลิ้มที่จริงเขาโคตรหล่อนะแต่ฉันยังเด็กอยู่นะท่านรองฯจะมาทำแบบนี้ไม่ได้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันมีอาการเขินต่อเพศตรงข้าม กับไอ้กอล์ฟก็ไม่เคยเป็นแบบนี้ นั่งมานานรู้สึกคอแห้งจึงเอื้อมไปหยิบแก้วโค้กของตนเองแล้วดื่มลงคอจนหมดแก้วในคราวเดียว"อึ๊ก..." ฉันทำตาโตรู้สึกได้ว่ามันเป็นรสชาติแปลกใหม่ที่ยังไม่เคยได้ลิ้มลอง ฉันใช้หลังมือปาดคราบน้ำที่ริมฝีปากบาง"นี่มันเหล้านี่ " ดื่มเข้าไปแล้วก็ได้แต่นั่งมองหน้าเจ้าของแก้วอย่างรู้สึกผิดฉันเห็นท่านรองฯใช้สายตาจับอยู่ที่แก้วเหล้าราคาแพงของเขาที่ฉันดื่มจนหมด "ฮ้า...คุณดื่มหมดแก้ว" แล้วเขาก็แย่งแก้วเหล้าไปจากมือฉัน"นี่คุณเป็นเด็กเป็นเล็ก" พอเหล้าเข้าปากฉันก็เริ่มรู้สึกซู่ซ่าใบหน้าร้อนผ่าว อารมณ์คึกคะนองอยากแกล้งคนแก่ขึ้นมา
จูบแรกฉันถูกจูบ"ประตูมันล็อค" ตอนนี้เวลาเที่ยงคืนใกล้จะตีหนึ่งบนท้องถนนย่อมมีรถวิ่งบางตา กึก...กึก ฉันพยายามเปิดประตูรถอีกครั้งอ้อนวอนเขาทางสายตา"น้ำขิงจะลงแล้วเปิดประตูให้น้ำขิงด้วยค่ะ""เมื่อสักครู่นี้เธอหลับหรือว่าตื่น" เขาถามแล้วโถมตัวเข้ามาส่วนฉันยังงงๆ คิดทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมา สองมือดันอกเขาไว้โดยที่ตัวเขาเอี้ยวตัวมาทางฉันเกือบ80%มันดูหมิ่นเหม่มาก"เอ่อ...ครึ่งหลับครึ่งตื่นค่ะ" ฉันแบ่งรับแบ่งสู้"เหมือนโดนผีอำ” ฉันมองเห็นเขายิ้มแล้วโน้มใบหน้ามาทันที"อีกครั้งละกันไหนๆคุณก็ตื่นแล้ว" ยอมเป็นสมภารที่กินไก่วัดสักครั้งในชีวิตอย่างมากพ่อก็แค่เรียกมาด่าฉันใช้มือน้อยๆดันอกเขาไว้อีกครั้งกล้าๆกลัวๆ"คุณธามจะทำอะไรคะ?"เขาประกบจูบฉันแผ่วเบา ริมฝีปากเขาสัมผัสนุ่มนวลแบบในละครที่พระเอกจูบนางเอกในรถแล้วนางเอกก็โอบรอบคอเขา ฉันคิดจินตนาการจนเห็นภาพเบลอ"จูบตอบผมสิ" เขาสั่งลมหายใจอุ่นรดต้นคอจนฉันขนลุกเกรียว "แบบไหนคะ" ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้อะไรทั้งสิ้นทำไม่เป็นเข้าใจไหม?เหมือนขาจะรู้"ทำตามผม" เขาประกบริมฝีปากบางอีกครั้งมือใหญ่ประคองหน้าฉันให้รับจูบเขาในองศาที่พอดีกันจูบของเขาแผ่วเบาอ่อนหวา
แคทวอล์คแทบแตก"น้ำขิงทางนี้" เขาส่งเสียงเรียกยืนพิงอยู่กับประตูรถสองมือล้วงในกระเป๋ากางเกงสวมแว่นกันแดดยี่ห้อดังอื้อ...คุณธามหล่อจังแล้วฉันก็รีบเดินตรงไปหาเขาทันที "คุณธามจะไปไหนคะ?" ฉันถามอย่าง งงๆ คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญใช่ไหม?"ผมจะไปส่งคุณ""ค๊ะ ว่าอะไรนะคะ""แล้วคุณธามไม่เข้าโรงงานเหรอคะ""ไม่ล่ะ ผมดูมาเป็นสิบปีแล้ว ขี้เกียจ""ดูอย่างอื่นบ้าง" เขาพูดแล้วยังส่งสายตาเจ้าเล่ห์ส่งมาอีกด้วย"แล้วแต่ค่ะ" ฉันทำทีเป็นไม่ใส่ใจ"จะไปส่งก็ไปเลยค่ะน้ำขิงรีบค่ะ" ฉันเห็นเขาขยับตัวจากประตูรถเพื่อหลีกทางให้ฉันซึ่งกำลังจะเปิดประตูรถ"เชิญครับ คุณผู้หญิง" ท่านรองฯถอยให้ฉันแล้วเปิดประตูรถให้ ฉันจึงก้าวขาขึ้นรถทันที"ขอบคุณค่ะ" ฉันยิ้มให้เขาหวานหยดย้อยแล้วก้าวขาขึ้นรถแบบงงๆ ตอนนี้เรากลายเป็นคุณผู้หญิงไปแล้วคริ...คริ...มีความสุขที่สุด ยามนี้แม้รถจะติดท้องถนนที่น่าเบื่อก็น่ามองขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่าคุณธามขับรถพาฉันมาถึงห้างเซ็นทรัลเวิลด์ในเวลาครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ซึ่งตลอดเส้นทางเจ๊ท๊อฟฟี่ก็โทรเร่งฉันแทบจะทุกห้านาทีเลยก็ว่าได้"ชั้นสามค่ะคุณธาม" การวนหาที่จอดรถแสนยากลำบากมากมาย ในวันหยุดเสาร์แล
บิกินี่ร้อนฉ่า"ต้องคุยกับเจ๊ท๊อฟฟี่หน่อยแล้ว"ระหว่างที่ธามนิธิกำลังคิดหาวิธีต่างๆนานาในการกล่อมเจ๊ท๊อฟฟี่อยู่นั้น เซ็ทชุดที่สองเริ่มขึ้นต่อเนื่องเพิ่มความร้อนแรงขึ้นอีกขั้น แล้วพลันมีเสียงกระซิบที่ด้านหลังซึ่งเป็นเสียงผู้ชายฟังดูก็รู้ว่าหื่นขนาดไหน "เดี๋ยวคอยดูน้องหน้าม้านะ""ทำไมวะ?""โคตรเซ็กซี่เลยว่ะ ขนาดใส่ปิดหมดนะ""หุ่นโคตรเซี๊ยะเลยว่ะ""เออ! จะคอยดูนะเพื่อน"ธามนิธินั้นแทบจะทนฟังไม่ไหวอยากจะลุกขึ้นไปเตะไอ้สองหนุ่มหน้าหื่นใจแทบขาด ฟังคำพูดนั้นทีไรหูเขาแทบดับเพราะความหวงของมองไปรอบๆที่เหล่าเซเลบริตี้คนดังที่ถูกเชิญมาต่างพูดคุยกันสนุกสนาน ผิดกับเขาที่ไม่เข้าพวก คงมีแต่เราที่ไม่ค่อยจะมีความสุขหญิงสาวเดินออกมาพร้อมกับเซ็ท3ชิ้นเหมือนคนอื่นบิกินี่ชิ้นบน แบบผูกคอและผูกหลังช่วงอกเป็นจีบแบบมีเชือกรูด ทำให้เห็นหน้าอกเต่งตึงเบียดชิดสวยงามกระแทกตาธามนิธิอย่างจังส่วนบิกินี่ชิ้นล่างเป็นแบบกางเกงว่ายน้ำขาสั้นเน้นสะโพกกลมมนเอวคอดกิ่ว มาพร้อมกับเสื้อซีทรูแขนยาวโทนเดียวกันกับชุดว่ายน้ำ เดินมาได้ครึ่งทางหญิงสาวก็ถอดซีทรูออกแล้วเดินสะบัดตัวเสื้อพริ้วไหวตามแรงเหวี่ยงร่าเริงสดใส เสียงปรบมือเกร
ความซาบซ่านMoney ต่อจากนี้ฉันจะตามหาเธอฉันเข้าห้องน้ำตามคำเชื้อเชิญโดยไม่ลืมกดล๊อคเพื่อความปลอดภัย อย่าลืมว่าท่านรองฯคือผู้ชายคนนึงที่อาจจะหน้ามืดลุกขึ้นมาล่าสวาทสาวเวอร์จิ้นอย่างฉันก็เป็นได้ ใช้สายตาสำรวจโดยรอบโอ้แม่เจ้า! ห้องน้ำของเขาสร้างความประหลาดใจอีกแล้ว มันสะอาดจนฉันกลัวว่าจะทำห้องน้ำเขาสกปรกจนต้องระมัดระวังเป็นพิเศษจะหยิบจะจับอะไรก็ต้องเช็ดให้สะอาดแล้ววางให้อยู่ที่เดิม ฉันถอดชุดออกแล้วพับไว้หน้าเคาน์เตอร์ ก้าวขาเข้ากล่องอาบน้ำกระจกใสในทันที "สบู่ห้อมหอม" "มิน่าล่ะตัวคุณธามถึงหอมจัง"ฉันถือโอกาสกดสบู่เหลวของเขาฟอกตามตัวฟองสบู่นุ่มมือมาก ฉันสูดดมกลิ่นหอมแล้วนึกถึงกลิ่นที่ฉันแอบสูดเข้าปอดทุกวันเมื่อใกล้กันอาบน้ำเสร็จแล้วก็ต้องเช็ดตัวจนแห้งสนิทก่อนออกจากกล่องนั้น "ขนาดพรมเช็ดเท้ายังใช้ของแบรนด์เนมยี่ห้อดัง"ฉันไม่กล้าเช็ดแรงกลัวของเขาจะเสียจึงค่อยๆแตะเท้าเบาๆอย่างระมัดระวัง นึกถึงของฉันที่อพาร์ทเม้นท์คือผืนละ20บาทหาซื้อได้ตามตลาดนัดมีให้เลือกมากมายแบบเดียวกันกับของแบรนด์เนมของคุณธามเป๊ะ!"จุ๊! จุ๊! คุณธามนี่รวยไม่เบา"แล้วฉันก็แต่งตัวในห้องน้ำซะเลยเพื่อความปลอดภัย หากเดินก