แต่งค่ะ"แม่น้ำขิงจะรีบไปไหนไม่รู้นะคะ กลัวลูกสาวจะขายไม่ออกหรือไง"จู่ๆคนตัวโตที่นอนหมดสภาพ ก็ดีดตัวขึ้นอย่างเร็วนั่งหลังตรงสายตาคมจ้องเขม็งมาที่ฉันดวงตากระหายรู้ "แล้วจะแต่งไหม?" เขาถามเหมือนข่มขู่อยู่ในที"แต่งค่ะ"ฉันฉีกยิ้มหวานเอาใจยื่นมือลูบไปที่ใบหน้าหล่อนวลใสน่ากัดน่ากินหญิงสาวถึงแม้จะมีเวลา สำหรับการเตรียมใจยอมรับเรื่องการแต่งงานตั้งแต่ครั้งที่เขาตามไปขอนแก่นคราวนั้นการทาบทามสู่ขอเกิดขึ้นกระทันหันโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เหมือนสองคนพ่อลูกได้นัดแนะกันไว้แล้ว แม้ในใจลึกๆยังอยากใช้ชีวิตเรียนรู้การอยู่ร่วมกันกับเขาในฐานะคู่รักอยู่ก็ตามจู่ๆจากที่ลำตัวพิงอยู่กับหัวเตียง เขาก็ล้มตัวลงนอนหนุนตักของฉันอย่างออดอ้อน มือหนาจับมือซ้ายที่สวมแหวนวงน้อยนั้นไว้ลูบตัวแหวนนั้นไปมาอย่างใช้ความคิด"ไม่ต้องกลัวนะที่รัก แหวนแต่งงานเพชรต้องใหญ่กว่านี้แน่นอน" "อย่าลืมนะคะน้ำขิงเป็นมนุษย์นิ้วสั้น ไม่อยากได้ใหญ่มากนะคะแค่ซัก 5 กะรัตก็พอค่ะ""ตามใจที่รักหมดเลย" คนเห่ออยากแต่งงานคิดโน่นนี่นั่นในหัวสมองเต็มไปหมด แล้วพรั่งพรูออกมาอีก"พรุ่งนี้เข้าไปหาเกรซเรื่องการ์ดแต่งงานกันดีกว่านะที่รัก"เขาเองที่สุดแสน
แต่งค่ะ"น้ำขิงท้อง" แล้วคุณธามก็ยิ้มดีใจยื่นมือมาลูบที่ท้องของฉันเบามือ"ลูกของเรา..." "เอาล่ะพี่ธามรอเกรซแพรบเดียวนะคะ" แล้วคุณเกรซก็หายวับไปหลังร้าน จากนั้นคุณเกรซก็ออกมาพร้อมไวน์หนึ่งขวด ถือแก้วมาด้วยสองใบแล้วชำเลืองตามองมาทางฉัน"คนท้องห้ามดื่มค่ะ" ฉันก็ปล่อยให้เขาฉลองกันแล้วเข้าไป ลองชุดออกมาอีกทีคุณธามก็หน้าแดงเป็นลูกตำลึง "คุณธามเมาแล้วค่ะกลับบ้านกันเถอะค่ะ" "ยัง...ผมยังไม่เมา" คนที่บอกว่าไม่เมาแต่เสียงอู้อี้มือไม้เปะปะบนตัวฉัน"กลับก่อนเถอะน้ำขิงพรุ่งนี้ค่อยมาลองใหม่" "แล้วอย่าลืมไปฝากท้องนะ จะได้เอายาบำรุงครรภ์มากิน""ค่ะคุณเกรซ ขอบคุณมากค่ะ" "คุณธามกลับบ้านกันค่ะ" @ คอนโดของธามนิธิเป็นความยากลำบากมากที่กว่าคนตัวโตจะอาบน้ำแล้วนอนอย่างเงียบสงบลมหายใจสม่ำเสมอ ตัวฉันพอรู้ว่าตนเองท้องก็มีความรู้สึกหนึ่งวิ่งเข้าสู่หัวใจคือความรักที่ไม่มีกฏเกณฑ์ ก่อกำเนิดอย่างรวดเร็ว"ลูก...แม่รักหนูนะ" มือน้อยลูบที่หน้าท้องแผ่วเบาอย่างหวงแหน จำเป็นต้องระมัดระวังตนเอง ทะนุถนอมร่างกายให้ดีที่สุดนับจากนี้ รุ่งเช้าคุณธามวันนี้ดูกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นพาฉันไปโรงพยาบาลแต่เช้า ตัวเขาเองยังได้ยา
ยกเสาลงหลุม บ้านเตชะทรัพย์วันนี้เป็นวันแต่งงานที่แสนจะชื่นมื่น แขกเหรื่อมากันมากจนรับแขกกันไม่ไหว อาหารบุฟเฟ่ต์ก็ทำท่าจะไม่พอรองรับ เมื่อFCของดีเจน้ำขิงตามมาสมทบจำนวนมาก เดือดร้อนถึงเจ๊ท๊อฟฟี่และเพื่อนเจ้าสาวอย่างน้ำฝนที่วิ่งวุ่นกันทั้งงานตั้งแต่เช้า"น้ำขิงนะ น้ำขิง FC หล่อนเกือบจะฆ่าเรากับเจ๊ท๊อฟฟี่แล้วรู้ไหมยะ""ใจเย็นๆนะคุณน้องค่อยๆแก้ไปค่ะ""ดีนะคะที่มีห้องน้ำในปั๊ม ไม่งั้นเราแย่แน่ค่ะ""จริงด้วยค่ะ เจ๊เห็นด้วย"งานแต่งของน้ำขิงและธามนิธิที่เน้นเรียบง่าย การ์ดแจกแต่เฉพาะแขกคนสำคัญญาติพี่น้องที่ใกล้ชิดจริงๆ แต่ก็นั่นแหละ ทั้งพ่อและแม่ของหญิงสาวเป็นคนมีหน้ามีตาไม่น้อยจึงเป็นอย่างที่เห็นคนต่างจังหวัดมักให้ความสำคัญกับสินสอดทองหมั้น แต่เมื่อเปิดพานสินสอด บรรดาญาติผู้ใหญ่แทบเป็นลมด้วยแสงเพชรวาววับจนแสบตา และยังจะเป็นโฉนดที่ดินและเงินอีกกองใหญ่ที่คุณธนัทกับธามนิธิทุ่มเทพิธีการทางศาสนาอัดแน่นตั้งแต่เช้า จนร่างกายเมื่อยขบปวดร้าวระบมไปทั่วร่างกาย เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวก็โดนเหน็บกินไปหลายรอบ จวบจนพิธีรดน้ำสังข์เสร็จสิ้นถึงได้ออกไปทักทายผู้มาร่วมงานด้านนอก"เฮ้ย...เจ้าบ่าวไหวไหมวะคืนนี้" คุ
ฮันนีมูนที่แปลว่าดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์หลังจากงานแต่งงานที่ขอนแก่นผ่านพ้นไป ตามด้วยงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสอย่างเลิศหรูอลังการสมกับที่เป็นทายาทนักธุรกิจใหญ่อันดับต้นๆของเมืองไทย จัดขึ้นที่โรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพมหานคร จากนั้นฉันกับคุณธามก็ได้ย้ายสำมโนครัว จากคอนโดหรูของคุณธามสู่คฤหาสต์หลังใหญ่ แต่ก็ยังทิ้งเสื้อผ้าไว้บางส่วนเผื่อว่าจะแอบมาหวานกันสองคนในบางโอกาส แล้วยังมีคอนโดนอีกแห่งที่ได้จากคุณนัท ห้องนั้นตั้งใจเอาไว้ให้น้ำมนต์เผื่อเขามาเรียนกรุงเทพฯ แต่ระยะนี้ถ้าวันไหนอยากหวานเราก็แอบไปดูผืนน้ำเกลียวคลื่นเมื่อเรือด่วนเจ้าพระยาแล่นผ่านไปผ่านมา และไฟสวยๆของสะพานพระรามแปดยามค่ำคืนกันสามคนพ่อแม่ลูก หนึ่งเดือนต่อมาพรุ่งนี้ฉันก็จะได้ไปเที่ยวครั้งแรกในชีวิตที่ได้ไปเมืองนอก ฉันตื่นเต้นมากนอนไม่หลับมาหลายคืน คุณธามกับฉันก็ลุยงานเคลียร์คิวเพื่อเตรียมตัวไปฮันนีมูนกันที่มัลดิฟส์ เกาะที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยของน้ำทะเลหาดทรายขาวสะอาด พอถึงตอนนี้ก็ไปมันทั้งที่ท้องโย้นี่ล่ะ ตอนนี้อายุครรภ์ก็ห้าเดือนแล้วถือว่าได้พาลูกไปเที่ยวในตัว"ลูกสาวคะเราจะได้ไปเที่ยวกันแล้วนะ" คุณธามลูบไล้หน้าท้องนูนหลังจากจบกิ
หลานปู่หลานตาหลานยายคฤหาสถ์ของคุณปู่หลังกลับจากทริปมัลดิฟส์ ฉันกับคุณธามก็วนมาลูบเดิมคือทำงานเพิ่มเติมคือความหวานที่หมั่นเติมให้กันทุกวัน ที่เตียงนุ่มฉันกำลังไถสมาร์ทโฟนดูคอมเม้นท์ในอินสตาแกรมหลังจากที่ได้ลงรูปทริปมัลดีฟส์ไปหมาดๆ ก็จะมีเพื่อนน้ำของฉันที่เข้ามาคอมเม้นท์ทันที"อยากเห็นหน้าหลานแล้ว" น้ำฝนฉันรีบตอบคอมเม้นท์นั้นไปว่า "คิดถึง" แล้วส่งรูปหัวใจไปหนึ่งดวงส่วนFCที่รักกันแน่นหนึบเหนียวแน่นก็ไม่ทิ้งไม่หนีหายไปไหน เข้ามากดหัวใจเข้ามาคอมเม้นท์กันสนุกสนาน"ลูกได้เวลาฟังเพลงก่อนนอนแล้วที่รัก" คุณธามที่ออกมาจากห้องน้ำก็เดินตรงมาที่เตียงแล้วหยิบสมาร์ทโฟนของเขาติดมือมาปิดไฟห้องนอนเหลือเพียงไฟหัวเตียงสีเหลืองนวล แล้วคุณธามก็เข้ายูทูปเปิดเพลงโมสาร์ทเปียโนอันไพเราะให้ลูกสาวตัวน้อยในท้องฟัง ส่วนฉันก็เคลิ้มเคลิ้มไปกับเสียงเปียโนแผ่วเบา "แม่นอนก่อนนะลูก" ฉันบอกลูกแล้วปิดตาลงคุณธามก็สอดมือเข้ามาโอบฉันเช่นเคยโดยไม่ลืม Good night kiss ก่อนนอนเป็นประจำทุกวัน"รักนะคะที่รัก" สามเดือนผ่านไปตอนนี้ฉันใกล้จะเก้าเดือนแล้วก็ได้แต่พักผ่อนอยู่กับบ้าน ช่วงนี้อยู่ในช่วงลาคลอด คุณธามออกไปทำงานแต่เช้า
จุดเริ่มต้นของคนคลั่งรักธามนิธิที่ทำแต่งานใช่ว่าเขาไม่เคยมีความรักเสียเมื่อไหร่ แต่มันนานเสียจนลืมไปแล้วว่าเนื้อสาวมันนุ่มขนาดไหน จนได้พบกับนักศึกษาฝึกงานที่เจอกันแวบแรกในลิฟท์ก็ทำเอาเขาใจสั่น แต่ต้องเก็บอาการไว้สุดฤทธิ์ต้องรักษามาตรฐานท่านรองประธานไว้ให้มั่น"คุณเก็บของแล้วตามผมมา" นั่นแหละคือเสียงที่เขาตั้งใจให้มันดุมันเข้มเพื่อปกปิดส่วนลึกในใจ ความใกล้ชิดในหลายวันทำให้เขารู้ดีอยู่แก่ใจว่า ไม่อาจปล่อยมือจากสาวน้อยที่สดใส มีลักยิ้มทรงเสน่ห์และผมม้านั่นอีก รวมๆแล้ว เขาอาจจะบ้ารักหรือคลั่งรักไม่ได้หลับได้นอนอยากมาทำงานแต่เช้าทุกวัน เพื่อให้ได้พบหน้าได้ใกล้ชิดนิดหน่อยก็ยังดี หากได้ติดสอยห้อยตามไปทุกที่ เขาจะบริการทุกระดับให้ประทับใจเปย์ได้เขาก็จะเปย์ ในวันนั้นที่หญิงสาวแกล้งเขาโดยจงใจวางมือน้อยๆ บนหน้าขาของเขา จนสะดุ้งสุดตัวรีบขยับขาหนีนี่เธอไม่รู้จริงๆใช่ไหมว่าผู้ชายเขาถือแต่เธอก็รีบหดมือกลับทำเหมือนไม่ได้ตั้งใจแล้วพูดว่า "ขอโทษค่ะ"พูดแล้วยังแกล้งแอ๊บใสซื่อหดมือกลับอีก ไม่รู้อะไรใช่ไหมว่าปลุกเสือให้ตื่นแล้ววิ่งหนีกลับมันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกแม่สาวน้อยหน้าม้า มาให้พี่กินซะดีๆแล้
สวมบทนักศึกษาฝึกงาน"สายแล้ว สายแล้ว" ฉันยกข้อมือซ้ายดูเวลาอีกครั้งพอลงจากรถเมล์ได้ก็ใส่เกียร์หมาวิ่งแบบไม่คิดชีวิตแฮ่ก! แฮ่ก!แฮ่ก! วิ่งหอบจนลิ้นห้อย แต่ใจสู้สุดชีวิตมองหาจุดหมายอยู่ที่ลิฟต์"รอด้วยค่า รอด้วยค่า..."ฉันใช้พลังเสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทางทำให้ลิฟต์เปิดออกในทันที รีบยื่นขาขาวๆเข้าไปในลิฟต์โดยไม่ลืมขอบคุณผู้มีพระคุณในเช้านี้ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร ฉันจึงพนมมือไหว้รอบทิศทางทั่วทุกคนได้รับอานิสงส์ไปพร้อมกัน แล้วพ่นลมหายใจหอมสดชื่่นออกมาจนผมหน้ามาปลิวไสว พรืด..."ขอบคุณค่ะ..." นิ้วเรียวกดปุ่มลูกศรขึ้นทันทีมองดูที่ตัวเลข 5 แสดงว่ามีคนขึ้นไปชั้นเดียวกัน คราวนี้ลิฟต์ปิดอีกครั้งทุกคนอยู่ในความสงบ มีสายตาหลายคู่แอบเหล่มองมาที่ฉันแล้วเลื่อนสายตาไปที่บัตรพื้นสีฟ้าตัวหนังสือสีดำที่คล้องคออยู่นักศึกษาฝึกงานที่มีทั้งชื่อจริงและชื่อเล่นพร้อมรูปแบบเก๋ไก๋ของฉันแล้วอมยิ้มเอ็นดูในความน่ารักสร้างสีสันเล็กๆ แหละ...ฉันไม่รู้ว่ามะโนไปเองหรือเปล่า ว่าหลายคนแอบอิจฉาในความขาวใส ผิวขาวอมชมพูเห็นเลือดฝาดดูมีสุขภาพดีที่ฉันได้มาจากว่านหางจรเข้ จากกระถางหลังห้องที่ใส่ปุ๋ยรดน้ำเอาใจใส่อย่างกับลูกในอ
ท่านรองประธาน"เก็บของแล้วตามผมมา" เขาหันมาสั่งแล้วเดินกลับห้องโดยไม่หันมามองฉัน จนพี่อรขยับเข้ามาถามอย่างใคร่รู้"น้ำขิงจะไปไหนเหรอ?""ไปทำงานกับท่านรองฯค่ะ"ฉันทำสีหน้าบอกบุญไม่รับ บุ้ยใบ้ไปตามทางเดินนั้นที่ห้องอีกห้องที่เดินผ่านมาเมื่อเช้า"ว้า! แย่จัง ต่อไปพี่คงเหงาเเย่เลย""คราวนี้ไม่มีคนช่วยงานพี่แล้ว" พี่อรทำสีหน้าเสียดาย ส่วนฉันเก็บของไปก็คุยไป อันที่จริงสมบัติฉันก็ไม่มีอะไรมากแค่โน๊ตบุ๊คหนึ่งตัวกับกระเป๋าสะพายใบเล็กและอุปกรณ์สำนักงานอีกนิดหน่อยปากกาสองสามด้าม"ตื๊ด...ตื๊ด...ตื๊ด” โทรศัพท์สายในดังขึ้น พี่อรสบตากับฉันแล้วเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์มาแนบหู"สวัสดีค่ะ""ค่ะ...ค่ะ...ได้ค่ะ" พี่อรฟังเสียงจากปลายสายกรอกตาไปมาสองสามครั้งทำหน้าที่เป็นผู้ฟังที่ดีแล้ววางสาย"เร็วเข้า น้ำขิง คุณธามเรียกแล้ว"ทีนี้สิ่งของทั้งหมดของฉันถูกรวบมาไว้ในอ้อมแขนแล้วรีบเดินจ้ำอ้าวทันที ห้องท่านรองฯอยู่ก่อนห้องท่านประธานหนึ่งห้อง นับจากลิฟต์ทางเข้าฉันเดินย้อนขึ้นสิบก้าวก็ถึงแต่หน้าห้องกลับไม่มีโต๊ะตั้งไว้หน้าห้องสักตัว ซึ่งแปลว่าฉันต้องเข้าไปด้านใน ฉันจึงเคาะประตูห้องแล้วผลักเข้าไป"ขออนุญาตค่ะ" เสียง