EP.9
(Well Part)
“พี่เวลล์ พี่ตื่นเดี๋ยวนี้นะ” ผมที่กำลังนอนพักอยู่ในห้องพักหมอของโรงพยาบาล สะดุ้งตื่นอย่างไม่ได้ตั้งใจ เสียงที่คุ้นหูอย่างดี คนที่กล้าจะเข้าห้องผมมาปลุกถึงที่ นอกจากพ่อแม่ผมแล้ว ก็มีแค่น้องสาวจอมดื้อตัวดีของผมเท่านั้นแหละ แน่นอนว่าหากทำเมินเชย น้องสาวผมได้คว้าหมอนมาทุบตีผมแน่นอน
“มีอะไร ว่างมากรึไงมากวนพี่” ผมขยี้ตาเบาๆ ก่อนจะมองไปยังต้นเสียง ใบหน้าน้องสาวผมยู่ยี่อย่างไม่พอใจ แต่จู่ ๆ น้ำตาก็ไหลอาบแก้มของเธอ ผมตกใจไม่น้อย ไม่เคยเห็นเธองอแงแบบนี้มาก่อน คนเอาแต่ใจอย่างน้องผมปกติมีแต่คนตามใจจนไม่เคยร้องไห้สักครั้ง
“เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม”
“พี่ลืมไปแล้วรึไงที่วีโทรมาหาพี่อ่ะ”
“....” ผมนิ่งอึ้ง นี่ผมลืมไปได้ไง
“พะ...พี่ อีอนเอ็บเอาะอั้น”
“ตั้งสติก่อนแล้วบอกพี่ดีๆ” น้องผมเอามือปาดน้ำตา และสูดหายใจเข้าลึกๆ
“พี่เวลล์ เมื่อกี้มีคนจะวิ่งมาแทงฉัน”
“อะไรนะ!!!”
ผมได้ยินดังนั้นก็ลุกขึ้นทันที
“มันเป็นใคร แจ้งตำรวจรึยัง บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า”ผมจับตัวเธอหมุนซ้ายหมุนขวา มองน้องสาวด้วยใบหน้าเคร่งเครียด จนน้องสาวผมเอามือสองมือจับแขนผมไว้ก่อนจะนั่งกดผมให้นั่งลง
“หนูปลอดภัยดีค่ะพี่ มีรุ่นพี่คนหนึ่งช่วยวีไว้ และก็จับตัวคนร้ายไปแล้วค่ะ แต่...”
“แต่อะไร”
“พี่เขาโดนแทง ขะ..เขาโดนแทงเพราะหนู เป็นเพราะหนูเรียกเขาลงมาช่วยขนของแท้ๆ ฮือ.... วีรู้สึกผิดมากๆ ค่ะ” น้องผมปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง ผมที่เห็นสภาพน้องก็รู้สึกปวดใจ ตอนนี้ก็ทำได้แค่เอื้อมมือดึงน้องเข้ามากอดปลอบ
“แล้วตอนนี้ คนนั้นเขาเป็นยังไงบ้างถึงมือหมอแล้วใช่ไหม”
“คุณหมอพัฒน์รักษาให้แล้วค่ะ เย็บไปหลายเข็มเลย ตอนนี้แอดมิดที่โรงพยาบาลของเรานี่แหละค่ะ”
“ดีแล้ว”
“พี่...พี่ต้องคอยช่วยดูแลเขาแทนหนูด้วยนะคะ”
“เขาอยู่ที่โรงพยาบาลเรา ยังไงก็ได้รับการรักษาอย่างดีที่สุดอยู่แล้วไม่ต้องห่วง”
“ไม่ค่ะยังไม่พอ คนนี้พี่ต้องดูแลเป็นพิเศษนะ วีชอบพี่เขามากจริงๆ”
“ชอบ...” ผมตกใจ น้องสาวผมที่แสนจะหยิ่งผยอง ตีตราคนอื่นแทบเป็นมูลค่า เอาแต่ใจสุดๆ คนนี้ถึงกับพูดว่าชอบคนอื่นออกจากปาก
“แฟน?” ผมเอ่ยถามตรงๆ ด้วยความสงสัย ถ้าเป็นแฟนน้องผมจริงๆ ผมก็ต้องสแกนก่อน
“มะ..ไม่ใช่แฟนค่ะ ชอบแบบว่าอยากเป็นเหมือนเขาน่ะ ไม่พูดแล้วพี่ต้องดูแลเขาแทนหนูที่โรงพยาบาลด้วย เขาคือผู้มีพระคุณของวี”
“โอเค รับปาก งั้นตอนนี้น้องสาวพี่ กลับไปพักผ่อนก่อนไหมครับ ส่วนคนป่วยให้หมอที่นี่จัดการเอง”
“ไม่ใช่หมอที่นี่ค่ะ ต้องเป็นพี่เท่านั้น คนอื่นวีไม่ไว้ใจ”
“พี่ก็พี่ ถ้าเรากลับพี่จะไปดูเขาให้ทันที”
“ขอบคุณค่ะพี่ งั้นหนูกลับก่อนนะคะ ตอนนี้เหนื่อยเหลือเกิน”
“ให้คนขับรถไปส่งนะอย่าขับเอง”
“อื้อไม่ขับหรอกค่ะ เพราะยังไงรถวีก็ไม่ได้อยู่ที่นี่อยู่แล้ว” ผมเดินลงไปส่งน้องผมด้านล่าง ก่อนจะกลับมาคว้าชุดกาวน์สวมทับ ในเมื่อผมรับปากน้องสาวผมแล้วผมก็ต้องแวะเข้าไปดูหน่อย
ผมมุ่งไปยังห้องหมอพัฒน์ ซึ่งเป็นหมอที่อยู่เวรคืนนี้ เพื่อถามอาการ จึงได้รู้ว่า ผู้ช่วยชีวิตน้องสาวผมนั้นเป็นผู้หญิงและได้รับบาดเจ็บแผลลึกบริเวณแขนซ้าย เห็นว่าเย็บไปหลายสิบเข็ม ซมด้วยพิษไข้จากการบาดเจ็บแผล ก็สมควรที่น้องผมจะซาบซึ้งใจ คงเป็นผู้หญิงที่แกร่งพอดู
ผมเคาะประตูไปสองสามที แต่ก็ไม่มีเสียงเอื้อนเอ่ยออกมา อาจจะนอนพักไปแล้ว จึงถือวิสาสะเปิดประตูแง้มดูในฐานะนักเรียนแพทย์ของที่นี่ ภายในห้องปรากฏร่างหญิงสาวนอนนิ่งใบหน้าขาวซีด แต่ก็ยังคงสวยสะดุดตา และเป็นใบหน้าที่ผมจดจำได้ดี
“แจน” ผมเดินเข้าไปมองใกล้ๆ เพื่อยืนยันความคิดของตน แน่นอนว่าหญิงสาวคนนี้คือแจนจริงๆ ผมนั่งลงข้างๆ เตียงผู้ป่วย มองคนนอนแน่นิ่งไม่ขยับอย่างพิจารณา หลังจากแยกย้ายคืนก่อนหน้า เป็นเธอเองที่พูดออกมาว่าเจอกันคราวหน้าอย่าทักทายกัน ซึ่งนั่นก็เป็นข้อตกลงระหว่างเรา แต่พอเอาเข้าจริงๆ ผมลืมเรื่องนั้นไม่ลงเลย กว่าจะสะบัดใบหน้าของเธอในหัวสมองได้ก็ใช้เวลาไปค่อนวัน และตอนนี้เธอก็มาปรากฏต่อหน้าอีกครั้ง ทำเอาเรื่องเหล่านั้นมันหวนกลับมาอีก หรือผมจะกลายเป็นพวกเสพติดร่างกายเธอไปแล้วเสียจริงๆ
(Well Part End)
ฉันนอนหลับไปนานแค่ไหนไม่รู้ แต่ตอนนี้ หูฉันเริ่มได้ยินเสียงดังกึกก้องของเพื่อนสนิทฉันแล้วหนึ่ง
“แจน.. แจนตื่นแล้วกุ้ก”
เปลือกตาของฉันค่อยๆ กะพริบช้าๆ ก่อนจะปลายตามองพวกมันสองคน คนหนึ่งโวยวายฟังไม่ได้ศัพท์ อีกคนนั่งปอกผลไม้เงียบๆ
“เงียบหน่อยมึง นี่โรงพยาบาลนะ” ฉันเอ่ยเบาๆ
“ใครใช้ให้มึงทำตัวให้พวกกูเป็นห่วงกันล่ะ” ยัยมีนน่ามุ้ยหันไปนั่งลงโซฟาข้างๆ ยัยกุ้ก
“กินผลไม้หน่อยไหม แจน” กุ้กเอ่ยถามก่อนจะหยิบจานผลไม้ที่ปอกแล้วมาวางไว้โต๊ะข้างเตียง
“อืม ทานสิ” ฉันตอบรับก่อนจะกินผลไม้ที่ยัยกุ้กป้อน
“ยังเจ็บอยู่ไหมมึง ตอนพี่แม็กทักไลน์มาหา ฉันตกใจหมดทำตัวไม่ถูกเลย ชีวิตแกนี่วนเวียนกับเรื่องคอขาดบาดตายชะมัด”
“ยังปวดอยู่ แล้วเรื่องที่เกิดไม่ได้เกี่ยวกับงานทางบ้านฉัน แต่เอาเถอะเรื่องนี้ฉันจัดการไปหมดแล้วไม่ต้องห่วง”
“เห็นสภาพตอนนี้ของมึง กูก็สบายใจมาหน่อยแล้วล่ะ ดีไม่โดนแทงตรงจุดสำคัญ”
“อย่างกูไม่ตายง่ายๆ หรอกมีน”
“ปากดีนะคะคุณมึง เจ็บแล้วไม่เจียม ยัยกุ้กดูมันพูดดิ” ยัยมีนหันไปฟ้องกุ้ก
“ใจเย็นๆ ทั้งสองคน ตอนนี้มีนปลอดภัยก็เป็นเรื่องที่ดีแล้ว คราวหน้าแจนเอง แกก็ต้องระวังนะ ฉันรู้ว่าแกเก่งแต่บางเรื่องแกก็ต้องคิดว่าแกก็ผู้หญิงตัวเล็กๆ”
“อืม รู้น่ะคราวหน้าจะไม่ประมาท”
ฝากนิยายเรื่องนี้ของไรต์ กะหล่ำหมีด้วยค่ะ
EP.10‘เอี๊ยด...’ เสียงประตูห้องเปิดออก“ไงน้องแจน ดีขึ้นไหม” เสียงของรุ่นพี่แม็กเอ่ยถาม ก่อนจะหันไปโบกมือพร้อมรอยยิ้มให้กับยัยมีน ยัยมีนก็เหมือนกันโบกมือตอบเขาไป แหม..พวกข้าวใหม่ปลามันก็งี้ แต่ดูเหมือนพี่แม็กไม่ได้เข้ามาคนเดียวนะสิ มีร่างชายสูงตระหง่านในชุดกาวน์หมอไม่ต่างไปจากพี่แม็ก วันนี้เขาสวมแว่นกรอบเงินหล่อเหลาเอาการ แน่นอนว่าเป็นใบหน้าที่ฉันจดจำได้ดี จะลืมลงได้ไง แม้แต่ตอนนี้มันก็ยังวนเวียนอยู่ในจิตใต้สำนึกอยู่เลย “สวัสดีค่ะพี่แม็ก แล้วก็...” ยัยมีนเอ่ยทักทายกับพี่แม็ก แต่พอเห็นอีกคนนางก็หันมองมาที่ฉันอย่างยิ้มกรุ่น ก่อนจะพูดต่อด้วยชื่อเขา “พี่เวลล์” “ครับ” เขาตอบเพียงสั้นๆ จากนั้นปลีกตัวเดินไปยังริมหน้าต่างมองออกไปด้านนอกอาคารทำตัวเหมือนโดนลากมาอย่างนั้น ก็ใช่สิเราสองคนเมื่อจบคืนนั้น ก็คือคนแปลกหน้าและแน่นอนว่าเรื่องนี้ฉันเป็นคนพูดเอง แต่ทำไมกันนะ ใจมันดันเจ็บจี๊ดแปลกๆ กับท่าทีเมินเฉยของเขาตรงหน้า ฉันกำลังคาดหวังอะไรอยู่“วันนี้ช่วงบ่ายน้องแจนคงได้กลับบ้านแล้วครับ”“ดีจังเลยค่ะ แจนไม่อยากอยู่โรงพยาบาลนี้ เบื่อจะแย่อยู่แล้ว” ฉันยิ้
เมื่อไหร่จะถึงคอนโดสักที อยากจะหลุดพ้นจากความอึดอัดนี้เต็มทน เพราะตอนนี้เหลือแค่ฉันกับรุ่นพี่เวลล์เท่านั้น น้องวีขอตัวลงระหว่างทางไปก่อน แถมเขาก็ขับรถมองซ้ายขวาราวกับสงสัยบางอย่าง“เลี้ยวซ้ายด้านหน้าเลยค่ะ คอนโดตึกสูงๆ นั่นค่ะ” ฉันเอ่ยบอกเมื่อรถมาถึงคอนโด เขาขับไปยังลานจอดรถด้านในซึ่งเป็นที่จอดสำหรับวีไอพีเท่านั้นแต่คนนอกอย่างพี่เวลล์มาจอดได้ไง“พี่จอดตรงนี้ไม่ได้นะของวีไอพีคอนโด”“เพื่อนพี่ให้บัตรจอดมา” เขาเดินลงออกจากรถแล้วมาเปิดประตูให้ฉัน ฉิบหายตอนนี้ฉันอืดอาดมากจนทำอะไรช้าไปหมด เขาจะว่าฉันสำออยไหม (ถึงจะมีหน่อยก็เถอะ แล้วดันเป็นกับคนหล่อคนนี้ซะด้วยสิ)“ขอบคุณค่ะ รุ่นพี่กลับเถอะ ฉันเกรงใจ”“....”“ฉันขึ้นไปเองได้ค่ะ พี่เวลล์”“....” ไม่รู้คิดไปเองไหม เขาไม่พูด ทำหูทวนลม คว้ากระเป๋าฉันเดินนำทันที ก่อนจะหยุดชะงักหันมองมาเหมือนเร่งให้ฉันเดิน ให้ตายเถอะทำไมพี่เขาพูดด้วยยากขนาดนี้ ดูท่าจะหัวรั้นสุดๆ จนฉันถอนหายใจ“แล้วแต่ล่ะกัน ตามมาค่ะ”ฉันเร่งเท้าก้าวนำเขา ในขณะที่เขาก็เดินตามถือกระเป๋าเงียบๆ จนมาถึงชั้นหก หน้าห้องตัวเอง“ถึงแล้วค่ะ รุ่นพี่วางกระเป๋าไว้ได้เลย ฉันจะเข้าห้องไปพักผ่อนแล
EP.12ไม่รู้ว่านอนไปนานแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ ฉันนอนฝันร้ายสุดๆ ฝันถึงแต่พี่เขา จดจำแต่เรือนร่างอันแข็งแกร่งและทรงเสน่ห์นั้นแทบทุกส่วน แถมในฝันก็เป็นฉันที่เอาแต่กอดรัดฟัดเหวี่ยงร่างกายเขาอย่างหิวโหย จนคิดตลกไปว่าเขาเล่นของใส่ฉันรึเปล่า หรือแท้จริงแล้วฉันมันพวกหื่นกระหายเกินเบอร์ตอนนี้ระหว่างขาของฉันมันชุ่มแฉะเต็มไปด้วยน้ำรัก หรือที่ใครๆ เรียกว่าฝันเปียกนั่นแหละ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มานานมากจริงๆ ให้ตายเถอะหลับแล้วยังเสือกมีอารมณ์ร่วมอีก“แม่งเอ้ย...ทำไมพี่เวลล์ถึงทำให้กลายเป็นคนหื่นกามได้ขนาดนี้เนี้ย รู้ถึงไหนอายถึงนั่น”เพราะอารมณ์ที่ค้างต่อจากฝัน ตื่นมาก็ยังคงกระสับกระส่าย วาบหวิวไปทั้งตัว ซ่านไปหมด จึงลุกจากเตียงไปโต๊ะเครื่องแป้งหยิบเซ็กทอยที่ลิ้นชัก เดินกลับมาบนเตียงอารมณ์อันเร่าร้อน ทั้งเนื้อทั้งตัวรุ่มร้อนไปหมด มือหนึ่งก็เฟ้นหน้าอกตัวเองอย่างเสียวซ่าน อีกมือหนึ่งก็จับเจ้าอุปกรณ์แท่งสวรรค์ที่สั่งออนไลน์มาสอดใส่ลงไประหว่างขาที่เปียกชื้นแฉะค่อยๆ ดันเข้าไปจนมิดโคน“อ่า...” ชักเข้าออกช้าๆ เป็นจังหวะพลานนึกถึงใบหน้าเขาคนนั้น กระตุ้นให้เกิดอารมณ์พลุ่งพล่าน ขนลุกไปทั้งตัว“พะ...พี่เวลล
หลายวันต่อมา...ณ. คอนโด“มึง ช่วงนี้พี่แม็กไม่มีเวลาให้กูเลย นอยสุดๆ” ยัยมีนสถบก่อนจะเดินมานั่งลงบนโซฟาที่ฉันกำลังนั่งดูซีรีส์จีนอยู่“พี่เขาเรียนหมอ ขึ้นชื่อว่าเรียกหนักอยู่แล้วป่ะ มึงต้องเผื่อใจปัญหาด้านเวลา ที่มึงต้องเจอ”“ฉันก็บ่นไปงั้นแหละรู้นา.. แล้วมึงกับพี่เวลล์ล่ะ”“เกี่ยวไรกับกู” ฉันหันหน้าควับไปหายัยมีน จู่ๆ ก็โยนถามมาเฉยเลย“มึงไม่คิดถึงพี่เวลล์บ้างเหรอ” ยัยมีนทำหน้าสนอกสนใจ“กูไม่ได้เป็นอะไรกับพี่เขา จะคิดถึงเขาทำเพื่อ?”“อ่อ ไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่...”“มึงพูดมากจังว่ะมีน”“หยอกหน่อยนา...ทำเป็นหงุดหงิดไปได้ อย่าให้เห็นนะว่าตกหลุมรักพี่เวลล์ หล่อขั้นเทพขนาดนั้น ฉันว่าแกไม่รอดแน่ ฮ่าๆ” ยัยมีนพูดจบ ก็หันหลังรีบลุกเดินเข้าห้องของตัวเองทันที เพราะตอนนี้ฉันกำลังง้างเท้าจะถีบมันไงล่ะ ขนาดเข้าห้องไปแล้ว เสียงหัวเราะร่ายังดังลอดออกมา กวนประสาทฉันสุดแต่ก็จริงอย่างที่ยัยมีนพูดอยู่หนึ่งอย่าง หลังจากเรื่องวันนั้น ฉันก็ไม่ได้พบกับรุ่นพี่เวลล์อีกเลย ก็ไม่ได้คิดถึงอะไรหรอกยัง
EP.14 อุกอาจ22.00ฉันขับรถออกจากโกดังเก็บสินค้า วิ่งไปตามถนนเส้นหลักมุ่งหน้าเพื่อกลับคอนโด แต่แล้วก็พบว่ามีรถคันหรูคันหนึ่งจอดอยู่ไหล่ทาง และมีชายชุดดำกลุ่มหนึ่งราวสามถึงสี่คนพยายามทุบกระจกรถนั้นอย่างรุนแรง เนี่ยแหละนะกลางคืนของเมืองนี้ เมืองคนเถื่อน ตำรวจหลับหูหลับตา ปล่อยให้เกิดอาชญากรรม แน่นอนว่าครอบครัวฉันก็เป็นหนึ่งในพวกนี้แหละในสมองคิดจะปล่อยผ่าน เพราะไม่อยากเข้าไปยุ่งวังวนแห่งการแก้แค้นของตระกูลไหน แต่พอเหลือบมองพบว่าคนในรถเป็น คู่ชายหญิงมีอายุ ทำให้ตัวฉันทนดูไม่ได้ตัดสินใจหยิบมือถือเรียกพี่ทิมให้เตรียมคนมาสมทบตามโลเคชั่นก่อนจะหักเลี้ยวรถกลับอย่างกะทันหัน จนเสียงล้อที่เบียดเสียดกับพื้นดังสนั่นหวั่นไหว ‘เอี๊ยด....’ ขับย้อนกลับไป พลางมือหนึ่งหยิบปืนใต้ลิ้นชักรถออกมารถของฉันจอดออกไปไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ ลดกระจกข้างลงเอี้ยวตัวโผล่พ้นรถยิงไปยังชายชุดดำที่กำลังมั่วแต่ทุบกะจกของชายหญิงมีอายุ“ปัง...ปัง” ฉันรัวปืนเล็งยิงไปยังขาของชายชุดดำทุกคน แน่นอนว่าจะฆ่าพวกมันไม่ได้เพราะไม่อยากให้มีคดี แต่หากยิงขามันก็ถือว่าป้องกันตัวได้ เรื่องยิงปืนฉันไม่พลาดสักนัด เพราะพ่อสอนฉันที่ฮาวายตั้งแต่เด
EP.15 ณ. คอนโด ฉันกลับถึงคอนโดด้วยความเหนื่อยล้า “อยากนอนบนฟูกนุ่มๆ แล้วสิ แต่สภาพแบบนี้คงต้องอาบน้ำอุ่นๆ ให้หายเหนื่อยซะก่อน ชีวิตมาเฟียไหนจะสบาย วันๆ มีแต่เรื่องให้จัดการ” ฉันขึ้นลิฟท์ เดินก้มหน้าไปยังห้องของตัวเอง แต่ก่อนที่จะถึงห้องกลับถูกรั้งแขนไว้ แถมยังถูกดึงหมวกเสื้อฮู้ดที่คลุมอยู่ออก ฉันตวัดตัวมองคนที่กระทำด้วยท่าที่ขึงขังไปพร้อมกับกำลังจะเตะก้านคอคนที่บังอาจมาแตะต้องตัวฉัน แต่แล้วขาที่กำลังตั้งฉากเกือบร้อยแปดสิบองศาก็หยุดชะงักกลางอากาศ ไม่อยากจะเจอทำไมดันเจอกันตลอด “รุ่นพี่” ฉันชะงักลง แถมข้อมือเขาก็จับแขนฉันอย่างแรง “ไปไหนมาครับ” เสียงหล่อเอ่ยถามแต่ใบหน้าของเขากลับน่ากลัวแปลกๆ ไปโดนรังแตนไหนมา แล้วมาลงกับฉันวะ “รุ่นพี่ ปล่อยแขนฉันก่อน ฉันเจ็บ” ฉันทำหน้ายู่ยี่ มันเจ็บจริงๆ นะแก ถ้าเป็นคนอื่นฉันสวนคืนไปนานแล้วนะ แต่ดูเหมือนว่าพอเขาเห็นหน้าฉันแสดงสีหน้าไม่ดีนักเขาก็คลายมือปล่อยฉันแต่โดยดี ฉันสะบัดแขนไปมาก่อนจะยืนกอดอกจ้องมองเขาอย่างหาเรื่อง “รุ่นพี่มีอะไรจะคุยกับแจนถึงมาดักถึงหน้าห้อง ว่ามาได้เลยค่ะ ”ฉันจ้องเขาไม่ละสายตา นึกว่าฉันจะกลัวเขารึไง ไม่มีทาง มาเฟียอย่างฉันกลั
EP.16(Well Part)หลายชั่วโมงก่อน ผมเดินสวนกับเธอตรงหน้าลิฟท์ของคอนโด แม้เธอจะแต่งตัวมิดชิดสวมฮู้ดดำคลุมหัว สวมแมสปิดหน้า เห็นเพียงแค่ดวงตา ผมก็จำได้ว่าเป็นเธอแจนดูรีบเร่ง และพยายามหลีกเลี่ยงที่จะมองผมอย่างเห็นได้ชัด ตอนแรกผมกะตั้งใจจะรั้งเธอสักหน่อย แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะไม่ทำเพราะก็ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม แล้วมีสิทธิ์อะไรที่จะไปถามเธอแบบนั้น ในเมื่อเธอเลี่ยงที่จะไม่ให้ผมทัก ผมก็ทำเป็นไม่เห็นเธอแล้วกัน ปล่อยผ่านกลับห้องตัวเองเพื่อพักผ่อน หลังกลับจากโรงพยาบาล22.00น.ผมนอนไปนานอยู่เหมือนกัน เพราะตั้งแต่ตะวันตกดินจนตอนนี้ค่ำมืดแสงจันทร์สาดเข้ามาในห้องที่มืดมิด ความเหนื่อยทำให้ผมหลับสนิท แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งตื่นเมื่อได้รับสายทางไลน์จากเพื่อนผม ที่วันนี้ก่อนออกจากโรงพยาบาลมันบอกผมด้วยใบหน้าอารมณ์ดีว่าจะไปเดทกับน้องมีนของมัน เห็นว่าน้องเขางอนที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอกันหรือคุยกันเท่าไหร่ แต่ก็ไม่แปลก พวกผมงานทั้งในมหาลัย และโรงพยาบาลยุ่งกันมากจริงๆ ชนิดที่เวลากินข้าว หรือแม้แต่เล่นเกมในมือถือยังไม่มีเวลาด้วยซ้ำ นี่แหละจึงเป็นเหตุผลที่พวกผมและเพื่อนเรียนหมอหลายคนโสดกันซะส่วนใหญ่ หรือถ้าคนที่มีแฟน
EP.17(Well Part)‘บรืน....’ผมขับรถด้วยความเร็วสูง ตัวผมไม่สามารถทำใจสงบนิ่งได้จริงๆ จากที่ผมพึ่งจะหงุดหงิดเรื่องแจนจอมปากแข็งมาแล้ว ตอนนี้ต้องมาได้รับข่าวร้ายที่กระทบจิตใจผมอย่างจัง เมื่อพ่อแม่ผมนั้น ถูกพวกคนเลวทำร้าย ใครกันช่างกล้าทำร้ายคนของตระกูลผมแสดงว่าพวกมันคงมีอำนาจมากพอควรถึงกล้าลงมือขนาดนี้ หรือจะเป็นพวก ‘มาเฟีย’ แน่นอนว่าถ้าผมรู้ตัวการ ผมไม่ปล่อยพวกมันได้แน่ผมอยากกลับไปเจอพวกท่านเร็วๆ การที่วีโทรหาผมเอ่ยว่าสภาพรถยับเยินมากขนาดนั้น แต่พ่อแม่กลับไม่ได้อยู่โรงพยาบาล นั่นแสดงว่าพวกท่านยังคงปลอดภัยไม่ได้รับอันตรายถึงชีวิต แม้จะโล่งใจไปหน่อย แต่ก็ยังชะล่าใจไม่ได้เมื่อผมขับรถมาถึงคฤหาสน์ บ้านตระกูลของผม และจอดเทียบโรงจอดรถแล้วนั้น รถคันหนึ่งที่คาดว่าพวกท่านขับในคืนวันนี้ สภาพบุบไปทั่วทั้งคันรถ กระจกรถรุ่นพิเศษที่หนาขนาดนั้นถึงกลับมีรอยแตกร้าวได้ ทำเอาตาผมเบิกโพรงไอ้พวกที่ทำกะเอาพ่อแม่ผมตายเลยสินะ ร่างกายจากที่พอสงบนิ่งได้บ้าง กลับกลายเป็นสั่นเทาด้วยความโกรธใบหน้าที่ไม่แสดงสีหน้าอะไรก็ไม่สามารถซ่อนความรู้สึกได้อีกต่อไป สองเท้าวิ่งเข้าตัวบ้านอย่างไม่รอรี“พ่อครับ แม่ครับ” ผมเรียก
EP.43ณ.คอนโดตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล ฉันก็ปิดมือถือเครื่องนั้นไปเลย ฉันรู้ว่าถ้าเดินออกมาพี่แม็กต้องรีบไปบอกพี่เวลล์แน่ ๆ ฉันยังไม่พร้อมที่จะคุยอะไรกับเขา เพราะตอนนี้แค่พูดเสียงสะอึกอันน่าอายนี่เขาต้องได้ยินแน่ ๆรู้นะว่าภาพที่เห็นนั่นมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ แต่ฉันคิดมากไง มากเสียจนไม่อยากจะควานหาคำตอบ ทั้งที่เดินเข้าไปตรงนั้นถามให้รู้เรื่องก็คงจบแล้ว แต่ที่ไม่กล้า เพราะกลัว กลัวจะได้คำตอบที่ไม่อยากได้ยินขึ้นมานะสิฉันผิดเอง ที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นคนงี่เง่า เอาไว้อารมณ์อ่อนไหวต่อความรักนี่ลดลง ฉันจะเป็นฝ่ายไปหาเขาเองเพราะยังไงฉันก็เชื่อใจพี่เวลล์อยู่แล้วล่ะ“อ่าวมาแล้วเหรอ” ยัยมีนที่กำลังนั่งกินขนมดูซีรีส์อยู่กลางห้องหันมาทักทายฉัน“พลอยยังไม่มาเหรอ” ฉันที่มองซ้ายมองขวาไม่เห็นเพื่อนอีกคน“ยังไม่เห็นนะ แกไม่โทรถามล่ะ”“ฉันปิดมือถือ” ฉันพูดก่อนจะโยนกระเป๋าลงโซฟาแล้วนั่งข้าง ๆ ยัยมีนที่มันกำลังวางถุงขนมละสายตาจากซีรีส์และหันมาสนใจฉัน“เ
EP.42(Well Part)ช่วงนี้ผมไม่ได้เจอแจนเลย เพราะผมยุ่งอยู่กับวอร์ดค่อนข้างมาก แถมต้องสะสางงานที่ต้องส่งมหาลัยด้วย จึงได้แค่แชตส่งข้อความ ไม่ก็โทรหากันไม่กี่นาที เหมือนแจนเองก็ยุ่งวุ่นกับการเรียนของเธอเหมือนกัน แต่การไม่ได้เห็นหน้ากันเป็นเวลานานแบบนี้ก็ทำเอาผมรู้สึกแย่เหมือนกันนะ ผมเองก็อยากเจอหน้าเธอสักนิดก็ยังดี อยากได้กำลังใจจากเด็กดื้อคนนั้นตอนนี้ผมอยู่ที่โรงอาหารของโรงพยาบาล กว่าจะว่างมานั่งทานข้าวได้อย่างสบายใจในรอบหลายวันแบบนี้ไม่ได้มีกันง่าย ๆ อีกอยาก เพราะความดื้อดึง ของน้าสาวของผมที่ ตอนนี้กลับมาเป็นแพทย์ประจำการที่โรงพยาบาลของตระกูลหลังจากใช้ชีวิตหลายปีในต่างประเทศน้าใช้อำนาจความเป็นใหญ่คะยั้นคะยอให้ผมมาทานข้าวเป็นเพื่อน มีเหรอที่ผมจะปฏิเสธได้“นี่หลานรัก ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง” น้าผมเอ่ยถามผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ก็เรียนหนักครับ” ผมก้มหน้าทานข้าวเงียบ ๆ ขรึม ๆ ตามสไตล์ของผมนั่นแหละ“น้ากลับจากต่างประเทศเอาของฝากมาให้หลานเยอะเลยนะ อ่อ ฝากเผื่อพี่ส
EP.41หลายวันผ่านมาฉันกับพี่เวลล์ไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่วันนั้น เราได้แต่โทรคุยกันครั้งล่ะไม่เกินสองนาที แชตไลน์ที่กว่าจะตอบกันก็ทิ้งช่วงหลายชั่วโมง ไม่ใช่แค่พี่เวลล์ที่ไม่มีเวลาให้ ฉันเองก็ไม่มีเวลาเหมือนกัน สภาพเพื่อนๆ ทั้งสาขาแทบเหมือนศพเดินได้ ไฟลนตูด ฉันไม่ต่างอะไรกับยัยเพิ้งหัวยุ่ง ยังดีที่พลอยยังเป็นสมาชิกกลุ่มโปรเจคของฉัน ทำให้พอกลับมาห้องก็ยังช่วยกันปั่นงานต่อ ไม่งั้นงานยิ่งไม่เดินแน่ ยัยมีนที่มองสภาพฉันกับพลอยด้วยความสงสาร ก็คอยซื้อข้าวซื้อน้ำมาประเคน คอยจิกให้ทานข้าว เพื่อไม่ให้ตายกันซะก่อนฉันกับยัยพลอยจ้องหน้ากัน พลางหัวเราะ ใส่กันราวกับคนบ้า บางครั้งก็ร้องไห้ฮือออกมากันซะดื้อ ๆ ที่แท้การเรียนหนักจนแทบบ้ามันเป็นแบบนี้นี่เองและแล้วขุมนรกของพวกเราก็ใกล้จะผ่านพ้นไป กลุ่มสมาชิกทั้งห้าคนของพวกเราวางเอกสารปึกใหญ่เกี่ยวกับโปรเจคที่ทำกันแทบขายวิญญาณต่อหน้าคณะอาจารย์สาขา ที่ตอนนี้กำลังเพ่งมองพวกเราด้วยความคาดหวัง สมาชิกกลุ่มทุกคนหันหน้าให้กำลังใจ ปลอบใจกันไปมา พวกเราทำกันเต็มที่แล้วจริง ๆ จนเมื่ออาจารย์
EP.40พี่เวลล์นั่งลงตรงข้ามฉัน ส่วนฉันก็เอาแต่ก้มหน้าก้มทางก๋วยเตี๋ยวแทบไม่มองคนข้างหน้า พอลองเหลือบมองก็พบว่าเขาเอาแต่จ้องฉันอีก แถมคนอื่น ๆ ในโรงอาหารก็ดันสามัคคีรวมพลังกันเงียบเฉียบ ทำอย่างกับรอเสือกข่าวชามโตซะอย่างนั้น ใครจะไปทนความอึดอัดแบบนี้ได้กัน“อะแฮ่ม...พี่มาที่นี่ได้ยังไงคะ” ฉันพยายามพูดออกมาให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ไหนเราตกลงกันแล้วไงว่า อย่าเจอกันในมหาลัย”“ก็ใช่ พี่ก็บอกว่าแล้วแต่แจน” เขาโน้มตัวขยับใบหน้าเข้าใกล้ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเบาบาง“แล้วที่พี่ทำอยู่นี่มันยังไงคะ”“ก็พี่บอกว่าแล้วแต่แจนครับ แต่พี่ไม่ได้บอกว่าพี่จะทำตามด้วยซะหน่อย”“พี่เวลล์!!!” ฉันลืมตัว เผลอลุกขึ้นอุทานเรียกชื่อเขาดังลั่น จนตอนนี้ทุกคนยิ่งสนใจพวกเรามากขึ้นไปอีก“โกรธพี่เหรอ” เหอะ... ดูเอาเถอะเอาคำนี้มายอกย้อนฉัน หายใจเข้า หายใจออก ยัยแจนแกต้องตั้งสติ“พี่รอฉันอยู่ตรงนี้เดี๋ยวฉันมา” ใบหน้าฉันไม่สามารถเก็บสีหน้าบูดบึ้ง และอารมณ์ห
EP.3912.00 น. (ณ. มหาวิทยาลัย)“แปลกๆ....” ที่พออาจารย์ออกจากห้องไป ไอ้นัทก็เดินดุ่มๆ วนรอบโต๊ะของฉัน ใบหน้ามองฉันด้วยความสงสัย“เป็นอะไรของแกไอ้นัท ทำไมเอาแต่จ้องฉันแบบนั้น” ฉันเหลือบมองด้วยสายตาดุไปที่มัน“แจน แกเปลี่ยนไปนะ”“เหอะ....ไอ้นัทแกทำให้ฉันงง” ฉันส่ายหัวไปมาก่อนจะหันไปสนใจเก็บสมุดลงกระเป๋า“แปลกยังไงเหรอนัท พลอยไม่เห็นเข้าใจที่นัทพูด” พลอยที่นั่งข้างกันเอ่ย“พลอย แกไม่เห็นเหรอวันนี้แจนมันใส่กระโปรงพลีทยาว” ไอ้นัทเอ่ย พลางดึงเก้าอี้มานั่งหันหน้าเข้าหาฉัน“ใส่กระโปรงพลีทยาว ละ..แล้วมันแปลกตรงไหนเหรอ ฉันยังใส่เลย” พลอยทำหน้าสงสัย ฉันเองก็สงสัยทำไมการที่ฉันใส่กระโปรงพลีทยาว มันถึงเป็นเรื่องแปลกไปได้ใครๆ ก็ใส่กันไม่ใช่เหรอ“ไอ้นัท..กระโปรงพลีทยาวคนในม.เขาใส่กันให้เบือ”“คนอื่นใส่อ่ะไม่แปลก แต่แกใส่แล้วแปลก”“ฉันไม่เข้าใจความคิดแกว่ะ ทำไมวะ”
EP.38ฉันที่ตอนนี้สวมชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้นของพี่เวลล์อยู่ ส่วนชุดของตัวเองถูกยัดไว้ที่กระเป๋าใบใหญ่ของตัวเอง ซึ่งกำลังค่อยๆ ย่องเข้าห้องช้า ๆ ฉันเชื่อว่ายัยมีนยังไม่ตื่นแน่ ๆ ส่วนพลอยอาจจะยังไม่ตื่น(มั้ง)ก็ได้‘เอี๊ยด......’ฉันค่อย ๆ แง้มประตูให้เบาที่สุด และค่อย ๆ ปิดลงอย่างช้า ๆ ก้าวขาไปทีละก้าว ทีละก้าว ชะโงกมองห้องโถงว่ามีใครอยู่รึเปล่า เมื่อเห็นว่าปลอดคนฉันจึงย่องไปยังประตูห้องของตัวเองและเปิดให้เบาที่สุดพอชำเลืองมองภายในห้องนอน ยังมืดสนิท ผ้าม่านยังไม่เปิดฉันก็ถอนหายใจ พลอยยังไม่ตื่นแน่นอน จึงค่อย ๆ หันหลังเพื่อปิดประตู“เหี้ย!!!!!!!!!!!”เมื่อฉันหันหลังกลับ ใบหน้าของคนสองคนที่ยืนอยู่ด้วยกันหน้าประตูห้อง ก็ยิ้มแฉ่งราวกับตัวร้ายใจซีรีส์สยองขวัญสุดแสนระทึก“ไป...ไหน...มา...คะ” เสียงสูงอันสุดแสนน่าขนลุกของยัยมีนเน้นคำอย่างสยดสยอง ส่วนพลอยที่อยู่ข้างๆ ก็เหมือนจะได้รับเชื้อแย่ๆ จากยัยมีนที่ทำใบหน้ายิ้มอยากรู้อยากเห็นกว่าทุกทีที่เคยคบนางมาฉันจะหันปิดประตู แต่ก็โดน
ตอนนี้ฉันถูกอุ้มมายังห้องพี่เวลล์แบบไม่คาดคิดมาก่อน แต่พอเขาอธิบายฉันก็คล้อยตามเขาไปหมด แต่ก็แอบเห็นด้วยจริงๆ นั่นแหละนี่เป็นเวลาตีสี่แล้ว ฉันทั้งปวดทั้งง่วงมาก อีกอย่างพลอยเองก็เจอเรื่องแย่ๆ มา ให้นางได้นอนพักผ่อนเต็มอิ่มสักหน่อยก็คงดีฉันถูกพี่เวลล์อุ้มมานั่งตรงโซฟา เขาค่อยๆ วางฉันลงอย่างเบามือ ก่อนจะหายไปในห้องเพื่อค้นหาของบางอย่าง ฉันเหลือบมองไปรอบๆ ห้องโถงของเขา ภายในเป็นโทนขาว ดำ เทา ดูสะอาดสะอ้านมาก ข้าวของภายในห้องไม่เยอะเท่าไหร่ อาจเพราะพวกเขาเพิ่งมาพักที่นี่ได้ไม่นาน อีกอย่างคงนอนสลับกับที่โรงพยาบาลแหละ นี่ก็ยังแปลกใจอยู่ทำไมพวกเขาพักคอนโดไกลจากโรงพยาบาลจังฉันวางมือไว้ตรงพนักพิงโซฟา แหงนมองเพดานอย่างเคย พลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ไม่นานนักพี่เวลล์ก็เดินออกมาพร้อมกับกล่องยา เขาวางมันไว้ตรงโต๊ะเล็กหน้าฉัน ก่อนจะเลี่ยงเดินไปห้องครัวรินน้ำมาให้“ทานยาก่อน” เขายื่นยาให้ และฉันก็รับมันมาทาน พร้อมกับน้ำที่เขาตระเตรียมไว้ จากนั้นเขาก็จับขาของฉันพาดมันไว้บนหน้าขาของเขาอย่างเบามือ“คะ?”“พี่จะทายาให้ เห็นไหมฟกช้ำหมดแล้ว” เขาหันมายิ้มให้ฉันก่อนจะหยิบยาหลอดหนึ่งขึ้นมา บีบใส่มือก่อนจะบรร
(Well Part)ตัวผมกระตุกเกร็งแรงเสร็จสุขสม อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หากจะบอกว่าความสุขที่สุดในชีวิตของผมตอนนี้คืออะไร ก็คงจะตอบได้เต็มปากว่า ผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ไง คือความสุขของผมผมที่ตอนนี้เหนื่อยจากการทำกิจกรรมอันเร่าร้อนอย่างหนัก นอนราบบนที่นั่งคนขับปรับเบาะเอนสุด หอบหายใจแรง ปรือตามองผู้หญิงที่ผมชอบมาก ซึ่งกำลังนอนซบอกผมอยู่ ในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง กระโปรงที่ถกมากองเหนือสะโพก เสื้อที่ถูกปลดกระดุมปลดออกไป และบราที่ถูกลดมากองตรงเอวส่วนผมนะเหรอ แม้เสื้อผมจะถูกถกขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่กางเกงผมก็ถูกละไปกองอยู่ตรงข้อเท้าเช่นกัน อีกอย่างน้องชายผมที่ทำงานอย่างหนักยังคงคาอยู่ตรงนั้นของเธอ เพราะเธอฟุบลงอกผมอย่างหมดแรง ผมก็ไม่กล้าขยับตัว กะจะรอให้เธอพักหายใจ คลายความล้าก่อนเดี๋ยวเธอก็คงขยับสะโพกออกไปเองใบหน้าที่หลับตาพริ้มบนอกนั้น ทอดถอนหายใจเป็นจังหวะรดอกผม ลมหายใจอุ่น ๆ กลับมาเป็นจังหวะ ดวงตาที่ปิดมิดของเธอค่อย ๆ คลี่ออก เงยหน้าขึ้นมองผมช้า ๆ สายตาอ่อนแรงนั้นฉายแววออดอ้อน“แจนเหนื่อย ลุกไม่ขึ้น พี่เวลล์ใจร้ายทำรุนแรง รับผิดชอบด้วยค่ะ” ใบหน้าของเธอค้อนผมหน่อย ๆ แต่มันน่ารักชะมัด“พี่ขอโทษ พี่จะร
EP.35เสียงหายใจของฉันและเขาแรงรดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นพาดผ่านแพนตี้ตัวน้อยของฉัน เขาก็หยุดการลูบไล้ขาอ่อนฉันทันทีเขาเลื่อนมือข้างขวาขึ้นมาจับคางฉันให้หันไปหาเขาที่กำลังเชยคางวางพาดบนไหล่ขวา ฉันจึงขยับตัวเล็กน้อยเพื่อเอียงตัวมองเขาให้ถนัด เขาเลื่อนมือกุมท้ายทอยฉันก่อนจะดันเข้าหาใบหน้าเขา ริมฝีปากสองเราปะทะกัน และคราวนี้เป็นฉันบ้างที่เผยอเรียวปากสัมผัส สำรวจกลีบปากเจ้าเสน่ห์ของเขาเขาปล่อยให้ฉันใช้ลิ้นรุกล้ำเข้าไปสำรวจโพรงปากของเขาอย่างเต็มใจแถมสองลิ้นของเราก็เกี่ยวพันกันไปมาจนเกิดเป็นเสียงสัมผัสก่อให้เกิดอารมณ์ปะทุขีดสุด แน่นอนว่าหว่างขาของฉันตอนนี้ชื้นแฉะขนาดที่มองเห็นได้จากภายนอก แพนตี้ตัวน้อย มีรอยเปียกเป็นดวงออกมาให้เห็นชัดแจ่มแจ้ง ฉันไม่อายแล้วล่ะก็มันทั้งเสียว ทั้งซ่านไปทั้งตัวแบบนี้ตอนนี้เอาช้างทั้งตัวมาฉุดให้ฉันออกห่างจากเขา ก็เอาไม่อยู่แล้วพอฉันถอนลิ้นที่สำรวจจนหนำใจของฉันออกมา ฉันก็จ้องหน้าเขาด้วยความลุ่มหลงมือของฉันลูบไล้เขาไปที่ใบหน้าพรมจูบไปทั่ว ไม่ว่าจะหน้าผาก แก้ม จมูก ปลายคาง ทุกส่วนบนใบหน้าทองคำนี้ ฉันจับจองเป็นเจ้าของหมดแล้ว“อ่ะ