นางร้ายอ้อนรักพ่อหม้ายชาวสวนยุค 70

โจวหยางซี หายใจไม่ทัน แต่มีความสุขเหลือเกิน

หูเธอได้ยินเขาพูดไม่ขาดปาก ชมว่าเธอสวย เธอเป็นผู้หญิงแสนวิเศษที่เขาจะไม่มีวันปล่อยให้หลุดมือ

        “เสี่ยวซี ถ้าคืนนี้อั๊วตายคาอก ก็อย่าลืม... เผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้เยอะๆ นะ อ่อ พวกของกินก็ทำให้บ้าง จุดธูปเรียกบ่อยๆ อั๊วก็ไม่อดตายแล้ว”

        เธอแปลกใจที่เขาพูดเป็นลางไม่ดี ทว่าพอชายหนุ่มตัวสั่นรุนแรง และภายในร่างกายหญิงสาวก็รับรู้ถึง...XXX

 ***********************

แนะนำตัวละครคนบ้านเซียว

เซียวหวังเหล่ย พ่อหม้ายลูกสาว ชายหนุ่มวัยสามสิบกว่าๆ มีคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับบิดาว่าต้องแต่งงานกับคนตระกูลโจว เพื่อตอบแทนน้ำใจที่โจวเหวินเคยช่วยชีวิตเซียวหวังเหล่ยไว้เมื่อครั้งเกิดไฟไหม้บ้านเซียว

เซียวก้งเยว่  วัยสิบสี่ย่างสิบห้าปี เป็นเด็กสาวที่เงียบ มีโลกส่วนตัวสูง ภายหน้าเธอ ได้ใช้ความรู้ในการบริหารกิจการของตระกูลเซียว แต่กว่าจะมีวันนั้น เซียวก้งเยว่ ก็หนีออกจากบ้านอยู่หลายครั้งหลายหน

เซียวอู๋ทง  เขาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่หก ร่าเริง กินเก่ง และชอบด้านศิลปะ เมื่อเขาโตขึ้น ได้เป็นเทพบุตรหน้าหยกของเมืองไห่ซาน ดังระดับซุปเปอร์สตาร์ทั่วทั้งเอเชียเลยทีเดียว

 เซียวตี้หลุน หลุนหลุน 5 ขวบ เด็กชายที่แสนน่ารัก ที่เมื่อโตขึ้นก็ช่วยงานบิดาอย่างแข็งขัน แต่สำหรับโจวหยางซี เหมือนทั้งในโลกนิยาย และโลกแห่งความจริงได้ลิขิตไว้ ให้หญิงสาวเกลียดเด็ก เอ่อ... คำนี้รุนแรงไป เอาเป็นว่าเธอ ไม่ถูกกับเด็ก และสรรพสัตว์เกือบทุกชนิดก็ว่าได้ 

        เกริ่นเรื่อง

        นิยายเรื่องนี้ทั้งเขตปกครองพิเศษ ไห่ฉาง และโลกที่นางเอกอยู่ในยุคปัจจุบันล้วนเป็นสถานที่สมมุติ ซึ่งเธอทะลุมิติมาเป็นช่วงเวลาที่บ้านเมืองกำลังมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำ ทั้งการแบ่งฝั่งของแก๊งมาเฟีย กับกลุ่มพ่อค้าตระกูลใหญ่

        โดยเนื้อหากกล่าวถึงโจวหยางซี ซึ่งเป็นเพียงพนักงานร้านสะดวกซื้อแสนจืดชืด ชอบซื้อฉลากกินแบ่งรัฐบาล เล่นหวยใต้ดิน วันหนึ่งหลังจากมีผู้ร้ายบุกร้านสะดวกซื้อ เธอถูกจับเป็นตัวประกัน แล้วถูกลูกหลง เนื่องจากคนร้ายมีปืน ทำให้กระสุนฝังร่าง วิญญาณของเธอมาสวมร่างตัวละครที่อ่านอยู่ทุกวันเป็นนิยายเรื่อง 1974 ฉบับออนไลน์ที่มีจำนวนตอนนับพันตอน และร่างที่เธอสวมเป็นตัวประกอบแสนน่าสงสารมีชื่อแซ่เดียวกันกับเธอ ซึ่งก็คือโจวหยางซี

        ชะตาชีวิตหญิงสาวเหมือนดอกไม้ไฟที่จุดสว่างสวยงามชั่วประเดี๋ยว แล้วดับวูบลง เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ในนิยายขนาดยาว ถึงอย่างนั้นกว่าจะสิ้นลมหายใจได้ก็ผ่านไปจนถึงตอนที่สามร้อยกว่า ส่วนตัวละครอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเซียวหวังเหล่ย และลูกๆ ของเขาทั้งสามคน ล้วนกลายเป็นตัวเอกของนิยายเรื่องนี้ โดยเฉพาะเซียวหวังเหล่ยที่ครองตัวเป็นโสดหลังจากที่ผิดหวังเพราะโจวหยางซีตัดสินใจหนีงานแต่งไปเป็นนางบำเรอให้กังเหริน ฝ่ายเขาทั้งเสียหน้า และผิดหวังในตัวเธอทั้งที่อยากช่วยเหลือ พร้อมคิดหักหน้าตระกูลกัง ที่นับว่าสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ถึงอย่างนั้นฝ่ายของกังเหรินก็ไม่อาจกระตุกหนวดมังกรของเซียวหวังเหล่ย เพราะฝ่ายนี้เรียกได้ว่ายังมีอิทธิอยู่พอตัว เพียงแต่เขาเลือกที่จะอยู่อย่างสงบ และทำสวนผัก เลี้ยงสัตว์ เพื่อการค้า วางอาวุธไม่ข้องเกี่ยวกับธุรกิจสีเทา

        เซียวหวังเหล่ยเป็นคนขยันมุมานะ ทั้งมีความรู้ด้านการเกษตร ยี่สิบปีให้หลังเขาจึงเป็นผู้นำทางการค้า ทั้งมีธุรกิจส่งออกผลไม้ ผัก รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารหลากแปรรูปหลายชนิด จนทำให้ตระกูลเซียวกลับมายิ่งใหญ่เหมือนในอดีต ฝ่ายตระกูลกัง เสื่อมถอยลงเนื่องจากยุคสมัยค่อยๆ เปลี่ยนไป ทั้งมีการปราบปราบแก๊งอันธพาล คนที่เหลือในตระกูลบ้างก็ถูกจับ บ้างก็ถูกกวาดล้าง สิ้นชื่อไปตามๆ กัน

        ดังนั้น เมื่อทะลุมิติเข้ามาในนิยายฉบับยาว โจวหยางซีก็อยากมีชีวิตรอด อยู่อย่างสุขสบายด้วย การเกาะขาทองคำของเซียวหวังเหล่ยไว้ย่อมเป็นการดี ทว่านับแต่เธอก้าวขามาในโลกนิยายนี้ ฝ่ายชายอย่างเซียวหวังเหล่ย กับไม่ได้มีวี่แววสนใจเธอสักนิด ราวกับเรื่องราวบางส่วนได้ถูกเปลี่ยนไป ทั้งหมดนี้ทำให้เธอเข้าใจว่า เป็นผลจาก The Butterfly Effect (บัตเตอร์ฟลาย เอ๊ฟเฟ๊ก) หรือ "ทฤษฎีผีเสื้อขยับปีก" ด้วยตัวหญิงสาวพยายามเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตัวละคร ดังนั้นคนอื่นๆ ที่เป็นตัวหลัก จึงได้มีนิสัยเปลี่ยนไป โดยเฉพาะเซียวหวังเหล่ย ที่กลายเป็นชายวัยสามสิบหกย่างสามสิบเจ็ดปี ที่เผด็จการ ปากร้าย ชอบทำหน้าเบื่อโลก ทั้งยังหวงเนื้อหวงตัวมาก! 

        แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อโจวหยางซี อยากมีชีวิตรอด เธอต้องปีนขึ้นเตียงเซียวหวังเหล่ยให้จงได้ ส่วนเรื่องราวต่อจากนั้น สตรีผู้ล่วงรู้อนาคต และมีสารพัดตัวช่วยจากโลกคู่ขนาน จะใช้วิธีอันแสนสกปรกจัดการปัญหาต่างๆ ที่จะถาโถมเข้ามาด้วยหนึ่งสมอง และสองมือของเธอเอง โดยหารู้ไม่ว่ายามนี้ นิยายได้เปลี่ยนบทไปจากเดิมแล้ว