บททั้งหมดของ นางรำอย่างข้าคงเป็นได้แค่เครื่องบรรณาการของท่านแม่ทัพ: บทที่ 1 - บทที่ 10

32

ภาคเปิดตัว

ภาคเปิดตัว“อ้าว ๆ อย่าชักช้า เร็วดิโว้ย!”เสียงตะโกนจากผู้กำกับวัยดึกเอะอะมะเทิ่งโวยวายแต่เช้ามืดของกองถ่ายละครพีเรียด แผดเสียงดังจนเป็นที่ชินชาของเด็ก ๆ ในกอง ตะวันไม่ทันพ้นขอบฟ้าหากเวลาไม่รอช้า เร่งรีบให้ทันลำแสงแรกเพื่อให้ได้ภาพออกมางดงามที่สุด“ยี่หวา”“คะ ผู้กำกับ”“วันนี้มึงต้องเอาให้สมจริงนะโว้ย”“แหม มือระดับพระกาฬอย่างยี่หวา ไม่พลาดหรอก”“เออจะไว้ใจอะไรได้ ยิ่งไอ้ชุดพวกนี้รุ่มร่ามเกะกะตัว มึงมัดให้ดี”ยี่หวาก้มมองร่างของตัวเองในชุดจีนโบราณสมัยใดเธอเองไม่แน่ใจ ก่อนเงยหน้าขึ้นยิ้มให้ผู้กำกับเมื่อเขาตบบ่าเธอสองครั้ง“มึงไปเตรียมตัวแล้วกัน แล้วไอ้พวกนั้นไปไหนหมด”“กำลังมาถึงแล้วผู้กำกับ”หยาดพิรุณ จินดา หรือ ยี่หวา ยิ้มอ่อนให้ผู้กำกับอีกครั้ง หันกายกลับไปยังลานกว้างเพื่อเริ่มออกกำลังกายเบา ๆ อุ่นเครื่องเธอกวาดตามองกองถ่ายทำในต่างจังหวัดไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก บรรยากาศชนบทตรงหน้าคือบึงน้ำขนาดเล็ก ยอมรับในใจว่าวันนี้รู้สึกวูบโหวงแปลก ๆ ทั้งที่ทำงานเป็นสแตนอินบทยาก ๆ ให้นักแสดงมานานเกือบสิบปีมือเรียวเล็กแต่แข็งแรงสะบัดผ้าชุดจีนโบราณตรงสะโพกขึ้นโบก ซีรีส์ตลกร้ายเรื่องนี้ให้นางเอกดั
อ่านเพิ่มเติม

ภาคดำเนินเรื่อง   1 ยี่หวา

ภาคดำเนินเรื่อง 1 ยี่หวา “เร่เข้ามา เร่เข้ามา ค่ำนี้แม่นางเพ่ยเพ่ยขึ้นเวที ร่ายรำ กระบี่ไร้ใจ”เสียงตะโกนเรียกลูกค้าของเด็กจากหอเยว่โหลว หอสูงราวห้าชั้นทำจากไม้เนื้อดี ตัวหอหันหน้าเข้าสู่คลองลำน้ำสายหลักใสสะอาด และเป็นทางสัญจรทางน้ำที่นิยมใช้กันในเมืองนี้ อีกด้านประตูหน้าติดถนนสายหลักสำคัญ ตลาดทางทิศใต้คึกคักยิ่งนัก“หาวววววว....”ยี่หวายกพัดแบบพับ พัดโบกใบหน้าที่แต่งแต้มสีขาวผ่องอมเหลือง ตรงกลางหน้าผากระบายฮวาเตี้ยนสีแดงลายดอกกุ้ยฮวา นั่งยกขาขึ้นพาดเก้าอี้มองลงยังเบื้องล่าง“เจ้าไห่เทายังเรียกลูกค้าอยู่ได้ ดูสิไร้คนสนใจยังไม่ละความพยายาม”“บ่นพึมพำอะไรผู้เดียวเจี่ยเจีย”สาวร่างเล็กกว่ารูปร่างอรชรเอวคอดสวมชุดสีเขียวสด เสื้อคลุมเนื้อบางใสจนมองเห็นลาดไหล่ขาวราวหยกสีเดียวกับผ้าป่านปี้สีเขียวเข้ม ชะเง้อดวงหน้างดงามคิ้วโก่งดั่งปีกผีเสื้อ ริมฝีปากแดงชาด มองลอดขอบหน้าต่างไม้ฉลุลวดลายของระเบียงนั่งเล่นชั้นสาม อันเป็นห้องนอนของยี่หวา“ฮึ จะอะไรเสียอีก นายแม่จางลี่ให้เจ้าไห่เทาออกไปเรียกแขกแต่หัววัน ตะวันยังไม่ทันเที่ยงตรง จะมีชายใดกันย่างเท้าเข้ามายังหอคณิกาแห่งนี้”“นายแม่สั่งเช่นนี้ถูกต้อ
อ่านเพิ่มเติม

2 เยี่ยนฟาง

2 เยี่ยนฟางยี่หวาลุกคุกเข่าแล้วแย่งขวดสุรากลับมาจากมือเยี่ยนฟางยกกระดกรวดเดียวหมดแล้วหัวเราะร่า เยี่ยนฟางยังมีสีหน้าเพ้อฝันขณะหย่อนร่างลงด้านข้างกัน ชะโงกหน้าออกไปนอกราวกันตก พวงแก้มยุ้ยขึ้นพาดด้วยรอยยิ้มมีความหวัง“เป็นหญิงคณิกาแล้วอย่างไรกัน เรามิได้ขายตัว เพียงขายความสามารถ ข้ายังบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้ราคีและพี่ยี่หวาก็เช่นกัน”“อืม...แล้วถ้าเจ้า ได้เข้าไปเป็นเครื่องบรรณาการจริง เจ้าต้องกลายเป็นหญิงอุ่นเตียงท่านแม่ทัพ เช่นนั้นดีแล้วหรือเยี่ยนฟาง เจ้าคิดดูให้ดีนะ มิสู้อยู่เช่นนี้ ร่ำสุรา” เว้นหัวเราะแกว่งขวดสุราเปล่าตรงหน้า “แสร้งหยอกเย้าบุรุษหลอกเอาเงินเข้าหอเยว่โหลว เก็บเงินให้มากสักหน่อยจากนั้นไถ่ตัวเอง แล้วออกจากที่นี่ท่องเที่ยวไปทั่วยุทธภพ ไม่ต้องพึ่งพาบุรุษใดอีก”“พี่ยี่หวาพูดจาให้ข้าขบขันอีกแล้ว หญิงใดกันที่มิต้องพึ่งบุรุษ”“หญิงอย่างข้าไง”“พี่ยี่หวาเก่งกาจทั้งวาจา เดินหมาก ฉลาดหลักแหลม ชายใดได้พูดคุยย่อมสบายใจ แต่ข้ามิใช่เช่นนั้น ข้าเก่งเพียงร้องเพลงและเต้นรำ ย่อมต้องหาบุรุษที่พึงใจข้า ข้าอาจคลอดบุตรชายให้เขาสักคนแล้วหลังจากนั้นข้าจึงจะสบาย”ยี่หวายกยิ้มเอนกายลักษณะคล้ายบุรุษ
อ่านเพิ่มเติม

 3 ท่านแม่ทัพ

3 ท่านแม่ทัพกุบ กับ กุบ กับ ....เสียงฝีเท้าม้าเร็วพุ่งทะยานโผนตัวฝ่าฝุ่นดินตีตลบยามฝีเท้าม้ากระทบลงพื้นดินชานเมืองหลวงแม่ทัพใหญ่กองทัพเสือดำ หลี่เหว่ยนั่งนิ่งบนหลังม้าสีน้ำตาลเข้มเกือบดำตัวใหญ่ ทอดสายตามองม้าเร็วใกล้เข้ามา นัยน์ตาสีนิลคมกริบเรียวดุจเหยี่ยวรับคิ้วคมเฉียงขึ้นดุจเดียวกับกระบี่ในมือสีเข้ม กรามแกร่งบัดนี้รกครึ้มด้วยหนวดเคราที่ไม่ได้ชำระทำความสะอาดโกนให้เรียบร้อยมาหลายเดือน เสื้อเกราะสัมฤทธิ์เหม็นกลิ่นเน่าบูด รวมไปถึงผมยาวมัดมวยใต้หมวกเหล็กด้วยเช่นกันขอบปากด้านล่างหนากว่าด้านบนเริ่มขยับ เอียงศีรษะไปด้านซ้าย ส่งเสียงไม่ดังมากนัก“มู่เฉิน”ทหารรับใช้คนสนิทขยับฝีเท้าเข้าใกล้ตาดวงตาทอดไกลไปยังม้าเร็วตรงหน้าเช่นกัน“ขอรับท่านแม่ทัพ”“เจ้าคิดหรือไม่ว่าวันนี้ทางเข้าฉางอานไร้ผู้คนสัญจร ไร้ซึ่งพ่อค้าแม่ขายจนผิดสังเกต”“ขอรับ ยามปกติฉางอานมักมีขบวนพ่อค้าต่อแถวยาวเหยียดสุดลูกหูลูกตาตั้งแต่ยามเหม่า[1]”หลี่เหว่ยเพียงฟังแล้วนิ่ง ตัวเขาออกรบเสียสองปี จากบ้านจวนตระกูลหลี่ไปยังชายแดนทางเหนือป้องกันพวกชนกลุ่มน้อยกระทั่งยอมศิโรราบ บัดนี้เมื่อได้กลับมาถึงบ้าน แทนที่จะได้พักผ่อนคงไม่แคล้ว
อ่านเพิ่มเติม

4 เหว่ย

4 เหว่ยขบวนนักรบผู้กล้าเกรียงไกรตั้งแถวหน้ากระดานเรียงสิบ โดยมีท่านแม่ทัพใหญ่หนวดเครารุงรังขี่ม้าตรงกลาง สูงสง่าบึกบึน สวมหมวกเหล็กสีเงิน ธงดำรูปเสือปลิวไสว“ท่านแม่ทัพ ท่านแม่ทัพ”เยี่ยนฟางตะโกนเรียกโบกมือ เช่นเดียวกับคนในถนน ยี่หวาก้มลงมองแล้วยิ้ม“ไม่เห็นหล่อ”“อาเจี่ย รูปงามขนาดนั้น ลองโกนหนวดเครารับรองว่างามราวหยกเนื้อดี”“เชอะ”ยี่หวากระดกจอกสุราจนหมดกำลังลงจากราวกันตกพลันสังเกตเห็นบุรุษรูปหนึ่งสวมเกราะรบเช่นกัน นั่งนิ่งแต่มือคุ้ยข้าวกินราวอดตาย“ท่าน ... ท่านเป็นพวกหนีทหาร รึ”พรวด!! แค่ก ๆ ๆหลี่เหว่ยถึงกับสำลักเมื่อได้ยินเสียงกดต่ำแสร้งดัดให้คล้ายบุรุษทั้งที่เป็นสตรี“ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องรีบกิน”นางขยับตัวเปลี่ยนใจ ไม่ต้องการส่องท่านแม่ทัพผู้เกรียงไกรแล้ว มิสู้พูดคุยกับทหารหนีแถวจะดีกว่ายี่หวาว่าพลางหยิบขวดสุราและจอกหันกลับมานั่งด้วย รินให้ชายขาติทหารตรงหน้า“ข้าชื่อ ชื่อ....” นางนิ่งคิด เพราะไม่ทันได้คิดไว้ล่วงหน้า “ชื่อจุนเฟิง”หลี่เหว่ยไม่ใส่ใจ มือคุ้ยข้าวต่อไปด้วยความหิว เขาเข้าเมืองมาพลันเห็นคนมากมายจึงเลี่ยงขึ้นมานั่งบนหอเสียก่อน รอคนซาค่อยกลับจวน แต่ด้วยความตรากตรำศึก
อ่านเพิ่มเติม

5 จวนตระกูลหลี่

5 จวนตระกูลหลี่จวนตระกูลหลี่แม่ทัพหนุ่มแหงนดวงหน้าแกร่งคมสันกร้าวดุดันมองป้ายตระกูลก่อนกระโดดลงจากหลังม้า เดินตรงมุ่งหน้าขึ้นบันไดกว้างของจวน“หยุด!!”ทหารตัวน้อยร่างผอมยื่นทวนยาวขวางหน้าทันควัน สีหน้าขึงขังน่าหัวร่อจนหลี่เหว่ยยิ้มมุมปาก มือสะบัดยกทวนออกแล้วสาวเท้าออกเดินพลันมีทหารหนุ่มอีกคนดูบึกบึนกว่ายกทวนขวางไว้เช่นกัน“เจ้าบังอาจนัก จวนตระกูลหลี่หากจะเข้าต้องแจ้งชื่อ เจตจำนงเสียก่อน”หลี่เหว่ยก้มมองร่างเล็กของทหารหนุ่มแล้วส่ายหน้า เพียงจากไปรบสองปี จวนตระกูลหลี่ตกต่ำถึงขนาดให้ทหารอายุน้อยซ้ำผอมโกรกเดินยามเฝ้าหน้าประตู ดูแล้วช่างน่าอับอายยิ่ง“พวกเจ้าอยากรู้ชื่อข้า”หลี่เหว่ยเอ่ยด้วยเสียงทุ้มดังไร้ความกลัว ขยับเท้าจะเดินแต่ทวนสองทวนยังขวางไว้“หากเจ้ายังขืนดึงดัน ข้าคงต้องทำร้ายเจ้า”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ทำร้ายข้า คงเป็นเจ้ามากกว่าทหารน้อย”สิ้นคำหลี่เหว่ยรวบทวนสองทวนไว้มือเดียวสะบัดโยนทหารน้อยผอมหล่นลงบันไดแล้วก้าวอาดเข้าจวน“เจ้า เจ้า”สองทหาร
อ่านเพิ่มเติม

6 จินเยว่

6 จินเยว่“ท่านแม่”“เข้ามา”หลี่เหว่ยก้าวข้ามธรณีประตูตรงไปยังห้องทานข้าวเย็นของเรือน มองเห็นหญิงสาวคนเดิมตรงกลางโถงยืนด้านข้าง ก้มหน้านิ่ง ตวัดตาเหลือบเพียงครู่จึงค่อยส่งรอยยิ้มพร้อมทำความเคารพให้มารดา“ลูกมาทำความเคารพช้า ขอท่านแม่โปรดให้อภัย”ท่านแม่ทัพใหญ่โค้งคำนับงดงามมือประสานให้มารดาบังเกิดเกล้า“ลูกเหว่ย”ฮูหยินหลี่ปรี่ตรงเข้าหาลูกชายยิ้มทั้งน้ำตาประคองร่างลูกชายเพียงคนเดียวให้นั่งลง“ไม่เป็นไร เจ้าเหน็ดเหนื่อยตรากตรำลำบากมาสองปี ย่อมต้องการพักผ่อน เป็นแม่เองที่ผิด รู้ทั้งรู้ว่าเจ้าจะมายังนัดคุณหนูสามจวนกั๋วกงจางมา”“ท่านแม่ ข้าโทษตัวเอง ย่อมเป็นข้าที่ผิด”“มา ๆ ทานข้าว ค่ำนี้แม่ให้พ่อครัวทำแพะตุ๋นบำรุงร่างกาย”หลี่เหว่ยกำลังหยิบตะเกียบพลันแม่นางน้อยด้านข้างเคลื่อนร่างเข้าใกล้ตักน้ำแกงใส่ถ้วยยื่นมาวางตรงหน้า ก่อนถอยหลังกลับไปอย่างรู้งาน“อ๋อ เกือบลืมไปเสียสนิท นี่หลานสาวลุงไห่ เจ้าจำได้หรือไม่ ตอนเล็ก ๆ ข้าเคยพาไปกวางโจวครั้งหนึ่ง”“ลุงไห่ ข้าจำได้”“มา ๆ เยว่เ
อ่านเพิ่มเติม

7 หอเยว่โหลว

7 หอเยว่โหลวกุบ กับ กุบ กับหลี่เหว่ยขยับสาบเสื้อคลุมสีเข้มออกดำขณะรถม้าหยุดลงหน้าหอเยว่โหลว ชำเลืองมองหน้ามู่เฉินยังสีหน้าไม่สู้ดีนักจึงยักยิ้มแล้วเปิดม่านลงไปก่อนตุบ!“เชิญท่านแม่ทัพ”หลี่เหว่ยประกบมือโค้งคำนับแล้วจึงเปิดผ้าม่านให้มู่เฉินลงจากรถม้า สีหน้าองครักษ์คนสนิทยิ่งซีดเผือดลงกว่าเดิมจนหลี่เหว่ยต้องทำตาขึงขังใส่ จึงได้จำยอมลุกแล้วออกจากรถม้ามู่เฉินพาร่างสูงใหญ่ก้าวขึ้นบันไดหอคณิกาโดยมีแม่ทัพตัวจริงเดินตามหลัง“ท่านแม่ทัพมาแล้ว เชิญทางนี้ขอรับ ทางนี้”เด็กหนุ่มหน้าตาพอใช้ได้สวมชุดสีเทาอ่อนใบหน้าสะอาดสะอ้านรูปร่างสะโอดสะองติดสำอาง วาดมือผายออกเชิญท่านแม่ทัพด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแล้วจึงเหลียวมองไปยังนายแม่ที่ยืนอยู่เหตุการณ์อยู่ชั้นสองนายแม่หอเยว่โหลวได้สัญญาณจากไห่เทาจึงโบกพัดกลมในมือสองครั้งให้คนชั้นล่างทันที“อาเจี่ยนายแม่โบกพัดแล้ว”เยี่ยนฟางเอียงหน้าไปทางยี่หวาที่วันนี้แต่งกายเป็นบุรุษ ทว่าไม่ปิดบังดวงหน้าเปิดเปลือยไร้เครื่องสำอาง“เจี่ยเจ
อ่านเพิ่มเติม

8 ประมูลสาวงาม

8 ประมูลสาวงามหลี่เหว่ยไม่ยิ้มตอบเพียงปลายหางตาให้จนมู่เฉินยิ้มเจื่อนไป แม่ทัพใหญ่ตัวจริงเบือนหน้ากลับไปยังเวทีกลางหอเยว่โหลว เฝ้าดูกิริยาแม่นางน้อยแต่ละนางสีหน้าตื่นตกใจอุทาน ยกพัดโบกหน้าที่แดงซ่านระเรื่อ มีเพียงคนเดียวตรงกลางที่ดูว่าโกรธจัดจนต้องใช้บัดโบกความเห่อร้อนบนดวงหน้า“สมน้ำสมเนื้อเช่นนั้นหรือ” ยี่หวาพึมพำสะบัดปิดหน้าแดงก่ำเพราะความฉุนเฉียว ก่อนหัวเราะก้องออกมากระพือพัดแรงเดินไปยังด้านหน้าเวทีเกือบถึงขอบพื้นยก ผายมือออกทั้งสองข้าง“ข้าว่างานนี้ถึงประมูลหญิงงามท่านใดไป ไม่ว่าวัยกำดัด วัยขบเผาะ วัยออกเรือน หรือวัยอื่นใดคงไม่มีผลต่อท่านแม่ทัพดอกกระมัง” สีหน้าระรื่นผิดสังเกตจนหลี่เหว่ยเผลอชะโงกกายไม่รู้ตัว“เพราะเหตุใดเจ้าจึงพูดเช่นนั้น” มู่เฉินมิรู้ความโพล่งออกไปแม้กระทั่งหลี่เหว่ยยังยั้งมือรั้งไว้ไม่ทัน“ก็เพราะว่า....ท่านแม่ทัพ มิได้ชื่นชอบสตรีนะสิ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”ความเงียบสงัดปกคลุมทั่วโถงกลางของหอเยว่โหลวทันควัน แต่เพียงชั่วหยดน้ำสุรารินใส่จอกเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นเสียงหัวร่อครึกครื้นพลันสนั่นดั่งคล้ายเสียงฝนกระห
อ่านเพิ่มเติม

9  พับผ้าย้ายเข้าจวน

9  พับผ้าย้ายเข้าจวน “หาวววววววว...”หลี่ฮูหยินปิดปากหาวหวอดใหญ่ ยามเช้าปลายฤดูฝนใกล้ต้นฤดูหนาวอากาศเลวร้ายทั้งเย็นเยียบ ทั้งวังเวง นางกระชับเสื้อคลุมขนสัตว์ที่เพิ่งได้รับพระราชทานลงมาจากเบื้องบน“ฮูหยินเจ้าคะ เกิดเรื่องแล้วเจ้าค่ะ”แม่บ้านโจวผลักประตูพรวดพราดเข้ามายังห้องอุ่นหน้าตาตื่นตระหนกทั้งดวงตาเบิกกว้างจนหลี่ฮูหยินต้องเอ็ด“เจ้าเอะอะแต่เช้ามีเรื่องอันใดกัน ข้านี่ตกใจหมด” หลี่ฉือยกมือทาบอกเหลือบสายตาไปยังหลานสาวจินเยว่กำลังส่งจอกน้ำชาให้“แต่ฮูหยิน เรื่องนี้เรื่องใหญ่ยิ่งเจ้าค่ะ ตอนนี้เกิดข่าวลือทั้งเมืองเรื่องท่านแม่ทัพเป็นพวกต้วนซิ่วเจ้าค่ะ” แม่บ้านโจวพูดพลางหอบหายใจ ตายังเบิกโตแล้วสะดุ้งเมื่อจู่ ๆ หลานสาวหลี่ฮูหยินร้องห่มร้องไห้“ท่านป้า ฮือ ๆ ท่านพี่ ฮือ ๆ เป็นเรื่องจริงหรือเจ้าคะ ฮือ ๆ” จินเยว่ยกมือปาดน้ำตาทิ้งเป็นระยะ ๆ มองป้าห่าง ๆ แปดไม้ไผ่ตีไม่ถึง[1]ด้วยดวงตาบอบช้ำระคนต่อว่า“เจ้าใจเย็น ๆ เยว่เอ๋อร์ ยังมิทันได้สอบความ เจ้าเร่งด่วนตัดสินเช่นนี้
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1234
DMCA.com Protection Status