บททั้งหมดของ เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ: บทที่ 1 - บทที่ 8

8

บทที่ 1 อยากเป็นหมา

อยากเป็นหมา เคยเห็นคลิปหมาแมวในโซเชียลมีเดียไหมครับ ช่วงนี้ผมชอบดูคลิปสัตว์โลกคลายเครียดมาก ทั้งสัตว์ป่าสัตว์บ้าน อย่างของอินฟลูสายสัตว์เลี้ยงที่พาไปโชว์ตัวบ่อยๆก็ดูน่าจะเหนื่อยหน่อย แต่มันมีอีกแบบที่ทำคอนเทนต์สปาหมา ASMR เอาหมามานอนหน้ากล้องแล้วก็ขัดผิวสางขนทาครีมบำรุงโชว์ ไอ้แบบนั้นเนี่ย เห็นกี่ทีผมก็โคตรอิจฉาเลย แล้วคุณดูนั่นสิ คลิปเตรียมอาหาร บนจานหลุมแบนๆนั่นเต็มไปด้วยโปรตีน ผัก และธัญพืช แล้วยังมีแซลมอนชิ้นเบ้อเริ่มถูกจัดไว้อย่างสวยงามอีก อาหารหมาจานนี้จานเดียวมีคุณค่าทางอาหารมากกว่าข้าวที่ผมกินมาทั้งสัปดาห์อีกมั้ง ผมเป็นคนแท้ๆ วันวันหนึ่งผมได้กินแค่ข้าวเหนียวหมูปิ้งไม่ก็บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเท่านั้นแหละ จริงๆวัยใกล้สามสิบอย่างผมน่ะควรดูแลสุขภาพออกกำลังกายได้แล้ว เพื่อนวัยเดียวกันจูงมือกันเข้าคลาสพิลาทีส ปีนผา เข้ายิมกันหมด แต่อย่างผมนี่แค่หาเวลานอนได้ก็เก่งที่สุดแล้ว ไม่ได้พูดเกินจริงนะครับ กับเงินเดือนขี้ปะติ๋วแค่นี้ผมทำงานหนักเป็นวัวเป็นควายเลยแหละ ผมสมัครงานเข้ามาเป็นกราฟฟิคดีไซเนอร์ของบริษัทแฟชั่นขายปลีกเล็กๆแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ในแผนกผมมีผมแค่คนเดียว ไม่มีหัวหน้า ไม่มีลูกน
Read More

บทที่ 2 ไม่ล้อเล่น

ไม่ล้อเล่น ผมให้เพื่อนเอชอาร์ช่วยจัดการเรื่องลาออกของผมให้เร็วที่สุด ผมใช้วันลาพักร้อนที่เหลือทั้งหมด พี่ตาลอนุมัติให้โดยไม่ได้ยื้ออะไรผมมาก เธอขอบคุณสำหรับความทุ่มเทที่ผ่านมาแล้วก็อวยพรขอให้ผมโชคดี วันถัดมาเจ้านายใหญ่คนนั้นที่ต้องเซ็นให้ผมเป็นคนสุดท้ายก็ตวัดปากกาอนุมัติง่ายๆไม่ได้มีเรียกผมไปพูดคุยหรืออะไรแต่อย่างใด แค่ฝากพี่ตาลมาแจ้งให้ผมลาสเดย์ได้เลยวันนี้โดยไม่ต้องรอกำหนด 30 วันตามระเบียบบริษัทเพียงเท่านั้น เพื่อนเอชอาร์นินทาให้ผมฟังว่าบอสเห็นว่าผมหมดใจก็เลยไม่รู้จะให้อยู่ต่อไปทำไมจึงอนุมัติให้ออกได้ทันที ผมยักไหล่ เหนื่อยจะทำความเข้าใจเจ้านายเจ้าอารมณ์ ขั้นตอนการลาออกจากที่ทำงานจบลงง่ายๆในวันเดียว ใจผมเคว้งคว้างนิดหน่อยที่ลาออกมาโดยไม่มีอะไรรองรับ ผมเก็บข้าวของแล้วร่ำลาเพื่อนร่วมงานที่สนิทกันอยู่บ้าง ผมโกหกทุกคนไปว่าได้งานใหม่แล้วเพราะไม่อยากตอบคำถามจุกจิก ทุกคนที่เห็นสภาพผมต่างบอกว่าดีแล้วและอวยพรให้ผมโชคดี ผมเดินสะพายกระเป๋าออกจากออฟฟิศตั้งแต่พระอาทิตย์ยังส่องสว่างเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน อากาศยามบ่ายถึงจะร้อนแต่ก็สดชื่นเพราะผมได้หายใจเต็มปอดสักที ใจหายนิดหน่อยแต่ไม่อาวรณ์เล
Read More

บทที่ 3 เมาเป็นหมา

เมาเป็นหมา พูดถึงพี่วศิน เขาเป็นผู้ใหญ่ที่ดูจะเป็นหัวหน้าในฝันของใครหลายๆคน เป็นคนใจดี ยิ้มง่าย ไม่ค่อยจะดุอะไร พึ่งพาได้ แล้วก็ตั้งใจรับฟังเราอยู่เสมอ พร้อมเสนอวิธีแก้ปัญหาให้เราทุกครั้งที่เจอปัญหาอีกต่างหาก (แม้บางทีผมจะแค่บ่นเฉยๆก็ตาม) ก็เป็นผู้ใหญ่ใจดีแสนอบอุ่นในฝันของพนักงานกินเงินเดือนอย่างเรานั่นแหละ ผมเชื่อว่าสาวๆหลายคนคงอยากมีสามีอย่างเขา นานมาแล้วผมเคยถามเขาเรื่องแฟนแต่เขาก็บอกว่ายังไม่มี ผมไม่อยากจะเชื่อจริงๆว่าเขาจะรอดเป็นโสดมาได้จนอายุปานนี้ ผมมักจะแซวว่าเขาแก่เป็นลุงอยู่บ่อยๆ แต่นั่นเป็นเพราะเขาอาวุโสที่สุดในกลุ่มเฉยๆ จริงๆเขาอายุแค่สามสิบแปดเท่านั้นเอง ทั้งที่เขาทำงานสายเทคที่ต้องวิ่งตามความรวดเร็วของเทคโนโลยีให้ทันอยู่เสมอ แต่พี่แกกลับตามกระแสอะไรในอินเตอร์เน็ตไม่ทันสักอย่าง ผมก็เลยอดไม่ได้ที่จะแซวพี่วศินบ่อยๆ และเมื่อเทียบกับอายุที่ก้าวเข้าสู่วัยกลางคนของเขา เขาดูแลตัวเองได้ดีมาก ร่างกายของเขากำยำอย่างคนออกกำลังกายเป็นประจำ ผิดกับพี่ชายคนโตของผมที่ลงพุงไปแล้วเรียบร้อย ผมรู้จักแขนล่ำๆที่เผลอไปกอดตอนเมาอยู่บ่อยๆนั่นดี แต่ผมเพิ่งจะรู้เอาวันนี้ว่าเขาถึงขั้นมีซิกแพ็ค มี
Read More

บทที่ 4 เจ้านาย

เจ้านาย ป๊อก “โอ๊ย!” ผมโดนดีดหน้าผาก ความเจ็บทำให้ผมคลำหน้าผากตัวเองป้อยๆ “พี่วศิน เจ็บนะ!” “พี่ก็เจ็บเหมือนกัน” ตอแหล คนใจดีก่อนหน้านี้หายไปไหนวะ ผมโวยวาย “เจ็บอะไร ดีดผมแล้วพี่เจ็บอะไร” “เจ็บใจ” เขาตอบหน้านิ่งๆ “ขอร้องเลย” ผมทำหน้าเอือมกลับไปให้เขา มุกน้ำเน่าเหี้ยอะไรนี่ “...” “...” เรานั่งจ้องตาเงียบๆกันสักพัก เขายังยึดข้อมือผมเอาไว้อยู่ ดวงตาสีดำกดดันจนผมต้องหลบตาสารภาพบาป “เราก็แค่เล่นกันตอนเมาไม่ใช่เหรอ” พี่วศินถอยกลับไปนั่งตามสบาย เขาทำหน้าบึ้ง “หมาขี้โกหก” “ก็ผมสนุกเกินไปหน่อย” ผมเถียงข้างๆคูๆ “พี่จะเลี้ยงผมจริงๆรึไงเล่า” “เลี้ยงได้สบายมาก” เขายืนยัน “ไม่เอาแล้วเหรอเจ้านายรวยๆน่ะ” “เอา” ไอ้ห่า สัญชาตญาณไวกว่าสมองสุดๆ ผมหันกลับไปมองหน้าเขา บอกไม่ถูกว่าตัวเองทำหน้ายังไงอยู่แต่พี่วศินมองแล้วเผลอยิ้มออกมา “แล้วจะแกล้งลืมทำไม” ป๊อก
Read More

บทที่ 5 พี่ขออย่างเดียว

พี่ขออย่างเดียว ได้เป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักของเจ้านายใจดีมีฐานะ ชีวิตในฝันของผมมันง่ายแค่นี้เอง จากฝันลมๆแล้งๆ ของคนขี้บ่น สุดท้ายจับพลัดจับผลูจนเป็นจริงขึ้นมาได้แบบงงๆ แต่ถึงกระนั้น พอผมเริ่มชีวิตใหม่ในฐานะสุนัขวันแรกก็โดนเจ้าของทิ้งให้เฝ้าบ้านเสียแล้ว ทีแรกผมตั้งใจจะนอนตื่นสายอย่างไม่เกรงใจเจ้าของบ้าน แต่พี่วศินเคาะประตูปลุกผมให้ตื่นไปกินข้าวเสียก่อนก็เลยต้องตื่น เขาทำอาหารเช้าง่ายๆไว้ให้ อา… เลี้ยงดียิ่งกว่าผมใช้ชีวิตอยู่เองจริงๆ ผมเดินสะโหลสะเหลเข้าห้องน้ำ ตอนที่เดินมาถึงโต๊ะอาหารที่มีโจ๊กหมูส่งกลิ่นหอม พี่วศินก็เตรียมตัวพร้อมออกจากบ้านแล้ว เขาสวมเสื้อเชิ้ตผูกไทด์ทับด้วยสูท ผมสั้นสีดำที่ปกติมักจะปล่อยไว้ตามสบายก็ถูกเซ็ตขึ้นเรียบร้อย ดูเนี้ยบกว่าปกติที่ผมเคยเห็น “นี่พี่ทำเองเลยเหรอ” ผมก้มมองชามโจ๊กบนโต๊ะอาหาร “พี่ซื้อมาน่ะ” เขาเฉลย “อ๋อ” ผมไม่แปลกใจ “ส่วนมื้อกลางวันอยากกินอะไรสั่งเอานะ” พี่วศินพูดพลางยื่นบัตรแข็งใบหนึ่งวางบนโต๊ะข้างๆชามโจ๊ก “ใช้บัตรพี่ได้เลยตามสบาย” “โห
Read More

บทที่ 6 กายภาพล้วนๆ

กายภาพล้วนๆ มีเรื่องหนึ่งที่ผมไม่เคยเล่าให้ฟัง วันที่ผมอยู่ในบ้านหลังใหญ่หลังนี้เพียงลำพัง ในเวลาที่ผมเบื่อเกินกว่าจะทำอะไร ผมพาตัวเองมาหากิจวัตรเดิมๆที่ต้องใช้ในเวลาที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวที่สุด ผมปล่อยตัวปล่อยใจไปตามความต้องการ ผมไม่ได้จินตนาการถึงคนที่ออกไปทำงานนอกบ้านด้วยชุดทำงานทะมัดทะแมงคนนั้น เขามีส่วนให้ผมคิดถึงบ้างก็จริง แต่เหตุผลหลักเป็นเรื่องของธรรมชาติล้วนๆ ผมนอนไถหน้าจอสมาร์ทโฟนอยู่ในห้องส่วนตัวปิดมิดชิดที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ เอนหลังพิงหัวเตียง แผ่นหลังและต้นคอของผมโค้งงอในท่าที่นักกายภาพบำบัดจะต้องโกรธ แต่ผมไม่สนใจหรอก ตอนนี้ผมสนแต่การเคลื่อนไหวในจอสี่เหลี่ยมเล็กๆเท่านั้น มันไม่ใช่ความปรารถนาที่หาทางออกไม่ได้ มันไม่ใช่อะไรที่เข้มข้นปานนั้น เป็นเพียงความเคยชินที่วูบผ่านมาผ่านไปในชีวิตของผมโดยทิ้งร่องรอยเพียงเบาบางเอาไว้ ผมเลื่อนนิ้วกดดูคลิปที่ตนสนใจ ปล่อยให้ภาพเคลื่อนไหวเหล่านั้นกระตุ้นเร้าอารมณ์ของตัวเองด้วยความเต็มใจ เม็ดเลือดเดินทางเร็วรี่อยู่ในร่างกาย มันรวมกันก่อการประท้วง ผมแลบลิ้นเลียริมฝีปากแล้วล้วงมือเข้าไ
Read More

บทที่ 7 เผย

เผยพี่มะลิเคยแนะนำลูกสาวให้พวกเรารู้จักครั้งหนึ่ง เด็กหญิงมีชื่อว่ามานี อายุแปดขวบ กำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่สามมานีเติบโตมาในครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวโดยมีคุณตาคุณยายเป็นอีกกำลังสำคัญ พี่มะลิไม่เคยเล่าเรื่องพ่อของมานีให้ฟัง พวกเราเองก็ไม่เคยถาม รู้เพียงแค่มานีเป็นเด็กโตเร็วที่ได้รับความรักเต็มเปี่ยม เด็กหญิงเชื่อว่าตัวเองโตพอดูแลตัวเองได้แล้ว และเธอก็ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะดูแลคุณแม่ที่ทำงานสายตัวแทบขาดคนเดียวของเธอด้วยผมเคยสงสัยว่าทำไมพี่มะลิถึงออกมาเที่ยวดึกๆ ดื่นๆ ได้บ่อยทั้งที่มีลูกเล็ก พี่มะลิส่ายหน้าแล้วเล่าให้ฟังด้วยความภูมิใจกึ่งหวั่นใจ“มานีบอกว่าแม่ไปเที่ยวเถอะค่ะ มานีจะดูละครกับคุณยาย ดูยัยเด็กนี่พูดสิ” พี่มะลิหัวเราะ ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือจะเครียดดี “ตอนขายประกันใหม่ๆพี่นัดลูกค้าช่วงค่ำถึงดึกบ่อย มัวแต่ทำงานไม่ลืมหูลืมตา รู้ตัวอีกทีมานีก็ชินแล้วที่พี่ไม่อยู่บ้านเวลานี้ พอพี่กลับไปหาลูกลูกก็บอกว่าไม่ต้องหรอกค่ะ มานีไม่เหงา ว่างั้นแน่ะ”“โคตรเก่ง” ผมจุปากชม “แต่จริงๆ มานีอาจจะอยากให้พี่อยู่หรือเปล่า”“พี่เคยอยู่แล้ว” ใบหน้าพี่มะลิมีร่องรอยดำทะมึน เธอกระดกเบียร์ดำเข้าไปอีก “
Read More

บทที่ 8 มารร้าย

มารร้ายมันใหญ่อย่างที่ผมคิด สีออกคล้ำกว่าผิวกายเขาเล็กน้อย ครั้งก่อนผมขัดอกขัดใจที่โดนจับปอกจนล่อนจ้อนอยู่คนเดียว ไม่ได้เห็นอะไรๆของอีกฝ่ายสักนิด แต่ครั้งนี้มันเด้งผึงอยู่ตรงหน้าเต็มๆตาแล้ว ผมอดกลืนน้ำลายไม่ได้ความร้อนแนบอยู่ข้างแก้มผม ผมกุมมันเอาไว้แล้วแลบลิ้นเลียจากโคน พี่วศินเป็นคนที่อุณหภูมิร่างกายอุ่นกว่าชาวบ้าน เจ้าตรงนี้จึงร้อนกว่าใครๆเช่นกัน ปลายลิ้นผมฉวัดเฉวียนหยอกล้อตั้งแต่โคนจรดปลายเหมือนกับแมลงน่ารำคาญ พี่วศินขมวดคิ้วอย่างขัดใจอยู่บนนั้น ผมอมยิ้มมองเขาแล้วจึงครอบริมฝีปากลงไป“หมิง…” เขาครางเสียงต่ำจริงๆแล้วอวัยวะของคนมันไม่มีรสชาติอะไรหรอก แต่ผมดูดกลืนมันราวกับเอร็ดอร่อยเต็มที ลิ้นของผมลากไปรอบๆความอบอุ่นในปากในขณะเดียวกันกับมือที่ขยับขึ้นลง พี่วศินก้มมองผมเสมือนว่านี่เป็นทิวทัศน์ที่งดงาม ผมเอียงคอสบตาเขาแล้วดันส่วนปลายให้ลึกลงไปยิ่งขึ้นจนถึงคอ ดูดมันเหมือนกับไอศกรีมแท่งหนึ่งแล้วจึงดึงออกมา เมื่อหัวหยักสัมผัสกับริมฝีปากและลิ้นเรียวผมก็ดันมันกลับเข้าไปในคออีก สลับไปมาอยู่เช่นนั้นผมทำงานขยันขันแข็ง ไม่ใช่เพื่อเงินแต่เพื่อสนองราคะของตัวเองเมื่อผมสัมผัสได้ถึงความสั่นสะเทื
Read More
DMCA.com Protection Status