Share

บทที่ 8 มารร้าย

มารร้าย

มันใหญ่อย่างที่ผมคิด สีออกคล้ำกว่าผิวกายเขาเล็กน้อย ครั้งก่อนผมขัดอกขัดใจที่โดนจับปอกจนล่อนจ้อนอยู่คนเดียว ไม่ได้เห็นอะไรๆของอีกฝ่ายสักนิด แต่ครั้งนี้มันเด้งผึงอยู่ตรงหน้าเต็มๆตาแล้ว ผมอดกลืนน้ำลายไม่ได้

ความร้อนแนบอยู่ข้างแก้มผม ผมกุมมันเอาไว้แล้วแลบลิ้นเลียจากโคน พี่วศินเป็นคนที่อุณหภูมิร่างกายอุ่นกว่าชาวบ้าน เจ้าตรงนี้จึงร้อนกว่าใครๆเช่นกัน ปลายลิ้นผมฉวัดเฉวียนหยอกล้อตั้งแต่โคนจรดปลายเหมือนกับแมลงน่ารำคาญ พี่วศินขมวดคิ้วอย่างขัดใจอยู่บนนั้น ผมอมยิ้มมองเขาแล้วจึงครอบริมฝีปากลงไป

“หมิง…” เขาครางเสียงต่ำ

จริงๆแล้วอวัยวะของคนมันไม่มีรสชาติอะไรหรอก แต่ผมดูดกลืนมันราวกับเอร็ดอร่อยเต็มที ลิ้นของผมลากไปรอบๆความอบอุ่นในปากในขณะเดียวกันกับมือที่ขยับขึ้นลง พี่วศินก้มมองผมเสมือนว่านี่เป็นทิวทัศน์ที่งดงาม ผมเอียงคอสบตาเขาแล้วดันส่วนปลายให้ลึกลงไปยิ่งขึ้นจนถึงคอ ดูดมันเหมือนกับไอศกรีมแท่งหนึ่งแล้วจึงดึงออกมา เมื่อหัวหยักสัมผัสกับริมฝีปากและลิ้นเรียวผมก็ดันมันกลับเข้าไปในคออีก สลับไปมาอยู่เช่นนั้น

ผมทำงานขยันขันแข็ง ไม่ใช่เพื่อเงินแต่เพื่อสนองราคะของตัวเอง

เมื่อผมสัมผัสได้ถึงความสั่นสะเทือนเล็กๆจากภายใน พี่วศินก็กดหัวผมเอาไว้ ท่อนเนื้อนั้นยัดลึกลงมามากกว่าที่ผมควบคุมด้วยตัวเอง ดวงตาของผมเบิกโพลง รู้สึกเหมือนจะสำลักเอาเสียให้ได้ แต่นั่นไม่อาจหยุดความมุ่งมั่นของผม ผมดูดกินมันอย่างแรง เร่งความเสียวซ่านให้ชำเราพี่วศินมากขึ้นมากขึ้น เมื่ออวัยวะในโพรงปากนุ่มสั่นกระตุก พี่วศินจึงดึงมันออกจากปากผม เขาชักรูดมันสองสามครั้งน้ำสีขาวขุ่นก็พุ่งออกมา ราดรดลงบนใบหน้าผมที่นั่งรอ

ผมหัวเราะพลางปาดของเหลวข้นเหนียวออกจากเปลือกตา “ฮะๆ นี่พี่ชอบแตกใส่หน้าเหรอเนี่ย”

พี่วศินก้มลงมาเช็ดปลายคิ้วของผม ดวงตาสีดำมีความรักใคร่ที่น่าพรั่นพรึงอยู่ในนั้น “ก็ใช่อยู่หรอก แต่กับหมิงพี่น่าจะได้แตกใส่อีกหลายที่เลยล่ะ”

เหลือจะเชื่อ แค่คำพูดเขาผมก็เสียวแล้ว

“ไอ้ที่บาร์คืออาหารเรียกน้ำย่อย ส่วนที่นี่คือเมนดิชใช่ป่ะ” ผมแซวพี่วศินที่ดูจะวางแผนมาอย่างดี เส้นความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายและสุนัขของพวกเราเลือนรางลงทุกที

“อืม พี่รอกินเมนดิชแล้วเนี่ย” พี่วศินตอบหน้าตาย เขาไม่อายกับคำพูดตัวเองสักนิด

กับห้องที่ใช้นอนเพราะ ‘เมาจนขับรถไม่ไหว’ ก็ยังอุตส่าห์จองเป็นห้องสวีทเสียอีก ผมมองเขาถอดเสื้อผ้าลงไปนั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำเรียบร้อย มัดกล้ามและก้นแน่นที่ใฝ่ฝันนั้นผมได้เห็นเต็มตาแล้ว ผมเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน คนผิวแทนเนี่ยโคตรขี้โกงเลยเวลาแก้ผ้า ทั้งลอนกล้ามและความนวลเนียนของผิว แค่มองเขาผมก็ตื่นแล้ว

พี่วศินที่นั่งอยู่ในอ่างกวักมือเรียกผมหย็อยๆ ทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กเสี่ยคนหนึ่ง

ผมเกี่ยวกางเกงในสีขาวโยนทิ้งไปอีกทางแล้วก้าวเท้าลงไปในอ่างอาบน้ำเดียวกัน เจ้าลูกรักแข็งตัวชี้หน้าคนที่นั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำ แต่ก็เรื่องปกติเปล่าวะ คนกำลังจะมีเซ็กส์กันก็ต้องปึ๋งปั๋งสิ

“วัยรุ่นนี่มันปึ๋งปั๋งดีจริงๆ” เขาพูดเหมือนคนแก่

“วัยรุ่นอะไรเลยมานานแล้วป้ะ” ผมตีน้ำใส่เขา “ลุงเหอะแข็งแรงเกินเด็กไปเปล่า”

“อย่าเรียกลุงสิ มันเจ็บหัวใจนะ” เขาแสร้งจับอกตัวเองเหมือนเจ็บปวดเหลือทน “เรียกพี่น่ะดีแล้ว”

“ได้ครับเจ้านาย” ผมกวน

ผมนั่งชันเข่าประจันหน้ากับเขา น้ำในอ่างถูกตีฟองจนมองไม่เห็นภาพใต้ผิวน้ำ ผมจมตัวเองลงไปจนเหลือแค่คอ ลูบไล้เนื้อตัวเพื่อทำความสะอาดได้ไม่กี่ครั้งพี่วศินก็ดึงผมเข้าไปใกล้ เขาจับผมหมุนตัวโดยมีร่างใหญ่ซ้อนอยู่ด้านหลัง ถึงจะมองไม่เห็นแต่สัมผัสแข็งๆที่บั้นท้ายทำให้ผมนึกภาพออก ลุงคนนี้เพิ่งเสร็จไปแต่ดันแข็งแรงอย่างที่ผมพูดไม่มีผิด

แขนแข็งแรงของพี่วศินโอบล้อมมาด้านหน้า ผิวกายผมเป็นสีขาวจัดตัดกับผิวสีแทนของเขา ร่างสูงของผมไม่ถึงกับผอมแต่ก็ไม่มีกล้ามเนื้อมากนัก ช่างผิดกับหุ่นของคนที่ดูแลสุขภาพเป็นอย่างดีอย่างเขาเช่นกัน ฝ่ามือใหญ่คู่นั้นลูบไล้เนื้อตัวผมจนมาถึงแผ่นอก เขาจับมันบีบหนุบหนับ

“หมาตัวนี้มีนมด้วยอ้ะ” หน้าตาเขาดูปกติ แต่จากคำพูดของพี่วศิน ผมว่าเขาแอบเมาจริงๆไม่ได้โกหกแล้วล่ะ

ผมเอนหลังพิงตัวเขา “นมพี่ใหญ่กว่าอีก”

“ของพี่เป็นกล้าม” เขาพูดอวดโอ่ เสียงหัวเราะจากในลำคอของเขาฟังดูน่าหมั่นไส้ มือที่นวดหน้าอกผมอยู่เริ่มซุกซนถึงบริเวณปลายยอด พอปลายนิ้วเขาสะกิดโดน ความรู้สึกแปลกๆพลันแผ่กระจายไปทั่วตัว

มือเขาไม่เคยอยู่นิ่ง เขาเป็นเจ้านายที่ปรนเปรอสุนัขของตนอย่างดีเสมอ ตัวตนเบื้องล่างของผมเต้นเร่าอยู่ในมือเขา ความอบอุ่นของฝ่ามือกับน้ำเย็นๆทำให้ผมเสียววาบ ยิ่งเมื่อนิ้วมือนั้นไต่ลงต่ำไปถึงส่วนเร้นลับ ผมก็เผลอส่งเสียงออกมาเบาๆ

“ตรงนี้มันคิดถึงอะไรอยู่หรือเปล่า” ปลายนิ้วของพี่วศินสะกิดเขี่ยบริเวณนั้นอย่างน่าอึดอัด ผมบิดตัวอยู่ในอ้อมแขนเขา อยากถูกเติมเต็มมากกว่าการหยอกล้อแค่ผิวเผิน ผมรู้ว่าผมคิดถึงอะไร แต่จะไม่บอกเขาหรอก

ผมพลิกตัว หันกลับไปคร่อมเขาเอาไว้แล้วจูบ ส่งลิ้นที่เล็กกว่าเขาเล็กน้อยเข้าไปสำรวจภายในโพรงปากอุ่น พี่วศินหลับตาพริ้ม ลิ้นของเขาหยอกล้อกับลิ้นผมอย่างเป็นสุข ริมฝีปากของเราบวมเจ่อ แต่มิวายมันยังคงโหยหากันและกันอย่างไม่รู้เบื่อ เสียงจูบดังอยู่ข้างหู เมื่อมันแยกจากก็ทิ้งสายใยเชื่อมกันเอาไว้ ผมเลียริมฝีปากอุ่นของเขาอย่างเคยตัว

“พี่วศิน ไปที่เตียงกันเถอะ” ผมคล้องคอเขาเอาไว้

“เอาสิ” พี่วศินตอบในลำคอ แต่กลับครอบริมฝีปากลงบนยอดอกของผม ไม่พาผมไปที่เตียงดังที่รับปาก ลิ้นหนาและร้อนหยอกล้อหัวนมจนมันแข็งขึ้น เมื่อลิ้นลากผ่านความรู้สึกเสียวปลาบก็วิ่งพล่านไปทั้งกาย

ปลายนิ้วมือของพี่วศินลูบไล้บั้นท้ายของผม มันไล่จากสันหลังลงไปถึงก้นกบ แหวกฝ่าก้นกลมกลึงทั้งสองเข้าไปตรงกลาง ตรงเข้าไปนวดจุดที่เขาเคยเย้าแหย่อยู่ใต้น้ำ น้ำสบู่ทำให้มันไม่ฝืดมากนักแต่ก็ไม่มากพอที่จะทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย ผมเด้งตัวขึ้นมาเหนือน้ำเมื่อปลายนิ้วของเขาพยายามแหย่เข้าไป

“เจ้านาย…” ผมออดอ้อน เบียดอกตัวเองเข้ากับใบหน้าเขา รอยตอหนวดสั้นๆที่คางของเขาทำให้ผมรู้สึกจั๊กจี้ ใบหน้าคมคายของพี่วศินเงยขึ้นสบตากับผม เขาดูสงบและผ่อนคลาย เหมือนคนที่หยอกล้อกับสัตว์เล็กเพื่อความบันเทิง

พี่วศินละมือ “หมิงอยากได้อะไร”

“พาผมไปที่เตียงเถอะครับ” ผมลุกขึ้นจากน้ำแล้วหันหน้าไปด้านข้าง ดึงมือเขาให้ลุกขึ้นตามด้วย ห้องนอนกับห้องน้ำของโรงแรมแบ่งส่วนแยกกันแต่กลับมีกลไกให้สามารถเลื่อนบังตาออกได้ หากมีคนนั่งอยู่บนเตียงคิงไซซ์ข้างนอกนั่น เขาก็สามารถมองเห็นกิจกรรมที่ผมกับพี่วศินทำในห้องน้ำได้หมดจดเลยทีเดียว

“ตามใจหมิง” เขาพูดแล้วจูงผมก้าวออกมายืนบนพรม พี่วศินคว้าผ้าเช็ดตัวสีขาวมาห่อตัวผมเอาไว้แล้วย่อช้อนเอว แบกผมพาดไหล่ทั้งอย่างนั้น

“พี่วศิน!” ผมร้องเสียงหลง ความสูงของเขาทำเอาใจผมแทบร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม อาการหวาดเสียวว่าหัวจะชนเพดานยังไม่ทันหาย ร่างกายผมก็ลอยหวือลงบนเตียงสปริงชั้นดีเสียก่อน พี่วศินทาบทับลงมาโดยไม่เว้นช่วงให้ผมหายตกใจ

จูบรสเผ็ดร้อนบรรเลงขึ้นบนเตียงนุ่ม เขาแทรกตัวเองเข้ามาตรงกลางระหว่างขาทั้งสองข้างของผม ในภาวะที่ผมกำลังมึนเมาในจุมพิต สัมผัสเย็นและลื่นก็ตกลงบนจุดศูนย์กลาง ผมตัวสั่น มือใหญ่ของพี่วศินลูบไล้แก่นกายของผมกับเจลหล่อลื่น ทั้งมือของเขาชุ่มไปด้วยของเหลวลื่น ปลายนิ้วเหล่านั้นกดนวดช่องทางด้านหลังของผมอย่างอดทน ผมคว้าเอาท่อนเนื้อแข็งของเขาเอาไว้ ช่วยเตรียมความพร้อมให้มันแม้มันจะพร้อมอยู่นานแล้วก็ตาม

“เด็กดี อ้าปาก” พี่วศินชันตัวขึ้น จ่อไอศกรีมช็อกโกแลตอันใหญ่ลงบนปากของผม ผมอ้าปากรับไว้ด้วยความเต็มใจ ละเลงน้ำลายของตนลงบนไอศกรีมแท่งนั้น เจ้านายของผมขมวดคิ้วด้วยแรงอารมณ์แล้วดึงออกถอยกลับไป เขายันใต้ข้อพับเข่าทั้งสองของผมขึ้น ปลายเท้าทั้งคู่ชี้ไปบนเพดาน ผมเป็นเด็กดีนอนรอ ดูว่าเขาจะทำอะไรกับร่างกายที่ซื่อสัตย์ของผมบ้าง

พี่วศินดึงมือผมไปซ้อนไว้ใต้เข่าตัวเอง “หมิงจับไว้นะ”

ผมยิ้มอย่างเผลอไผล “ครับ”

“อย่าเสร็จซะก่อนล่ะ” พี่วศินเหยียดยิ้มมุมปาก แล้วแทรกนิ้วที่ชุ่มฉ่ำด้วยเจลหล่อลื่นเข้าไปในช่องทางเร้นลับ 

“จะ…พยายาม…ครับ” ผมเอ่ยเสียงกระเส่าเมื่อสิ่งแปลกปลอมแหวกเข้ามาในกาย เกร็งไปทั้งตัวอย่างไม่อาจห้ามได้

ผมนอนหงายกอดขาตัวเองเอาไว้ ในขณะที่คนแก่กว่าเล่นกับช่องทางของผมอย่างสนุกมือ เขาแทรกนิ้วเข้าออก สำรวจพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย พอเห็นผมทำหน้าเหยเกเขาก็แทรกนิ้วที่สองเข้ามาโดยไม่ปริปาก จากสายตาผมเห็นเพียงใบหน้าหล่อเหลาของเขาที่มองมาทางผมกับมือใหญ่ที่ขยับเข้าออก ช่องทางด้านหลังค่อยๆนุ่มขึ้นเมื่อนิ้วทั้งสองนวดสะกิดผนังรอบๆ และแหวกออกจากกันในบางที

ผมตื่นใจ ความเสียวแล่นพล่านให้ผมเหยียดขาตรง หลุดออกจากมือตนเอง

“หมาดื้อ พี่บอกให้จับไว้ไง” พี่วศินขมวดคิ้วทำหน้าดุ 

ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากยินยอม ร่างกายผมเป็นสุขเมื่อเขาออกคำสั่ง

“ครับเจ้านาย” ผมคราง นิ้วของเขายังเคลื่อนเข้าออกทั้งยังเพิ่มนิ้วที่สามเข้าไป ผมคว้าขาทั้งสองของตนขึ้นมากอดไว้อีกครั้ง แก่นกายผมสั่นระริกแม้จะไม่ถูกสัมผัส น้ำหล่อลื่นสีใสปริ่มอยู่ที่ปลายยอด

ตอนที่นิ้วทั้งสามชำเราภายในกาย ตอนที่พี่วศินงอข้อนิ้วสะกิดโดนต่อมลูกหมาก ผมอยากจะกรีดร้องและเสร็จมันเสียเดี๋ยวนั้น

ผมกัดริมฝีปากตัวเอง อดทนทำตามคำสั่ง

ผมไม่รู้ว่าเขาจะอนุญาตให้ผมปลดปล่อยได้เมื่อไร

พี่วศินแย้มยิ้มนุ่มละมุน ดวงตาสีดำสนิทของเขามืดมนเหมือนหลุมดำ เหมือนมารร้ายที่จ้องจะกินเมื่อขุนผมจนอ้วนพี เขาชำเราช่องทางของผมด้วยนิ้วมือจนมันอ่อนนุ่มแต่ก็ยังไม่ใส่แก่นกายของตัวเองเข้ามา เขาแสยะยิ้มแล้วดึงนิ้วทั้งสามออก 

“หมิงเก่งจัง แฉะตั้งขนาดนี้แล้ว” พี่วศินถูนิ้วทั้งสามเข้าด้วยกันแล้วกางออกให้ผมเห็นสายใยที่ชุ่มฉ่ำ ยิ่งเมื่อนิ้วมือนั้นสัมผัสลงบนปลายองคชาตปริ่มน้ำ ความรู้สึกทั้งมวลของผมก็ถูกเขาปั่นแล้วรีดเค้นอย่างยิ่งยวด

ผมกระถดตัวหนี “เจ้านาย ผมจะเสร็จ”

“พี่ยังไม่อนุญาตให้เสร็จนะ” เขายิ้มกริ่ม “อดทนไว้สิเจ้าหมา”

ทั้งที่พูดแบบนั้น พี่วศินกลับไล่จับแก่นกายของผมไว้เต็มกำมือ กดนิ้วโป้งลงบนส่วนหัวสีชมพูเข้ม

“ฮือ อย่าแกล้งผมสิ” ผมกรีดร้อง

เขาจูบปากและแก้มปลอบประโลมผม แล้วยังจูบซับน้ำตาที่เอ่อคลอ ผมอารมณ์พลุ่งพล่านและงุนงง ไม่รู้ว่าเจ้านายจะใจดีหรือใจร้าย

“โอ๋ๆ ไม่แกล้งแล้ว” พี่วศินปล่อยอวัยวะของผมให้เป็นอิสระ ใบหน้าของเขายิ้มแย้มสนุกสนานยามที่แยกขาทั้งสองของผมให้กางกว้าง สวมถุงยางในเวลาสั้นๆ แล้วย้ำคำสั่งที่ยากแสนยากกับผม “แต่อย่าเพิ่งเสร็จซะล่ะ”

“ครั- อึก...อื้อ”

พี่วศินดันสิ่งแปลกปลอมอันใหญ่โตชำแรกเข้ามา ช่องทางด้านหลังที่นุ่มลงแล้วถูกขยายอีกครั้งด้วยท่อนเอ็นร้อน พี่วศินดันมาเข้ามาทีละนิด ความรู้สึกเจ็บและจุกกลืนกินท่อนล่างของผมจนชาหนึบ ฝ่ามือเขาดันใต้ข้อพับข้างหนึ่งเอาไว้ยามที่ภายในกายผมถูกรุกคืบช้าๆ ผมจิกแขนข้างที่เขาใช้ค้ำตัวเองไว้แน่น ปลายเท้าจิกเกร็ง ความอึดอัดที่ไม่คุ้นเคยดำเนินต่อเนื่องยาวนาน

“ทำไงดีล่ะหมิง เข้าไปได้แค่ครึ่งเดียวเอง” พี่วศินคิ้วขมวดแต่ยังแย้มยิ้มชั่วร้ายอยู่ด้านบน เขาก้มมองต่ำไปยังบริเวณที่เราเชื่อมต่อกัน 

ผมพยายามควบคุมลมหายใจเข้าออกให้ช้าลง ความเจ็บชาทำร้ายราวสะโพกผมกำลังจะแยกเป็นชิ้นๆ หยาดน้ำใสรินไหลลงหางตา “พี่ทำให้มันเล็กลงได้ไหมล่ะ”

“อันนี้พี่จนปัญญาจริงๆ” เขาส่ายหน้า ก้มลงจูบผมอีกครั้ง “มีแต่หมิงแล้วที่จะช่วยพี่ได้ ผ่อนคลายหน่อยนะ”

ผมสูดลมหายใจเข้าออกช้าๆ พยายามผ่อนคลายร่างกายตัวเองที่เครียดเกร็ง สวมกอดผู้ชายตัวใหญ่ตรงหน้าเอาไว้แน่น ค่อยๆกลืนกินส่วนแข็งขืนของพี่วศินเข้าไปอย่างสุดความสามารถ ไม่รู้ว่าผมผ่อนคลายลงแล้วจริงๆหรือผมช้าไม่ทันใจพี่เขา พี่วศินจึงยึดเอวผมเอาไว้แล้วดันตัวเองเข้ามารวดเดียวจนสุด

“อื๊อ” ผมจิกทั้งสิบนิ้วลงบนแผ่นหลังเขา เหมือนร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

“ฮ่า.. แน่นจัง” เสียงทุ้มบ่นข้างหู พี่วศินแนบจูบลงที่ใบหูผมอีก “พี่ขยับเลยได้ไหม”

เขาถามทั้งๆที่เริ่มขยับไปแล้ว ผมกอดคอเขาเอาไว้แล้วจึงตอบกลับอย่างไม่เข้าใจ “ถามทำไมเนี่ย”

“เคยตัวน่ะ” พี่วศินหัวเราะเบาๆ กระซิบกระซาบพลางจูบผมไปด้วย “หมิงเก่งที่สุด ปกติคนอื่นแทบจะคลานหนีพี่ไปแล้ว”

เขากระซิบไป ขยับกายเข้าออกอย่างเชื่องช้าไปด้วย สัมผัสถึงขนาดอันใหญ่โตในท้องตัวเองทำให้ผมอยากจะคลานหนีไม่ต่างกันกับคนในอดีตของเขา ติดที่ผมหมดแรงไปเรียบร้อย กระทั่งจะโต้เถียงกลับไปยังขี้เกียจ ผมตัวสั่นอย่างไม่อาจรับรู้ได้อีกว่าความชาหนึบที่บั้นท้ายนั้นเป็นความสุขสมหรือทรมาน

ถึงกระนั้นมันก็ไม่ได้ทรมานถึงขนาดทำให้ผมหมดสิ้นอารมณ์ใคร่ ผมเกี่ยวกระหวัดร่างหนาของพี่วศินเอาไว้ทั้งตัว ขยับโยกไปตามจังหวะของเขาโดยไร้แรงต่อต้าน เมื่อความตึงชาถูกความหวามไหวหยดลงผสมมากเข้า ร่างกายผมก็ค่อยๆโอบรับเขาเอาไว้โดยไม่ผลีผลาม ผมกอดรัดการเชื่อมต่อของเราเอาไว้แน่น ทำความคุ้นชินกับรูปร่างใหญ่ยาวในกาย ขมิบตอดมันราวกับจะจดจำรูปร่างของมันเอาไว้

“อึก อ๊ะ”

“พี่ไม่คิดเลย ว่าหมาของพี่จะเซ็กซี่ขนาดนี้” เขาครางเสียงต่ำ

แกนกายของผมที่ช็อคจากความเจ็บปวดกลับมารู้สึกตึงแน่นอีกครั้ง มันสั่นหงึกอยู่ใต้หน้าท้องสีน้ำผึ้งสวย ผมหลับตาพริ้ม คว้าจับแผ่นอกแน่นของเขายามร่างกายถูกกระแทกกระทั้น สิ่งนั้นถูกดันเข้าสุดแล้วดึงออกด้วยจังหวะที่ไม่เร็วมากนัก ผมรู้สึกวูบโหวงสลับกับเต็มตื้น ความสุขสมชำเราผมเสียจนใกล้บ้าเต็มที หลุดเสียงครางออกมาโดยไม่คิดปิดบัง

เมื่อเห็นว่าผมไม่เจ็บปวดทั้งยังรื่นรมย์กับรสสัมผัส พี่วศินก็จูบผมอีกครั้งแล้วหยัดตัวขึ้น เขาคว้าหมอนแถวนั้นมารองไว้ใต้สะโพกผม แก่นกายเขาหลุดออกจากช่องทางด้านหลังเป็นเสียงน่าอายจนรู้สึกว่างเปล่า ผมไขว่คว้าหาเจ้าสิ่งนั้นด้วยความอาวรณ์

พี่วศินแย้มยิ้มจนลักยิ้มข้างแก้มขวาบุ๋มลง เขาเสือกสอดความกำยำของตนเองเข้ามาอีกครั้งจนสุดลำแล้วกระชับเอวผมเอาไว้ด้วยสองมือ จากนั้นร่างหนาของเขาจึงบรรเลงบทเพลงเต้นรำที่วาบหวามที่สุดในค่ำคืนนี้

ร่างกายผมสั่นกระตุกตามจังหวะที่รัวเร็วของเขา เหมือนถูกลากให้เต้นไปตามจังหวะที่เราไม่อาจตามทัน แต่การประคองนำของเขาก็ทำให้ผมจำต้องก้าวตามอย่างไม่อาจต้านทาน ความเร็วนั้นสร้างความหฤหรรษ์ ผมขึ้นและลงเหมือนอยู่บนเครื่องเล่นน่าหวาดเสียว เม็ดเหงื่อผุดพร่างพราวไปทั้งกาย มือหนาของเขากระชับเอวผมเอาไว้แน่น แรงที่ถูกส่งเข้าออกสะเทือนไปถึงกลางกายของผม มันกระดอนกระเด้งอย่างไร้ยางอาย ที่บั้นท้ายบังเกิดเสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั้งห้อง คละเคล้ากับเสียงครางกระเส่า ส่วนหัวกระแทกย้ำจุดอ่อนไหวด้านในซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมอยากจะหวีดร้องแต่ก็ทำได้เพียงยกสองแขนขึ้นมาปิดหน้าเอาไว้

“หมาตัวนี้รู้จักอายบ้างแล้วเหรอ” เสียงทุ้มแสนรื่นเริงนั้นไม่ใช่คนที่ผมรู้จักเลย ผู้ชายคนนี้คิดจะทำทุกอย่างพร้อมกันจริงๆหรือ ทั้งพูด ทั้งกระแทก เอาเรี่ยวแรงมาจากไหนนัก

“ฮ่า…ฮ่า” ผมทำได้แค่หอบหายใจ “เจ้านาย… ผมจะเสร็จ”

“ต้องทำยังไงดีล่ะ” พี่วศินยียวน ลูบไล้แก่นกายของผมแล้วกดน้ำหนักลงกลางท้องน้อย

“อ๊า!” ผมไม่อาจห้ามเสียงตัวเองได้

ผมไม่ได้คาดหวังว่าค่ำคืนนี้จะหวานละมุนเหมือนกับคนแรกรัก เพียงคนสองคนที่กระหายแต่ความใคร่จากกันและกันมันจะพาผมไปไกลสักแค่ไหนกันเชียว แต่สิ่งที่พี่วศินปรนเปรอให้แก่ผมกลับเกินกว่าที่ผมประมาณไว้ไปมากโข ร่างกายผมไม่ได้เตรียมพร้อมมาเจอกับการบีบเค้นทางกามารมณ์ขนาดนี้เลย รสสัมผัสของเขาป่าเถื่อนกว่าภาพลักษณ์ใจดีมากเกินไป มากเกินกว่าผมจะปรับตัวไหว

ส่วนปลายของเขากระแทกชนกับหน้าท้องที่ถูกกดจนผมแทบสิ้นสติ “พี่- ผมไม่ไหว..”

พี่วศินเร่งจังหวะขึ้นอีก เขาเอนกายลงมาล็อกตัวผมไว้ด้วยสองแขน ทั้งยังขยับสะโพกอย่างแข็งขัน กระซิบคำอนุญาตแสนหวานที่ผมรอคอย “หมิงหมิงเด็กดี ปล่อยออกมาได้แล้วครับ”

ดวงตาสีดำจ้องตรงเข้ามาในดวงตาของผม หมู่ดาวพร่างพรายในนั้นส่งกระแสไฟฟ้าแล่นปราดไปทั่วร่าง ผมปล่อยมันไปโดยไม่ได้อดกลั้นอีก กอดไหล่พี่วศินเอาไว้เหมือนเขาเป็นที่ยึดเหนี่ยวสุดท้ายในวันโลกถล่ม เมื่อแรงอารมณ์พุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุด ขาทั้งสองข้างของผมก็เกี่ยวสะโพกสอบของเขา ล็อกมันเอาไว้ กระทั่งกายผมสั่นกระตุกฉีดพุ่งของเหลวออกมาเปรอะเปื้อนร่างกายของกันและกัน

ผมหมดแรง ลูบหน้าท้องที่เหนียวเหนอะของตัวเอง รสสัมผัสคงค้างทำให้ผมเผลอคิดไปว่าฝ่ามือของผมสามารถสัมผัสถึงอวัยวะแปลกปลอมที่แทรกเข้ามาอยู่ในกายผมได้ผ่านผิวหนังหน้าท้อง ผมลูบมันเบาๆในตอนที่พี่วศินค่อยๆถอนกายของเขาออกไป

เราหอบหายใจ พี่วศินดึงถุงยางที่มีของเหลวสีขุ่นบรรจุอยู่ออกจากอวัยวะเพศของตนเอง มันสงบลงแต่ยังทิ้งขนาดอันน่าพรั่นพรึงเอาไว้ในความทรงจำ ผมพลิกตัวไปคว้าทิชชู่ข้างเตียงมาเช็ดคราบบนตัว ในจังหวะที่ผมคลานหันหลังให้เขา เอวผมก็ถูกฝ่ามืออุ่นคู่นั้นคว้าเอาไว้อีก

ผมเอี้ยวตัวไปมอง ขนลุกไปทั่วทั้งกาย

เจ้าโลกที่คายน้ำเชื้อออกมาถึงสองครั้งสองครากลับผงาดขึ้นมาอีกครั้งในกำมือของพี่วศิน และผู้ที่เป็นนายของเจ้าอสูรร้ายนั่นก็ยังแย้มยิ้มอ่อนโยนให้ผมอย่างน่าหวาดผวาอยู่เบื้องหลัง

“เจ้านาย…” ผมเอ่ยเสียงแหบแห้งเพราะเอาแต่ครางมาตลอดหนึ่งชั่วโมง

“เป็นเด็กดีนะหมิง” พี่วศินใช้ปากฉีกซองถุงยางแล้วสวมมันลงไป ผิวเรียบสีชมพูของมันแนบสนิทไปกับท่อนเอ็นสีเข้ม

“พี่-” ผมไม่อาจทัดทาน ได้แต่เบิกตาโพลงยามที่ฝ่ามือใหญ่กดศีรษะผมแนบพื้นเตียง ช่องทางที่ยังไม่อาจปิดสนิทถูกรุกรานอีกครั้ง “อื๊อ”

“คลานสี่ขาอย่างนี้ค่อยเหมือนหมาขึ้นมาหน่อย” พี่วศินหัวเราะเหมือนแซวเล่น เขายันเข่าข้างหนึ่งขึ้นมา จับสะโพกผมล็อกเอาไว้ในฝ่ามือคีม หยัดกายเข้าออกตามใจตนเอง ผมยันคางไว้กับเตียงนุ่ม ความเสียวแล่นปราดไปทั่วร่างอีกครั้ง ความหนักหน่วงที่เสียบสอดเข้ามาด้านหลังทำให้ผมจุก แต่ผมกลับแอ่นกายรอรับแรงกระแทกของเขาโดยอัตโนมัติ

สติของผมไม่ค่อยจะสมประดี มันมึนงงและมัวเมา กามารมณ์ย้อมผมด้วยสีน้ำตาลคอปเปอร์ ไม่อาจรับรู้ได้อีกว่าท่อนแขนแข็งแรงของเขาจับร่างกายผมพาดตรงไหนทำท่าอะไรบ้าง ผมขยับตามแรงดึงไปโดยไม่ขัดขืนและคิดอะไรอีก ลิ้มเพียงรสจากริมฝีปากของเขาและความรู้สึกอันท่วมท้นภายใน ผมรู้ว่าพรุ่งนี้จะระบมไปทั้งร่าง แต่ความทรมานแสนสุขสมเช่นนี้ผมไม่อาจถอนตัวปฏิเสธมัน

ผมนึกถึงคืนที่ผ่านมา ที่ผมอวดดีคิดจะใช้ร่างกายตัวเองบำเรอเขาง่ายๆ

ที่พี่วศินบอกว่าไม่พอ มันคือไม่พอจริงๆ

เจ้านายผมเป็นมารร้ายในคราบนักบุญแท้ๆ

เขาเอาผมอยู่อย่างนั้นทั้งคืน

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status