แชร์

บทที่ 15 ชีวิตในฝัน

ผู้แต่ง: thisishowienjoy
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-09 23:51:15

ชีวิตในฝัน

ผมนั่งฟังศาสตราจารย์คนขาวอธิบายความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับวิทยาการคอมพิวเตอร์ไปได้หนึ่งชั่วโมงก็หาวหวอด สับเปลี่ยนมาดูคลิปเกี่ยวกับ UX/UI อย่างที่พี่วศินแนะนำ ผมพอจะเข้าใจคอนเซปต์คร่าวๆแต่ก็จบที่นั่งหาวน้ำตาไหลอีกตามเคย เนื้อหาของมันน่าตื่นเต้นและเข้าใจได้ไม่ยากในตอนแรก แต่พอหลังๆสติผมก็เริ่มหลุด ความมั่นใจดับวูบ คิดเพียงว่าเรียนไปตอนอายุป่านนี้ก็คงตามใครไม่ทัน

เฮ้อ

จะว่าอย่างไรดี ผมรู้ดีว่าควรทำอะไร รู้ดีว่าไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆเพียงตั้งใจกับมันแค่ชั่วครู่ชั่วคราว คนเก่งทุกคนผ่านการฝึกฝนทักษะมาไม่ต่ำกว่าพันชั่วโมงกันทั้งนั้น ความตั้งใจกับการรับรู้ความเป็นจริงของผมมันขัดแย้ง คอยแต่รั้งให้ชีวิตผมไปไม่ถึงไหน คนรักสบายและเห็นแก่ตัวอย่างผมจึงหลีกหนีจากมันมาตลอด ใช้ชีวิตล่องลอยตามสายน้ำไหลไปเรื่อยโดยหวังว่าโชคชะตาจะไม่ใจร้ายมากนัก

ความคิดและความรู้สึกซ้อนกันอยู่หลายชั้น ผมคิดแล้วคิดอีกว่าจะปล่อยชีวิตตัวเองให้ไหลไปตามกระแสลมอย่างนี้ตลอดไปไม่ได้ แต่สิ่งที่ผมทำก็มีแต่การทำตัวตามสบาย พักอีกสักหน่อย ค่อยเริ่มวันพรุ่งนี้ ผัดวันประกันพรุ่งจนเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 16 ตั้งหลัก

    ตั้งหลักป้ายที่ใหญ่ที่สุดของโปรเจ็คท์นี้ตกเป็นของผม ผลงานของผมได้รับคะแนนโหวตท่วมท้นและจะถูกนำไปใช้ในวันจัดแสดงคอนเสิร์ต ความภูมิใจคับพองอยู่ในอกแม้ผมจะไม่ได้เงินจากงานนี้สักบาทเดียวเลยก็ตามความยินดีสุขล้นจากข้างในไหลออกมาถึงข้างนอก จนพี่วศินยังดูออกว่ามีเรื่องดีๆเกิดขึ้น เขาเดาได้ทันทีว่างานการกุศลที่ผมเคยพูดถึงถูกนำไปใช้“ดีไซน์ของหมิงโดดเด่นกว่าคนอื่นจริงๆนั่นแหละ” พี่วศินกล่าวชม วันที่กลุ่มแฟนคลับเปิดให้ลงคะแนน พี่วศินนั่งอยู่ด้วยกันกับผม ผลงานทุกชิ้นผ่านตาเราทั้งคู่จึงทำให้ผมและเขาเห็นความแตกต่างได้ค่อนข้างชัดให้พูดตรงๆก็ดูเหมือนเอามืออาชีพมาแข่งกับมือสมัครเล่น งานส่วนใหญ่เป็นงานอาสาทำจากใจล้วนๆ จึงมีคนให้ความร่วมมือไม่มากนักและส่วนใหญ่ในนั้นก็คงไม่ใช่คนที่ทำมาหากินด้วยการออกแบบกราฟฟิคอย่างผม แต่ถึงอย่างนั้นคำชมที่ได้รับก็เป็นของจริง จะไม่ให้ผมดีใจกับมันเลยก็เป็นไปได้ยากไฟที่เคยมอดดับลุกโชนขึ้นมา ผมจึงใช้เวลาแต่ละวันในบ้านนี้อย่างมีความหมาย กิจวัตรในแต่ละวันถูกจัดสรรให้เป็นเวลามากยิ่งขึ้น ตอนเช้าเป็นเวลาออกกำลังกายและเล่นกับนก ตอนเย็นเป็นเวลาทำอาหาร ส่วนช่วงกลางวันที่ผมอยู่บ้

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 17 ศึกษาดูใจ

    ศึกษาดูใจผมนั่งตัวลีบอยู่ในห้องโดยสารรถยนต์เอสยูวีสีขาว มันพุ่งทะยานฝ่าค่ำคืนกรุงเทพฯในความเร็วที่ไม่มากไม่น้อย ความเงียบงันโรยตัวปกคลุมบรรยากาศเย็นเยียบในรถอย่างน่าอึดอัด ผมมองทางไปเรื่อยด้วยไม่รู้จะทำตัวอย่างไรกับคนที่ดูเหมือนจะหัวร้อนข้างๆคนนี้ดีผ่านไปพักหนึ่งผมจึงลอบหันไปมองพี่วศินด้วยท่าทางเกรงอกเกรงใจเผื่อว่าเขาจะใจเย็นลงบ้างแล้ว ใบหน้าคมสันสีน้ำผึ้งที่ยิ้มหวานอย่างน่ากลัวเมื่อสักครู่นี้กลายเป็นใบหน้านิ่งเฉย เขาผินหน้ามาสบตาผมทีหนึ่งแล้วจึงถอนหายใจ หางคิ้วเข้มตกลง“พี่ใจร้อนไปหน่อยเนาะ” เขาเอ่ยพลางเสยผมสั้นๆของตัวเอง “โทษทีนะ”ร่างกายที่ตึงเครียดตามบรรยากาศอึดอัดในรถก่อนหน้านี้ของผมจึงค่อยผ่อนคลายลงเมื่ออีกฝ่ายเปิดปากพูด พี่วศินดูจะใจเย็นลงแล้วจริงๆ“ก็ใจร้อนน่ะสิ” ผมพึมพำงุบงิบผมไม่เคยเห็นมุมที่เขาหงุดหงิดแบบนี้มาก่อนจึงไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไร ตอนแรกผมคิดว่าตัวเองจะต้องโดนเขาโกรธใส่เพราะไม่ยอมบอกเขาเรื่องที่กำลังหางานเสียแล้ว คิดไม่ถึงว่าเป็นเขาเองที่เอ่ยปากขอโทษออกมาก่อนประสบการณ์ส่วนตัวผมเคยเจอแต่คนที่โกรธแล้วเอาแต่พูดเรื่องที่ตัวเองไม่พอใจ เพราะผมใจเย็นจึงต้องกลายเป็นเป

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 18 ขาขึ้น

    ขาขึ้นจากใบสมัครงานที่ผมยื่นไปหลายเจ้า ผมถูกเรียกสัมภาษณ์สองสามที่ สองในนั้นเป็นการสัมภาษณ์ออนไลน์ส่วนอีกหนึ่งที่นัดผมเข้าไปเจอที่ออฟฟิศ และหนึ่งที่สุดท้ายที่ว่าก็เป็นที่ที่ผมหมายตาอยากเข้าไปทำงานมากที่สุดผมก้าวขาลงจากรถมอเตอร์ไซค์ด้วยท่าทางทะมัดทะแมงแล้วยื่นแบงค์ยี่สิบให้พี่วิน เนื่องจากไม่มีหวังจะได้ไว้ผมยาวจนสามารถนำไปบริจาค ผมจึงตัดผมยาวระต้นคอให้สั้นเข้าทรงเรียบร้อย วันนี้ผมสวมเสื้อเชิ้ตกับกางเกงสแล็คที่ไม่ได้ใส่มานานจึงทำให้รู้สึกอึดอัดไม่น้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเสื้อสูทที่ดูไม่เข้ากับผมสักเท่าไรตัวนี้ ผมรู้สึกเหมือนกำลังปลอมตัวมาสัมภาษณ์งานอย่างไรอย่างนั้นตึกใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ความสูงของมันทำเอาผมหยุดความคิดที่จะแหงนหน้ามอง ผมก้าวเท้าเข้าไปภายในตึกด้วยความมั่นใจที่พกติดตัวมาไม่มากนัก ยื่นบัตรประชาชนแลกกับบัตร visitor แล้วกดลิฟต์ขึ้นชั้นสามสิบห้าไปตามที่อยู่ที่ได้รับทางอีเมล พนักงานบริษัทที่เดินสวนทางกับผมไปแต่ละคนดูภูมิฐานบุคลิกดีสมกับเป็นพนักงานเอกชนชั้นนำ และนั่นทำเอาผมที่ปกติแต่งตัวตามสบายเข้าออฟฟิศอยู่เสมอรู้สึกว่าตัวเองตัวลีบเล็กลงอย่างอดไม่อยู่ผมเคยทำงานอยู่ในเ

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 19 แรกพบ

    แรกพบสมัยเด็กๆ ผมเคยไปรอแม่ที่ที่ทำงานครั้งหนึ่ง มีนักศึกษาเดินเข้าห้องแม่มาปรึกษาไม่ขาดสายผมจึงขอตัวออกมาเดินเล่นด้านนอกภาควิชา เดินไปเดินมาก็เจอกับตลาดนัดมหาวิทยาลัยเข้าจึงเดินเข้าไปสำรวจภายในด้วยความยินดี มองดูสินค้าหลากหลายอย่างสนุกสนาน ซื้อขนมน่ากินติดมือมาบ้างในงบประมาณสามสิบบาทที่แม่ให้พกไว้ประจำวันตอนนั้นผมอยู่ม.2 ยังสูงไม่ถึง 155 เซนติเมตรด้วยซ้ำ ช่วงพักกลางวันคนแน่นตลาดเสียจนต้องเดินเบียดกัน เมื่อเดินลึกเข้าไปในตลาดแล้วเจอกับความแออัดมากเข้าจึงเริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา เดินหลบเลี่ยงร่างกายผู้คนที่ไม่คุ้นเคยไปเรื่อยก็หลุดออกมาอีกด้านหนึ่งของตลาด แน่นอนว่าตอนนั้นผมนึกไม่ออกเลยว่าตัวเองยืนอยู่ส่วนไหนของมหาวิทยาลัยเด็กม.2 น่าจะดูแลตัวเองได้พอสมควรแล้วแต่ไม่ใช่กับลูกแหง่อย่างผม ผมหวาดกลัวและเริ่มทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะเดินไปทางไหนและจะกลับไปหาแม่ได้อย่างไรดี สิ่งล่อใจหลากสีสันในตลาดนัดไม่อาจดึงดูดความสนใจผมได้อีก ผมเริ่มเบะปากหากแต่ไม่ได้ส่งเสียง ตอนที่กำลังมองไ

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 20 Trust Issue

    Trust Issueตอนที่สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาสายแล้ว แสงอาทิตย์ยามแปดโมงเช้าทะลุทะลวงผ่านผ้าม่านโปร่งเข้ามาถึงบนเตียง ปลายเท้าผมโผล่พ้นผ้านวมสีฟ้าอ่อนโดยมีท่อนขาแข็งแรงสีแทนเกาะก่ายอยู่ไม่ห่าง อ้อมกอดอุ่นจากด้านหลังไม่ได้ทำให้ผมลืมตาตื่นขึ้นมากเท่ากับสัมผัสยุกยิกบริเวณบั้นท้ายฝ่ามือซุกซนของคนด้านหลังสัมผัสลูบไล้ก้นนิ่ม ปลายนิ้วแข็งแรงเลื่อนลึกเข้าซอกหลืบ สัมผัสไล้เหมือนหยอกเหมือนเอาจริง ผมลืมตาตื่นตอนที่บั้นท้ายสัมผัสโดนอวัยวะที่ร้อนและใหญ่กว่าปลายนิ้วของคนข้างหลัง ผมหันไปโวยวายใส่เขา“เล่นอะไรเนี่ย”“มอร์นิ่งครับ” พี่วศินเห็นผมหันหน้ากลับไปหาจึงฉวยโอกาสจูบแก้มผมเบาๆผมที่ยังงัวเงียอยู่จึงทำได้แค่ลูบแก้มเบาๆยามที่ตอบเขากลับไปเท่านั้น “มอร์นิ่งครับ”ผมใช้เวลาอยู่กับพ่อแม่สองคืนแล้วจึงกลับมาที่บ้านพี่วศิน ใช้เวลายามค่ำคืนอย่างลึกล้ำกับเขาแล้วก็ต

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 21 รสขม

    รสขมสมัยประถมเคยโดนล้อกันไหมครับประมาณว่า เอชอบบี บีชอบซี ไม่ก็ เห้ย ไอ้บีมันชอบแกอ้ะ แล้วคนที่ล้อก็จะทำตากรุ้มกริ่มๆน่ารำคาญใส่ ตอนเด็กๆผมโดนบ่อยเพราะสนิทเล่นหัวกับเด็กผู้หญิงในห้อง แต่โตมาก็ไม่ได้เจออะไรแบบนั้นมาพักใหญ่แล้วเพราะเพื่อนรุ่นเดียวกันเลิกเห่อการละเล่นแบบนี้ไป ไม่ได้คิดเลยว่าจะมาเจออีกทีตอนจะสามสิบกับบรรดาคุณพี่วัยใกล้กลางคน มีลูกแล้วหนึ่ง เพิ่งเป็นหม้ายอีกหนึ่งไอ้สายตาของสองคนนั้นมันเกินไปป่าววะผมหรี่ตาตอนที่เดินเข้าร้านมาพร้อมพี่วศิน สีหน้าพี่มะลิกับพี่เจฟกะลิ้มกะเหลี่ยเกินทน แทบจะได้ยินเสียง วี้ดวิ่ว กริ๊วๆ อยู่ในหูแล้วด้วยซ้ำถ้าไม่ติดว่าผมหลอนไปเองพวกเราทักทายและพูดคุยกันตามปกติ ผมถูกถามเรื่องที่ทำงานใหม่พอเป็นพิธี จนเบียร์แก้วที่หนึ่งผ่านไปผมก็ยังไม่เจอคำถามชวนกระอักกระอ่วนอย่าง พวกแกเป็นไรกันอะ? สักที ผมได้แต่นั่งระแวงคำถามเหล่านั้นจนสงบใจเอาไว้ไม่อยู่ ทั้งพี่มะลิและพี่เจฟไม่ได้เอ่ยแซวอะไรก็จริง แต่สายตาของสองคนน

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 22 เมย 1

    เมย 1สายน้ำจากฝักบัวเรนชาวเวอร์ไหลลงกระทบร่างสูงเป็นเสียงซัดซ่า มันกระทบผิวกายสีแทนแล้วไหลลงสู่พื้นห้องน้ำ เสียงเปาะแปะของสายน้ำแต่ละสายรวมกันเป็นเสียงดังต่อเนื่อง แม้สายน้ำจะกระทบผิวกายจนเกิดเสียงดังพอสมควรแต่ก็ไม่อาจพัดพาความหนักอึ้งกลางอกชายหนุ่มให้หายไปได้วศินเปลือยกายอยู่ใต้ฝักบัว เขายืนนิ่งให้สายน้ำพัดพาสิ่งสกปรกไหลลงท่อระบายน้ำไปตามแรงโน้มถ่วง ชายหนุ่มรับน้ำเย็นให้เปียกปอนไปทั้งกายอยู่เป็นหลายนาทีแล้วจึงเริ่มขยับมือชำระร่างกายไปอย่างที่ควรจะเป็นในภายหลังสายตาคนรักหมาดๆของเขามีคำถามและความหวาดระแวงแฝงอยู่เต็มเปี่ยม เขาไม่อาจสู้สายตานั้นจึงทิ้งอีกฝ่ายไว้กับความกังวลที่ข้างนอกแล้วขังตัวเองไว้ในห้องน้ำมาพักใหญ่วศินลูบหน้าลูบผมตัวเองอย่างแรง เขารู้ดีว่าการหนีออกมาแบบนี้ไม่อาจรั้งอะไรไว้ได้นานนัก ชายหนุ่มขัดถูเรือนกายกำยำของตนราวกับจะชำระจิตใจตัวเองไปด้วยเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจึงปิดน้ำ ความเงียบเข้ามาแทนที่เสียงดังต่อเนื่องของสายน้ำทันทีทันใด มันมาพร้อมก

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 23 เมย 2

    เมย 2เมยเป็นลูกคนเดียว แต่มีน้าชายที่แก่กว่าสามปีอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ชีวิตลูกคนเดียวของเมยจึงไม่ต่างจากคนที่มีพี่น้องมากนัก พอเข้าโรงเรียนแชมป์ก็สะดวกให้เมยเรียกตัวเองว่าพี่มากกว่า เมยจึงไม่ได้เรียกแชมป์ว่าน้าแชมป์อีกนับแต่นั้นแชมป์ชอบเล่นเกมมาก ตอนที่นายถนอมซื้อเครื่องเล่นแฟมิคอมให้เป็นของขวัญวันเกิด แชมป์ก็มักจะชวนเมยมาเล่นด้วยกันเป็นประจำ แรกเริ่มเดิมทีเมยตื่นเต้นกับการเล่นเกมมาก แต่เมื่อเล่นมากเข้าแล้วเอาชนะแชมป์ไม่ได้เสียทีเด็กชายก็เริ่มเบื่อหากชีวิตของเด็กสองคนนี้คือการแข่งขัน สิ่งเดียวที่แชมป์เอาชนะเมยได้คงเป็นการเล่นเกม“เมยมาเล่นเกมกัน” เด็กหนุ่มวิ่งลงบันไดเสียงดังมาเรียกหลานชายผู้ขลุกอยู่ในห้องครัวกับมารดา เมยเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือเรียนภาษาไทยแล้วก็อุบลงไปอีก“ไม่เอา พี่แชมป์ชอบเล่นสูตรขี้โกง” เมยกล่าวหา เด็กชายไม่อยากพ่ายแพ้แล้วต้องฟังเสียงหัวเราะเยาะของแชมป์อีก&nbs

บทล่าสุด

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 27 แรมริมน้ำ

    แรมริมน้ำเรื่องราวทั้งหมดคล้ายจะคลี่คลายลงได้ด้วยดี นอกจากนัดหมายที่สำนักงานที่ดินในเช้าวันพรุ่งนี้ ทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องมาเกี่ยวพันกันอีกอย่างที่พี่วศินต้องการตั้งแต่ขับรถออกมาจากวัด พี่วศินก็ถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก เขาบอกผมว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ดูไม่สบายอกสบายใจแบบนั้น“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ผมหันไปมองตาพลางแตะมือไปที่หน้าขาของเขาพี่วศินเหมือนทำหน้าไม่ถูก “อ๋อ อืม” เขายื่นมือหนึ่งมาจับมือผมที่ยื่นไปเมื่อสักครู่ มือใหญ่ของเขาเย็นเฉียบเพราะลมแอร์ “มันเหมือนจะโล่งแต่ก็ไม่โล่งยังไงก็ไม่รู้น่ะ”“ทำไมล่ะ”“ไอ้พี่แชมป์มันแปลกเกิน” พี่วศินเปรยก่อนเบ้ปากทันควัน “เชี่ย บาปมั้ยวะ”ผมหัวเราะ “ไม่เห็นเหมือนที่เล่าให้ฟังเลย ผมเตรียมมาต่อยเขาแท้ๆนะเนี่ย”“ห่มผ้าเหลืองมาขนาดนั้นอยากต่อยก็ต่อยไม่ลงน่ะสิ” พี่วศินวิจารณ์พลางส่ายหน้า “ความจริงมั

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 26 พินัยกรรม

    พินัยกรรมโอเค กูอดต่อยพระละผมเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจ อารมณ์ที่เคยคุกรุ่นจากเรื่องเล่าของพี่วศินพลันมอดดับด้วยสถานการณ์เหนือความคาดหมาย ตอนแรกผมกะว่าถ้าไอ้คนชื่อแชมป์มันโผล่หน้ามาเมื่อไหร่จะขอเล็งหน้ามันไว้ก่อนเผื่อต้องต่อยให้หายแค้น ที่ไหนได้ ห่มผ้าเหลืองออกมาอย่างสำรวมเสียจนผมเหวอไปหมดฝ่ายพี่วศินเองก็ดูจะตื่นตกใจไม่ต่างจากผม ดวงตาสีดำของเขาเพ่งมองชายในจีวรอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ทั้งสองยืนห่างกันราวสี่ห้าเมตร พี่วศินตัวสูงใหญ่กว่าพระแชมป์ราวหนึ่งฝ่ามือ อีกฝ่ายค่อนข้างผอมกว่าแต่ก็ดูแข็งแรงไปด้วยมัดกล้ามอย่างคนใช้แรงงาน ริ้วรอยแห่งวัยก็ดูจะเล่นงานพระแชมป์หนักกว่าพี่วศิน เพียงอายุสี่สิบต้นๆใบหน้าของเขาก็ซูบตอบลงไปมากแล้ว นอกจากสีผิวที่ใกล้เคียงกันแล้วทั้งคู่แทบไม่มีอะไรเหมือนกันอีก“แล้วนั่น โยม?” พระแชมป์หันหน้ามาทางผม ผมที่ลอบกำหมัดไว้เมื่อสักครู่จึงต้องแบมือออกประกบกันยกไหว้เขาแกนๆ เป็นหน้าที่พี่วศินอีกครั้งที่ต้องแนะนำผม

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 25 จันทบุรี

    จันทบุรีตอนที่เล่าเรื่องราวเหล่านั้นออกมา ก็คล้ายกับความเจ็บปวดรวดร้าวที่พี่วศินเคยรู้สึกจะถูกชะล้างไปจนเกือบหมดแล้ว ดวงตาสีดำสนิทของเขาไม่สื่ออารมณ์ใดเป็นพิเศษยามที่ส่งมือขึ้นมาทัดผมลงที่ข้างหูอีกรอบ ผมรู้สึกอ้ำอึ้งและจุกหน่วงไปหมด อยากจะร้องไห้ออกมาให้เขารู้ว่าผมเสียใจกับเรื่องร้ายๆเหล่านั้นแต่สุดท้ายแล้วผมก็ไม่ได้มีน้ำตาผมลูบศีรษะคนแก่กว่าอย่างเงียบเชียบ หน้าตาผมคงจะดูแย่เอาการ“พี่บอกแล้วว่ามันไม่น่าเล่า” พี่วศินยิ้มจางๆ “เรื่องดราม่าเกินไปหน่อย ชวนให้กระอักกระอ่วนกันเปล่าๆ”“ดราม่าเกินไปหน่อยอะไรเล่า เจอมาหนักขนาดนั้น”เขาหัวเราะ “ตอนนั้นพี่ก็อยากจะเป็นบ้าตายไปเหมือนกัน”“แล้วตอนนี้พี่โอเคแล้วจริงๆเหรอ” ผมอดถามไม่ได้ นึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไรหากเป็นผมเองที่เจอเรื่องราวเดียวกัน“ตอนแรกก็คิดว่าไม่โอเคนะ แต่พอได้เล่าออกมาจริงๆแล

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 24 เมย 3

    เมย 3เมยไม่เคยมีมื้อเช้าที่อึดอัดขนาดนี้มาก่อน เด็กหนุ่มพยายามตามไปอธิบายและปิดปากน้าชายแล้วหลังจากเกิดเรื่องแต่แชมป์กลับไม่ยอมเปิดประตูให้ เพียงส่งเสียงจากในห้องบอกว่าจะนอนแล้วก็เท่านั้น กระนั้นเมื่อวันใหม่มาถึง บนโต๊ะอาหารยามสายที่ประกอบไปด้วย แชมป์ เบน และเมย น้าชายคนนี้กลับเอาแต่พูดจ้อไม่หยุดแหม่มเดินมาเติมอาหารในสำรับสำหรับเด็กๆ ไข่เจียวร้อนๆถูกจัดในจานวางลงบนโต๊ะ เมื่อวางปุ๊บแชมป์ก็จิ้มช้อนเข้าไปตักไข่เจียวของโปรดทันที ชายหนุ่มดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษผิดกับเมื่อวานที่ทะเลาะกับนายถนอมเป็นฟืนเป็นไฟเธอสังเกตเห็นความผิดปกติในบทสนทนาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร“เพื่อนชื่ออะไรน่ะ” แชมป์หันไปทางเบนที่นั่งกินข้าวทีละน้อยเหมือนคนกินอะไรไม่ลง“ชื่อเบน” เมยตอบห้วนๆ“มาติวหนังสือกันเหรอ” ชายหนุ่มหันไปหัวเราะในลำคอกับเบนที่ไม่แม้แต่จะสบตาเขา “ไอ้เมยมันเก่งใช่ไหม ได้ที่หนึ่งตลอดเลยเชียวนา เก่ง

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 23 เมย 2

    เมย 2เมยเป็นลูกคนเดียว แต่มีน้าชายที่แก่กว่าสามปีอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ชีวิตลูกคนเดียวของเมยจึงไม่ต่างจากคนที่มีพี่น้องมากนัก พอเข้าโรงเรียนแชมป์ก็สะดวกให้เมยเรียกตัวเองว่าพี่มากกว่า เมยจึงไม่ได้เรียกแชมป์ว่าน้าแชมป์อีกนับแต่นั้นแชมป์ชอบเล่นเกมมาก ตอนที่นายถนอมซื้อเครื่องเล่นแฟมิคอมให้เป็นของขวัญวันเกิด แชมป์ก็มักจะชวนเมยมาเล่นด้วยกันเป็นประจำ แรกเริ่มเดิมทีเมยตื่นเต้นกับการเล่นเกมมาก แต่เมื่อเล่นมากเข้าแล้วเอาชนะแชมป์ไม่ได้เสียทีเด็กชายก็เริ่มเบื่อหากชีวิตของเด็กสองคนนี้คือการแข่งขัน สิ่งเดียวที่แชมป์เอาชนะเมยได้คงเป็นการเล่นเกม“เมยมาเล่นเกมกัน” เด็กหนุ่มวิ่งลงบันไดเสียงดังมาเรียกหลานชายผู้ขลุกอยู่ในห้องครัวกับมารดา เมยเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือเรียนภาษาไทยแล้วก็อุบลงไปอีก“ไม่เอา พี่แชมป์ชอบเล่นสูตรขี้โกง” เมยกล่าวหา เด็กชายไม่อยากพ่ายแพ้แล้วต้องฟังเสียงหัวเราะเยาะของแชมป์อีก&nbs

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 22 เมย 1

    เมย 1สายน้ำจากฝักบัวเรนชาวเวอร์ไหลลงกระทบร่างสูงเป็นเสียงซัดซ่า มันกระทบผิวกายสีแทนแล้วไหลลงสู่พื้นห้องน้ำ เสียงเปาะแปะของสายน้ำแต่ละสายรวมกันเป็นเสียงดังต่อเนื่อง แม้สายน้ำจะกระทบผิวกายจนเกิดเสียงดังพอสมควรแต่ก็ไม่อาจพัดพาความหนักอึ้งกลางอกชายหนุ่มให้หายไปได้วศินเปลือยกายอยู่ใต้ฝักบัว เขายืนนิ่งให้สายน้ำพัดพาสิ่งสกปรกไหลลงท่อระบายน้ำไปตามแรงโน้มถ่วง ชายหนุ่มรับน้ำเย็นให้เปียกปอนไปทั้งกายอยู่เป็นหลายนาทีแล้วจึงเริ่มขยับมือชำระร่างกายไปอย่างที่ควรจะเป็นในภายหลังสายตาคนรักหมาดๆของเขามีคำถามและความหวาดระแวงแฝงอยู่เต็มเปี่ยม เขาไม่อาจสู้สายตานั้นจึงทิ้งอีกฝ่ายไว้กับความกังวลที่ข้างนอกแล้วขังตัวเองไว้ในห้องน้ำมาพักใหญ่วศินลูบหน้าลูบผมตัวเองอย่างแรง เขารู้ดีว่าการหนีออกมาแบบนี้ไม่อาจรั้งอะไรไว้ได้นานนัก ชายหนุ่มขัดถูเรือนกายกำยำของตนราวกับจะชำระจิตใจตัวเองไปด้วยเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจึงปิดน้ำ ความเงียบเข้ามาแทนที่เสียงดังต่อเนื่องของสายน้ำทันทีทันใด มันมาพร้อมก

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 21 รสขม

    รสขมสมัยประถมเคยโดนล้อกันไหมครับประมาณว่า เอชอบบี บีชอบซี ไม่ก็ เห้ย ไอ้บีมันชอบแกอ้ะ แล้วคนที่ล้อก็จะทำตากรุ้มกริ่มๆน่ารำคาญใส่ ตอนเด็กๆผมโดนบ่อยเพราะสนิทเล่นหัวกับเด็กผู้หญิงในห้อง แต่โตมาก็ไม่ได้เจออะไรแบบนั้นมาพักใหญ่แล้วเพราะเพื่อนรุ่นเดียวกันเลิกเห่อการละเล่นแบบนี้ไป ไม่ได้คิดเลยว่าจะมาเจออีกทีตอนจะสามสิบกับบรรดาคุณพี่วัยใกล้กลางคน มีลูกแล้วหนึ่ง เพิ่งเป็นหม้ายอีกหนึ่งไอ้สายตาของสองคนนั้นมันเกินไปป่าววะผมหรี่ตาตอนที่เดินเข้าร้านมาพร้อมพี่วศิน สีหน้าพี่มะลิกับพี่เจฟกะลิ้มกะเหลี่ยเกินทน แทบจะได้ยินเสียง วี้ดวิ่ว กริ๊วๆ อยู่ในหูแล้วด้วยซ้ำถ้าไม่ติดว่าผมหลอนไปเองพวกเราทักทายและพูดคุยกันตามปกติ ผมถูกถามเรื่องที่ทำงานใหม่พอเป็นพิธี จนเบียร์แก้วที่หนึ่งผ่านไปผมก็ยังไม่เจอคำถามชวนกระอักกระอ่วนอย่าง พวกแกเป็นไรกันอะ? สักที ผมได้แต่นั่งระแวงคำถามเหล่านั้นจนสงบใจเอาไว้ไม่อยู่ ทั้งพี่มะลิและพี่เจฟไม่ได้เอ่ยแซวอะไรก็จริง แต่สายตาของสองคนน

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 20 Trust Issue

    Trust Issueตอนที่สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาสายแล้ว แสงอาทิตย์ยามแปดโมงเช้าทะลุทะลวงผ่านผ้าม่านโปร่งเข้ามาถึงบนเตียง ปลายเท้าผมโผล่พ้นผ้านวมสีฟ้าอ่อนโดยมีท่อนขาแข็งแรงสีแทนเกาะก่ายอยู่ไม่ห่าง อ้อมกอดอุ่นจากด้านหลังไม่ได้ทำให้ผมลืมตาตื่นขึ้นมากเท่ากับสัมผัสยุกยิกบริเวณบั้นท้ายฝ่ามือซุกซนของคนด้านหลังสัมผัสลูบไล้ก้นนิ่ม ปลายนิ้วแข็งแรงเลื่อนลึกเข้าซอกหลืบ สัมผัสไล้เหมือนหยอกเหมือนเอาจริง ผมลืมตาตื่นตอนที่บั้นท้ายสัมผัสโดนอวัยวะที่ร้อนและใหญ่กว่าปลายนิ้วของคนข้างหลัง ผมหันไปโวยวายใส่เขา“เล่นอะไรเนี่ย”“มอร์นิ่งครับ” พี่วศินเห็นผมหันหน้ากลับไปหาจึงฉวยโอกาสจูบแก้มผมเบาๆผมที่ยังงัวเงียอยู่จึงทำได้แค่ลูบแก้มเบาๆยามที่ตอบเขากลับไปเท่านั้น “มอร์นิ่งครับ”ผมใช้เวลาอยู่กับพ่อแม่สองคืนแล้วจึงกลับมาที่บ้านพี่วศิน ใช้เวลายามค่ำคืนอย่างลึกล้ำกับเขาแล้วก็ต

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 19 แรกพบ

    แรกพบสมัยเด็กๆ ผมเคยไปรอแม่ที่ที่ทำงานครั้งหนึ่ง มีนักศึกษาเดินเข้าห้องแม่มาปรึกษาไม่ขาดสายผมจึงขอตัวออกมาเดินเล่นด้านนอกภาควิชา เดินไปเดินมาก็เจอกับตลาดนัดมหาวิทยาลัยเข้าจึงเดินเข้าไปสำรวจภายในด้วยความยินดี มองดูสินค้าหลากหลายอย่างสนุกสนาน ซื้อขนมน่ากินติดมือมาบ้างในงบประมาณสามสิบบาทที่แม่ให้พกไว้ประจำวันตอนนั้นผมอยู่ม.2 ยังสูงไม่ถึง 155 เซนติเมตรด้วยซ้ำ ช่วงพักกลางวันคนแน่นตลาดเสียจนต้องเดินเบียดกัน เมื่อเดินลึกเข้าไปในตลาดแล้วเจอกับความแออัดมากเข้าจึงเริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา เดินหลบเลี่ยงร่างกายผู้คนที่ไม่คุ้นเคยไปเรื่อยก็หลุดออกมาอีกด้านหนึ่งของตลาด แน่นอนว่าตอนนั้นผมนึกไม่ออกเลยว่าตัวเองยืนอยู่ส่วนไหนของมหาวิทยาลัยเด็กม.2 น่าจะดูแลตัวเองได้พอสมควรแล้วแต่ไม่ใช่กับลูกแหง่อย่างผม ผมหวาดกลัวและเริ่มทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะเดินไปทางไหนและจะกลับไปหาแม่ได้อย่างไรดี สิ่งล่อใจหลากสีสันในตลาดนัดไม่อาจดึงดูดความสนใจผมได้อีก ผมเริ่มเบะปากหากแต่ไม่ได้ส่งเสียง ตอนที่กำลังมองไ

DMCA.com Protection Status