Share

บทที่ 12 เลือกทางที่ง่าย

last update Last Updated: 2024-11-05 19:42:35

เลือกทางที่ง่าย

เช้าตรู่ทุกวันพี่วศินจะมาปลุกผมไปออกกำลังกายตอนเช้า วิ่งบ้าง เวทเทรนนิ่งบ้าง พอออกกำลังกายเสร็จ พี่วศินจะเตรียมตัวไปทำงาน ส่วนผมอาบน้ำ ยืนส่งเจ้านายออกไปทำงานเสร็จแล้วก็กลับไปนอนต่อ ชดเชยที่ต้องตื่นเช้ามาออกกำลังกาย ดำเนินชีวิตเรียบง่ายเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง

เประเประยังจะขยันกว่าผม พอเปิดผ้าคลุมกรง กินอาหารและขับถ่ายเรียบร้อย มันก็ร้องเจื้อยแจ้วของมันอยู่ทั้งวัน บินไปทางโน้นบ้าง เดินบ้าง กระโดดบ้าง ใช้ชีวิตแบบนกๆของมันไปอย่างร่าเริง ผมตื่นอีกครั้งราวสิบโมง ก็เดินลงมาทักทายมันเป็นอย่างแรกเหมือนกับทุกวัน

ในวันที่อยู่คนเดียว เประก็เหมือนเพื่อนคนหนึ่งของผม ถึงมันจะชอบพูดจากไม่น่ารัก แต่การได้เล่นกับนกก็สนุกและผ่อนคลายอยู่มาก

“หมิงหมิง กินข้าว” เสียงแปร่งๆของเประดังขึ้น มันเลียนแบบเสียงร้องที่ได้ยินทุกวัน

“กินแล้ว” ผมตอบมันไปเรื่อยเปื่อย “เประ กินข้าวยัง”

“กินข้าว กินข้าว”

“ปิ๊วๆๆๆๆ”

“เข้ากรง”

“อะไรล่ะนั่น เพิ่งออกมาจะเข้าอีกแล้วเหรอ” ผมแซว เประพูดไปอย่างนั้นแต่มันก็ไม่ได้เดินเข้ากรงอย่างที่มันร้อง เจ้านกสีเทาใช้ปากเกาะกรงเดินไปทั่วอย่างไม่รู้เบื่อ นกที่ถูกเลี้ยงในบ้านไม่ค่อยข
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 13 จำนน

    จำนนมะม่วงที่เก็บมาวันก่อนมีจำนวนมากเกินไปสำหรับกินกันแค่สองคน ผมจึงแบ่งไว้สำหรับบริโภคแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนที่เหลือจัดใส่ถุงให้พี่วศินนำไปแจกได้ตามสะดวกมะม่วงแก้วขมิ้นเป็นมะม่วงที่กินอร่อยทั้งผลดิบและผลสุก ลูกดิบสีเขียวให้รสเปรี้ยวเหมาะนำไปรับประทานกับน้ำปลาหวาน เมื่อเริ่มสุกเนื้อในจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวอมเหลืองอย่างรวดเร็ว มีรสชาติเปรี้ยวหวานปนกัน ทานกับพริกเกลืออร่อย ส่วนผลสุกมีรสหวานฉ่ำ อาจสู้สายพันธุ์น้ำดอกไม้หรืออกร่องทองไม่ได้ แต่เมื่อนำมารับประทานคู่กับข้าวเหนียวมูนรสชาติหวานเค็มก็ลงตัวไปอีกแบบผมสั่งน้ำปลาหวานเจ้าเด็ดมาจากนครปฐม ส่วนข้าวเหนียวมูนก็ไปซื้อมาจากตลาดในหมู่บ้าน ตอนนี้ทั้งเนื้อมะม่วงหวานฉ่ำและข้าวเหนียวมูนกลมกล่อมอยู่ในปากของผม กลิ่นหอมของน้ำกะทิอวลขึ้นจมูก ผมเคี้ยวตุ้ยๆอย่างเป็นสุขในเช้าวันหยุดที่อากาศดี พอว่างก็หั่นมะม่วงสุกอีกลูกเป็นสองซีก วางใส่จานแล้วถือเดินเข้าไปในห้องนก เประก้มลงสำรวจไม่นานก็จิกจะงอยปากสีดำอันใหญ่ของมันลงบนเนื้อมะม่วง เลียกินน้ำหวานและเนื้อฉ่ำๆอย่างเพลิดเพลินพี่วศินยืนกอดอกมองอยู่ตรงทางเข้า “ใครเป็นเจ้าของเประกันแน่พี่เริ่มจะไม่แน่ใจแล้

    Last Updated : 2024-11-06
  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 14 แนบเนียน

    แนบเนียนผ้าปูเตียงและชุดเครื่องนอนสีขาวถูกสับเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอ่อนในตอนบ่าย ตอนที่ยัดผ้านวมและหมอนข้างเข้าปลอกอย่างยากลำบากได้แล้ว ผมและพี่วศินก็ช่วยกันสวมผ้าปูเตียงอยู่คนละมุม พัดลมตัวใหญ่ที่ปลายเตียงพัดส่งลมเย็นระบายความร้อน ห้องทั้งห้องสว่างด้วยแสงแดดยามบ่ายร้อนจัดจ้าผิดกับบรรยากาศมืดครึ้มตอนเช้ามืดลิบลับพอปูเสร็จผมก็ทิ้งตัวลงเตียงอย่างคนขี้เกียจ ตอนที่กลิ้งไปถึงอีกฝั่งพี่วศินก็ทรุดนั่งลงตรงหัวเตียงพอดี ผมขยับขึ้นไปหนุนตักเขาอย่างได้ใจพื้นที่ที่ผมเคยต่อสู้กับตัวเองในสมองถูกทำลายลงไปแล้วเมื่อมันได้ผู้ชนะ ผมตัดสินใจเลิกคิดมากและทำตามอย่างที่ใจต้องการ เพราะผมไม่ยอมหนีไปตอนที่ยังทัน ตอนนี้จึงสายเกินไปที่จะทำแบบนั้นแล้วผมชอบเขาไม่ใช่น้อยเลยพี่วศินลูบหัวผมแผ่วเบา ผมเส้นเล็กนุ่มแผ่กระจายอยู่บนต้นขาของเขา ดวงตาสีดำที่มองมาทำให้ความหวังในใจผมวูบไหว เป็นแววตาเดียวกันกับที่ผมได้สัมผัสเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา ประกายอบอุ่นในหลุมดำแสนอันตรายที่ดูดผมเข้าไปจนไม่อาจหนีไปที่ไหนได้อีกผมเป็นคนไม่ช่างตั้งคำถามในระดับที่ทำให้แม่บ่นอยู่บ่อยๆ ปล่อยตัวปล่อยใจมาอยู่บ้านพี่วศินโดยรู้เรื่องราวของเขาเพียงส่ว

    Last Updated : 2024-11-07
  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 15 ชีวิตในฝัน

    ชีวิตในฝัน ผมนั่งฟังศาสตราจารย์คนขาวอธิบายความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับวิทยาการคอมพิวเตอร์ไปได้หนึ่งชั่วโมงก็หาวหวอด สับเปลี่ยนมาดูคลิปเกี่ยวกับ UX/UI อย่างที่พี่วศินแนะนำ ผมพอจะเข้าใจคอนเซปต์คร่าวๆแต่ก็จบที่นั่งหาวน้ำตาไหลอีกตามเคย เนื้อหาของมันน่าตื่นเต้นและเข้าใจได้ไม่ยากในตอนแรก แต่พอหลังๆสติผมก็เริ่มหลุด ความมั่นใจดับวูบ คิดเพียงว่าเรียนไปตอนอายุป่านนี้ก็คงตามใครไม่ทันเฮ้อ จะว่าอย่างไรดี ผมรู้ดีว่าควรทำอะไร รู้ดีว่าไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆเพียงตั้งใจกับมันแค่ชั่วครู่ชั่วคราว คนเก่งทุกคนผ่านการฝึกฝนทักษะมาไม่ต่ำกว่าพันชั่วโมงกันทั้งนั้น ความตั้งใจกับการรับรู้ความเป็นจริงของผมมันขัดแย้ง คอยแต่รั้งให้ชีวิตผมไปไม่ถึงไหน คนรักสบายและเห็นแก่ตัวอย่างผมจึงหลีกหนีจากมันมาตลอด ใช้ชีวิตล่องลอยตามสายน้ำไหลไปเรื่อยโดยหวังว่าโชคชะตาจะไม่ใจร้ายมากนัก ความคิดและความรู้สึกซ้อนกันอยู่หลายชั้น ผมคิดแล้วคิดอีกว่าจะปล่อยชีวิตตัวเองให้ไหลไปตามกระแสลมอย่างนี้ตลอดไปไม่ได้ แต่สิ่งที่ผมทำก็มีแต่การทำตัวตามสบาย พักอีกสักหน่อย ค่อยเริ่มวันพรุ่งนี้ ผัดวันประกันพรุ่งจนเ

    Last Updated : 2024-11-09
  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 16 ตั้งหลัก

    ตั้งหลักป้ายที่ใหญ่ที่สุดของโปรเจ็คท์นี้ตกเป็นของผม ผลงานของผมได้รับคะแนนโหวตท่วมท้นและจะถูกนำไปใช้ในวันจัดแสดงคอนเสิร์ต ความภูมิใจคับพองอยู่ในอกแม้ผมจะไม่ได้เงินจากงานนี้สักบาทเดียวเลยก็ตามความยินดีสุขล้นจากข้างในไหลออกมาถึงข้างนอก จนพี่วศินยังดูออกว่ามีเรื่องดีๆเกิดขึ้น เขาเดาได้ทันทีว่างานการกุศลที่ผมเคยพูดถึงถูกนำไปใช้“ดีไซน์ของหมิงโดดเด่นกว่าคนอื่นจริงๆนั่นแหละ” พี่วศินกล่าวชม วันที่กลุ่มแฟนคลับเปิดให้ลงคะแนน พี่วศินนั่งอยู่ด้วยกันกับผม ผลงานทุกชิ้นผ่านตาเราทั้งคู่จึงทำให้ผมและเขาเห็นความแตกต่างได้ค่อนข้างชัดให้พูดตรงๆก็ดูเหมือนเอามืออาชีพมาแข่งกับมือสมัครเล่น งานส่วนใหญ่เป็นงานอาสาทำจากใจล้วนๆ จึงมีคนให้ความร่วมมือไม่มากนักและส่วนใหญ่ในนั้นก็คงไม่ใช่คนที่ทำมาหากินด้วยการออกแบบกราฟฟิคอย่างผม แต่ถึงอย่างนั้นคำชมที่ได้รับก็เป็นของจริง จะไม่ให้ผมดีใจกับมันเลยก็เป็นไปได้ยากไฟที่เคยมอดดับลุกโชนขึ้นมา ผมจึงใช้เวลาแต่ละวันในบ้านนี้อย่างมีความหมาย กิจวัตรในแต่ละวันถูกจัดสรรให้เป็นเวลามากยิ่งขึ้น ตอนเช้าเป็นเวลาออกกำลังกายและเล่นกับนก ตอนเย็นเป็นเวลาทำอาหาร ส่วนช่วงกลางวันที่ผมอยู่บ้

    Last Updated : 2024-11-10
  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 17 ศึกษาดูใจ

    ศึกษาดูใจผมนั่งตัวลีบอยู่ในห้องโดยสารรถยนต์เอสยูวีสีขาว มันพุ่งทะยานฝ่าค่ำคืนกรุงเทพฯในความเร็วที่ไม่มากไม่น้อย ความเงียบงันโรยตัวปกคลุมบรรยากาศเย็นเยียบในรถอย่างน่าอึดอัด ผมมองทางไปเรื่อยด้วยไม่รู้จะทำตัวอย่างไรกับคนที่ดูเหมือนจะหัวร้อนข้างๆคนนี้ดีผ่านไปพักหนึ่งผมจึงลอบหันไปมองพี่วศินด้วยท่าทางเกรงอกเกรงใจเผื่อว่าเขาจะใจเย็นลงบ้างแล้ว ใบหน้าคมสันสีน้ำผึ้งที่ยิ้มหวานอย่างน่ากลัวเมื่อสักครู่นี้กลายเป็นใบหน้านิ่งเฉย เขาผินหน้ามาสบตาผมทีหนึ่งแล้วจึงถอนหายใจ หางคิ้วเข้มตกลง“พี่ใจร้อนไปหน่อยเนาะ” เขาเอ่ยพลางเสยผมสั้นๆของตัวเอง “โทษทีนะ”ร่างกายที่ตึงเครียดตามบรรยากาศอึดอัดในรถก่อนหน้านี้ของผมจึงค่อยผ่อนคลายลงเมื่ออีกฝ่ายเปิดปากพูด พี่วศินดูจะใจเย็นลงแล้วจริงๆ“ก็ใจร้อนน่ะสิ” ผมพึมพำงุบงิบผมไม่เคยเห็นมุมที่เขาหงุดหงิดแบบนี้มาก่อนจึงไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไร ตอนแรกผมคิดว่าตัวเองจะต้องโดนเขาโกรธใส่เพราะไม่ยอมบอกเขาเรื่องที่กำลังหางานเสียแล้ว คิดไม่ถึงว่าเป็นเขาเองที่เอ่ยปากขอโทษออกมาก่อนประสบการณ์ส่วนตัวผมเคยเจอแต่คนที่โกรธแล้วเอาแต่พูดเรื่องที่ตัวเองไม่พอใจ เพราะผมใจเย็นจึงต้องกลายเป็นเป

    Last Updated : 2024-11-10
  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 18 ขาขึ้น

    ขาขึ้นจากใบสมัครงานที่ผมยื่นไปหลายเจ้า ผมถูกเรียกสัมภาษณ์สองสามที่ สองในนั้นเป็นการสัมภาษณ์ออนไลน์ส่วนอีกหนึ่งที่นัดผมเข้าไปเจอที่ออฟฟิศ และหนึ่งที่สุดท้ายที่ว่าก็เป็นที่ที่ผมหมายตาอยากเข้าไปทำงานมากที่สุดผมก้าวขาลงจากรถมอเตอร์ไซค์ด้วยท่าทางทะมัดทะแมงแล้วยื่นแบงค์ยี่สิบให้พี่วิน เนื่องจากไม่มีหวังจะได้ไว้ผมยาวจนสามารถนำไปบริจาค ผมจึงตัดผมยาวระต้นคอให้สั้นเข้าทรงเรียบร้อย วันนี้ผมสวมเสื้อเชิ้ตกับกางเกงสแล็คที่ไม่ได้ใส่มานานจึงทำให้รู้สึกอึดอัดไม่น้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเสื้อสูทที่ดูไม่เข้ากับผมสักเท่าไรตัวนี้ ผมรู้สึกเหมือนกำลังปลอมตัวมาสัมภาษณ์งานอย่างไรอย่างนั้นตึกใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ความสูงของมันทำเอาผมหยุดความคิดที่จะแหงนหน้ามอง ผมก้าวเท้าเข้าไปภายในตึกด้วยความมั่นใจที่พกติดตัวมาไม่มากนัก ยื่นบัตรประชาชนแลกกับบัตร visitor แล้วกดลิฟต์ขึ้นชั้นสามสิบห้าไปตามที่อยู่ที่ได้รับทางอีเมล พนักงานบริษัทที่เดินสวนทางกับผมไปแต่ละคนดูภูมิฐานบุคลิกดีสมกับเป็นพนักงานเอกชนชั้นนำ และนั่นทำเอาผมที่ปกติแต่งตัวตามสบายเข้าออฟฟิศอยู่เสมอรู้สึกว่าตัวเองตัวลีบเล็กลงอย่างอดไม่อยู่ผมเคยทำงานอยู่ในเ

    Last Updated : 2024-11-12
  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 19 แรกพบ

    แรกพบสมัยเด็กๆ ผมเคยไปรอแม่ที่ที่ทำงานครั้งหนึ่ง มีนักศึกษาเดินเข้าห้องแม่มาปรึกษาไม่ขาดสายผมจึงขอตัวออกมาเดินเล่นด้านนอกภาควิชา เดินไปเดินมาก็เจอกับตลาดนัดมหาวิทยาลัยเข้าจึงเดินเข้าไปสำรวจภายในด้วยความยินดี มองดูสินค้าหลากหลายอย่างสนุกสนาน ซื้อขนมน่ากินติดมือมาบ้างในงบประมาณสามสิบบาทที่แม่ให้พกไว้ประจำวันตอนนั้นผมอยู่ม.2 ยังสูงไม่ถึง 155 เซนติเมตรด้วยซ้ำ ช่วงพักกลางวันคนแน่นตลาดเสียจนต้องเดินเบียดกัน เมื่อเดินลึกเข้าไปในตลาดแล้วเจอกับความแออัดมากเข้าจึงเริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา เดินหลบเลี่ยงร่างกายผู้คนที่ไม่คุ้นเคยไปเรื่อยก็หลุดออกมาอีกด้านหนึ่งของตลาด แน่นอนว่าตอนนั้นผมนึกไม่ออกเลยว่าตัวเองยืนอยู่ส่วนไหนของมหาวิทยาลัยเด็กม.2 น่าจะดูแลตัวเองได้พอสมควรแล้วแต่ไม่ใช่กับลูกแหง่อย่างผม ผมหวาดกลัวและเริ่มทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะเดินไปทางไหนและจะกลับไปหาแม่ได้อย่างไรดี สิ่งล่อใจหลากสีสันในตลาดนัดไม่อาจดึงดูดความสนใจผมได้อีก ผมเริ่มเบะปากหากแต่ไม่ได้ส่งเสียง ตอนที่กำลังมองไ

    Last Updated : 2024-11-13
  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 20 Trust Issue

    Trust Issueตอนที่สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาสายแล้ว แสงอาทิตย์ยามแปดโมงเช้าทะลุทะลวงผ่านผ้าม่านโปร่งเข้ามาถึงบนเตียง ปลายเท้าผมโผล่พ้นผ้านวมสีฟ้าอ่อนโดยมีท่อนขาแข็งแรงสีแทนเกาะก่ายอยู่ไม่ห่าง อ้อมกอดอุ่นจากด้านหลังไม่ได้ทำให้ผมลืมตาตื่นขึ้นมากเท่ากับสัมผัสยุกยิกบริเวณบั้นท้ายฝ่ามือซุกซนของคนด้านหลังสัมผัสลูบไล้ก้นนิ่ม ปลายนิ้วแข็งแรงเลื่อนลึกเข้าซอกหลืบ สัมผัสไล้เหมือนหยอกเหมือนเอาจริง ผมลืมตาตื่นตอนที่บั้นท้ายสัมผัสโดนอวัยวะที่ร้อนและใหญ่กว่าปลายนิ้วของคนข้างหลัง ผมหันไปโวยวายใส่เขา“เล่นอะไรเนี่ย”“มอร์นิ่งครับ” พี่วศินเห็นผมหันหน้ากลับไปหาจึงฉวยโอกาสจูบแก้มผมเบาๆผมที่ยังงัวเงียอยู่จึงทำได้แค่ลูบแก้มเบาๆยามที่ตอบเขากลับไปเท่านั้น “มอร์นิ่งครับ”ผมใช้เวลาอยู่กับพ่อแม่สองคืนแล้วจึงกลับมาที่บ้านพี่วศิน ใช้เวลายามค่ำคืนอย่างลึกล้ำกับเขาแล้วก็ต

    Last Updated : 2024-11-14

Latest chapter

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   ตอนพิเศษ Deep Dive

    Deep Diveดวงไฟรอบสระกลายเป็นสปอตไลท์ พื้นที่ตั้งแต่ชานเรือนจนถึงสระว่ายน้ำกลายเป็นเวที เสียงลมเสียงคลื่นคือดนตรีประกอบ ผมและพี่วศินคือนักแสดงเจ้าบทบาทผู้ครอบครองเวทีอันแสนกว้างขวางนี้โดยมีมวลเมฆและดวงดาราเป็นผู้ชมเปรียบดังเราเป็นนักแสดงผู้เต้นรำอยู่บนปลายเท้า แสงไฟสีนวลฉายฉานทว่าอาภรณ์ฉูดฉาดระยิบระยับกลับไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นสำหรับการแสดงนี้ ด้วยกายกึ่งเปลือย ปลายนิ้วผมสัมผัสกับปลายนิ้วเขา เราจับจูงก้าวกระโดดและหมุนคว้าง ปลายเท้าผมเหยียบอยู่บนเท้าของเขา ระบำและดำผุดดำว่ายไล่จับกันราวกับพระ-นางในโรงละครผมแนบกายเบียดชิดกับกล้ามอกแน่นตึงสีน้ำผึ้งที่ผมหลงใหล แลกปลายลิ้นแหลมของตนกับปลายลิ้นป้านหนาของเขา มันยื่นออกมาจากปากแตะต้องเกี่ยวกระหวัดกันอย่างคุ้นเคยยินดี น้ำอุ่นในสระประคองกายสองเราเอาไว้อย่างอ่อนโยน ผิดกับพี่วศินที่ลากผมไปมาจนทั่วสระแล้วจึงกักขักผมไว้ในสองแขนของเขา กดร่างผมจนติดขอบสระไม่อาจขยับเขยื้อนหลบเขาไปทางไหนได้อีกผมบีบนวดแผ่นอกหนาของเขาอย่างมัวเม

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   ตอนพิเศษ ใต้สมุทร

    ใต้สมุทรความรู้สึกตอนหย่อนตัวลงมาในน้ำเย็นๆน่าสะพรึงกลัวเล็กน้อย มวลน้ำมหาศาลโอบอุ้มร่างกายผมเอาไว้อย่างเป็นมิตร แต่ความรู้สึกเคว้งคว้างเท้าไม่ติดพื้นกลับทำให้ผมรู้สึกไม่ไว้ใจนัก ผมสาวเชือกเส้นใหญ่ที่ผูกไว้กับเรือเคลื่อนไปด้านหน้า ยื่นมือให้พี่วศินที่รอรับอยู่บริเวณปลายเชือก เมื่อฝ่ามืออุ่นข้างนั้นกุมมือผมไว้ผมจึงรู้สึกสงบใจลงได้นิดหนึ่งผมกระชับสน็อกเกิล อมท่อช่วยหายใจไว้ในปากแล้วจุ่มหน้าตัวเองลงไปในน้ำทะเล โลกใต้น้ำที่เราตั้งใจมาดูจึงเผยตัวต่อหน้าผมในทันใด เสียงที่เคยอึกทึกภายนอกพลันเงียบสงัดกลายเป็นเสียงอื้ออึงอล สีฟ้าปกคลุมไปทั้งผืนน้ำ ใต้เท้าของผมเคว้างคว้างพื้นทะเลอยู่ต่ำลงไปกว่าห้าเมตร ปะการังและฝูงปลาใช้ชีวิตของมันอย่างไม่แยแสผู้คนอยู่ตรงนั้นพี่วศินก้มหน้าลงมาเช่นเดียวกัน เราพากันว่ายไปตามแนวปะการัง ผมขนานกายตัวเองไปกับผิวน้ำ สะบัดปลายเท้าโจนจ้วงแขนยาวไปเบื้องหน้า เพ่งมองโลกสีน้ำเงินแปลกตาผ่านแว่นใส เบื้องล่างนั้นคือชุมชนสัตว์น้อยใหญ่ ฝูงปลาเดินทางซ้ายขวาอย่างพร้อมเพร

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   ตอนพิเศษ ไอทะเล

    ไอทะเลกลับมาจากจันทบุรีคราวนั้น เราตกลงกันไว้ว่าจะต้องจัดทริปไปเที่ยวกันแบบจริงจังอีกครั้งให้ได้ ผมและพี่วศินช่วยกันออกความเห็น ด้วยงบประมาณอันล้นเหลือ(ของพี่วศิน) ทำให้เรามีตัวเลือกมากมายจนเอามาพูดคุยกันได้ไม่รู้จบ“ให้ผมช่วยออกด้วยไม่ดีกว่าเหรอ” คนที่ชินกับการหารเท่าอย่างผมรู้สึกแปลกๆ เพิ่งได้ใช้เงินตัวเองบ้างไม่กี่เดือนพี่วศินก็จะเลี้ยงอีกแล้ว ถึงแต่แรกจะเป็นผมที่มาอ้อนขอให้เขาเลี้ยงก็เถอะ จิตสำนึกของผมมันไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นแบบนี้จริงๆนี่นาแต่ถ้าเขาเต็มใจ ผมก็ไม่ขัดนะ(ฮา)“หมิงบอกพี่ว่าอยากมีเงินเก็บนี่นา” พี่วศินพูดเรียบเรื่อยระหว่างพับแขนเสื้อเชิ้ตสีขาวขึ้นเหนือข้อศอก อวดท่อนแขนสีน้ำผึ้งที่มีแนวมัดกล้ามสวยงาม ระหว่างสำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าอยู่หน้ากระจก ดวงตาสีดำก็สะท้อนแสงเช้าเป็นประกาย พี่วศินพูดยิ้มๆเผยลักยิ้มที่แก้มขวา “ส่วนพี่มีเงินเก็บแล้ว พี่อยากใช้ครับ”ผมนั่งเท้าคางมองคนวัยสามสิ

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทส่งท้าย

    บทส่งท้ายเสียงกระดิ่งลมดังไพเราะเมื่อประตูกระจกของร้านถูกผลักเข้ามา หญิงสาวรูปร่างสะโอดสะองสวมชุดเดรสสีแดงเลือดนกเข้ากันกับริมฝีปากสีแดงสด พี่มะลิหอบหิ้วถุงพะรุงพะรัง เธอตามมาเป็นคนสุดท้ายหลังจากปล่อยให้ชายหนุ่มทั้งสามนั่งรอมาเกือบชั่วโมงผมกับพี่วศินมาถึงเป็นกลุ่มแรก เราดื่มเบียร์แก้วแรกหมดไปแล้วจึงกำลังสั่งแก้วที่สอง ช่วงปลายหน้าฝนมรสุมพัดเข้าประเทศไทยลูกแล้วลูกเล่า บรรยากาศด้านนอกร้านจึงมืดครึ้มเปียกชื้น โชคดีที่พี่มะลิมาถึงตอนที่ฝนซาแล้วจึงไม่ลำบากมากนัก ผิดกับพี่เจฟที่มาถึงก่อนหน้านี้ไม่นาน จังหวะนั้นตรงกับช่วงที่ฝนกำลังสาดพอดี เสื้อผ้าของพี่เจฟจึงมีรอยน้ำประพรมไปทั่ว ร่มพับคันน้อยที่เจ้าตัวมีอยู่ดูท่าจะช่วยไม่ได้มากนัก“มึงเป็นคนนัดแท้ๆนะ” พี่เจฟค่อนขอดเป็นคนแรก ดวงตาสีน้ำตาลภายใต้กรอบแว่นเหล่มองเพื่อนสาวที่ยังสวยเช้งด้วยความไม่พอใจนัก คงจะน้อยใจในโชคชะตาที่ตัวเองเปียกอยู่คนเดียวพี่มะลิแยกเขี้ยวใส่ทันควัน หญิงสาววางถุงกระดาษและถุงพลาสติก

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 31 เคียงข้าง

    เคียงข้างผมปรายสายตามามองเล็บมือตัวเอง “ตอนย้ายมากรุงเทพพี่ไม่ได้บอกใครเลยเหรอ”“ไม่เลย” พี่วศินกะพริบตาช้าๆ“ทั้งๆที่พี่ดูสนิทกับเพื่อนขนาดนั้นเลยนะ” ผมไม่ค่อยจะเข้าใจเขานัก หากเป็นผมในวัยเดียวกัน สิ่งที่ผมให้ความสำคัญมากที่สุดแทบจะเป็นเพื่อนด้วยซ้ำ “ขนาดพี่ไม่ติดต่อกับเขาเป็นสิบๆปี เพื่อนพี่ยังดูสนิทกับพี่อยู่เลย”“ตอนนั้นพี่ภาพลักษณ์ดีละมั้ง แต่เพราะแบบนั้นพี่ก็ยิ่งไม่อยากบอก ไม่อยากจะอธิบายอะไร” นิ้วยาวของพี่วศินลูบศีรษะผมไปด้วยระหว่างที่พูด สีหน้าของเขาผ่อนคลายกว่าครั้งก่อนมาก“แล้วตอนนี้ล่ะ” ผมกัดริมฝีปาก สำลักความน้อยเนื้อต่ำใจออกมา “่ตอนที่เพื่อนเรียกชื่อเล่นพี่… พี่ยังรู้สึกแย่อยู่ไหม”พี่วศินเลิกคิ้ว เขาเบนสายตาขึ้นด้านบนคล้ายกับใช้ความคิด “จริงๆ ก็ไม่นะ กับพวกนั้นมันชินแล้วน่ะ อีกอย่างมันก็ผ่านมานานมากแล้วด้วย”“งั้นเหรอ” ผมเบาเสียง น้ำย่อยและความกังวลตีรวนกันอยู่ในท้อง ยิ่งคิดว่าอยา

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 30 เอาแต่ใจ

    เอาแต่ใจพวกเราใช้เวลาที่คาเฟ่นานกว่าที่คาดเพราะคุยกับพี่เบนเสียยืดยาว พี่วศินกับพี่เบนต่างฝ่ายต่างทำท่าทางเหมือนไม่อยากจะเสวนากันแต่สุดท้ายกว่าจะได้ออกจากร้านก็เป็นเวลาบ่ายแก่ๆ ก่อนเราเดินทางกลับกรุงเทพ พี่เบนยังขอคอนแท็คพี่วศินเอาไว้ด้วย แม้จะทำหน้าบึ้งก็เถอะ“มีเฟสหรือไอจีป้ะ”“หา” พี่วศินเลิกคิ้ว ทำหน้ายุ่ง “ก็มีแหละ แต่ไม่ได้เล่นหรอกนะ”“เออเอามาเหอะ” พี่เบนยื่นมือถือมาให้พี่วศินพิมพ์ชื่อเฟสตัวเองส่งๆ แล้วจึงยื่นมือตัวเองมาจับมือผมอีกที หวา มือนุ่มจัง “ไม่ใช่ว่าพี่จะอะไรนะน้องหมิง แต่ไอ้นี่มันหายไปเหมือนตายอ้ะ อย่างน้อยก็อยากอัพเดทกับเพื่อนบ้างว่าเมยมันยังมีชีวิตอยู่”“เข้าใจครับ” ผมยิ้มตาหยี“อย่ามาแตะดิ๊” และเป็นอีกครั้งที่พี่วศินปัดมือพี่เบนทิ้งอย่างไม่ไยดีแล้วยัดมือถือคืนอีกฝ่ายไป“หวงเป็นหมาเลยไอ้

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 29 Specialty Coffee

    Specialty Coffee ผมสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาตอนเช้าด้วยจุมพิตที่แก้มขวา เมื่อลืมตาดูก็เห็นพี่วศินอยู่ในชุดพร้อมออกเดินทางแล้ว ผมคิดว่าตัวเองตื่นสายจึงผุดลุกขึ้นนั่ง ทว่าความปวดร้าวที่บั้นท้ายร่วมกับฝ่ามือใหญ่ของพี่วศินกลับยันกายผมให้นอนลงบนเตียงเหมือนเก่า “นอนเถอะเจ้าหมา เดี๋ยวพี่ไปที่ดินเอง”ผมยังเมาขี้ตา กึ่งเป็นห่วงกึ่งดีใจจึงจับมือเขาเอาไว้ “จะดีเหรอ”“ดีสิ พี่ไปไม่นานก็กลับแล้ว” เขาว่า “ให้หมิงพักดีกว่า เดี๋ยวจะสะบักสะบอมเกิน”“รู้ตัวเหมือนกันนะว่าเล่นผมซะเยิน”“ก็เราชอบไม่ใช่เหรอครับ”“ชอบที่สุด” ผมยิ้มเผล่ทั้งที่ตายังปิด&l

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 28 จันทร์กระเพื่อม

    จันทร์กระเพื่อม“ผมก็ต้องทำแบบนี้สิ… พี่จะได้เสร็จเร็วๆไง”เด็กตรงหน้าเอ่ยวาจายั่วเย้าพร้อมส่งรอยยิ้มยั่วยวน ความซุกซนในแววตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นทำเอาชายหนุ่มรู้สึกเหมือนจะเป็นลมเอาเสียให้ได้วศินรู้สึกเหมือนแก่ลงสิบปีเขาอายุแค่สามสิบแปด อย่างเขาไม่อาจเรียกได้ว่าแก่ ยังห่างไกลจากคำนั้นอยู่มากแท้ๆ แต่ในหมู่คนอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ใครๆก็ล้วนแต่พูดว่าตนเองรู้สึกแก่กันทั้งนั้น เขาตามกระแสที่ชาวบ้านคุยกันก็ไม่ค่อยจะทัน ยิ่งเมื่อคบหาสมาคมกับเด็กรุ่นน้อง การเป็นพี่คนโตในที่ทำงานก็ยิ่งกล่อมให้เขาเข้าใจว่าตัวเองแก่อย่างที่ปากว่าจริงๆไปอีกแล้วการคบหาดูใจกับคนที่อายุน้อยกว่าเก้าปีเป็นอย่างไรงั้นหรือก็คงคล้ายๆกับการถูกแวมไพร์น้อยดูดเลือดกระมังชีวิตที่เคยนิ่งสงบเพราะจัดการทุกสิ่งทุกอย่างไว้จนอยู่ตัวพอประมาณพลันถูกความสดใสมีชีวิตชีวาของเจ้าหมาเด็กเข้ามาเล่นงาน คลื่นอารมณ์ที่เค

  • เจ้านายใจดีช่วยเลี้ยงผมทีได้ไหมครับ   บทที่ 27 แรมริมน้ำ

    แรมริมน้ำเรื่องราวทั้งหมดคล้ายจะคลี่คลายลงได้ด้วยดี นอกจากนัดหมายที่สำนักงานที่ดินในเช้าวันพรุ่งนี้ ทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องมาเกี่ยวพันกันอีกอย่างที่พี่วศินต้องการตั้งแต่ขับรถออกมาจากวัด พี่วศินก็ถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก เขาบอกผมว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ดูไม่สบายอกสบายใจแบบนั้น“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ผมหันไปมองตาพลางแตะมือไปที่หน้าขาของเขาพี่วศินเหมือนทำหน้าไม่ถูก “อ๋อ อืม” เขายื่นมือหนึ่งมาจับมือผมที่ยื่นไปเมื่อสักครู่ มือใหญ่ของเขาเย็นเฉียบเพราะลมแอร์ “มันเหมือนจะโล่งแต่ก็ไม่โล่งยังไงก็ไม่รู้น่ะ”“ทำไมล่ะ”“ไอ้พี่แชมป์มันแปลกเกิน” พี่วศินเปรยก่อนเบ้ปากทันควัน “เชี่ย บาปมั้ยวะ”ผมหัวเราะ “ไม่เห็นเหมือนที่เล่าให้ฟังเลย ผมเตรียมมาต่อยเขาแท้ๆนะเนี่ย”“ห่มผ้าเหลืองมาขนาดนั้นอยากต่อยก็ต่อยไม่ลงน่ะสิ” พี่วศินวิจารณ์พลางส่ายหน้า “ความจริงมั

DMCA.com Protection Status