บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง의 모든 챕터: 챕터 81 - 챕터 90

381 챕터

บทที่ 81

“ขออภัยด้วย ขออภัย ข้าแค่เดาส่งเดชเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะเดาถูกด้วย” เหวยอิ้งหวน “...”เขาถลึงตาใส่ซือเจ๋อเยว่แวบหนึ่งแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “ใครก็ได้ ส่งแขก!”ซือเจ๋อเยว่เขยิบเข้าไปใกล้เบื้องหน้าเขาแล้วกระซิบเบา ๆ ว่า “หากใต้เท้าเหวยอยากรีบร้อนแต่งภรรยามาอุ่นเตียงจริง ๆ บางทีข้าอาจจะช่วยคิดหาทางให้ท่านได้นะ” เหวยอิ้งหวนเอ่ยด้วยเสียงเข้มว่า “ต่อไปองค์หญิงโปรดระวังคำพูดด้วย”“องค์หญิงเอ่ยเรื่องที่ไม่ค่อยดีพวกนั้นมากไป หลังจากนั้นก็เป็นจริงขึ้นมาทั้งหมด เกรงว่าจะเสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์หญิงได้” ซือเจ๋อเยว่ยิ้มพลางเอ่ยว่า “เสื่อมเสียชื่อเสียงของข้า? ข้ามีชื่อเสียงอันใดอีกหรือ?” นางกล่าวจบก็เดินออกจากศาลต้าหลี่ไปพร้อมกับเยียนเซียวหราน เหวยอิ้งหวนชะงักไปครู่หนึ่ง นึกขึ้นได้ว่าหลังจากที่นางเข้ามาในเมืองหลวงแล้ว ก็มีข่าวลือที่ไม่ดีเกี่ยวกับนางแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงต่อมาเรื่องราวต่าง ๆ ที่นางได้แต่งงงานเข้าจวนเยียนอ๋องทำให้ข่าวลือพวกนั้นทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น บัดนี้ผู้คนมากมายล้วนกล่าวว่านางเป็นตัวซวย เหวยอิ้งหวนประสบปัญหาด้านการแต่งงานมากจนได้ชื่อว่ามีดวงข่มภรรยาเช่นก
더 보기

บทที่ 82

หลังจากที่นางเข้าวังครั้งก่อนก็ตัดข้อสงสัยนี้ไปแล้ว หากเรื่องนี้เป็นฝีมือของพระองค์จริง ๆ ทุกคนในจวนเยียนอ๋องคงหมดทางรอดไปนานแล้วบัดนี้ทุกคนในจวนเยียนอ๋องยังมีชีวิตอยู่กันหมด นั่นก็หมายความว่าอย่างน้อยพระองค์ไม่คิดจะกวาดล้างจวนเยียนอ๋องให้สิ้นซาก เพียงแต่ว่าต่อให้ฮ่องเต้เจาหมิงทราบดีแก่ใจว่าผู้ใดเป็นคนกระทำเรื่องนี้ นั่นก็คือพระโอรสของพระองค์ เกรงว่าพระองค์คงจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเท่านั้นเรื่องเยียนอ๋องรบจนตัวตาย พวกเขาก็ดำเนินการตามขั้นตอนที่ควรทำในฉากหน้า ทว่าหากต้องการค้นหาความจริงล้างแค้นให้เยียนอ๋อง ก็ได้แต่อาศัยตัวพวกเขาเอง นางนึกถึงอีกเรื่องหนึ่ง “เสด็จพ่อกับซื่อจื่อล้วนไม่อยู่แล้ว จวนเยียนอ๋องเหลือเพียงท่านที่เป็นบุรุษผู้เดียว ท่านสามารถสืบทอดตำแหน่งเยียนอ๋องได้ใช่หรือไม่?”นัยน์ตาของเยียนเซียวหรานหรี่ลงเล็กน้อย “เรื่องนี้ยังได้รับการเห็นชอบจากฮ่องเต้” “ส่วนผู้บงการเบื้องหลังที่ลงมือกับจวนเยียนอ๋อง พวกเขาคงไม่ปล่อยให้ข้าได้สืบทอดตำแหน่งเยียนอ๋อง” ซือเจ๋อเยว่แค่ขบคิดถึงตรรกะในเรื่องนี้สักเล็กน้อยก็เข้าใจได้แล้ว พวกเขากลัวว่าเยียนเซียวหรานจะล้างแค้น ดังนั้นถึงไม่
더 보기

บทที่ 83

แต่เด็กชายกลับไม่ยอมทำตามคำพูดนางมากนัก เขาเอามือข้างหนึ่งปัดมือของนางออก “ข้าไม่อยากกินขนม ข้าอยากเล่น!” เขากล่าวจบก็ถลึงตาใส่อวิ๋นไท่เฟยแล้วกล่าวว่า “ทุกครั้งที่ข้ามาที่นี่ ท่านก็ให้ข้ากิน ๆ ๆ ข้าไม่ใช่หมูนะ จะเอาแต่กินตลอดได้ที่ไหนกันเล่า!”อวิ๋นไท่เฟยถูกเขาโต้แย้งเช่นนี้ก็ไม่ได้โกรธ นางยังคงกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “เช่นนั้นก็ได้ เจ้าบอกข้ามาสิว่าเจ้าอยากทำสิ่งใด ข้าตามใจเจ้าทุกอย่าง” เด็กชายมองไปรอบ ๆ เห็นซือเจ๋อเยว่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู ดวงตาของเขาก็ส่องประกาย “ให้นางหมอบลงกับพื้นเป็นม้าให้ข้าขี่”อวิ๋นไท่เฟยเห็นซือเจ๋อเยว่เช่นกันจึงเอ่ยว่า “ยังจะอึ้งอยู่ทำไม ยังไม่รีบหมอบลงอีก?” ซือเจ๋อเยว่ยิ้ม แล้วกวักนิ้วให้เด็กชายก่อนจะถามว่า “เจ้ามีนามว่าอะไร?” เด็กชายเอ่ยอย่างไม่ค่อยพอใจว่า “นังทาสสุนัข เจ้ากล้าดีนักนะที่กล้าถามนามของข้า!” “ให้เจ้าหมอบลง เจ้าก็รีบหมอบลงให้ข้าเสีย มิฉะนั้นข้าจะเฆี่ยนเจ้า!” “โอ้!” ซือเจ๋อเยว่เอ่ยด้วยสีหน้าสนุกสนานว่า “ยังจะเฆี่ยนข้าด้วย ช่างร้ายกาจเสียจริง!” เด็กชายเอ่ยอย่างลำพองใจว่า “แน่สิ! ข้าคือองค์ชายเก้าที่เสด็จพ่อทรงรักเอ็นดูมากที่สุด ข้
더 보기

บทที่ 84

องค์ชายเก้าร้องไห้ “แงๆ” เสียงดัง “เจ้ามีสิทธิอะไรมาตีข้า! ข้าจะส่งเจ้าไปที่กรมราชทัณฑ์ ข้าจะลงโทษเจ้า!” ซือเจ๋อเยว่มองเขาพลางเอ่ยว่า “เช่นนั้นก็ได้ เจ้ามาลงโทษข้าเลยสิ!”องค์ชายเก้ามองข้ารับใช้ในวังที่คุกเข่าลงกับพื้น นอกจากนี้อวิ๋นไท่เฟยที่ปกติคอยปกป้องเขาทุกเรื่อง เวลานี้กลับยืนโง่งมอยู่ตรงนั้น เขาก็ตะลึงงันอยู่ตรงนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้ว่าเมื่อคนเหล่านี้ไม่เชื่อฟังคำพูดของเขา เช่นนั้นเขาก็เป็นเพียงเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ใครจะมารังแกก็ได้ทั้งนั้น แตกต่างกันมากเกินไปจริง ๆ จิตใจของเขาได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง เขากลัวนิดหน่อยแล้ว ทำได้เพียงร้องไห้สักพัก ไม่เอ่ยแม้กระทั่งคำพูดที่รุนแรง ซือเจ๋อเยว่ยื่นมือไปบิดหูของเขา “เมื่อครู่นี้อวดเก่งมากไม่ใช่หรือ? อวดเก่งต่อไปสิ!”องค์ชายเก้าเม้มปากกล่าวว่า “เจ้าเป็นใครกันแน่?” ซือเจ๋อเยว่ยิ้มน้อย ๆ “เมื่อครู่นี้บอกไปแล้วไม่ใช่หรือ ข้าคือพี่สาวของเจ้า” องค์ชายเก้าเบิกตามองนางโดยที่มีน้ำตาคลอ “เจ้าคือพี่สาวของข้า? เหตุใดข้าไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อน?” ซือเจ๋อเยว่ตอบกลับว่า “นั่นเป็นเพราะข้าไม่ได้อยู่ในวังหลวงมาตั้งแต่เด็ก แต่อยู่
더 보기

บทที่ 85

เขาหันหน้าไปมองซือเจ๋อเยว่แล้วเอ่ยว่า “อารามเต๋าสนุกหรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ตอบกลับว่า “ในความคิดของข้า สนุกกว่าวังหลวงมากนัก สามารถเล่นไปทั่วได้อย่างเต็มที่และไม่มีคนคอยคุม”“ฤดูใบไม้ผลิเก็บหน่อไม้ ฤดูร้อนจับตัวอ่อนจักจั่น ฤดูใบไม้ร่วงเก็บผลไม้ ฤดูหนาวเล่นเลื่อนหิมะ สนุกมาก ๆ เลย”“นอกจากเรื่องพวกนี้แล้ว ยังสามารถทำเรื่องอะไรก็ได้ที่ตนเองอยากทำ เรียนรู้ทักษะที่สนุกสนานมากมาย”นางกล่าวจบก็หยิบกระดาษออกมาหนึ่งแผ่น ดูเหมือนพับส่งเดช แต่ก็พับออกมาเป็นกบกระดาษตัวหนึ่ง นางให้องค์ชายเก้ากดลงไปที่ก้นของกบกระดาษ จากนั้นกบกระดาษก็กระโดดไปข้างหน้าทันทีองค์ชายเก้าเบิกตาโต รู้สึกประหลาดใจไม่ไหวแล้ว ก่อนจะไปกดที่ก้นของกบกระดาษอีกครั้ง เล่นอย่างเบิกบานใจมาก เขาเล่นไปพลาง ตะโกนไปพลางว่า “พี่หญิง กบตัวนี้น่าสนุกเกินไปแล้ว ท่านทำได้อย่างไร?”อวิ๋นไท่เฟยมองซือเจ๋อเยว่ด้วยแววตาซับซ้อนมา นางไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะเหตุใด แม้ว่านายจะพยายามใช้วิธีการทุกอย่างเอาใจองค์ชายเก้า แต่องค์ชายเก้าไม่ค่อยสนิทสนมกับนางนัก อย่างไรก็ตามวันนี้ซือเจ๋อเยว่ทั้งตีทั้งดุด่าองค์ชายเก้า แต่องค์ชายเก้ากลับดูสนิทสนม
더 보기

บทที่ 86

นางสบถเบา ๆ ว่า “ปากคอจัดจ้านยิ่งนัก!”ซือเจ๋อเยว่ยิ้มน้อย ๆ “หรือว่าข้าพูดผิดตรงไหน?”“หรือท่านคิดว่าต่อไปข้าใช้ชีวิตของตนเองก็พอ ไม่ต้องสนใจท่าน และไม่ต้องปกป้องท่านแล้วด้วย?”“ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามาปกป้อง!” อวิ๋นไท่เฟยเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้าอยู่ในวังสบายดี!”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ท่านมีชีวิตที่ดีมากจริง ๆ ถึงอย่างไรปัจจุบันวังนี้ก็เป็นวังของเสด็จอา ท่านมีโอรสให้เขา เขาต้องคุ้มครองท่านเป็นธรรมดา” อวิ๋นไท่เฟย “...”นางคิดว่าซือเจ๋อเยว่เอ่ยคำพูดหยาบคายสุดขีด แต่ว่าไม่มีคำหยาบในคำพูดของนางเลยแม้แต่คำเดียวทุกครั้งที่นางสนทนากับซือเจ๋อเยว่ ล้วนเกิดความรู้สึกเหมือนหัวใจจะวายนางสูดลมหายใจลึกแล้วกล่าวว่า “หุบปาก!” ซือเจ๋อเยว่มองนางอย่างคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม นางสูดลมหายใจลึกอีกครั้ง “วันนี้ข้าเรียกเจ้าเข้าวัง เพราะว่ามีเรื่องอื่นที่อยากจะถามเจ้า เจ้าจงตอบตามความจริง” ซือเจ๋อเยว่เลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่ได้ตอบรับคำของนาง นางไม่รู้จริง ๆ ว่าอวิ๋นไท่เฟยเอาความมั่นใจมาจากไหน ถึงกล้าเอ่ยกับนางเช่นนี้อวิ๋นไท่เฟยถามนางว่า “เรื่องที่เยียนเซียวหรานถูกลอบสังหารเมื่อวันก่อน มันเกิดอะไรขึ
더 보기

บทที่ 87

“เขาไม่บอกอะไรเลย ข้าย่อมไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น”อวิ๋นไท่เฟยสังเกตนางอย่างละเอียดตั้งแต่หัวจรดเท้า กำลังคาดเดาว่านางพูดจริงหรือเท็จซือเจ๋อเยว่ปล่อยให้นางสังเกต ทำท่าทางเหมือนไม่คิดอะไรมากอวิ๋นไท่เฟยเห็นท่าทางเช่นนี้ของนางก็รู้สึกหงุดหงิดใจ แต่ยังคงถามว่า “เช่นนั้นเจ้ายังรู้อะไรอีกบ้าง?” ซือเจ๋อเยว่ตอบว่า “ข้ารู้ว่าสาเหตุที่เยียนอ๋องสิ้นชีพในสนามรบ เป็นเพราะมีคนคิดว่าเขากุมอำนาจทางทหารของกองทัพหย่งอันไว้ในมือ เป็นภัยคุกคามใหญ่หลวง”“ด้วยเหตุนี้คนเหล่านั้นจึงใช้วิธีการบางอย่าง หาทางทำให้เขาต่อสู้จนตัวตายในสนามรบ”อวิ๋นไท่เฟยมองนางด้วยสายตาลุ่มลึกขึ้นเล็กน้อยนางเอ่ยด้วยเสียงเรียบนิ่งว่า “เรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่ข้าแอบฟังมา หากท่านอยากรู้ข้อมูลเหล่านี้ ข้าสามารถไปแอบฟังให้ท่านได้” อวิ๋นไท่เฟยได้ยินคำกล่าวนี้ก็ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก นางว่าแล้ว ซือเจ๋อเยว่ต้องการความรักของมารดามากอย่างแน่นอน นางจึงเอ่ยว่า “ต่อไปหากเจ้าได้ข่าวคราวอะไรในจวนเยียนอ๋อง จะต้องหาทางบอกข้าทั้งหมด”“แบบนี้ต่อไปหากเจ้าเกิดเรื่องอะไร ข้าถึงจะหาทางช่วยเหลือเจ้าได้”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า แต่เอ่ยถามว่า
더 보기

บทที่ 88

เวลานั้นนางไม่เข้าใจสถานการณ์ในเมืองหลวง และตอนนั้นวิธีการออกจากวังหลวงที่ดีที่สุดของนางก็คือแต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋อง ด้วยเหตุนี้ตอนนั้นนางจึงปฏิเสธข้อเสนอของฮองเฮาจนบัดนี้นางยังจำได้ว่าเวลานั้นฮองเฮาถอนหายใจ และไม่ได้เกลี้ยกล่อมอีก ตอนนี้นางได้พบฮองเฮาอีกครั้ง ซือเจ๋อเยว่จึงกล่าวอย่างเป็นเด็กดีว่า “หากฮองเฮาทรงอยากเจอหม่อมฉัน ก็เรียกหม่อมฉันเข้าวังมาพูดคุยเป็นเพื่อนพระองค์ได้ทุกเมื่อเพคะ” ฮองเฮายิ้มน้อย ๆ “ช่างเป็นเด็กที่รู้ความ”นางกล่าวจบก็มองไปทางอวิ๋นไท่เฟย “พี่สะใภ้ ท่านช่างโชคดีเสียจริง มีพระธิดาที่ว่านอนสอนง่ายอย่างเจ๋อเยว่” อวิ๋นไท่เฟยมองซือเจ๋อเยว่อย่างอ่อนโยนแล้วกล่าวว่า “เจ๋อเยว่ว่าง่ายและรู้ความจริงๆ” “เพียงแต่หม่อมฉันติดค้างนางไว้มาก นางมีดวงชะตาพิเศษตั้งแต่เล็ก จึงถูกส่งไปอารามเต๋า” “หลายปีมานี้หม่อมฉันเฝ้าคิดถึงทุกเช้าค่ำ หวังให้นางกลับมาโดยเร็ว แต่คิดไม่ถึงว่านางเพิ่งกลับมาก็ต้องแต่งงานแล้ว” “ในใจของข้านึกถึงนาง คิดถึงนาง ขอเพียงมีเวลาก็อยากให้นางเข้าวังมาอยู่เป็นเพื่อนข้า” ซือเจ๋อเยว่อยากอาเจียน ไม่รู้เหมือนกันว่าอวิ๋นไท่เฟยเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมาได้อ
더 보기

บทที่ 89

“ก่อนที่หม่อมฉันจะตาย ยังสามารถทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อราชวงศ์ได้ หม่อมฉันก็พอใจมากแล้วเพคะ”ฮองเฮามองมาที่นางด้วยสายตาที่ค่อนข้างซับซ้อน ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ “ช่างเป็นเด็กที่ชีวิตลำบากจริง ๆ”“ต่อไปหากเจ้ามีเรื่องยุ่งยากอะไรก็มาหาเราได้ มีเราอยู่ จะไม่ให้ใครรังแกเจ้าเด็ดขาด” ซือเจ๋อเยว่ยิ้มหวานให้ฮองเฮา “ขอบพระทัยฮองเฮาเพคะ”ทั้งสองคนพูดคุยกันไม่หยุด ทิ้งอวิ๋นไท่เฟยไว้ข้าง ๆ ทันที จนนางดูเหมือนส่วนเกินมาก ฮองเฮามีราชกิจล้นมือ ไม่อาจอยู่ที่นี่ได้นานมากนัก หลังจากที่พูดกับซือเจ๋อเยว่อีกหลายประโยคก็จากไป เมื่อฮองเฮาจากไป อวิ๋นไท่เฟยก็เริ่มด่าทอว่า “นังแพศยาสมควรตายนี่ยุแยงอีกแล้ว!”“เจ๋อเยว่ อย่าไปเชื่อคำพูดของนางนะ เดิมทีตอนแรกองค์หญิงสามไม่จำเป็นต้องแต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋อง ทั้งหมดเป็นเรื่องที่นางยุยงขึ้นมา” ซือเจ๋อเยว่ถามอวิ๋นไท่เฟยว่า “ต่อให้เป็นเรื่องที่นางยุยงขึ้นมา แต่ให้องค์หญิงสามแต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋องก็ได้ เหตุใดท่านจึงให้ข้าแต่งงานแทนองค์หญิงสามด้วยเล่า?” อวิ๋นไท่เฟย “...”นางถูกถามจนตกตะลึงแล้ว เนื่องจากคำถามข้อนี้ตอบค่อนข้างยาก ซือเจ๋อเยว่หัวเราะเบา ๆ “องค์หญิง
더 보기

บทที่ 90

ซือเจ๋อเยว่คร้านจะสนใจนาง จึงถามข้ารับใช้ในวังที่อยู่ข้างกายว่า “ข้าเข้าไปได้หรือยัง?” ข้ารับใช้ในวังรีบทำมือเชื้อเชิญให้ซือเจ๋อเยว่ นางกำนัลที่อยู่ตรงหน้าประตูเข้าไปรายงานเรื่องนี้ให้ฮองเฮานานแล้วซือเจ๋อเยว่เข้าไปแล้ว ฮองเฮาก็กล่าวว่า “นิสัยนี้ของเจ้าช่างคล้ายกับอดีตฮ่องเต้อย่างยิ่ง” ซือเจ๋อเยว่เอ่ยเสียงเบาว่า “ทุกคนในวังนี้สามารถบอกว่าหม่อมฉันเป็นสาวบ้านป่าได้ แต่องค์หญิงสามทำไม่ได้”ฮองเฮาตกตะลึงก่อน จากนั้นก็หัวเราะขึ้นมา “เจ้าพูดถูกต้อง!” นางกล่าวจบก็เอ่ยด้วยความผิดหวังเล็กน้อยว่า “หากเจ้าสามารถอยู่ต่อได้นานอีกหน่อยก็คงดี” ซือเจ๋อเยว่ยิ้มน้อย ๆ “หม่อมฉันคิดว่าเป็นอย่างเช่นตอนนี้ก็ดีมากแล้ว ตายตอนอายุสิบแปด ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดอยู่ในวัยที่งดงามที่สุดอย่างวัยสิบแปด”ฮองเฮามองนางอย่างละเอียดตั้งแต่หัวจรดเท้า รู้สึกผิดหวังในใจเล็กน้อย “เจ้าช่างใจกว้างนัก” ซือเจ๋อเยว่เอ่ยเบา ๆ ว่า “ผู้บำเพ็ญเพียรย่อมใจกว้าง ไม่ยึดติดง่าย ๆ และไม่ไขว่คว้าในสิ่งที่ไม่ใช่ของตน” ฮองเฮาถอนหายใจแล้วโบกมือเบา ๆ นางกำนัลหลานคนก็ยกถาดหลายใบเดินเข้ามา นางกล่าวกับซือเจ๋อเยว่ว่า “โสมพันปีกับโส่
더 보기
이전
1
...
7891011
...
39
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status