แชร์

บทที่ 82

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
หลังจากที่นางเข้าวังครั้งก่อนก็ตัดข้อสงสัยนี้ไปแล้ว

หากเรื่องนี้เป็นฝีมือของพระองค์จริง ๆ ทุกคนในจวนเยียนอ๋องคงหมดทางรอดไปนานแล้ว

บัดนี้ทุกคนในจวนเยียนอ๋องยังมีชีวิตอยู่กันหมด นั่นก็หมายความว่าอย่างน้อยพระองค์ไม่คิดจะกวาดล้างจวนเยียนอ๋องให้สิ้นซาก

เพียงแต่ว่าต่อให้ฮ่องเต้เจาหมิงทราบดีแก่ใจว่าผู้ใดเป็นคนกระทำเรื่องนี้ นั่นก็คือพระโอรสของพระองค์ เกรงว่าพระองค์คงจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเท่านั้น

เรื่องเยียนอ๋องรบจนตัวตาย พวกเขาก็ดำเนินการตามขั้นตอนที่ควรทำในฉากหน้า ทว่าหากต้องการค้นหาความจริงล้างแค้นให้เยียนอ๋อง ก็ได้แต่อาศัยตัวพวกเขาเอง

นางนึกถึงอีกเรื่องหนึ่ง “เสด็จพ่อกับซื่อจื่อล้วนไม่อยู่แล้ว จวนเยียนอ๋องเหลือเพียงท่านที่เป็นบุรุษผู้เดียว ท่านสามารถสืบทอดตำแหน่งเยียนอ๋องได้ใช่หรือไม่?”

นัยน์ตาของเยียนเซียวหรานหรี่ลงเล็กน้อย “เรื่องนี้ยังได้รับการเห็นชอบจากฮ่องเต้”

“ส่วนผู้บงการเบื้องหลังที่ลงมือกับจวนเยียนอ๋อง พวกเขาคงไม่ปล่อยให้ข้าได้สืบทอดตำแหน่งเยียนอ๋อง”

ซือเจ๋อเยว่แค่ขบคิดถึงตรรกะในเรื่องนี้สักเล็กน้อยก็เข้าใจได้แล้ว พวกเขากลัวว่าเยียนเซียวหรานจะล้างแค้น ดังนั้นถึงไม่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 83

    แต่เด็กชายกลับไม่ยอมทำตามคำพูดนางมากนัก เขาเอามือข้างหนึ่งปัดมือของนางออก “ข้าไม่อยากกินขนม ข้าอยากเล่น!” เขากล่าวจบก็ถลึงตาใส่อวิ๋นไท่เฟยแล้วกล่าวว่า “ทุกครั้งที่ข้ามาที่นี่ ท่านก็ให้ข้ากิน ๆ ๆ ข้าไม่ใช่หมูนะ จะเอาแต่กินตลอดได้ที่ไหนกันเล่า!”อวิ๋นไท่เฟยถูกเขาโต้แย้งเช่นนี้ก็ไม่ได้โกรธ นางยังคงกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “เช่นนั้นก็ได้ เจ้าบอกข้ามาสิว่าเจ้าอยากทำสิ่งใด ข้าตามใจเจ้าทุกอย่าง” เด็กชายมองไปรอบ ๆ เห็นซือเจ๋อเยว่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู ดวงตาของเขาก็ส่องประกาย “ให้นางหมอบลงกับพื้นเป็นม้าให้ข้าขี่”อวิ๋นไท่เฟยเห็นซือเจ๋อเยว่เช่นกันจึงเอ่ยว่า “ยังจะอึ้งอยู่ทำไม ยังไม่รีบหมอบลงอีก?” ซือเจ๋อเยว่ยิ้ม แล้วกวักนิ้วให้เด็กชายก่อนจะถามว่า “เจ้ามีนามว่าอะไร?” เด็กชายเอ่ยอย่างไม่ค่อยพอใจว่า “นังทาสสุนัข เจ้ากล้าดีนักนะที่กล้าถามนามของข้า!” “ให้เจ้าหมอบลง เจ้าก็รีบหมอบลงให้ข้าเสีย มิฉะนั้นข้าจะเฆี่ยนเจ้า!” “โอ้!” ซือเจ๋อเยว่เอ่ยด้วยสีหน้าสนุกสนานว่า “ยังจะเฆี่ยนข้าด้วย ช่างร้ายกาจเสียจริง!” เด็กชายเอ่ยอย่างลำพองใจว่า “แน่สิ! ข้าคือองค์ชายเก้าที่เสด็จพ่อทรงรักเอ็นดูมากที่สุด ข้

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 84

    องค์ชายเก้าร้องไห้ “แงๆ” เสียงดัง “เจ้ามีสิทธิอะไรมาตีข้า! ข้าจะส่งเจ้าไปที่กรมราชทัณฑ์ ข้าจะลงโทษเจ้า!” ซือเจ๋อเยว่มองเขาพลางเอ่ยว่า “เช่นนั้นก็ได้ เจ้ามาลงโทษข้าเลยสิ!”องค์ชายเก้ามองข้ารับใช้ในวังที่คุกเข่าลงกับพื้น นอกจากนี้อวิ๋นไท่เฟยที่ปกติคอยปกป้องเขาทุกเรื่อง เวลานี้กลับยืนโง่งมอยู่ตรงนั้น เขาก็ตะลึงงันอยู่ตรงนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้ว่าเมื่อคนเหล่านี้ไม่เชื่อฟังคำพูดของเขา เช่นนั้นเขาก็เป็นเพียงเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ใครจะมารังแกก็ได้ทั้งนั้น แตกต่างกันมากเกินไปจริง ๆ จิตใจของเขาได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง เขากลัวนิดหน่อยแล้ว ทำได้เพียงร้องไห้สักพัก ไม่เอ่ยแม้กระทั่งคำพูดที่รุนแรง ซือเจ๋อเยว่ยื่นมือไปบิดหูของเขา “เมื่อครู่นี้อวดเก่งมากไม่ใช่หรือ? อวดเก่งต่อไปสิ!”องค์ชายเก้าเม้มปากกล่าวว่า “เจ้าเป็นใครกันแน่?” ซือเจ๋อเยว่ยิ้มน้อย ๆ “เมื่อครู่นี้บอกไปแล้วไม่ใช่หรือ ข้าคือพี่สาวของเจ้า” องค์ชายเก้าเบิกตามองนางโดยที่มีน้ำตาคลอ “เจ้าคือพี่สาวของข้า? เหตุใดข้าไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อน?” ซือเจ๋อเยว่ตอบกลับว่า “นั่นเป็นเพราะข้าไม่ได้อยู่ในวังหลวงมาตั้งแต่เด็ก แต่อยู่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 85

    เขาหันหน้าไปมองซือเจ๋อเยว่แล้วเอ่ยว่า “อารามเต๋าสนุกหรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ตอบกลับว่า “ในความคิดของข้า สนุกกว่าวังหลวงมากนัก สามารถเล่นไปทั่วได้อย่างเต็มที่และไม่มีคนคอยคุม”“ฤดูใบไม้ผลิเก็บหน่อไม้ ฤดูร้อนจับตัวอ่อนจักจั่น ฤดูใบไม้ร่วงเก็บผลไม้ ฤดูหนาวเล่นเลื่อนหิมะ สนุกมาก ๆ เลย”“นอกจากเรื่องพวกนี้แล้ว ยังสามารถทำเรื่องอะไรก็ได้ที่ตนเองอยากทำ เรียนรู้ทักษะที่สนุกสนานมากมาย”นางกล่าวจบก็หยิบกระดาษออกมาหนึ่งแผ่น ดูเหมือนพับส่งเดช แต่ก็พับออกมาเป็นกบกระดาษตัวหนึ่ง นางให้องค์ชายเก้ากดลงไปที่ก้นของกบกระดาษ จากนั้นกบกระดาษก็กระโดดไปข้างหน้าทันทีองค์ชายเก้าเบิกตาโต รู้สึกประหลาดใจไม่ไหวแล้ว ก่อนจะไปกดที่ก้นของกบกระดาษอีกครั้ง เล่นอย่างเบิกบานใจมาก เขาเล่นไปพลาง ตะโกนไปพลางว่า “พี่หญิง กบตัวนี้น่าสนุกเกินไปแล้ว ท่านทำได้อย่างไร?”อวิ๋นไท่เฟยมองซือเจ๋อเยว่ด้วยแววตาซับซ้อนมา นางไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะเหตุใด แม้ว่านายจะพยายามใช้วิธีการทุกอย่างเอาใจองค์ชายเก้า แต่องค์ชายเก้าไม่ค่อยสนิทสนมกับนางนัก อย่างไรก็ตามวันนี้ซือเจ๋อเยว่ทั้งตีทั้งดุด่าองค์ชายเก้า แต่องค์ชายเก้ากลับดูสนิทสนม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 86

    นางสบถเบา ๆ ว่า “ปากคอจัดจ้านยิ่งนัก!”ซือเจ๋อเยว่ยิ้มน้อย ๆ “หรือว่าข้าพูดผิดตรงไหน?”“หรือท่านคิดว่าต่อไปข้าใช้ชีวิตของตนเองก็พอ ไม่ต้องสนใจท่าน และไม่ต้องปกป้องท่านแล้วด้วย?”“ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามาปกป้อง!” อวิ๋นไท่เฟยเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้าอยู่ในวังสบายดี!”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ท่านมีชีวิตที่ดีมากจริง ๆ ถึงอย่างไรปัจจุบันวังนี้ก็เป็นวังของเสด็จอา ท่านมีโอรสให้เขา เขาต้องคุ้มครองท่านเป็นธรรมดา” อวิ๋นไท่เฟย “...”นางคิดว่าซือเจ๋อเยว่เอ่ยคำพูดหยาบคายสุดขีด แต่ว่าไม่มีคำหยาบในคำพูดของนางเลยแม้แต่คำเดียวทุกครั้งที่นางสนทนากับซือเจ๋อเยว่ ล้วนเกิดความรู้สึกเหมือนหัวใจจะวายนางสูดลมหายใจลึกแล้วกล่าวว่า “หุบปาก!” ซือเจ๋อเยว่มองนางอย่างคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม นางสูดลมหายใจลึกอีกครั้ง “วันนี้ข้าเรียกเจ้าเข้าวัง เพราะว่ามีเรื่องอื่นที่อยากจะถามเจ้า เจ้าจงตอบตามความจริง” ซือเจ๋อเยว่เลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่ได้ตอบรับคำของนาง นางไม่รู้จริง ๆ ว่าอวิ๋นไท่เฟยเอาความมั่นใจมาจากไหน ถึงกล้าเอ่ยกับนางเช่นนี้อวิ๋นไท่เฟยถามนางว่า “เรื่องที่เยียนเซียวหรานถูกลอบสังหารเมื่อวันก่อน มันเกิดอะไรขึ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 87

    “เขาไม่บอกอะไรเลย ข้าย่อมไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น”อวิ๋นไท่เฟยสังเกตนางอย่างละเอียดตั้งแต่หัวจรดเท้า กำลังคาดเดาว่านางพูดจริงหรือเท็จซือเจ๋อเยว่ปล่อยให้นางสังเกต ทำท่าทางเหมือนไม่คิดอะไรมากอวิ๋นไท่เฟยเห็นท่าทางเช่นนี้ของนางก็รู้สึกหงุดหงิดใจ แต่ยังคงถามว่า “เช่นนั้นเจ้ายังรู้อะไรอีกบ้าง?” ซือเจ๋อเยว่ตอบว่า “ข้ารู้ว่าสาเหตุที่เยียนอ๋องสิ้นชีพในสนามรบ เป็นเพราะมีคนคิดว่าเขากุมอำนาจทางทหารของกองทัพหย่งอันไว้ในมือ เป็นภัยคุกคามใหญ่หลวง”“ด้วยเหตุนี้คนเหล่านั้นจึงใช้วิธีการบางอย่าง หาทางทำให้เขาต่อสู้จนตัวตายในสนามรบ”อวิ๋นไท่เฟยมองนางด้วยสายตาลุ่มลึกขึ้นเล็กน้อยนางเอ่ยด้วยเสียงเรียบนิ่งว่า “เรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่ข้าแอบฟังมา หากท่านอยากรู้ข้อมูลเหล่านี้ ข้าสามารถไปแอบฟังให้ท่านได้” อวิ๋นไท่เฟยได้ยินคำกล่าวนี้ก็ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก นางว่าแล้ว ซือเจ๋อเยว่ต้องการความรักของมารดามากอย่างแน่นอน นางจึงเอ่ยว่า “ต่อไปหากเจ้าได้ข่าวคราวอะไรในจวนเยียนอ๋อง จะต้องหาทางบอกข้าทั้งหมด”“แบบนี้ต่อไปหากเจ้าเกิดเรื่องอะไร ข้าถึงจะหาทางช่วยเหลือเจ้าได้”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า แต่เอ่ยถามว่า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 88

    เวลานั้นนางไม่เข้าใจสถานการณ์ในเมืองหลวง และตอนนั้นวิธีการออกจากวังหลวงที่ดีที่สุดของนางก็คือแต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋อง ด้วยเหตุนี้ตอนนั้นนางจึงปฏิเสธข้อเสนอของฮองเฮาจนบัดนี้นางยังจำได้ว่าเวลานั้นฮองเฮาถอนหายใจ และไม่ได้เกลี้ยกล่อมอีก ตอนนี้นางได้พบฮองเฮาอีกครั้ง ซือเจ๋อเยว่จึงกล่าวอย่างเป็นเด็กดีว่า “หากฮองเฮาทรงอยากเจอหม่อมฉัน ก็เรียกหม่อมฉันเข้าวังมาพูดคุยเป็นเพื่อนพระองค์ได้ทุกเมื่อเพคะ” ฮองเฮายิ้มน้อย ๆ “ช่างเป็นเด็กที่รู้ความ”นางกล่าวจบก็มองไปทางอวิ๋นไท่เฟย “พี่สะใภ้ ท่านช่างโชคดีเสียจริง มีพระธิดาที่ว่านอนสอนง่ายอย่างเจ๋อเยว่” อวิ๋นไท่เฟยมองซือเจ๋อเยว่อย่างอ่อนโยนแล้วกล่าวว่า “เจ๋อเยว่ว่าง่ายและรู้ความจริงๆ” “เพียงแต่หม่อมฉันติดค้างนางไว้มาก นางมีดวงชะตาพิเศษตั้งแต่เล็ก จึงถูกส่งไปอารามเต๋า” “หลายปีมานี้หม่อมฉันเฝ้าคิดถึงทุกเช้าค่ำ หวังให้นางกลับมาโดยเร็ว แต่คิดไม่ถึงว่านางเพิ่งกลับมาก็ต้องแต่งงานแล้ว” “ในใจของข้านึกถึงนาง คิดถึงนาง ขอเพียงมีเวลาก็อยากให้นางเข้าวังมาอยู่เป็นเพื่อนข้า” ซือเจ๋อเยว่อยากอาเจียน ไม่รู้เหมือนกันว่าอวิ๋นไท่เฟยเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมาได้อ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 89

    “ก่อนที่หม่อมฉันจะตาย ยังสามารถทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อราชวงศ์ได้ หม่อมฉันก็พอใจมากแล้วเพคะ”ฮองเฮามองมาที่นางด้วยสายตาที่ค่อนข้างซับซ้อน ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ “ช่างเป็นเด็กที่ชีวิตลำบากจริง ๆ”“ต่อไปหากเจ้ามีเรื่องยุ่งยากอะไรก็มาหาเราได้ มีเราอยู่ จะไม่ให้ใครรังแกเจ้าเด็ดขาด” ซือเจ๋อเยว่ยิ้มหวานให้ฮองเฮา “ขอบพระทัยฮองเฮาเพคะ”ทั้งสองคนพูดคุยกันไม่หยุด ทิ้งอวิ๋นไท่เฟยไว้ข้าง ๆ ทันที จนนางดูเหมือนส่วนเกินมาก ฮองเฮามีราชกิจล้นมือ ไม่อาจอยู่ที่นี่ได้นานมากนัก หลังจากที่พูดกับซือเจ๋อเยว่อีกหลายประโยคก็จากไป เมื่อฮองเฮาจากไป อวิ๋นไท่เฟยก็เริ่มด่าทอว่า “นังแพศยาสมควรตายนี่ยุแยงอีกแล้ว!”“เจ๋อเยว่ อย่าไปเชื่อคำพูดของนางนะ เดิมทีตอนแรกองค์หญิงสามไม่จำเป็นต้องแต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋อง ทั้งหมดเป็นเรื่องที่นางยุยงขึ้นมา” ซือเจ๋อเยว่ถามอวิ๋นไท่เฟยว่า “ต่อให้เป็นเรื่องที่นางยุยงขึ้นมา แต่ให้องค์หญิงสามแต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋องก็ได้ เหตุใดท่านจึงให้ข้าแต่งงานแทนองค์หญิงสามด้วยเล่า?” อวิ๋นไท่เฟย “...”นางถูกถามจนตกตะลึงแล้ว เนื่องจากคำถามข้อนี้ตอบค่อนข้างยาก ซือเจ๋อเยว่หัวเราะเบา ๆ “องค์หญิง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 90

    ซือเจ๋อเยว่คร้านจะสนใจนาง จึงถามข้ารับใช้ในวังที่อยู่ข้างกายว่า “ข้าเข้าไปได้หรือยัง?” ข้ารับใช้ในวังรีบทำมือเชื้อเชิญให้ซือเจ๋อเยว่ นางกำนัลที่อยู่ตรงหน้าประตูเข้าไปรายงานเรื่องนี้ให้ฮองเฮานานแล้วซือเจ๋อเยว่เข้าไปแล้ว ฮองเฮาก็กล่าวว่า “นิสัยนี้ของเจ้าช่างคล้ายกับอดีตฮ่องเต้อย่างยิ่ง” ซือเจ๋อเยว่เอ่ยเสียงเบาว่า “ทุกคนในวังนี้สามารถบอกว่าหม่อมฉันเป็นสาวบ้านป่าได้ แต่องค์หญิงสามทำไม่ได้”ฮองเฮาตกตะลึงก่อน จากนั้นก็หัวเราะขึ้นมา “เจ้าพูดถูกต้อง!” นางกล่าวจบก็เอ่ยด้วยความผิดหวังเล็กน้อยว่า “หากเจ้าสามารถอยู่ต่อได้นานอีกหน่อยก็คงดี” ซือเจ๋อเยว่ยิ้มน้อย ๆ “หม่อมฉันคิดว่าเป็นอย่างเช่นตอนนี้ก็ดีมากแล้ว ตายตอนอายุสิบแปด ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดอยู่ในวัยที่งดงามที่สุดอย่างวัยสิบแปด”ฮองเฮามองนางอย่างละเอียดตั้งแต่หัวจรดเท้า รู้สึกผิดหวังในใจเล็กน้อย “เจ้าช่างใจกว้างนัก” ซือเจ๋อเยว่เอ่ยเบา ๆ ว่า “ผู้บำเพ็ญเพียรย่อมใจกว้าง ไม่ยึดติดง่าย ๆ และไม่ไขว่คว้าในสิ่งที่ไม่ใช่ของตน” ฮองเฮาถอนหายใจแล้วโบกมือเบา ๆ นางกำนัลหลานคนก็ยกถาดหลายใบเดินเข้ามา นางกล่าวกับซือเจ๋อเยว่ว่า “โสมพันปีกับโส่

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 357

    ตลอดทาง เขากลับทำให้ตัวประหลาดนั่นไม่ต้องครุ่นคิดอีก วิ่งไล่ตามชื่อปาเลี่ยไปทันทีในระหว่างที่ซือเจ๋อเยว่กำลังพูด ตัวประหลาดก็ได้โจมตีชื่อปาเลี่ยหลายรอบแล้วชื่อปาเลี่ยในเวลานี้ได้สติกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แล้ว กลัวว่าจะช่วยชีวิตเขาไม่ได้ เขาจำต้องคิดหาหนทางช่วยเหลือตัวเองศักยภาพของร่างกายเขาถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด ไม่นึกเลยว่าเขาจะหลบการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วนของตัวประหลาดได้อย่างหวุดหวิดเขาในเวลานี้พลางร้องอย่างสิ้นหวัง พลางหลบอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นเจ้าอ้วนที่คล่องแคล่วที่สุดในใต้หล้านี้ได้สำเร็จเมื่อซือเจ๋อเยว่มองเห็นท่าทางที่ตกอยู่ในอันตรายของเขา ทั้งรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร แล้วก็อยากจะขำอีกด้วย เนื่องจากตอนที่เขาหลบ เรียกได้ว่าไม่ได้สนใจภาพลักษณ์เลยสักนิดนางกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ถึงแม้ในหนังสือจะไม่ได้บอกวิธีการที่สามารถสังหารตัวประหลาดประเภทนี้เอาไว้ สิ่งของบนโลกใบนี้อยากจะให้หายไปก็มีเพียงสองวิธี”“หนึ่งคือการโจมตีทางกายภาพ อีกอย่างก็คือการโจมตีแบบลี้ลับ”“ในเมื่อการโจมตีทางกายเมื่อครู่นี้ไม่ได้ผล เช่นนั้นก็ต้องลองการโจมตีแบบลี้ลับดูเสียหน่อย”ครั้งก่อนนางวาดยันต์สำรองเอาไว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 356

    ตอนนี้สิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ก็คือสัตว์ยักษ์สีแดงที่สูงประมาณหนึ่งจั้งตัวหนึ่งสัตว์ยักษ์ตัวนั้นมีดวงตาสีดำที่คล้ายกับระฆัง ไม่มีคิ้ว ไม่มีขนตาจมูกมีเพียงรูจมูกสองรู ปากไม่มีริมฝีปาก ปรากฏให้เห็นฟันแหลมคมเต็มปาก ภายใต้ฟันอันแหลมคม เวลานี้ยังมีของเหลวสีเหลืองไหลย้อยออกมาเพียงแค่พวกนี้ก็พอทนแล้ว ร่างกายของเขายังมีตุ่มสีแดงเต็มตัวตุ่มพวกนั้นห้อยอยู่บนร่างกายของสัตว์ยักษ์ ปกคลุมร่างกายของมันที่เดิมทีเต็มไปด้วยขนสีดำ มองดูน่าสะอิดสะเอียนเป็นอย่างยิ่ง ซือเจ๋อเยว่ที่คิดว่าตัวเองเป็นคนมีความรู้กว้างขวางมาโดยตลอด กลับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนขนาดนี้ชื่อปาเลี่ยร้องออกมาอย่างอดไม่ได้ “นี่มันตัวบ้าอะไรกันเนี่ย!”นี่เป็นคำถามที่เยี่ยมมากจริง ๆ ซือเจ๋อเยว่เองก็อยากรู้เช่นกันว่านี่มันคือตัวบ้าอะไรสัตว์ยักษ์ที่กำลังน้ำลายไหลตัวนั้นเดินมุ่งหน้าเข้ามาหาพวกเขา ทันทีที่มันเข้าใกล้ กลิ่นคาวกลุ่มนั้นก็รุนแรงขึ้นซือเจ๋อเยว่สะอิดสะเอียนจนอยากอ้วก!ตอนที่เยียนเซียวหรานมองเห็นสัตว์ยักษ์ตัวนั้น เสียงเตือนภายในใจของเขาก็ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งตอนที่สัตว์ยักษ์ตัวนั้นเดินเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 355  

    นางมีแววตาเปล่งประกายล้ำลึก “ช่างเป็นฝีมือที่สูงส่งยิ่งนัก!”  เยียนเซียวหรานมองนาง นางจึงเอ่ยต่อ "ฟ้าคือหยาง ดินคือหยิน ยามหยินหยางกลับตาลปัตร สรรพสิ่งพลิกผัน กฎแห่งฟ้าดินถูกตัดขาด!"  “แต่สิ่งใดที่หลอกลวงได้ชั่วคราว ย่อมไม่อาจปิดบังไปชั่วชีวิต!”  “เหล่าดวงวิญญาณผู้ซื่อสัตย์แห่งสนามรบ ท่านทั้งหลายที่คืนสู่แผ่นดิน ณ ที่แห่งนี้ โปรดร่วมมือกับข้ากำจัดภาพลวงที่ปกคลุมโลกใบนี้ จงสลายม่านมายา! ทำลายมันเสีย!”  นางฟาดฝ่ามือลงกับพื้นดิน สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสี่ทิศ เสียงแตกร้าวดังมาจากรอบทิศ  ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น พื้นดินสีดำสนิทรอบตัวก็พลันหายไป อาการหายใจที่ยากลำบากบัดนี้กลับมาเป็นปกติ  ต้นไม้ที่เคยหายไปปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายและความเสื่อมสลาย  ขุนเขาเช่นนี้ หาได้มีภาพของทัศนียภาพอันงดงามเหนือจินตนาการอย่างที่ชื่อปาเลี่ยที่เคยบอกเอาไว้ไม่  แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้ากลับเป็นดินแดนรกร้างที่ไร้ซึ่งชีวิต!  เกรงว่าภาพที่เยียนอ๋องเห็นในอดีตก็คงจะเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้น เพียงแค่นางยังไม่เข้าใจเหตุผล ผู้ที่วางค่ายกลนี้ เหตุใดจึงต้องสร้างภาพลวงเช่น

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 354  

    ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใดที่อากาศโดยรอบเริ่มบางเบาจนผิดปกติ  พวกเขาเพียงแค่เดินตามปกติ แต่กลับรู้สึกหายใจติดขัด  ชื่อปาเลี่ยอ้าปากหอบหายใจ พลางเอ่ยด้วยความตระหนก “นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่ เหตุใดข้าหายใจไม่ออก?”  ซือเจ๋อเยว่เอ่ยเสียงเบา “เราก้าวเข้าสู่ค่ายกลของผู้อื่นแล้ว”  ชื่อปาเลี่ยเอ่ยด้วยความสงสัย “แต่เมื่อครู่ยามที่เข้ามา ท่านได้ทำลายค่ายกลไปแล้วไม่ใช่หรือ?”  ซือเจ๋อเยว่ตอบไป “นี่คือค่ายกลซ้อนค่ายกล ผู้วางค่ายกลนี้ร้ายกาจอย่างยิ่ง ฝีมือในด้านค่ายกลไม่ได้ด้อยกว่าข้าเลย” “แม้แต่ยามที่ก้าวเข้ามาครั้งแรก ข้าเองก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ” “ในเมื่อเราตกเข้ามาแล้ว ยามนี้สิ่งที่ต้องทำคือหาทางทำลายค่ายกลนี้”  ชื่อปาเลี่ยรีบถาม “ทำอย่างไรจึงจะทำลายได้?”  ซือเจ๋อเยว่กวาดตามองโดยรอบแล้วเอ่ยขึ้น “หากต้องการทำลายต้องหาแกนกลางค่ายกลให้พบ ขอเพียงหามันเจอ การทำลายค่ายกลนี้ก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างยิ่ง”  “ส่วนเรื่องที่ว่ามันอยู่ที่ใด ยามนี้ข้าเองก็ยังไม่แน่ชัด เราต้องหาต่อไป”  ยิ่งพวกเขาก้าวไปข้างหน้าเท่าใด ก็ยิ่งรู้สึกว่าการหายใจยากลำบากเท่านั้น พื้นดินรอบตัวกลายเป็นสีดำไหม้ ฟ้า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 353  

    ราชครูมองเห็นโชคชะตาของจวนหนิงกั๋วกงกระจัดกระจาย ก่อนที่มันจะรวมตัวขึ้นอีกครั้ง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย  เขายกนิ้วขึ้นคำนวณบางสิ่ง แต่เมื่อได้ผลลัพธ์ เขากลับแย้มยกริมฝีปากแล้วเอ่ยด้วยความไม่พอใจ “นี่มันตัวอันใด!”  เด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวที่คอยรับใช้อยู่ข้างกายเอ่ยถาม “ท่านราชครู เป็นอันใดไปหรือขอรับ?”  ทว่าราชครูกลับตอบไม่ตรงคำถาม “ทุกสิ่งในโลกนี้ ล้วนมีเหตุและผลของมัน”  “มีบางเรื่องที่ข้าสามารถแทรกแซงได้ แต่บางเรื่องต้องปล่อยให้นางเป็นผู้จัดการเอง”  “นางคนนั้นมีชะตาชีวิตที่แตกต่างจากผู้อื่น เมื่อยามทุกข์ก็ทุกข์อย่างแท้จริง” “แม้ข้าจะสงสารนางเพียงใด แต่เรื่องบางเรื่องก็มีแต่นางที่ต้องเผชิญด้วยตนเอง”  เด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวเอ่ยถาม “ท่านกำลังเอ่ยถึงชะตากรรมใดกัน? หรือว่าท่านกำลังเป็นห่วงศิษย์พี่หญิง?”  ราชครูหยิบไม้ขนไก่ข้างตัวขึ้นมาแล้วหวดลงไปที่หลังของเด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวทันที “ผู้ใดสนใจนางกัน?!”  “ชะตาชีวิตของนางเป็นชะตาที่ต้องตาย แม้แต่มหาเทพเซียนมาเองก็ไม่อาจช่วยนางได้!”  “ตลอดหลายปีมานี้ เป็นเพราะนาง ข้าแก่ขึ้นไปตั้งเท่าใด ข้าจะไปสนใจนางเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 352  

    ดังที่ซือเจ๋อเยว่คาดการณ์ไว้ อดีตหนิงกั๋วกงพลันกระอักเลือดออกมา  เขาเอ่ยขึ้นมาอย่างเคียดแค้น “ซือเจ๋อเยว่!”  ตลอดหลายวันผ่านมานี้ เขาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อรักษาโชคชะตาของจวนหนิงกั๋วกง  สมบัติวิเศษล้ำค่าที่เขาเสาะหามานานหลายปีล้วนถูกใช้ไปจนหมดสิ้น จึงจะประคับประคองไว้ได้อย่างยากลำบาก ครั้งก่อนที่ไป๋จื้อเซียนบุกเข้าไปยังห้องลับ และกลืนกินดวงวิญญาณของบรรพบุรุษคนสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ ก็ทำให้อดีตหนิงกั๋วกงเริ่มรู้สึกถึงความสั่นคลอนของพลัง  แม้เวลานั้นสถานการณ์จะอันตราย แต่ค่ายกลใหญ่แห่งชายแดนยังไม่ถูกทำลายโดยสมบูรณ์  หากสามารถจัดการพลังที่หลงเหลือได้อย่างเหมาะสม ก็ยังสามารถต่อเวลาของโชคชะตาในจวนหนิงกั๋วกงออกไปได้อีกระยะหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เมื่อรู้ว่าซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานออกจากเมืองหลวง เขาจึงเร่งวางแผนเพื่อกำจัดพวกเขาให้สิ้นซาก เดิมทีเขาคิดว่าหากสามารถสกัดซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานเอาไว้ที่ด่านอวิ๋นหลิ่งได้ ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา  ทว่าเมื่อครู่ เขาได้รับสารลับจากนกพิราบส่งข่าวจากด่านอวิ๋นหลิ่ง  ข้อความในจดหมายบอกเอาไว้ว่าที่ด่านอวิ๋นหลิ่งนั้น เกิดหิมะตกหนัก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 351  

    ดังนั้น เขาจึงเปลี่ยนจากบุรุษผู้ซื่อสัตย์ กลายเป็นคนหยาบกระด้างและไม่สนใจเหตุผลใด ๆ อีกต่อไป  เขาชินเสียแล้วกับสายตาของผู้คนที่มองเขาปานสิ่งสกปรก เขาใช้ชีวิตอย่างเมามายไร้จุดหมายไปวัน ๆ  แต่เมื่อวาน ยามที่ไป๋จื้อเซียนคิดจะสังหารเขา ซือเจ๋อเยว่กลับทุ่มเทสุดกำลังเพื่อช่วยชีวิตเขา  ยิ่งไปกว่านั้นแววตาที่นางใช้มองเขา ก็หาได้แตกต่างไปจากการมองคนอื่นไม่ ไม่มีแม้เพียงเศษเสี้ยวของความดูแคลน  เขาจึงรู้สึกว่าสตรีในโลกนี้ ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเช่นมารดาหรือสตรีที่เขาเคยหมายปองในอดีต  เขากระแอมเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “คุณชายสาม หลังจากเรื่องนี้จบแล้ว ท่านพอจะพาข้าไปเมืองหลวงได้หรือไม่?”  เยียนเซียวหรานรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “เจ้าคิดจะไปเมืองหลวง?”  ชื่อปาเลี่ยตอบไป “ใช่ขอรับ ข้าไม่อยากอยู่ที่ชายแดนอีกต่อไปแล้ว ที่นี่ทุกคนล้วนรู้เรื่องของข้า หากข้าไม่เลือกเป็นอันธพาลก็ต้องเป็นเพียงคนไร้ค่า” “แต่ข้าไม่อยากเป็นอันธพาลและไม่อยากเป็นคนไร้ค่า ข้าเพียงแค่อยากเป็นคนธรรมดา”  “ข้าต้องการพึ่งพาความสามารถของตนเอง มีชีวิตที่ดี และแต่งงานกับสตรีดี ๆ สักคน เพื่อใช้ชีวิตอย่างปกติสุข”  เยียนเซียวหรานเอ่ย

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 350

    คำพูดประโยคนี้เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบรับอย่างไรเพียงแต่เขายังจับใจความสำคัญได้อย่างหนึ่ง “วันแต่งงานวันนั้นท่านก็อยากจะลูบคลำข้าแล้ว?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวแก้ไข “ไม่ใช่ว่าอยากลูบคลำเจ้า เพียงแค่คิดว่าขาของเจ้าทั้งยาวทั้งตรง น่าดูจริง ๆ จึงอยากจะลูบสักครั้ง”เยียนเซียวหราน “...เขาคิดว่านางเป็นคนที่มีความสามารถ ไม่คิดเลยว่าจะมีความคิดแบบนี้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วซือเจ๋อเยว่กล่าวอีกครั้ง “ตอนหลังจำเจ้าได้ กลัวว่าเจ้าจะเอามีดฟันข้า ต่อให้ในใจมีความคิดมากกว่านี้ ก็ทำได้เพียงข่มเอาไว้เท่านั้น”เยียนเซียวหรานกล่าวอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ท่านทำเรื่องแบบนั้นออกมาแล้ว ไม่คิดเลยว่ายังจะกลัวข้าลงมืออีก”“ต่อให้ข้าลงมือ ก็ทำอะไรท่านไม่ได้หรอกกระมัง? เรื่องแบบนั้นอย่างไรเสียก็น่าอาย ข้าไม่สามารถบอกใครได้ ก็เหลือแค่อดทนไว้เท่านั้น”ซือเจ๋อเยว่เม้มริมฝีปากยิ้มบาง ๆ ทีหนึ่ง “พูดถูกต้อง แต่หลังจากเกิดเรื่องครั้งนั้นขึ้นเจ้าก็ดุจริง ๆ นี่นา!”เยียนเซียวหรานค้อนนางทีหนึ่ง “หากมีคนฉวยโอกาสตอนท่านไม่ระวังตัว ทำเรื่องแบบนั้นกับท่าน ท่านจะไม่โมโหหรือ?”ซือเจ๋อเยว่หดคอ “โมโหนั่นเป็นเรื่องแน่อยู่แล้ว ข้า...

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 349

    “สิ่งชั่วร้ายนั่นไม่มายังพอไหว ทันทีที่มาก็จะเอาชีวิตของพวกมันเสีย”นางมีความมั่นใจต่อค่ายกลที่ตนเองวาดมาก โดยเฉพาะในเวลานี้ พวกเขายิ่งต้องเก็บสะสมพลังงานเอาไว้เยียนเซียวหรานพยักหน้าเบา ๆ ทีหนึ่ง นอนลงไปแล้วกอดนางเอาไว้ในอ้อมกอดหลวม ๆนางเงยหน้าขึ้นหันหน้ามองเขา เขากล่าวเสียงอ่อนโยน “ท่านนอนให้สบายเถอะ รักษาสุขภาพให้ดีขึ้น เรื่องพวกนี้ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ต่างก็ต้องพึ่งพาท่าน”นับตั้งแต่เขาสารภาพรักกับนางครั้งก่อน ตอนที่ซือเจ๋อเยว่อยู่ตามลำพังกับเขาก็มักจะมีความไม่สบายใจเกิดขึ้นบัดนี้นางคิดว่าเขาได้ช่วยชีวิตนางมาหลายครั้งแล้ว ทั้งสองคนเคยมีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยามาก่อนเช่นกัน หากนางเขินอายจนเกินไปก็จะยากที่จะพูดนางคิดว่าไม่สู้ถือโอกาสในคืนนี้คุยเรื่องนี้ให้ชัดเจนไปเลยนางจึงกล่าว “คือว่า...ชีวิตของข้าในตอนนี้ผูกไว้กับเจ้า หากพูดว่าชอบเจ้าในเวลานี้ เหมือนว่ากำลังพยายามประจบเอาใจเจ้า”“ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยชอบใครมาก่อน ไม่รู้ว่าการชอบเป็นความรู้สึกแบบใด”“แต่ว่ามีข้อหนึ่งที่ข้าสามารถแน่ใจได้ ข้าไม่ได้รังเกียจที่ใกล้ชิดกับเจ้า บางทีนี่อาจจะเป็นความชอบก็ได้”“สุขภาพของข้าเป็

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status