บททั้งหมดของ แต่งกับขุนนาง: บทที่ 161 - บทที่ 170

178

บทที่ 161

จากนั้นก็เห็นซูชิงลั่วรีบดึงม่านเตียงลงมาทันที สั่งให้เขาถอดรองเท้า แล้วปิดประตูขังเขาไว้ด้านใน"ห้ามแอบมอง"“……”ลู่เหิงจือฟังเสียงน้ำที่ดังมาจากไกล จึงหัวเราะเสียงแหบแห้งซูชิงลั่วอาบน้ำเสร็จแล้ว เปลี่ยนน้ำใหม่ ลู่เหิงจือก็จะอาบน้ำบ้างทว่าพอเดินไปถึงหลังฉากกั้น ก็เห็นเสื้อชั้นในแขวนอยู่บนฉาก ซูชิงลั่วพูดด้วยน้ำเสียงเขินอายแต่ดุร้ายว่า “อย่าคิดจะหลอกให้ข้าเอาเสื้อผ้าไปให้อีกนะ” เห็นทีจะจำได้แล้วว่าครั้งก่อนโดนหลอกช่างผิดแล้วจำเสียจริงๆซูชิงลั่วเช็ดผมไปด้วย ฟังเสียงน้ำในนั้นไปด้วย ใบหน้าแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆโชคดีที่ครั้งนี้ลู่เหิงจือคงสั่งนางไม่ได้แล้วผมแห้งลงเรื่อยๆ อากาศเริ่มเย็น ซูชิงลั่วกำลังจะคลุมผ้าห่ม ก็ได้ยินเสียงนุ่มนวลของลู่เหิงจือว่า “ออูหยิน กางเกง”“......” ผิดแผนแล้วซูชิงลั่วเงียบไปครู่หนึ่ง จริงๆ แล้วไม่อยากจะสนใจเขา แต่ก็ได้ยินเขาพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นข้าออกมาแบบนี้เลยนะ?""มาแล้ว" ซูชิงลั่วกัดฟัน หากางเกง และยื่นกางเกงข้ามฉากกั้นเขาไม่รับอยู่นาน "เอื้อมไม่ถึง"ซูชิงลั่วจึงจำต้องเลื่อนไปข้างหน้า มือยื่นออกไปไกลขึ้นเล็กน้อย"ขนาดนี้ได้แล้วหรือไม่""ก็ยัง
Read More

บทที่ 162

ซูชิงลั่วอยากจะถามว่าทำไมคนในภาพแต่งตัวเรียบร้อยดีชัดๆแล้วนางจะรู้ได้อย่างไรว่าหนังสือเล่มนี้หลุดออกมาจากวังหลวง จึงต้องมีภาพวาดที่เย้ายวนใจใส่ไว้เป็นพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้น นางเพิ่งเห็นแค่ภาพเดียว หากดูต่อไปเรื่อยๆ ภาพก็จะยิ่งเร้าใจขึ้นไปอีกทว่านางก็ไม่กล้าถาม กลัวว่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นจะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดอีก ทำให้เขามีโอกาสมาเย้าแหย่นางต่อผิวสัมผัสกับอากาศเย็นยะเยือก นางอดไม่ได้ที่จะหดไหล่ เขายกมือขึ้นคลุมนางไว้ใต้ผ้าห่ม แล้วจูบนางอีกครั้งเขาหายใจหอบหนัก แม้จะเป็นคนเย็นชา แต่เขาก็กำมือนางไว้ กัดริมฝีปากล่างของนาง จูบจนนางร้องครางเสียงเบาริมฝีปากเลื่อนลงมาถึงกระดูกไหปลาร้า ทั้งอุ่นและชื้นนางหลับตาลง รู้สึกถึงแหวนหยกที่นิ้วของเขาเลื่อนลงมาตามข้างเอว"ลู่เหิงจือ......"นางอดร้องเรียกชื่อเขาไม่ได้ รู้สึกว่ายามนี้ความรู้สึกของนางถูกเขาควบคุมไปหมดแล้ว มือคู่ที่เคยบงการอำนาจในราชสำนักนั้น ประทับรอยไว้บนตัวนางเบาๆ ทำให้นางต้องยอมจำนนเขาพูดเสียงเคร่งขรึมเล็กน้อย "เรียกสามี"นางหลับตา เรียกไม่ออกจริงๆแล้วก็ได้ยินเสียงลู่เหิงจือพูดว่า “ครั้งแรกหากอยู่บนเก้าอี้ เจ้าคงเจ็บจุก
Read More

บทที่ 163

เพราะจวนลู่ยังสู้เรือนของเขาไม่ได้ ที่นี่ปิดสนิทซูชิงลั่วใบหน้าแดงก่ำ “ก็ ก็ได้”นางสวมชุดชั้นใน กอดหลู่เหิงจือ คิดว่าจะนอนแล้ว ผ่านไปไม่นาน ลู่เหิงจือก็ลุกขึ้น อุ้มนางขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้หวายยาว“……”ซูชิงลั่วรู้สึกถึงลางไม่ดี “ไม่ใช่ว่าจะครั้งหน้าหรือ”“เมื่อครู่ไม่นับเป็นครั้งหนึ่งหรือ”“……”เขาใช้แขนข้างหนึ่งโอบเอวนางไว้ ปากแนบชิดกับท้ายทอยของนาง แล้วเรียกชื่อนางเสียงเบาว่า “ชิงลั่ว...…”เสียงของเขา ร้อนผ่าวราวกับถูกไฟลวกพลันให้ชวนนึกถึงคนที่อยู่ในภาพหนังสือเล่มนั้นขึ้นมา ซูชิงลั่วหันกลับไปเพื่อดูสีหน้าของเขาในยามนี้เขาใช้ฝ่ามืออีกข้างหนุนศีรษะของนางไว้ แล้วจู่ๆ ก็จูบลงบนริมฝีปากของนางหลังจากจูบเสร็จ ลู่เหิงจือขอน้ำอีกแล้วซูชิงลั่วเอนตัวลงบนเตียง ห่มผ้าห่มหนาๆ ใบหน้าแสดงออกถึงความสิ้นหวังหลังจากล้างตัวเสร็จ ลู่เหิงจือก็กลับมานอนอีกครั้ง ยื่นมือไปโอบเอวบางของนางซูชิงลั่วรีบถอยห่างออกไป พิงกับผนัง “ไม่ไหวแล้ว ไม่ได้แล้ว”ฮือๆ ๆ พรุ่งนี้ข้าจะให้จื๋อหยวนเอาผ้าห่มออกมาให้ใหม่!“……”ลู่เหิงจือกระแอมเสียงเบา "ไม่แตะต้องเจ้าแล้ว นอนเถอะ""จริงหรือ""จริงสิ"ซูชิงล
Read More

บทที่ 164

ลู่เหิงจือเห็นว่านางโกรธจริงๆ ครั้งนี้จึงลุกขึ้นยืน และยังช่วยนางลดม่านเตียงอย่างใส่ใจ แล้วหันหลังไปใส่เสื้อผ้าและเดินไปยังห้องครัวอย่างเชื่อฟังซูชิงลั่วขดตัวอยู่บนเตียง ขาของนางปวดเมื่อยอย่างมาก พักไปสักครู่จึงเรียกจื๋อหยวนเข้ามาช่วยนางแต่งตัวและหวีผมให้จื๋อหยวนก็ไม่เคยเห็นสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน ถึงกับจะต้องช่วยพยุงฮูหยินของตนจากเตียง ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรไปชั่วขณะขณะลงจากเตียง ซูชิงลั่วก็ยังขาอ่อน ทำท่าจะล้มไอ้ผู้ชายเลวทราม!นางอดด่าทอเขาในใจจนหมดเปลือกไม่ได้เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ได้ยินเสียงฝีเท้าของลู่เหิงจือเดินเข้ามา นางหันศีรษะจะไล่เขาออกไป แต่ก็ได้กลิ่นหอมของซาลาเปาไส้ไก่จู่ๆ เสียงอ่อนโยนของลู่เหิงจือก็ดังขึ้นอย่างระมัดระวัง “ฮูยหิน ซาลาเปาไส้ไก่ที่เจ้าชอบที่สุด”“……”นางรู้สึกเหมือนถูกไอ้ผู้ชายสารเลวควบคุมอย่างไรก็ไม่รู้แต่ซาลาเปาไส้ไก่ก็หอมจริงๆในใจลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็อดใจไม่ไหวเพราะฝีมือการทำอาหารของไอ้ผู้ชายสารเลวคนนี้ จึงนั่งลงลู่เหิงจือยกยิ้มมุมปาก ตักเต้าหู้ทรงเครื่องใส่ชามให้นางเพิ่ม “ลองชิมอันนี้ดูสิ เป็นอาหารหังโจว อาจถูกปากเจ้านะ”ต้องบอกว่
Read More

บทที่ 165

เขาแค่ทำตามคำสั่งของนางหลิ่วที่ให้ไปเกลี่ยกล่อมซูชิงลั่วก็เท่านั้น ไม่เคยรู้สึกหวั่นไหวกับนางเลย ถึงขั้นสนใจร่างกายของหลิ่วเยียนหรานมากกว่าเสียอีกเนื่องจากซูชิงลั่วเป็นคนมีระเบียบ สุภาพและดูน่าเบื่อราวกับตำราธรรมะ ทำให้เขาไม่รู้สึกสนใจเลยทว่าขณะนี้เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าหัวใจของเขากำลังเต้นแรงเขาก้มลงทำความเคารพนางโดยไม่ทันได้คิด เสียงของเขามีความนุ่มนวลที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ตัว "น้องซูเพิ่งไปน้อมทักอณุสวัสดิ์ท่านยายมาหรือ"เมื่อคำพูดลั่นออกมา เขาถึงกับตกใจก่อนซูชิงลั่วย่อมรู้สึกประหลาดใจ นางนึกไม่ถึงว่าเขาจะไม่แสดงท่าทีเกลียดนางเลย เมื่อใดที่ลู่เหยียนใจกว้างขนาดนี้แต่นางไม่อยากคุยกับเขามาก เพราะนางแต่งงานแล้ว ต้องหลีกเลี่ยงความสงสัยนางตอบเพียง "อืม" แล้วพาคนจากไปนางเพียงรู้สึกในใจว่าชุดขาวนวลราวแสงจันทราไม่เหมาะกับลู่เหยียนเอาเสียเลย ไม่เหมือนลู่เหิงจือ เมื่อสวมใส่ชุดสีขาวนวลราวแสงจันทรา ก็ดูสง่างามราวเทพเซียน ไม่เหมือนคนทั่วไปทว่าคืนนั้นเขากลับ...บนร่างกายของนางเอิ่ม พอนึกถึงลู่เหิงจือ นางก็เขินอายมากรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็วลู่เหยียนมองแผ่นหลังที่จากไ
Read More

บทที่ 166

เมื่อยามค่ำคืน ฉางชิงคุกเข่าอยู่กลางสายลมหนาวอย่างหนาวสั่นเขารู้สึกว่าถูกใส่ร้ายเขากลับมาจากการออกไปทำงานเพียงครึ่งค่อนปี เหตุใดสถานการณ์ในจวนของใต้เท้าถึงเปลี่ยนพลิกฟ้าเช่นนี้พวกฉางเฟิงและฉางเหอที่สมคงอิจฉาที่เขาได้ออกไปทำงานนอกบ้าน ดูดีมีสง่าราศี จึงจงใจไม่เตือนเขาแน่ๆทว่าฮูหยินคนใหม่ได้รับความโปรดปรานมากขนาดนี้เลยหรือ?ห้องหนังสือที่มีเอกสารสำคัญจำนวนมากสามารถเข้าออกและย้ายของได้ตามใจชอบเช่นนี้เลยหรือประตูห้องหนังสือเปิดออก ลู่เหิงจือเดินออกมาพร้อมกับซูชิงลั่วในอ้อมแขน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ข้ายังมีเรื่องต้องจัดการอีกนิดหน่อย เจ้าไปพักผ่อนที่ห้องข้างๆ ก่อนเถอะ หากเหนื่อยก็เข้านอนได้เลย”คำว่าเหนื่อยดูเหมือนมีนัยยะแฝงซูชิงลั่วใบหน้าแดงก่ำและพยักหน้า วันนี้นางจัดห้องหนังสือเสร็จแล้วก็มาจัดห้องนอนต่อ ก็รู้สึกเหนื่อยจริงๆลมหนาวพัดกระหน่ำเข้ามาในเสื้อผ้า ซูชิงลั่วหันไปมองฉางชิงที่คุกเข่าอยู่หน้าประตู จึงอยากจะขอร้องแทนเขา “อากาศหนาวมาก เขา...”ลู่เหิงจือขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงเข้มขรึมว่า "ให้เขาได้บทเรียนสักหน่อย"ฉางชิงทำหน้าบึ้งไม่กล้าโต้แย้งซูชิงลั่วไม่รู้จะ
Read More

บทที่ 167

หลังจากจบลง เขาก้มลงไปจูบน้ำตาที่มุมตาของนางแล้วพูดว่า “ขอโทษ......”ซูชิงลั่วมองเขาและพูดว่า “ท่านหึงหนักมาก ข้าแทบไม่ได้พูดคุยกับลู่เหยียนเลย”ลู่เหิงจือนิ่งเงียบไม่พูดอะไร แต่สายตากลับยังคงลึกล้ำไม่ใช่ว่าจะตำหนินาง เพียงแต่อดอิจฉาไม่ได้เขามีความยึดมั่นในสิ่งหนึ่งมาตั้งแต่เด็ก ฉะนั้นหลังจากที่นางหมั้นหมายกับลู่เหยียน เขาก็ไม่เคยคิดที่จะอยู่กับคนอื่นเมื่อนึกถึงซูชิงลั่วที่เคยชอบลู่เหยียน หัวใจของเขาก็แอบเจ็บแปลบ และควบคุมไม่อยู่ซูชิงลั่วดูเหมือนจะรับรู้ถึงอารมณ์ของเขาและกุมแก้มทั้งสองข้างของเขา "ท่านไม่ใช่คิดว่าข้ายังมีใจให้ลู่เหยียนอยู่ใช่หรือไม่ เป็นไปได้อย่างไร ยามนั้นเขา...แบบนั้น""ไม่ใช่" น้ำเสียงของเขาสงบนิ่งมากไม่ใช่เรื่องนี้ แสดงว่าเป็นเรื่องในอดีต?ซูชิงลั่วเม้มริมฝีปาก โน้มตัวเข้าไปข้างหูของเขาแล้วพูดว่า "จริงๆ แล้ว ฉข้าหมั้นหมายกับเขา หลักๆ ก็เพราะท่านยายของข้า ข้าไม่ได้...กับเขาเลย"ไม่มีอะไร แต่กลับพูดไม่ออกเพราะไม่ต้องการเชื่อมโยงคำว่าหวั่นไหวกับลู่เหยียนนางหยุดชะงักชั่วขณะ และลู่เหิงจือก็วางมือบนหลังนาง แล้วถามว่า "ไม่มีอะไรหรือ"นี่เป็นครั้งแรกที่เ
Read More

บทที่ 168

ซูชิงลั่วสวมชุดสีแดงส้มผ้าไหมจากเมืองซู เดิมเป็นชุดที่ทำให้นางดูสวยงามอยู่แล้ว แต่ท่าทางบ่นของนางก็ทั้งดูน่ารักและน่าเอ็นดู เสียงของนางยังมีน้ำเสียงออดอ้อนปนอยู่ลู่เหิงจืออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อย สั่งให้คนนำกล่องอาหารเข้ามา แล้วเดินมาจับมือของนางไว้ “เป็นความผิดของข้าเอง ที่เพิ่งกลับเข้าท้องพระโรงก็ยุ่งไปหน่อย”นางไม่ขยับ ปล่อยให้เขาจับมือนางไว้ และไม่ได้สลัดมือออกลู่เหิงจือก็อุ้มนางขึ้นมาทันทีร่างลอยขึ้นกลางอากาศ ซูชิงลั่วตกใจมาก โอบคอเขาแน่นจื๋อหยวนและอวี้จู๋ก้มหน้าลงพร้อมกันในทันที ไม่กล้าดู หูของอวี้จู๋ดูเหมือนจะแดงเล็กน้อยซูชิงลั่วเองก็เขินอาย พยายามผลักลู่เหิงจือออก “ท่านอย่า......รีบวางขาลง”แรงน้อยนิดของนาง ผลักเขาไม่ออกเลยปล่อยให้เขาอุ้มตัวไปนั่งบนเก้าอี้ข้างโต๊ะ และได้ยินเขาไล่สาวใช้ออกไป “พวกเจ้าไม่ต้องอยู่รอรับใช้”อาหารในกล่องน่าจะเป็นฝีมือพ่อครัว ไม่เหมือนฝีมือของลู่เหิงจือ แม้จะดูประณีต แต่เมื่อเทียบกับอาหารที่ลู่เหิงจื่อทำ ก็ขาดรสชาติของบ้านไปบ้างไม่รู้ว่าเป็นเพราะทั้งสองคนไม่ได้กินข้าวด้วยกันมานานหรือไม่ ลู่เหิงจือจึงดูแลนางเป็นพิเศษ คอยคีบอาหาร
Read More

บทที่ 169

การส่งเขาไปตรวจสอบภาษีที่เจียงหนาน ขณะที่ประเมินผลงานของขุนนางนั้น ถือเป็นการเตือนเขาไปในตัวหากไม่ใช่เพราะเซี่ยถิงอวี่ไม่เคยสนใจศึกษาเล่าเรียนและมัวแต่เที่ยวเตร่ คงจะผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้ยากยิ่งกว่าเดิมก่อนหน้านี้เขาเป็นคนโดดเดี่ยวไม่กลัวอะไร แต่ยามนี้เขามีซูชิงลั่วแล้ว ทุกอย่างเขาก็ต้องคิดถึงนางเป็นหลักซูชิงลั่วถามว่า “แล้วท่านจะไปเมื่อใด”ลู่เหิงจือสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วตอบว่า “อีกสองสามวันนี้แหละ”นางประหลาดใจ “รีบขนาดนั้นเลยหรือ”“เป็นพระราชโองการ ไม่อาจปฏิเสธได้” เขาตอบเสียงนิ่งเรียบ “ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องราวทางนั้นดูยุ่งยากพอสมควร ข้าก็อยากกลับมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าในช่วงตรุษจีน”คนในอ้อมกอดดูเหมือนจะรู้สึกเศร้าขึ้นมาทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจลู่เหิงจือใจอ่อนดยไม่รู้ตัว เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่ามีแต่ความอ่อนโยนอย่างท่วมท้นในใจ อยากจะมอบให้นาง อยากเห็นนางมีความสุขเขาจึงก้มศีรษะบังคับให้นางมองหน้าแล้วจูบนางไม่ได้แตะต้องเขามาหลายวัน เขาก็จะไปเจียงหนานแล้ว ซูชิงลั่วก็อ่อนระทวยอยู่ในอ้อมกอดของเขา ดูเชื่องฟังอย่างมาก แทบจะยอมให้เขาทำอะไรก็ได้ตามใจเขาเอื้อมมืออ
Read More

บทที่ 170

ค่ำคืนนี้ซูชิงลั่วนอนไม่ค่อยหลับฝันร้ายตลอดทั้งคืน ประเดี๋ยวฝันเห็นลู่เหิงจือถูกคนลอบสังหาร ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลเลือดไหลอาบกาย เปื้อนเลือดไปทั่วทั้งชุดประเดี๋ยวก็ฝันเห็นเขาถูกบังคับให้กระโดดลงจากเรือจมน้ำ หายใจรวยรินและถูกคลื่นซัดเข้าฝั่ง แล้วถูกเด็กสาวช่วยไว้หญิงสาวผู้นั้นสวยมาก และบอกกับหลู่เหิงจือว่าชอบเขามากลู่เหิงจือเงยหน้ามองหญิงสาวด้วยสีหน้าซับซ้อน - ราวกับภาพวาดที่หยุดนิ่งอยู่ในขณะนั้นซูชิงลั่วลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน เห็นแสงรุ่งอรุณแล้ว แต่ผ้าห่มข้างกายยังคงเย็นเฉียบ ลู่เหิงจือไม่ได้กลับมาทั้งคืนนางลุกขึ้นเรียกจื๋อหยวนเข้ามาและถามว่า “พี่สามยังอยู่เรือนหน้าอยู่หรือไม่”"เจ้าค่ะ ซ่งเหวินมาบอกขณะยามสี่ว่ายังยุ่งอยู่เจ้าค่ะ” จื๋อหยวนช่วยนางแต่งตัวและหวีผมซูชิงลั่วจ้องมองภาพสะท้อนในกระจกทองแดงด้วยดวงตาเหม่อลอย และนึกถึงฉากในความฝันความฝันของนางมักจะแม่นยำเสมอก่อนหน้านี้ความฝันเกี่ยวกับลู่เหยียนและหนิงไห่ลู่ก็เป็นจริงทั้งหมดแล้วไม่ถูก…แต่ก่อนนางก็เคยฝันว่าลู่เหิงจือจะไม่แต่งงานชัดๆ แต่ยามนี้เขากลับแต่งงานกับนางแล้วหรือว่าเรื่องในความฝันจะเปลี่ยนแปลงไปต
Read More
ก่อนหน้า
1
...
131415161718
DMCA.com Protection Status