บททั้งหมดของ สัญญารักผูกหัวใจท่านประธานปากแข็ง: บทที่ 551 - บทที่ 560

945

บทที่ 551

มีเสียงเคร่งขรึมบอกให้ “เข้ามา” แว่วดังขึ้นมาจากด้านในเสียงหนึ่งฮั่วตงเฉิงผลักประตูเข้าไป “พ่อ พ่อเรียกผมเหรอครับ?”คุณท่านฮั่วอายุเกินหกสิบแล้ว เดิมทีร่างกายยังนับว่าแข็งแรงทีเดียว ทว่าจู่ ๆ ปีที่แล้วก็เกิดป่วยหนักขึ้นมา เรี่ยวแรงหดหายไปมาก แต่สีหน้าเขายังเคร่งขรึม พร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย นัยน์ตาสุกสกาว ทั้งตัวยังเผยอำนาจของผู้อยู่เบื้องบนออกมาสายหนึ่ง ซึ่งไม่สามารถละเลยได้หน้าตาของเขามีความคลับคล้ายคลับคลากับฮั่วตงเฉิง มองออกได้ไม่ยากว่าตอนหนุ่ม ๆ ก็เป็นหนุ่มหล่อที่มีใบหน้าที่มีความเป็นมุมมนและชัดเจน“ฉันได้ยินมาว่าช่วงนี้แกอยู่ที่เมืองเจียงเฉิง?” คุณท่านฮั่วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขึงขัง“ครับ”“แกไปทำอะไรที่เมืองเจียงเฉิง”ฮั่วตงเฉิงชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบกับสายตาของคุณท่านฮั่ว “พ่อไม่ได้รู้แล้วหรอกเหรอครับ? ไม่งั้นจะเรียกผมกลับมาทำไม?”คุณท่านฮั่วเองก็ไม่ปกปิดอีกต่อไป เขาพูดสั่งออกไปเลยว่า “โปรเจกต์ที่ชิงมาได้แล้วก็ดำเนินไปให้ดี ๆ แกรีบกลับมาเมืองจิงซะ แล้วหลังจากนี้ไม่ต้องไปหาเรื่องตระกูลฟู่อีก”ฮั่วตงเฉิงยิ้ม “พ่อครับ ผมไม่ได้หาเรื่องตระกูลฟู่สักหน่อย ผมแค่ดำ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 552

กลับมาที่ฝั่งของเวินเหลียง พรุ่งนี้เธอต้องไปรายงานตัวที่บริษัทฉู่ซืออี๋ เลยคิดจะฝากฟู่ซือฝานไว้กับฟู่เจิงหลังไปเที่ยวชมชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนจบลง ฟู่ชิงเยว่คิดจะพาฟู่ซือฝานกลับลอสแอนเจลิสแน่ ๆ ส่วนฟู่เจิงเขาเองก็คงต้องยอมถอยให้กับเรื่องที่เขาคิดจะรั้งตัวฟู่ซือฝานไว้ก้าวหนึ่ง?เวินเหลียงมองกระจกมองหลังทีหนึ่ง รถของฟู่เจิงขับตามหลังมาอยู่ไม่ห่างและไม่ใกล้จนเกินไปตลอดเธอหยิบโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความให้ฟู่เจิง แล้วบอกจูฝานว่า “จูจู เธอจอดรถข้างหน้าให้หน่อย ฉันกับฝานฝานจะลงแล้ว”“ให้รอเธอไหม?”“ไม่ต้อง ฉันมีเรื่องอะไรจะคุยกับฟู่เจิงนิดหน่อยน่ะ”“โอเค” จูฝานหาจังหวะจอดข้างทางเมื่อเวินเหลียงกับฟู่ซือฝานลงจากรถ จูฝานก็ขับรถออกไปก่อน จากนั้นรถของฟู่เจิงก็มาหยุดตรงหน้าพวกเธอเวินเหลียงเปิดประตูด้านหลังของรถ แล้วเข้าไปนั่งกับฟู่ซือฝานมือใหญ่ ๆ ของฟู่เจิงประคองพวงมาลัยอยู่ ตรงข้อมือเผยให้เห็นนาฬิกาข้อมือที่ราคาไม่ธรรมดาออกมา มืออีกข้างหูถอดฟังบลูทูทที่อยู่ตรงหูออก พร้อมมองกระจกมองหลัง “มื้อค่ำอยากกินอะไร?”“แล้วแต่”“ฝานฝาน เธอล่ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงศีรษะครุ่นคิด “หนูอยากกินเป็ดย่างค
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 553

เธอไม่เชื่อใจเขาขนาดนี้เลยเหรอ อยากขีดเส้นความสัมพันธ์กับเขาให้ชัดเจนขนาดนี้เลยเหรอ?ขณะที่เดือดดาล มีความปวดใจสายหนึ่งเอ่อล้นขึ้นมาพร้อมกันด้วยความรู้สึกที่เธอมีต่อเวินหย่งคัง ตอนที่รู้ว่าพ่อที่ตนสนิทสนมที่สุดถูกคนฆาตกรรม ในใจจะรู้สึกยังไงกันนะ?เวินเหลียงเป็นคนที่จริงจังมากคนหนึ่งใช่จริงจังมากเธอไม่เคยสองจิตสองใจเลย เธอตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงาน ตั้งใจใช้ชีวิตมาตลอด ตั้งใจปฏิบัติกับคนที่ชอบ และตั้งใจจดจำคนที่ในความทรงจำเธอพยายามใช้วิธีของตัวเองมาแก้แค้นให้พ่อ แม้เวินหย่งคังจะตายไปสิบปีแล้ว แม้ว่าเธออาจต้องเจอกับการแก้แค้น และต้องมีจุดจบเหมือนกับเวินหย่งคัง เธอก็ยืนกรานที่จะทำต่อหลังวางสาย ฟู่เจิงก็สูบบุหรี่อยู่ด้านนอกครู่หนึ่ง ถึงกลับไปยังห้องรับรองเวินเหลียงกำลังถกประเด็นว่าทำไมปูถึงขาเกกับฟู่ซือฝานอยู่ฟู่เจิงมองใบหน้าด้านข้างที่ขาวผ่องและเรียบสงบของเธอด้วยความหมายลึกซึ้ง นัยน์ตาประกายความสับสนออกมาหลังกินมื้อค่ำเสร็จ ฟู่ซือฝานก็ง่วงจนลืมตาไม่ขึ้นแล้วฟู่เจิงอุ้มเธอเข้าไปยังเบาะที่นั่งด้านหลังรถ ก่อนจะกลับมาสตาร์ตรถเป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว แสงไฟนีออนของไฟถนนจากนอกหน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 554

ฟู่เจิงเม้มริมฝีปากทีหนึ่ง พลางมองเวินเหลียงด้วยนัยน์ตาเคร่งขรึมผ่านกระจกมองหลัง พร้อมกัดฟันถามขึ้นว่า “ไม่เกี่ยวกับฉัน?”เขาให้โอกาสเธอได้พูดความจริงออกมาแล้วเธอยอมกอดความเสี่ยงของการถูกแก้แค้น และคิดจะปิดบังเขา!เขาไม่คู่ควรให้เธอเชื่อใจและหวังพึ่งขนาดนี้เลยเหรอ?เธอไม่หวงแหนชีวิตของตัวเองขนาดนี้เลยเหรอ?เมื่อเวินเหลียงเงยหน้าขึ้น ก็ไปสบเข้ากับสายตาที่อดกลั้นความเดือดดาลเอาไว้ เธอไม่เข้าใจต้นสายปลายเหตุนิดหน่อย “เรื่องของฉัน เดิมทีก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณอยู่แล้ว แล้วก็คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันกำลังสืบเรื่องคดีลักพาตัวอยู่? คุณสืบเรื่องฉันอีกทีใช่ไหม? เรื่องที่คุณสะกดรอยตามฉันไปถึงหนิงชิง ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับคุณเลยนะ!”เห็นเวินเหลียงตอกกลับเขาทั้งเดือดพล่านพร้อมเหตุผลเต็มประดา ในใจของฟู่เจิงก็โกรธจนแทบระเบิดออกมา มือใหญ่ ๆ ที่จับพวงมาลัยอยู่กำแน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม เส้นเลือดบนฝ่ามือพลันปูดขึ้นมา “ที่ฉันสืบเรื่องเธอ ก็เพราะเธอได้รับคำขู่ ที่ตามเธอไปถึงหนิงชิง ก็เพราะคืนก่อนหน้านั้นเธอได้รับบาดเจ็บ ฉันเป็นห่วงเธอ ตอนนี้ฉันก็แค่อยากช่วยเธอเท่านั้น!”เวินเหลียงยิ้มเบา ๆ ทีหนึ่ง “ฟู่เจิง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 555

เวินเหลียงไปหาฉู่ซืออี๋ตามที่อยู่ที่พี่สาวตัวน้อยส่งมาให้ พร้อมฉวยโอกาสสำรวจไปตามท้องถนนซีรีส์ที่ฉู่ซืออี๋ไปร่วมถ่ายอยู่ตอนนี้เป็นซีรีส์แนวโบราณเทพเซียนไม่มีฟู่เจิง ทรัพยากรของเธอก็ไม่เหมือนอย่างแต่ก่อน ในซีรีส์เรื่องนี้เป็นนักแสดงรับเชิญพิเศษคนหนึ่งเท่านั้น มีฉากออกไม่เยอะ ทว่าฉู่ซืออี๋ไม่มีโอกาสให้เลือกหลังเวินเหลียงมาถึงยังเซ็ตถ่ายก็ส่งข้อความหาฉู่ซืออี๋ทันที ผ่านไปสองสามนาที ก็มีทีมงานที่ติดบัตรประจำตัวไว้ที่หน้าอกคนหนึ่งออกมารับเธอเข้าไปฉู่ซืออี๋อยู่ในชุดเข้าฉาก ด้านนอกสวมเสื้อคลุมขนสัตว์เอาไว้ กำลังถือบทละครพูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้กำกับอยู่ พร้อมมองมาทางด้านนอกอยู่เป็นระยะครั้นเห็นเวินเหลียงเข้ามา มุมปากของฉู่ซืออี๋ก็กระตุกรอยยิ้มออกมารอยยิ้มหนึ่ง เธอโบกไม้โบกมือมาทางเวินเหลียง “ผู้กำกับซ่งคะ ต่อไปนี้ฉากที่ฉันเล่นไม่ได้ เธอจะมาเล่นแทนฉันนะคะ”เวินเหลียงยิ้มพร้อมโบกไม้โบกมือให้ผู้กำกับซ่งไปด้วย พลางมองฉู่ซืออี๋ด้วยนัยน์ตาที่แฝงไปด้วยการถามกลับทีหนึ่งฉู่ซืออี๋ให้เธอมาเป็นผู้ช่วยไม่ใช่เหรอ? ทำไมกลายเป็นสแตนด์อินไปแล้วล่ะ?ฉู่ซืออี๋ได้แต่ยิ้มแย้ม ละเลยสายตาของเวินเหลียงไป
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 556

ขณะที่ฉู่ซืออี๋กำลังถ่ายทำอยู่นั้น เวินเหลียงก็ไปเอาใบแจ้งรายละเอียดการถ่ายทำกับทีมงานหน้าเซ็ต วันนี้ฉู่ซืออี๋มีถ่ายทำสองฉาก ฉากแรกคือตอนนี้ ฉากที่สองคือตอนบ่ายฉากแรกถ่ายทำไปหนึ่งชั่วโมงกว่า ผู้กำกับตะโกนบอกว่าผ่านก่อนที่ฉู่ซืออี๋จะเอ่ยปาก เวินเหลียงก็รีบเดินหน้าเอาเสื้อคลุมขนสัตว์ไปคลุมให้เธอทันทีฉู่ซืออี๋เลิกคิ้วมองเธอทีหนึ่ง จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอกเลย “แก้วน้ำอยู่ในเต็นท์ แก้วสีชมพู ไปเอาน้ำร้อนมาให้ฉันที่รถแก้วหนึ่ง”“ได้” เวินเหลียงเข้าไปเอาแก้วในเต็นท์ จากนั้นก็ไปกดน้ำร้อนใส่แก้วให้ห่างจากปากแก้วสองนิ้ว เวลาเปิดจะได้ไม่มีน้ำร้อนกระเด็นออกมาฉู่ซืออี๋รับมาเปิดอย่างลวก ๆ พลางมองเวินเหลียงทีหนึ่ง “ฉันจะพักอยู่บนรถสักแป๊บ เธอไปยืนเฝ้าอยู่ข้างนอก ถ้ามีเรื่องอะไรก็มาเรียกฉัน”พูดจบก็ปิดประตูไปเลยเวินเหลียงมองเวลา อีกหนึ่งชั่วโมงจะได้เวลากินมื้อเที่ยง เธอพิงรถบ้านเล่นโทรศัพท์ครู่หนึ่ง ยืนขาก็ล้าจึงนั่งยองลงมาเมื่อถึงเวลากินข้าวเที่ยง เวินเหลียงก็ไปรับข้าวมาสองกล่องฉู่ซืออี๋เป็นโรครักความสะอาด เธอใช้อุปกรณ์ทานอาหารของตัวเอง หลังเธอกินเสร็จ ก็โยนอุปกรณ์ทานอาหารให้เวินเหลี
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 557

ในใจของเวินเหลียงผุดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา “เข้าฉาก คงไม่ใช่ว่า...”ช่างทำผมพยักหน้า “ใช่ค่ะ เป็นฉากที่ซูเมี่ยวใช้ความสวยยั่วยวนคน จากนั้นก็สูบจิตวิญญาณจนเกลี้ยงแล้วฆ่าทิ้ง”เวินเหลียง “...”ในวินาทีนั้น ไม่รู้เลยว่าในใจของเวินเหลียงผุดความสับสนขึ้นมามากแค่ไหนเธอปฏิเสธตอนนี้ยังทันอยู่ไหม?ช่างทำผมปลอบเธอ “วางใจเถอะค่ะ ฟุตนี้ไม่มีอะไรมากมายหรอกค่ะ ตอนนี้ตรวจสภาพแวดล้อมเข้มงวดขนาดนั้น โดดขึ้นมานิดหน่อยก็ออกอากาศไม่ได้แล้ว ไปค่ะ ยังต้องจัดการผมให้คุณอีก”เวินเหลียงยืนอยู่ที่เดิม เธอคลุมเสื้อคลุมขนสัตว์แล้วออกไปพร้อมกับช่างทำผมสายตาของฉู่ซืออี๋พลันตกไปบนตัวของเวินเหลียง จากนั้นก็กวาดตาไปเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉาของช่างแต่งหน้า เธอแอบเย้ยหยันอยู่ในใจ เวินเหลียงเคยผ่านการมีลูกมาก่อน จะไม่ให้ใหญ่ได้ยังไง?!ช่างทำผมทำผมทรงเดียวกันกับฉู่ซืออี๋ให้เวินเหลียงหลังออกมาจากห้องแต่งตัว ลมเย็นสายหนึ่งก็ปะทะหน้าเข้ามา ร่างกายท่อนบนที่คลุมด้วยเสื้อคลุมขนสัตว์เอาไว้ยังพอทนไหว ทว่าตรงน่องเย็นสะท้านไปหมดเวินเหลียงเดินฉู่ซืออี๋ไปหาผู้กำกับอยู่เบื้องหลังผู้กำกับซ่งมองทั้งสองคน แล้วถามเวิน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 558

เห็นสีหน้าขื่นขมของเวินเหลียง ฉู่ซืออี๋ก็อิ่มเอมหัวใจอย่างไร้ที่เปรียบ!ทำไมพอเป็นเธอถึงมีแต่ต้องเปลืองร่างกายของตัวเองไปประจบประแจงชายแก่พวกนั้น ถึงจะได้อยู่ในวงการต่อ แต่เวินเหลียงไม่ต้องใช้อะไรเลย กลับทำอะไรได้ตามใจชอบภายใต้การปกป้องคุ้มครองของฟู่เจิง?!ทำไมกันนะขนาดฟู่เจิงรู้แล้วแท้ ๆ ว่าเวินเหลียงเคยคลอดลูกอยู่ที่ต่างประเทศ แต่ก็ยังรับเธอได้อย่างไร้ความแค้นเคือง?!ในเมื่อฟู่เจิงใจกว้างขนาดนั้น เธอก็อยากจะดูซิว่า ฟู่เจิงจะใจกว้างได้ไปถึงขั้นไหนกันเชียว!เวินเหลียงยังคิดว่าถ้าเชื่อฟังคำของเธอแล้ว เธอจะออกหน้ามาระบุตัวคนร้ายให้ ช่างโง่ใช้ได้เลยจริง ๆ!หลังถ่ายภาพซูมระยะใกล้ไปสองสามเทค แล้วผู้กำกับตะโกนว่าผ่าน เวินเหลียงก็รีบหมุนตัวสาวเท้าก้าวยาวไปหยิบเสื้อคลุมขนสัตว์มาคลุมทันทีฉู่ซืออี๋เอ่ย “เธอกลับไปได้แล้ว พรุ่งนี้อย่าลืมมาบ้านฉันเร็ว ๆ ด้วยล่ะ ปลุกฉันก่อนเวลาที่แจ้งล่วงหน้าครึ่งชั่วโมง แล้วก็เตรียมอาหารเช้าด้วย”เวินเหลียงมองเธอด้วยความสงสัยทีหนึ่ง “ตอนนี้ไม่ต้องการฉันแล้ว?”“อืม”เวินเหลียงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัวทันที พร้อมถอดวิกออก หลังจัดการหน้าตาและเสื้อผ้าเรี
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 559

เวินเหลียงลงไปเตรียมอาหารเช้าให้ฉู่ซืออี๋ชั้นล่าง จากนั้นก็ยกมาวางไว้บนโต๊ะน้ำชาในห้องรับแขกทันใดนั้นแสงวาววับสายหนึ่งก็ส่องเข้ามาในดวงตาของเวินเหลียง เธอหมอบตัวลงดูใต้โต๊ะ มีนาฬิกาผู้ชายเรือนหนึ่งตกอยู่ตรงขอบใต้โต๊ะมีผู้ชายมาค้างคืนที่นี่เวินเหลียงเตะไปใต้โซฟาเงียบ ๆ แสร้งทำเป็นไม่เห็นในหัวเธอเต็มผุดความคิดวกไปวนมาเต็มไปหมด คนที่ทำให้ฉู่ซืออี๋ออกมาขายตัวได้ ต้องเป็นคนในวงการบันเทิงหรือคนที่มีอิทธิพลในการออกปากออกเสียงในฝ่ายผลิตคนหนึ่งแน่ ๆเธอลอบส่งข้อความหาอวิ๋นเฉียวเวินเหลียงไม่ใช่คนโง่ ถ้าเธอยอมอดทนอยู่กับฉู่ซืออี๋ไปฟรี ๆ เดือนหนึ่ง แล้วฉู่ซืออี๋เกิดมาเปลี่ยนใจนึกเสียใจทีหลังขึ้นมา เธอจะไปร้องไห้กับใครได้ล่ะ?หากจับจุดอ่อนของฉู่ซืออี๋ได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่บีบให้ฉู่ซืออี๋ออกหน้ามาระบุตัวผู้ต้องหาเลย อย่างน้อยก็ทำให้ฉู่ซืออี๋ชั่งน้ำหนักในตอนนี้ที่เธอนึกเสียใจขึ้นมาได้หลังฉู่ซืออี๋จัดการตัวเองเสร็จ ก็ลงมากินข้าวเช้าข้างล่าง เวินเหลียงไปช่วยเธอจัดการแต่งหน้าและเก็บของที่จะพกติดตัวไป อาทิกระจก พาวเวอร์แบงก์ น้ำหอม คอนแทคเลนส์ แฮนด์ครีมเป็นต้นขณะมาถึงหน้าเซ็ต กำลังแจ้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 560

“เธอเป็นสแตนด์อินของฉู่ซืออี๋น่ะ” ผู้กำกับซ่งเอ่ย“อ๋อ” ผู้กำกับเจิ้งเข้าใจแล้ว พร้อมส่ายหน้าอย่างน่าเสียดายในสายงานนี้ สแตนด์อินไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพียงแต่เนื่องจากเหตุผลต่าง ๆ นานา น้อยครั้งที่จะมีสแตนด์อินได้เดินไปอยู่เบื้องหน้านักแสดงแทนในฉากต่อสู้ด้านรูปลักษณ์ภายนอกมีส่วนที่ขาดไป ทว่านักแสดงแทนในฉากพูดครึ่งหนึ่งจะมีรูปลักษณ์ภายนอกคล้ายกับนักแสดง เบื้องหน้ามีใบหน้าแบบนี้อยู่ก่อนแล้ว คนที่มีใบหน้าแบบนี้คนถัดไปก็ยากจะได้โงหัวขึ้นมา และอาจถูกโจมตีจากแฟนคลับของคนที่อยู่ก่อนหน้าแล้วอีกต่างหากผู้กำกับเจิ้งชำเลืองมองสแตนด์อินสาวที่อยู่กลางอากาศคนนั้น แม้จะไม่ปราดเปรียวอยู่บ้าง ทว่าก็กล้าหาญมากทีเดียว การเคลื่อนไหวมีกำลังและความรู้สึกงดงามเป็นอย่างมาก รับรู้ได้ถึงความเชื่อใจที่เธอมีต่อคนคุมสลิง เธอกำลังต่อสู้อย่างใจจดใจจ่อหากไม่ใช่สแตนด์อิน ทำการตลาดจากการเข้าฉากต่อสู้ด้วยตัวเองออกไปเล็กน้อย คงได้รับการตอบรับที่ไม่เลวทีเดียวผู้กำกับซ่งเองก็ค่อนข้างพอใจมาก เขาใช้ให้เวินเหลียงถ่ายเพิ่มอีกสองสามเทคกระทั่งถึงตอนที่ผู้กำกับตะโกนว่าผ่าน เวินเหลียงก็เหนื่อยจนหายใจหอบแล้ว แขนเมื่อย
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
5455565758
...
95
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status