All Chapters of คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง: Chapter 491 - Chapter 500

594 Chapters

บทที่ 491

มันได้ผล! เมื่อหลี่มู่ถิงเห็นถึงความอบอุ่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าความพยายามของเขานั้นเป็นผล เขาถามอย่างปลื้มปิติว่า"ประธานฉิน งั้นเราไปหาอะไรทานกันไหมครับ?" ใครจะรู้ว่าคำตอบของฉินเย่ในวินาทีถัดมาจะเหมือนกับน้ำเย็นๆที่ราดลงมา ณ ตอนนั้น “ผมบอกว่าอยากกินหรอ? ผมไม่ได้บอกหรอว่าอย่าทำอะไรที่มันไม่จำเป็น” หลี่มู่ถิงอ้ำอึ้งอยู่ที่เดิม “ทำไมล่ะ? เมื่อกี้คุณไม่ได้เพิ่ง...” เขาที่ก่อนหน้านี้มีความอบอุ่นอยู่ในสายตา ในตอนนี้กลับมาเป็นปกติ และกลายเป็นฉินเย่ที่เย็นชาและไม่น่าเข้าใกล้อีกครั้ง ฉินเย่ขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเขาอีกต่อไป ในหัวของเขากลับนึกถึงคำพูดของเด็กน้อยสองคนที่บอกว่าขอให้เขามีสุขภาพแข็งแรง และเขาก็รู้สึกอบอุ่นอยู่ในใจ ช่างน่าแปลกที่เด็กสองคนที่เขาไม่รู้จักสามารถเยียวยาเขาผ่านหน้าจอได้ ฉินเย่ขยับนิ้วของเขาและให้รางวัลเด็กทั้งสองอีกครั้ง “เอ๊ะ?” เสิ่นเหมิงเหมิงเห็นข้อความที่เป็นรางวัลบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เธอเบิกตาโตเป็นประกายและพูดว่า “ลุงเย่มู่ก็อยู่หรอคะ ลุงเย่น่ารักมากเลย ขอบคุณสำหรับของขวัญนะคะ” เสียงเล็กๆของเด็กสาวตัวเล็กๆนั้นเหมือนกับตอนที่เขาพบกับเ
Read more

บทที่ 492

"คุณหนูเสิ่น โทรศัพท์คุณดัง ที่เหลือเดี๋ยวฉันจัดการให้เองค่ะ" "ก็ได้ค่ะ" เสิ่นหยินอู้ไม่มีทำได้เพียงหยิบโทรศัพท์ออกไปข้างนอกเพื่อรับสาย "ฮัลโหล?" “คุณหนูเสิ่น” เสียงที่คุ้นเคยทำให้เสิ่นหยินอู้ชะงักไป "ผู้ช่วยหลี่?" ทำไมเขาถึงโทรหาเธออีกแล้ว? “คุณหนูเสิ่น ขอโทษทีครับ ดึกขนาดนี้ ผมคงไม่ได้รบกวนคุณใช่ไหม?” เสิ่นหยินอู้เม้มริมฝีปากแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสงบว่า: "มีอะไรหรอคะ?" ขณะที่หลี่มู่ถิงกำลังจะพูดบางอย่าง ฉินเย่ก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้เขาเปิดสปีกเกอร์โฟน ดังนั้นขณะที่กำลังถูกเขาจ้องมอง หลี่มู่ถิงจึงทำได้เพียงเปิดสปีกเกอร์โฟน แล้วพูดอย่างทุลักทุเลว่า "ก็คือแบบนี้ครับ ประ ประธานฉินยังไม่ยอมทานอะไรเลย คุณช่วย..." “ผู้ช่วยหลี่” ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็ถูกเสิ่นหยินอู้ขัดจังหวะอย่างรวดเร็ว: "ประธานฉินของคุณโตแล้ว เขาสามารถตัดสินใจด้วยตัวเองได้ว่าเขาควรกินหรือไม่กิน และเขนต้องกินหรือไม่กิน ถ้าเขาไม่กิน นั่นหมายความว่าเขารู้จักร่างกายของเขาดี" หลังจากพูดจบ เสิ่นหยินอู้ก็วางสายไป หลี่มู่ถิง: "..." เขาถือโทรศัพท์ไว้ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้น ร
Read more

บทที่ 493

เจียงเฉิงงั้นเหรอ?เมื่อเธอเห็นว่าอีกฝ่ายก็อยู่ที่เจียงเฉิงด้วย เสิ่นหยินอู้ก็ชะงักไปหลังจากนั้นไม่กี่วินาที เธอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ช่วงนี้มีเรื่องบังเอิญมากเกินไปแล้วก่อนมาที่นี่ เธอคิดว่าเจียงเฉิงเป็นเมืองที่เงียบสงบ หากเธอเปิดบริษัทของตัวเองที่นี่ก็คงไม่เจอคนที่เป็นศัตรูมากนักใครจะไปรู้...เมื่อนึกถึงใครบางคน เสิ่นหยินอู้ก็วางโทรศัพท์ลงช่าบเถอะ แล้วถ้าเจอแล้วมันจะทำไมล่ะ? เจียงเฉิงใหญ่ขนาดนี้ เธอต้องการเปิดบริษัทเพื่อหาเลี้ยงชีพ ตอนนี้เขามาลงทุนในบริษัทของเธอ ในท้ายที่สุดก็ยังคงต้องติดต่อกันอยู่ มันก็แค่นั้นก็แค่ทำให้เป็นเหมือนหุ้นส่วนทั่วๆไปก็โอเคแล้วอย่างไรก็ตาม แม้จะคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้กลับนอนไม่หลับในคืนนั้นเธอพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง เธอคิดถึงแต่คำพูดเหล่านั้นที่คุณหมอและหลี่มู่ถิงพูดกับเธอเขาเป็นโรคกระเพาะที่รุนแรงแท้ๆ แต่เขาสามารถเลื่อนการกินยาไปได้ตลอดเวลา ช่างน่าตลกเสียจริง ผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ไม่ใส่ใจกับร่างกายของตัวเองเช่นนี้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปในระยะยาวแล้วมีอะไรเกิดขึ้น เขาคงจะรู้ตัวดีแต่เขายังคงทำเช่นนี้ งั้นก็หมายความว่าเขาได้ตัดสินใจที่จะรับผลที
Read more

บทที่ 494

แต่เนื่องจากรถสีขาวขับมาเร็วเกินไป จึงเฉี่ยวเข้าที่ท้ายรถสีดำโดยไม่ได้ตั้งใจ แม้ว่าจะเป็นเพียงการเฉี่ยวกันเล็กๆน้อยๆ แต่เสิ่นหยินอู้ก็รู้ว่าปัญหากำลังจะเริ่มต้นอีกครั้ง อย่างที่คิด หลังจากที่รถชนกัน ทั้งสองฝ่ายต่างก็เปิดประตูลงมาจากรถ และเริ่มโต้เถียงกันเรื่องที่จอดรถและการเฉี่ยวชนกัน เธอคุ้นชินกับเรื่องแบบนี้มานานแล้ว จึงส่ายหัวแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน โดยปกติแล้วเธอเป็นเพียงคนเดียวที่ใช้ลิฟต์ แต่วันนี้กลับมีคนหลายคนรอลิฟต์อยู่ หนึ่งในนั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่งซึ่งสวมแว่นตามีหน้าตาที่อ่อนโยนและสะอาดสะอ้าน เมื่อเห็นว่าเธอหน้าตาสวยงาม บุคลิกดูมีเอกลักษณ์ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเป็นฝ่ายริเริ่มทักทายเธอก่อน “สวัสดีครับ คุณก็มาสมัครงานด้วยเหรอครับ?” เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็อึ้งไปเล็กน้อย “คุณกำลังคุยกับฉันอยู่เหรอคะ?” “ใช่ครับ” ผู้ชายสวมแว่นตาพยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่บริสุทธิ์: “คุณสวยจังครับ” นี่เป็นครั้งแรกที่เสิ่นหยินอู้ได้ยินคำชมที่ตรงไปตรงมาเช่นนี้ในประเทศจีน อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายพูดด้วยความจริงใจมาก ไม่ได้ดูน่ารังเกียจเลย เสิ่นหยินอู้ยกมุมปากขึ้นแล้วพูดว่า "ขอบคุณค่ะ
Read more

บทที่ 495

ก็ถูกเสิ่นหยินอู้ไม่สามารถปฏิเสธเรื่องนี้ได้ จากนั้นเธอก็นึกถึงคนที่ตอนนี้ยังคงนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล แต่ทันใดนั้น ความคิดที่คลุมเครือนี้ก็ถูกเสิ่นหยินอู้โยนทิ้งไป เธอไม่สามารถคิดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับเขาได้อีก จะทนมาเป็นเวลาห้าปี แล้วพอกลับประเทศก็ถูกเขาทำให้ความคิดเธอยุ่งเหยิงไม่ได้ เธอต้องเดินไปตามทางของเธอเอง เมื่อโทรศัพท์ดังขึ้น เสิ่นหยินอู้ก็หยิบมันออกมาดู “ฟู่ถิงสือน่ะ” “ประธานฟู่? ทำไมเขาถึงต้องโทรหาคุณ? คงไม่ใช่ว่าเขาคิดที่จะ....” “ไม่หรอก รับก่อนแล้วกัน” อู๋อี้ไห่พยักหน้าและเดินออกไปอย่างรู้งาน “ประธานฟู่หรอ?” หลังจากออกจากบริษัทของเขาในวันนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ไม่ได้คุยกับเขาอีก หลังจากได้รู้ว่าเขาจะไม่ลงทุนในบริษัทของเธออีก เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปเสียเวลาอีก อย่างไรก็ตาม เธอต้องการเติบโตที่เจียงเฉิง เธอจึงไม่ต้องการที่จะเป็นศัตรูกับฟู่ถิงสือ “คุณหนูเสิ่น ช่วงนี้บริษัทของคุณเป็นยังไงบ้างครับ? เรื่องในวันนั้น ผมขอโทษนะครับ” "ไม่เป็นไรคะ" “คือว่า ถึงผมจะไม่สามารถลงทุนกับบริษัทของคุณได้ แต่ถ้ามีความจำเป็น ผมสา
Read more

บทที่ 496

“คุณหมอ ขอโทษจริงๆครับ ถ้าประธานฉินฟื้นแล้ว ผมจะไปอธิบายกับเขาให้ชัดเจนเองครับ” คุณหมอโกรธมากกับการที่ฉินเย่ไม่สนใจในชีวิตของตัวเองจนไม่รู้ว่าควรจะพูดเช่นไรดี “ถ้าอยากตายมากนักก็ไม่ควรมาโรงพยาบาล แล้วก็ไม่ควรมาหาผมด้วย” เมื่อถูกคุณหมอตำหนิ ผู้ช่วยหลี่จึงไม่กล้าพูดอะไร ทำได้เพียงคิดตามอย่างว่างเปล่า เสิ่นหยินอู้เฝ้ามองอยู่จากด้านข้าง สามารถเห็นได้ชัดจากปฏิกิริยาของคุณหมอว่าอาการในครั้งนี้ของฉินเย่นั้นรุนแรงเป็นพิเศษ หลังจากนั้นคุณหมอก็พูดบางอย่างกับผู้ช่วยหลี่ จากนั้นก็สะบัดมือแล้วเดินจากไป ผู้ช่วยหลี่รู้สึกหดหู่เหมือนกับลูกสุนัขที่ถูกทอดทิ้ง เขาพิงกำแพงและก้มหน้าลง สีหน้าดูเศร้าหมองเป็นมาก หลังจากเงียบไปเนิ่นนาน เสิ่นหยินอู้ก็เดินก้าวเข้าไปหาเขา เมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว หลี่มู่ถิงก็เงยหน้าขึ้น เสิ่นหยินอู้ก็ตระหนักได้ว่าเขาที่เป็นผู้ใหญ่กลับมีดวงตาที่แดงก่ำ ก็ไม่รู้ว่าที่ตาเขาแดงก่ำนั้นเป็นเพราะคำพูดที่รุนแรงของคุณหมอหรือเป็นเพราะเขาเป็นห่วงฉินเย่ เมื่อเห็นเธอ หลี่มู่ถิงก็มีปฏิกิริยา จากนั้นก็หันหลังกลับอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ไม่พูดอะไร
Read more

บทที่ 497

เนื่องจากหลี่มู่ถิงกำลังคิดบางอย่างอยู่ เขาจึงไม่ได้สังเกตเห็นถึงจุดที่ผิดปกติของเสิ่นหยินอู้ เขาเพียงรับรู้ได้ว่าฝีเท้าของเธอหยุดลง เขาจึงหยุดเดินแล้วอธิบายว่า: "ผมหมายความว่า ก่อนที่คุณนายฉินจะเสียชีวิต จริงๆแล้วอาการของประธานฉินก็ดีกว่านี้หน่อย แม้ว่าเขาจะดื่มบ้าง แต่ทุกครั้งก่อนที่จะไปพบคุณนายฉิน เขาจะควบคุมตัวเองไว้และไม่ดื่มเป็นการชั่วคราว เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คุณนายฉินได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากร่างกายของเขา แต่ตั้งแต่คุณนายฉินจากไปก็ไม่มีใครสามารถหยุดประธานฉินได้อีกเลย” หลี่มู่ถิงพูดออกมายาวมาก แต่เสิ่นหยินอู้เพียงมองเห็นเพียงริมฝีปากของเขาขยับไปมา เธอกลับไม่ได้ยินคำพูดใดๆเลย ในทันใดนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ไม่ได้ยินเสียงทั้งหมดที่อยู่รอบๆ ราวกับว่าหูของเธอถูกปกคลุมไปด้วยไอน้ำ เธอไม่ได้ยินอะไรเลย ความชัดเจนที่อยู่ตรงหน้าเธอก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ ในตอนแรกเธอยังคงเห็นริมฝีปากของหลี่มู่ถิงขยับอยู่ แต่แล้วมันก็เลือนลาง แล้วก็มองไม่เห็นอะไรเลย “ก่อนหน้านี้ คุณหนูเจียงก็มาเกลี้ยกล่อมประธานฉิน แต่นั่นก็เปล่าประโยชน์ ประธานฉินไม่ฟังเธอเลย และเขาก็ไม่อยากแม้แต่จะเจอหน้าเธอด้วยซ้ำ แต่กับคุณหน
Read more

บทที่ 498

“ถ้าไม่เป็นไรแล้วทำไมถึงเป็นลม? ช่วยพยุงผมขึ้นที” ฉินเย่กัดฟันและออกแรงไปยังมือที่หลี่มู่ถิงกดเขาไว้ หลี่มู่ถิงรู้สึกได้ถึงแรงของเขา ในที่สุดก็ทำได้เพียงปล่อยมือที่กดฉินเย่ไว้และช่วยพยุงเขาให้ลุกขึ้น หลังจากนั้น เขาได้ตรวจดูบาดแผลที่อยู่บนมือของฉินเย่ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีปัญหาแล้ว เขาก็ช่วยพยุงฉินเย่เดินไปที่เตียงผู้ป่วยของเสิ่นหยินอู้พร้อมกับขวดน้ำเกลือในมือ เสิ่นหยินอู้ที่นอนสลบอยู่มีสีหน้าขาวซีด แม้แต่ริมฝีปากที่ปกติมีสีแดงสดของเธอก็ซีดเผือก เธอนอนอยู่ตรงนั้นอย่างอิดโรยและตัวซีดมาก เสิ่นหยินอู้ที่เป็นเช่นนี้ทำให้ฉินเย่รู้สึกราวกับว่ามีบางอย่างทิ่มแทงเข้าไปที่หัวใจของเขา เขาขยับริมฝีปากบางแล้วถามว่า "เกิดอะไรขึ้น?" หลี่มู่ถิงก็มีความสับสนเล็กน้อยเช่นกัน “ผะ ผมก็ไม่แน่ใจ ผมบอกคุณหนูเสิ่นไปว่าคุณอาเจียนเป็นเลือด แล้วเธอก็มาที่โรงพยาบาล หลังจากที่เธอมาถึง ผมก็ยังเห็นว่าสีหน้าของเธอดูสบายดีและไม่ได้มีอะไรผิดปกติ ใครจะรู้ว่าจู่ๆเธอก็จะเป็นลมไป" “หมอบอกว่ายังไงบ้าง?” “คุณหมอบอกว่าเหมือนเธอจะมีอาการช็อค การทำงานของร่างกายไม่ได้มีปัญหาอะไร ตอนนี้ทำได้แค่สังเกตดูอาการและให้เ
Read more

บทที่ 499

“ขะ ขอโทษด้วยครับประธานฉิน ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรมากเพราะจู่ๆคุณหนูเสิ่นก็ถามผมเกี่ยวกับอาการของคุณ ผมคิดว่าเธอเป็นห่วงคุณ ก็เลยบอกเรื่องอาการของคุณไป ผมไม่ได้คิดอย่างอื่นเลย" ลมหายใจของฉินเย่ถี่มาก ความโกรธเคืองในดวงตาของเขารุนแรงมากจนแทบจะจับหลี่มู่ถิงพลิกลงกับพื้น แต่ในท้ายที่สุดเขาก็ควบคุมตัวเองไว้ อาจเป็นเพราะเขากลัวว่าการกระทำที่เสียงดังอาจส่งผลต่อเสิ่นหยินอู้ที่กำลังนอนหมดสติอยู่ เขาปล่อยหลี่มู่ถิง ระงับความโกรธแล้วพูดว่า: "ไสหัวออกไป" หลี่มู่ถิงต้องการออกไป แต่ก็ทำไม่ได้ เพียงพูดอย่างน้อยใจว่า: "ขวดน้ำเกลือนี่ ... " ทันทีที่เขาพูดจบ ฉินเย่ทำท่าที่ว่าจะเอาเข็มออก เมื่อเห็นเช่นนั้น หลี่มู่ถิงก็รีบไปขวางตรงหน้าเขาที่กำลังพยายามเอาเข็มออกแล้วพูดว่า "ประธานฉิน คุณอยากให้คุณหนูเสิ่นที่อยู่ในอาการช็อกตื่นขึ้นมาแล้วเป็นห่วงคุณอีกงั้นหรอ?" หลังจากได้ยิน มือที่ขยับอยู่ของฉินเย่ก็หยุดเคลื่อนไหว “เดิมทีแล้ว คุณหนูเสิ่นไม่ได้อยากจะสนใจคุณ แต่เธอมาที่นี่หลังจากได้ยินว่าคุณอาเจียนเป็นเลือด แล้วทำไมคุณไม่ทำตัวให้ดีๆอีก?” ขณะที่เขาพูด ความกล้าของหลี่มู่ถิงก็ค่อยๆเพิ่มมากขึ้น "
Read more

บทที่ 500

เพราะหย่ากับเขาไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้ถือว่าคุณย่าเป็นครอบครังของเธออีก? ถ้าเป็นเช่นนั้น มันก็คงจะดีกว่า ถ้าไม่สนใจ ก็จะไม่เสียใจ แต่ต่อมาเมื่อเธอไปโรงแรม เธอก็ถามถึงเรื่องของคุณย่าอีกครั้ง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฉินเย่ก็รู้ว่าเธอแค่ปากแข็งกับเรื่องของคุณย่าเท่านั้น เธอเป็นลมทันทีที่ได้ยินเรื่องของคุณย่า ฉินเย่ไม่กล้าจินตนาการเลยว่าเธอจะเป็นอย่างไรเมื่อเธอตื่นขึ้นมา ตอนนี้เธอนอนสลบอยู่และไม่รับรู้อะไร แต่หลังจากเธอตื่นขึ้นมาล่ะ? เมื่อคิดเช่นนั้น ฉินเย่ก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือของเขาออกไปกุมข้อมือของเธอเบาๆ เวลาผ่านไปทีละวินาที ฉินเย่และหลี่มู่ถิงเฝ้าอยู่แบบนั้นในห้องผู้ป่วย ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าของเสิ่นหยินอู้ก็ดังขึ้น หลี่มู่ถิงลุกขึ้นยืนไปหยิบกระเป๋าของเสิ่นหยินอู้มาให้ฉินเย่ เมื่อเห็นว่ามือของฉินเย่ไม่ว่าง เขาจึงรูดซิปเปิดอย่างระมัดระวังและหยิบโทรศัพท์ออกมา ฉินเย่มองดูหมายเลขที่โทรมา จากนั้นใบหน้าของก็บึ้งตึง โม่ไป๋“ถ้าคุณหนูเสิ่นไม่ได้เป็นลมนอนอยู่ที่โรงพยาบาล นี่ก็เป็นเวลาเลิกงานแล้วและเธอคงจะต้องกลับบ้านแล้ว น่าจะเป็นคนในคร
Read more
PREV
1
...
4849505152
...
60
DMCA.com Protection Status