บททั้งหมดของ คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง: บทที่ 481 - บทที่ 490

594

บทที่ 481

หนึ่งชั่วโมงต่อมาคุณหมอยื่นใบแจ้งผลฉบับหนึ่งให้กับเสิ่นหยินอู้“เขาเป็นโรคกระเพาะขั้นรุนแรง ถึงสาเหตุหลักที่ทำให้เขาเป็นลมจะมาจากโรคกระเพาะ แต่สาเหตุที่สารอาหารไม่เพียงพอ เครียดมากเกินไปก็เป็นผลด้วย”เสิ่นหยินอู้รับใบแจ้งผลมาจากหมอไม่อยากเชื่อเลยว่าคำว่าสารอาหารไม่เพียงพอ และเครียดมากเกินไปพรรค์นี้จะใช้กับตัวฉินเย่เพราะในความทรงจำของเธอ ฉินเย่เป็นคนที่ทำได้ทุกอย่างมาโดยตลอดอีกอย่าง ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เจ็บไข้ได้ป่วยเลยด้วยเสิ่นหยินอู้มองไปที่ห้องผู้ป่วย แล้วถามคุณหมอว่า “แล้วเขาต้องทำยังไงต่อคะ? ต้องแอดมิดหรือว่า?”“สถานการณ์ของคนไข้ตอนนี้ หมอแนะนำให้แอดมิดดูอาการสักพักหนึ่งก่อน ไม่อย่างนั้นขืนปล่อยไว้นาน อาการป่วยจะยิ่งร้ายแรงขึ้น”“ถ้างั้นโรคกระเพาะของเขาเป็นแบบนี้ได้ยังไงเหรอคะ?”“คนคนนี้ คนไข้คนนี้ทานอาหารไม่ตรงเวลา ดื่มเหล้า ก็อาจทำร้ายกระเพาะด้วยก็ได้ คืออย่างนี้ แฟนของคุณดื่มเหล้าไหม?”คำว่าแฟน ทำให้เสิ่นหยินอู้ขมวดคิ้วมุ่นอยากจะอธิบาย แต่คิดไปคิดมาก็ไม่มีประโยชน์ เธอจึงพยักหน้า“ค่ะ เขาดื่มหนักมาก”ถึงแม้เธอจะไม่เห็นเองกับตาแต่ฟังจากที่เฉียวลี่ซือพูดว่าหล่อนเ
Read More

บทที่ 482

เพียงแต่ เขาทำให้ตัวเองเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน?ตอนนี้ เสิ่นหยินอู้เข้าใจแล้วว่าทำไมตอนอยู่ที่โรงแรม ฉินเย่ถึงได้ไม่อยากสาธยายกับตนขนาดนั้นตอนนั้นเขาคงฝืนทนถึงที่สุดแล้วสินะ?เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้พลันถอนหายใจ แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาอู๋อี้ไห่อู๋อี้ไห่รับสายเธอ แล้วถามอย่างระมัดระวังว่า “บอสครับ ทำไมคุณยังไม่กลับมาอีกล่ะครับ? พวกคุณ…ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับพวกคุณใช่ไหมครับ?”“ไม่มี แต่ว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงพยาบาล…”“อะไรนะ?” อู๋อี้ไห่ตกใจ “ทำไมถึงอยู่ที่โรงพยาบาลได้ล่ะครับ? บอสครับ ถึงคุณกับประธานฉินจะเคยมีความสัมพันธ์ด้วยกันมาก่อน แต่ก็ไม่ควรมีเรื่องใหญ่ขนาดนี้สิครับ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับบอส?”“…”เมื่ออีกฝ่ายพูดจบ เสิ่นหยินอู้ถึงได้พูดขึ้นอย่างหมดหนทางว่า “นายช่วยฟังฉันพูดให้จบก่อนได้ไหม?”“ได้ครับๆ บอสพูดมาได้เลยครับ”เมื่อได้ยินว่าเธออยู่ที่โรงพยาบาล อู๋อี้ไห่ก็เป็นห่วงมาก กลัวว่าถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ จะทำให้เสียนักลงทุนไป ถึงตอนนั้นบริษัทจะยิ่งแย่กว่าช่วงที่ยังไม่มีคนลงทุนเสียอีก“เราไม่ได้มีเรื่องอะไรกันหรอก แต่ว่าฉินเย่เป็นลมน่ะ ฉันก็เลยพาเขามาโรงพยาบ
Read More

บทที่ 483

เมื่อหลี่มู่ถิงมาถึงโรงพยาบาล เขาก็เห็นเสิ่นหยินอู้ยืนรอเขาอยู่หน้าประตูห้องผู้ป่วยจากที่ไกลทันทีที่เห็นเสิ่นหยินอู้ หลี่มู่ถิงก็นึกถึงการสัมผัสจากปลายนิ้วอย่างไม่ทันระวังก่อนหน้านี้ แล้วมองไปที่ใบหน้าฟ้าประทานของเสิ่นหยินอู้อีกที เขาก็รู้สึกเขินอายขึ้นมาอีกครั้งดังนั้น เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้ สิ่งที่เสิ่นหยินอู้เห็น คือหลี่มู่ถิงที่หน้าหูแดงไปหมดเธอเองก็ไม่ได้คิดมากอะไร เพียงแค่คิดซะว่าหลี่มู่ถิงฝ่าอากาศหนาวมาเท่านั้น แล้วเดินเข้าไปมอบโทรศัพท์กับกระเป๋าเงิน คีย์การ์ดห้องต่างๆ ให้กับหลี่มู่ถิง“ของพวกนี้เป็นของประธานฉินของคุณทั้งหมด”หลี่มู่ถิงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพียงแค่รับของมาตามจำนวนที่เธอยื่นให้สุดท้ายเมื่อเห็นมือที่ว่างเปล่าของเสิ่นหยินอู้ เขาถึงจะเข้าใจบางอย่าง“คุณเสิ่นจะไปแล้วเหรอครับ?”เสิ่นหยินอู้พยักหน้า“ใช่ค่ะ ไหนๆ คุณก็มาแล้ว ฉันก็ควรจะไป”“หา?” หลี่มู่ถิงรู้สึกผิดในทันทีที่ตนเร่งเดินทางมาที่นี่ ถ้าหากฉินเย่รู้ว่าเสิ่นหยินอู้กลับไปเพราะตนล่ะก็ เขาต้องไล่ตนแน่ๆเมื่อนึกถึงตรงนี้ หลี่มู่ถิงก็รีบเอ่ยรั้งว่า “คุณเสิ่นอย่าเพิ่งไปได้ไหมครับ? ผมเองก็เพิ่งมาถึงยั
Read More

บทที่ 484

เมื่อได้ยินว่าต้องแอดมิดโรงพยาบาล ฉินเย่ก็ขมวดคิ้ว "ไม่แอดมิด" “ประธานฉิน ฟังผมแล้วแอดมิดเถอะ ถ้าคุณรู้สึกว่าสภาพแวดล้อมที่นี่ไม่ดี เดี๋ยวผมจะทำเรื่องย้ายคุณไปยังห้องที่สภาพแวดล้อมดีกว่านี้ให้ทันที” เมื่อพูดจบ ก็พบว่าฉินเย่กำลังมองเขาอย่างเย็นชา หลี่มู่ถิงเงียบไปโดยอัตโนมัติ หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กระซิบเบาๆ ว่า "ผมรู้ว่าคุณคิดว่าอาการป่วยของคุณไม่ได้เป็นอะไร แต่วันนี้คุณหมดสติไปต่อหน้าคุณเสิ่น คุณไม่รู้สึกเสียหน้าเลยเหรอ?" ฉินเย่ซึ่งแต่เดิมมีสีหน้าเย็นชา เปลี่ยนสีหน้าไปในทันทีหลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูด “นายพูดอะไรนะ?” ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เฉียบคมขึ้น "หมดสติต่อหน้าใครนะ?" หลี่มู่ถิงรู้สึกหวาดกลัวกับออร่าที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา แล้วพูดตะกุกตะกัก "คุณ…คุณเสิ่นครับ" ฉินเย่ถามโดยไม่รู้ตัว “หล่อนยังไม่กลับไปเหรอ?”ตอนนั้นก็บอกให้เธอกลับไปแล้วไง ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมองดูหล่อนเดินกลับไปด้วยซ้ำ แล้วหล่อนย้อนกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่? หลี่มู่ถิงไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจว่าฉินเย่พูดอะไร “หมายความว่าอะไรประธานฉิน?” “นายไม่ได้เป็นคนส่งฉันมาโรงพ
Read More

บทที่ 485

เธอเป็นห่วงตนเรื่องนี้ ทำให้ฉินเย่มั่นใจอย่างถ่องแท้ถึงแม้ภายนอกเธอจะไร้ความรู้สึก และพูดจาทำร้ายจิตใจมากมายแต่…เธอเดินกลับมาอีกแล้วแถมยังพาตนมาโรงพยาบาล และรอเฝ้าอยู่ที่นี่จนหลี่มู่ถิงมาถึงด้วยนั่นหมายความว่าอย่างไร?หมายความว่าเธอเป็นห่วงตน และกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตนในเมื่อเธอยังเป็นห่วงตนอยู่ ถ้างั้นก็แสดงว่าเขายังมีโอกาส ยังมีหวังอยู่ตอนแรกไม่อยากให้เธอรู้อาการป่วยของตนด้วยซ้ำแต่ตอนนี้เพราะอาการป่วย ทำให้เขารู้บางอย่างเข้าโดยบังเอิญ ถ้าอย่างนั้นเขาจะไม่ใช่ประโยชน์จากมันสักหน่อยได้ยังไง?หลี่มู่ถิงคุยโทรศัพท์อยู่ข้างนอกความจริงเขาไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของเสิ่นหยินอู้หรอก แต่ว่าในฐานะที่เป็นผู้ช่วยอันดับหนึ่งแล้ว เขาจึงโทรหาอู๋อี้ไห่ แล้วขอเบอร์เสิ่นหยินอู้จากเขาอู๋อี้ไห่ไม่พูดพร่ำแล้วส่งเบอร์โทรศัพท์ให้เขาทันที“เพื่อนรัก ไว้จะเลี้ยงกับข้าวนะ”หลังจากได้รับเบอร์โทรศัพท์มาแล้ว หลี่มู่ถิงก็รีบโทรหาเสิ่นหยินอู้ทันทีเสิ่นหยินอู้เพิ่งเรียกรถได้ เพราะอยู่ในช่วงเวลาเลิกงาน ก็เลยต้องใช้เวลารอรถนานพอควร ขณะที่เตรียมตัวจะกลับนั้น ก็มีสายเรียกเข้าดังขึ้น“ฮัลโหล?”“ค
Read More

บทที่ 486

หลี่มู่ถิงอึ้งอยู่ไม่กี่วินาที แล้วรีบพุ่งเข้าไป“ประธานฉิน!”-ห้านาทีต่อมาฉินเย่เดินกลับไปนั่งบนเตียงผู้ป่วยด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ข้างๆ เป็นพยาบาลที่ทำหน้าหมดคำพูด“จริงๆ เลย ป่วยขนาดนี้แล้วยังจะไม่เชื่อฟังอีก ฉีดน้ำเกลืออยู่ดีๆ ก็ไปดึงออกอีก เลือดไหลเยอะขนาดนั้นเจ็บไหมเนี่ย?”“ขอโทษครับๆ” หลี่มู่ถิงทำได้เพียงกล่าวขอโทษแทนฉินเย่อยู่ข้างๆ “ขอโทษนะครับ รบกวนคุณแล้ว”พยาบาลมองฉินเย่ที่นั่งไร้ชีวิตชีวาอยู่ตรงนั้นพลางกล่าวว่า “ห้ามดึงเข็มอีกนะ วันๆ ที่โรงพยาบาลก็ยุ่งมากแล้ว พวกคุณอย่าก่อเรื่องอีก”กล่าวจบ ก็เดินบิดเอวออกไปทันทีหลังจากที่เธอออกไปแล้ว ในห้องผู้ป่วยก็เงียบลงเพราะเหตุการณ์นั้น ทำให้ทั้งคุณปู่และเด็กน้อยในห้องผู้ป่วยต่างก็มองมาด้วย“แม่ครับ เมื่อกี้พี่ชายคนนั้นเลือดออกเยอะมากเลย”เด็กน้อยซบอกผู้เป็นแม่ของตน แล้วชี้กล่าวไปยังฉินเย่แม่ของเด็กน้อยอดเด็กน้อยแน่น “เพราะเขาไม่เชื่อฟัง ไม่เป็นเด็กดี ดึงเข็มเอง เลือดก็เลยไหล จวิ้นจวิ้นของเราเป็นเด็กดี ก็จะไม่เป็นเหมือนเขานะ”“ครับ หม่ามี๊วางใจได้ จวิ้นจวิ้นจะเป็นเด็กดีแน่นอน”หลี่มู่ถิงเกาศีรษะอย่างเก้อเขิน จากนั้นพูดต่
Read More

บทที่ 487

เสิ่นหยินอู้คัดค้าน “ฉันไม่ได้ไม่อยาก แต่ฉันกำลังทำงาน บริษัทต้องดำเนินต่อไป และต้องใช้เงินทุนด้วย ก่อนหน้านี้ผู้จัดการอู๋เคยเป็นพนักงานจัดการของบริษัทใหญ่มาก่อน ฉินซื่อก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดจริงๆ อีกอย่าง ฉันปลงแล้ว ไม่ใส่ใจแล้ว ก็แค่ร่วมงานกันจะเป็นอะไรไป? ฉันไม่ได้รับผลกระทบสักหน่อย จะให้ฉันทำงานในเมืองเจียงเฉิง แล้วหนีทุกครั้งที่เจอเขาเลยหรือไง?”“เหรอ? เธอแน่ใจเหรอว่าไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย?”“ฉันมั่นใจ”“โอเค ถ้างั้นเธอตกลงกับฉัน”เสิ่นหยินอู้ “อะไร?”“ตกลงคบกับฉัน”เป็นครั้งแรกที่บนใบหน้ารูปหล่อของโม่ไป๋ไม่มีรอยยิ้มและความอบอุ่นเสิ่นหยินอู้มองเขานิ่งๆไม่คิดเลยว่าจู่ๆ เขาจะบังคับถึงขนาดนี้“นาย…”“ไหนว่าไม่ได้รับผลกระทบเลยไง? ตอนอยู่บนรถก่อนหน้านี้ ก่อนที่ผู้จัดการอู๋จะโทรมา เธอตั้งใจจะพูดอะไรกับฉัน?” โม่ไป๋จ้องเธอเขม็ง “เธอบอกว่าไม่ได้รับผลกระทบ ถ้างั้นตอนนี้เธอบอกฉันมาว่าความคิดของเธอเปลี่ยนไปไหม ถ้าเทียบกับตอนนั้น?”เสิ่นหยินอู้เงียบเพราะเธอพบว่าตัวเองไม่สามารถคัดค้านได้เลยความคิดหนึ่งเกิดขึ้น ความคิดหนึ่งหายไปตอนนั้นเธอจะตอบโม่ไป๋ว่า ถ้าเขายินดี ตนสามารถ
Read More

บทที่ 488

“ได้ สามวัน”เมื่อได้รับคำตอบที่ต้องการ โม่ไป๋จึงยอมปล่อยเธอไปในที่สุด จากนั้นเขาก็กลับมายิ้มอย่างปกติอีกครั้ง“ดูเหมือนเธอมีเรื่องจะคุยกับผู้จัดการอู๋ งั้นฉันไปเรียกเขาเข้ามาละกัน”พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินออกไปทันทีที่เขาออกไป เสิ่นหยินอู้ที่ตึงเครียดมาตลอดก็รู้สึกผ่อนคลายลงทันที เธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเหมือนกับปลาที่เกือบตายบนฝั่ง แต่เมื่อได้กลับลงน้ำก็สามารถหายใจได้ตามปกติเสิ่นหยินอู้พิงตัวลงบนโซฟา เธอหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้าโม่ไป๋...เปลี่ยนไปมากจริง ๆก่อนหน้านี้เธอเคยคิดว่า เขาเป็นผู้ชายที่สุภาพและเข้าถึงง่ายมาโดยตลอดแต่วันนี้เขากลับดูแข็งกร้าวขึ้นมา ทำให้เธอรู้สึกว่าถ้าเธอไม่ยอมตอบตกลง เขาก็คงไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ แน่เสียงจากข้างนอกดังขึ้น อู๋อี้ไห่เดินเข้ามา“ประธาน?”หลังจากที่อู๋อี้ไห่เข้ามา เขาก็แอบชำเลืองมองออกไปที่นอกประตูเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างกับเสิ่นหยินอู้แต่ก็กลัวว่าจะมีมาคนได้ยิน เลยรีบวิ่งสับๆออกไปนอกประตูอย่างรวดเร็วเมื่อแน่ใจว่าโม่ไป๋ไม่อยู่แล้ว เขาถึงปิดประตูแล้วเดินเข้ามาหาเสิ่นหยินอู้อย่างลับๆล่อๆ“ประธาน คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”เสิ่นหยินอู
Read More

บทที่ 489

ค่ำคืนที่เงียบสงบราวกับสายน้ำณ โรงพยาบาลหลี่มู่ถิงนั่งอยู่ข้างเตียงคนไข้ จ้องมองอาหารหลายจานบนโต๊ะด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จากนั้นเขาก็หันไปมองฉินเย่ที่ไม่ยอมกินอะไรเลยพลันถอนหายใจว่า “ประธานฉิน นี่ก็ผ่านมาทั้งวันแล้ว คุณควรจะกินอะไรบ้างนะ?”แต่ฉินเย่กลับใส่หูใส่ฟังบลูทูธ เขานั่งพิงตัวลงหัวเตียงแล้วมองจอโทรศัพท์มือถืออย่างเงียบๆหลี่มู่ถิงยื่นหน้าเข้าไปดูพบว่าบนจอโทรศัพท์มือถือ ปรากฏภาพเด็กน้อยสองคนกำลังไลฟ์สดเขารู้สึกพูดไม่ออก นี่ถึงขั้นยอมดูเด็กน้อยไลฟ์สดแต่ไม่ยอมกินข้าวเนี่ยนะ หลี่มู่ถิงมองจอมือถือด้วยความรู้สึกชาด้านแล้วก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมาถ้าเขาไปสมัครบัญชีปลอมแล้วส่งข้อความถึงเด็กน้อยสองคนนี้ บอกว่าเพื่อนเขาคนหนึ่งชอบดูไลฟ์สดของพวกเขามาก แต่ตอนนี้เพื่อนคนนั้นป่วยหนักและไม่ยอมกินข้าวหรือรับการรักษาใดๆ ขอให้เด็กน้อยทั้งสองคนช่วยพูดเกลี่ยกล่อมหน่อย จะมีประโยชน์หรือเปล่านะ?เขารู้สึกว่าน่าจะมีประโยชน์อยู่บ้าง ถ้าเด็กสองคนนี้พูดในดูไลฟ์สดว่าอยากให้เพื่อนคนนี้กินข้าวเยอะๆ ฉินเย่อาจจะยอมฟังก็ได้?คิดได้เช่นนั้น หลี่มู่ถิงก็แอบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและเริ่มลงมือทันทีเพร
Read More

บทที่ 490

“ขอให้หายไวๆ นะครับ!”ทุกคนที่อยู่ในห้องไลฟ์สดต่างเป็นคนดีเสิ่นซือเหนียนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าน่ารักและละเอียดอ่อนจ่อเข้าไปใกล้กล้องจนเต็มหน้าจอ“โอ๊ย!”หลี่มู่ถิงที่ถือโทรศัพท์อยู่ถึงกับอุทานออกมาอย่างอดไม่ได้ เขามองใบหน้าน้อยๆ ที่จ่อกล้องด้วยความตกตะลึงไม่รู้ว่าเขารู้สึกไปเองหรือเปล่า เขากลับคิดว่าใบหน้าน้อยๆ นี้คือฉินเย่ในเวอร์ชันย่อส่วน!จากนั้น หลี่มู่ถิงก็เงยหน้ามองฉินเย่แล้วก้มหน้ามองเสิ่นซือเหนียนในโทรศัพท์สลับกันไปมายิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจจนในที่สุด เขาก็พูดไม่ออกเมื่อก่อนเขารู้แค่ว่าฉินเย่ชอบดูไลฟ์สดของเด็กน้อยสองคนนี้ และรู้ว่าเด็กน้อยสองคนนี้หน้าตาคล้ายฉินเย่มาก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นภาพระยะใกล้ของเจ้าหนู ดวงตา คิ้ว และใบหน้าที่ละเอียดอ่อน แม้จะยังดูไร้เดียงสา แต่กลับเริ่มแสดงออกถึงความเยือกเย็นและสุขุมที่คล้ายคลึงกับฉินเย่อย่างมากก่อนหน้านี้เด็กบางคนที่ถูกพาไปทำศัลยกรรม แม้จะเป็นเรื่องที่น่าเศร้า แต่ใบหน้าของเด็กเหล่านั้นที่ผ่านการทำศัลยกรรมมาแล้วมักจะมองออกได้ทันทีว่ามีบางอย่างที่ไม่ปกติกับเจ้าหนูคนนี้แล้ว พอมองใกล้ๆ สิ่งที่เห็นคือผิว
Read More
ก่อนหน้า
1
...
4748495051
...
60
DMCA.com Protection Status