Share

บทที่ 498

Penulis: ลั่วหูโยว
“ถ้าไม่เป็นไรแล้วทำไมถึงเป็นลม? ช่วยพยุงผมขึ้นที”

ฉินเย่กัดฟันและออกแรงไปยังมือที่หลี่มู่ถิงกดเขาไว้

หลี่มู่ถิงรู้สึกได้ถึงแรงของเขา ในที่สุดก็ทำได้เพียงปล่อยมือที่กดฉินเย่ไว้และช่วยพยุงเขาให้ลุกขึ้น

หลังจากนั้น เขาได้ตรวจดูบาดแผลที่อยู่บนมือของฉินเย่ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีปัญหาแล้ว เขาก็ช่วยพยุงฉินเย่เดินไปที่เตียงผู้ป่วยของเสิ่นหยินอู้พร้อมกับขวดน้ำเกลือในมือ

เสิ่นหยินอู้ที่นอนสลบอยู่มีสีหน้าขาวซีด แม้แต่ริมฝีปากที่ปกติมีสีแดงสดของเธอก็ซีดเผือก เธอนอนอยู่ตรงนั้นอย่างอิดโรยและตัวซีดมาก

เสิ่นหยินอู้ที่เป็นเช่นนี้ทำให้ฉินเย่รู้สึกราวกับว่ามีบางอย่างทิ่มแทงเข้าไปที่หัวใจของเขา

เขาขยับริมฝีปากบางแล้วถามว่า "เกิดอะไรขึ้น?"

หลี่มู่ถิงก็มีความสับสนเล็กน้อยเช่นกัน

“ผะ ผมก็ไม่แน่ใจ ผมบอกคุณหนูเสิ่นไปว่าคุณอาเจียนเป็นเลือด แล้วเธอก็มาที่โรงพยาบาล หลังจากที่เธอมาถึง ผมก็ยังเห็นว่าสีหน้าของเธอดูสบายดีและไม่ได้มีอะไรผิดปกติ ใครจะรู้ว่าจู่ๆเธอก็จะเป็นลมไป"

“หมอบอกว่ายังไงบ้าง?”

“คุณหมอบอกว่าเหมือนเธอจะมีอาการช็อค การทำงานของร่างกายไม่ได้มีปัญหาอะไร ตอนนี้ทำได้แค่สังเกตดูอาการและให้เ
Bab Terkunci
Lanjutkan Membaca di GoodNovel
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (2)
goodnovel comment avatar
Ggege
ยังสาละวนเข้าออกรพ.กันอยู่เลย หาลูกยังไม่เจออีกหรอ รอเขาหอบหนีไปอีกรอบไหม
goodnovel comment avatar
Duendara Hengnirun
มีให้อ่านหลายๆตอนเหมือนแรกๆคงดีค่ะ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 499

    “ขะ ขอโทษด้วยครับประธานฉิน ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรมากเพราะจู่ๆคุณหนูเสิ่นก็ถามผมเกี่ยวกับอาการของคุณ ผมคิดว่าเธอเป็นห่วงคุณ ก็เลยบอกเรื่องอาการของคุณไป ผมไม่ได้คิดอย่างอื่นเลย" ลมหายใจของฉินเย่ถี่มาก ความโกรธเคืองในดวงตาของเขารุนแรงมากจนแทบจะจับหลี่มู่ถิงพลิกลงกับพื้น แต่ในท้ายที่สุดเขาก็ควบคุมตัวเองไว้ อาจเป็นเพราะเขากลัวว่าการกระทำที่เสียงดังอาจส่งผลต่อเสิ่นหยินอู้ที่กำลังนอนหมดสติอยู่ เขาปล่อยหลี่มู่ถิง ระงับความโกรธแล้วพูดว่า: "ไสหัวออกไป" หลี่มู่ถิงต้องการออกไป แต่ก็ทำไม่ได้ เพียงพูดอย่างน้อยใจว่า: "ขวดน้ำเกลือนี่ ... " ทันทีที่เขาพูดจบ ฉินเย่ทำท่าที่ว่าจะเอาเข็มออก เมื่อเห็นเช่นนั้น หลี่มู่ถิงก็รีบไปขวางตรงหน้าเขาที่กำลังพยายามเอาเข็มออกแล้วพูดว่า "ประธานฉิน คุณอยากให้คุณหนูเสิ่นที่อยู่ในอาการช็อกตื่นขึ้นมาแล้วเป็นห่วงคุณอีกงั้นหรอ?" หลังจากได้ยิน มือที่ขยับอยู่ของฉินเย่ก็หยุดเคลื่อนไหว “เดิมทีแล้ว คุณหนูเสิ่นไม่ได้อยากจะสนใจคุณ แต่เธอมาที่นี่หลังจากได้ยินว่าคุณอาเจียนเป็นเลือด แล้วทำไมคุณไม่ทำตัวให้ดีๆอีก?” ขณะที่เขาพูด ความกล้าของหลี่มู่ถิงก็ค่อยๆเพิ่มมากขึ้น "

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 500

    เพราะหย่ากับเขาไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้ถือว่าคุณย่าเป็นครอบครังของเธออีก? ถ้าเป็นเช่นนั้น มันก็คงจะดีกว่า ถ้าไม่สนใจ ก็จะไม่เสียใจ แต่ต่อมาเมื่อเธอไปโรงแรม เธอก็ถามถึงเรื่องของคุณย่าอีกครั้ง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฉินเย่ก็รู้ว่าเธอแค่ปากแข็งกับเรื่องของคุณย่าเท่านั้น เธอเป็นลมทันทีที่ได้ยินเรื่องของคุณย่า ฉินเย่ไม่กล้าจินตนาการเลยว่าเธอจะเป็นอย่างไรเมื่อเธอตื่นขึ้นมา ตอนนี้เธอนอนสลบอยู่และไม่รับรู้อะไร แต่หลังจากเธอตื่นขึ้นมาล่ะ? เมื่อคิดเช่นนั้น ฉินเย่ก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือของเขาออกไปกุมข้อมือของเธอเบาๆ เวลาผ่านไปทีละวินาที ฉินเย่และหลี่มู่ถิงเฝ้าอยู่แบบนั้นในห้องผู้ป่วย ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าของเสิ่นหยินอู้ก็ดังขึ้น หลี่มู่ถิงลุกขึ้นยืนไปหยิบกระเป๋าของเสิ่นหยินอู้มาให้ฉินเย่ เมื่อเห็นว่ามือของฉินเย่ไม่ว่าง เขาจึงรูดซิปเปิดอย่างระมัดระวังและหยิบโทรศัพท์ออกมา ฉินเย่มองดูหมายเลขที่โทรมา จากนั้นใบหน้าของก็บึ้งตึง โม่ไป๋“ถ้าคุณหนูเสิ่นไม่ได้เป็นลมนอนอยู่ที่โรงพยาบาล นี่ก็เป็นเวลาเลิกงานแล้วและเธอคงจะต้องกลับบ้านแล้ว น่าจะเป็นคนในคร

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 501

    “สามปีที่แล้วเหรอ?” เมื่อเห็นว่าเขาไม่ตอบ เสิ่นหยินอู้จึงถามอีกครั้ง สายตาของเธอจ้องมองไปที่ใบหน้าของเขา ราวกับว่าเธอจะไม่ยอมจนกว่าเธอจะได้รับคำตอบ แต่สายตาและท่าทางของเธอดูสงบมาก แม้แต่ดวงตาของเธอก็ไม่แดงเลยสักนิด เห็นได้ชัดว่าเธอตกใจมากกับการรู้เรื่องนี้จนหมดสติไป แต่ในตอนนี้เธอไม่มีปฏิกิริยาใดๆ นี่มันปกติเหรอ? นี่มันไม่ปกติ ฉินเย่เม้มริมฝีปาก มองเธออย่างจริงจังแล้วพูดว่า "คุณจะไม่พักผ่อนอีกสักหน่อยเหรอ?" “ฉินเย่” เสิ่นหยินอู้เรียกชื่อเขา "ฉันกำลังถามคุณอยู่นะ" หลังจากนั้นไม่นาน ฉินเย่ก็พยักหน้า "ประมาณนั้น" “ประมาณนั้นเหรอ?” คำตอบนี้ทำให้เสิ่นหยินอู้หัวเราะเยาะออกมาเบาๆ: “แม้แต่คุณย่าของคุณ คุณก็ไม่รู้เหรอว่าท่านเสียไปตั้งแต่เมื่อไร? ประมาณนั้นนี่มันหมายความว่ายังไง?” ฉินเย่ขมวดคิ้ว จู่ๆบรรยากาศก็ตึงเครียดขึ้นมา หลี่มู่ถิงที่นั่งอยู่ที่ด้านหลังก็ดูเหมือนจะถูกทำให้ร่างกายชาไปด้วย เขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ อย่างที่คิด คุณหนูเสิ่นกังวลมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ เธอถึงพูดออกมาเช่นนี้ “ทำไมล่ะ? พูดไม่ออกเหรอ?” เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 502

    “ก่อนที่ท่านจะจากไป ท่านพูดถึงคุณ” คำพูดของฉินเย่ทำให้เสิ่นหยินอู้เงยหน้าขึ้นไปมองเขาในทันที "จริงเหรอ??" ฉินเย่มองเธอ “ท่านคิดถึงคุณมาก” ประโยคเดียวทำให้น้ำตาของเสิ่นหยินอู้ไหลรินออกมาทันที จากนั้นน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสายราวกับก๊อกน้ำที่ถูกเปิด ในที่สุด ภาพนี้ก็ทำให้ฉินเย่ก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกมาและกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา เขากอดเธอไว้แน่น เสียงร้องไห้ของเธอนั้นเงียบสนิท เธอไม่ได้ผลักฉินเย่ออกไป ราวกับว่าเธอสูญเสียพละกำลังทั้งหมดไป เธอซบเขาอยู่แบบนั้นและหลั่งน้ำตาออกมา หลังจากนั้นไม่นาน ฉินเย่ก็รู้สึกได้ถึงไหล่ที่เปียกชื้นของเขา เขาเม้มริมฝีปากด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก เขารู้สึกว่าเสิ่นหยินอู้กำลังจะต้องไห้จนน้ำตาไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว จากนั้น เขาก็ยกมือขึ้นมาตบที่ไหล่ของเธอเบาๆ "ช่างมันเถอะ เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว" ในเวลาเดียวกัน โม่ไป๋ไปรับเด็กๆทั้งสองคน หลังจากที่เด็กทั้งสองขึ้นรถมาแล้ว โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นพอดี เขาไม่รีบขับรถออกไป แต่กลับรับโทรศัพท์ก่อน หลังจากที่คนที่อยู่ปลายสายรายงานสิ่งที่เกิดขึ้น ใบหน้าที่อบอุ่นก็ค่อยๆโกรธเกรี้ยวขึ้น

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 503

    ทันทีที่เปิดประตูออกไป เสิ่นหยินอู้ก็เห็นฉินเย่ยืนอยู่ที่ประตูห้องน้ำ เขาเดินมาพร้อมกับขวดน้ำเกลือ เมื่อเขาเห็นเธอเปิดประตูออกมา ความตึงเครียดในดวงตาของเขาก็ผ่อนคลายลง เสิ่นหยินอู้จ้องมองใบหน้าอันหดหู่ของเขา หลังจากเธอจึงเป็นฝ่ายถามก่อนว่า: "ยังเหลืออีกกี่ขวด?" “ไม่แน่ใจ ถ้าคุณอยากรู้ ผมไปดูให้ได้” หลังจากได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอเพียงเดินไปตรวจดูที่ลิสต์รายการ หลังจากอ่านแล้ว เธอก็พูดกับฉินเย่ว่า "นี่ขวดสุดท้ายแล้ว" “อืม” ฉินเย่ตอบรับ สายตาของเขาจับจ้องไปที่เธอโดยไม่ละไปไหน แม้ว่าเธอจะเพิ่งร้องไห้ไปอย่างหนัก แต่เขากลับรู้สึกว่าอารมณ์ของเธอในตอนนี้สงบมากเกินไป “จริงสิ เสื้อของคุณ...” ขณะที่เสิ่นหยินอู้พูด เธอก็เปิดตู้และหยิบชุดผู้ป่วยชุดใหม่ออกมา "เมื่อกี้ฉันทำเสื้อของคุณเปียก ขอโทษที คุณเปลี่ยนชุดใหม่เถอะ" หลังจากได้ยิน ฉินเย่ก็มองลงไปที่มุมเสื้อผ้าที่เปียกชื้นของเขา จากนั้นก็มองท่าทีที่เสิ่นหยินอู้ส่งเสื้อผ้าให้เขา และเม้มริมฝีปากบาง “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวก็แห้งแล้ว” “คุณป่วยอยู่แล้ว เดี๋ยวถ้าเป็นหวัดแล้วมันจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของคุณ” ฉินเย่จ้

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 504

    เสิ่นหยินอู้ชะงักฝีเท้าและหันกลับมา "ว่าไง?" “คุณจะมาพรุ่งนี้ใช่ไหม?” เสิ่นหยินอู้นิ่งไปครู่หนึ่ง "แน่นอน ฉันพูดแล้วก็ต้องทำตามที่พูดสิ" “ยังมีอะไรอีกไหม?” ฉินเย่เม้มริมฝีปากและไม่พูดอะไรอีก "งั้นฉันไปก่อนนะ" เมื่อเห็นว่าเขาไม่พูดอะไรอีก เสิ่นหยินอู้ก็เปิดประตูแล้วเดินออกไป ความเงียบสงัดกลับคืนสู่ห้องผู้ป่วยอีกครั้ง ฉินเย่หลับตาลง นัยน์ตาของเขาสีดำสนิท ทันทีที่ออกจากห้องผู้ป่วย เสิ่นหยินอู้ก็เห็นหลี่มู่ถิงที่ยืนเฝ้าอยู่ข้างนอก หลี่มู่ถิงพูดและทำสิ่งที่ผิด ดังนั้นหลังจากถูกให้ออกไป เขาจึงยืนพิงกำแพงด้วยอารมณ์ที่สับสนยุ่งเหยิงมาก เมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว เขาก็ยืนตัวตรงขึ้นมาทันที เมื่อเขาเห็นเสิ่นหยินอูเ เขาก็แสดงท่าทีที่รู้สึกผิดออกมา แล้วมองเธอโดยลังเลที่จะพูด: "คุณหนูเสิ่น..." เสิ่นหยินอู้เดินเข้าไปคุยกับเขาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน หลี่มู่ถิงฟังอย่างตั้งใจและพยักหน้าขณะฟัง “ได้ครับ งั้นคืนนี้ผมไปซื้ออาหารให้ประธานฉินกินได้แล้วใช่ไหมครับ?” “อืม ถ้าเขาไม่ยอมกินอีกก็บอกเขาว่าพรุ่งนี้ฉันจะไม่มา” “ได้เลยครับ” หลี่มู่ถิงพยักหน้าอย่างแข็งขัน “ไม

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 505

    "เปล่า" คำพูดนี้ทำให้เสิ่นหยินอู้ปฏิเสธไปโดยไม่รู้ตัว “โม่ไป๋ มันไม่ใช่แบบที่นายคิด พูดตรงๆ ฉันคิดว่าฉันไม่คู่ควรกับนาย นายอย่ามาเสียเวลากับฉันอีกเลย” คำพูดนี้ ไม่ใช่เพราะเสิ่นหยินอู้กำลังถ่อมตัวให้กับโม่ไป๋อย่างแน่นอน เธอคิดว่าโม่ไป๋เป็นคนดีจริงๆ เขามีภูมิหลังครอบครัวที่ดี หน้าตาดี นิสัยก็ดี และยังรักและเคารพตนเอง เขาไม่เคยไปยุ่งกับผู้หญิงคนไหนเพียงเพราะเขามีฐานะที่ดี “เธอคิดว่าเธอไม่คู่ควรกับผมเหรอ?” โม่ไป๋หัวเราะแล้วเดินเข้าไปใกล้เธอมากขึ้น “แต่ว่านะหยินอู้ ถ้าเธอคิดแบบนี้จริงๆ ทำไมถึงไม่มาถามผมล่ะ? ผมคิดว่าเธอคู่ควรดีแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้น ยังมีอะไรให้กังวลอีกไหม?” เมื่อเห็นว่าเธอไม่ตอบ โม่ไป๋จึงพูดอีกครั้ง: "หรือว่าเธอกังวลเรื่องเขา? ถ้าไม่กลับมาที่จีน เธอ….." "ห้าปี" เมื่อได้ยินโม่ไป๋ก็ตกตะลึง “ห้าปีแล้ว ฉันรู้ว่านายดีกับฉัน ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยลองที่จะยอมรับนาย แต่ฉันพบว่าฉันยอมรับนายไม่ได้” เสิ่นหยินอู้มองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายอย่างจริงจังผ่านเลนส์แว่น “เมื่อก่อนฉันบอกนายไปแล้วว่าฉันไม่มีทางตอบรับความรู้สึกที่นายมีต่อฉันได้ และบอกให้นายไม่ตเองมาทำดีกับฉัน” โ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 506

    หากพิจารณาจากทุกๆ เรื่อง เขาถือว่าเป็นแฟนที่ดีที่หายากคนหนึ่งจริงๆแต่น่าเสียดายที่เรื่องของความรู้สึก เป็นจุดอ่อนของเสิ่นหยินอู้เธอหันกลับไปมองเขา “ขอโทษ”โม่ไป๋มองเธอนิ่งๆ ผ่านไปพักหนึ่งก็เผยรอยยิ้มอบอุ่นออกมาอีกครั้ง “วันนี้เธอเหนื่อยแล้วใช่ไหม? เธอขึ้นไปก่อนเถอะ มีเรื่องอะไร อีกสองวันเราค่อยมาคุยกัน”“โม่ไป๋…”“เด็กๆ น่าจะรอเก้อแล้ว รีบขึ้นไปเถอะ”ระหว่างที่พูด โม่ไป๋ยังเอามือจับไหล่ผลักเธอเข้าไปในลิฟต์ จากนั้นเขากดชั้นให้เธอเรียบร้อย แล้วออกไปพร้อมพูดกับเธอว่า “เธอขึ้นไปถึงแล้ว ก็บอกให้ผู้ช่วยเฉินลงมาเลยก็พอ”เสิ่นหยินอู้ขมวดคิ้วอันมีเสน่ห์ ไม่ได้ตอบเขาไม่นานประตูลิฟต์ก็ปิดลงช้าๆ ก่อนที่ประตูจะปิดสนิท เสิ่นหยินอู้เห็นโม่ไป๋ส่งยิ้มให้กับเธอ“ฝันดีนะ”ทันใดนั้นเอง ประตูลิฟต์ก็ปิดลงอย่างสนิทเสิ่นหยินอู้กลับไปถึงบ้าน ผู้ช่วยเฉินและพี่เลี้ยงเด็กประจำอีกคนหนึ่งกำลังพูดคุยกันอยู่ในห้องรับแขก เมื่อเห็นเธอกลับมาถึงก็รีบลุกขึ้นทักทายเธอเมื่อนึกถึงคำพูดที่โม่ไป๋พูดแล้ว เสิ่นหยินอู้จึงพูดกับเขาว่า “ผู้ช่วยเฉิน โม่ไป๋รอนายอยู่ข้างล่างน่ะ”“หืม? ทำไมวันนี้ประธานโม่ถึงไม่ขึ้นมาด

Bab terbaru

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status