แชร์

บทที่ 501

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
“สามปีที่แล้วเหรอ?”

เมื่อเห็นว่าเขาไม่ตอบ เสิ่นหยินอู้จึงถามอีกครั้ง

สายตาของเธอจ้องมองไปที่ใบหน้าของเขา ราวกับว่าเธอจะไม่ยอมจนกว่าเธอจะได้รับคำตอบ

แต่สายตาและท่าทางของเธอดูสงบมาก

แม้แต่ดวงตาของเธอก็ไม่แดงเลยสักนิด

เห็นได้ชัดว่าเธอตกใจมากกับการรู้เรื่องนี้จนหมดสติไป แต่ในตอนนี้เธอไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

นี่มันปกติเหรอ?

นี่มันไม่ปกติ

ฉินเย่เม้มริมฝีปาก มองเธออย่างจริงจังแล้วพูดว่า "คุณจะไม่พักผ่อนอีกสักหน่อยเหรอ?"

“ฉินเย่”

เสิ่นหยินอู้เรียกชื่อเขา "ฉันกำลังถามคุณอยู่นะ"

หลังจากนั้นไม่นาน ฉินเย่ก็พยักหน้า

"ประมาณนั้น"

“ประมาณนั้นเหรอ?” คำตอบนี้ทำให้เสิ่นหยินอู้หัวเราะเยาะออกมาเบาๆ: “แม้แต่คุณย่าของคุณ คุณก็ไม่รู้เหรอว่าท่านเสียไปตั้งแต่เมื่อไร? ประมาณนั้นนี่มันหมายความว่ายังไง?”

ฉินเย่ขมวดคิ้ว

จู่ๆบรรยากาศก็ตึงเครียดขึ้นมา

หลี่มู่ถิงที่นั่งอยู่ที่ด้านหลังก็ดูเหมือนจะถูกทำให้ร่างกายชาไปด้วย เขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ

อย่างที่คิด

คุณหนูเสิ่นกังวลมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ เธอถึงพูดออกมาเช่นนี้

“ทำไมล่ะ? พูดไม่ออกเหรอ?” เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 502

    “ก่อนที่ท่านจะจากไป ท่านพูดถึงคุณ” คำพูดของฉินเย่ทำให้เสิ่นหยินอู้เงยหน้าขึ้นไปมองเขาในทันที "จริงเหรอ??" ฉินเย่มองเธอ “ท่านคิดถึงคุณมาก” ประโยคเดียวทำให้น้ำตาของเสิ่นหยินอู้ไหลรินออกมาทันที จากนั้นน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสายราวกับก๊อกน้ำที่ถูกเปิด ในที่สุด ภาพนี้ก็ทำให้ฉินเย่ก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกมาและกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา เขากอดเธอไว้แน่น เสียงร้องไห้ของเธอนั้นเงียบสนิท เธอไม่ได้ผลักฉินเย่ออกไป ราวกับว่าเธอสูญเสียพละกำลังทั้งหมดไป เธอซบเขาอยู่แบบนั้นและหลั่งน้ำตาออกมา หลังจากนั้นไม่นาน ฉินเย่ก็รู้สึกได้ถึงไหล่ที่เปียกชื้นของเขา เขาเม้มริมฝีปากด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก เขารู้สึกว่าเสิ่นหยินอู้กำลังจะต้องไห้จนน้ำตาไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว จากนั้น เขาก็ยกมือขึ้นมาตบที่ไหล่ของเธอเบาๆ "ช่างมันเถอะ เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว" ในเวลาเดียวกัน โม่ไป๋ไปรับเด็กๆทั้งสองคน หลังจากที่เด็กทั้งสองขึ้นรถมาแล้ว โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นพอดี เขาไม่รีบขับรถออกไป แต่กลับรับโทรศัพท์ก่อน หลังจากที่คนที่อยู่ปลายสายรายงานสิ่งที่เกิดขึ้น ใบหน้าที่อบอุ่นก็ค่อยๆโกรธเกรี้ยวขึ้น

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 503

    ทันทีที่เปิดประตูออกไป เสิ่นหยินอู้ก็เห็นฉินเย่ยืนอยู่ที่ประตูห้องน้ำ เขาเดินมาพร้อมกับขวดน้ำเกลือ เมื่อเขาเห็นเธอเปิดประตูออกมา ความตึงเครียดในดวงตาของเขาก็ผ่อนคลายลง เสิ่นหยินอู้จ้องมองใบหน้าอันหดหู่ของเขา หลังจากเธอจึงเป็นฝ่ายถามก่อนว่า: "ยังเหลืออีกกี่ขวด?" “ไม่แน่ใจ ถ้าคุณอยากรู้ ผมไปดูให้ได้” หลังจากได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอเพียงเดินไปตรวจดูที่ลิสต์รายการ หลังจากอ่านแล้ว เธอก็พูดกับฉินเย่ว่า "นี่ขวดสุดท้ายแล้ว" “อืม” ฉินเย่ตอบรับ สายตาของเขาจับจ้องไปที่เธอโดยไม่ละไปไหน แม้ว่าเธอจะเพิ่งร้องไห้ไปอย่างหนัก แต่เขากลับรู้สึกว่าอารมณ์ของเธอในตอนนี้สงบมากเกินไป “จริงสิ เสื้อของคุณ...” ขณะที่เสิ่นหยินอู้พูด เธอก็เปิดตู้และหยิบชุดผู้ป่วยชุดใหม่ออกมา "เมื่อกี้ฉันทำเสื้อของคุณเปียก ขอโทษที คุณเปลี่ยนชุดใหม่เถอะ" หลังจากได้ยิน ฉินเย่ก็มองลงไปที่มุมเสื้อผ้าที่เปียกชื้นของเขา จากนั้นก็มองท่าทีที่เสิ่นหยินอู้ส่งเสื้อผ้าให้เขา และเม้มริมฝีปากบาง “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวก็แห้งแล้ว” “คุณป่วยอยู่แล้ว เดี๋ยวถ้าเป็นหวัดแล้วมันจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของคุณ” ฉินเย่จ้

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 504

    เสิ่นหยินอู้ชะงักฝีเท้าและหันกลับมา "ว่าไง?" “คุณจะมาพรุ่งนี้ใช่ไหม?” เสิ่นหยินอู้นิ่งไปครู่หนึ่ง "แน่นอน ฉันพูดแล้วก็ต้องทำตามที่พูดสิ" “ยังมีอะไรอีกไหม?” ฉินเย่เม้มริมฝีปากและไม่พูดอะไรอีก "งั้นฉันไปก่อนนะ" เมื่อเห็นว่าเขาไม่พูดอะไรอีก เสิ่นหยินอู้ก็เปิดประตูแล้วเดินออกไป ความเงียบสงัดกลับคืนสู่ห้องผู้ป่วยอีกครั้ง ฉินเย่หลับตาลง นัยน์ตาของเขาสีดำสนิท ทันทีที่ออกจากห้องผู้ป่วย เสิ่นหยินอู้ก็เห็นหลี่มู่ถิงที่ยืนเฝ้าอยู่ข้างนอก หลี่มู่ถิงพูดและทำสิ่งที่ผิด ดังนั้นหลังจากถูกให้ออกไป เขาจึงยืนพิงกำแพงด้วยอารมณ์ที่สับสนยุ่งเหยิงมาก เมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว เขาก็ยืนตัวตรงขึ้นมาทันที เมื่อเขาเห็นเสิ่นหยินอูเ เขาก็แสดงท่าทีที่รู้สึกผิดออกมา แล้วมองเธอโดยลังเลที่จะพูด: "คุณหนูเสิ่น..." เสิ่นหยินอู้เดินเข้าไปคุยกับเขาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน หลี่มู่ถิงฟังอย่างตั้งใจและพยักหน้าขณะฟัง “ได้ครับ งั้นคืนนี้ผมไปซื้ออาหารให้ประธานฉินกินได้แล้วใช่ไหมครับ?” “อืม ถ้าเขาไม่ยอมกินอีกก็บอกเขาว่าพรุ่งนี้ฉันจะไม่มา” “ได้เลยครับ” หลี่มู่ถิงพยักหน้าอย่างแข็งขัน “ไม

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 505

    "เปล่า" คำพูดนี้ทำให้เสิ่นหยินอู้ปฏิเสธไปโดยไม่รู้ตัว “โม่ไป๋ มันไม่ใช่แบบที่นายคิด พูดตรงๆ ฉันคิดว่าฉันไม่คู่ควรกับนาย นายอย่ามาเสียเวลากับฉันอีกเลย” คำพูดนี้ ไม่ใช่เพราะเสิ่นหยินอู้กำลังถ่อมตัวให้กับโม่ไป๋อย่างแน่นอน เธอคิดว่าโม่ไป๋เป็นคนดีจริงๆ เขามีภูมิหลังครอบครัวที่ดี หน้าตาดี นิสัยก็ดี และยังรักและเคารพตนเอง เขาไม่เคยไปยุ่งกับผู้หญิงคนไหนเพียงเพราะเขามีฐานะที่ดี “เธอคิดว่าเธอไม่คู่ควรกับผมเหรอ?” โม่ไป๋หัวเราะแล้วเดินเข้าไปใกล้เธอมากขึ้น “แต่ว่านะหยินอู้ ถ้าเธอคิดแบบนี้จริงๆ ทำไมถึงไม่มาถามผมล่ะ? ผมคิดว่าเธอคู่ควรดีแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้น ยังมีอะไรให้กังวลอีกไหม?” เมื่อเห็นว่าเธอไม่ตอบ โม่ไป๋จึงพูดอีกครั้ง: "หรือว่าเธอกังวลเรื่องเขา? ถ้าไม่กลับมาที่จีน เธอ….." "ห้าปี" เมื่อได้ยินโม่ไป๋ก็ตกตะลึง “ห้าปีแล้ว ฉันรู้ว่านายดีกับฉัน ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยลองที่จะยอมรับนาย แต่ฉันพบว่าฉันยอมรับนายไม่ได้” เสิ่นหยินอู้มองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายอย่างจริงจังผ่านเลนส์แว่น “เมื่อก่อนฉันบอกนายไปแล้วว่าฉันไม่มีทางตอบรับความรู้สึกที่นายมีต่อฉันได้ และบอกให้นายไม่ตเองมาทำดีกับฉัน” โ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 506

    หากพิจารณาจากทุกๆ เรื่อง เขาถือว่าเป็นแฟนที่ดีที่หายากคนหนึ่งจริงๆแต่น่าเสียดายที่เรื่องของความรู้สึก เป็นจุดอ่อนของเสิ่นหยินอู้เธอหันกลับไปมองเขา “ขอโทษ”โม่ไป๋มองเธอนิ่งๆ ผ่านไปพักหนึ่งก็เผยรอยยิ้มอบอุ่นออกมาอีกครั้ง “วันนี้เธอเหนื่อยแล้วใช่ไหม? เธอขึ้นไปก่อนเถอะ มีเรื่องอะไร อีกสองวันเราค่อยมาคุยกัน”“โม่ไป๋…”“เด็กๆ น่าจะรอเก้อแล้ว รีบขึ้นไปเถอะ”ระหว่างที่พูด โม่ไป๋ยังเอามือจับไหล่ผลักเธอเข้าไปในลิฟต์ จากนั้นเขากดชั้นให้เธอเรียบร้อย แล้วออกไปพร้อมพูดกับเธอว่า “เธอขึ้นไปถึงแล้ว ก็บอกให้ผู้ช่วยเฉินลงมาเลยก็พอ”เสิ่นหยินอู้ขมวดคิ้วอันมีเสน่ห์ ไม่ได้ตอบเขาไม่นานประตูลิฟต์ก็ปิดลงช้าๆ ก่อนที่ประตูจะปิดสนิท เสิ่นหยินอู้เห็นโม่ไป๋ส่งยิ้มให้กับเธอ“ฝันดีนะ”ทันใดนั้นเอง ประตูลิฟต์ก็ปิดลงอย่างสนิทเสิ่นหยินอู้กลับไปถึงบ้าน ผู้ช่วยเฉินและพี่เลี้ยงเด็กประจำอีกคนหนึ่งกำลังพูดคุยกันอยู่ในห้องรับแขก เมื่อเห็นเธอกลับมาถึงก็รีบลุกขึ้นทักทายเธอเมื่อนึกถึงคำพูดที่โม่ไป๋พูดแล้ว เสิ่นหยินอู้จึงพูดกับเขาว่า “ผู้ช่วยเฉิน โม่ไป๋รอนายอยู่ข้างล่างน่ะ”“หืม? ทำไมวันนี้ประธานโม่ถึงไม่ขึ้นมาด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 507

    วันต่อมาเสิ่นหยินอู้ส่งลูกทั้งสองคนไปโรงเรียนด้วยตัวเองเดิมทีช่วงนี้โม่ไป๋จะเป็นคนรับส่ง แต่หลังจากคุยกันเมื่อคืนแล้ว เสิ่นหยินอู้ก็ไม่ให้เขามารับส่งอีก“ถ้านายจะให้เวลาฉันคิดจริงๆ งั้นช่วงนี้นายก็อย่าทำเรื่องที่แทรกแซงความคิดของฉัน”โม่ไป๋ถูกเธอพูดจนเปลี่ยนใจ และไม่ปรากฏตัวอีกเมื่อเห็นว่าเขาไม่ปรากฏตัว เสิ่นหยินอู้ก็โล่งใจไปเฮือกหนึ่ง แล้วพาลูกๆ ไปส่งที่โรงเรียนด้วยตัวเอง เพราะว่ากะเวลาล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว อีกอย่างในมือเธอยังถือกล่องเก็บความร้อนไว้ด้วย ดังนั้น ระหว่างทางเด็กทั้งสองก็เลยถามบางอย่างขึ้นด้วยความสงสัย“อืม ลูกค้าร่วมงานของบริษัทหม่ามี๊คนหนึ่งป่วยน่ะ หม่ามี๊ก็เลยทำอาหารไปให้เขา”เสิ่นเหมิงเหมิงปากหวาน ไม่เพียงแต่หยุดถามต่อ แต่ยังเอ่ยชมเสิ่นหยินอู้ด้วย“หม่ามี๊ใจดีมากเลย คนก็สวย แถมใจดีอีก ต่อไปใครได้หม่ามี๊เป็นแฟนนะ ต้องเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในสามโลกเลย”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เสิ่นหยินอู้ก็ยกมุมปากขึ้นคำพูดพวกนี้เป็นคำพูดที่โจวชวงชวงเคยสอนเด็กๆ เสิ่นเหมิงเหมิงมักจะใช้ประโยคนี้ชมเสิ่นหยินอู้บ่อยๆทุกครั้งที่ชม เสิ่นหยินอู้ก็จะอดยิ้มออกมาไม่ได้ไม่ใช่เพราะชมดี

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 508

    “เปล่าครับๆ ผมแค่มาดูว่าคุณมาถึงหรือยังเฉยๆ”เสิ่นหยินอู้พูดไปด้วยเดินเข้าห้องผู้ป่วยไปด้วย แล้ววางกล่องเก็บความร้อนในมือลงบนตะด้วยท่าทีเป็นธรรมชาติ จากนั้นถกแขนเสื้อขึ้นเปิดฝากล่องเก็บความร้อนออกเมื่อฝาถูกเปิดออก กลิ่นหอมกรุ่นจากอาหารก็ลอยฟุ้งออกมาอบอวลทั่วห้องหลี่มู่ถิงที่ทานมื้อเช้าไปแล้วได้กลิ่นนี้เข้า ความรู้สึกหิวก็ถูกกระตุ้นทีแรกเขาคิดว่าอาหารที่คุณเสิ่นเอามาให้ประธานฉิน จะเป็นอาหารจากข้างนอกด้วยซ้ำ แต่พอชะเง้อไปดูถึงรู้ว่าเป็นอาหารที่เธอทำเองฉินเย่มองดูอยู่ข้างๆ เห็นการกระทำของเธอที่ชำนาญไร้ข้อบกพร่องราวกับทำเรื่องแบบนี้มานับพันนับหมื่นครั้งแล้วอย่างไรอย่างนั้นยิ่งดูเท่าไหร่ หัวคิ้วของเขาก็ยิ่งขมวดแน่นเท่านั้นรอให้เสิ่นหยินอู้ยกอาหารมาตรงหน้าเขา “กินซะ เป็นอาหารย่อยง่ายหมดเลย ฉันถามหมอมาแล้ว อาการของนายตอนนี้กินอาหารแบบนี้ดีที่สุด”หลังจากเงียบอยู่พักหนึ่ง ฉินเย่ก็รับถ้วยอาหารมากลิ่นหอมมาก ฉินเย่ที่รู้สึกไม่อยากอาหารมานานได้กลิ่นนี้เข้า ก็รู้สึกอยากอาหารขึ้นมาทันที แต่ว่า…เขามองเสิ่นหยินอู้แวบหนึ่ง “เธอทำเองเหรอ?”เสิ่นหยินอู้ถามกลับ “ไม่อย่างนั้นล่ะ?”ฉินเย

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 509

    หลังจากออกจากโรงพยาบาล เสิ่นหยินอู้ก็ตรงไปบริษัททันทีเพราะรถติดมาก ดังนั้นตอนที่เธอไปถึงบริษัทก็เลทแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะพบกับผู้ชายคนเมื่อวานอีกครั้งเมื่อเขาเห็นเสิ่นหยินอู้ หนุ่มแว่นคนนั้นก็เผยรอยยิ้มขี้อายออกมาพร้อมยื่นมือทักทายเธอก่อนด้วย“สวัสดีครับ ต่อจากนี้เราคือเพื่อนร่วมงานกันแล้วนะครับ”เสิ่นหยินอู้ยื่นมือออกไปจับมือเขาตอบ“เมื่อวานฉันคิดว่าเธอมาสมัครงานซะอีก ไม่คิดว่าจะเป็นพนักงานที่นี่แล้ว เออนี่ ทำไมเธอถึงสนใจบริษัทเล็กๆ นี้เหรอ? เพราะรู้ล่วงหน้าว่าฉินซื่อกรุ๊ปจะลงทุนให้พวกเขาเหรอ?”รู้ล่วงหน้า?เสิ่นหยินอู้หัวเราะแห้ง กล่าวว่า “ไม่ถึงขนาดรู้ล่วงหน้าหรอก แต่ว่าฉันรับรองว่ารู้ก่อนพวกนายแน่ๆ”“ก็จริง เพราะยังไงเธอก็เข้าบริษัทนี้แล้ว ส่วนพวกเราเห็นผ่านหนังสือสมัครงานเท่านั้น”ข้างในลิฟต์ยังมีคนอื่นๆ อยู่ด้วย แต่ว่าคนอื่นๆ ดูไม่มีอะไรจะพูด และนอกจากหนุ่มแว่นแล้ว เสิ่นหยินอู้เองก็ไม่รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาคนอื่นเลยดูท่าแล้วคนที่อยู่ในลิฟต์ตัวเดียวกันกับเธอเมื่อวาน นอกจากหนุ่มแว่นตรงหน้าแล้ว คนอื่นคงถูกปัดตกหมดแล้วหลังจากที่ประตูลิฟต์เปิดออก เสิ่นหยินอู้ก็เดินตรงไปทางซ้

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status