All Chapters of มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน: Chapter 381 - Chapter 390

507 Chapters

บทที่ 381

ในจวนอ๋องสามได้เงียบร้างมาโดยตลอด มู่จิ่วซีรู้สึกดูหมิ่นเล็กน้อย ถึงอย่างไรพระพันปีหลวงก็ปฏิบัติกับพวกเขาไม่เลว อีกทั้งยังให้เงินไม่น้อยอีกด้วย แต่ต้องแสร้งทำอย่างกับจะเป็นจะตายและน่าสงสารเวทนาด้วยงั้นหรอ?บ่าวรับใช้ไม่กี่คนกับองครักษ์ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์รอบนอกที่เฝ้าท่านอ๋องสามก็ล้วนใช้เงินของราชวงศ์ ดังนั้นสำหรับพวกเขาแล้ว ชีวิตแทบจะสบายอย่างมากพอมาถึงห้องของเซียวหลิงเย่ว์ ก็เห็นเซียวหลิงเย่ว์พิงอยู่ตรงหัวเตียง ใบหน้ายังคงค่อนข้างซีดขาว แต่ว่าแววตากลับคมกริบอย่างมาก"มู่จิ่วซี เจ้ามาทำอะไร?" เซียวหลิงเย่ว์ทำสีหน้าไม่ดีใส่มู่จิ่วซี แม้ว่าครั้งนี้มู่จิ่วซีจะช่วยนางเอาไว้ แต่นางกลับพูดต่อหน้าโม่จุนว่าไม่ใช่นาง ในใจของนางโกรธแค้นมากมาตลอด อีกอย่างโม่จุนก็ไม่ได้มาเยี่ยมนางอีกเลย"ก็มาเยี่ยมดูบาดแผลของพระชายาสามว่าเป็นอย่างไรบ้างแล้วไง?" มู่จิ่วซีกล่าว "เอ๋ ไม่ใช่บอกว่าองค์หญิงสือได้เข้ามาอยู่ในจวนอ๋องสามแล้วหรอกเหรอ? ทำไมไม่เห็นเลยล่ะ?""องค์หญิงสือกับท่านอ๋องสามเล่นหมากรุกกันอยาก" ชิวจวี๋ที่อยู่ข้างๆ ตอบ"หรอ?" มู่จิ่วซียิ้มขึ้นมา "ดีมาก ท่านอ๋องสามก็คงเบื่อและเหงา พระชายาสามอ
Read more

บทที่ 382

"เจ้าเองตอนนั้นไม่รู้สึกหรอ? หรือว่าตอนนั้นไม่ได้เล็งไปที่หัวใจของเจ้า? ไม่ได้เล็งมาที่จุดตาย?" มู่จิ่วซีเหลือจะเชื่อเลยจริงๆ"ตอนนั้นศัตรูลงมือรวดเร็วมาก กระโจนเข้ามาในทันควัน ข้าเห็นเพียงแสงสีเงินที่สะท้อนเล็งมาที่เอวของข้า แต่เนื่องด้วยความสามารถของข้าก็เลยเอี้ยวหลบนิดหน่อย เลยแทงมาที่ข้างเอว""ส่วนเอว งั้นก็ไม่แตกต่างกับตรงหัวใจ เลือดพอไหลก็จะไหลจนแห้งหมดตัว ดาบลงลึกขนาดนั้น เห็นได้ชัดว่าต้องการเอาชีวิตเจ้า เห็นคนที่ลงมือชัดไหม?"มู่จิ่วซีในที่สุดก็เข้าใจ ฝ่ายตรงข้ามต้องการเอาชีวิตเซียวหลิงเย่ว์แววตาของเซียวหลิงเย่ว์ซับซ้อนมาก แฝงไปด้วยร่องรอยของความหวาดผวา จากนั้นก็ส่ายหัวกล่าว : "ข้าไม่รู้ เป็นแค่ชายคลุมปิดใบหน้าคนหนึ่ง""เซียวหลิงเย่ว์ เจ้ามันทำผิดก็ยังไม่รู้ตัวว่าผิด เจ้ามันไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ข้ากำลังช่วยเจ้าอยู่นะ!" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างโมโห"เจ้า เจ้าพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง" เซียวหลิงเย่ว์ชะเง้อคอออกมาราวกับต้องการทราบความจริง"เจ้าเมื่อคืนนั้นไปพบองค์ชายสามกับองค์หญิงสือของแคว้นซีเย่ว์ไม่ใช่หรือ? พอขากลับก็เจอเข้ากับนักฆ่า ไม่ใช่ว่าเป็นการสร้างกระแสหลังจากพวกเ
Read more

บทที่ 383

มู่จิ่วซีพาเย่ฮานและชิงเฟิงไปที่หอโม่ช่างเหวิน พอเห็นว่าไป๋ชิงและไป๋เฟิ่งหว่านกำลังยุ่งอยู่ นางก็เผยยิ้มตรงปากขึ้นมานางรู้ว่าการลากสองพี่น้องนี้เข้ามาจะต้องเป็นเรื่องที่ถูกต้องหอโม่ช่างเหวินช่วงไม่กี่วันนี้กำลังก่อสร้างตกแต่ง ส่วนความเห็นของมู่จิ่วซีก็ได้บอกกับไป๋ชิงไปแล้ว ดังนั้นไป๋ชิงก็ช่วยนางดูแลจัดการอย่างเป็นระบบขั้นตอนมากส่วนไป๋เฟิ่งหว่านก็สนใจในร้านชานมมาก นางทำชานมด้วยตัวเองและรู้สึกภูมิใจอย่างเต็มเปี่ยม ใบหน้าของนางเมื่อก่อนมักจะยโสโอหังอยู่ตลอด แต่ตอนนี้กลับประดับด้วยรอยยิ้มของสาววัยเยาว์ ราวกับว่าหาความสุขในชีวิตจนเจอมู่จิ่วซีพอเห็นก็ปลื้มปิติยินดีอย่างมาก แต่ว่าคุณหนูของจวนอัครมหาเสนาบดีทั้งสองท่านออกมาเผยโฉมต่อสาธารณะชนแบบนี้ นางถือว่ามีความผิดไหม?แต่ทว่าเห็นได้ชัดว่านางคิดมากเกินไป พอมีมู่จิ่วซีอย่างนางซึ่งเป็นแบบอย่างของคุณหนูใหญ่ หญิงสาวคนอื่นพอทำตามก็ไม่ได้เรียกว่าแปลกแยก"มู่จิ่วซี!" ไป๋ชิงอยู่ตรงชั้นสองเห็นมู่จิ่วซีมาถึง ทันใดนั้นก็ดีใจจนตะโกนเรียกและหันหลังวิ่งลงมาชั้นล่าง"ไป๋ชิง เจ้าช่างมีความสามารถ หลังจากนี้ชายใดได้แต่งงานกับเจ้าถือว่าเป็นบุญวาสนามาก
Read more

บทที่ 384

นางรู้ว่านางไม่มีเวลาจัดการ แต่ว่านางค่อนข้างวางใจกับคนพวกนี้"ต้องการคนคุ้มกันบางส่วนด้วย จิ่วซี ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาข้าพบว่ามีคนอยู่ระแวกรอบ ๆ เอาแต่มองมาทางด้านนี้" ไป๋ชิงขมวดคิ้วกล่าวมู่จิ่วซีสีหน้าเปลี่ยนไปและพูดขึ้นมา : "เป็นใครพอรู้ไหม?""อาจจะเป็นคนสายอาชีพเดียวกัน" ไป๋ชิงส่ายหัวและกล่าว "และก็อาจไม่ใช่ ทุกวันจะมาให้เห็น วันนี้ยังไม่เห็นเลย ปกติจะมาเดินดูก่อนเที่ยง""มาคนเดียวหรอ?" มู่จิ่วซีหรี่ตาลงและกล่าว"ไม่ ทุกครั้งจะมากัน 2-3 คน อีกอย่างจากที่ข้าเห็นก็ไม่น่าใช่คนธรรมดา เหมือนกับว่าจะเป็นวรยุทธด้วย" ไป๋ชิงเผยสีหน้าหวาดกลัวออกมามู่จิ่วซีพยักหน้าและกล่าว : "อย่ากังวล ข้าจะรีบส่งองครักษ์บางส่วนมา" จากนั้นนางก็เรียกชิงเฟิงให้เข้ามาหา ให้เขาไปพาคนของทหารมังกรดำมาให้ 4 คนแน่นอนว่านี่เป็นเพียงแผนถ่วงเวลา จากนี้ยังต้องจ้างอีกบางส่วนมาคอยคุ้มกันเรือนหลังจากนั้น มู่จิ่วซีก็เดินเข้าไปในห้องครัว และเริ่มสอนการทำอาหารให้กับคนครัว เช่นไก่ผัดพิทักษ์วัง ไก่ผัดพริก ปีกไก่ย่างและอาหารที่ค่อนข้างทำง่ายอื่น ๆ ให้พวกเขาได้เรียนรู้ก่อน (ไก่ผัดพิทักษ์วัง เป็นหนึ่งในเมนูตำหรับเสชวนท
Read more

บทที่ 385

เย่ฮานกลัวจนนิ่งค้างไป พอเห็นอู๋ถงซึ่งโชกไปด้วยเลือดทั้งตัวก็รู้สึกว่าทำเกินไปจริงๆ อีกทั้งนี่มันเท่ากับการตบหน้าคุณหนูใหญ่ตรงๆรู้อยู่ชัดๆ ว่าร้านชานมนี้เป็นของคุณหนูใหญ่มู่ อู๋ถงเองก็เป็นคนของคุณหนูใหญ่ นึกไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าลงโทษอย่างรุนแรงก่อนที่คุณหนูใหญ่จะมาถึง เย่ฮานรู้สึกว่าคนที่ลงโทษคงเบื่อที่จะทนมีชีวิตอยู่แล้วสินะเขารีบปล่อยอู๋ถงลงมา ด้านนอกก็มีเจ้าหน้าที่หลายคนกรูกันเข้ามา พอพวกเขาเห็นมู่จิ่วซีกำลังคลุ้มคลั่งก็ตกใจจนหน้าซีดขาว พร้อมกับรีบช่วยเย่ฮานหามอู๋ถงเอาไปไว้บนกระดานไม้ข้างๆ"เย่ฮาน ไปจับไอพวกเจ้าหน้าที่ชาติหมาออกมาให้ข้า!" มู่จิ่วซีโกรธจัดจนหน้าแดงขึ้นมา"คุณหนูใหญ่มู่ ตอนนี้กระทรวงราชทัณฑ์เป็นใต้เท้าสวีสั่งการขอรับ" มีบางคนคุกเข่าลงในทันทีและพูดกับมู่จิ่วซี"ใต้เท้าสวี? เป็นใคร?" มู่จิ่วซีถาม"รองเสนาบดีกระทรวงราชทัณฑ์สวีซานเหอขอรับ เพราะเรื่องในจวนของเลขาธิการใตเท้าฉีหู่ซาน ช่วงนี้เขาเลยไม่ได้มาที่กระทรวงราชทัณฑ์ ทั้งหมดเลยมอบให้ใต้เท้าสวีตัดสินใจขอรับ""สวีซานเหอ งั้นเป็นเขาใช่ไหมที่ออกคำสั่งให้เฆี่ยนตีอู๋ถง?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้วกล่าว"ขอรับ ใช่ขอรับ" บรรดาเ
Read more

บทที่ 386

ขุนนางฝ่ายชันสูตรพอเห็นเทคนิคของมู่จิ่วซี ในใจก็รู้สึกชื่นชม นางจัดการบาดแผลทั้งเร็วและดีเยี่ยม อีกทั้งยังใส่ใจระมัดระวังมากเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จสรรพ หลังจากห่มผ้าผืนสะอาดให้กับอู๋ถง มู่จิ่วซีก็ฝังเข็มลงไปท่ามกลางผู้คนจากนั้นภายใต้สายของทุกคน อู๋ถงก็ค่อยๆ ฟื้นได้สติขึ้นมา"อู๋ถง อู๋ถง..." มู่จิ่วซีเรียกเขาเบาๆอู๋ถงหลังจากสะลึมสะลืออยู่หลายครั้ง ในที่สุดก็ลืมตาตื่นตาขึ้นมา จากนั้นความเจ็บปวดทั่วร่างก็ทำให้เขาโอดครวญขึ้นมาในทันที ทั้งใบหน้าขมวดแน่น"คุณหนูใหญ่..." อู๋ถงเห็นแววตากังวลและเจ็บใจบนใบหน้าอันงดงามตรงหน้าเขาอย่างชัดเจน ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าความเจ็บปวดนั้นน้อยลงไปมาก"อู๋ถง ข้าขอโทษที่เจ้าต้องมาทนลำบากมากขนาดนี้" เสียงของมู่จิ่วซีแหบพร่าขึ้นมาเล็กน้อย เรื่องนี้เห็นได้ชัดว่าพุ่งเป้ามาที่มู่จิ่วซี แต่กลับลากอู๋ถงผู้บริสุทธิ์ให้มาเกี่ยวข้อง"คุณหนูใหญ่ ข้า ข้าไม่เป็นไร" อู๋ถงรีบกล่าวขึ้นมา สีหน้าวิตกกังวลเล็กน้อย ถึงอย่างไรมู่จิ่วซีก็ขอโทษเขาแล้ว เขาเป็นแค่บ่าวรับใช้คงทนรับคำขอโทษไว้ไม่ได้"จัดการเสร็จบาดแผลให้เสร็จแล้ว เจ้าไม่ต้องกังวล ใครที่ทำร้ายเจ้า ข้าจะสนองคืนให้
Read more

บทที่ 387

ใบหน้าของไป๋ชิงก็ร้อนผ่าวขึ้นมาพร้อมกับพูด : "เมื่อก่อนตอนไปที่ร้านของอู๋ถง ข้าได้คุยกับเขาอยู่สองสามครั้ง รู้สึกว่าเขาไม่เลวเลย ถือว่าเป็นเพื่อน ดังนั้นก็เลยอยากมาเยี่ยมเขามู่จิ่วซีเลิกคิ้วกล่าว : "อย่างนั้นหรอ? แล้วทีตอนใต้เท้าเย่เย่อู่เหิงได้รับบาดเจ็บ ทำไมไม่เห็นเจ้าไปเยี่ยมเขาเลย เขาก็ถือว่าเป็นเพื่อนของเจ้าปะ"ไป๋ชิงนิ่งชะงักไป จากนั้นก็หน้าแดงขึ้นมาพร้อมกับพูด : "ใต้เท้าเย่ไม่ใช่ว่ามีเพื่อนเยอะแยะหรอกเหรอ อู๋ถงเขาน่าสงสารกว่า""หรอ.... น่าสงสาร คุณหนูใหญ่ไป๋ของเราเห็นอกเห็นใจอู๋ถงสินะ" น้ำเสียงของมู่จิ่วซีน่าขำยิ่งกว่าอะไร"ไอ้หยา จิ่วซี เจ้าเลิกพูดเพ้อเจ้อได้แล้ว เขาไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว งั้นข้าไปล่ะ" ไป๋ชิงเขินอายจนนางต้องรีบวิ่งออกไป"นี่ๆๆ ทำผิดอะไรหรือไงถึงได้วิ่งหนีเร็วขนาดนี้" มู่จิ่วซีคว้านางเอาไว้ "มื้อเย็นข้าต้องกลับจวนไปทาน เจ้าอยากไปเยี่ยมอู๋ถงไหมล่ะ?"ไป๋ชิงชะงักไป จากนั้นก็มองท้องฟ้าข้างนอก : "งั้นข้าขอกลับหอโม่ช่างเหวินก่อน เดี๋ยวดึกหน่อยข้าค่อยไปหาเจ้าที่จวนมู่""ได้" มู่จิ่วซีมองยิ้มให้กับไป๋ชิง รอยยิ้มนั้นชั่วร้ายอย่างมากไป๋ชิงทันใดนั้นก็นางอย่างเคืองๆ
Read more

บทที่ 388

"ใคร? ใครที่บอกให้เจ้าออกเดินทางล่วงหน้า?" มู่จิ่วซีถาม"ข้าเองก็ไม่รู้ เป็นเด็กคนหนึ่งเอากระดาษข้อความมาให้ อยู่ที่ อยู่ที่บนโต๊ะห้องทำงานของข้า" บนศีรษะของสวีซานเหอนองไปด้วยเลือดเจ้าหน้าที่กระทรวงราชทัณฑ์ก็รีบวิ่งไปตรวจสอบบนโต๊ะทำงานของสวีซานเหอ ทันใดนั้นก็หยิบกระดาษข้อความแผ่นหนึ่งมามู่จิ่วซีรับมาและเปิดอ่าน สิ่งที่สวีซานเหอพูดไม่ใช่ความเท็จ ความจริงคือเขาถูกเรียกให้ไปเตรียมการล่วงหน้า"ต่อให้ไม่ใช่เจ้าเป็นคนวางยาพิษ แต่เจ้าทำไมยังไม่ทันสอบปากคำเขาก็ลงโทษทรมานเขาแล้ว? เจ้าไม่รู้หรือไงว่าร้านชานมนั่นเป็นของคุณหนูใหญ่อย่างข้า? ไม่รู้หรือไงว่าอู๋ถงเป็นคนของข้า?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างเฉือดเชือนหลังจากใบหน้าของสวีซานเหอแดงขึ้นมาก็เปลี่ยนเป็นซีดขาว และก็กลับมาแดงขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะกล่าว : "เพราะรู้ว่าเป็นคนของเจ้าไงล่ะ ข้าเลยกล้าลงมือ!""ทำไม? พวกเรามีความแค้นกันหรือไง?" มู่จิ่วซีหรี่ตาลงทันใดนั้นสวีซานเหอก็มองจ้องนางด้วยสายตาอันแหลมคมก่อนจะกล่าว : "คุณหนูใหญ่มู่ เจ้าลืมสวีหยางไปแล้วหรอ?""สวีหยาง?" ในหัวของมู่จิ่วซีก็พยายามนึก "ที่จวนอัครมหาเสนาบดีคนนั้น?""ใช่ เขาคนนั้นคือน้
Read more

บทที่ 389

กระดาษหนังวัวออกเหลืองแผ่นนี้เป็นนางที่มอบให้กับท่านพ่อ เป็นผู้ดูแลมู่ที่พบกระดาษรายชื่อของไส้ศึกที่ลู่เวยหย่าเอาไปซ่อนจนพบเพราะก่อนหน้านี้มู่จิ่วซีได้สังเกตอย่างละเอียดมาก คุณภาพของกระดาษข้อความแผ่นนี้เทียบกับกระดาษหนังวัวทั่วไปแล้วจะหนากว่าหน่อย เป็นงานฝีมือที่ใช้การอัดกระดาษแบบพิเศษ ปรากฎเป็นรอยพิมพ์รูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนหากไม่ได้สังเกตอย่างละเอียดก็จะมองไม่เห็นอะไรประเด็นคือมู่จิ่วซีเป็นคนเฉียบแหลมเกินไป แค่ถือกระดาษข้อความแผ่นนั้นก็รู้สึกได้ถึงความต่าง ดังนั้นก็เลยเอากลับมาเทียบตรวจสอบ ที่แท้คุณภาพกระดาษ 2 แผ่นนี้เหมือนกันทุกประการมุมปากของนางเผยรอยยิ้มอันเย็นเยือก ทันใดนั้นนางก็เรียกเย่ฮานและไปยังศาลต้าหลี่ด้วยกันสองคนเพราะว่าเย่อู่เหิงค่อนข้างจะศึกษาเรื่องพวกนี้มาบ้าง ถึงอย่างไรคดีของศาลต้าหลี่ก็ล้วนเป็นคดีใหญ่ เรื่องแปลกๆ หายากที่เกี่ยวข้องจะมีค่อนข้างเยอะอยู่บ้างเย่อู่เหิงไม่คาดคิดว่าพบมู่จิ่วซีตอนเช้าแล้ว ตอนเย็นนางก็จะยังมาหาอีก ทันใดนั้นในใจก็รู้สึกตื่นเต้น นางกำลังเป็นห่วงเขางั้นเหรอ ?แต่พอมู่จิ่วซีหยิบกระดาษออกมา เขาก็รู้ทันทีว่าเขานั้นคิดเองเออเอง"กระดา
Read more

บทที่ 390

"ซีเอ๋อร์ พิษได้ตรวจสอบเจอแล้ว แต่หลายคนก็ล้วนมีพิษกระเรียนแดง คงตรวจสอบยาก" มู่เทียนซิงขมวดคิ้วกล่าว"ไม่เป็นไร พวกเรายังมีเบาะแสอีกชิ้นหนึ่ง ถึงอย่างไรพวกเขาก็ใช้กลอุบายเล่นงานลูก นี่พอฆ่าลูกไม่ตายก็เลยเล่นงานธุรกิจลูกให้ทำเงินไม่ได้" มู่จิ่วซีดูถูกพวกศัตรู"ซีเอ๋อร์ เจ้าคิดว่าใครเป็นคนทำแบบนี้?""เดิมทีเป็นไปได้มากว่าเป็นคนในวงการอาชีพเดียวกัน แต่ตอนนี้น่ะเหรอ ลูกคิดว่าเป็นไส้ศึกแคว้นเป่ยจิ้นกำลังเล่นสกปรกอยู่" มู่จิ่วซีบอกเรื่องกระดาษข้อความให้ฟังมู่เทียนซิงหลังจากฟังก็พูดขึ้นมา : "เจ้าพูดถึงกระดาษแผ่นนั้นของป้าสะใภ้รองสินะ มันเป็นกระดาษที่พ่อไปซื้อมาจากร้านฝูลู่เทียนฉายเมื่อตอนนั้น ป้าสะใภ้รองของเจ้าชอบใช้กระดาษประเภทนี้มาก""กระดาษข้อความที่เด็กคนนั้นให้กับสวีซานเหอก็คือกระดาษชนิดนี้ ท่านว่าเป็นเรื่องบังเอิญรึเปล่า?" มู่จิ่วซีถามมู่เทียนซิงพยักหน้าและก็กล่าว : "ข้าจำได้ว่าป้าสะใภ้รองของเจ้าได้เคยเอากระดาษพวกนี้ให้กับคนๆ หนึ่ง"มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็เลิกคิ้วขึ้นมาและกล่าว : "ใคร?""เซี่ยเฟิง" มู่เทียนซิงตอบ"เซี่ยเฟิง? ปรมาจารย์เซี่ยเฟิงแห่งกรมพระราชวังนครบาลคนนั้นน่ะเหรอ
Read more
PREV
1
...
3738394041
...
51
DMCA.com Protection Status