เมื่อขึ้นลิฟท์และเดินมาจนถึงหน้าห้องของคุณเอ็ดเวิร์ดนั้น ก็พบว่ามีลูกน้องจำนวนหนึ่งยืนเฝ้าประตูอย่างรัดกุม
อยากจะบ้าแบบนี้เข้าไปในนั้น คนของเขาก็รู้กันหมดนะสิ แล้วฉันจะถูกมองต่างอะไรจากสาว ๆ พวกนั้นกัน ไม่สิฉันยังดูแย่กว่าพวกสาว ๆ นั่นอีก อย่างน้อยพวกเขาก็คงได้เงินเป็นฟ่อน แล้วฉันมานอนกับเขาได้อะไร... แค่ได้เอาเนี่ยนะ
ฉันยืนนิ่งคิดไปต่าง ๆ นา ๆ แบบนั้น จนพวกลูกน้องของเขาต้องเอ่ยเรียก ให้ฉันตื่นจากภวังค์ความคิดบ้า ๆ พวกนี้
“คุณฟ้าครับ เชิญด้านในครับ นายรออยู่”
“ค่า.......” ฉันเดินไปแบบหน้าเซง ๆ แต่ก่อนเข้าไป ฉันต้องหันไปพูดกับพวกลูกน้องเขาก่อน ฉันว่าพวกนี้ต้องเอาฉันไปซุบซิบเม้ามอยในกอไผ่แน่ ๆ
“เอ่อ...พวกคุณคะ”
“ครับ”
“อย่าเข้าใจผิดนะคะ ฉันไม่ได้มาขายตัว”
“คุณฟ้าอย่าได้กังวลครับ พวกเราไม่มีอำนาจหรือพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับนายท่านได้ รวมถึงคนที่เกี่ยวข้องกับนายครับ คุณฟ้ารีบเข้าไปดีกว่าครับ ก่อนที่นายท่านจะอารมณ์เสีย”
“ค่ะ ถ้าคุณพูดแบบนี้ฉันก็สบายใจ ขอโทษที่รบกวนนะคะ” ฉันยิ้มให้เขาก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องของคุณเอ็ดเวิร์ด เพียงเปิดประตูเข้าไปฉันก็ค่อย ๆ เดินมองซ้ายมองขวาไปทั่วบริเวณ
“ไม่อยู่แหะ....” ฉันนั่งนิ่ง ๆ ลงโซฟาในห้องรับแขกอย่างเจียมตัว ความเงียบสงัดในห้องพาลทำให้ได้ยินเสียงน้ำไหลที่เล็ดลอดออกมาจากประตูบานหนึ่งที่แง้มเปิดออก เพราะปิดไม่สนิท
‘อึก...อึก’ ความเงียบนั้นแม้แต่เสียงกลืนน้ำลายของตัวเองฉันก็ยังได้ยินมัน บ้าเอ้ยคิดอะไรอยู่เนี่ย เขาก็คงอาบน้ำอยู่ไง มีอะไรให้ต้องคิดเยอะ คนเราก็ต้องอาบน้ำกันอยู่แล้วจริงมั้ย
ฉันนั่งอยู่นานพอควรจนเริ่มเบื่อ จากท่านั่งตัวแข็งทื่อ ก็เริ่มคลายความสบาย เอนหลังพิงพนักพิงโซฟาเงยหน้ามองฝ้าเพดานอย่างเลื่อนลอย
“เมื่อไหร่จะอาบน้ำเสร็จ รอจะเบื่อแล้ว อาบน้ำนานกว่าฉันอีก สำอางอะไรขนาดนั้น”
“คุณฟ้ากำลังนินทาผมอยู่??” เสียงที่คุ้นแว่วมาจากทางด้านหลังของฉัน เชี่ยแล้ว..ทำไมต้องมาประจวบเหมาะตอนนี้เนี่ย
จากที่ฉันนั่งด้วยท่าทีสบาย ๆ กางแขนกางขา ก็ต้องดีดตัวนั่งตัวตรง ค่อย ๆ หันหน้าไปหาเขา แต่…
“ไม่ใช่แบบนั้น นะ.......อึ่ก...” ฉันพูดในขณะที่ค่อย ๆ หันไปมองเขาด้านหลัง แต่เมื่อตัวเขาปรากฏต่อสายตาในเรือนร่างที่นุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวแบบนั้นใครเห็นก็ต้องสะดุ้ง
“หืม....” เขาไม่พูดอะไรแต่กลับมานั่งบนโซฟาตรงหน้าฉัน แล้วใครจะมองได้กันเล่า ฉันจึงต้องยกมือปิดตาของตัวเอง
“นี่คุณจะออกมาทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนคะ”
“ทำไมผมต้องทำแบบนั้น”
“ก็มัน......” ฉันแง้มมือดูก็พบว่าเขายังทำตัวสบาย ๆ เอนหลังกางแขนพาดไปตามโซฟาไม่รู้สึกร้อนสึกหนาว จนเมื่อสายตาเขามาบรรจบกับฉัน ฉันก็รีบปิดตาแทบไม่ทัน หวังว่าเขาจะไม่เห็นว่าฉันแอบมองเขานะ
“คุณฟ้า ผมอยู่ในห้องผมนะครับ ผมไม่ได้แต่งแบบนี้เดินโตงเตงข้างนอกซะหน่อย”
“แต่ตอนนี้คุณเอ็ดเวิร์ดไม่ได้อยู่คนเดียวนะคะ”
“หืม...ปกติตอนคุณเมาคุณออกจากชอบแผงอกผมนะ นี่ผมอุตส่าห์ตามใจพาร์ทเนอร์ผมเลยนะเนี่ย”
“คุณเอ็ด!!!!!” โอ๊ย.....ฉันลุกขึ้นแผดเสียงเท้าสะเอวมองเขา
“โอเค.. คุณอยากทำอะไรก็ทำค่ะ งั้นจะถือว่าเป็นบุญตาของอิฟ้าครามคนนี้แล้วกัน เฮ้อ.....” ฉันนั่งลงถอนหายใจตามเดิมพาลทำเอาอารมณ์เสีย มองเขาที่กำลังหยิบไอแพดขึ้นมา พาลจ้องเขม็ง
“นี่มันสี่ทุ่มแล้วนะคะ เวลานี้ คุณยังทำงานอยู่อีกเหรอ” ฉันค่อนข้างแปลกใจ แม้เขาจะเพิ่งอาบน้ำมา เสื้อผ้ายังไม่ได้ใส่ ผมยังเปียกชื้นอยู่แบบนี้เหมือนไม่ใส่ใจอะไร แต่กับงานแล้วเขาดูจริงจังมาก จนบางทีฉันอยากให้ไอ้กรณ์จริงจังกับงานแบบนี้บ้าง รับรองว่าบริษัทของมันจะต้องเจริญเติบโตรวดเร็วแหง ๆ
“.....” เขาไม่ตอบอะไร ราวกับอยู่ในภวังค์ในโลกของเขาที่ไม่มีฉันอยู่ตรงนี้ ฉันใช้สายตามองเขาอย่างพินิจ ถ้าไม่ติดว่าฉันเห็นว่าเขาเอาผู้หญิงเข้าออกห้องเป็นว่าเล่น เขาคงเป็นคนที่ฉันคิดว่าเพอร์เฟคไปทุกอย่างจริง ๆ แม้ท่าทีบางครั้งกับลูกน้องจะดูดุดันน่าเกรงขามไปหน่อย ก็อย่างว่าล่ะนะ เป็นเจ้าคนนายคนจะมาใจดีไปทุกเรื่องไม่ได้หรอก ไม่งั้นจะคุมคนจำนวนมากได้ยังไง
“คุณฟ้า....”
“....”
“คุณฟ้า....”
“....คะ???”
“คุณจะจ้องผมอีกนานมั้ย” คุณเอ็ดเวิร์ดพูดขึ้น แต่สายตาเขายังจับจ้องที่ไอแพดด้วยซ้ำ เขาแยกประสาทตามามองฉันตอนไหนเนี่ย
“ฉะ...ฉันไม่ได้มองคุณนะ” ฉันตอบแถไปแบบนั้น แต่ไม่คิดว่าเขาจะใส่ใจคำพูดของฉันจนถึงขั้นวางไอแพดลงแล้วหันหน้าจริงจังมาทางฉันแบบนี้
“คุณจะหาว่าผมพูดใส่ร้ายคุณ ที่ว่าคุณมองผมงั้นเหรอครับ”
“ป่ะ...เปล่านะคะ”
“แล้วคุณฟ้า ทำไมถึงบอกว่าไม่ได้มองผมทั้งที่ผมก็เห็นอยู่ว่าคุณจ้องผมขนาดนั้น” เขาทำเสียงหนักแน่น ฉันค่อนข้างตกใจไม่คิดว่าเขาจะซีเรียสแค่เรื่องแบบนี้
“ขะ..ขอโทษค่ะ ฉันยอมรับว่ามองคุณ แค่คิดว่าคุณเอ็ดเวิร์ดตอนทำงานดูเท่ดีเหมือนกันนะคะ เลยเผลอจ้องไปบ้าง”
“....” เขากอดอกมองฉันด้วยสายตานิ่งเฉียบพาลทำเอาขนลุก
“ฉันสัญญาค่ะ ว่าจะพยายามไม่จ้องมองคุณแบบนี้อีก” ฉันยกนิ้วลูกเสือสามัญสัญญาไปโดยสัญชาตญาน
“พยายาม??? แสดงว่าคุณอาจจะจ้องผมแบบนี้อีกได้งั้นเหรอ”
“ก็ พูดตามตรงนะคะ คุณมีใบหน้าที่หล่อ แล้วยิ่งมาแต่งตัวแบบนี้ ถึงไม่ใช่ฉัน คนอื่นเขาก็ต้องมองเหมือนกันนะแหละ คุณไม่เคยส่องกระจกมองตัวเองรึไงคะ”
“งั้นเหรอ....ผมก็เพิ่งรู้จากคุณนี่แหละ”
ห๊า............ไม่รู้ว่าตัวเองหน้าตาดีงั้นเหรอ ชิส์เริ่มหมั่นไส้ นี่เขาคิดว่าตัวเองหน้าตาธรรมดา ๆ มาตลอดรึไง เห็นผู้หญิงที่ออกจากห้องเขากี่คนต่อกี่คนก็ดี๊ด๊ากันสุด ๆ ทุกคนนิหว่า เหอะ
“แล้วนี่ ที่คุณให้ฉันมานอนด้วย คือมาทำอะไร”
“ยังไม่ถึงเวลาของคุณ ตอนนี้คุณอยากทำอะไรก็ทำรอผมไปก่อน หรือไม่คุณก็ไปนั่งเล่น นอนเล่นรอผมที่ห้องนอนได้เลย ผมอยากจะจัดการงานด่วนพรุ่งนี้ที่จะเกิดขึ้นก่อนให้เสร็จ”
“งานด่วนพรุ่งนี้ เกี่ยวกับโครงการที่บริษัทฉันร่วมรับผิดชอบมั้ยคะ”
“ไม่หรอกมันเป็นอีเว้นท์งานแต่งของนักการเมือง สส.คนดัง”
“งานแต่งงานพรุ่งนี้ ของนักการเมือง???”
“อืม เขาต้องการจัดงานที่โรงแรมแห่งนี้”
“แต่โรงแรมคุณยังรีโนเวทไม่เสร็จเลยนะ คุณเปิดให้เขามาจัดทั้งที่ยังไม่เปิดเป็นทางการแบบนี้ได้เหรอคะ”
“เขาขอร้อง บอกว่าต้องการแต่งงานที่นี่เท่านั้น แถมทุ่มเงินมาเยอะมากด้วย อีกอย่างเส้นสายเขาไม่ธรรมดา ก็เลยบริการให้หน่อยไว้สร้างคอนเนคชั่น”
“อ่อ ขอร้องมาด้วยแถมทุ่มเงินไม่อั้น สส.คนนั้นคงมีเหตุผลจริง ๆ”
เดี๋ยวนะ งานแต่งวันพรุ่งนี้ หรือว่า.....แฟนของคุณผีชื่อปาน คือสส.คนดังแน่ ๆ ดูท่าสส.คนนี้จะเป็นคนดี คนที่รักแฟนจริง ๆ แหะ ถึงขนาดขอร้องมาจัดที่โรงแรมที่ยังสร้างไม่เสร็จแบบนี้.... “คุณปาน ดีใจด้วยนะคะ ดูเหมือนแฟนของคุณจะรักษาสัญญากับคุณจริง ๆ” อดตื่นเต้นด้วยไม่ได้เลยแหะ หวังว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ชื่นมื่นอบอุ่นหัวใจ หลังจากที่มีแต่พี่ ๆ ผีพาแต่เรื่องหนักหน่วงชวนปวดเฮดมาตลอดล่ะนะ
‘ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...’ เสียงเคาะประตูดังสนั่นไปทั่วบ้าน ฉันที่กำลังล้างจานอยู่ จึงต้องรีบล้างมือ เพื่อเดินออกไปเปิดประตู ดูว่าใครกันที่มาหากันตั้งแต่เช้าในวันหยุดแบบนี้ฉันเปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือนในยามเช้า ที่แท้ก็เป็นคุณป้าข้างบ้านคนดังนี่เอง ท่าทีของเขาดูสั่นกลัวเล็กน้อย มือสองข้างกุมกันแน่นถนัด แถมสายตายังไม่กล้าจะสบตาฉันด้วยซ้ำ“มีอะไรเหรอคะ คุณป้า” ฉันเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเย็นเฉียบ“หนูฟ้าครามจ๊ะ คือว่า....”“...” ฉันเงียบ กอดอกมองดูคุณป้าตรงหน้าอย่างเฉยเมยที่เห็นว่าเขามีท่าทีกลัวฉันแบบนี้ แท้จริงแล้วคุณป้าข้างบ้านกับฉันเรามีเรื่องกันมาย้อนกลับไปเมื่อสองวันก่อนป้าคนนี้อาละวาดด่ากราดหน้าปากซอยใส่คนไปทั่ว จนคนในซอยนี้เอือมระอากรนด่าหนักแต่สุดท้ายก็ไม่มีใครจะต้านสกิลปากร้ายของป้าเขาได้เลยฉันเพิ่งเลิกจากที่ทำงานต้องเดินผ่านตรงที่เกิดเรื่องพอดี กลับมัวเดินสนใจแต่มือถือ จึงกลายเป็นว่าฉันเดินชนป้าเขาอย่างจัง จากนั้นฉันจึงกลายเป็นเป้าสนามอารมณ์ให้กรนด่าหน้าปากซอยในวันนั้นให้คนเห็นกันไปทั่วจนเป็นจุดสนใจฉันโดนป้าคนนี้ยืนด่าฉอด ๆ หาว่าไร้มารยาท แม้จะกล่าวขอโทษไ
ณ. บริษัท“ขออเมริกาโน่เย็นคั่วเข้มไม่ใส่น้ำตาลหนึ่งแก้วค่ะ” ฉันเอ่ยกับบาริสต้าร้านกาแฟใต้ตึกที่ทำงาน เพื่อสั่งกาแฟ“วันนี้คุณฟ้าเปลี่ยนเมล็ดสินะคะ” บาริสต้าเอ่ยทักเพราะโดยปกติแล้วฉันจะทานคั่วกลางเป็นประจำ“พอดีอยากได้รสชาติเข้ม ๆ ขม ๆ กว่าปกติหน่อยค่ะ”“ได้ค่ะ เดี๋ยวคุณฟ้านั่งรอสักครู่นะคะ” ฉันส่งยิ้มให้ก่อนจะหาเก้าอี้นั่งเพื่อรอกาแฟบรรยากาศในบริษัท ผู้คนคึกคักเนืองแน่น เวลาแปดโมงเช้าเป็นเวลาที่พนักงานหลายคนกำลังทยอยกันเข้าบริษัท ฉันเองก็ไม่เคยขาดลามาสายเท่าไหร่ แม้ตำแหน่งที่เป็นอยู่จะสูง แต่ฉันก็เดินเตร็ดเตร่ไม่ต่างจากพนักงานทั่ว ๆ ไปจนพวกเขาชินตากันแล้วรูปลักษณ์ของฉัน ที่ใคร ๆ ในบริษัทต่างอธิบายกันปากต่อปากบอกว่าฉันเป็นคนหน้าดุ แต่ดวงตาก็คมสวย ผิวขาวค่อนไปซีด ผมยาวเกือบเอวสีดำขลับ หน้าม้าตัดตรงสวยเฉี่ยว นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนชวนให้ลุ่มหลงจนเผลอจ้องไม่กะพริบตาดูท่าคำพูดเหล่านี้สำหรับฉันมันออกจะเกินไปหน่อยละนะ ถ้าในเรื่องรูปลักษณ์ทุกคนก็พูดไปในทางที่ดีแหละแต่เมื่อเป็นเรื่องนิสัยใจคอล่ะก็คนละขั้วกันเลย บ้างก็บอกว่าฉันเป็นคนน่ากลัว เหี้ยมโหด ขึงขัง พูดกันปากต่อปาก จนทำให้พนักงานที่ไม
ณ.โรงแรมแกรนด์ปาร์คฉันขับรถส่วนตัวมาจนถึงโรงแรมหรูแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ก่อนเดินเข้าไปในโรงแรม และแวะเข้าห้องน้ำก่อนฉันมองตัวเองสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนเข้างาน“แต่งโป๊ไปรึเปล่านะ แต่ไม่หรอก ชุดก็ไม่ได้เปิดอะไรมากซะหน่อย ผู้หญิงที่ผ่านตาในงานยังชุดแหวกกว่าฉันซะอีก” ฉันส่ายหน้าไปมาก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำหยิบมือถือต่อสายหาไอ้กรณ์ทันที“ฉันมาแล้ว ท่านประธานอยู่ไหนคะ” ฉันเข้าสู่บทละคร ในฐานะ ลูกน้องของท่านประธานฝืนใจชะมัด“อยู่ด้านใน ฟ้าครามคุณเข้ามาได้เลย” ทุกคนอาจจะสงสัยทำไมฉันถึงต้องสุภาพกับไอ้กรณ์ในขณะโทรศัพท์ตอนนี้ใช่มั้ย แน่นอนว่า งานนี้เป็นดีลที่มีมูลค่าสูงมาก แต่ตอนนี้รอบตัวของกรณ์ ก็คงรายล้อมไปด้วยซีอีโอบริษัทคู่แข่ง ดังนั้นการสร้างภาพลักษณ์ของซีอีโอให้ดูน่าเกรงขามจึงสำคัญมาก ๆ เพื่อชักจูงให้ดูเป็นที่น่าเชื่อถือ และนี่คือสาเหตุที่ฉันไม่ชอบไปดีลงานไหนกับไอ้กรณ์ เพราะสุดท้ายต้องคอยทำเป็นนอบน้อมให้ตัวมันนั้นดูสง่าราศีที่สุด ถ้าไม่ใช่เพื่อบริษัทที่ฉันก็ได้รับผลประโยชน์ล่ะก็ ไม่มีทางที่ฉันจะมาอ่อนหวานต่อหน้ามันแน่ภายในงานเต็มไปด้วย คนชนชั้นสูง และเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวง
“ปล่อยมือออกจากคอฉันเดี๋ยวนี้นะ” ฉันจ้องเขม็งใส่เขา ภายในใจเดือดดาล ไม่น่าหาเหาใส่ตัวเลยฉัน เขาคงคิดว่าฉันมาเสือกสิท่า “สวยดีนี่ ได้ค่าจ้างไปแล้วทำไมไม่รีบเข้ามาอีก” เขาสะบัดมือออกจากคอฉัน “แค่ก...แค่ก” ฉันไอหนักมากเพราะมือแกร่งที่บีบคอฉันเมื่อกี้มันค่อนข้างรุนแรงจนแทบหายใจไม่ออก ดวงตาที่จ้องมองเขา เบนไปมองด้านในห้อง นอกจากพบว่าผีจำนวนมากอยู่ในนั้นแล้ว ยังมีผู้หญิงเปลือยอยู่ในนั้นอีกตั้งสองคน นี่มันวิกลจริตไปแล้ว ฉันต้องหนีจากที่นี่ก่อนฉันหันหลังคิดจะเดินหนี แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาไปสักก้าว ก็ถูกมือหนาจับดึงเข้าหาเขาอย่างแรง“ปล่อย...ฉันมาผิดห้อง ฉันไม่ได้มาขายตัว”“ผิดห้อง เหอะ เดินมาดุ่ม ๆ ขึ้นมาเคาะประตูห้องขนาดนี้ จะผิดห้องได้ไง รีบเข้ามา ถ้าไม่อยากเจ็บตัว ลีลาอยู่ได้”“เข้าไปฉันก็โง่แล้ว อั่ก” ทันทีที่ยังพูดไม่จบ ฉันก็ถูกมือหนาบีบคางแน่นจนเจ็บ แถมยังถูกดึงเข้าไปให้แนบชิดตัวเขา ริมฝีปากหนาของเขาโน้มเข้ามาประกบปากกับริมฝีปากบางของฉันอย่างตั้งใจแถมไม่มีความปราณีใด ๆ มันเป็นจูบที่รุนแรงราวกับลิ้นบางของฉันกำลังจะถูกกลืนกิน ฉันที่ตอนนี้เริ่มทำตัวไม่ถูกจึงทำไ
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปฉันเดินเข้าบริษัทตามเคย แต่เพราะหลายวันมานี้ ฉันนอนไม่ค่อยหลับ นอกจากพวกผีตามทางจะคอยแวะเวียนมาหาแล้ว เรื่องเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนก็ยังตามมากวนใจเสมอ ฉันสลัดดวงตาดุดันนั้นไม่ออกเลย ราวกับมันเป็นรอยประทับที่เมื่อเห็นเพียงครั้งก็จะจดจำไปจนตายซะอย่างนั้น“อั่ก...” เป็นเพราะฉันเหม่อ ขณะที่จะเดินไปยังห้องของท่านประธาน ทำให้เดินชนใครสักคนอย่างจัง ให้ตายเถอะต้องเรียกสติตัวเองให้กลับมาหน่อยแล้ว“ขอโทษทีค่ะ เป็นฉันไม่ระวังเอง” ฉันหันไปสบตาก่อนที่จะเอื้อมมือไปช่วยเขา แต่ไม่รู้เพราะใบหน้าของฉันที่มันดูตาขวาง ดุดัน แถมไม่ได้นอน ทำให้คนตรงหน้าตกใจตื่นกลัวจนตัวสั่น พูดจาฟังไม่รู้เรื่อง“ผมไม่ได้เป็นอะไรครับ ผมผิดเองที่เดินชนผู้จัดการ”“หืม...เรียกฉันว่าผู้จัดการแบบนี้ แสดงว่าพนักงานใหม่สินะ”“ครับ” ชายตรงหน้ายืนสำรวมก้มหน้า กุมมือตัวสั่นงึก ๆ ดูท่าฝ่ายอบรมคงเอาฉันไปพูดอะไรไม่เข้าท่าให้คนตื่นกลัวแบบนี้อีกแล้วนะสิ เอาซะตอนนี้คนทั้งบริษัทที่อยู่ใต้อำนาจมองฉันเป็นนางยักษ์นางมารกันหมดแล้วไม่นานเลขาของไอ้
ณ.ท่าเรือฉันกับไอ้กรณ์เรามาถึงยังจุดนัดพบ คราวแรกนึกว่าจะมีคนไม่เท่าไหร่ แต่จากที่ดู คนทั้งหมดในบริเวณนี้กลับมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นคือเกาะโรงแรมที่พวกเรากำลังจะไป“ไอ้กรณ์ แกแน่ใจนะว่าเราดีลได้งาน ดูท่าเหมือนแค่เรียกเราไปเพื่ออวดโรงแรมเฉย ๆ รึเปล่า”“ไม่หรอก เขาบอกว่าบริษัทเราจะเป็นส่วนหนึ่งในการปรับปรุงโรงแรมเลยนะ”“เอาเถอะ ก็ขอให้ไม่ไปเสียเที่ยวละกัน ได้งานติดมือมาสักหน่อยก็ยังดี แต่มันน่าแปลกอยู่อย่างนะ”“ยังไง” ไอ้กรณ์หันมาพูดกับฉันเพราะไม่เข้าใจเรื่องที่ฉันจะสื่อ“ทุกบริษัทที่เขาชวนมา ทำไมต้องมีผู้หญิงอยู่ด้วยทุกคนวะ ขนาดแกเองยังต้องมีฉันเลยแปลก ๆ”“...” ไอ้กรณ์ทำหน้าคิดตาม “จริงแหะ พอสังเกตแล้ว เหมือนผู้หญิงจะเยอะกว่าผู้ชายด้วย สวยทั้งนั้น หวานหมู”“ไอ้กรณ์ ช่วยเป็นการเป็นงานหน่อยเถอะ”“ฟ้าคราม มึงอย่าคิดมากเลย ไม่มีอะไรหรอก”“เฮ้อ...เออ ไม่คิดก็ได้”ตอนนี้ทุกคนอยู่บนเรือกันหมดแล้ว เรือลำใหญ่ลำนี้ก็กำลังฝ่าคลื่นมุ่งหน้าไปยังเกาะขนาดใหญ่ที่เป็นจุดหมายปลายทางไ
ใบหน้าหล่อคมคาย สายตาน่าลุ่มหลง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ กับหุ่นที่น่า... ขนาดนี้ เท่าที่เคยพบในชีวิตนี้ก็มีอยู่คนเดียว คนที่ทำให้ตกหลุมรัก และอยากหลีกหนีไปพร้อม ๆ กัน“เจอกันอีกแล้วนะ” เขาพิงหลังไปตามราวระเบียงโดยที่มือทั้งสองจับราวไว้ ทำเป็นเท่(แต่ก็เท่จริงแหละ เฮ้อ)“เออ...คือว่าฉันมาผิดทาง ขอตัวก่อนค่ะ” ฉันรีบหันหลังให้อย่างไวก่อนที่จะมีเสียงเรียก ถ้าเป็นตามปกติแล้วฉันคงเดินหนีไปไม่ยาก แต่เสียงเรียกของเขามันดุดัน แถมแรงกดดันบางอย่างทำให้ฉันตัวหนักอึ้งจนก้าวขาไม่ออก ‘ให้ตายเถอะ ทำไมซวยแบบนี้ ไม่รู้ว่าไปทำเวรทำกรรมกับเขาไว้ตอนไหน’“ผมบอกให้คุณหยุด...เดี๋ยวนี้” ฉันได้ยินดังนั้นก็หันหน้ากลับมามองเขาราวกับกำลังถูกมนต์สะกด ฉันไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบตา เพราะเขาเองก็เพ่งมองฉันด้วยสายตาที่ทำเอาหัวใจเต้นแทบจะหลุดออกจากอก“คะ...คุณมีอะไรกับฉันเหรอคะ”“คุณชื่ออะไร” เสียงอันนุ่มลึกนั่นถามฉันด้วยท่าทีที่เริ่มเป็นมิตร“ฟ้าครามค่ะ” ฉันตอบไปแบบเก้ง ๆ กัง ๆ“อืม” เขาตอบสั้น ๆ ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองทะเลอันกว้างไกล“ฉันไปได้แล้วใช่มั้ยคะ”
8- เมาขาดสติ -(- -) (o o) (0 0) นี่คือสีหน้าของฉันเมื่อลืมตาตื่นขึ้น‘เชี่ยแล้ว ยัยฟ้า ตัวแกทำอะไรลงไปเนี่ย’ ดวงตาฉันเบิกกว้าง ร่างกายที่รู้สึกว่าไร้การห่อหุ้มจากเสื้อผ้า เมื่อเปิดดูร่างกายตัวเองภายใต้ผ้าห่มที่คลุมอยู่ ก็รับรู้ได้ถึงความเย็นวาบจากร่างกายเปลือยเปล่า ดูเหมือนจะมีรอยไปทั่วตัว ‘ระ..รุนแรงอะไรอย่างนี้’ ฉันเริ่มทำตัวไม่ถูก และค่อยๆ หันมองไปยังคนที่นอนข้าง ๆ‘คุณพระ!!! นี่มันคุณเอ็ดเวิร์ด’ ฉันยกมือปิดปากตัวเองทันที จากที่สะลืมสะลือ ตอนนี้รู้สึกตื่นเต็มที่ชนิดที่อยากจะวาปหนีจากตรงนี้ไปให้ไกลแล้วรอยตามตัวเขานั่นมันอะไรกันทำไมถึงเยอะขนาดนั้น คราวก่อนที่เคยเจอกัน แม้เขาจะกำลังมีเซ็กซ์กับผู้หญิงหลายคน แต่ตอนนั้นร่างกายเขาแทบขาวสะอาด ไร้รอยประทับด้วยซ้ำ แม้แต่รอยลิปสติกยังไม่มี แต่คราวนี้ตามตัวเขาดันเป็นรอยใหม่ ๆ ซะด้วย เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่า เป็นฉันที่ฝากไว้ ยัยหื่น ยัยเรื้อน ยัยลามกเอ้ย คอแกได้ขาดสะบั้นแน่ถ้าเขาตื่นทั้งที่รู้ว่าฉันเมาแล้วฉันจะเป็นแบบนี้ ฉันก็ยังดื่มเหล้ากับคนที่พึ่งพบกันครั้งแรกอีก เรื่องนี้จะโทษใครไม่ได้เลยนอกจากตัวฉันเองคุณเอ็ดเวิร์ดคงไม่คิดอะไร ไม่งั้นค
เมื่อขึ้นลิฟท์และเดินมาจนถึงหน้าห้องของคุณเอ็ดเวิร์ดนั้น ก็พบว่ามีลูกน้องจำนวนหนึ่งยืนเฝ้าประตูอย่างรัดกุมอยากจะบ้าแบบนี้เข้าไปในนั้น คนของเขาก็รู้กันหมดนะสิ แล้วฉันจะถูกมองต่างอะไรจากสาว ๆ พวกนั้นกัน ไม่สิฉันยังดูแย่กว่าพวกสาว ๆ นั่นอีก อย่างน้อยพวกเขาก็คงได้เงินเป็นฟ่อน แล้วฉันมานอนกับเขาได้อะไร... แค่ได้เอาเนี่ยนะฉันยืนนิ่งคิดไปต่าง ๆ นา ๆ แบบนั้น จนพวกลูกน้องของเขาต้องเอ่ยเรียก ให้ฉันตื่นจากภวังค์ความคิดบ้า ๆ พวกนี้“คุณฟ้าครับ เชิญด้านในครับ นายรออยู่”“ค่า.......” ฉันเดินไปแบบหน้าเซง ๆ แต่ก่อนเข้าไป ฉันต้องหันไปพูดกับพวกลูกน้องเขาก่อน ฉันว่าพวกนี้ต้องเอาฉันไปซุบซิบเม้ามอยในกอไผ่แน่ ๆ“เอ่อ...พวกคุณคะ”“ครับ”“อย่าเข้าใจผิดนะคะ ฉันไม่ได้มาขายตัว”“คุณฟ้าอย่าได้กังวลครับ พวกเราไม่มีอำนาจหรือพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับนายท่านได้ รวมถึงคนที่เกี่ยวข้องกับนายครับ คุณฟ้ารีบเข้าไปดีกว่าครับ ก่อนที่นายท่านจะอารมณ์เสีย”“ค่ะ ถ้าคุณพูดแบบนี้ฉันก็สบายใจ ขอโทษที่รบกวนนะคะ” ฉันยิ้มให้เขาก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องของคุณเอ็ดเวิร์ด เพียงเปิดประตูเข้าไปฉันก็ค่อย ๆ เดินมองซ้ายมองขวาไปทั่วบริเวณ“ไม่อ
14- เหยียบกับระเบิด – ฉันถึงกับต้องอ้าปากค้าง นิ่งทื่อราวกับโดนตอกเสาเข็มปักหมุดให้ขยับไปไหนไม่ได้ อยากปฏิเสธใจจะขาด แต่มันมีหนทางให้ฉันพูดออกไปว่าไม่ทำได้ยังไง ในเมื่อเป็นฉันเองที่ จุดชนวนนี้มันกับมือ “คุณเอ็ดเวิร์ด คุณพูดผิดรึเปล่าคะ ให้ฉันเนี่ยนะมานอนห้องนี้กับคุณ” “ใช่...” ฉันจ้องมองไปที่เขา สีหน้าสุขุมจริงจังแบบนั้น แถมยังกอดอกพยักหน้ายืนยันว่าฉันไม่ได้ฟังผิด และเข้าใจถูกต้องแล้ว“ทำไมคะ ทำไมฉันต้องมานอนห้องนี้กับคุณ เอ่อ คุณเอ็ดเองก็ใช้บริการสาว ๆ ปกติอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ ก็เรียกใช้อย่างที่เคย ๆ ไปสิคะ” ฉันพูดออกไปตรง ๆ แน่ล่ะ ฉันน่ะเห็นผู้หญิงเข้าออกห้องเขาก็บ่อย แถมยังไม่เคยจะซ้ำหน้ากันเลยสักคนขนาดนั้น ถึงฉันจะเคยพลาด (มั้ง) นอนกับเขาไปสองสามหน แต่ฉันก็ไม่ได้อยากจะลดตัวไปเป็นนางบำเรอประจำตัวให้เขาซะหน่อย “...” แต่แทนที่เขาจะพูดอะไรออกมาสักคำ เขากลับจ้องมองฉันด้วยสายตาดุดัน ราวกับว่าคำพูดของเขานั้นคือคำสั่ง “โอเคค่ะ มานอนห้องนี้ก็ได้ค่ะ งั้นฉันกลับห้องของฉันได้แล้วใช่มั้ยคะ” เขาลุกขึ้นหันจ้องมองฉัน
13- คนของฉัน –“คุณเอ็ด ฉันดื่มได้มั้ย ส่วนที่ฉันดื่มฉันจ่ายเองก็ได้” ฉันหันไปเอ่ยกับเขา มันน่าเบื่อเกินไปถ้าจะให้ฉันนั่งเฉย ๆ ในเมื่อพวกเขาไม่คุยงานกันแล้ว ฉันก็ไม่เกรงใจแล้วล่ะเขาหันมาหาฉันก่อนที่จะวางแก้วเหล้าของตัวเอง“แน่ใจว่าคุณจะดื่ม”“ค่ะ ในเมื่อพวกคุณไม่คุยงานกันแล้ว และคุณเอ็ดเวิร์ดไม่ให้ฉันกลับฉันก็จะนั่งดื่มเงียบ ๆ ส่วนคุณจะอยู่กับสาว ๆ เหมือนเพื่อน ๆ ของคุณก็เต็มที่ได้เลยค่ะ”“...” เขาเงียบไป แต่เพื่อนนัยน์ตาหวานที่มองอยู่ ก็คว้าขวดเหล้า แล้วผสมเหล้า เทลงแก้วนำมาวางตรงหน้าฉัน“เรื่องแค่นั้นคุณไม่ต้องถามไอ้เอ็ดมันหรอก ดื่มเถอะครับ ผมผสมให้”“เอ่อ.. ขอบคุณค่ะ”“ว่าแต่คุณชื่ออะไรครับ ผมมาติน”“ฉันชื่อฟ้าครามค่ะ”“ชื่อเพราะดีครับ นี่แก้วเหล้าของคุณฟ้าครับ”“ขอบคุณค่ะ” ฉันรับมันมาพร้อมส่งยิ้มให้ตามมารยาท“น้อย ๆ หน่อยไอ้ติน ก่อนที่ไอ้เอ็ดมันจะอารมณ์เสีย” ชายคิ้วบากเอ่ยท้วง ก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างไม่ใส่ใจนักฉันคว้าแก้วเหล้าก่อนจะดื่มมันลงไป เข้มจริง แต่ก็อร่อยมาก ๆ นี่คือรสชาติของเหล้าแพง ๆ เหรอเนี่ย ทำเอาหยุดดื่มไม่ได้เลยแหะ“ผู้หญิงนายดื่มเก่งนะเนี่ย แต่ช่วยเตือนเธอหน่อย
12- ขอให้โชคดี –ฉันข้ามฝากมาอีกฝั่งในตัวเมือง เพราะการนัดเจอกับคนใหญ่คนโตครั้งนี้ เป็นคลับหรูแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ที่คุณเอ็ดเวิร์ดไม่ได้นัดเจอพวกเขาที่โรงแรมบนเกาะเพราะตอนนี้ยังอยู่ในช่วงรีโนเวทอยู่แหละนะหลังจากลงจากเรือฉันก็เดินไปยังรถเก๋งสีดำที่จอดเทียบอยู่“คุ...คุณเอ็ดเวิร์ด ทำไมอยู่ตรงนี้คะ”“ทำไมผมจะอยู่ตรงนี้ไม่ได้ นี่มันรถผม”“เปล่าค่ะ ดิฉันไม่ได้หมายถึงแบบนั้น ดิฉันนึกว่าคุณเอ็ดเวิร์ดไปคลับก่อนแล้วน่ะค่ะ”“รีบขึ้นรถเถอะ เวลาของผมมีค่า”“ขอโทษค่ะ” ฉันรีบวิ่งจะอ้อมไปนั่งด้านหน้า แต่จู่ ๆ ก็โดนลูกน้องของคุณเอ็ดเวิร์ดห้ามไม่ให้เปิดประตูด้านหน้า“คุณฟ้าครามต้องนั่งด้านหลังครับ”“ให้ฉันนั่งข้างคุณเอ็ดเวิร์ดไม่ดีมั้งคะ”“มัวทำอะไรอยู่” สิ้นคำ เสียงอันบาดลึกก็เปล่งออกมาด้วยความหงุดหงิด“คุณฟ้ารีบขึ้นเถอะครับถ้าบอสโกรธผมตายแน่”“ค่ะ..ค่ะ” ฉันรีบเปิดประตูรถด้านหลังก่อนจะรีบนั่งลงไป ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองคนข้าง ๆ ภายในรถเงียบเฉียบ แค่เผลอกลืนน้ำลายก็ทำเอาได้ยินชัดเจน“จำเป็นต้องพก เครื่องดื่มมาคลับด้วยเหรอ”“เอ๊ะ จริงสิ!! คุณเอ็ดเวิร์ดคะ ช่วยแวะที่หนึ่งได้มั้ยคะ เป็นทางผ่าน 10 นาที
11- วันแรก –เช้าตรู่เวลา07.00 น. ฉันตื่นตามนาฬิกาปลุกที่ตั้งเอาไว้ แต่งตัวด้วยชุดเสื้อสูทกระโปรงทรงเอ รวบผมให้เข้าที่ แต่งหน้าอ่อน ๆ ไม่ฉูดฉาดมากนัก ให้สมกับมาทำงานนั่นแหละฉันออกจากห้องของตัวเอง พอได้ลองสังเกตดี ๆ ชั้นแปดมีไม่กี่ห้องเองแหะ แถมไม่ค่อยมีใครอยู่ชั้นนี้เลย แล้วคนจากบริษัทอื่นที่ได้มาร่วมงานในช่วงเวลาการปรับปรุงโครงการนี้เขาพักกันชั้นไหนกันนะ“ช่างเถอะ รีบไปรายงานตัวก่อนไม่งั้นคงไม่ดีกับภาพลักษณ์บริษัทแน่”ฉันเดินลงไปยังห้องประชุมเดิมที่เคยมาก่อนหน้า เริ่มเห็นคนจากบริษัทอื่นที่ต้องมาทำงานอยู่ที่นี่ ต่างคนต่างมองหน้ากันไปมาอย่างช่างใจ แต่ก็ไม่ได้มองเขม่นกันหรอก เพราะยังไงแต่ละคนก็รับผิดชอบงานกันแต่ละส่วนอยู่แล้วทุกคนนั่งลงรอภายในห้องประชุมก่อนที่จะมีพนักงานจากกลุ่มนายทุนเข้ามาแจกแจงให้เราไปยังจุดที่แต่ละบริษัทต้องรับผิดชอบบริษัทของฉันที่ได้รับผิดชอบโครงการใหญ่ในการออกแบบห้องพักทั้งตึกB ทั้งหมดนั้น จำเป็นที่จะต้องเดินสำรวจให้ทั่ว คำนวณขนาดห้องแต่ล่ะชั้นเพื่อให้ออกแบบได้เหมาะสม และสามารถแบ่งเป็นสัดส่วนในแต่ละราคาได้สินะแผนงานคร่าว ๆ ที่ทางเจ้าของโครงการต้องการก็ไกด์ไลน
10 - อภิสิทธ์ชั้น 8 – วันรุ่งขึ้น ฉันที่ตระเตรียมกระเป๋าเดินทางพร้อมกับชุดมากมายและสิ่งของจำเป็นเรียบร้อยแล้ว ไม่นานรถเก๋งคันหรูก็มารับถึงหน้าบ้าน สวัสดิการจะดีไปไหนเนี่ย ฉันถูกพาข้ามฟากด้วยเรือยอร์ชที่ทางบริษัทจัดเตรียมไว้ จู่ ๆ ก็รู้สึกพะอืดพะอม มวนท้องจนอยากจะอ้วก เพราะเรือขับด้วยความเร็วสูงมาก เมื่อเรือมาถึงโรงแรมบนเกาะและจอดเทียบท่า ฉันก็รีบลงจากเรือทันทีก่อนจะดิ่งไปยังม้านั่งที่อยู่ไม่ไกลนัก “คุณฟ้าครามครับ ไหวรึเปล่าครับ” “เวียนหัวนิดหน่อยค่ะ ถ้าไม่รบกวนช่วยนำกระเป๋าเข้าไปให้ก่อนได้มั้ยคะ ฟ้าขออนุญาต นั่งพักตรงนี้สักครู่หน่อยน่ะค่ะ” “ได้ครับเดี๋ยวผมจะบอกให้เจ้าหน้าที่โรงแรมจัดการเรื่องที่พักพร้อมนำกระเป๋าไว้ที่ห้องให้นะครับ หากคุณฟ้าครามดีขึ้นแล้วสามารถเข้าไปรับกุญแจที่เจ้าหน้าที่โรงแรมที่เคาน์เตอร์ได้นะครับ” “ได้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” หลังจากที่คนของนายทุนกลับไปฉันก็นั่งอยู่ตรงม้านั่ง พักสูดอากาศหายใจอาการเวียนหัวเจียนจะอ้วก เริ่มดีขึ้น แต่ยังคงมวนท้องอยู่หน่อย ๆ ทะเลตรงหน้าที่สวยงามพอเยียวยาให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้างล่ะนะ “คุณลุงคะทำไมถึงยังนั่งอยู่ตรงนี้คะ” ‘...’ “งั้นเหร
9- ร่วมมือ – “เดี๋ยวสิครับ พวกคุณจะปฏิเสธผมเพราะเรื่องแค่นี้ไม่ได้ ขอร้องเถอะครับ บริษัทผมอยากร่วมโครงการนี้จริง ๆ โปรดให้อภัยผมเถอะครับ” แม้นักธุรกิจคนนั้นจะวิงวอนเท่าไหร่ แต่ทางกลุ่มนายทุน ก็จับเขาโยนออกไปนอกประตูอย่างเลือดเย็นนักธุรกิจหลายบริษัทที่พกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม ตอนนี้กลับมีท่าทีหวั่นเกรง กับกลุ่มนายทุนร่ำรวยนี้ จากที่มั่นอกมั่นใจว่าเขาต้องเลือก กลายเป็นภาวนาให้บริษัทของตนได้อยู่ในสายตาบ้างก็พอแล้ว“กรณ์ แกว่าพวกเราจะได้ร่วมงานมั้ยเนี่ย ดูท่าไม่ง่ายอย่างที่คิดนะ”“อืม ก็ว่างั้น ยังไงพวกเราดูท่าทีไปก่อน ไม่ได้ก็ช่างมัน ตอนนี้ขอแค่ไม่ทำให้อับอายต่อหน้าคนบริษัทอื่น ๆ ก็พอ” ฉันกับไอ้กรณ์พยักหน้าเห็นด้วย ตอนนี้ไม่ใช่เวลาห่วงว่าได้งานรึเปล่า แต่กลับต้องมาห่วงภาพลักษณ์ขององค์กรต่อหน้าบริษัทอื่นแทน ‘ดูท่างานนี้ไม่ใช่เรื่องกล้วย ๆ ซะแล้ว’เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย กลับเข้าสู่สถานะปกติ ทางกลุ่มนายทุนจึงได้ประชุมต่อ“ผมหวังว่าพวกคุณที่อยู่ในนี้จะไม่เอ่ยถามหาประธานของเรา”“...” ทุกคนในที่ประชุมเงียบเฉียบตั้งใจฟัง“ทางเราจะเรียกบริษัทที่เราจัดลำดับไว้เข้าพบเพื่อให้ท่านได้นำ
8- เมาขาดสติ -(- -) (o o) (0 0) นี่คือสีหน้าของฉันเมื่อลืมตาตื่นขึ้น‘เชี่ยแล้ว ยัยฟ้า ตัวแกทำอะไรลงไปเนี่ย’ ดวงตาฉันเบิกกว้าง ร่างกายที่รู้สึกว่าไร้การห่อหุ้มจากเสื้อผ้า เมื่อเปิดดูร่างกายตัวเองภายใต้ผ้าห่มที่คลุมอยู่ ก็รับรู้ได้ถึงความเย็นวาบจากร่างกายเปลือยเปล่า ดูเหมือนจะมีรอยไปทั่วตัว ‘ระ..รุนแรงอะไรอย่างนี้’ ฉันเริ่มทำตัวไม่ถูก และค่อยๆ หันมองไปยังคนที่นอนข้าง ๆ‘คุณพระ!!! นี่มันคุณเอ็ดเวิร์ด’ ฉันยกมือปิดปากตัวเองทันที จากที่สะลืมสะลือ ตอนนี้รู้สึกตื่นเต็มที่ชนิดที่อยากจะวาปหนีจากตรงนี้ไปให้ไกลแล้วรอยตามตัวเขานั่นมันอะไรกันทำไมถึงเยอะขนาดนั้น คราวก่อนที่เคยเจอกัน แม้เขาจะกำลังมีเซ็กซ์กับผู้หญิงหลายคน แต่ตอนนั้นร่างกายเขาแทบขาวสะอาด ไร้รอยประทับด้วยซ้ำ แม้แต่รอยลิปสติกยังไม่มี แต่คราวนี้ตามตัวเขาดันเป็นรอยใหม่ ๆ ซะด้วย เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่า เป็นฉันที่ฝากไว้ ยัยหื่น ยัยเรื้อน ยัยลามกเอ้ย คอแกได้ขาดสะบั้นแน่ถ้าเขาตื่นทั้งที่รู้ว่าฉันเมาแล้วฉันจะเป็นแบบนี้ ฉันก็ยังดื่มเหล้ากับคนที่พึ่งพบกันครั้งแรกอีก เรื่องนี้จะโทษใครไม่ได้เลยนอกจากตัวฉันเองคุณเอ็ดเวิร์ดคงไม่คิดอะไร ไม่งั้นค
ใบหน้าหล่อคมคาย สายตาน่าลุ่มหลง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ กับหุ่นที่น่า... ขนาดนี้ เท่าที่เคยพบในชีวิตนี้ก็มีอยู่คนเดียว คนที่ทำให้ตกหลุมรัก และอยากหลีกหนีไปพร้อม ๆ กัน“เจอกันอีกแล้วนะ” เขาพิงหลังไปตามราวระเบียงโดยที่มือทั้งสองจับราวไว้ ทำเป็นเท่(แต่ก็เท่จริงแหละ เฮ้อ)“เออ...คือว่าฉันมาผิดทาง ขอตัวก่อนค่ะ” ฉันรีบหันหลังให้อย่างไวก่อนที่จะมีเสียงเรียก ถ้าเป็นตามปกติแล้วฉันคงเดินหนีไปไม่ยาก แต่เสียงเรียกของเขามันดุดัน แถมแรงกดดันบางอย่างทำให้ฉันตัวหนักอึ้งจนก้าวขาไม่ออก ‘ให้ตายเถอะ ทำไมซวยแบบนี้ ไม่รู้ว่าไปทำเวรทำกรรมกับเขาไว้ตอนไหน’“ผมบอกให้คุณหยุด...เดี๋ยวนี้” ฉันได้ยินดังนั้นก็หันหน้ากลับมามองเขาราวกับกำลังถูกมนต์สะกด ฉันไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบตา เพราะเขาเองก็เพ่งมองฉันด้วยสายตาที่ทำเอาหัวใจเต้นแทบจะหลุดออกจากอก“คะ...คุณมีอะไรกับฉันเหรอคะ”“คุณชื่ออะไร” เสียงอันนุ่มลึกนั่นถามฉันด้วยท่าทีที่เริ่มเป็นมิตร“ฟ้าครามค่ะ” ฉันตอบไปแบบเก้ง ๆ กัง ๆ“อืม” เขาตอบสั้น ๆ ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองทะเลอันกว้างไกล“ฉันไปได้แล้วใช่มั้ยคะ”