ณ.ท่าเรือ
ฉันกับไอ้กรณ์เรามาถึงยังจุดนัดพบ คราวแรกนึกว่าจะมีคนไม่เท่าไหร่ แต่จากที่ดู คนทั้งหมดในบริเวณนี้กลับมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นคือเกาะโรงแรมที่พวกเรากำลังจะไป
“ไอ้กรณ์ แกแน่ใจนะว่าเราดีลได้งาน ดูท่าเหมือนแค่เรียกเราไปเพื่ออวดโรงแรมเฉย ๆ รึเปล่า”
“ไม่หรอก เขาบอกว่าบริษัทเราจะเป็นส่วนหนึ่งในการปรับปรุงโรงแรมเลยนะ”
“เอาเถอะ ก็ขอให้ไม่ไปเสียเที่ยวละกัน ได้งานติดมือมาสักหน่อยก็ยังดี แต่มันน่าแปลกอยู่อย่างนะ”
“ยังไง” ไอ้กรณ์หันมาพูดกับฉันเพราะไม่เข้าใจเรื่องที่ฉันจะสื่อ
“ทุกบริษัทที่เขาชวนมา ทำไมต้องมีผู้หญิงอยู่ด้วยทุกคนวะ ขนาดแกเองยังต้องมีฉันเลยแปลก ๆ”
“...” ไอ้กรณ์ทำหน้าคิดตาม “จริงแหะ พอสังเกตแล้ว เหมือนผู้หญิงจะเยอะกว่าผู้ชายด้วย สวยทั้งนั้น หวานหมู”
“ไอ้กรณ์ ช่วยเป็นการเป็นงานหน่อยเถอะ”
“ฟ้าคราม มึงอย่าคิดมากเลย ไม่มีอะไรหรอก”
“เฮ้อ...เออ ไม่คิดก็ได้”
ตอนนี้ทุกคนอยู่บนเรือกันหมดแล้ว เรือลำใหญ่ลำนี้ก็กำลังฝ่าคลื่นมุ่งหน้าไปยังเกาะขนาดใหญ่ที่เป็นจุดหมายปลายทาง
ไม่นานนักเกาะนั้นก็ค่อย ๆ ทอดมองผ่านด้วยสายตาได้ เกาะขนาดใหญ่ พร้อมกับตึกอาคารขนาดมหึมาตั้งตระหง่านอย่างเห็นได้ชัด
“เชี่ย เคยเห็นแต่ในรูป ไม่คิดว่าของจริงจะใหญ่ขนาดนี้ น่าจะเกินหมื่นล้านไปมากโขแล้วมั้ง” ฉันจ้องไปยังเกาะนั้นตาไม่กะพริบ
“ไม่น่าเชื่อว่า ตึกโออ่าขนาดนี้ ทำเลเกาะก็ไม่ได้ห่างจากท่าเรือเท่าไหร่ ทำไมถึงเจ๊งได้กันนะ” ไอ้กรณ์พูดถึงการล้มละลายของโรงแรมแห่งนี้ ทั้งที่หลายปีก่อนตอนเปิดตัวนั้นเฟื่องฟูแท้ ๆ แต่จู่ ๆ จำนวนนักท่องเที่ยวก็ลดน้อยลงอย่างรวดเร็ว จนเจ้าของอสังหานั้นก็หาทางแก้ไม่ได้ สุดท้ายก็เจ๊งไม่เป็นท่า แถมยังฆ่าตัวตายยกครัวหนีหนี้ที่เกิดจากการสร้างสถานที่มูลค่าหมื่นล้านนี้อีก
แต่ฉันนะพอรู้สาเหตุที่มันเป็นแบบนั้นอยู่นะ มันไม่ใช่เรื่องการขัดขาธุรกิจอะไรหรอก แต่มันเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับที่ไม่มีใครมองเห็น และไม่มีใครแก้ได้ ‘แต่ฉันทำได้’
“หวังว่า บริษัทเราจะได้โครงการนี้จริง ๆ นะ” ฉันได้แต่สวดมนต์ภาวนายิ่งเห็นพวกเขาที่แออัดภายในตึกนั่นแล้ว ยิ่งอยากร่วมทำงานกับพวกเขาใจจะขาด ไม่ใช่อยากทำให้กลุ่มนายทุนพวกนี้ร่ำรวยหรอก แต่ฉันอยากช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้นให้ไปสู่สุคติ เท่าที่ทำได้ต่างหาก ก็เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ล่ะมั้ง
“เชิญทุกท่านทางนี้เลยครับ” ชายที่แต่งตัวราวกับพนักงานโรงแรม เชิญให้เหล่านักธุรกิจจากหลากหลายบริษัทลงจากเรือเพื่อไปยังโรงแรมแสนโอ่อ่านี้ หลังจากทีถูกรีโนเวท ตึกที่เคยร้างก็กลับถูกเนรมิตให้เหมือนราวกับเวทมนตร์ นี่เพียงตึกเดียวนะ ถ้าหากมันถูกรีโนเวททั้งเกาะแล้ว ไม่อยากจะคิดว่ามันจะสวยมากขนาดไหน
เมื่อทุกคนถูกเชิญให้มายังโถงหรูกลางโรงแรม โดยมีตัวแทนจากกลุ่มนายทุนขึ้นประกาศตอนรับบนเวทีเล็ก ๆ ที่จัดไว้ พร้อมทั้งจัดแจงอำนวยความสะดวกให้ทุกคนภายในนี้
ดูเหมือนคนในงานต่างก็ต้องตกตะลึงกับการตกแต่งที่หรูหราไฮคลาส มันถูกประดับด้วยของมูลค่าสูงทั้งนั้น ทำให้ทั้งฉันกับไอ้กรณ์ จากที่รู้สึกว่าที่เป็นอยู่รวยกันอยู่แล้ว ตอนนี้กลับเหมือนกำลังถูกบีบให้ตัวเล็กลงอย่างเจียมตัว
“ให้ตายเถอะ โรงแรมอะไรวะเนี่ย นี่แค่ห้องโถงทำเอาตกใจชะมัด” ไอ้กรณ์มองไปรอบ ๆ จนตาค้าง ส่วนฉันก็ไม่ต่างกัน มองไปทางไหนก็เจอแต่ของตกแต่งราคาแพงที่เคยเห็นบนเว็บไซต์เท่านั้น อย่างโคมไฟอันนั้นยังเคยพูดเล่นกับไอ้กรณ์เลยว่า ราคาตั้งห้าสิบเจ็ดล้าน ใครจะโง่ซื้อวะ แต่ตอนนี้มันกลับแขวนตระหง่านไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่มีถึงสิบ นี่เฉพาะห้องโถงนะ จะเป็นลม เสียดายเงินชะมัด
อยู่ ๆ ฉันก็รู้สึกขนลุกเกลียว ราวกับมีสายตาคนกำลังจ้องมองฉันอยู่
“เป็นอะไรฟ้า” ไอ้กรณ์ที่อยู่ข้าง ๆ คงสังเกตเห็นฉันกอดตัวเอง
“ไม่มีอะไร จู่ ๆ ก็รู้สึกหนาวขึ้นมาเท่านั้นแหละ”
“เรารีบไปลงทะเบียนรับกุญแจห้องและกำหนดการตรงนั้นก่อนเถอะ มึงจะได้พักผ่อน”
“อืม”
ทางโรงแรมได้จัดห้องพักให้กับทุกคนตามชื่อที่ได้ลงทะเบียนไว้ตั้งแต่แรก ไม่คิดเหมือนกันว่าจะใจป้ำให้ห้องพักที่โออ่าแบบนี้คนล่ะห้อง ห้องที่ฉันได้พักนี่แทบจะใหญ่เท่าบ้านของฉัน พอเห็นแบบนี้แล้ว สงสัยถึงเวลาที่ฉันคงต้องเปลี่ยนบ้านใหม่แล้วล่ะ
“กว่ากำหนดการเลี้ยงต้อนรับจะมีขึ้น ก็ตอนเย็นโน้น งั้นนอนสักพักน่าจะดี” ฉันที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว จึงส่งไลน์ไปบอกไอ้กรณ์ ก่อนที่จะล้มตัวลงนอนบนฟูกหนานุ่ม
“เอ่อ...คุณผีคะ โปรดอย่ารบกวนการนอนของฉันนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ” ฉันเอ่ยบอกเจ้าที่ ก่อนจะฟุบนอนหลับไปอย่างง่ายดาย
(Zzz)
ช่วงค่ำ
ไม่รู้ว่านอนไปนานแค่ไหน แต่ที่แน่ ๆ ผีที่นี่ให้ความร่วมมือกับฉันมาก ๆ พวกเขาไม่มาก่อกวนเวลานอนของฉันเลย ไว้ค่อยตอบแทนพวกเขาทีหลังแล้วกัน
ฉันตื่นขึ้นมาพลางควานหามือถือเพื่อดูเวลา
“เชี่ยแล้ว ทุ่มแล้วเหรอเนี่ย แถมมันยังโทรมาเกือบสิบสาย”
ฉันรีบโทรไลน์ไปหาไอ้กรณ์อย่างเร่งด่วน
“กรณ์ โทษทีกูเผลอหลับลึกนานไปหน่อย”
(กูก็โทรไปไม่รู้กี่สาย แต่เพราะรู้จักแกดีเลยไม่อยากขึ้นไปปลุก)
“ตอนนี้มึงอยู่ไหน”
(ห้องเลี้ยงรับรองแขก ตอนนี้คนจากหลายบริษัทเริ่มมากันแล้ว มึงรีบแต่งตัวสวย ๆ มาด้วยล่ะ เดี๋ยวกูผูกมิตรกับบริษัทอื่น ๆ ไว้ก่อน)
“อืม เดี๋ยวกูรีบไป”
หลังวางสายฉันก็รีบแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีดำที่เตรียมมา ต้องสวยประจักษ์ไว้ก่อน เพราะแรกพบมันน่าจดจำมากกว่า เพื่อบริษัท เพื่อผลประกอบการ
ภายในงานผู้คนชนชั้นสูงอุ่นหนาฝาคั่ง ต่างทักทายทำความรู้จักกัน บ้างก็อวดอ้างความเก่ง ความรวย ทับถมกันอย่างไม่อาย แต่ก็นั่นแหละชีวิตของแวดวงธุรกิจ สิ่งที่ข่มกันได้ก็คือความรวย กำไร ผลประกอบการ และการเป็นหนึ่งในด้านของตน
ฉันกับไอ้กรณ์ แม้จะเป็นบริษัทขนาดกลาง แต่เพราะบริษัทแม่นั้นก็เป็นท็อปของธุรกิจ ซึ่งไอ้กรณ์เองก็มีโปรไฟล์ดีไม่แพ้ใครในนี้เหมือนกัน ก็เป็นถึงลูกชายของบริษัทแม่ อย่าง K Group จำกัด(มหาชน) เลยนะ
วันนี้ก็อย่างเคย ยังไม่ได้ร่วมประชุมอะไรที่เป็นทางการเกี่ยวกับโครงการความร่วมมืออะไรทั้งนั้น ดูท่ากลุ่มนายทุนนี้จะร่วมอู้ฟู่กันมาก สามวันที่ต้องอยู่ที่นี่ มีแต่เลี้ยงสังสรรค์ กับการพาเดินทัวร์ตึก ส่วนการประชุมมีแค่ พรุ่งนี้เท่านั้น จนตอนนี้ก็ยังไม่เคยเห็นผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มนายทุนเลยด้วยซ้ำ
“ไหน ๆ ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว กูขอออกไปดื่มกับเดินรับลมแล้วกัน” ฉันหันไปกระซิบไอ้กรณ์ที่ยังเอาแต่สานสัมพันธ์กับกลุ่มนักธุรกิจ
“อืม พรุ่งนี้ต้องเข้าร่วมเสนอแผนงาน เตรียมตัวด้วยล่ะ”
“รู้แล้วนา ระดับกูไม่มีพลาดหรอก”
ฉันเดินออกจากห้องรับรองเดินออกไปเรื่อย ๆ จู่ ๆ ก็รู้สึกขนลุกอีกแล้ว มันเป็นความรู้สึกที่เคยสัมผัสมาก่อนเหมือนตอนนั้นไม่มีผิด ความรู้สึกชวนน่าหวาดผวา และ รับรู้ได้ถึงความรู้สึกเกลียดชัง
แทนที่ฉันจะเดินหนี ฉันกลับเดินเข้าหามันอย่างเคยชิน ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมร่างกายถึงตอบสนองกับแรงอาฆาตนั้น
ฉันเดินไปจนถึงดาดฟ้า เพียงเปิดประตู ลมก็โชยพัดจนผมฉันปลิวไปตามลม ที่ปลายสายตาปรากฏผู้ชายร่างสูงใหญ่กำลังยืนสูบบุหรี่ และหันมองไปยังท้องทะเล แม้ยังไม่เห็นหน้า แต่ก็ทำให้รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่แผ่ออกมา จนพวกผีรอบข้างที่จ้องมองเขาเขม็งไม่แม้แต่เข้าใกล้ เขาคนนี้คุ้นตาจัง
“หาตัวเจอจนได้ ไม่คิดว่าจะเดินเข้ามาหาเอง” เสียงคมเข้ม บาดลึกเอ่ยออกมา ทำให้ฉันตื่นจะภวังค์ หันมองซ้ายขวาไปมา อย่างงงงวย ชายร่างสูงคนนี้ หาใครเจอ ที่เขาพูดหมายถึงใคร บนดาดฟ้านี้ก็ไม่เห็นว่าจะมีคนอื่น เขาคงไม่ได้หมายถึงฉันหรอกใช่มั้ย
ทันทีที่ชายร่างสูงใหญ่ทิ้งก้นบุหรี่ก่อนจะหันหน้าอันคมคายนั่นมาทางฉัน นัยน์ตาสีอ่อนของฉันก็เบิกโพลงค้างไปทั้งอย่างนั้น สายตาประสานยากจะเข้าใจ
“คุณ !!!”
ใบหน้าหล่อคมคาย สายตาน่าลุ่มหลง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ กับหุ่นที่น่า... ขนาดนี้ เท่าที่เคยพบในชีวิตนี้ก็มีอยู่คนเดียว คนที่ทำให้ตกหลุมรัก และอยากหลีกหนีไปพร้อม ๆ กัน“เจอกันอีกแล้วนะ” เขาพิงหลังไปตามราวระเบียงโดยที่มือทั้งสองจับราวไว้ ทำเป็นเท่(แต่ก็เท่จริงแหละ เฮ้อ)“เออ...คือว่าฉันมาผิดทาง ขอตัวก่อนค่ะ” ฉันรีบหันหลังให้อย่างไวก่อนที่จะมีเสียงเรียก ถ้าเป็นตามปกติแล้วฉันคงเดินหนีไปไม่ยาก แต่เสียงเรียกของเขามันดุดัน แถมแรงกดดันบางอย่างทำให้ฉันตัวหนักอึ้งจนก้าวขาไม่ออก ‘ให้ตายเถอะ ทำไมซวยแบบนี้ ไม่รู้ว่าไปทำเวรทำกรรมกับเขาไว้ตอนไหน’“ผมบอกให้คุณหยุด...เดี๋ยวนี้” ฉันได้ยินดังนั้นก็หันหน้ากลับมามองเขาราวกับกำลังถูกมนต์สะกด ฉันไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบตา เพราะเขาเองก็เพ่งมองฉันด้วยสายตาที่ทำเอาหัวใจเต้นแทบจะหลุดออกจากอก“คะ...คุณมีอะไรกับฉันเหรอคะ”“คุณชื่ออะไร” เสียงอันนุ่มลึกนั่นถามฉันด้วยท่าทีที่เริ่มเป็นมิตร“ฟ้าครามค่ะ” ฉันตอบไปแบบเก้ง ๆ กัง ๆ“อืม” เขาตอบสั้น ๆ ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองทะเลอันกว้างไกล“ฉันไปได้แล้วใช่มั้ยคะ”
8- เมาขาดสติ -(- -) (o o) (0 0) นี่คือสีหน้าของฉันเมื่อลืมตาตื่นขึ้น‘เชี่ยแล้ว ยัยฟ้า ตัวแกทำอะไรลงไปเนี่ย’ ดวงตาฉันเบิกกว้าง ร่างกายที่รู้สึกว่าไร้การห่อหุ้มจากเสื้อผ้า เมื่อเปิดดูร่างกายตัวเองภายใต้ผ้าห่มที่คลุมอยู่ ก็รับรู้ได้ถึงความเย็นวาบจากร่างกายเปลือยเปล่า ดูเหมือนจะมีรอยไปทั่วตัว ‘ระ..รุนแรงอะไรอย่างนี้’ ฉันเริ่มทำตัวไม่ถูก และค่อยๆ หันมองไปยังคนที่นอนข้าง ๆ‘คุณพระ!!! นี่มันคุณเอ็ดเวิร์ด’ ฉันยกมือปิดปากตัวเองทันที จากที่สะลืมสะลือ ตอนนี้รู้สึกตื่นเต็มที่ชนิดที่อยากจะวาปหนีจากตรงนี้ไปให้ไกลแล้วรอยตามตัวเขานั่นมันอะไรกันทำไมถึงเยอะขนาดนั้น คราวก่อนที่เคยเจอกัน แม้เขาจะกำลังมีเซ็กซ์กับผู้หญิงหลายคน แต่ตอนนั้นร่างกายเขาแทบขาวสะอาด ไร้รอยประทับด้วยซ้ำ แม้แต่รอยลิปสติกยังไม่มี แต่คราวนี้ตามตัวเขาดันเป็นรอยใหม่ ๆ ซะด้วย เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่า เป็นฉันที่ฝากไว้ ยัยหื่น ยัยเรื้อน ยัยลามกเอ้ย คอแกได้ขาดสะบั้นแน่ถ้าเขาตื่นทั้งที่รู้ว่าฉันเมาแล้วฉันจะเป็นแบบนี้ ฉันก็ยังดื่มเหล้ากับคนที่พึ่งพบกันครั้งแรกอีก เรื่องนี้จะโทษใครไม่ได้เลยนอกจากตัวฉันเองคุณเอ็ดเวิร์ดคงไม่คิดอะไร ไม่งั้นค
9- ร่วมมือ – “เดี๋ยวสิครับ พวกคุณจะปฏิเสธผมเพราะเรื่องแค่นี้ไม่ได้ ขอร้องเถอะครับ บริษัทผมอยากร่วมโครงการนี้จริง ๆ โปรดให้อภัยผมเถอะครับ” แม้นักธุรกิจคนนั้นจะวิงวอนเท่าไหร่ แต่ทางกลุ่มนายทุน ก็จับเขาโยนออกไปนอกประตูอย่างเลือดเย็นนักธุรกิจหลายบริษัทที่พกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม ตอนนี้กลับมีท่าทีหวั่นเกรง กับกลุ่มนายทุนร่ำรวยนี้ จากที่มั่นอกมั่นใจว่าเขาต้องเลือก กลายเป็นภาวนาให้บริษัทของตนได้อยู่ในสายตาบ้างก็พอแล้ว“กรณ์ แกว่าพวกเราจะได้ร่วมงานมั้ยเนี่ย ดูท่าไม่ง่ายอย่างที่คิดนะ”“อืม ก็ว่างั้น ยังไงพวกเราดูท่าทีไปก่อน ไม่ได้ก็ช่างมัน ตอนนี้ขอแค่ไม่ทำให้อับอายต่อหน้าคนบริษัทอื่น ๆ ก็พอ” ฉันกับไอ้กรณ์พยักหน้าเห็นด้วย ตอนนี้ไม่ใช่เวลาห่วงว่าได้งานรึเปล่า แต่กลับต้องมาห่วงภาพลักษณ์ขององค์กรต่อหน้าบริษัทอื่นแทน ‘ดูท่างานนี้ไม่ใช่เรื่องกล้วย ๆ ซะแล้ว’เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย กลับเข้าสู่สถานะปกติ ทางกลุ่มนายทุนจึงได้ประชุมต่อ“ผมหวังว่าพวกคุณที่อยู่ในนี้จะไม่เอ่ยถามหาประธานของเรา”“...” ทุกคนในที่ประชุมเงียบเฉียบตั้งใจฟัง“ทางเราจะเรียกบริษัทที่เราจัดลำดับไว้เข้าพบเพื่อให้ท่านได้นำ
10 - อภิสิทธ์ชั้น 8 – วันรุ่งขึ้น ฉันที่ตระเตรียมกระเป๋าเดินทางพร้อมกับชุดมากมายและสิ่งของจำเป็นเรียบร้อยแล้ว ไม่นานรถเก๋งคันหรูก็มารับถึงหน้าบ้าน สวัสดิการจะดีไปไหนเนี่ย ฉันถูกพาข้ามฟากด้วยเรือยอร์ชที่ทางบริษัทจัดเตรียมไว้ จู่ ๆ ก็รู้สึกพะอืดพะอม มวนท้องจนอยากจะอ้วก เพราะเรือขับด้วยความเร็วสูงมาก เมื่อเรือมาถึงโรงแรมบนเกาะและจอดเทียบท่า ฉันก็รีบลงจากเรือทันทีก่อนจะดิ่งไปยังม้านั่งที่อยู่ไม่ไกลนัก “คุณฟ้าครามครับ ไหวรึเปล่าครับ” “เวียนหัวนิดหน่อยค่ะ ถ้าไม่รบกวนช่วยนำกระเป๋าเข้าไปให้ก่อนได้มั้ยคะ ฟ้าขออนุญาต นั่งพักตรงนี้สักครู่หน่อยน่ะค่ะ” “ได้ครับเดี๋ยวผมจะบอกให้เจ้าหน้าที่โรงแรมจัดการเรื่องที่พักพร้อมนำกระเป๋าไว้ที่ห้องให้นะครับ หากคุณฟ้าครามดีขึ้นแล้วสามารถเข้าไปรับกุญแจที่เจ้าหน้าที่โรงแรมที่เคาน์เตอร์ได้นะครับ” “ได้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” หลังจากที่คนของนายทุนกลับไปฉันก็นั่งอยู่ตรงม้านั่ง พักสูดอากาศหายใจอาการเวียนหัวเจียนจะอ้วก เริ่มดีขึ้น แต่ยังคงมวนท้องอยู่หน่อย ๆ ทะเลตรงหน้าที่สวยงามพอเยียวยาให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้างล่ะนะ “คุณลุงคะทำไมถึงยังนั่งอยู่ตรงนี้คะ” ‘...’ “งั้นเหร
11- วันแรก –เช้าตรู่เวลา07.00 น. ฉันตื่นตามนาฬิกาปลุกที่ตั้งเอาไว้ แต่งตัวด้วยชุดเสื้อสูทกระโปรงทรงเอ รวบผมให้เข้าที่ แต่งหน้าอ่อน ๆ ไม่ฉูดฉาดมากนัก ให้สมกับมาทำงานนั่นแหละฉันออกจากห้องของตัวเอง พอได้ลองสังเกตดี ๆ ชั้นแปดมีไม่กี่ห้องเองแหะ แถมไม่ค่อยมีใครอยู่ชั้นนี้เลย แล้วคนจากบริษัทอื่นที่ได้มาร่วมงานในช่วงเวลาการปรับปรุงโครงการนี้เขาพักกันชั้นไหนกันนะ“ช่างเถอะ รีบไปรายงานตัวก่อนไม่งั้นคงไม่ดีกับภาพลักษณ์บริษัทแน่”ฉันเดินลงไปยังห้องประชุมเดิมที่เคยมาก่อนหน้า เริ่มเห็นคนจากบริษัทอื่นที่ต้องมาทำงานอยู่ที่นี่ ต่างคนต่างมองหน้ากันไปมาอย่างช่างใจ แต่ก็ไม่ได้มองเขม่นกันหรอก เพราะยังไงแต่ละคนก็รับผิดชอบงานกันแต่ละส่วนอยู่แล้วทุกคนนั่งลงรอภายในห้องประชุมก่อนที่จะมีพนักงานจากกลุ่มนายทุนเข้ามาแจกแจงให้เราไปยังจุดที่แต่ละบริษัทต้องรับผิดชอบบริษัทของฉันที่ได้รับผิดชอบโครงการใหญ่ในการออกแบบห้องพักทั้งตึกB ทั้งหมดนั้น จำเป็นที่จะต้องเดินสำรวจให้ทั่ว คำนวณขนาดห้องแต่ล่ะชั้นเพื่อให้ออกแบบได้เหมาะสม และสามารถแบ่งเป็นสัดส่วนในแต่ละราคาได้สินะแผนงานคร่าว ๆ ที่ทางเจ้าของโครงการต้องการก็ไกด์ไลน
12- ขอให้โชคดี –ฉันข้ามฝากมาอีกฝั่งในตัวเมือง เพราะการนัดเจอกับคนใหญ่คนโตครั้งนี้ เป็นคลับหรูแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ที่คุณเอ็ดเวิร์ดไม่ได้นัดเจอพวกเขาที่โรงแรมบนเกาะเพราะตอนนี้ยังอยู่ในช่วงรีโนเวทอยู่แหละนะหลังจากลงจากเรือฉันก็เดินไปยังรถเก๋งสีดำที่จอดเทียบอยู่“คุ...คุณเอ็ดเวิร์ด ทำไมอยู่ตรงนี้คะ”“ทำไมผมจะอยู่ตรงนี้ไม่ได้ นี่มันรถผม”“เปล่าค่ะ ดิฉันไม่ได้หมายถึงแบบนั้น ดิฉันนึกว่าคุณเอ็ดเวิร์ดไปคลับก่อนแล้วน่ะค่ะ”“รีบขึ้นรถเถอะ เวลาของผมมีค่า”“ขอโทษค่ะ” ฉันรีบวิ่งจะอ้อมไปนั่งด้านหน้า แต่จู่ ๆ ก็โดนลูกน้องของคุณเอ็ดเวิร์ดห้ามไม่ให้เปิดประตูด้านหน้า“คุณฟ้าครามต้องนั่งด้านหลังครับ”“ให้ฉันนั่งข้างคุณเอ็ดเวิร์ดไม่ดีมั้งคะ”“มัวทำอะไรอยู่” สิ้นคำ เสียงอันบาดลึกก็เปล่งออกมาด้วยความหงุดหงิด“คุณฟ้ารีบขึ้นเถอะครับถ้าบอสโกรธผมตายแน่”“ค่ะ..ค่ะ” ฉันรีบเปิดประตูรถด้านหลังก่อนจะรีบนั่งลงไป ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองคนข้าง ๆ ภายในรถเงียบเฉียบ แค่เผลอกลืนน้ำลายก็ทำเอาได้ยินชัดเจน“จำเป็นต้องพก เครื่องดื่มมาคลับด้วยเหรอ”“เอ๊ะ จริงสิ!! คุณเอ็ดเวิร์ดคะ ช่วยแวะที่หนึ่งได้มั้ยคะ เป็นทางผ่าน 10 นาที
13- คนของฉัน –“คุณเอ็ด ฉันดื่มได้มั้ย ส่วนที่ฉันดื่มฉันจ่ายเองก็ได้” ฉันหันไปเอ่ยกับเขา มันน่าเบื่อเกินไปถ้าจะให้ฉันนั่งเฉย ๆ ในเมื่อพวกเขาไม่คุยงานกันแล้ว ฉันก็ไม่เกรงใจแล้วล่ะเขาหันมาหาฉันก่อนที่จะวางแก้วเหล้าของตัวเอง“แน่ใจว่าคุณจะดื่ม”“ค่ะ ในเมื่อพวกคุณไม่คุยงานกันแล้ว และคุณเอ็ดเวิร์ดไม่ให้ฉันกลับฉันก็จะนั่งดื่มเงียบ ๆ ส่วนคุณจะอยู่กับสาว ๆ เหมือนเพื่อน ๆ ของคุณก็เต็มที่ได้เลยค่ะ”“...” เขาเงียบไป แต่เพื่อนนัยน์ตาหวานที่มองอยู่ ก็คว้าขวดเหล้า แล้วผสมเหล้า เทลงแก้วนำมาวางตรงหน้าฉัน“เรื่องแค่นั้นคุณไม่ต้องถามไอ้เอ็ดมันหรอก ดื่มเถอะครับ ผมผสมให้”“เอ่อ.. ขอบคุณค่ะ”“ว่าแต่คุณชื่ออะไรครับ ผมมาติน”“ฉันชื่อฟ้าครามค่ะ”“ชื่อเพราะดีครับ นี่แก้วเหล้าของคุณฟ้าครับ”“ขอบคุณค่ะ” ฉันรับมันมาพร้อมส่งยิ้มให้ตามมารยาท“น้อย ๆ หน่อยไอ้ติน ก่อนที่ไอ้เอ็ดมันจะอารมณ์เสีย” ชายคิ้วบากเอ่ยท้วง ก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างไม่ใส่ใจนักฉันคว้าแก้วเหล้าก่อนจะดื่มมันลงไป เข้มจริง แต่ก็อร่อยมาก ๆ นี่คือรสชาติของเหล้าแพง ๆ เหรอเนี่ย ทำเอาหยุดดื่มไม่ได้เลยแหะ“ผู้หญิงนายดื่มเก่งนะเนี่ย แต่ช่วยเตือนเธอหน่อย
14- เหยียบกับระเบิด – ฉันถึงกับต้องอ้าปากค้าง นิ่งทื่อราวกับโดนตอกเสาเข็มปักหมุดให้ขยับไปไหนไม่ได้ อยากปฏิเสธใจจะขาด แต่มันมีหนทางให้ฉันพูดออกไปว่าไม่ทำได้ยังไง ในเมื่อเป็นฉันเองที่ จุดชนวนนี้มันกับมือ “คุณเอ็ดเวิร์ด คุณพูดผิดรึเปล่าคะ ให้ฉันเนี่ยนะมานอนห้องนี้กับคุณ” “ใช่...” ฉันจ้องมองไปที่เขา สีหน้าสุขุมจริงจังแบบนั้น แถมยังกอดอกพยักหน้ายืนยันว่าฉันไม่ได้ฟังผิด และเข้าใจถูกต้องแล้ว“ทำไมคะ ทำไมฉันต้องมานอนห้องนี้กับคุณ เอ่อ คุณเอ็ดเองก็ใช้บริการสาว ๆ ปกติอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ ก็เรียกใช้อย่างที่เคย ๆ ไปสิคะ” ฉันพูดออกไปตรง ๆ แน่ล่ะ ฉันน่ะเห็นผู้หญิงเข้าออกห้องเขาก็บ่อย แถมยังไม่เคยจะซ้ำหน้ากันเลยสักคนขนาดนั้น ถึงฉันจะเคยพลาด (มั้ง) นอนกับเขาไปสองสามหน แต่ฉันก็ไม่ได้อยากจะลดตัวไปเป็นนางบำเรอประจำตัวให้เขาซะหน่อย “...” แต่แทนที่เขาจะพูดอะไรออกมาสักคำ เขากลับจ้องมองฉันด้วยสายตาดุดัน ราวกับว่าคำพูดของเขานั้นคือคำสั่ง “โอเคค่ะ มานอนห้องนี้ก็ได้ค่ะ งั้นฉันกลับห้องของฉันได้แล้วใช่มั้ยคะ” เขาลุกขึ้นหันจ้องมองฉั
14- เหยียบกับระเบิด – ฉันถึงกับต้องอ้าปากค้าง นิ่งทื่อราวกับโดนตอกเสาเข็มปักหมุดให้ขยับไปไหนไม่ได้ อยากปฏิเสธใจจะขาด แต่มันมีหนทางให้ฉันพูดออกไปว่าไม่ทำได้ยังไง ในเมื่อเป็นฉันเองที่ จุดชนวนนี้มันกับมือ “คุณเอ็ดเวิร์ด คุณพูดผิดรึเปล่าคะ ให้ฉันเนี่ยนะมานอนห้องนี้กับคุณ” “ใช่...” ฉันจ้องมองไปที่เขา สีหน้าสุขุมจริงจังแบบนั้น แถมยังกอดอกพยักหน้ายืนยันว่าฉันไม่ได้ฟังผิด และเข้าใจถูกต้องแล้ว“ทำไมคะ ทำไมฉันต้องมานอนห้องนี้กับคุณ เอ่อ คุณเอ็ดเองก็ใช้บริการสาว ๆ ปกติอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ ก็เรียกใช้อย่างที่เคย ๆ ไปสิคะ” ฉันพูดออกไปตรง ๆ แน่ล่ะ ฉันน่ะเห็นผู้หญิงเข้าออกห้องเขาก็บ่อย แถมยังไม่เคยจะซ้ำหน้ากันเลยสักคนขนาดนั้น ถึงฉันจะเคยพลาด (มั้ง) นอนกับเขาไปสองสามหน แต่ฉันก็ไม่ได้อยากจะลดตัวไปเป็นนางบำเรอประจำตัวให้เขาซะหน่อย “...” แต่แทนที่เขาจะพูดอะไรออกมาสักคำ เขากลับจ้องมองฉันด้วยสายตาดุดัน ราวกับว่าคำพูดของเขานั้นคือคำสั่ง “โอเคค่ะ มานอนห้องนี้ก็ได้ค่ะ งั้นฉันกลับห้องของฉันได้แล้วใช่มั้ยคะ” เขาลุกขึ้นหันจ้องมองฉั
13- คนของฉัน –“คุณเอ็ด ฉันดื่มได้มั้ย ส่วนที่ฉันดื่มฉันจ่ายเองก็ได้” ฉันหันไปเอ่ยกับเขา มันน่าเบื่อเกินไปถ้าจะให้ฉันนั่งเฉย ๆ ในเมื่อพวกเขาไม่คุยงานกันแล้ว ฉันก็ไม่เกรงใจแล้วล่ะเขาหันมาหาฉันก่อนที่จะวางแก้วเหล้าของตัวเอง“แน่ใจว่าคุณจะดื่ม”“ค่ะ ในเมื่อพวกคุณไม่คุยงานกันแล้ว และคุณเอ็ดเวิร์ดไม่ให้ฉันกลับฉันก็จะนั่งดื่มเงียบ ๆ ส่วนคุณจะอยู่กับสาว ๆ เหมือนเพื่อน ๆ ของคุณก็เต็มที่ได้เลยค่ะ”“...” เขาเงียบไป แต่เพื่อนนัยน์ตาหวานที่มองอยู่ ก็คว้าขวดเหล้า แล้วผสมเหล้า เทลงแก้วนำมาวางตรงหน้าฉัน“เรื่องแค่นั้นคุณไม่ต้องถามไอ้เอ็ดมันหรอก ดื่มเถอะครับ ผมผสมให้”“เอ่อ.. ขอบคุณค่ะ”“ว่าแต่คุณชื่ออะไรครับ ผมมาติน”“ฉันชื่อฟ้าครามค่ะ”“ชื่อเพราะดีครับ นี่แก้วเหล้าของคุณฟ้าครับ”“ขอบคุณค่ะ” ฉันรับมันมาพร้อมส่งยิ้มให้ตามมารยาท“น้อย ๆ หน่อยไอ้ติน ก่อนที่ไอ้เอ็ดมันจะอารมณ์เสีย” ชายคิ้วบากเอ่ยท้วง ก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างไม่ใส่ใจนักฉันคว้าแก้วเหล้าก่อนจะดื่มมันลงไป เข้มจริง แต่ก็อร่อยมาก ๆ นี่คือรสชาติของเหล้าแพง ๆ เหรอเนี่ย ทำเอาหยุดดื่มไม่ได้เลยแหะ“ผู้หญิงนายดื่มเก่งนะเนี่ย แต่ช่วยเตือนเธอหน่อย
12- ขอให้โชคดี –ฉันข้ามฝากมาอีกฝั่งในตัวเมือง เพราะการนัดเจอกับคนใหญ่คนโตครั้งนี้ เป็นคลับหรูแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ที่คุณเอ็ดเวิร์ดไม่ได้นัดเจอพวกเขาที่โรงแรมบนเกาะเพราะตอนนี้ยังอยู่ในช่วงรีโนเวทอยู่แหละนะหลังจากลงจากเรือฉันก็เดินไปยังรถเก๋งสีดำที่จอดเทียบอยู่“คุ...คุณเอ็ดเวิร์ด ทำไมอยู่ตรงนี้คะ”“ทำไมผมจะอยู่ตรงนี้ไม่ได้ นี่มันรถผม”“เปล่าค่ะ ดิฉันไม่ได้หมายถึงแบบนั้น ดิฉันนึกว่าคุณเอ็ดเวิร์ดไปคลับก่อนแล้วน่ะค่ะ”“รีบขึ้นรถเถอะ เวลาของผมมีค่า”“ขอโทษค่ะ” ฉันรีบวิ่งจะอ้อมไปนั่งด้านหน้า แต่จู่ ๆ ก็โดนลูกน้องของคุณเอ็ดเวิร์ดห้ามไม่ให้เปิดประตูด้านหน้า“คุณฟ้าครามต้องนั่งด้านหลังครับ”“ให้ฉันนั่งข้างคุณเอ็ดเวิร์ดไม่ดีมั้งคะ”“มัวทำอะไรอยู่” สิ้นคำ เสียงอันบาดลึกก็เปล่งออกมาด้วยความหงุดหงิด“คุณฟ้ารีบขึ้นเถอะครับถ้าบอสโกรธผมตายแน่”“ค่ะ..ค่ะ” ฉันรีบเปิดประตูรถด้านหลังก่อนจะรีบนั่งลงไป ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองคนข้าง ๆ ภายในรถเงียบเฉียบ แค่เผลอกลืนน้ำลายก็ทำเอาได้ยินชัดเจน“จำเป็นต้องพก เครื่องดื่มมาคลับด้วยเหรอ”“เอ๊ะ จริงสิ!! คุณเอ็ดเวิร์ดคะ ช่วยแวะที่หนึ่งได้มั้ยคะ เป็นทางผ่าน 10 นาที
11- วันแรก –เช้าตรู่เวลา07.00 น. ฉันตื่นตามนาฬิกาปลุกที่ตั้งเอาไว้ แต่งตัวด้วยชุดเสื้อสูทกระโปรงทรงเอ รวบผมให้เข้าที่ แต่งหน้าอ่อน ๆ ไม่ฉูดฉาดมากนัก ให้สมกับมาทำงานนั่นแหละฉันออกจากห้องของตัวเอง พอได้ลองสังเกตดี ๆ ชั้นแปดมีไม่กี่ห้องเองแหะ แถมไม่ค่อยมีใครอยู่ชั้นนี้เลย แล้วคนจากบริษัทอื่นที่ได้มาร่วมงานในช่วงเวลาการปรับปรุงโครงการนี้เขาพักกันชั้นไหนกันนะ“ช่างเถอะ รีบไปรายงานตัวก่อนไม่งั้นคงไม่ดีกับภาพลักษณ์บริษัทแน่”ฉันเดินลงไปยังห้องประชุมเดิมที่เคยมาก่อนหน้า เริ่มเห็นคนจากบริษัทอื่นที่ต้องมาทำงานอยู่ที่นี่ ต่างคนต่างมองหน้ากันไปมาอย่างช่างใจ แต่ก็ไม่ได้มองเขม่นกันหรอก เพราะยังไงแต่ละคนก็รับผิดชอบงานกันแต่ละส่วนอยู่แล้วทุกคนนั่งลงรอภายในห้องประชุมก่อนที่จะมีพนักงานจากกลุ่มนายทุนเข้ามาแจกแจงให้เราไปยังจุดที่แต่ละบริษัทต้องรับผิดชอบบริษัทของฉันที่ได้รับผิดชอบโครงการใหญ่ในการออกแบบห้องพักทั้งตึกB ทั้งหมดนั้น จำเป็นที่จะต้องเดินสำรวจให้ทั่ว คำนวณขนาดห้องแต่ล่ะชั้นเพื่อให้ออกแบบได้เหมาะสม และสามารถแบ่งเป็นสัดส่วนในแต่ละราคาได้สินะแผนงานคร่าว ๆ ที่ทางเจ้าของโครงการต้องการก็ไกด์ไลน
10 - อภิสิทธ์ชั้น 8 – วันรุ่งขึ้น ฉันที่ตระเตรียมกระเป๋าเดินทางพร้อมกับชุดมากมายและสิ่งของจำเป็นเรียบร้อยแล้ว ไม่นานรถเก๋งคันหรูก็มารับถึงหน้าบ้าน สวัสดิการจะดีไปไหนเนี่ย ฉันถูกพาข้ามฟากด้วยเรือยอร์ชที่ทางบริษัทจัดเตรียมไว้ จู่ ๆ ก็รู้สึกพะอืดพะอม มวนท้องจนอยากจะอ้วก เพราะเรือขับด้วยความเร็วสูงมาก เมื่อเรือมาถึงโรงแรมบนเกาะและจอดเทียบท่า ฉันก็รีบลงจากเรือทันทีก่อนจะดิ่งไปยังม้านั่งที่อยู่ไม่ไกลนัก “คุณฟ้าครามครับ ไหวรึเปล่าครับ” “เวียนหัวนิดหน่อยค่ะ ถ้าไม่รบกวนช่วยนำกระเป๋าเข้าไปให้ก่อนได้มั้ยคะ ฟ้าขออนุญาต นั่งพักตรงนี้สักครู่หน่อยน่ะค่ะ” “ได้ครับเดี๋ยวผมจะบอกให้เจ้าหน้าที่โรงแรมจัดการเรื่องที่พักพร้อมนำกระเป๋าไว้ที่ห้องให้นะครับ หากคุณฟ้าครามดีขึ้นแล้วสามารถเข้าไปรับกุญแจที่เจ้าหน้าที่โรงแรมที่เคาน์เตอร์ได้นะครับ” “ได้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” หลังจากที่คนของนายทุนกลับไปฉันก็นั่งอยู่ตรงม้านั่ง พักสูดอากาศหายใจอาการเวียนหัวเจียนจะอ้วก เริ่มดีขึ้น แต่ยังคงมวนท้องอยู่หน่อย ๆ ทะเลตรงหน้าที่สวยงามพอเยียวยาให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้างล่ะนะ “คุณลุงคะทำไมถึงยังนั่งอยู่ตรงนี้คะ” ‘...’ “งั้นเหร
9- ร่วมมือ – “เดี๋ยวสิครับ พวกคุณจะปฏิเสธผมเพราะเรื่องแค่นี้ไม่ได้ ขอร้องเถอะครับ บริษัทผมอยากร่วมโครงการนี้จริง ๆ โปรดให้อภัยผมเถอะครับ” แม้นักธุรกิจคนนั้นจะวิงวอนเท่าไหร่ แต่ทางกลุ่มนายทุน ก็จับเขาโยนออกไปนอกประตูอย่างเลือดเย็นนักธุรกิจหลายบริษัทที่พกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม ตอนนี้กลับมีท่าทีหวั่นเกรง กับกลุ่มนายทุนร่ำรวยนี้ จากที่มั่นอกมั่นใจว่าเขาต้องเลือก กลายเป็นภาวนาให้บริษัทของตนได้อยู่ในสายตาบ้างก็พอแล้ว“กรณ์ แกว่าพวกเราจะได้ร่วมงานมั้ยเนี่ย ดูท่าไม่ง่ายอย่างที่คิดนะ”“อืม ก็ว่างั้น ยังไงพวกเราดูท่าทีไปก่อน ไม่ได้ก็ช่างมัน ตอนนี้ขอแค่ไม่ทำให้อับอายต่อหน้าคนบริษัทอื่น ๆ ก็พอ” ฉันกับไอ้กรณ์พยักหน้าเห็นด้วย ตอนนี้ไม่ใช่เวลาห่วงว่าได้งานรึเปล่า แต่กลับต้องมาห่วงภาพลักษณ์ขององค์กรต่อหน้าบริษัทอื่นแทน ‘ดูท่างานนี้ไม่ใช่เรื่องกล้วย ๆ ซะแล้ว’เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย กลับเข้าสู่สถานะปกติ ทางกลุ่มนายทุนจึงได้ประชุมต่อ“ผมหวังว่าพวกคุณที่อยู่ในนี้จะไม่เอ่ยถามหาประธานของเรา”“...” ทุกคนในที่ประชุมเงียบเฉียบตั้งใจฟัง“ทางเราจะเรียกบริษัทที่เราจัดลำดับไว้เข้าพบเพื่อให้ท่านได้นำ
8- เมาขาดสติ -(- -) (o o) (0 0) นี่คือสีหน้าของฉันเมื่อลืมตาตื่นขึ้น‘เชี่ยแล้ว ยัยฟ้า ตัวแกทำอะไรลงไปเนี่ย’ ดวงตาฉันเบิกกว้าง ร่างกายที่รู้สึกว่าไร้การห่อหุ้มจากเสื้อผ้า เมื่อเปิดดูร่างกายตัวเองภายใต้ผ้าห่มที่คลุมอยู่ ก็รับรู้ได้ถึงความเย็นวาบจากร่างกายเปลือยเปล่า ดูเหมือนจะมีรอยไปทั่วตัว ‘ระ..รุนแรงอะไรอย่างนี้’ ฉันเริ่มทำตัวไม่ถูก และค่อยๆ หันมองไปยังคนที่นอนข้าง ๆ‘คุณพระ!!! นี่มันคุณเอ็ดเวิร์ด’ ฉันยกมือปิดปากตัวเองทันที จากที่สะลืมสะลือ ตอนนี้รู้สึกตื่นเต็มที่ชนิดที่อยากจะวาปหนีจากตรงนี้ไปให้ไกลแล้วรอยตามตัวเขานั่นมันอะไรกันทำไมถึงเยอะขนาดนั้น คราวก่อนที่เคยเจอกัน แม้เขาจะกำลังมีเซ็กซ์กับผู้หญิงหลายคน แต่ตอนนั้นร่างกายเขาแทบขาวสะอาด ไร้รอยประทับด้วยซ้ำ แม้แต่รอยลิปสติกยังไม่มี แต่คราวนี้ตามตัวเขาดันเป็นรอยใหม่ ๆ ซะด้วย เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่า เป็นฉันที่ฝากไว้ ยัยหื่น ยัยเรื้อน ยัยลามกเอ้ย คอแกได้ขาดสะบั้นแน่ถ้าเขาตื่นทั้งที่รู้ว่าฉันเมาแล้วฉันจะเป็นแบบนี้ ฉันก็ยังดื่มเหล้ากับคนที่พึ่งพบกันครั้งแรกอีก เรื่องนี้จะโทษใครไม่ได้เลยนอกจากตัวฉันเองคุณเอ็ดเวิร์ดคงไม่คิดอะไร ไม่งั้นค
ใบหน้าหล่อคมคาย สายตาน่าลุ่มหลง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ กับหุ่นที่น่า... ขนาดนี้ เท่าที่เคยพบในชีวิตนี้ก็มีอยู่คนเดียว คนที่ทำให้ตกหลุมรัก และอยากหลีกหนีไปพร้อม ๆ กัน“เจอกันอีกแล้วนะ” เขาพิงหลังไปตามราวระเบียงโดยที่มือทั้งสองจับราวไว้ ทำเป็นเท่(แต่ก็เท่จริงแหละ เฮ้อ)“เออ...คือว่าฉันมาผิดทาง ขอตัวก่อนค่ะ” ฉันรีบหันหลังให้อย่างไวก่อนที่จะมีเสียงเรียก ถ้าเป็นตามปกติแล้วฉันคงเดินหนีไปไม่ยาก แต่เสียงเรียกของเขามันดุดัน แถมแรงกดดันบางอย่างทำให้ฉันตัวหนักอึ้งจนก้าวขาไม่ออก ‘ให้ตายเถอะ ทำไมซวยแบบนี้ ไม่รู้ว่าไปทำเวรทำกรรมกับเขาไว้ตอนไหน’“ผมบอกให้คุณหยุด...เดี๋ยวนี้” ฉันได้ยินดังนั้นก็หันหน้ากลับมามองเขาราวกับกำลังถูกมนต์สะกด ฉันไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบตา เพราะเขาเองก็เพ่งมองฉันด้วยสายตาที่ทำเอาหัวใจเต้นแทบจะหลุดออกจากอก“คะ...คุณมีอะไรกับฉันเหรอคะ”“คุณชื่ออะไร” เสียงอันนุ่มลึกนั่นถามฉันด้วยท่าทีที่เริ่มเป็นมิตร“ฟ้าครามค่ะ” ฉันตอบไปแบบเก้ง ๆ กัง ๆ“อืม” เขาตอบสั้น ๆ ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองทะเลอันกว้างไกล“ฉันไปได้แล้วใช่มั้ยคะ”
ณ.ท่าเรือฉันกับไอ้กรณ์เรามาถึงยังจุดนัดพบ คราวแรกนึกว่าจะมีคนไม่เท่าไหร่ แต่จากที่ดู คนทั้งหมดในบริเวณนี้กลับมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นคือเกาะโรงแรมที่พวกเรากำลังจะไป“ไอ้กรณ์ แกแน่ใจนะว่าเราดีลได้งาน ดูท่าเหมือนแค่เรียกเราไปเพื่ออวดโรงแรมเฉย ๆ รึเปล่า”“ไม่หรอก เขาบอกว่าบริษัทเราจะเป็นส่วนหนึ่งในการปรับปรุงโรงแรมเลยนะ”“เอาเถอะ ก็ขอให้ไม่ไปเสียเที่ยวละกัน ได้งานติดมือมาสักหน่อยก็ยังดี แต่มันน่าแปลกอยู่อย่างนะ”“ยังไง” ไอ้กรณ์หันมาพูดกับฉันเพราะไม่เข้าใจเรื่องที่ฉันจะสื่อ“ทุกบริษัทที่เขาชวนมา ทำไมต้องมีผู้หญิงอยู่ด้วยทุกคนวะ ขนาดแกเองยังต้องมีฉันเลยแปลก ๆ”“...” ไอ้กรณ์ทำหน้าคิดตาม “จริงแหะ พอสังเกตแล้ว เหมือนผู้หญิงจะเยอะกว่าผู้ชายด้วย สวยทั้งนั้น หวานหมู”“ไอ้กรณ์ ช่วยเป็นการเป็นงานหน่อยเถอะ”“ฟ้าคราม มึงอย่าคิดมากเลย ไม่มีอะไรหรอก”“เฮ้อ...เออ ไม่คิดก็ได้”ตอนนี้ทุกคนอยู่บนเรือกันหมดแล้ว เรือลำใหญ่ลำนี้ก็กำลังฝ่าคลื่นมุ่งหน้าไปยังเกาะขนาดใหญ่ที่เป็นจุดหมายปลายทางไ