“ปล่อยมือออกจากคอฉันเดี๋ยวนี้นะ” ฉันจ้องเขม็งใส่เขา ภายในใจเดือดดาล ไม่น่าหาเหาใส่ตัวเลยฉัน เขาคงคิดว่าฉันมาเสือกสิท่า
“สวยดีนี่ ได้ค่าจ้างไปแล้วทำไมไม่รีบเข้ามาอีก” เขาสะบัดมือออกจากคอฉัน
“แค่ก...แค่ก” ฉันไอหนักมากเพราะมือแกร่งที่บีบคอฉันเมื่อกี้มันค่อนข้างรุนแรงจนแทบหายใจไม่ออก ดวงตาที่จ้องมองเขา เบนไปมองด้านในห้อง นอกจากพบว่าผีจำนวนมากอยู่ในนั้นแล้ว ยังมีผู้หญิงเปลือยอยู่ในนั้นอีกตั้งสองคน นี่มันวิกลจริตไปแล้ว ฉันต้องหนีจากที่นี่ก่อน
ฉันหันหลังคิดจะเดินหนี แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาไปสักก้าว ก็ถูกมือหนาจับดึงเข้าหาเขาอย่างแรง
“ปล่อย...ฉันมาผิดห้อง ฉันไม่ได้มาขายตัว”
“ผิดห้อง เหอะ เดินมาดุ่ม ๆ ขึ้นมาเคาะประตูห้องขนาดนี้ จะผิดห้องได้ไง รีบเข้ามา ถ้าไม่อยากเจ็บตัว ลีลาอยู่ได้”
“เข้าไปฉันก็โง่แล้ว อั่ก” ทันทีที่ยังพูดไม่จบ ฉันก็ถูกมือหนาบีบคางแน่นจนเจ็บ แถมยังถูกดึงเข้าไปให้แนบชิดตัวเขา ริมฝีปากหนาของเขาโน้มเข้ามาประกบปากกับริมฝีปากบางของฉันอย่างตั้งใจแถมไม่มีความปราณีใด ๆ มันเป็นจูบที่รุนแรงราวกับลิ้นบางของฉันกำลังจะถูกกลืนกิน ฉันที่ตอนนี้เริ่มทำตัวไม่ถูกจึงทำได้เพียงกัดลิ้นเขาด้วยความตกใจ
“คุณทำบ้าอะไร ฉันไม่ใช่คนที่มาขายตัวให้คุณนะ” ฉันใช้มือเช็ดปากอย่างรังเกียจ ก่อนจะจ้องมองเขาอย่างหาเรื่อง ในขณะที่เราเพ่งมองกันอย่างพินิจ ก็มีชายผู้หนึ่งกำลังพาสาวงามมา และมองเหตุการณ์ด้วยความตกใจ ทำให้ฉันถอยหลังออกจากเหตุการณ์นี้
“ท่านครับเกิดอะไรขึ้น ผมขอโทษที่มาช้า ผมพาผู้หญิงมาเพิ่มให้พวกท่านตามที่สั่งแล้วครับ แล้วคุณผู้หญิงคนนี้ คือ....”
“มึงไม่ได้พามารึไง”
“ปะ...เปล่านะครับ คุณผู้หญิงคนนี้ผมไม่ได้พามา”
ฉันกอดอกมองเขา และดูเหมือนเขาจะจ้องฉันไม่ละสายตา ตามจริงฉันเองเป็นคนเดินมาห้องนี้เองช่วยไม่ได้ที่จะโดนเข้าใจผิดแบบนี้ เริ่มเรื่องมันเป็นฉันเองที่ผิด
“เฮ้อ ฉันขอโทษแล้วกันค่ะที่มาเคาะห้องคุณอย่างเสียมารยาท แต่ฉันมีเหตุผล”
“เหตุผล?”
“คุณรู้สึกเหมือนนอนไม่หลับรึเปล่า แบบนอนไม่ได้อ่ะ ฉันแค่อยากมาเตือนว่าตอนนี้รอบตัวคุณมีแต่สิ่งเลวร้าย ไม่รู้หรอกว่าคุณไปสร้างกรรมอะไรไว้บ้าง แต่ช่วงนี้ระวังตัวไว้หน่อยแล้วกัน อีกอย่าง ถ้ายังปล่อยพวกเขาอยู่ใกล้ ๆ แบบนี้คุณเจอดีแน่ เอาล่ะหมดธุระของฉันแล้ว ฉันไปก่อน” ฉันมองไปรอบ ๆ ตัวเขาอีกครั้งยิ่งมองยิ่งขนลุก เขาทนอยู่แบบนี้มาได้ยังไงกัน บรื้อ….น่ากลัวชะมัด
ฉันหันหลังเดินออกจากตรงนั้น พลางลูบแขนตัวเองอย่างน่าขนลุก ฉันได้ยินนะ เสียงที่ตามหลังมากมายนอกจากเสียงเพรียกหาของผีแล้ว เสียงของผู้ชายคนนั้นก็ตามหลังมาเหมือนกัน ‘เดี๋ยวใครสั่งให้เธอเดินกลับไป’
เพียงแค่ได้ยินคำนี้ ใครจะหยุดเดินล่ะ ตอนนี้มีแรงเท่าไหร่ ก็ใส่เกียร์หมาวิ่งแจ้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อออกจากโรงแรมแห่งนี้แล้วล่ะ
(
ณ. หน้าห้องพักแห่งหนึ่งในโรงแรม
หลังจากฟ้าครามวิ่งออกจากห้องไป
“ท่านครับ ผมน้อมรับผิดที่ปล่อยพื้นที่นี้ให้คนนอกเข้ามาครับ”
“ฉันต้องการดวงตาคู่นั้นของเธอ แกต้องตามสืบเธอมาให้ได้ว่าเธอเป็นใคร” ชายร่างสูงใหญ่เอ่ยออกมา
“ท่านจะให้ผมฆ่าผู้หญิงคนนั้นแล้วควักลูกตามาให้ เหรอครับ” ลูกน้องคนสนิทของชายร่างใหญ่เอ่ยออกมาตามความเข้าใจของตน ทันใดนั้นมือหนาก็ตบเข้ากับกบาลของลูกน้องคนสนิทอย่างจัง
“ฉันหมายถึงให้แกไปตามสืบให้ได้ ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ฉันต้องการเธอ”
“ครับแล้วผู้หญิงท่านนี้ล่ะครับ”
“แกเอาให้พวกมันในห้องแล้วกัน ฉันจะกลับไปนอน”
“นายท่านจะนอนเวลานี้ได้เหรอครับ”
“พูดมากน่ารำคาญ รีบไปจัดการซะ”
“ครับ”
สิ้นคำ ลูกน้องคนสนิทก็จัดการตามคำสั่งชายร่างสูง ส่วนเขา ตอนนี้ในหัวของเขาคิดถึงแต่ใบหน้าของเธอ ดวงตาคู่นั้นเพียงแค่เขาได้จ้องมองก็ทำให้จิตใจสงบ แทบอยากจะล้มตัวนอนอย่าไม่เคยเป็นมาก่อน แถมคำพูดที่เธอทิ้งท้ายไว้นั้นก็ทำให้เขาเก็บมาคิด เรื่องนี้เขาไม่เคยเอ่ยบอกกับใคร คนที่รู้มีเพียงลูกน้องคนสนิท และครอบครัวเท่านั้น ว่าเขาเป็นโรคนอนไม่หลับ จนต้องพึ่งพายาอยู่เสมอ
“เธอเป็นใครกันแน่ ถึงต้องพลิกฟ้า ฉันก็ต้องหาเธอให้ได้”
)
ฉันวิ่งแจ้นออกจากโรงแรมอย่างรวดเร็ว ให้ตายเถอะขนลุกชะมัด ฉันก็ดันพาตัวเองเข้าไปพัวพันอีรุงตุงนังอะไรไม่เข้าท่า จะโทษเขาฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ เพราะหากฉันไม่ทำตามอำเภอใจที่จะเข้าไปดูต้นตอแรงอาฆาตนั้นมันก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ นอกจากจะไม่ได้ถามความต้องการของผีพวกนั้นแล้ว ยังต้องมาเห็นภาพอุจาด กลุ่มคนมั่วสุมเซ็กซ์กันอย่างไม่อายอีก เฮ้อแถมยัง…
“นั่นมันจูบแรกฉันเลยนะ” ฉันสถบออกมาอย่างหัวเสีย นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เสียใจที่สุดในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้
ฉันขับรถออกมาอย่างคนซังกะตาย ในหัวคิดแต่เรื่องที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้จดจำได้ดีนั่นคือ ผู้ชายคนนั้น ก็ต้องยอมรับว่าความหล่อ ของเขาทำเอาลืมไม่ลงจริง ๆ ฉันอาจจะหลวมตัวตกหลุมรักเขาได้เลยนะ ถ้าไม่เห็นว่าเขามั่วเซ็กซ์กับผู้หญิงหลายคนในนั้น แต่อย่าเลยเหอะ ผู้ชายดูร้ายแล้วก็เหี้ยขนาดนั้น อย่าได้เจอะเจออีกก็พอ พูดแล้วก็ยังขนลุกชันไม่หาย
ฉันกลับมาถึงบ้าน ถอดชุดเดรสหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าไปในห้องน้ำ เปิดฝักบัวแรงก่อนจะยืนให้น้ำในฝักบัวนั้นชโลมไปทั้งตัว ในหัวพลางคิดไปต่าง ๆ นา ๆ นึกย้อนไปตั้งแต่เกิด
‘การเห็นผี มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร พวกเขาต่างก็แค่ติดอยู่ในโลกที่เน่าเฟะแห่งนี้ เขาเพียงต้องการผู้นำทางให้กลับไปเกิดใหม่ก็เท่านั้น เพราะบ่วงที่ยึดติดวิญญาณของเขา ไม่ยอมปล่อยให้เขากลับไปเกิด ฉันก็ทำได้แต่ช่วยเหลือเขาเท่าที่จะทำได้แค่นั้นเอง’
และแน่นอนว่ามันก็เป็นการช่วยเหลือคนที่ยังอยู่ด้วยเช่นกัน
แต่จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ฉันมันบุ่มบ่ามเกินไป คิดแต่จะอยากปลดปล่อยแรงอาฆาตนั้น จนพาลให้เกือบเอาชีวิตไปทิ้ง ดีว่าเขายังพอหยั่งมือให้บ้าง
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปฉันเดินเข้าบริษัทตามเคย แต่เพราะหลายวันมานี้ ฉันนอนไม่ค่อยหลับ นอกจากพวกผีตามทางจะคอยแวะเวียนมาหาแล้ว เรื่องเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนก็ยังตามมากวนใจเสมอ ฉันสลัดดวงตาดุดันนั้นไม่ออกเลย ราวกับมันเป็นรอยประทับที่เมื่อเห็นเพียงครั้งก็จะจดจำไปจนตายซะอย่างนั้น“อั่ก...” เป็นเพราะฉันเหม่อ ขณะที่จะเดินไปยังห้องของท่านประธาน ทำให้เดินชนใครสักคนอย่างจัง ให้ตายเถอะต้องเรียกสติตัวเองให้กลับมาหน่อยแล้ว“ขอโทษทีค่ะ เป็นฉันไม่ระวังเอง” ฉันหันไปสบตาก่อนที่จะเอื้อมมือไปช่วยเขา แต่ไม่รู้เพราะใบหน้าของฉันที่มันดูตาขวาง ดุดัน แถมไม่ได้นอน ทำให้คนตรงหน้าตกใจตื่นกลัวจนตัวสั่น พูดจาฟังไม่รู้เรื่อง“ผมไม่ได้เป็นอะไรครับ ผมผิดเองที่เดินชนผู้จัดการ”“หืม...เรียกฉันว่าผู้จัดการแบบนี้ แสดงว่าพนักงานใหม่สินะ”“ครับ” ชายตรงหน้ายืนสำรวมก้มหน้า กุมมือตัวสั่นงึก ๆ ดูท่าฝ่ายอบรมคงเอาฉันไปพูดอะไรไม่เข้าท่าให้คนตื่นกลัวแบบนี้อีกแล้วนะสิ เอาซะตอนนี้คนทั้งบริษัทที่อยู่ใต้อำนาจมองฉันเป็นนางยักษ์นางมารกันหมดแล้วไม่นานเลขาของไอ้
ณ.ท่าเรือฉันกับไอ้กรณ์เรามาถึงยังจุดนัดพบ คราวแรกนึกว่าจะมีคนไม่เท่าไหร่ แต่จากที่ดู คนทั้งหมดในบริเวณนี้กลับมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นคือเกาะโรงแรมที่พวกเรากำลังจะไป“ไอ้กรณ์ แกแน่ใจนะว่าเราดีลได้งาน ดูท่าเหมือนแค่เรียกเราไปเพื่ออวดโรงแรมเฉย ๆ รึเปล่า”“ไม่หรอก เขาบอกว่าบริษัทเราจะเป็นส่วนหนึ่งในการปรับปรุงโรงแรมเลยนะ”“เอาเถอะ ก็ขอให้ไม่ไปเสียเที่ยวละกัน ได้งานติดมือมาสักหน่อยก็ยังดี แต่มันน่าแปลกอยู่อย่างนะ”“ยังไง” ไอ้กรณ์หันมาพูดกับฉันเพราะไม่เข้าใจเรื่องที่ฉันจะสื่อ“ทุกบริษัทที่เขาชวนมา ทำไมต้องมีผู้หญิงอยู่ด้วยทุกคนวะ ขนาดแกเองยังต้องมีฉันเลยแปลก ๆ”“...” ไอ้กรณ์ทำหน้าคิดตาม “จริงแหะ พอสังเกตแล้ว เหมือนผู้หญิงจะเยอะกว่าผู้ชายด้วย สวยทั้งนั้น หวานหมู”“ไอ้กรณ์ ช่วยเป็นการเป็นงานหน่อยเถอะ”“ฟ้าคราม มึงอย่าคิดมากเลย ไม่มีอะไรหรอก”“เฮ้อ...เออ ไม่คิดก็ได้”ตอนนี้ทุกคนอยู่บนเรือกันหมดแล้ว เรือลำใหญ่ลำนี้ก็กำลังฝ่าคลื่นมุ่งหน้าไปยังเกาะขนาดใหญ่ที่เป็นจุดหมายปลายทางไ
ใบหน้าหล่อคมคาย สายตาน่าลุ่มหลง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ กับหุ่นที่น่า... ขนาดนี้ เท่าที่เคยพบในชีวิตนี้ก็มีอยู่คนเดียว คนที่ทำให้ตกหลุมรัก และอยากหลีกหนีไปพร้อม ๆ กัน“เจอกันอีกแล้วนะ” เขาพิงหลังไปตามราวระเบียงโดยที่มือทั้งสองจับราวไว้ ทำเป็นเท่(แต่ก็เท่จริงแหละ เฮ้อ)“เออ...คือว่าฉันมาผิดทาง ขอตัวก่อนค่ะ” ฉันรีบหันหลังให้อย่างไวก่อนที่จะมีเสียงเรียก ถ้าเป็นตามปกติแล้วฉันคงเดินหนีไปไม่ยาก แต่เสียงเรียกของเขามันดุดัน แถมแรงกดดันบางอย่างทำให้ฉันตัวหนักอึ้งจนก้าวขาไม่ออก ‘ให้ตายเถอะ ทำไมซวยแบบนี้ ไม่รู้ว่าไปทำเวรทำกรรมกับเขาไว้ตอนไหน’“ผมบอกให้คุณหยุด...เดี๋ยวนี้” ฉันได้ยินดังนั้นก็หันหน้ากลับมามองเขาราวกับกำลังถูกมนต์สะกด ฉันไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบตา เพราะเขาเองก็เพ่งมองฉันด้วยสายตาที่ทำเอาหัวใจเต้นแทบจะหลุดออกจากอก“คะ...คุณมีอะไรกับฉันเหรอคะ”“คุณชื่ออะไร” เสียงอันนุ่มลึกนั่นถามฉันด้วยท่าทีที่เริ่มเป็นมิตร“ฟ้าครามค่ะ” ฉันตอบไปแบบเก้ง ๆ กัง ๆ“อืม” เขาตอบสั้น ๆ ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองทะเลอันกว้างไกล“ฉันไปได้แล้วใช่มั้ยคะ”
8- เมาขาดสติ -(- -) (o o) (0 0) นี่คือสีหน้าของฉันเมื่อลืมตาตื่นขึ้น‘เชี่ยแล้ว ยัยฟ้า ตัวแกทำอะไรลงไปเนี่ย’ ดวงตาฉันเบิกกว้าง ร่างกายที่รู้สึกว่าไร้การห่อหุ้มจากเสื้อผ้า เมื่อเปิดดูร่างกายตัวเองภายใต้ผ้าห่มที่คลุมอยู่ ก็รับรู้ได้ถึงความเย็นวาบจากร่างกายเปลือยเปล่า ดูเหมือนจะมีรอยไปทั่วตัว ‘ระ..รุนแรงอะไรอย่างนี้’ ฉันเริ่มทำตัวไม่ถูก และค่อยๆ หันมองไปยังคนที่นอนข้าง ๆ‘คุณพระ!!! นี่มันคุณเอ็ดเวิร์ด’ ฉันยกมือปิดปากตัวเองทันที จากที่สะลืมสะลือ ตอนนี้รู้สึกตื่นเต็มที่ชนิดที่อยากจะวาปหนีจากตรงนี้ไปให้ไกลแล้วรอยตามตัวเขานั่นมันอะไรกันทำไมถึงเยอะขนาดนั้น คราวก่อนที่เคยเจอกัน แม้เขาจะกำลังมีเซ็กซ์กับผู้หญิงหลายคน แต่ตอนนั้นร่างกายเขาแทบขาวสะอาด ไร้รอยประทับด้วยซ้ำ แม้แต่รอยลิปสติกยังไม่มี แต่คราวนี้ตามตัวเขาดันเป็นรอยใหม่ ๆ ซะด้วย เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่า เป็นฉันที่ฝากไว้ ยัยหื่น ยัยเรื้อน ยัยลามกเอ้ย คอแกได้ขาดสะบั้นแน่ถ้าเขาตื่นทั้งที่รู้ว่าฉันเมาแล้วฉันจะเป็นแบบนี้ ฉันก็ยังดื่มเหล้ากับคนที่พึ่งพบกันครั้งแรกอีก เรื่องนี้จะโทษใครไม่ได้เลยนอกจากตัวฉันเองคุณเอ็ดเวิร์ดคงไม่คิดอะไร ไม่งั้นค
9- ร่วมมือ – “เดี๋ยวสิครับ พวกคุณจะปฏิเสธผมเพราะเรื่องแค่นี้ไม่ได้ ขอร้องเถอะครับ บริษัทผมอยากร่วมโครงการนี้จริง ๆ โปรดให้อภัยผมเถอะครับ” แม้นักธุรกิจคนนั้นจะวิงวอนเท่าไหร่ แต่ทางกลุ่มนายทุน ก็จับเขาโยนออกไปนอกประตูอย่างเลือดเย็นนักธุรกิจหลายบริษัทที่พกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม ตอนนี้กลับมีท่าทีหวั่นเกรง กับกลุ่มนายทุนร่ำรวยนี้ จากที่มั่นอกมั่นใจว่าเขาต้องเลือก กลายเป็นภาวนาให้บริษัทของตนได้อยู่ในสายตาบ้างก็พอแล้ว“กรณ์ แกว่าพวกเราจะได้ร่วมงานมั้ยเนี่ย ดูท่าไม่ง่ายอย่างที่คิดนะ”“อืม ก็ว่างั้น ยังไงพวกเราดูท่าทีไปก่อน ไม่ได้ก็ช่างมัน ตอนนี้ขอแค่ไม่ทำให้อับอายต่อหน้าคนบริษัทอื่น ๆ ก็พอ” ฉันกับไอ้กรณ์พยักหน้าเห็นด้วย ตอนนี้ไม่ใช่เวลาห่วงว่าได้งานรึเปล่า แต่กลับต้องมาห่วงภาพลักษณ์ขององค์กรต่อหน้าบริษัทอื่นแทน ‘ดูท่างานนี้ไม่ใช่เรื่องกล้วย ๆ ซะแล้ว’เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย กลับเข้าสู่สถานะปกติ ทางกลุ่มนายทุนจึงได้ประชุมต่อ“ผมหวังว่าพวกคุณที่อยู่ในนี้จะไม่เอ่ยถามหาประธานของเรา”“...” ทุกคนในที่ประชุมเงียบเฉียบตั้งใจฟัง“ทางเราจะเรียกบริษัทที่เราจัดลำดับไว้เข้าพบเพื่อให้ท่านได้นำ
10 - อภิสิทธ์ชั้น 8 – วันรุ่งขึ้น ฉันที่ตระเตรียมกระเป๋าเดินทางพร้อมกับชุดมากมายและสิ่งของจำเป็นเรียบร้อยแล้ว ไม่นานรถเก๋งคันหรูก็มารับถึงหน้าบ้าน สวัสดิการจะดีไปไหนเนี่ย ฉันถูกพาข้ามฟากด้วยเรือยอร์ชที่ทางบริษัทจัดเตรียมไว้ จู่ ๆ ก็รู้สึกพะอืดพะอม มวนท้องจนอยากจะอ้วก เพราะเรือขับด้วยความเร็วสูงมาก เมื่อเรือมาถึงโรงแรมบนเกาะและจอดเทียบท่า ฉันก็รีบลงจากเรือทันทีก่อนจะดิ่งไปยังม้านั่งที่อยู่ไม่ไกลนัก “คุณฟ้าครามครับ ไหวรึเปล่าครับ” “เวียนหัวนิดหน่อยค่ะ ถ้าไม่รบกวนช่วยนำกระเป๋าเข้าไปให้ก่อนได้มั้ยคะ ฟ้าขออนุญาต นั่งพักตรงนี้สักครู่หน่อยน่ะค่ะ” “ได้ครับเดี๋ยวผมจะบอกให้เจ้าหน้าที่โรงแรมจัดการเรื่องที่พักพร้อมนำกระเป๋าไว้ที่ห้องให้นะครับ หากคุณฟ้าครามดีขึ้นแล้วสามารถเข้าไปรับกุญแจที่เจ้าหน้าที่โรงแรมที่เคาน์เตอร์ได้นะครับ” “ได้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” หลังจากที่คนของนายทุนกลับไปฉันก็นั่งอยู่ตรงม้านั่ง พักสูดอากาศหายใจอาการเวียนหัวเจียนจะอ้วก เริ่มดีขึ้น แต่ยังคงมวนท้องอยู่หน่อย ๆ ทะเลตรงหน้าที่สวยงามพอเยียวยาให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้างล่ะนะ “คุณลุงคะทำไมถึงยังนั่งอยู่ตรงนี้คะ” ‘...’ “งั้นเหร
11- วันแรก –เช้าตรู่เวลา07.00 น. ฉันตื่นตามนาฬิกาปลุกที่ตั้งเอาไว้ แต่งตัวด้วยชุดเสื้อสูทกระโปรงทรงเอ รวบผมให้เข้าที่ แต่งหน้าอ่อน ๆ ไม่ฉูดฉาดมากนัก ให้สมกับมาทำงานนั่นแหละฉันออกจากห้องของตัวเอง พอได้ลองสังเกตดี ๆ ชั้นแปดมีไม่กี่ห้องเองแหะ แถมไม่ค่อยมีใครอยู่ชั้นนี้เลย แล้วคนจากบริษัทอื่นที่ได้มาร่วมงานในช่วงเวลาการปรับปรุงโครงการนี้เขาพักกันชั้นไหนกันนะ“ช่างเถอะ รีบไปรายงานตัวก่อนไม่งั้นคงไม่ดีกับภาพลักษณ์บริษัทแน่”ฉันเดินลงไปยังห้องประชุมเดิมที่เคยมาก่อนหน้า เริ่มเห็นคนจากบริษัทอื่นที่ต้องมาทำงานอยู่ที่นี่ ต่างคนต่างมองหน้ากันไปมาอย่างช่างใจ แต่ก็ไม่ได้มองเขม่นกันหรอก เพราะยังไงแต่ละคนก็รับผิดชอบงานกันแต่ละส่วนอยู่แล้วทุกคนนั่งลงรอภายในห้องประชุมก่อนที่จะมีพนักงานจากกลุ่มนายทุนเข้ามาแจกแจงให้เราไปยังจุดที่แต่ละบริษัทต้องรับผิดชอบบริษัทของฉันที่ได้รับผิดชอบโครงการใหญ่ในการออกแบบห้องพักทั้งตึกB ทั้งหมดนั้น จำเป็นที่จะต้องเดินสำรวจให้ทั่ว คำนวณขนาดห้องแต่ล่ะชั้นเพื่อให้ออกแบบได้เหมาะสม และสามารถแบ่งเป็นสัดส่วนในแต่ละราคาได้สินะแผนงานคร่าว ๆ ที่ทางเจ้าของโครงการต้องการก็ไกด์ไลน
12- ขอให้โชคดี –ฉันข้ามฝากมาอีกฝั่งในตัวเมือง เพราะการนัดเจอกับคนใหญ่คนโตครั้งนี้ เป็นคลับหรูแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ที่คุณเอ็ดเวิร์ดไม่ได้นัดเจอพวกเขาที่โรงแรมบนเกาะเพราะตอนนี้ยังอยู่ในช่วงรีโนเวทอยู่แหละนะหลังจากลงจากเรือฉันก็เดินไปยังรถเก๋งสีดำที่จอดเทียบอยู่“คุ...คุณเอ็ดเวิร์ด ทำไมอยู่ตรงนี้คะ”“ทำไมผมจะอยู่ตรงนี้ไม่ได้ นี่มันรถผม”“เปล่าค่ะ ดิฉันไม่ได้หมายถึงแบบนั้น ดิฉันนึกว่าคุณเอ็ดเวิร์ดไปคลับก่อนแล้วน่ะค่ะ”“รีบขึ้นรถเถอะ เวลาของผมมีค่า”“ขอโทษค่ะ” ฉันรีบวิ่งจะอ้อมไปนั่งด้านหน้า แต่จู่ ๆ ก็โดนลูกน้องของคุณเอ็ดเวิร์ดห้ามไม่ให้เปิดประตูด้านหน้า“คุณฟ้าครามต้องนั่งด้านหลังครับ”“ให้ฉันนั่งข้างคุณเอ็ดเวิร์ดไม่ดีมั้งคะ”“มัวทำอะไรอยู่” สิ้นคำ เสียงอันบาดลึกก็เปล่งออกมาด้วยความหงุดหงิด“คุณฟ้ารีบขึ้นเถอะครับถ้าบอสโกรธผมตายแน่”“ค่ะ..ค่ะ” ฉันรีบเปิดประตูรถด้านหลังก่อนจะรีบนั่งลงไป ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองคนข้าง ๆ ภายในรถเงียบเฉียบ แค่เผลอกลืนน้ำลายก็ทำเอาได้ยินชัดเจน“จำเป็นต้องพก เครื่องดื่มมาคลับด้วยเหรอ”“เอ๊ะ จริงสิ!! คุณเอ็ดเวิร์ดคะ ช่วยแวะที่หนึ่งได้มั้ยคะ เป็นทางผ่าน 10 นาที
14- เหยียบกับระเบิด – ฉันถึงกับต้องอ้าปากค้าง นิ่งทื่อราวกับโดนตอกเสาเข็มปักหมุดให้ขยับไปไหนไม่ได้ อยากปฏิเสธใจจะขาด แต่มันมีหนทางให้ฉันพูดออกไปว่าไม่ทำได้ยังไง ในเมื่อเป็นฉันเองที่ จุดชนวนนี้มันกับมือ “คุณเอ็ดเวิร์ด คุณพูดผิดรึเปล่าคะ ให้ฉันเนี่ยนะมานอนห้องนี้กับคุณ” “ใช่...” ฉันจ้องมองไปที่เขา สีหน้าสุขุมจริงจังแบบนั้น แถมยังกอดอกพยักหน้ายืนยันว่าฉันไม่ได้ฟังผิด และเข้าใจถูกต้องแล้ว“ทำไมคะ ทำไมฉันต้องมานอนห้องนี้กับคุณ เอ่อ คุณเอ็ดเองก็ใช้บริการสาว ๆ ปกติอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ ก็เรียกใช้อย่างที่เคย ๆ ไปสิคะ” ฉันพูดออกไปตรง ๆ แน่ล่ะ ฉันน่ะเห็นผู้หญิงเข้าออกห้องเขาก็บ่อย แถมยังไม่เคยจะซ้ำหน้ากันเลยสักคนขนาดนั้น ถึงฉันจะเคยพลาด (มั้ง) นอนกับเขาไปสองสามหน แต่ฉันก็ไม่ได้อยากจะลดตัวไปเป็นนางบำเรอประจำตัวให้เขาซะหน่อย “...” แต่แทนที่เขาจะพูดอะไรออกมาสักคำ เขากลับจ้องมองฉันด้วยสายตาดุดัน ราวกับว่าคำพูดของเขานั้นคือคำสั่ง “โอเคค่ะ มานอนห้องนี้ก็ได้ค่ะ งั้นฉันกลับห้องของฉันได้แล้วใช่มั้ยคะ” เขาลุกขึ้นหันจ้องมองฉั
13- คนของฉัน –“คุณเอ็ด ฉันดื่มได้มั้ย ส่วนที่ฉันดื่มฉันจ่ายเองก็ได้” ฉันหันไปเอ่ยกับเขา มันน่าเบื่อเกินไปถ้าจะให้ฉันนั่งเฉย ๆ ในเมื่อพวกเขาไม่คุยงานกันแล้ว ฉันก็ไม่เกรงใจแล้วล่ะเขาหันมาหาฉันก่อนที่จะวางแก้วเหล้าของตัวเอง“แน่ใจว่าคุณจะดื่ม”“ค่ะ ในเมื่อพวกคุณไม่คุยงานกันแล้ว และคุณเอ็ดเวิร์ดไม่ให้ฉันกลับฉันก็จะนั่งดื่มเงียบ ๆ ส่วนคุณจะอยู่กับสาว ๆ เหมือนเพื่อน ๆ ของคุณก็เต็มที่ได้เลยค่ะ”“...” เขาเงียบไป แต่เพื่อนนัยน์ตาหวานที่มองอยู่ ก็คว้าขวดเหล้า แล้วผสมเหล้า เทลงแก้วนำมาวางตรงหน้าฉัน“เรื่องแค่นั้นคุณไม่ต้องถามไอ้เอ็ดมันหรอก ดื่มเถอะครับ ผมผสมให้”“เอ่อ.. ขอบคุณค่ะ”“ว่าแต่คุณชื่ออะไรครับ ผมมาติน”“ฉันชื่อฟ้าครามค่ะ”“ชื่อเพราะดีครับ นี่แก้วเหล้าของคุณฟ้าครับ”“ขอบคุณค่ะ” ฉันรับมันมาพร้อมส่งยิ้มให้ตามมารยาท“น้อย ๆ หน่อยไอ้ติน ก่อนที่ไอ้เอ็ดมันจะอารมณ์เสีย” ชายคิ้วบากเอ่ยท้วง ก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างไม่ใส่ใจนักฉันคว้าแก้วเหล้าก่อนจะดื่มมันลงไป เข้มจริง แต่ก็อร่อยมาก ๆ นี่คือรสชาติของเหล้าแพง ๆ เหรอเนี่ย ทำเอาหยุดดื่มไม่ได้เลยแหะ“ผู้หญิงนายดื่มเก่งนะเนี่ย แต่ช่วยเตือนเธอหน่อย
12- ขอให้โชคดี –ฉันข้ามฝากมาอีกฝั่งในตัวเมือง เพราะการนัดเจอกับคนใหญ่คนโตครั้งนี้ เป็นคลับหรูแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ที่คุณเอ็ดเวิร์ดไม่ได้นัดเจอพวกเขาที่โรงแรมบนเกาะเพราะตอนนี้ยังอยู่ในช่วงรีโนเวทอยู่แหละนะหลังจากลงจากเรือฉันก็เดินไปยังรถเก๋งสีดำที่จอดเทียบอยู่“คุ...คุณเอ็ดเวิร์ด ทำไมอยู่ตรงนี้คะ”“ทำไมผมจะอยู่ตรงนี้ไม่ได้ นี่มันรถผม”“เปล่าค่ะ ดิฉันไม่ได้หมายถึงแบบนั้น ดิฉันนึกว่าคุณเอ็ดเวิร์ดไปคลับก่อนแล้วน่ะค่ะ”“รีบขึ้นรถเถอะ เวลาของผมมีค่า”“ขอโทษค่ะ” ฉันรีบวิ่งจะอ้อมไปนั่งด้านหน้า แต่จู่ ๆ ก็โดนลูกน้องของคุณเอ็ดเวิร์ดห้ามไม่ให้เปิดประตูด้านหน้า“คุณฟ้าครามต้องนั่งด้านหลังครับ”“ให้ฉันนั่งข้างคุณเอ็ดเวิร์ดไม่ดีมั้งคะ”“มัวทำอะไรอยู่” สิ้นคำ เสียงอันบาดลึกก็เปล่งออกมาด้วยความหงุดหงิด“คุณฟ้ารีบขึ้นเถอะครับถ้าบอสโกรธผมตายแน่”“ค่ะ..ค่ะ” ฉันรีบเปิดประตูรถด้านหลังก่อนจะรีบนั่งลงไป ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองคนข้าง ๆ ภายในรถเงียบเฉียบ แค่เผลอกลืนน้ำลายก็ทำเอาได้ยินชัดเจน“จำเป็นต้องพก เครื่องดื่มมาคลับด้วยเหรอ”“เอ๊ะ จริงสิ!! คุณเอ็ดเวิร์ดคะ ช่วยแวะที่หนึ่งได้มั้ยคะ เป็นทางผ่าน 10 นาที
11- วันแรก –เช้าตรู่เวลา07.00 น. ฉันตื่นตามนาฬิกาปลุกที่ตั้งเอาไว้ แต่งตัวด้วยชุดเสื้อสูทกระโปรงทรงเอ รวบผมให้เข้าที่ แต่งหน้าอ่อน ๆ ไม่ฉูดฉาดมากนัก ให้สมกับมาทำงานนั่นแหละฉันออกจากห้องของตัวเอง พอได้ลองสังเกตดี ๆ ชั้นแปดมีไม่กี่ห้องเองแหะ แถมไม่ค่อยมีใครอยู่ชั้นนี้เลย แล้วคนจากบริษัทอื่นที่ได้มาร่วมงานในช่วงเวลาการปรับปรุงโครงการนี้เขาพักกันชั้นไหนกันนะ“ช่างเถอะ รีบไปรายงานตัวก่อนไม่งั้นคงไม่ดีกับภาพลักษณ์บริษัทแน่”ฉันเดินลงไปยังห้องประชุมเดิมที่เคยมาก่อนหน้า เริ่มเห็นคนจากบริษัทอื่นที่ต้องมาทำงานอยู่ที่นี่ ต่างคนต่างมองหน้ากันไปมาอย่างช่างใจ แต่ก็ไม่ได้มองเขม่นกันหรอก เพราะยังไงแต่ละคนก็รับผิดชอบงานกันแต่ละส่วนอยู่แล้วทุกคนนั่งลงรอภายในห้องประชุมก่อนที่จะมีพนักงานจากกลุ่มนายทุนเข้ามาแจกแจงให้เราไปยังจุดที่แต่ละบริษัทต้องรับผิดชอบบริษัทของฉันที่ได้รับผิดชอบโครงการใหญ่ในการออกแบบห้องพักทั้งตึกB ทั้งหมดนั้น จำเป็นที่จะต้องเดินสำรวจให้ทั่ว คำนวณขนาดห้องแต่ล่ะชั้นเพื่อให้ออกแบบได้เหมาะสม และสามารถแบ่งเป็นสัดส่วนในแต่ละราคาได้สินะแผนงานคร่าว ๆ ที่ทางเจ้าของโครงการต้องการก็ไกด์ไลน
10 - อภิสิทธ์ชั้น 8 – วันรุ่งขึ้น ฉันที่ตระเตรียมกระเป๋าเดินทางพร้อมกับชุดมากมายและสิ่งของจำเป็นเรียบร้อยแล้ว ไม่นานรถเก๋งคันหรูก็มารับถึงหน้าบ้าน สวัสดิการจะดีไปไหนเนี่ย ฉันถูกพาข้ามฟากด้วยเรือยอร์ชที่ทางบริษัทจัดเตรียมไว้ จู่ ๆ ก็รู้สึกพะอืดพะอม มวนท้องจนอยากจะอ้วก เพราะเรือขับด้วยความเร็วสูงมาก เมื่อเรือมาถึงโรงแรมบนเกาะและจอดเทียบท่า ฉันก็รีบลงจากเรือทันทีก่อนจะดิ่งไปยังม้านั่งที่อยู่ไม่ไกลนัก “คุณฟ้าครามครับ ไหวรึเปล่าครับ” “เวียนหัวนิดหน่อยค่ะ ถ้าไม่รบกวนช่วยนำกระเป๋าเข้าไปให้ก่อนได้มั้ยคะ ฟ้าขออนุญาต นั่งพักตรงนี้สักครู่หน่อยน่ะค่ะ” “ได้ครับเดี๋ยวผมจะบอกให้เจ้าหน้าที่โรงแรมจัดการเรื่องที่พักพร้อมนำกระเป๋าไว้ที่ห้องให้นะครับ หากคุณฟ้าครามดีขึ้นแล้วสามารถเข้าไปรับกุญแจที่เจ้าหน้าที่โรงแรมที่เคาน์เตอร์ได้นะครับ” “ได้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” หลังจากที่คนของนายทุนกลับไปฉันก็นั่งอยู่ตรงม้านั่ง พักสูดอากาศหายใจอาการเวียนหัวเจียนจะอ้วก เริ่มดีขึ้น แต่ยังคงมวนท้องอยู่หน่อย ๆ ทะเลตรงหน้าที่สวยงามพอเยียวยาให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้างล่ะนะ “คุณลุงคะทำไมถึงยังนั่งอยู่ตรงนี้คะ” ‘...’ “งั้นเหร
9- ร่วมมือ – “เดี๋ยวสิครับ พวกคุณจะปฏิเสธผมเพราะเรื่องแค่นี้ไม่ได้ ขอร้องเถอะครับ บริษัทผมอยากร่วมโครงการนี้จริง ๆ โปรดให้อภัยผมเถอะครับ” แม้นักธุรกิจคนนั้นจะวิงวอนเท่าไหร่ แต่ทางกลุ่มนายทุน ก็จับเขาโยนออกไปนอกประตูอย่างเลือดเย็นนักธุรกิจหลายบริษัทที่พกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม ตอนนี้กลับมีท่าทีหวั่นเกรง กับกลุ่มนายทุนร่ำรวยนี้ จากที่มั่นอกมั่นใจว่าเขาต้องเลือก กลายเป็นภาวนาให้บริษัทของตนได้อยู่ในสายตาบ้างก็พอแล้ว“กรณ์ แกว่าพวกเราจะได้ร่วมงานมั้ยเนี่ย ดูท่าไม่ง่ายอย่างที่คิดนะ”“อืม ก็ว่างั้น ยังไงพวกเราดูท่าทีไปก่อน ไม่ได้ก็ช่างมัน ตอนนี้ขอแค่ไม่ทำให้อับอายต่อหน้าคนบริษัทอื่น ๆ ก็พอ” ฉันกับไอ้กรณ์พยักหน้าเห็นด้วย ตอนนี้ไม่ใช่เวลาห่วงว่าได้งานรึเปล่า แต่กลับต้องมาห่วงภาพลักษณ์ขององค์กรต่อหน้าบริษัทอื่นแทน ‘ดูท่างานนี้ไม่ใช่เรื่องกล้วย ๆ ซะแล้ว’เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย กลับเข้าสู่สถานะปกติ ทางกลุ่มนายทุนจึงได้ประชุมต่อ“ผมหวังว่าพวกคุณที่อยู่ในนี้จะไม่เอ่ยถามหาประธานของเรา”“...” ทุกคนในที่ประชุมเงียบเฉียบตั้งใจฟัง“ทางเราจะเรียกบริษัทที่เราจัดลำดับไว้เข้าพบเพื่อให้ท่านได้นำ
8- เมาขาดสติ -(- -) (o o) (0 0) นี่คือสีหน้าของฉันเมื่อลืมตาตื่นขึ้น‘เชี่ยแล้ว ยัยฟ้า ตัวแกทำอะไรลงไปเนี่ย’ ดวงตาฉันเบิกกว้าง ร่างกายที่รู้สึกว่าไร้การห่อหุ้มจากเสื้อผ้า เมื่อเปิดดูร่างกายตัวเองภายใต้ผ้าห่มที่คลุมอยู่ ก็รับรู้ได้ถึงความเย็นวาบจากร่างกายเปลือยเปล่า ดูเหมือนจะมีรอยไปทั่วตัว ‘ระ..รุนแรงอะไรอย่างนี้’ ฉันเริ่มทำตัวไม่ถูก และค่อยๆ หันมองไปยังคนที่นอนข้าง ๆ‘คุณพระ!!! นี่มันคุณเอ็ดเวิร์ด’ ฉันยกมือปิดปากตัวเองทันที จากที่สะลืมสะลือ ตอนนี้รู้สึกตื่นเต็มที่ชนิดที่อยากจะวาปหนีจากตรงนี้ไปให้ไกลแล้วรอยตามตัวเขานั่นมันอะไรกันทำไมถึงเยอะขนาดนั้น คราวก่อนที่เคยเจอกัน แม้เขาจะกำลังมีเซ็กซ์กับผู้หญิงหลายคน แต่ตอนนั้นร่างกายเขาแทบขาวสะอาด ไร้รอยประทับด้วยซ้ำ แม้แต่รอยลิปสติกยังไม่มี แต่คราวนี้ตามตัวเขาดันเป็นรอยใหม่ ๆ ซะด้วย เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่า เป็นฉันที่ฝากไว้ ยัยหื่น ยัยเรื้อน ยัยลามกเอ้ย คอแกได้ขาดสะบั้นแน่ถ้าเขาตื่นทั้งที่รู้ว่าฉันเมาแล้วฉันจะเป็นแบบนี้ ฉันก็ยังดื่มเหล้ากับคนที่พึ่งพบกันครั้งแรกอีก เรื่องนี้จะโทษใครไม่ได้เลยนอกจากตัวฉันเองคุณเอ็ดเวิร์ดคงไม่คิดอะไร ไม่งั้นค
ใบหน้าหล่อคมคาย สายตาน่าลุ่มหลง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ กับหุ่นที่น่า... ขนาดนี้ เท่าที่เคยพบในชีวิตนี้ก็มีอยู่คนเดียว คนที่ทำให้ตกหลุมรัก และอยากหลีกหนีไปพร้อม ๆ กัน“เจอกันอีกแล้วนะ” เขาพิงหลังไปตามราวระเบียงโดยที่มือทั้งสองจับราวไว้ ทำเป็นเท่(แต่ก็เท่จริงแหละ เฮ้อ)“เออ...คือว่าฉันมาผิดทาง ขอตัวก่อนค่ะ” ฉันรีบหันหลังให้อย่างไวก่อนที่จะมีเสียงเรียก ถ้าเป็นตามปกติแล้วฉันคงเดินหนีไปไม่ยาก แต่เสียงเรียกของเขามันดุดัน แถมแรงกดดันบางอย่างทำให้ฉันตัวหนักอึ้งจนก้าวขาไม่ออก ‘ให้ตายเถอะ ทำไมซวยแบบนี้ ไม่รู้ว่าไปทำเวรทำกรรมกับเขาไว้ตอนไหน’“ผมบอกให้คุณหยุด...เดี๋ยวนี้” ฉันได้ยินดังนั้นก็หันหน้ากลับมามองเขาราวกับกำลังถูกมนต์สะกด ฉันไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบตา เพราะเขาเองก็เพ่งมองฉันด้วยสายตาที่ทำเอาหัวใจเต้นแทบจะหลุดออกจากอก“คะ...คุณมีอะไรกับฉันเหรอคะ”“คุณชื่ออะไร” เสียงอันนุ่มลึกนั่นถามฉันด้วยท่าทีที่เริ่มเป็นมิตร“ฟ้าครามค่ะ” ฉันตอบไปแบบเก้ง ๆ กัง ๆ“อืม” เขาตอบสั้น ๆ ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองทะเลอันกว้างไกล“ฉันไปได้แล้วใช่มั้ยคะ”
ณ.ท่าเรือฉันกับไอ้กรณ์เรามาถึงยังจุดนัดพบ คราวแรกนึกว่าจะมีคนไม่เท่าไหร่ แต่จากที่ดู คนทั้งหมดในบริเวณนี้กลับมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นคือเกาะโรงแรมที่พวกเรากำลังจะไป“ไอ้กรณ์ แกแน่ใจนะว่าเราดีลได้งาน ดูท่าเหมือนแค่เรียกเราไปเพื่ออวดโรงแรมเฉย ๆ รึเปล่า”“ไม่หรอก เขาบอกว่าบริษัทเราจะเป็นส่วนหนึ่งในการปรับปรุงโรงแรมเลยนะ”“เอาเถอะ ก็ขอให้ไม่ไปเสียเที่ยวละกัน ได้งานติดมือมาสักหน่อยก็ยังดี แต่มันน่าแปลกอยู่อย่างนะ”“ยังไง” ไอ้กรณ์หันมาพูดกับฉันเพราะไม่เข้าใจเรื่องที่ฉันจะสื่อ“ทุกบริษัทที่เขาชวนมา ทำไมต้องมีผู้หญิงอยู่ด้วยทุกคนวะ ขนาดแกเองยังต้องมีฉันเลยแปลก ๆ”“...” ไอ้กรณ์ทำหน้าคิดตาม “จริงแหะ พอสังเกตแล้ว เหมือนผู้หญิงจะเยอะกว่าผู้ชายด้วย สวยทั้งนั้น หวานหมู”“ไอ้กรณ์ ช่วยเป็นการเป็นงานหน่อยเถอะ”“ฟ้าคราม มึงอย่าคิดมากเลย ไม่มีอะไรหรอก”“เฮ้อ...เออ ไม่คิดก็ได้”ตอนนี้ทุกคนอยู่บนเรือกันหมดแล้ว เรือลำใหญ่ลำนี้ก็กำลังฝ่าคลื่นมุ่งหน้าไปยังเกาะขนาดใหญ่ที่เป็นจุดหมายปลายทางไ