แชร์

ตอนที่2

ผู้เขียน: ฉู่เฉียว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-06 10:05:13

อิงอิงในตอนนี้กำลังคิดไม่ตกว่าจะทำเช่นไรต่อไปกับชีวิตของตัวเองดี หลังจากที่ได้ทบทวนเรื่องราวชีวิตของว่านเย่วอิงที่พอจะจำได้แค่เลือนราง นางนั้นก็ให้รู้สึกกระวนกระวายกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก มาอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยว่าหนักหนาแล้ว ยังต้องมาคอยหวาดระแวงระแวดระวังเพื่อรักษาชีวิตน้อยๆ นี้ให้อยู่รอดปลอดภัยอีก จิตใจของนางในตอนนี้นั้นร้อนรุ่มดังกับมีไฟสุม เดินวนไปเวียนมาอยู่ในห้องนอนมาหลายชั่วยามแล้ว แต่ก็ยังไม่มีทางออก นางทั้งรู้สึกหวาดกลัว กังวล อยากจะร้องไห้ก็ร้องไม่ออกเพราะน้ำตามันไม่ยอมไหล จะหัวเราะให้กับชะตาชีวิตของตนก็ขมขื่นเต็มทน

เมื่อไม่อาจทำสิ่งใดได้ร่างบอบบางจึงเดินกระแทกส้นเท้าปึงปังอย่างขัดใจ อารมณ์นั้นเดือดดาลถึงที่สุด จะว่าไปแล้วนิสัยของนางกับเจ้าของร่างเดิมดูจะคล้ายคลึงกันอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะนิสัยใจร้อน วู่วาม เอาแต่ใจ แต่นางก็ยังดีกว่าว่านเย่วอิงมากนัก เพราะนางไม่เคยคิดร้ายหรือทำร้ายให้ผู้อื่นต้องเป็นอันตรายถึงชีวิต แม้จะมีการกลั่นแกล้งผู้อื่นบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับเลือดตกยางออก แต่ดูสิ่งที่นางได้รับสิ ช่างไม่ยุติธรรมแม้แต่น้อย ถึงแม้นางจะเป็นคุณหนูเอาแต่ใจ แต่นางก็หมั่นทำบุญไม่เคยขาด ก่อนจะตาย นางยังทำบุญโดยการช่วยชีวิตเจ้ามดตัวน้อยที่ตกลงไปในชักโครกไม่ให้จมน้ำตายอยู่เลย

เฮ่อ! ทำดีแต่กลับไม่ได้ดี ช่างน่าอดสูยิ่งนัก

ความเดือดดาลที่ยิ่งพุ่งสูงขึ้นทำให้เท้าเล็กๆ กระแทกลงน้ำหนักจนรู้สึกเจ็บ ขาทั้งสองปวดร้าวจนปวดแปลบไปถึงฝ่าเท้า ความเจ็บปวดที่ได้รับส่งให้ใบหน้างามยิ่งยับย่น เดินขากะเผลกมาทิ้งกายลงนั่งหน้ากระจกทองเหลืองบานใหญ่ที่ฉลุลวดลายอย่างงดงามพลางสูดลมหายใจเข้าลึกอย่างพยายามสงบสติอารมณ์ที่กำลังเดือดปุดปุด

ยุบหนอ พองหนอ ยุบหนอ พองหนอ

สติ... สติ... สติมา ปัญญาเกิด

เมื่อกำหนดลมหายใจเข้าออกปลอบใจตัวเองจนรู้สึกดีขึ้นมาบ้างแล้ว สายตาจึงได้กวาดมองสำรวจภาพสะท้อนเบื้องหน้า พิศมองใบหน้างดงามราวกับนางจิ้งจอกของตน คิ้วเรียวได้รูปเรียงตัวสวย ขมวดมุ่นอยู่บนใบหน้ารูปไข่ขาวนวลผุดผ่อง ดวงตาหงส์ดำขลับเปล่งประกายวาววับนั้นดูขุ่นมัว ปลายจมูกโด่งเล็กเชิดขึ้นอย่างดื้อรั้นถือดี ริมฝีปากอวบอิ่มเย้ายวนตอนนี้เม้มเข้าหากันแน่น แม้องค์ประกอบบนใบหน้ามันจะดูยุ่งเหยิงอย่างมากแต่กลับไม่อาจบดบังความงามเย้ายวนนั้นลงได้เลยแม้แต่น้อย

งดงามขนาดนี้เหตุใดจึงยึดติดอยู่กับบุรุษเพียงผู้เดียวกันนะ

อิงอิงจ้องมองใบหน้างดงามที่บัดนี้นางเป็นผู้ครอบครองมันอย่างเหม่อลอย น่าเสียดายที่ตัวละครตัวนี้ต้องจบชีวิตลง

แต่มันจะต้องไม่เป็นแบบนั้นสิ ในเมื่อตอนนี้ เวลานี้ นางได้มาอยู่ในร่างนี้แล้ว นางจะไม่ยอมเดินตามบทอันน่ารังเกียจนั่นเป็นอันขาด

นางต้องรอดและต้องใช้ชีวิตในร่างใหม่นี้อย่างคุ้มค่าและมีความสุขที่สุด

แอ๊ด...

เสียงเปิดประตูพร้อมกับปรากฏร่างเล็กบางของเด็กสาวเพียงคนเดียวที่อยู่เคียงข้างนางตั้งแต่ฟื้นคืนสติขึ้นมาในสถานที่อันไม่คุ้นเคยแห่งนี้ ทำให้นางรีบหันไปมองและเอ่ยปากถามในทันที

"เป็นเช่นไรบ้างเสี่ยวมี่"

ใบหน้าจิ้มลิ้มของเด็กสาววัยราวๆ สิบสี่สิบห้าที่บัดนี้มีเม็ดเหงื่อผุดซึมจนชุ่มหน้าผากและไรผม ใบหน้านั้นไม่ใคร่จะสู้ดีนัก เอ่ยบอกนางเสียงสั่น ดวงตาหยีเล็กนั้นบ่งบอกถึงความหวาดหวั่นจนแลดูน่าสงสาร

"คุณหนูด้านหน้าจวนมีคนของคุณชายเซี่ยมาด้อมๆ มองๆ อยู่อย่างที่คุณหนูคาดเดาเอาไว้จริงๆ เจ้าค่ะ เห็นทีเราคงมิอาจย่างเท้าออกจากจวนได้เป็นแน่"

เสี่ยวมี่หอบหายใจก่อนจะกล่าวออกมา นางได้รับคำสั่งจากคุณหนูให้ไปดูสถานการณ์ด้านนอกจวน แต่ยังมิทันได้ก้าวพ้นธรณีประตูก็สังเกตเห็นคนของตระกูลเซี่ยคอยจับตามองอยู่เช่นดังที่คุณหนูบอกกับนางก่อนจะออกไป

บัดซบ!

คำตอบของบ่าวรับใช้คนสนิททำให้อารมณ์ที่สงบลงเมื่อครู่ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ความร้อนแล่นมาจุกอยู่ในอกจนแทบจะระเบิดออกมา นางมิได้คาดเดาอย่างที่บอกกับเสี่ยวมี่ไปในคราแรกหรอก แต่เพียงจำได้ว่าหลังจากที่แม่นางเอกเจ็บหนัก บุรุษผู้นั้นก็ส่งคนมาคอยจับตามองนางทุกฝีก้าว เพราะเกรงว่านางจะลงมือทำร้ายคนรักของเขาอีกอย่างไรล่ะ

คิดไปคิดมาความจริงแล้วตอนนี้ยังไม่ถือว่าสายเกินไป อีกฝ่ายยังไม่เกลียดนางถึงขนาดที่คิดจะวางยาให้ตกตาย นางยังพอจะจำเนื้อเรื่องได้บ้างว่าที่อีกฝ่ายตัดสินใจวางยาว่านเย่วอิง ก็เพราะนางคิดจะวางยาปลุกกำหนัดเขา และว่าจ้างให้บุรุษใจทรามหยามเกียรตินางเอก ในตอนนี้เรื่องราวยังไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น นางยังพอจะหันหัวเรือกลับเข้าฝั่งทันก่อนที่มันจะถูกพายุพัดจนอับปาง แต่อย่างไรเสียนางก็ไม่ควรจะประมาท หากเกิดผิดพลาดขึ้นมานั่นหมายถึงชีวิตน้อยๆ ของนาง

"เราจะทำเช่นไรต่อไปดีเจ้าคะคุณหนู"

เสี่ยวมี่ที่เห็นว่าผู้เป็นนายนิ่งเงียบไปจึงเอ่ยถามขึ้นอย่างร้อนรน

อิงอิงทิ้งกายลงนั่งอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยใจที่สงบขึ้น

"ไม่ต้องทำอันใดทั้งนั้น เราจะอยู่กันอย่างสงบๆ ในจวน ไม่ไปยุ่งวุ่นวายกับพวกเขา"

ใช่ นางต้องอยู่อย่างสงบ ครั้งนี้อีกฝ่ายคงยังไม่ไร้เมตตาจนถึงกับเอาชีวิตของนางกระมัง หากนางไม่ก่อเรื่องเพิ่มเขาคงจะวางมือไปเอง หลังจากนั้นนางจะอยู่ให้ห่างจากคนเหล่านี้

"บ่าวไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนั้นน่ะสิเจ้าคะ อึก ฮื้อ..."

เสี่ยวมี่เอ่ยกับผู้เป็นนายด้วยใบหน้าซีดเผือด ดวงตาหยีเล็กนั้นสั่นระริก ก่อนจะปล่อยโฮออกมาเมื่อไม่อาจอดกลั้น

นั่นทำให้อิงอิงใจคอไม่ดีเอาเสียเลย

"ยังมีเรื่องใดอีกงั้นหรือเสี่ยวมี่"

ดวงตาไหววูบจ้องมองคนที่ร้องไห้จนตัวสั่นด้วยหัวใจที่เต้นระรัวภาวนาอย่าให้เป็นเรื่องร้ายแรงอันใดเลย

แต่ราวกับสวรรค์ไม่เห็นใจนาง

คำภาวนานั้นไม่เกิดผล เมื่อสิ่งที่นางไม่อยากได้ยินพรั่งพรูออกมาจากปากเล็กๆ นั่น แม้มันจะเจือไปด้วยเสียงสะอื้น

แต่นางกลับได้ยินชัดทุกคำ

ว่านเย่วอิงสั่งให้คนไปวางเพลิงร้านขายซาลาเปาของครอบครัวนางเอกเช่นนั้นหรือ

อิงอิงกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก รู้สึกได้ถึงหัวใจที่สั่นรัว

หากนางจำไม่ผิดร้านขายซาลาเปาก็คือที่อยู่อาศัยของครอบครัวนางเอกด้วยมิใช่หรอกหรือ

นั่นมิเท่ากับว่า...ว่านเย่วอิงตั้งใจจะให้พวกเขาตายกันหมดใช่หรือไม่

อิงอิงรู้สึกหวาดกลัวกับสิ่งที่ได้รับรู้เป็นอย่างมาก

เหตุใดจึงได้ร้ายกาจและเลือดเย็นขนาดนี้

ใบหน้าตกตะลึงของผู้เป็นนาย ทำให้เสี่ยวมี่มองอย่างไม่เข้าใจ คุณหนูของนางทำราวกับว่าไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน แต่ในวันนั้นนางได้ยินมากับหูและยังโดนคุณหนูโกรธเคืองเพราะพยายามเอ่ยห้ามด้วยซ้ำ แต่เหตุใดวันนี้คุณหนูราวกับจำคำสั่งของตนเองมิได้ หรือจะเป็นเพราะเหตุการณ์พลัดตกน้ำในครั้งนี้ถึงทำให้คุณหนูหลงลืม

อิงอิงแม้จะรับรู้ถึงความสงสัยในดวงตาแดงก่ำของคนตรงหน้า แต่นางไม่มีกะจิตกะใจที่จะเอ่ยอธิบายหรือแก้ตัว มือบางยกขึ้นคลึงขมับที่ตอนนี้รู้สึกปวดตุบๆ เอ่ยเรียกอีกฝ่ายเสียงเบา ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนระโหยโรยแรง

"เสี่ยวมี่"

"เจ้าจงบอกทุกอย่างที่เจ้ารู้มาให้ข้าฟังทั้งหมด เราจะได้แก้ไขกันได้ทัน"

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่3

    โอ๊ย...หัวมันก็จะปวดอิงอิงอยากจะดึงทึ้งผมตัวเองยิ่งนักหลังจากได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมด แต่ก็ทำได้เพียงหลับตานิ่งคร่ำครวญอยู่ในใจ เกิดมานางยังไม่เคยรู้สึกปวดกบาลเช่นนี้มาก่อนเลยทำไมชีวิตนางถึงไม่ชวนฝันเหมือนในนิยายที่เคยอ่านมาเลยนะจะทำเช่นไรต่อไปดีล่ะทีนี้ เห็นทีนางคงได้ตายอีกรอบเป็นแน่เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งจึงเอ่ยถามเด็กสาวตรงหน้าที่กำลังมองนางตาละห้อย ดวงตาหยีเล็กนั้นยังคงแดงระเรื่อ"เสี่ยวมี่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าบิดาของข้าจะกลับมาเมื่อใด"ใช่แล้ว นางต้องการที่พึ่ง ที่พึ่งเดียวที่นึกได้ในตอนนี้คือผู้เป็นบิดาเจ้าของร่าง หากบิดากลับมาอย่างไรเสียอีกฝ่ายคงจะยังไม่กล้าที่จะลงมือกับนาง อย่างน้อยก็สามารถยืดเวลาออกไปได้ แต่ใบหน้าที่เจื่อนลงของคนตรงหน้าบอกให้รู้ได้ว่าทางเลือกนี้ของนางถูกปิดตายไปเสียแล้วเสี่ยวมี่มองผู้เป็นนายอย่างชอกช้ำระกำใจได้แต่คร่ำครวญอยู่ในอกโถ...คุณหนูเจ้าขา ท่านที่เป็นบุตรยังไม่ทราบ แล้วบ่าวเป็นเพียงบ่าวในจวนจะทราบได้เยี่ยงไรกันเจ้าคะแม้ภายในใจจะคิดเช่นนั้น แต่คำพูดที่กล่าวออกมา หาได้เป็นอย่างใจนึกไม่ มีหรือที่นางจะกล้าเอ่ยเช่นนั้นออกไป"บ่าวก็ไม่รู้ได้เจ้าค่ะคุณหนู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-06
  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่4

    คำพูดของสตรีตรงหน้าทำให้เกิดความเงียบไปทั่วบริเวณ ทุกสายตาต่างจับจ้องเจ้าของคำพูด ก่อนจะหันมามองสบตากัน ราวกับจะย้ำให้แน่ใจว่าตนมิได้หูฝาด เมื่อทบทวนประโยคที่ได้ยินเมื่อครู่อีกครั้ง ต่างก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับสตรีงดงามที่กำลังจ้องมองพวกเขาอยู่เช่นกัน"นายหญิง เอ่อ ท่านพูดจริงๆ หรือขอรับ"ตู้เซิ่งเอ่ยถามคนตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน เมื่อเห็นอีกฝ่ายพยักหน้ารับก็ถึงกับยิ้มกว้างออกมา รับรู้ได้ว่าวันนี้แววตาของสตรีตรงหน้านั้นดูเปลี่ยนไปจากเดิม เขาเห็นความอ่อนโยนมีเมตตาอยู่ในนั้น หาใช่ความดุร้ายแข็งกร้าวอย่างเคยตู้เซิ่งรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ไม่ต้องทำเรื่องเลวร้ายเช่นนั้น แต่ถึงอย่างไรหากเป็นความต้องการของอีกฝ่าย เขาก็ยินดีที่จะทำเพื่อตอบแทนคุณ ถึงแม้ว่ามันจะต้องฝืนใจทำก็ตาม เพราะแม้แต่ชีวิตของเขาเองเขาก็ยินดีที่จะมอบให้อิงอิงสังเกตเห็นประกายความยินดีที่วาบผ่านดวงตาของพวกเขา ทำให้นึกละอายใจยิ่งนัก พวกเขาเองก็คงไม่อยากทำสิ่งไม่ดี นางกวาดตามองไปรอบกายอีกครั้ง ก่อนจะหันกลับมาถามในสิ่งที่นางสงสัย"ตู้เซิ่งข้าขอถามท่านหน่อยเถิด เหตุใดพวกท่านจึงมีความเป็นอยู่เช่นนี้ ทำไมถึงไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-07
  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่5

    ระหว่างที่อิงอิงกำลังฟุ้งซ่านคิดไม่ตกอยู่นั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นร่างเล็กผอมบางของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง อายุของนางคงไม่เกินห้าขวบปีเป็นแน่ กำลังทำตัวลับๆ ล่อๆ หลบอยู่หลังซอกกำแพงหินที่พังลงมา จากอาภรณ์ที่สวมใส่คาดว่าคงจะเป็นบุตรหลานของเหล่าขอทานจึงทำให้นางตัดสินใจเดินเข้าไปหา ใบหน้าเล็กมอมแมมนั้นเอาแต่ชะเง้อมองทางด้วยท่าทีกระวนกระวาย ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยแม้ว่านางจะมายืนอยู่ด้านหลังอิงอิงสะกิดแผ่นหลังเล็กนั้นสองสามครั้งเพื่อให้แม่หนูน้อยนั้นหันมามอง แต่อีกฝ่ายกลับไม่แม้แต่จะหันมามองหรือสนใจนาง จึงได้ลองสะกิดดูอีกครั้ง ปรากฏว่ามือเล็กๆ ของอีกฝ่ายกลับปัดมือของนางออกอย่างรำคาญ นางจึงตัดสินใจจับลงบนบ่าเล็ก ฝ่ามือบางรู้สึกได้ว่าร่างน้อยนั้นเกร็งตัวจนแข็งทื่อเมื่อรับรู้ถึงตัวตนของนาง ก่อนเจ้าตัวจะค่อยๆ หันใบหน้ากลับมามอง เมื่อเห็นใบหน้าของนาง เด็กน้อยผู้นั้นก็สะดุ้งเฮือก ดวงตากลมโตยิ่งเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก แล้วเปลี่ยนเป็นแดงเรื่อราวกับจะร้องไห้ ก่อนจะหลับหูหลับตาละล่ำละลักเอ่ยออกมา"ข้าไม่รู้ ข้าไม่เกี่ยว ข้าไม่เห็นอะไรเลยเจ้าค่ะ"อิงอิงยิ้มขำให้กับท่าทางของแม่หนูน้อยตัวจ้อยที่ริอ่านจะเป็นเด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-07
  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่6

    ร่างสูงของบุรุษในอาภรณ์สีดำผู้ที่มักจะมีใบหน้าเรียบเฉยอยู่เสมอ เจ้าของนัยน์ตาคมปลาบยืนอิงไหล่กว้างกับขอบหน้าต่างชั้นบนสุดของ หอหมื่นบุปผา หอสุราและโรงน้ำชาเลื่องชื่อแห่งแคว้น หากได้ยินเพียงชื่อหลายคนอาจจะคิดว่าสถานที่แห่งนี้คงจะเป็นหอคณิกาแหล่งรวบรวมหญิงงาม แต่เปล่าเลย หมื่นบุปผา ชื่อนี้หาได้สื่อถึงหญิงงาม แต่บ่งบอกถึงสุราและชารสเลิศที่บ่มมาจากดอกไม้นานาพันธ์ บุปผาหายากหลากหลายชนิดที่ใช้ทั้งเวลาและกรรมวิธีพิเศษจนได้สุราและชาที่มีกลิ่นหอมและรสเลิศแตกต่างกันออกไปให้เหล่าคอสุราและผู้ที่ชื่นชอบในการดื่มชาได้ลิ้มรสดื่มด่ำกับรสชาติของมันเซี่ยเยี่ยนเฉิน แม่ทัพผู้เกรียงไกรหนุ่มใหญ่วัยฉกรรจ์ ผู้ที่ถือคติมาตลอดว่า นารีงามไหนเลยจะสู้สุราดี เขาก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่หลงใหลในรสสุราของที่นี่ แม้จะไปกรำศึกอยู่ชายแดนนานหลายปี แต่สุราและชาดีก็ถูกส่งไปให้ลิ้มลองไม่เคยขาดเพราะสหายสนิทของเขาคือเจ้าของหอหมื่นบุปผาแห่งนี้ดวงตาคู่คมหลุบลงมองจอกสุราในมือ จู่ๆ ก็รู้สึกถึงความเงียบเหงาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อศึกสงครามจบลงชีวิตของเขาก็กลับมาไร้สีสันอีกครั้ง เขาใช้ชีวิตในสนามรบมามากกว่าครึ่งหนึ่งของชีวิต สอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-07
  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่7

    หลังจากมองดูเด็กทั้งสองจูงมือกันกลับไปหาตู้เซิ่ง ใบหน้างามจึงปรากฏรอยยิ้มกว้างขึ้นอย่างระงับเอาไว้ไม่อยู่ จากนี้ก็ถึงเวลาของนางเสียที นางจะเดินเที่ยวให้หนำใจเลยทีเดียวร่างระหงก้าวเดินราวกับกำลังเริงระบำไปตามเส้นทางที่เริ่มจะมีผู้คนหนาตา สายตากวาดมองรอบกายอย่างตื่นตาตื่นใจ หลงลืมเรื่องทุกข์ใจไปหมดสิ้น ทุกอย่างล้วนแปลกตาสำหรับนาง แต่แล้วเสียงสนทนาอย่างออกรสของกลุ่มคนตรงร้านน้ำชาริมทางทำให้ใบหน้างามหุบยิ้มฉับ ปลายเท้าเล็กที่ก้าวเดินอย่างเริงร่านั้นหยุดกึก กายบางขยับเข้าไปใกล้อย่างแนบเนียน อาศัยร้านหินเครื่องรางที่อยู่ข้างๆ กันเป็นที่กำบัง มือนั้นแสร้งหยิบจับราวกับสนใจหนักหนาแต่หูนั้นตั้งใจฟังคำสนทนาของพวกเขานางมิใช่คนสอดรู้หากจะไม่บังเอิญได้ยินชื่อของนางอยู่ในหัวข้อสนทนา"สตรีนางนั้นส่งคนไปพังร้านซาลาเปาของเถ้าแก่หลิวจนพังเละเทะ ข้าว่าอีกหลายวันกว่าจะเปิดขายได้ นางช่างจิตใจโหดร้ายยิ่งนัก อิจฉาริษยาจนน่ารังเกียจ รังแกคนไม่มีทางสู้"นั่นคือเสียงของหญิงร่างท้วมที่จีบปากจีบคอเอ่ยเล่าอย่างออกรสชาติ ใบหน้ามันเยิ้มนั้นขบเขี้ยวเคี้ยวฟันราวกับมันเป็นร้านของตัวเอง ไฝเม็ดโตที่ขยับอยู่เหนือริมฝีปา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-07
  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่8

    ".....?"สายตาคู่งามกวาดมองบรรยากาศภายในหอคณิกาแห่งนี้อย่างโง่งม หากไม่กลัวว่าถอยหลังกลับไปแล้วจะจ๊ะเอ๋กับพวกที่ไล่ตามนางมา นางคงถอยกลับไปดูป้ายด้านหน้าอีกครั้งว่านางตาฝาดไปหรือไม่ เพราะภาพตรงหน้าของนางตอนนี้มันไม่เหมือนหอคณิกาในความคิดนางแม้แต่น้อย ไม่เห็นโฉมสะคราญในชุดนุ่งน้อยห่มน้อย ไม่มีเสียงดนตรี ไม่มีการร่ายรำ แต่มันคล้ายดังโรงเตี๊ยม โรงน้ำชาหรือโรงสุราของเหล่าคนมีเงินเสียมากกว่า คนที่อยู่ด้านในนี้ก็ดูดีมีระดับ ดูจากการแต่งกายแล้วล้วนเป็นเหล่าคุณหนูคุณชายและเหล่าขุนน้ำขุนนางทั้งสิ้น อีกทั้งตอนนี้สายตาของพวกเขาและพวกนางๆ บางคนก็จ้องมองมายังนางด้วยสายตาแปลกๆ อีกด้วย คงเป็นคนรู้จักของว่านเย่วอิงสินะ สายตาที่มองมาทำให้นางเผลอยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองอย่างลืมตัว แต่ให้ตายเถอะ ผ้าคลุมหน้าของนางอันธทานหายไปตั้งแต่เมื่อใดกัน มิน่าเล่าคนเหล่านี้ถึงได้มองนางด้วยสายตาเช่นนั้นแหม...สายตาของแต่ละคนดูรักนางจังเลยนะ ก็อย่างว่านางเป็นถึงนางร้ายผู้โด่งดังของเรื่องนี่นาอิงอิงได้แต่คิดอย่างขมขื่น ก่อนจะกลั้นใจฉีกรอยยิ้มที่ฝืดเฝื่อนเต็มทนส่งไปให้พวกเขา ซึ่งแต่ละคนเพียงเห็นนางยิ้มให้กลับทำราวกับว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-08
  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่9

    "พวกเขาออกไปกันแล้ว เจ้า ปล่อยขาข้าแล้วออกมาเสียที"เสียงแหบพร่าที่ดังขึ้นทำให้อิงอิงสะดุ้งสุดตัว รอยยิ้มบนใบหน้างามหุบฉับ ความคิดที่กำลังเจิดจ้าสะดุดลงทันใด ฝ่ามือเล็กที่กำลังลูบไล้ต้นขาแกร่งอย่างลืมตัวผละออกราวกับแตะต้องของร้อน แต่ความหนั่นแน่นแข็งกร้าวของกล้ามเนื้อที่ได้สัมผัสเมื่อครู่ยังคงอุ่นซ่านไปทั่วฝ่ามือน้อยๆ ของนางจนแก้มนวลร้อนผะผ่าว เท่านั้นยังไม่พอ กลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของบุรุษผู้นี้ยังกรุ่นเข้ามาในจมูกนางจนใจสั่นไปหมด จากนั้นก้อนเนื้อภายในอกของนางก็กระตุกวูบแล้วเต้นรัวเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน น้ำเสียงที่แหบพร่าของคนผู้นี้มันทำให้นางสัมผัสได้ถึงความมีเสน่ห์ของบุรุษเพศที่เข้มข้นแม่เจ้า นางไม่อยากจะบอกเลยว่า นางชอบน้ำเสียงของเขามาก เพียงแค่ได้ฟังเสียงเท่านั้น ใจของนางถึงกับสั่นไหว นางคลั่งไคล้ในน้ำเสียงแบบนี้นางไม่อยากจะคิดเลยว่าหน้าตาของอีกฝ่ายจะเป็นเช่นไร แม้จะสัมผัสได้เพียงแค่นี้ก็ทำเอาใบหน้านวลถึงกับแดงซ่านร้อนไปทั้งหน้าลามไปถึงลำคอ รู้สึกประหม่าไปหมดแล้วจริงๆอิงอิงสะบัดหัวกับความคิดฟุ้งซ่านของตนเองเร่งคลานออกมาจากใต้โต๊ะ รู้สึกตื่นเต้นและลุ้นมากๆ ว่าเขาจะหน้าตาเป็นเช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-08
  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่10

    "......."เงิบ บอกได้คำเดียวว่าเงิบไปเลยสิคะ อิงอิงถึงกับไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว เซี่ยเยี่ยนเฉินหรี่ตามองใบหน้าที่แสดงอารมณ์หลากหลายของสตรีตรงหน้าเขาอย่างสนใจ ริมฝีปากอวบอิ่มที่ประเดี๋ยวอ้าประเดี๋ยวหุบอย่างเสียอาการ ช่างดูน่าขบขันในสายตาคนมองยิ่งนัก ดวงตางดงามคู่นี้เขาคิดว่ามันช่างน่ามอง เมื่อครู่นี้มันดูซับซ้อน เจ้าเล่ห์ ดังกับว่าเจ้าของนั้นกำลังคิดแผนการบางอย่างที่ทำให้เจ้าตัวรู้สึกฮึกเหิม แต่ในขณะนี้มันกลับดูเลิ่กลั่ก ตื่นตระหนก ประหม่า ปะปนกันไปหมด ก่อนจะเปลี่ยนมาคล้ายกับกำลังขบคิด ลูกแก้วแวววาวคู่งามกลอกกลิ้งไปมาดูน่ามอง เขาเองก็อยากจะรู้ว่านางจะทำเช่นไรต่อไปฮ่าฮ่าฮ่า"ท่านกล่าวอันใดเช่นนั้นเจ้าคะ ล้อข้าเล่นแล้ว"เสียงหัวเราะที่ฟังดูแห้งแล้งดังขึ้นกล่าวกับอีกฝ่ายเสียงเบา ใบหน้างามยังคงฉีกยิ้มหวานมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างไร้เดียงสา แม้จะรู้สึกอับอายขายหน้าที่อีกฝ่ายดันรู้ทันแต่มันกลับมีความรู้สึกปลื้มปริ่มมากกว่าหล่อ เลิศ ฉลาด หลักแหลม โอ้ พ่อเจ้าประคุณของอิงอิง จะหาบุรุษเช่นนี้ได้จากที่ใดอีก เห็นทีคงต้องจับเอาไว้ให้มั่นอิงอิงลอบมองใบหน้าหล่อร้ายของอีกฝ่าย คิ้วหนาได้รูปเลิกขึ้นพร้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-08

บทล่าสุด

  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่10

    "......."เงิบ บอกได้คำเดียวว่าเงิบไปเลยสิคะ อิงอิงถึงกับไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว เซี่ยเยี่ยนเฉินหรี่ตามองใบหน้าที่แสดงอารมณ์หลากหลายของสตรีตรงหน้าเขาอย่างสนใจ ริมฝีปากอวบอิ่มที่ประเดี๋ยวอ้าประเดี๋ยวหุบอย่างเสียอาการ ช่างดูน่าขบขันในสายตาคนมองยิ่งนัก ดวงตางดงามคู่นี้เขาคิดว่ามันช่างน่ามอง เมื่อครู่นี้มันดูซับซ้อน เจ้าเล่ห์ ดังกับว่าเจ้าของนั้นกำลังคิดแผนการบางอย่างที่ทำให้เจ้าตัวรู้สึกฮึกเหิม แต่ในขณะนี้มันกลับดูเลิ่กลั่ก ตื่นตระหนก ประหม่า ปะปนกันไปหมด ก่อนจะเปลี่ยนมาคล้ายกับกำลังขบคิด ลูกแก้วแวววาวคู่งามกลอกกลิ้งไปมาดูน่ามอง เขาเองก็อยากจะรู้ว่านางจะทำเช่นไรต่อไปฮ่าฮ่าฮ่า"ท่านกล่าวอันใดเช่นนั้นเจ้าคะ ล้อข้าเล่นแล้ว"เสียงหัวเราะที่ฟังดูแห้งแล้งดังขึ้นกล่าวกับอีกฝ่ายเสียงเบา ใบหน้างามยังคงฉีกยิ้มหวานมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างไร้เดียงสา แม้จะรู้สึกอับอายขายหน้าที่อีกฝ่ายดันรู้ทันแต่มันกลับมีความรู้สึกปลื้มปริ่มมากกว่าหล่อ เลิศ ฉลาด หลักแหลม โอ้ พ่อเจ้าประคุณของอิงอิง จะหาบุรุษเช่นนี้ได้จากที่ใดอีก เห็นทีคงต้องจับเอาไว้ให้มั่นอิงอิงลอบมองใบหน้าหล่อร้ายของอีกฝ่าย คิ้วหนาได้รูปเลิกขึ้นพร้

  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่9

    "พวกเขาออกไปกันแล้ว เจ้า ปล่อยขาข้าแล้วออกมาเสียที"เสียงแหบพร่าที่ดังขึ้นทำให้อิงอิงสะดุ้งสุดตัว รอยยิ้มบนใบหน้างามหุบฉับ ความคิดที่กำลังเจิดจ้าสะดุดลงทันใด ฝ่ามือเล็กที่กำลังลูบไล้ต้นขาแกร่งอย่างลืมตัวผละออกราวกับแตะต้องของร้อน แต่ความหนั่นแน่นแข็งกร้าวของกล้ามเนื้อที่ได้สัมผัสเมื่อครู่ยังคงอุ่นซ่านไปทั่วฝ่ามือน้อยๆ ของนางจนแก้มนวลร้อนผะผ่าว เท่านั้นยังไม่พอ กลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของบุรุษผู้นี้ยังกรุ่นเข้ามาในจมูกนางจนใจสั่นไปหมด จากนั้นก้อนเนื้อภายในอกของนางก็กระตุกวูบแล้วเต้นรัวเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน น้ำเสียงที่แหบพร่าของคนผู้นี้มันทำให้นางสัมผัสได้ถึงความมีเสน่ห์ของบุรุษเพศที่เข้มข้นแม่เจ้า นางไม่อยากจะบอกเลยว่า นางชอบน้ำเสียงของเขามาก เพียงแค่ได้ฟังเสียงเท่านั้น ใจของนางถึงกับสั่นไหว นางคลั่งไคล้ในน้ำเสียงแบบนี้นางไม่อยากจะคิดเลยว่าหน้าตาของอีกฝ่ายจะเป็นเช่นไร แม้จะสัมผัสได้เพียงแค่นี้ก็ทำเอาใบหน้านวลถึงกับแดงซ่านร้อนไปทั้งหน้าลามไปถึงลำคอ รู้สึกประหม่าไปหมดแล้วจริงๆอิงอิงสะบัดหัวกับความคิดฟุ้งซ่านของตนเองเร่งคลานออกมาจากใต้โต๊ะ รู้สึกตื่นเต้นและลุ้นมากๆ ว่าเขาจะหน้าตาเป็นเช

  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่8

    ".....?"สายตาคู่งามกวาดมองบรรยากาศภายในหอคณิกาแห่งนี้อย่างโง่งม หากไม่กลัวว่าถอยหลังกลับไปแล้วจะจ๊ะเอ๋กับพวกที่ไล่ตามนางมา นางคงถอยกลับไปดูป้ายด้านหน้าอีกครั้งว่านางตาฝาดไปหรือไม่ เพราะภาพตรงหน้าของนางตอนนี้มันไม่เหมือนหอคณิกาในความคิดนางแม้แต่น้อย ไม่เห็นโฉมสะคราญในชุดนุ่งน้อยห่มน้อย ไม่มีเสียงดนตรี ไม่มีการร่ายรำ แต่มันคล้ายดังโรงเตี๊ยม โรงน้ำชาหรือโรงสุราของเหล่าคนมีเงินเสียมากกว่า คนที่อยู่ด้านในนี้ก็ดูดีมีระดับ ดูจากการแต่งกายแล้วล้วนเป็นเหล่าคุณหนูคุณชายและเหล่าขุนน้ำขุนนางทั้งสิ้น อีกทั้งตอนนี้สายตาของพวกเขาและพวกนางๆ บางคนก็จ้องมองมายังนางด้วยสายตาแปลกๆ อีกด้วย คงเป็นคนรู้จักของว่านเย่วอิงสินะ สายตาที่มองมาทำให้นางเผลอยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองอย่างลืมตัว แต่ให้ตายเถอะ ผ้าคลุมหน้าของนางอันธทานหายไปตั้งแต่เมื่อใดกัน มิน่าเล่าคนเหล่านี้ถึงได้มองนางด้วยสายตาเช่นนั้นแหม...สายตาของแต่ละคนดูรักนางจังเลยนะ ก็อย่างว่านางเป็นถึงนางร้ายผู้โด่งดังของเรื่องนี่นาอิงอิงได้แต่คิดอย่างขมขื่น ก่อนจะกลั้นใจฉีกรอยยิ้มที่ฝืดเฝื่อนเต็มทนส่งไปให้พวกเขา ซึ่งแต่ละคนเพียงเห็นนางยิ้มให้กลับทำราวกับว่า

  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่7

    หลังจากมองดูเด็กทั้งสองจูงมือกันกลับไปหาตู้เซิ่ง ใบหน้างามจึงปรากฏรอยยิ้มกว้างขึ้นอย่างระงับเอาไว้ไม่อยู่ จากนี้ก็ถึงเวลาของนางเสียที นางจะเดินเที่ยวให้หนำใจเลยทีเดียวร่างระหงก้าวเดินราวกับกำลังเริงระบำไปตามเส้นทางที่เริ่มจะมีผู้คนหนาตา สายตากวาดมองรอบกายอย่างตื่นตาตื่นใจ หลงลืมเรื่องทุกข์ใจไปหมดสิ้น ทุกอย่างล้วนแปลกตาสำหรับนาง แต่แล้วเสียงสนทนาอย่างออกรสของกลุ่มคนตรงร้านน้ำชาริมทางทำให้ใบหน้างามหุบยิ้มฉับ ปลายเท้าเล็กที่ก้าวเดินอย่างเริงร่านั้นหยุดกึก กายบางขยับเข้าไปใกล้อย่างแนบเนียน อาศัยร้านหินเครื่องรางที่อยู่ข้างๆ กันเป็นที่กำบัง มือนั้นแสร้งหยิบจับราวกับสนใจหนักหนาแต่หูนั้นตั้งใจฟังคำสนทนาของพวกเขานางมิใช่คนสอดรู้หากจะไม่บังเอิญได้ยินชื่อของนางอยู่ในหัวข้อสนทนา"สตรีนางนั้นส่งคนไปพังร้านซาลาเปาของเถ้าแก่หลิวจนพังเละเทะ ข้าว่าอีกหลายวันกว่าจะเปิดขายได้ นางช่างจิตใจโหดร้ายยิ่งนัก อิจฉาริษยาจนน่ารังเกียจ รังแกคนไม่มีทางสู้"นั่นคือเสียงของหญิงร่างท้วมที่จีบปากจีบคอเอ่ยเล่าอย่างออกรสชาติ ใบหน้ามันเยิ้มนั้นขบเขี้ยวเคี้ยวฟันราวกับมันเป็นร้านของตัวเอง ไฝเม็ดโตที่ขยับอยู่เหนือริมฝีปา

  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่6

    ร่างสูงของบุรุษในอาภรณ์สีดำผู้ที่มักจะมีใบหน้าเรียบเฉยอยู่เสมอ เจ้าของนัยน์ตาคมปลาบยืนอิงไหล่กว้างกับขอบหน้าต่างชั้นบนสุดของ หอหมื่นบุปผา หอสุราและโรงน้ำชาเลื่องชื่อแห่งแคว้น หากได้ยินเพียงชื่อหลายคนอาจจะคิดว่าสถานที่แห่งนี้คงจะเป็นหอคณิกาแหล่งรวบรวมหญิงงาม แต่เปล่าเลย หมื่นบุปผา ชื่อนี้หาได้สื่อถึงหญิงงาม แต่บ่งบอกถึงสุราและชารสเลิศที่บ่มมาจากดอกไม้นานาพันธ์ บุปผาหายากหลากหลายชนิดที่ใช้ทั้งเวลาและกรรมวิธีพิเศษจนได้สุราและชาที่มีกลิ่นหอมและรสเลิศแตกต่างกันออกไปให้เหล่าคอสุราและผู้ที่ชื่นชอบในการดื่มชาได้ลิ้มรสดื่มด่ำกับรสชาติของมันเซี่ยเยี่ยนเฉิน แม่ทัพผู้เกรียงไกรหนุ่มใหญ่วัยฉกรรจ์ ผู้ที่ถือคติมาตลอดว่า นารีงามไหนเลยจะสู้สุราดี เขาก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่หลงใหลในรสสุราของที่นี่ แม้จะไปกรำศึกอยู่ชายแดนนานหลายปี แต่สุราและชาดีก็ถูกส่งไปให้ลิ้มลองไม่เคยขาดเพราะสหายสนิทของเขาคือเจ้าของหอหมื่นบุปผาแห่งนี้ดวงตาคู่คมหลุบลงมองจอกสุราในมือ จู่ๆ ก็รู้สึกถึงความเงียบเหงาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อศึกสงครามจบลงชีวิตของเขาก็กลับมาไร้สีสันอีกครั้ง เขาใช้ชีวิตในสนามรบมามากกว่าครึ่งหนึ่งของชีวิต สอ

  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่5

    ระหว่างที่อิงอิงกำลังฟุ้งซ่านคิดไม่ตกอยู่นั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นร่างเล็กผอมบางของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง อายุของนางคงไม่เกินห้าขวบปีเป็นแน่ กำลังทำตัวลับๆ ล่อๆ หลบอยู่หลังซอกกำแพงหินที่พังลงมา จากอาภรณ์ที่สวมใส่คาดว่าคงจะเป็นบุตรหลานของเหล่าขอทานจึงทำให้นางตัดสินใจเดินเข้าไปหา ใบหน้าเล็กมอมแมมนั้นเอาแต่ชะเง้อมองทางด้วยท่าทีกระวนกระวาย ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยแม้ว่านางจะมายืนอยู่ด้านหลังอิงอิงสะกิดแผ่นหลังเล็กนั้นสองสามครั้งเพื่อให้แม่หนูน้อยนั้นหันมามอง แต่อีกฝ่ายกลับไม่แม้แต่จะหันมามองหรือสนใจนาง จึงได้ลองสะกิดดูอีกครั้ง ปรากฏว่ามือเล็กๆ ของอีกฝ่ายกลับปัดมือของนางออกอย่างรำคาญ นางจึงตัดสินใจจับลงบนบ่าเล็ก ฝ่ามือบางรู้สึกได้ว่าร่างน้อยนั้นเกร็งตัวจนแข็งทื่อเมื่อรับรู้ถึงตัวตนของนาง ก่อนเจ้าตัวจะค่อยๆ หันใบหน้ากลับมามอง เมื่อเห็นใบหน้าของนาง เด็กน้อยผู้นั้นก็สะดุ้งเฮือก ดวงตากลมโตยิ่งเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก แล้วเปลี่ยนเป็นแดงเรื่อราวกับจะร้องไห้ ก่อนจะหลับหูหลับตาละล่ำละลักเอ่ยออกมา"ข้าไม่รู้ ข้าไม่เกี่ยว ข้าไม่เห็นอะไรเลยเจ้าค่ะ"อิงอิงยิ้มขำให้กับท่าทางของแม่หนูน้อยตัวจ้อยที่ริอ่านจะเป็นเด

  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่4

    คำพูดของสตรีตรงหน้าทำให้เกิดความเงียบไปทั่วบริเวณ ทุกสายตาต่างจับจ้องเจ้าของคำพูด ก่อนจะหันมามองสบตากัน ราวกับจะย้ำให้แน่ใจว่าตนมิได้หูฝาด เมื่อทบทวนประโยคที่ได้ยินเมื่อครู่อีกครั้ง ต่างก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับสตรีงดงามที่กำลังจ้องมองพวกเขาอยู่เช่นกัน"นายหญิง เอ่อ ท่านพูดจริงๆ หรือขอรับ"ตู้เซิ่งเอ่ยถามคนตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน เมื่อเห็นอีกฝ่ายพยักหน้ารับก็ถึงกับยิ้มกว้างออกมา รับรู้ได้ว่าวันนี้แววตาของสตรีตรงหน้านั้นดูเปลี่ยนไปจากเดิม เขาเห็นความอ่อนโยนมีเมตตาอยู่ในนั้น หาใช่ความดุร้ายแข็งกร้าวอย่างเคยตู้เซิ่งรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ไม่ต้องทำเรื่องเลวร้ายเช่นนั้น แต่ถึงอย่างไรหากเป็นความต้องการของอีกฝ่าย เขาก็ยินดีที่จะทำเพื่อตอบแทนคุณ ถึงแม้ว่ามันจะต้องฝืนใจทำก็ตาม เพราะแม้แต่ชีวิตของเขาเองเขาก็ยินดีที่จะมอบให้อิงอิงสังเกตเห็นประกายความยินดีที่วาบผ่านดวงตาของพวกเขา ทำให้นึกละอายใจยิ่งนัก พวกเขาเองก็คงไม่อยากทำสิ่งไม่ดี นางกวาดตามองไปรอบกายอีกครั้ง ก่อนจะหันกลับมาถามในสิ่งที่นางสงสัย"ตู้เซิ่งข้าขอถามท่านหน่อยเถิด เหตุใดพวกท่านจึงมีความเป็นอยู่เช่นนี้ ทำไมถึงไม่

  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่3

    โอ๊ย...หัวมันก็จะปวดอิงอิงอยากจะดึงทึ้งผมตัวเองยิ่งนักหลังจากได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมด แต่ก็ทำได้เพียงหลับตานิ่งคร่ำครวญอยู่ในใจ เกิดมานางยังไม่เคยรู้สึกปวดกบาลเช่นนี้มาก่อนเลยทำไมชีวิตนางถึงไม่ชวนฝันเหมือนในนิยายที่เคยอ่านมาเลยนะจะทำเช่นไรต่อไปดีล่ะทีนี้ เห็นทีนางคงได้ตายอีกรอบเป็นแน่เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งจึงเอ่ยถามเด็กสาวตรงหน้าที่กำลังมองนางตาละห้อย ดวงตาหยีเล็กนั้นยังคงแดงระเรื่อ"เสี่ยวมี่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าบิดาของข้าจะกลับมาเมื่อใด"ใช่แล้ว นางต้องการที่พึ่ง ที่พึ่งเดียวที่นึกได้ในตอนนี้คือผู้เป็นบิดาเจ้าของร่าง หากบิดากลับมาอย่างไรเสียอีกฝ่ายคงจะยังไม่กล้าที่จะลงมือกับนาง อย่างน้อยก็สามารถยืดเวลาออกไปได้ แต่ใบหน้าที่เจื่อนลงของคนตรงหน้าบอกให้รู้ได้ว่าทางเลือกนี้ของนางถูกปิดตายไปเสียแล้วเสี่ยวมี่มองผู้เป็นนายอย่างชอกช้ำระกำใจได้แต่คร่ำครวญอยู่ในอกโถ...คุณหนูเจ้าขา ท่านที่เป็นบุตรยังไม่ทราบ แล้วบ่าวเป็นเพียงบ่าวในจวนจะทราบได้เยี่ยงไรกันเจ้าคะแม้ภายในใจจะคิดเช่นนั้น แต่คำพูดที่กล่าวออกมา หาได้เป็นอย่างใจนึกไม่ มีหรือที่นางจะกล้าเอ่ยเช่นนั้นออกไป"บ่าวก็ไม่รู้ได้เจ้าค่ะคุณหนู

  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่2

    อิงอิงในตอนนี้กำลังคิดไม่ตกว่าจะทำเช่นไรต่อไปกับชีวิตของตัวเองดี หลังจากที่ได้ทบทวนเรื่องราวชีวิตของว่านเย่วอิงที่พอจะจำได้แค่เลือนราง นางนั้นก็ให้รู้สึกกระวนกระวายกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก มาอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยว่าหนักหนาแล้ว ยังต้องมาคอยหวาดระแวงระแวดระวังเพื่อรักษาชีวิตน้อยๆ นี้ให้อยู่รอดปลอดภัยอีก จิตใจของนางในตอนนี้นั้นร้อนรุ่มดังกับมีไฟสุม เดินวนไปเวียนมาอยู่ในห้องนอนมาหลายชั่วยามแล้ว แต่ก็ยังไม่มีทางออก นางทั้งรู้สึกหวาดกลัว กังวล อยากจะร้องไห้ก็ร้องไม่ออกเพราะน้ำตามันไม่ยอมไหล จะหัวเราะให้กับชะตาชีวิตของตนก็ขมขื่นเต็มทนเมื่อไม่อาจทำสิ่งใดได้ร่างบอบบางจึงเดินกระแทกส้นเท้าปึงปังอย่างขัดใจ อารมณ์นั้นเดือดดาลถึงที่สุด จะว่าไปแล้วนิสัยของนางกับเจ้าของร่างเดิมดูจะคล้ายคลึงกันอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะนิสัยใจร้อน วู่วาม เอาแต่ใจ แต่นางก็ยังดีกว่าว่านเย่วอิงมากนัก เพราะนางไม่เคยคิดร้ายหรือทำร้ายให้ผู้อื่นต้องเป็นอันตรายถึงชีวิต แม้จะมีการกลั่นแกล้งผู้อื่นบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับเลือดตกยางออก แต่ดูสิ่งที่นางได้รับสิ ช่างไม่ยุติธรรมแม้แต่น้อย ถึงแม้นางจะเป็นคุณหนูเอาแต่ใจ แต่นางก็

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status