แชร์

ตอนที่3

ผู้เขียน: ฉู่เฉียว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-06 10:05:37

โอ๊ย...หัวมันก็จะปวด

อิงอิงอยากจะดึงทึ้งผมตัวเองยิ่งนักหลังจากได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมด แต่ก็ทำได้เพียงหลับตานิ่งคร่ำครวญอยู่ในใจ เกิดมานางยังไม่เคยรู้สึกปวดกบาลเช่นนี้มาก่อนเลย

ทำไมชีวิตนางถึงไม่ชวนฝันเหมือนในนิยายที่เคยอ่านมาเลยนะ

จะทำเช่นไรต่อไปดีล่ะทีนี้ เห็นทีนางคงได้ตายอีกรอบเป็นแน่

เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งจึงเอ่ยถามเด็กสาวตรงหน้าที่กำลังมองนางตาละห้อย ดวงตาหยีเล็กนั้นยังคงแดงระเรื่อ

"เสี่ยวมี่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าบิดาของข้าจะกลับมาเมื่อใด"

ใช่แล้ว นางต้องการที่พึ่ง ที่พึ่งเดียวที่นึกได้ในตอนนี้คือผู้เป็นบิดาเจ้าของร่าง หากบิดากลับมาอย่างไรเสียอีกฝ่ายคงจะยังไม่กล้าที่จะลงมือกับนาง อย่างน้อยก็สามารถยืดเวลาออกไปได้ แต่ใบหน้าที่เจื่อนลงของคนตรงหน้าบอกให้รู้ได้ว่าทางเลือกนี้ของนางถูกปิดตายไปเสียแล้ว

เสี่ยวมี่มองผู้เป็นนายอย่างชอกช้ำระกำใจได้แต่คร่ำครวญอยู่ในอก

โถ...คุณหนูเจ้าขา ท่านที่เป็นบุตรยังไม่ทราบ แล้วบ่าวเป็นเพียงบ่าวในจวนจะทราบได้เยี่ยงไรกันเจ้าคะ

แม้ภายในใจจะคิดเช่นนั้น แต่คำพูดที่กล่าวออกมา หาได้เป็นอย่างใจนึกไม่ มีหรือที่นางจะกล้าเอ่ยเช่นนั้นออกไป

"บ่าวก็ไม่รู้ได้เจ้าค่ะคุณหนู นายท่านจะไปจะมาล้วนไม่มีใครทราบ"

ฝ่ามือบางยกขึ้นนวดขมับอย่างคิดหนักอีกครั้ง แล้วใครจะช่วยสตรีตัวเล็กๆ เช่นนางให้พ้นภัยในครั้งนี้ไปได้กัน

ในหัวของนางตอนนี้พยายามไล่เรียงถึงตัวละครในเรื่องที่พอจะเป็นที่พึ่งให้แก่นางได้ แต่ให้ตายเถอะ เหตุใดมันจึงได้ว่างเปล่าถึงเพียงนี้

เห็นทีคงต้องพึ่งตัวเองเสียแล้วอิงอิงเอ๋ย

สิ่งสำคัญที่สุดที่นางคิดได้คือนางต้องเร่งหาทางออกไปนอกจวน เพื่อหยุดยั้งไม่ให้มีการวางเพลิงร้านซาลาเปาของแม่นางเอก มันช่างบังเอิญเสียจริงที่ คืนนี้ คนของว่านเย่วอิงจะลงมือ

ดังนั้นนางจึงต้องหยุดยั้งแผนการทั้งหมด หากไม่มีการวางเพลิงเกิดขึ้น นางก็ยังพอจะมีทางรอด

แต่นางจะหลุดรอดจากสายตาคนของเซี่ยชิงเทียนไปได้อย่างไรกัน นี่สิปัญหา

เจ้าคนบัดซบนั่น กัดข้าไม่ปล่อยเลยจริงๆ

อิงอิงได้แต่ก่นด่าบุรุษผู้เป็นพระเอกของเรื่องอยู่ในใจ ก่อนจะสั่งให้เสี่ยวมี่นำอาภรณ์ที่รัดกุมเหมาะแก่การลักลอบออกนอกจวนมาให้เปลี่ยน เพราะอาภรณ์ที่นางสวมใส่อยู่ตอนนี้สีสันช่างโดดเด่นเสียเหลือเกิน

ครู่ต่อมาจึงปรากฏร่างบอบบางในอาภรณ์สุดแสนจะธรรมดาแต่ทว่ายังคงเป็นผ้าเนื้อดี กำลังทำลับๆ ล่อๆ อยู่ตรงกำแพงด้านหลังจวน

"คุณหนูระวังนะเจ้าคะ"

เสี่ยวมี่เอ่ยบอกผู้เป็นนายด้วยใบหน้าซีดขาว หลังจากพลัดตกน้ำคุณหนูของนางก็เปลี่ยนไปคล้ายจะไม่ใช่คุณหนูคนเดิม อีกทั้งยังจำสิ่งใดไม่ได้ แม้นางจะยินดีที่คุณหนูมิได้ร้ายกาจดังเก่า แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงอีกฝ่ายเพราะความดื้อรั้นนั้นมิได้ลดน้อยถอยลงเลย ตอนนี้นางจึงทำได้เพียงยืนมองร่างบอบบางพยุงตัวขึ้นไปบนเก้าอี้ที่นางเป็นผู้ยกออกมาวางให้ ปีนป่ายขึ้นไปบนกำแพงสูง สองเท้าเล็กๆ ที่เหยียบลงบนล่องอิฐนั้นสั่นเทา ฝ่ามือเล็กบอบบางเกร็งเกาะขอบกำแพงแลดูน่าหวาดเสียว เสี่ยวมี่รู้สึกสงสารคุณหนูของนางจับใจ ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่จะสร้างความลำบากให้คุณหนูของนางได้ถึงเพียงนี้ แม้นางอยากจะออกไปแทนผู้เป็นนายแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยินยอม

อิงอิงปีนขึ้นมานั่งกายสั่นเทาอยู่บนกำแพงด้วยหัวใจที่สั่นรัว สายตาเหลือบมองลงไปเบื้องล่างพลางกลืนน้ำลายอึกใหญ่

เกิดนางพลาดพลัดตกลงไปคงมิวายแข้งขาหักเป็นแน่ เกิดมายังไม่เคยที่จะทำอะไรเสี่ยงอันตรายดังเช่นครั้งนี้มาก่อนเลย

พ่อแก้วแม่แก้ว ช่วยปกป้องคุ้มครองลูกด้วยเถิด

เมื่อสงบจิตสงบใจได้ก็กระเถิบกาย ค่อยๆ ไต่ลงไปเบื้องล่าง เพียงสองเท้าสัมผัสพื้น ร่างบอบบางก็ทรุดฮวบลง สองขาของนางสั่นเทาจนไม่อาจที่จะพยุงตัวอยู่ได้ ฝ่ามือทั้งสองนั้นเจ็บแปลบเมื่อยกขึ้นดูก็เห็นว่ามันแดงเถือกและยังมีรอยถลอกจนเลือดสีแดงไหลซึมออกมาอีกด้วย

อิงอิงแข็งใจกัดฟันอดทนกับความเจ็บปวดที่ได้รับ พยุงกายลุกขึ้น นำผ้าคลุมหน้าขึ้นมาสวม นางต้องเร่งไปให้ถึงจุดหมาย หากมัวแต่ชักช้าจะไม่ทันการณ์

ร่างบางย่ำเท้าเดินมุ่งหน้าไปตามถนนด้านหลังจวน ก่อนจะเห็นต้นไม้ใหญ่ที่เสี่ยวมี่บอกมาก่อนหน้าว่ามีตรอกเล็กๆ ซึ่งเป็นทางลัดที่จะพานางไปยังจุดหมาย หากไม่รู้มาก่อนก็ไม่มีทางที่จะสังเกตเห็น

ซึ่งจุดหมายปลายทางของนางก็คือ ตรอกขอทานแหล่งกบดานของเหล่าสมุน ของว่านเย่วอิง

หึ นางร้ายของเรื่องจะไร้ซึ่งแขนขาได้เช่นไรกัน

แต่ที่ไปที่มาของลูกสมุนเหล่านี้ที่ได้รับรู้จากเสี่ยวมี่ ทำให้อิงอิงขยาดในความร้ายกาจและไร้ยางอายของว่านเย่วอิงยิ่งนัก

การที่ว่านเย่วอิงมีคนเหล่านี้ไว้ใช้งานก็เพราะบิดาของนางได้รักษาบุตรชายที่กำลังป่วยของหัวหน้าขอทานโดยที่ไม่คิดเงินค่ารักษา ทั้งๆ ที่ไม่มีหมอคนใดยอมรักษาบุตรชายของเขาเพราะรังเกียจที่เป็นเพียงขอทานและมองว่าชีวิตของพวกเขานั้นไร้ค่า จนอีกฝ่ายสำนึกในบุญคุณยอมทำตามคำสั่งของว่ายเย่วอิงผู้เป็นบุตรสาวของผู้มีพระคุณ หลังจากที่นางได้ฟังเรื่องราวของขอทานเหล่านั้นจากเสี่ยวมี่นางก็พอจะจำได้ว่าเดิมขอทานเหล่านั้นมิใช่คนเลวร้าย แต่เพราะคำสั่งของว่านเย่วอิงที่สั่งให้พวกเขาทำเรื่องชั่วร้าย จากที่เป็นเพียงขอทานก็ได้กลายเป็นกลุ่มโจรที่ชาวบ้านชาวเมืองประณามว่าเป็นพวกต่ำช้าใจทราม เช่นนั้นคงเป็นพวกเขาที่ว่านเย่วอิงสั่งให้ไปข่มเหงนางเอก เพราะหลังจากที่ว่านเย่วอิงจบชีวิตลง พวกเขาก็ถูกพระเอกที่ร่วมมือกับทางการกวาดล้างจนต้องพบกับจุดจบที่น่าเศร้า

แต่ในครั้งนี้นางจะไม่ยอมให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีกครั้งเป็นแน่ และภาพที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าทำให้นางยิ่งไม่อาจปล่อยให้เรื่องราวเช่นนั้นเกิดขึ้น

ปลายเท้าและความคิดทั้งหมดของนางหยุดนิ่งลง กวาดตามองสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าด้วยหัวใจที่สั่นไหวโดยไม่รู้ตัว

พวกเขาเหล่านี้หรือที่ถูกกวาดล้างจนไม่เหลือ

ตรงหน้าของนางมีคนแก่ ผู้หญิงและเด็กอีกหลายสิบชีวิต แค่มองด้วยตาก็รู้ว่าพวกเขาเหล่านี้ต้องอยู่กันอย่างอดอยากเพียงใด ร่างกายของคนเหล่านี้คือคนที่ขาดสารอาหารมาเป็นเวลานาน เสื้อผ้าที่สวมใส่ขาดวิ่น เพิงพักที่ใช้ซุกหัวนอนไม่อาจที่จะใช้ป้องกันอากาศที่หนาวเหน็บหรือแม้กระทั่งหลบแดดหลบฝนได้

ภาพเหล่านี้ทำให้นางรู้สึกวูบโหวงสะท้อนในอก นางผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา นอนอุ่นกินอิ่ม สุขสบายมาตลอดชีวิต ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มาพบเจอกับสภาพอันน่าเวทนาเหล่านี้ ในขณะที่นางกินทิ้งกินขว้างยังมีอีกหลายชีวิตที่อดอยาก

"นายหญิง"

เสียงเรียกของบุรุษผู้หนึ่งดึงสติของนางจากภาพตรงหน้า ใบหน้างดงามหันไปมองชายฉกรรจ์ที่ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยหนวดเครารกรุงรัง รูปร่างสูงแต่ทว่าผอมจนตาลึกโบ๋ดูน่ากลัวในชุดสกปรกสีมอซอ ด้านหลังของเขามีเด็กหนุ่มอีกสี่ห้าคน ซึ่งแต่ละคนนั้นมีสภาพที่ไม่ได้แตกต่างกันเลย

"ตู้เซิ่ง"

อิงอิงเอ่ยนามของคนตรงหน้าแผ่วเบา ชายผู้นี้คือหัวหน้าของขอทานเหล่านี้ เขาสั่งให้เด็กหนุ่มผู้หนึ่งยกเก้าอี้ตัวเก่าที่ถูกซ่อมแซมหลายจุดออกมา ก่อนจะใช้ฝ่ามือเช็ดถูมันและเชิญให้นางนั่ง จากนั้นจึงคุกเข่าลงเบื้องหน้า เด็กหนุ่มเบื้องหลังของเขาเมื่อเห็นว่าหัวหน้าของตนทำเช่นนั้น ก็พร้อมใจกันนั่งคุกเข่าลงตรงหน้านาง

พวกเขาทั้งหมดก้มหน้าลง รอรับคำสั่งราวกับทาสผู้ซื่อสัตย์

"ข้ามาที่นี่เพื่อยกเลิกคำสั่งทั้งหมด"

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่4

    คำพูดของสตรีตรงหน้าทำให้เกิดความเงียบไปทั่วบริเวณ ทุกสายตาต่างจับจ้องเจ้าของคำพูด ก่อนจะหันมามองสบตากัน ราวกับจะย้ำให้แน่ใจว่าตนมิได้หูฝาด เมื่อทบทวนประโยคที่ได้ยินเมื่อครู่อีกครั้ง ต่างก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับสตรีงดงามที่กำลังจ้องมองพวกเขาอยู่เช่นกัน"นายหญิง เอ่อ ท่านพูดจริงๆ หรือขอรับ"ตู้เซิ่งเอ่ยถามคนตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน เมื่อเห็นอีกฝ่ายพยักหน้ารับก็ถึงกับยิ้มกว้างออกมา รับรู้ได้ว่าวันนี้แววตาของสตรีตรงหน้านั้นดูเปลี่ยนไปจากเดิม เขาเห็นความอ่อนโยนมีเมตตาอยู่ในนั้น หาใช่ความดุร้ายแข็งกร้าวอย่างเคยตู้เซิ่งรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ไม่ต้องทำเรื่องเลวร้ายเช่นนั้น แต่ถึงอย่างไรหากเป็นความต้องการของอีกฝ่าย เขาก็ยินดีที่จะทำเพื่อตอบแทนคุณ ถึงแม้ว่ามันจะต้องฝืนใจทำก็ตาม เพราะแม้แต่ชีวิตของเขาเองเขาก็ยินดีที่จะมอบให้อิงอิงสังเกตเห็นประกายความยินดีที่วาบผ่านดวงตาของพวกเขา ทำให้นึกละอายใจยิ่งนัก พวกเขาเองก็คงไม่อยากทำสิ่งไม่ดี นางกวาดตามองไปรอบกายอีกครั้ง ก่อนจะหันกลับมาถามในสิ่งที่นางสงสัย"ตู้เซิ่งข้าขอถามท่านหน่อยเถิด เหตุใดพวกท่านจึงมีความเป็นอยู่เช่นนี้ ทำไมถึงไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-07
  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่5

    ระหว่างที่อิงอิงกำลังฟุ้งซ่านคิดไม่ตกอยู่นั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นร่างเล็กผอมบางของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง อายุของนางคงไม่เกินห้าขวบปีเป็นแน่ กำลังทำตัวลับๆ ล่อๆ หลบอยู่หลังซอกกำแพงหินที่พังลงมา จากอาภรณ์ที่สวมใส่คาดว่าคงจะเป็นบุตรหลานของเหล่าขอทานจึงทำให้นางตัดสินใจเดินเข้าไปหา ใบหน้าเล็กมอมแมมนั้นเอาแต่ชะเง้อมองทางด้วยท่าทีกระวนกระวาย ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยแม้ว่านางจะมายืนอยู่ด้านหลังอิงอิงสะกิดแผ่นหลังเล็กนั้นสองสามครั้งเพื่อให้แม่หนูน้อยนั้นหันมามอง แต่อีกฝ่ายกลับไม่แม้แต่จะหันมามองหรือสนใจนาง จึงได้ลองสะกิดดูอีกครั้ง ปรากฏว่ามือเล็กๆ ของอีกฝ่ายกลับปัดมือของนางออกอย่างรำคาญ นางจึงตัดสินใจจับลงบนบ่าเล็ก ฝ่ามือบางรู้สึกได้ว่าร่างน้อยนั้นเกร็งตัวจนแข็งทื่อเมื่อรับรู้ถึงตัวตนของนาง ก่อนเจ้าตัวจะค่อยๆ หันใบหน้ากลับมามอง เมื่อเห็นใบหน้าของนาง เด็กน้อยผู้นั้นก็สะดุ้งเฮือก ดวงตากลมโตยิ่งเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก แล้วเปลี่ยนเป็นแดงเรื่อราวกับจะร้องไห้ ก่อนจะหลับหูหลับตาละล่ำละลักเอ่ยออกมา"ข้าไม่รู้ ข้าไม่เกี่ยว ข้าไม่เห็นอะไรเลยเจ้าค่ะ"อิงอิงยิ้มขำให้กับท่าทางของแม่หนูน้อยตัวจ้อยที่ริอ่านจะเป็นเด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-07
  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่6

    ร่างสูงของบุรุษในอาภรณ์สีดำผู้ที่มักจะมีใบหน้าเรียบเฉยอยู่เสมอ เจ้าของนัยน์ตาคมปลาบยืนอิงไหล่กว้างกับขอบหน้าต่างชั้นบนสุดของ หอหมื่นบุปผา หอสุราและโรงน้ำชาเลื่องชื่อแห่งแคว้น หากได้ยินเพียงชื่อหลายคนอาจจะคิดว่าสถานที่แห่งนี้คงจะเป็นหอคณิกาแหล่งรวบรวมหญิงงาม แต่เปล่าเลย หมื่นบุปผา ชื่อนี้หาได้สื่อถึงหญิงงาม แต่บ่งบอกถึงสุราและชารสเลิศที่บ่มมาจากดอกไม้นานาพันธ์ บุปผาหายากหลากหลายชนิดที่ใช้ทั้งเวลาและกรรมวิธีพิเศษจนได้สุราและชาที่มีกลิ่นหอมและรสเลิศแตกต่างกันออกไปให้เหล่าคอสุราและผู้ที่ชื่นชอบในการดื่มชาได้ลิ้มรสดื่มด่ำกับรสชาติของมันเซี่ยเยี่ยนเฉิน แม่ทัพผู้เกรียงไกรหนุ่มใหญ่วัยฉกรรจ์ ผู้ที่ถือคติมาตลอดว่า นารีงามไหนเลยจะสู้สุราดี เขาก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่หลงใหลในรสสุราของที่นี่ แม้จะไปกรำศึกอยู่ชายแดนนานหลายปี แต่สุราและชาดีก็ถูกส่งไปให้ลิ้มลองไม่เคยขาดเพราะสหายสนิทของเขาคือเจ้าของหอหมื่นบุปผาแห่งนี้ดวงตาคู่คมหลุบลงมองจอกสุราในมือ จู่ๆ ก็รู้สึกถึงความเงียบเหงาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อศึกสงครามจบลงชีวิตของเขาก็กลับมาไร้สีสันอีกครั้ง เขาใช้ชีวิตในสนามรบมามากกว่าครึ่งหนึ่งของชีวิต สอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-07
  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่7

    หลังจากมองดูเด็กทั้งสองจูงมือกันกลับไปหาตู้เซิ่ง ใบหน้างามจึงปรากฏรอยยิ้มกว้างขึ้นอย่างระงับเอาไว้ไม่อยู่ จากนี้ก็ถึงเวลาของนางเสียที นางจะเดินเที่ยวให้หนำใจเลยทีเดียวร่างระหงก้าวเดินราวกับกำลังเริงระบำไปตามเส้นทางที่เริ่มจะมีผู้คนหนาตา สายตากวาดมองรอบกายอย่างตื่นตาตื่นใจ หลงลืมเรื่องทุกข์ใจไปหมดสิ้น ทุกอย่างล้วนแปลกตาสำหรับนาง แต่แล้วเสียงสนทนาอย่างออกรสของกลุ่มคนตรงร้านน้ำชาริมทางทำให้ใบหน้างามหุบยิ้มฉับ ปลายเท้าเล็กที่ก้าวเดินอย่างเริงร่านั้นหยุดกึก กายบางขยับเข้าไปใกล้อย่างแนบเนียน อาศัยร้านหินเครื่องรางที่อยู่ข้างๆ กันเป็นที่กำบัง มือนั้นแสร้งหยิบจับราวกับสนใจหนักหนาแต่หูนั้นตั้งใจฟังคำสนทนาของพวกเขานางมิใช่คนสอดรู้หากจะไม่บังเอิญได้ยินชื่อของนางอยู่ในหัวข้อสนทนา"สตรีนางนั้นส่งคนไปพังร้านซาลาเปาของเถ้าแก่หลิวจนพังเละเทะ ข้าว่าอีกหลายวันกว่าจะเปิดขายได้ นางช่างจิตใจโหดร้ายยิ่งนัก อิจฉาริษยาจนน่ารังเกียจ รังแกคนไม่มีทางสู้"นั่นคือเสียงของหญิงร่างท้วมที่จีบปากจีบคอเอ่ยเล่าอย่างออกรสชาติ ใบหน้ามันเยิ้มนั้นขบเขี้ยวเคี้ยวฟันราวกับมันเป็นร้านของตัวเอง ไฝเม็ดโตที่ขยับอยู่เหนือริมฝีปา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-07
  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่8

    ".....?"สายตาคู่งามกวาดมองบรรยากาศภายในหอคณิกาแห่งนี้อย่างโง่งม หากไม่กลัวว่าถอยหลังกลับไปแล้วจะจ๊ะเอ๋กับพวกที่ไล่ตามนางมา นางคงถอยกลับไปดูป้ายด้านหน้าอีกครั้งว่านางตาฝาดไปหรือไม่ เพราะภาพตรงหน้าของนางตอนนี้มันไม่เหมือนหอคณิกาในความคิดนางแม้แต่น้อย ไม่เห็นโฉมสะคราญในชุดนุ่งน้อยห่มน้อย ไม่มีเสียงดนตรี ไม่มีการร่ายรำ แต่มันคล้ายดังโรงเตี๊ยม โรงน้ำชาหรือโรงสุราของเหล่าคนมีเงินเสียมากกว่า คนที่อยู่ด้านในนี้ก็ดูดีมีระดับ ดูจากการแต่งกายแล้วล้วนเป็นเหล่าคุณหนูคุณชายและเหล่าขุนน้ำขุนนางทั้งสิ้น อีกทั้งตอนนี้สายตาของพวกเขาและพวกนางๆ บางคนก็จ้องมองมายังนางด้วยสายตาแปลกๆ อีกด้วย คงเป็นคนรู้จักของว่านเย่วอิงสินะ สายตาที่มองมาทำให้นางเผลอยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองอย่างลืมตัว แต่ให้ตายเถอะ ผ้าคลุมหน้าของนางอันธทานหายไปตั้งแต่เมื่อใดกัน มิน่าเล่าคนเหล่านี้ถึงได้มองนางด้วยสายตาเช่นนั้นแหม...สายตาของแต่ละคนดูรักนางจังเลยนะ ก็อย่างว่านางเป็นถึงนางร้ายผู้โด่งดังของเรื่องนี่นาอิงอิงได้แต่คิดอย่างขมขื่น ก่อนจะกลั้นใจฉีกรอยยิ้มที่ฝืดเฝื่อนเต็มทนส่งไปให้พวกเขา ซึ่งแต่ละคนเพียงเห็นนางยิ้มให้กลับทำราวกับว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-08
  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่9

    "พวกเขาออกไปกันแล้ว เจ้า ปล่อยขาข้าแล้วออกมาเสียที"เสียงแหบพร่าที่ดังขึ้นทำให้อิงอิงสะดุ้งสุดตัว รอยยิ้มบนใบหน้างามหุบฉับ ความคิดที่กำลังเจิดจ้าสะดุดลงทันใด ฝ่ามือเล็กที่กำลังลูบไล้ต้นขาแกร่งอย่างลืมตัวผละออกราวกับแตะต้องของร้อน แต่ความหนั่นแน่นแข็งกร้าวของกล้ามเนื้อที่ได้สัมผัสเมื่อครู่ยังคงอุ่นซ่านไปทั่วฝ่ามือน้อยๆ ของนางจนแก้มนวลร้อนผะผ่าว เท่านั้นยังไม่พอ กลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของบุรุษผู้นี้ยังกรุ่นเข้ามาในจมูกนางจนใจสั่นไปหมด จากนั้นก้อนเนื้อภายในอกของนางก็กระตุกวูบแล้วเต้นรัวเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน น้ำเสียงที่แหบพร่าของคนผู้นี้มันทำให้นางสัมผัสได้ถึงความมีเสน่ห์ของบุรุษเพศที่เข้มข้นแม่เจ้า นางไม่อยากจะบอกเลยว่า นางชอบน้ำเสียงของเขามาก เพียงแค่ได้ฟังเสียงเท่านั้น ใจของนางถึงกับสั่นไหว นางคลั่งไคล้ในน้ำเสียงแบบนี้นางไม่อยากจะคิดเลยว่าหน้าตาของอีกฝ่ายจะเป็นเช่นไร แม้จะสัมผัสได้เพียงแค่นี้ก็ทำเอาใบหน้านวลถึงกับแดงซ่านร้อนไปทั้งหน้าลามไปถึงลำคอ รู้สึกประหม่าไปหมดแล้วจริงๆอิงอิงสะบัดหัวกับความคิดฟุ้งซ่านของตนเองเร่งคลานออกมาจากใต้โต๊ะ รู้สึกตื่นเต้นและลุ้นมากๆ ว่าเขาจะหน้าตาเป็นเช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-08
  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่10

    "......."เงิบ บอกได้คำเดียวว่าเงิบไปเลยสิคะ อิงอิงถึงกับไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว เซี่ยเยี่ยนเฉินหรี่ตามองใบหน้าที่แสดงอารมณ์หลากหลายของสตรีตรงหน้าเขาอย่างสนใจ ริมฝีปากอวบอิ่มที่ประเดี๋ยวอ้าประเดี๋ยวหุบอย่างเสียอาการ ช่างดูน่าขบขันในสายตาคนมองยิ่งนัก ดวงตางดงามคู่นี้เขาคิดว่ามันช่างน่ามอง เมื่อครู่นี้มันดูซับซ้อน เจ้าเล่ห์ ดังกับว่าเจ้าของนั้นกำลังคิดแผนการบางอย่างที่ทำให้เจ้าตัวรู้สึกฮึกเหิม แต่ในขณะนี้มันกลับดูเลิ่กลั่ก ตื่นตระหนก ประหม่า ปะปนกันไปหมด ก่อนจะเปลี่ยนมาคล้ายกับกำลังขบคิด ลูกแก้วแวววาวคู่งามกลอกกลิ้งไปมาดูน่ามอง เขาเองก็อยากจะรู้ว่านางจะทำเช่นไรต่อไปฮ่าฮ่าฮ่า"ท่านกล่าวอันใดเช่นนั้นเจ้าคะ ล้อข้าเล่นแล้ว"เสียงหัวเราะที่ฟังดูแห้งแล้งดังขึ้นกล่าวกับอีกฝ่ายเสียงเบา ใบหน้างามยังคงฉีกยิ้มหวานมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างไร้เดียงสา แม้จะรู้สึกอับอายขายหน้าที่อีกฝ่ายดันรู้ทันแต่มันกลับมีความรู้สึกปลื้มปริ่มมากกว่าหล่อ เลิศ ฉลาด หลักแหลม โอ้ พ่อเจ้าประคุณของอิงอิง จะหาบุรุษเช่นนี้ได้จากที่ใดอีก เห็นทีคงต้องจับเอาไว้ให้มั่นอิงอิงลอบมองใบหน้าหล่อร้ายของอีกฝ่าย คิ้วหนาได้รูปเลิกขึ้นพร้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-08
  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่1

    เสียงฝีเท้าของผู้คนที่มากกว่าหนึ่งกำลังเดินตรงมาทางนี้ ทำให้สาวใช้คนสนิทของสตรีที่นั่งกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงดวงตาเหลือกลาน"คุณหนู พวกเขามากันแล้วเจ้าค่ะ เราจักทำเยี่ยงไรดีเจ้าคะ"เสี่ยวมี่ เอ่ยถามผู้เป็นนายเสียงสั่น ทั้งร่างของนางยังสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวก้าวเข้ามาเกาะขาผู้เป็นนายที่นั่งอยู่บนเตียงอิงอิง หรือในตอนนี้ก็คือ ว่านเย่วอิง บุตรสาวของท่านหมอ ว่านกู่ถิง หมอผู้ได้รับขนานนามว่าเป็นหมอเทวดาที่ชอบช่วยเหลือคนยากไร้ เป็นที่นับหน้าถือตาของเหล่าเชื้อพระวงศ์ ขุนนางและบรรดาชาวบ้านชาวเมือง ท่านหมอว่านนั้นได้มีโอกาสรักษาโรคประหลาดให้แก่องค์ชายพระองค์หนึ่ง ซึ่งองค์ชายพระองค์นั้นเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้จนหาย ตระกูลว่านจึงได้รับพระราชทานทรัพย์สินมากมาย และเป็นที่ชื่นชมขององค์ฮ่องเต้ จนประทานตำแหน่งให้ท่านหมอว่านเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาต่างๆ ให้แก่เหล่าหมอหลวง ท่านหมอว่านจึงเป็นที่เคารพนับถือของผู้คน แต่เขากลับมีบุตรสาวที่เป็นสตรีร้ายกาจแห่งแคว้น"เจ้ารับหน้าพวกเขาไปก่อน แจ้งว่าข้ายังไม่ได้สติ"อิงอิงกล่าวจบนางก็ล้มตัวลงนอนอีกครั้งและหลับตาลงในทันที"จะดีหรือเจ้าคะคุณหนู"เสี่ยวมี่ที่เอ่ยถาม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-06

บทล่าสุด

  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่10

    "......."เงิบ บอกได้คำเดียวว่าเงิบไปเลยสิคะ อิงอิงถึงกับไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว เซี่ยเยี่ยนเฉินหรี่ตามองใบหน้าที่แสดงอารมณ์หลากหลายของสตรีตรงหน้าเขาอย่างสนใจ ริมฝีปากอวบอิ่มที่ประเดี๋ยวอ้าประเดี๋ยวหุบอย่างเสียอาการ ช่างดูน่าขบขันในสายตาคนมองยิ่งนัก ดวงตางดงามคู่นี้เขาคิดว่ามันช่างน่ามอง เมื่อครู่นี้มันดูซับซ้อน เจ้าเล่ห์ ดังกับว่าเจ้าของนั้นกำลังคิดแผนการบางอย่างที่ทำให้เจ้าตัวรู้สึกฮึกเหิม แต่ในขณะนี้มันกลับดูเลิ่กลั่ก ตื่นตระหนก ประหม่า ปะปนกันไปหมด ก่อนจะเปลี่ยนมาคล้ายกับกำลังขบคิด ลูกแก้วแวววาวคู่งามกลอกกลิ้งไปมาดูน่ามอง เขาเองก็อยากจะรู้ว่านางจะทำเช่นไรต่อไปฮ่าฮ่าฮ่า"ท่านกล่าวอันใดเช่นนั้นเจ้าคะ ล้อข้าเล่นแล้ว"เสียงหัวเราะที่ฟังดูแห้งแล้งดังขึ้นกล่าวกับอีกฝ่ายเสียงเบา ใบหน้างามยังคงฉีกยิ้มหวานมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างไร้เดียงสา แม้จะรู้สึกอับอายขายหน้าที่อีกฝ่ายดันรู้ทันแต่มันกลับมีความรู้สึกปลื้มปริ่มมากกว่าหล่อ เลิศ ฉลาด หลักแหลม โอ้ พ่อเจ้าประคุณของอิงอิง จะหาบุรุษเช่นนี้ได้จากที่ใดอีก เห็นทีคงต้องจับเอาไว้ให้มั่นอิงอิงลอบมองใบหน้าหล่อร้ายของอีกฝ่าย คิ้วหนาได้รูปเลิกขึ้นพร้

  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่9

    "พวกเขาออกไปกันแล้ว เจ้า ปล่อยขาข้าแล้วออกมาเสียที"เสียงแหบพร่าที่ดังขึ้นทำให้อิงอิงสะดุ้งสุดตัว รอยยิ้มบนใบหน้างามหุบฉับ ความคิดที่กำลังเจิดจ้าสะดุดลงทันใด ฝ่ามือเล็กที่กำลังลูบไล้ต้นขาแกร่งอย่างลืมตัวผละออกราวกับแตะต้องของร้อน แต่ความหนั่นแน่นแข็งกร้าวของกล้ามเนื้อที่ได้สัมผัสเมื่อครู่ยังคงอุ่นซ่านไปทั่วฝ่ามือน้อยๆ ของนางจนแก้มนวลร้อนผะผ่าว เท่านั้นยังไม่พอ กลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของบุรุษผู้นี้ยังกรุ่นเข้ามาในจมูกนางจนใจสั่นไปหมด จากนั้นก้อนเนื้อภายในอกของนางก็กระตุกวูบแล้วเต้นรัวเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน น้ำเสียงที่แหบพร่าของคนผู้นี้มันทำให้นางสัมผัสได้ถึงความมีเสน่ห์ของบุรุษเพศที่เข้มข้นแม่เจ้า นางไม่อยากจะบอกเลยว่า นางชอบน้ำเสียงของเขามาก เพียงแค่ได้ฟังเสียงเท่านั้น ใจของนางถึงกับสั่นไหว นางคลั่งไคล้ในน้ำเสียงแบบนี้นางไม่อยากจะคิดเลยว่าหน้าตาของอีกฝ่ายจะเป็นเช่นไร แม้จะสัมผัสได้เพียงแค่นี้ก็ทำเอาใบหน้านวลถึงกับแดงซ่านร้อนไปทั้งหน้าลามไปถึงลำคอ รู้สึกประหม่าไปหมดแล้วจริงๆอิงอิงสะบัดหัวกับความคิดฟุ้งซ่านของตนเองเร่งคลานออกมาจากใต้โต๊ะ รู้สึกตื่นเต้นและลุ้นมากๆ ว่าเขาจะหน้าตาเป็นเช

  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่8

    ".....?"สายตาคู่งามกวาดมองบรรยากาศภายในหอคณิกาแห่งนี้อย่างโง่งม หากไม่กลัวว่าถอยหลังกลับไปแล้วจะจ๊ะเอ๋กับพวกที่ไล่ตามนางมา นางคงถอยกลับไปดูป้ายด้านหน้าอีกครั้งว่านางตาฝาดไปหรือไม่ เพราะภาพตรงหน้าของนางตอนนี้มันไม่เหมือนหอคณิกาในความคิดนางแม้แต่น้อย ไม่เห็นโฉมสะคราญในชุดนุ่งน้อยห่มน้อย ไม่มีเสียงดนตรี ไม่มีการร่ายรำ แต่มันคล้ายดังโรงเตี๊ยม โรงน้ำชาหรือโรงสุราของเหล่าคนมีเงินเสียมากกว่า คนที่อยู่ด้านในนี้ก็ดูดีมีระดับ ดูจากการแต่งกายแล้วล้วนเป็นเหล่าคุณหนูคุณชายและเหล่าขุนน้ำขุนนางทั้งสิ้น อีกทั้งตอนนี้สายตาของพวกเขาและพวกนางๆ บางคนก็จ้องมองมายังนางด้วยสายตาแปลกๆ อีกด้วย คงเป็นคนรู้จักของว่านเย่วอิงสินะ สายตาที่มองมาทำให้นางเผลอยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองอย่างลืมตัว แต่ให้ตายเถอะ ผ้าคลุมหน้าของนางอันธทานหายไปตั้งแต่เมื่อใดกัน มิน่าเล่าคนเหล่านี้ถึงได้มองนางด้วยสายตาเช่นนั้นแหม...สายตาของแต่ละคนดูรักนางจังเลยนะ ก็อย่างว่านางเป็นถึงนางร้ายผู้โด่งดังของเรื่องนี่นาอิงอิงได้แต่คิดอย่างขมขื่น ก่อนจะกลั้นใจฉีกรอยยิ้มที่ฝืดเฝื่อนเต็มทนส่งไปให้พวกเขา ซึ่งแต่ละคนเพียงเห็นนางยิ้มให้กลับทำราวกับว่า

  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่7

    หลังจากมองดูเด็กทั้งสองจูงมือกันกลับไปหาตู้เซิ่ง ใบหน้างามจึงปรากฏรอยยิ้มกว้างขึ้นอย่างระงับเอาไว้ไม่อยู่ จากนี้ก็ถึงเวลาของนางเสียที นางจะเดินเที่ยวให้หนำใจเลยทีเดียวร่างระหงก้าวเดินราวกับกำลังเริงระบำไปตามเส้นทางที่เริ่มจะมีผู้คนหนาตา สายตากวาดมองรอบกายอย่างตื่นตาตื่นใจ หลงลืมเรื่องทุกข์ใจไปหมดสิ้น ทุกอย่างล้วนแปลกตาสำหรับนาง แต่แล้วเสียงสนทนาอย่างออกรสของกลุ่มคนตรงร้านน้ำชาริมทางทำให้ใบหน้างามหุบยิ้มฉับ ปลายเท้าเล็กที่ก้าวเดินอย่างเริงร่านั้นหยุดกึก กายบางขยับเข้าไปใกล้อย่างแนบเนียน อาศัยร้านหินเครื่องรางที่อยู่ข้างๆ กันเป็นที่กำบัง มือนั้นแสร้งหยิบจับราวกับสนใจหนักหนาแต่หูนั้นตั้งใจฟังคำสนทนาของพวกเขานางมิใช่คนสอดรู้หากจะไม่บังเอิญได้ยินชื่อของนางอยู่ในหัวข้อสนทนา"สตรีนางนั้นส่งคนไปพังร้านซาลาเปาของเถ้าแก่หลิวจนพังเละเทะ ข้าว่าอีกหลายวันกว่าจะเปิดขายได้ นางช่างจิตใจโหดร้ายยิ่งนัก อิจฉาริษยาจนน่ารังเกียจ รังแกคนไม่มีทางสู้"นั่นคือเสียงของหญิงร่างท้วมที่จีบปากจีบคอเอ่ยเล่าอย่างออกรสชาติ ใบหน้ามันเยิ้มนั้นขบเขี้ยวเคี้ยวฟันราวกับมันเป็นร้านของตัวเอง ไฝเม็ดโตที่ขยับอยู่เหนือริมฝีปา

  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่6

    ร่างสูงของบุรุษในอาภรณ์สีดำผู้ที่มักจะมีใบหน้าเรียบเฉยอยู่เสมอ เจ้าของนัยน์ตาคมปลาบยืนอิงไหล่กว้างกับขอบหน้าต่างชั้นบนสุดของ หอหมื่นบุปผา หอสุราและโรงน้ำชาเลื่องชื่อแห่งแคว้น หากได้ยินเพียงชื่อหลายคนอาจจะคิดว่าสถานที่แห่งนี้คงจะเป็นหอคณิกาแหล่งรวบรวมหญิงงาม แต่เปล่าเลย หมื่นบุปผา ชื่อนี้หาได้สื่อถึงหญิงงาม แต่บ่งบอกถึงสุราและชารสเลิศที่บ่มมาจากดอกไม้นานาพันธ์ บุปผาหายากหลากหลายชนิดที่ใช้ทั้งเวลาและกรรมวิธีพิเศษจนได้สุราและชาที่มีกลิ่นหอมและรสเลิศแตกต่างกันออกไปให้เหล่าคอสุราและผู้ที่ชื่นชอบในการดื่มชาได้ลิ้มรสดื่มด่ำกับรสชาติของมันเซี่ยเยี่ยนเฉิน แม่ทัพผู้เกรียงไกรหนุ่มใหญ่วัยฉกรรจ์ ผู้ที่ถือคติมาตลอดว่า นารีงามไหนเลยจะสู้สุราดี เขาก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่หลงใหลในรสสุราของที่นี่ แม้จะไปกรำศึกอยู่ชายแดนนานหลายปี แต่สุราและชาดีก็ถูกส่งไปให้ลิ้มลองไม่เคยขาดเพราะสหายสนิทของเขาคือเจ้าของหอหมื่นบุปผาแห่งนี้ดวงตาคู่คมหลุบลงมองจอกสุราในมือ จู่ๆ ก็รู้สึกถึงความเงียบเหงาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อศึกสงครามจบลงชีวิตของเขาก็กลับมาไร้สีสันอีกครั้ง เขาใช้ชีวิตในสนามรบมามากกว่าครึ่งหนึ่งของชีวิต สอ

  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่5

    ระหว่างที่อิงอิงกำลังฟุ้งซ่านคิดไม่ตกอยู่นั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นร่างเล็กผอมบางของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง อายุของนางคงไม่เกินห้าขวบปีเป็นแน่ กำลังทำตัวลับๆ ล่อๆ หลบอยู่หลังซอกกำแพงหินที่พังลงมา จากอาภรณ์ที่สวมใส่คาดว่าคงจะเป็นบุตรหลานของเหล่าขอทานจึงทำให้นางตัดสินใจเดินเข้าไปหา ใบหน้าเล็กมอมแมมนั้นเอาแต่ชะเง้อมองทางด้วยท่าทีกระวนกระวาย ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยแม้ว่านางจะมายืนอยู่ด้านหลังอิงอิงสะกิดแผ่นหลังเล็กนั้นสองสามครั้งเพื่อให้แม่หนูน้อยนั้นหันมามอง แต่อีกฝ่ายกลับไม่แม้แต่จะหันมามองหรือสนใจนาง จึงได้ลองสะกิดดูอีกครั้ง ปรากฏว่ามือเล็กๆ ของอีกฝ่ายกลับปัดมือของนางออกอย่างรำคาญ นางจึงตัดสินใจจับลงบนบ่าเล็ก ฝ่ามือบางรู้สึกได้ว่าร่างน้อยนั้นเกร็งตัวจนแข็งทื่อเมื่อรับรู้ถึงตัวตนของนาง ก่อนเจ้าตัวจะค่อยๆ หันใบหน้ากลับมามอง เมื่อเห็นใบหน้าของนาง เด็กน้อยผู้นั้นก็สะดุ้งเฮือก ดวงตากลมโตยิ่งเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก แล้วเปลี่ยนเป็นแดงเรื่อราวกับจะร้องไห้ ก่อนจะหลับหูหลับตาละล่ำละลักเอ่ยออกมา"ข้าไม่รู้ ข้าไม่เกี่ยว ข้าไม่เห็นอะไรเลยเจ้าค่ะ"อิงอิงยิ้มขำให้กับท่าทางของแม่หนูน้อยตัวจ้อยที่ริอ่านจะเป็นเด

  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่4

    คำพูดของสตรีตรงหน้าทำให้เกิดความเงียบไปทั่วบริเวณ ทุกสายตาต่างจับจ้องเจ้าของคำพูด ก่อนจะหันมามองสบตากัน ราวกับจะย้ำให้แน่ใจว่าตนมิได้หูฝาด เมื่อทบทวนประโยคที่ได้ยินเมื่อครู่อีกครั้ง ต่างก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับสตรีงดงามที่กำลังจ้องมองพวกเขาอยู่เช่นกัน"นายหญิง เอ่อ ท่านพูดจริงๆ หรือขอรับ"ตู้เซิ่งเอ่ยถามคนตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน เมื่อเห็นอีกฝ่ายพยักหน้ารับก็ถึงกับยิ้มกว้างออกมา รับรู้ได้ว่าวันนี้แววตาของสตรีตรงหน้านั้นดูเปลี่ยนไปจากเดิม เขาเห็นความอ่อนโยนมีเมตตาอยู่ในนั้น หาใช่ความดุร้ายแข็งกร้าวอย่างเคยตู้เซิ่งรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ไม่ต้องทำเรื่องเลวร้ายเช่นนั้น แต่ถึงอย่างไรหากเป็นความต้องการของอีกฝ่าย เขาก็ยินดีที่จะทำเพื่อตอบแทนคุณ ถึงแม้ว่ามันจะต้องฝืนใจทำก็ตาม เพราะแม้แต่ชีวิตของเขาเองเขาก็ยินดีที่จะมอบให้อิงอิงสังเกตเห็นประกายความยินดีที่วาบผ่านดวงตาของพวกเขา ทำให้นึกละอายใจยิ่งนัก พวกเขาเองก็คงไม่อยากทำสิ่งไม่ดี นางกวาดตามองไปรอบกายอีกครั้ง ก่อนจะหันกลับมาถามในสิ่งที่นางสงสัย"ตู้เซิ่งข้าขอถามท่านหน่อยเถิด เหตุใดพวกท่านจึงมีความเป็นอยู่เช่นนี้ ทำไมถึงไม่

  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่3

    โอ๊ย...หัวมันก็จะปวดอิงอิงอยากจะดึงทึ้งผมตัวเองยิ่งนักหลังจากได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมด แต่ก็ทำได้เพียงหลับตานิ่งคร่ำครวญอยู่ในใจ เกิดมานางยังไม่เคยรู้สึกปวดกบาลเช่นนี้มาก่อนเลยทำไมชีวิตนางถึงไม่ชวนฝันเหมือนในนิยายที่เคยอ่านมาเลยนะจะทำเช่นไรต่อไปดีล่ะทีนี้ เห็นทีนางคงได้ตายอีกรอบเป็นแน่เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งจึงเอ่ยถามเด็กสาวตรงหน้าที่กำลังมองนางตาละห้อย ดวงตาหยีเล็กนั้นยังคงแดงระเรื่อ"เสี่ยวมี่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าบิดาของข้าจะกลับมาเมื่อใด"ใช่แล้ว นางต้องการที่พึ่ง ที่พึ่งเดียวที่นึกได้ในตอนนี้คือผู้เป็นบิดาเจ้าของร่าง หากบิดากลับมาอย่างไรเสียอีกฝ่ายคงจะยังไม่กล้าที่จะลงมือกับนาง อย่างน้อยก็สามารถยืดเวลาออกไปได้ แต่ใบหน้าที่เจื่อนลงของคนตรงหน้าบอกให้รู้ได้ว่าทางเลือกนี้ของนางถูกปิดตายไปเสียแล้วเสี่ยวมี่มองผู้เป็นนายอย่างชอกช้ำระกำใจได้แต่คร่ำครวญอยู่ในอกโถ...คุณหนูเจ้าขา ท่านที่เป็นบุตรยังไม่ทราบ แล้วบ่าวเป็นเพียงบ่าวในจวนจะทราบได้เยี่ยงไรกันเจ้าคะแม้ภายในใจจะคิดเช่นนั้น แต่คำพูดที่กล่าวออกมา หาได้เป็นอย่างใจนึกไม่ มีหรือที่นางจะกล้าเอ่ยเช่นนั้นออกไป"บ่าวก็ไม่รู้ได้เจ้าค่ะคุณหนู

  • ไม่เป็นหรอกนางเอก ข้าอยากเป็นมารดาพระเอกมากกว่า   ตอนที่2

    อิงอิงในตอนนี้กำลังคิดไม่ตกว่าจะทำเช่นไรต่อไปกับชีวิตของตัวเองดี หลังจากที่ได้ทบทวนเรื่องราวชีวิตของว่านเย่วอิงที่พอจะจำได้แค่เลือนราง นางนั้นก็ให้รู้สึกกระวนกระวายกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก มาอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยว่าหนักหนาแล้ว ยังต้องมาคอยหวาดระแวงระแวดระวังเพื่อรักษาชีวิตน้อยๆ นี้ให้อยู่รอดปลอดภัยอีก จิตใจของนางในตอนนี้นั้นร้อนรุ่มดังกับมีไฟสุม เดินวนไปเวียนมาอยู่ในห้องนอนมาหลายชั่วยามแล้ว แต่ก็ยังไม่มีทางออก นางทั้งรู้สึกหวาดกลัว กังวล อยากจะร้องไห้ก็ร้องไม่ออกเพราะน้ำตามันไม่ยอมไหล จะหัวเราะให้กับชะตาชีวิตของตนก็ขมขื่นเต็มทนเมื่อไม่อาจทำสิ่งใดได้ร่างบอบบางจึงเดินกระแทกส้นเท้าปึงปังอย่างขัดใจ อารมณ์นั้นเดือดดาลถึงที่สุด จะว่าไปแล้วนิสัยของนางกับเจ้าของร่างเดิมดูจะคล้ายคลึงกันอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะนิสัยใจร้อน วู่วาม เอาแต่ใจ แต่นางก็ยังดีกว่าว่านเย่วอิงมากนัก เพราะนางไม่เคยคิดร้ายหรือทำร้ายให้ผู้อื่นต้องเป็นอันตรายถึงชีวิต แม้จะมีการกลั่นแกล้งผู้อื่นบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับเลือดตกยางออก แต่ดูสิ่งที่นางได้รับสิ ช่างไม่ยุติธรรมแม้แต่น้อย ถึงแม้นางจะเป็นคุณหนูเอาแต่ใจ แต่นางก็

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status