เล็กเซี่ยวฮุ้นขบคิดอยู่ พลันเอ่ยว่า “เจ็งม่วย...มีวิธีสุดท้ายที่ข้าจะช่วยท่านได้ เจ้าจะยินยอมหรือไม่?”
“ทำอย่างไรฮุ้นกอ...”
“ข้าจะเอาเข้าทางนี้แทน เพื่อให้เจ้าถึงเป็นครั้งที่ห้า ก่อนที่จะครบกำหนดเวลาพิษกำเริบ” เล็กเซี่ยวฮุ้นกล่าวพร้อมกับแหวกแก้มก้นทั้งสองของนางอ้าออก
โดยมังกรร้ายยังคารูสวาทอยู่ พร้อมกับใช้นิ้วชี้จิ้มสัมผัสถูไถไปที่ ปากถ้ำน้อยๆ อีกถ้ำหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆกัน น่ำเจ็งสะดุ้งหดร่างหนี
“อุ๊ย...ฮุ้นกอ...นี่..นี่มัน...เออ...เออ..จะเข้าไปได้อย่างไรกัน..ข้า...”
“ข้าก็ไม่เคยเหมือนกัน เคยอ่านแต่ในตำรา เราต้องลองดูไม่มีเวลาอีกแล้ว เจ็งม่วย หรือว่าเจ้าจะให้ข้าเอาเข้าที่เดิมอีกครั้ง”
“ไม่...ไม่นะฮุ้นกอ...ที่เดิมของข้ามันไม่ไหวอีกแล้ว...เอาเถอะ...เอาก็เอา...” กล่าวจบนางก็ก้มหน้าไปกับพื้น อย่างเอียงอายด้วยความไม่เคยระคนความแปลกใหม่ที่จะได้ลิ้มรสสวาทจากถ้ำแห่งใหม่นี้
เล็กเซี่ยวฮุ้นค่อยๆ ถอนมังกรที่เปียกแฉะออกมาช้าๆ มือหนึ่งแหวกแก้มก้นน่ำเจ็งอ้าออก อีกมือหนึ่งป้ายเอาน้ำเมือกจากถ้ำแรก มาป้ายที่ถ้ำด้านหลัง แล้วจับหัวมังกรร้ายจ่อปากถ้ำหลัง ดันเข้าไปทันที
“อูววว...ซี๊ดดด...จะ...เจ็บ...เจ็บ...เอาออก...เอาออกก่อน...ฮูยยย.....”
“ขอโทษเจ็งม่วย ข้าก็เจ็บเหมือนกัน เดี๋ยวข้าจะทำใหม่”
เล็กเซี่ยวฮุ้นชักหัวมังกรที่มุดเข้าไปเล็กน้อยออกมา เอาน้ำลายในปากมาป้ายให้ทั่วหัวมังกรและปากถ้ำสวาทด้านหลัง แล้วจึงจับยัดดันเข้าไปใหม่ช้าๆ
“อาาาา...ฮุ้นกอ...ข้า..ข้าเสียว..ไม่เคยเสียวแบบนี้มาก่อน..มันช่างวิเศษจริงๆ.. ฮุ้นกอท่านทำแรงๆอีกหน่อย...อีก...อีก..ข้าทนได้...อีก...อูววว....ซี๊ดดดด...ดด...”
เล็กเซี่ยวฮุ้นเองก็รู้สึกถึงความแปลกใหม่ในรสชาติเช่นกัน
มันรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ ยิ่งได้ยินเสียงร่ำร้องของน่ำเจ็ง มันยิ่งเกิดความอยาก จึงเร่งกระแทกแรงขึ้นๆๆ ตามคำร้องขอ
เล็กเซี่ยวฮุ้นใช้สองมือจับสะโพกของน่ำเจ็ง กระแทกเข้าๆออกๆ เสียงดังพั่บๆ จนครั้งสุดท้ายมันถอนมังกรออกมาหายใจชั่วอึดใจ ก่อนที่จะดันเข้าเต็มแรงเป็นครั้งสุดท้าย
“โอววว...ซี๊ดดด...ข้า..ข้า..ถะ..ถึง...ถึงแล้ว...ถึงแล้ว...โอยยย...ยย... สุดยอด เสียวสุดๆ”
“อ๊ากกก...ข้าออก..ออกเหมือนกัน...เจ็งม่วย..โอยยย...”
“ของฮุ้นกอดีจริงๆ ข้าหลงใหลยิ่งนัก” น่ำเจ็งคลอเคลียกับแผ่นอกเล็กเซี่ยวฮุ้น
“ของเจ้าทั้งหน้าหลังก็สุดยอดเหลือเกิน” เล็กเซี่ยวฮุ้นลูบไล้ปทุมถันไล่ลงวนถึงเนินสวาทอย่างลุ่มหลง
ในที่สุดพิษร้าย กิมโง้วเหมย ก็ถูกเล็กเซี่ยวฮุ้นกำจัดออกจากร่างของน่ำเจ็งจนหมดสิ้น แต่น่ำเจ็งกลับไม่สามารถลุกขึ้นมาได้จวบหนึ่งวันเต็มๆ
เนื่องจากถ้ำสวาทน้อยๆทั้งด้านหน้าและด้านหลังของนางระบมไปหมด จนไม่สามารถขยับร่างไปไหนมาไหนได้
เล็กเซี่ยวฮุ้นจึงป้อนข้าวป้อนน้ำให้นางกินไป หยอกล้อเล่นกันไปอย่างมีความสุขยิ่งนัก
........
คัมภีร์โอสถทิพย์
ฟังมาว่า...
ในประกายกระบี่ ในแสงวูบวาบของคมดาบ มีความลับยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่เพียงใด
ยังมิเท่าความลับที่แฝงเร้นหลังการฝึกเคล็ดวิชา “หงส์ร่อน มังกรผงาด”
มันผู้นั้นจะเหาะเหินเดินอากาศได้ ฝ่ามือของมันจะแฝงพลังวิเศษ พลังลมปราณจะมีค่ายิ่งกว่าทองคำ
เรื่องทั้งหมดทั้งมวลเริ่มต้นจากตรงนี้...
เพียงสามลี้จากทะเลสาบซีหู ชานเมืองหางโจว ท่ามกลางอากาศเย็นสบายของฤดูชุนเทียน(ฤดูใบไม้ผลิ)
บุรุษสองร่างแลเห็นจากที่ไกลกำลังปะทะกัน ประกายกระบี่วูบวาบดั่งสายฟ้าแลบ บุรุษหนึ่งควงกระบี่เก้ารอบเป็นวงกลม พลางกล่าววาจาฉะฉาน
“มีมหาบุรุษได้รจนาไว้ว่า พันปีก่อน ชนชาวโลกล้วนทราบว่า ภาพไซซีกุมหัวใจบุรุษทั่วทั้งแผ่นดิน เป็นอิริยาบถที่สวยงามที่สุดในแผ่นดิน”
บุรุษผู้กล่าววาจาเช่นนี้มีได้เพียงบุรุษชุดแพรเท่านั้น กล่าวจบก็พลันทุ่มเทฝีเท้า วิ่งวนอยู่รอบมือกระบี่เสื้อดำ ยิ่งฝีเท้ายิ่งรวดเร็ว มือกระบี่เสื้อดำยิ่งขยับเคลื่อนไหวสะบัดกระบี่กระแทกฟาดใส่มากขึ้นเท่านั้น
“เจ้าบังอาจสั่งสอนข้า ข้าล้วนทราบดีว่าเจ้าหมายถึงใคร มันต้องเป็นของข้า” พลันปรากฏประกายสีขาววูบวาบ จากนั้นเป็นเสียงเค้ง เมื่อกระบี่ทั้งสองปะทะกัน ทั้งสองพลันถอยไปคนละหนึ่งก้าว บุรุษชุดแพรเบี่ยงตัว ย่อเท้าลงเล็กน้อยพลันเสือกกระบี่แทงใส่บุรุษเสื้อดำ
ที่โรงเตี๊ยมนอกเมืองหวงโจว ในยามดึกเงียบสงัด พลันปรากฏเงาร่างสีดำ กำลังพุ่งตรงมายังโรงเตี๊ยมแห่งนี้ บนหลังคาเห็นร่างนั้นค่อยๆ งัดกระเบื้องหลังคาออกมาหนึ่งแผ่น ก่อนที่จะจุดไฟใส่กระบอกไม้ พอเริ่มมีควันมันก็ก้มลงเป่าลงไปในห้องใต้หลังคามันนั่งนิ่งรอชั่วอึดใจ ก็ก้มลงมองดู ก่อนที่จะลงมืองัดหลังคาออก พอที่ตัวมันลอดลงไปได้ ในห้องนั้นเห็นเงาร่างชุดดำสะท้อนแสงจันทร์เพ็ญ ที่ส่องผ่านลูกกรงหน้าต่าง มันตรงไปยังเตียงนอนที่มีสตรีนางหนึ่งนอนหลับอยู่ มันเอื้อมมือเขย่าร่างสตรีนางนั้น แต่นางก็ไม่ตกใจตื่น เห็นมันยิ้มอย่างพออกพอใจจากนั้นมันก็เริ่มปลดสายรัดเสื้อของสตรีนางนั้นออก ค่อยๆบรรจงแหวกแยกออกจากกันช้าๆ ก่อนที่จะรูดกางเกงตามออกมาติดๆ บัดนี้ร่างของสตรีนางนั้นเหลือแต่เอี๊ยมสีแดงปักลูกไม้ตัวน้อยที่ไม่สามารถปกปิดความอวบใหญ่ของเนินอก ที่ล้นทะลักออกมา มันถูมือตัวเองไปมา พึมพำเบาๆ“แม่นางคนนี้ ช่างอวบใหญ่จริงๆ คืนนี้สวรรค์เป็นของข้าแล้ว ฮา..ฮา..”มันค่อยๆบรรจงปลดเอี๊ยมตัวน้อยออก ภาพที่ปรากฏตรงหน้า พลันคือร่างที่ขาวโพลนสะท้อนแสงจันทร์ เห็นมันตาถลนแทบหลุดออกมาจากเบ้า เรือนร่างที่แสนโสภา เนินอกที่ขา
ครู่ใหญ่นางก็เงยหน้าขึ้นมา “ถ้าท่านไม่รังเกียจ ข้าขอพลีร่างให้ท่าน เพื่อตอบแทนบุญคุณ”“แม่นาง...เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ข้าว่าท่านปรึกษาคนที่บ้านก่อนดีกว่า”“ข้าตัวคนเดียว ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน ข้าเป็นนักล่าเงินรางวัลเร่ร่อนไปทั่วยุทธจักร แล้ว...แล้ว...ข้าก็ยัง...ยัง...บริสุทธิ์อยู่..” นางพูดก้มหน้า อึกๆอักๆ อย่างเอียงอายเนื่องจากความคิดพลุกพล่าน จึงทำให้พิษในร่างกายกำเริบขึ้นมาอีก จนทำให้นางควบคุมสติไม่อยู่ จึงโผร่างเข้าโอบกอดบุรุษหนุ่มผู้นั้น มือของนางบังเอิญมาโดนกลางเป้ากางเกงของบุรุษหนุ่มพอดี นางรีบกุมทันที เจ้าท่อนเนื้อของบุรุษหนุ่มตื่นขึ้นมาทันทีทันใด“ท่าน...ท่าน...ช่วยข้าด้วย...ข้าต้องการ...ข้า...” นางร้องครวญคราง มือก็ขยำคลึงเคล้น จนบุรุษทนไม่ไหว“ถ้าเช่นนั้น ข้าต้องขอโทษแม่นางด้วยที่ล่วงเกิน...”กล่าวจบก็จี้จุดสลบของนาง ช้อนร่างนางอุ้มขึ้น พุ่งร่างกลับเข้าสู่ตัวเมืองอีกครั้ง ที่โรงเตี๊ยมนอกเมือง มันเคาะประตูเรียกอยู่พักใหญ่ เถ้าแก่เจ้าของก็เดินงัวเงียมาเปิดประตู“เถ้าแก่...น้องสาวข้าไม่สบายมาก ข้าขอเปิดห้องส่วนตัวที่เงียบๆให้นางพักผ่อนหน่อย”“รีบเข้ามา..ข้างนอกอากาศหนาวเ
“ฮุ้น...ฮุ้นกอ...เร็ว...เร็วอีก...แรงๆ...แรงๆเลย..ข้า...โอยยยย...ยย....”น่ำเจ็งทั้งเสียวทั้งเจ็บระคนกัน นางรู้สึกเหมือนกับว่าร่างของนางแตกออกเป็นเสี่ยงๆ นางร้องครางออกมาพร้อมๆกับแอ่นสะโพกขึ้นรับสุดตัว นางกระตุกร่างเฮือกใหญ่ก่อนที่จะนอนลงกับพื้นเตียง เสียงหอบหายใจของคนทั้งสองดังระคนทั่วห้อง“ข้า...ข้าไม่เคยรู้สึกอะไรเช่นนี้มาก่อนในชีวิตเลย ฮุ้นกอ...”เล็กเซี่ยวฮุ้นยิ้มรับ“เจ็งม่วย...เจ้าก็ทำให้ข้ามีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน”“จริง...จริงหรือฮุ้นกอ...ท่านหลอกให้ข้าดีใจหรือเปล่า..ท่านผ่านมามาก อีกทั้งแต่ละคนก็..ก็..ใหญ่กว่าข้าทั้งนั้น” พูดจบก็ซุกหน้ากับอกเล็กเซี่ยวฮุ้นอย่างเอียงอายเล็กเซี่ยวฮุ้นส่ายหน้าเชิงปฏิเสธ“เจ้าไม่รู้หรอกว่า ของของเจ้านั้น ทำให้ข้ากระสันอย่างสุดแสน” พูดเสร็จก็กระแทกมังกรร้ายที่ยังคาถ้ำอยู่ อีกซ้ำยังแข็งร่างอยู่คงเดิม น่ำเจ็งสะดุ้งร่างสูดปากร้อง“อุ๊ย...ซี๊ดด...บ้าจริงๆฮุ้นกอ...แกล้งข้า...”น่ำเจ็งสูดปากร้องอีกเมื่อเล็กเซี่ยวฮุ้นกระแทกมังกรเข้าถ้ำของนาง น่ำเจ็งใช้มือ ทุบอกเล็กเซี่ยวฮุ้นอย่างแรง นางเริ่มมีเรี่ยวแรงมากขึ้นเนื่องจากพิษแรงสลายไ
เล็กเซี่ยวฮุ้นจับขานางให้ถ่างออก เงยหน้าขึ้นมา“เจ็งม่วย...ข้าจะสอนให้เจ้ารับรู้ถึงความเสียวซ่านอย่างไม่เคยมีมาก่อน”กล่าวจบก็ก้มลงไปอีกครา ใช้ลิ้นโลมเลียปากคูหาสวาท ที่มีไรขนอ่อนไรขนบางตา น้ำในถ้ำสวาทเริ่มหลั่งรินออกมาตามความกำหนัด เล็กเซี่ยวฮุ้นทั้งดูดทั้งเลีย ยิ่งดูดเท่าไร น้ำเมือกใสกลับยิ่งทะลักออกมามากขึ้นอีก น่ำเจ็งเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูกนางทนไม่ไหวต้องเกร็งร่างลุกขึ้นนั่ง ใช้สองมือประคองศีรษะของเล็กเซี่ยวฮุ้น ให้ฝังแน่นเข้าไปอีก “ฮุ้นกอ...พอ...พอเถอะ...ข้าจะถึงอยู่แล้ว...ข้า...”เล็กเซี่ยวฮุ้นรู้ว่าน่ำเจ็ง ใกล้จะถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง จึงถอนร่างออก “อูวว...ฮุ้นกอ...ทำไมท่านทำอย่างนี้...ข้า..อยาก...ข้า...”น่ำเจ็งพูดเชิงต่อว่า ที่ทำให้อารมณ์นางหยุดชะงักไม่ถึงจุดสุดยอด เล็กเซี่ยวฮุ้นไม่พูดพล่ามทำเพลงลุกขึ้นยืนจับเจ้ามังกรร้าย ที่อยากจะพ่นพิษใจจะขาด จ่อที่ปากถ้ำของนาง ดันพรวดเดียวสุดตัว น่ำเจ็งถึงกับอ้าปากค้างตาเหลือก สองมือผลักดันอกเล็กเซี่ยวฮุ้นออก“ฮุ้นกอ...โอยยย....ซี๊ดดดดดด....”ทั้งสองโรมรันพันตูกันอย่างดุเดือด ฝ่ายหนึ่งนั่งอ้าขาบนขอบเตียงอีกฝ่ายก็ยืนข้างเตียง กระแทกร่างเข้า
เล็กเซี่ยวฮุ้นขบคิดอยู่ พลันเอ่ยว่า “เจ็งม่วย...มีวิธีสุดท้ายที่ข้าจะช่วยท่านได้ เจ้าจะยินยอมหรือไม่?”“ทำอย่างไรฮุ้นกอ...”“ข้าจะเอาเข้าทางนี้แทน เพื่อให้เจ้าถึงเป็นครั้งที่ห้า ก่อนที่จะครบกำหนดเวลาพิษกำเริบ” เล็กเซี่ยวฮุ้นกล่าวพร้อมกับแหวกแก้มก้นทั้งสองของนางอ้าออกโดยมังกรร้ายยังคารูสวาทอยู่ พร้อมกับใช้นิ้วชี้จิ้มสัมผัสถูไถไปที่ ปากถ้ำน้อยๆ อีกถ้ำหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆกัน น่ำเจ็งสะดุ้งหดร่างหนี“อุ๊ย...ฮุ้นกอ...นี่..นี่มัน...เออ...เออ..จะเข้าไปได้อย่างไรกัน..ข้า...”“ข้าก็ไม่เคยเหมือนกัน เคยอ่านแต่ในตำรา เราต้องลองดูไม่มีเวลาอีกแล้ว เจ็งม่วย หรือว่าเจ้าจะให้ข้าเอาเข้าที่เดิมอีกครั้ง”“ไม่...ไม่นะฮุ้นกอ...ที่เดิมของข้ามันไม่ไหวอีกแล้ว...เอาเถอะ...เอาก็เอา...” กล่าวจบนางก็ก้มหน้าไปกับพื้น อย่างเอียงอายด้วยความไม่เคยระคนความแปลกใหม่ที่จะได้ลิ้มรสสวาทจากถ้ำแห่งใหม่นี้เล็กเซี่ยวฮุ้นค่อยๆ ถอนมังกรที่เปียกแฉะออกมาช้าๆ มือหนึ่งแหวกแก้มก้นน่ำเจ็งอ้าออก อีกมือหนึ่งป้ายเอาน้ำเมือกจากถ้ำแรก มาป้ายที่ถ้ำด้านหลัง แล้วจับหัวมังกรร้ายจ่อปากถ้ำหลัง ดันเข้าไปทันที“อูววว...ซี๊ดดด...จะ...เจ็บ...เจ็บ...เอ
เล็กเซี่ยวฮุ้นจับขานางให้ถ่างออก เงยหน้าขึ้นมา“เจ็งม่วย...ข้าจะสอนให้เจ้ารับรู้ถึงความเสียวซ่านอย่างไม่เคยมีมาก่อน”กล่าวจบก็ก้มลงไปอีกครา ใช้ลิ้นโลมเลียปากคูหาสวาท ที่มีไรขนอ่อนไรขนบางตา น้ำในถ้ำสวาทเริ่มหลั่งรินออกมาตามความกำหนัด เล็กเซี่ยวฮุ้นทั้งดูดทั้งเลีย ยิ่งดูดเท่าไร น้ำเมือกใสกลับยิ่งทะลักออกมามากขึ้นอีก น่ำเจ็งเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูกนางทนไม่ไหวต้องเกร็งร่างลุกขึ้นนั่ง ใช้สองมือประคองศีรษะของเล็กเซี่ยวฮุ้น ให้ฝังแน่นเข้าไปอีก “ฮุ้นกอ...พอ...พอเถอะ...ข้าจะถึงอยู่แล้ว...ข้า...”เล็กเซี่ยวฮุ้นรู้ว่าน่ำเจ็ง ใกล้จะถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง จึงถอนร่างออก “อูวว...ฮุ้นกอ...ทำไมท่านทำอย่างนี้...ข้า..อยาก...ข้า...”น่ำเจ็งพูดเชิงต่อว่า ที่ทำให้อารมณ์นางหยุดชะงักไม่ถึงจุดสุดยอด เล็กเซี่ยวฮุ้นไม่พูดพล่ามทำเพลงลุกขึ้นยืนจับเจ้ามังกรร้าย ที่อยากจะพ่นพิษใจจะขาด จ่อที่ปากถ้ำของนาง ดันพรวดเดียวสุดตัว น่ำเจ็งถึงกับอ้าปากค้างตาเหลือก สองมือผลักดันอกเล็กเซี่ยวฮุ้นออก“ฮุ้นกอ...โอยยย....ซี๊ดดดดดด....”ทั้งสองโรมรันพันตูกันอย่างดุเดือด ฝ่ายหนึ่งนั่งอ้าขาบนขอบเตียงอีกฝ่ายก็ยืนข้างเตียง กระแทกร่างเข้า
“ฮุ้น...ฮุ้นกอ...เร็ว...เร็วอีก...แรงๆ...แรงๆเลย..ข้า...โอยยยย...ยย....”น่ำเจ็งทั้งเสียวทั้งเจ็บระคนกัน นางรู้สึกเหมือนกับว่าร่างของนางแตกออกเป็นเสี่ยงๆ นางร้องครางออกมาพร้อมๆกับแอ่นสะโพกขึ้นรับสุดตัว นางกระตุกร่างเฮือกใหญ่ก่อนที่จะนอนลงกับพื้นเตียง เสียงหอบหายใจของคนทั้งสองดังระคนทั่วห้อง“ข้า...ข้าไม่เคยรู้สึกอะไรเช่นนี้มาก่อนในชีวิตเลย ฮุ้นกอ...”เล็กเซี่ยวฮุ้นยิ้มรับ“เจ็งม่วย...เจ้าก็ทำให้ข้ามีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน”“จริง...จริงหรือฮุ้นกอ...ท่านหลอกให้ข้าดีใจหรือเปล่า..ท่านผ่านมามาก อีกทั้งแต่ละคนก็..ก็..ใหญ่กว่าข้าทั้งนั้น” พูดจบก็ซุกหน้ากับอกเล็กเซี่ยวฮุ้นอย่างเอียงอายเล็กเซี่ยวฮุ้นส่ายหน้าเชิงปฏิเสธ“เจ้าไม่รู้หรอกว่า ของของเจ้านั้น ทำให้ข้ากระสันอย่างสุดแสน” พูดเสร็จก็กระแทกมังกรร้ายที่ยังคาถ้ำอยู่ อีกซ้ำยังแข็งร่างอยู่คงเดิม น่ำเจ็งสะดุ้งร่างสูดปากร้อง“อุ๊ย...ซี๊ดด...บ้าจริงๆฮุ้นกอ...แกล้งข้า...”น่ำเจ็งสูดปากร้องอีกเมื่อเล็กเซี่ยวฮุ้นกระแทกมังกรเข้าถ้ำของนาง น่ำเจ็งใช้มือ ทุบอกเล็กเซี่ยวฮุ้นอย่างแรง นางเริ่มมีเรี่ยวแรงมากขึ้นเนื่องจากพิษแรงสลายไ
ครู่ใหญ่นางก็เงยหน้าขึ้นมา “ถ้าท่านไม่รังเกียจ ข้าขอพลีร่างให้ท่าน เพื่อตอบแทนบุญคุณ”“แม่นาง...เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ข้าว่าท่านปรึกษาคนที่บ้านก่อนดีกว่า”“ข้าตัวคนเดียว ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน ข้าเป็นนักล่าเงินรางวัลเร่ร่อนไปทั่วยุทธจักร แล้ว...แล้ว...ข้าก็ยัง...ยัง...บริสุทธิ์อยู่..” นางพูดก้มหน้า อึกๆอักๆ อย่างเอียงอายเนื่องจากความคิดพลุกพล่าน จึงทำให้พิษในร่างกายกำเริบขึ้นมาอีก จนทำให้นางควบคุมสติไม่อยู่ จึงโผร่างเข้าโอบกอดบุรุษหนุ่มผู้นั้น มือของนางบังเอิญมาโดนกลางเป้ากางเกงของบุรุษหนุ่มพอดี นางรีบกุมทันที เจ้าท่อนเนื้อของบุรุษหนุ่มตื่นขึ้นมาทันทีทันใด“ท่าน...ท่าน...ช่วยข้าด้วย...ข้าต้องการ...ข้า...” นางร้องครวญคราง มือก็ขยำคลึงเคล้น จนบุรุษทนไม่ไหว“ถ้าเช่นนั้น ข้าต้องขอโทษแม่นางด้วยที่ล่วงเกิน...”กล่าวจบก็จี้จุดสลบของนาง ช้อนร่างนางอุ้มขึ้น พุ่งร่างกลับเข้าสู่ตัวเมืองอีกครั้ง ที่โรงเตี๊ยมนอกเมือง มันเคาะประตูเรียกอยู่พักใหญ่ เถ้าแก่เจ้าของก็เดินงัวเงียมาเปิดประตู“เถ้าแก่...น้องสาวข้าไม่สบายมาก ข้าขอเปิดห้องส่วนตัวที่เงียบๆให้นางพักผ่อนหน่อย”“รีบเข้ามา..ข้างนอกอากาศหนาวเ
ที่โรงเตี๊ยมนอกเมืองหวงโจว ในยามดึกเงียบสงัด พลันปรากฏเงาร่างสีดำ กำลังพุ่งตรงมายังโรงเตี๊ยมแห่งนี้ บนหลังคาเห็นร่างนั้นค่อยๆ งัดกระเบื้องหลังคาออกมาหนึ่งแผ่น ก่อนที่จะจุดไฟใส่กระบอกไม้ พอเริ่มมีควันมันก็ก้มลงเป่าลงไปในห้องใต้หลังคามันนั่งนิ่งรอชั่วอึดใจ ก็ก้มลงมองดู ก่อนที่จะลงมืองัดหลังคาออก พอที่ตัวมันลอดลงไปได้ ในห้องนั้นเห็นเงาร่างชุดดำสะท้อนแสงจันทร์เพ็ญ ที่ส่องผ่านลูกกรงหน้าต่าง มันตรงไปยังเตียงนอนที่มีสตรีนางหนึ่งนอนหลับอยู่ มันเอื้อมมือเขย่าร่างสตรีนางนั้น แต่นางก็ไม่ตกใจตื่น เห็นมันยิ้มอย่างพออกพอใจจากนั้นมันก็เริ่มปลดสายรัดเสื้อของสตรีนางนั้นออก ค่อยๆบรรจงแหวกแยกออกจากกันช้าๆ ก่อนที่จะรูดกางเกงตามออกมาติดๆ บัดนี้ร่างของสตรีนางนั้นเหลือแต่เอี๊ยมสีแดงปักลูกไม้ตัวน้อยที่ไม่สามารถปกปิดความอวบใหญ่ของเนินอก ที่ล้นทะลักออกมา มันถูมือตัวเองไปมา พึมพำเบาๆ“แม่นางคนนี้ ช่างอวบใหญ่จริงๆ คืนนี้สวรรค์เป็นของข้าแล้ว ฮา..ฮา..”มันค่อยๆบรรจงปลดเอี๊ยมตัวน้อยออก ภาพที่ปรากฏตรงหน้า พลันคือร่างที่ขาวโพลนสะท้อนแสงจันทร์ เห็นมันตาถลนแทบหลุดออกมาจากเบ้า เรือนร่างที่แสนโสภา เนินอกที่ขา