ชั่วลัดนิ้วมือเดียวกระบี่ของชายชุดแพรแทงใส่หน้าอกชายเสื้อดำ พลันหนังสือเล่มหนึ่งหลุดจากอก ชายชุดแพรควงกระบี่เป็นวง ชายเสื้อดำตื่นตระหนก ด้วยสภาวะอันเร่าร้อนรุนแรงเช่นนี้ มือกระบี่ชุดแพรซัดกระบี่ใส่ข้อมือชายเสื้อดำ พลันที่กระบี่หลุดจากมือชายเสื้อดำเตรียมล่าถอย แต่ไม่ทันที่บุรุษชุดแพรรุกไล่ใส่จุดหัวใจ
บุรุษชุดดำทั้งแตกตื่นลนลาน ทั้งเคลือบแคลงสงสัย ครุ่นคิดขึ้น
“ไฉนเลยมันไวปานนี้”
เมื่อมันรู้สึกตัว พลันเห็นเพียงจุดเลือดปรากฏรอยวงบนหน้าอก ชายเสื้อดำก้มมองดูตัวเอง พลันทรุดลงกับพื้น “มันต้องเป็นของข้า” เขากล่าววาจาสุดท้ายพลันขาดใจพร้อมลมหายใจห้วงสุดท้าย
รวดเร็วปานสายฟ้า
บุรุษชุดแพรตวัดกระบี่ลงฝัก แล้วก้มลงเก็บหนังสือเล่มนั้น โดยไม่ใส่ใจชายเสื้อดำที่กรุดกองอยู่กับพื้น
เสี้ยวอึดใจนั้นสตรีนางหนึ่งออกจากที่ซ่อน พลางกล่าวเสียงดัง “ฮุ้นกอ ข้ากลัวยิ่ง” นางกล่าวเสียงอ่อนหวาน ส่งสายตาหยดย้อย “นี่หนังสือใดหรือ”
“หนังสือที่สตรีไม่ควรเห็น มันอันตรายยิ่งนัก หากตกไปในมือสตรี โดยเฉพาะสตรีอ่อนหวานอย่างเจ้า”
“ขอข้าดูหน่อยสิ ฮุ้นกอ”
บุรุษชุดแพรที่แท้แล้วคือ เล็กเซี่ยวฮุ้น รีบชิงกล่าว “มิได้ น่ำเจ็ง อ้อ”
“ข้าบอกฮุ้นกอแล้ว น่ำเจ็งได้ลับหายจากโลกไปแล้ว บัดนี้มีแต่อี้อึ้ง” นางกล่าวแล้วสะบัดหน้าอย่างงามงอน
“ข้า... ข้อขอโทษที่ล่วงเกินเจ้า”
“ท่านก็ล่วงเกินข้าทั้งหน้าและหลังมาแล้วนี่ ใยจึงกล่าวเช่นนี้”
“ข้าล่วงเกิน มันคนละอย่างกัน รึว่าเจ้าต้องการให้ข้าล่วงเกินอีก ภายหลังจากวันนั้นแล้ว ข้า ข้า...มิได้” บุรุษชุดแพรหรือเล็กเซี่ยวฮุ้นรู้สึกถึงแก่นกายตัวเองพองใหญ่ ยิ่งเมื่อนึกถึงบทบาทร่วมกันเมื่อครั้งนางเจอพิษ เพียงภาพในอดีตว้าบขึ้นมาในห้วงนึกคิด เขาถึงกับครางออกมา”
“ท่านครางอันใด ฮุ้นกอ”
“ข้าแค่คิด คิดถึง อดีตที่ผ่านมา ข้า ข้าก็เสียวไปหมดทุกสัดส่วน ข้าว่าเจ้าก็คงไม่ต่างจากข้า”
“ให้ข้าดูหนังสือก่อน แล้วข้า ข้าจะให้ฮุ้นกอทำตามที่ต้องการ” อี้อึ้งหรือน่ำเจ็งในอดีตเอียงอาย ใบหน้าแดงซ่านเป็นลูกพลับ
เล็กเซี่ยวฮุ้นรีบส่งหนังสือให้นาง พลางสูดปากอย่างพึงใจ
อี้เอ็งรับหนังสือมาพลิกดู ทันทีที่นางเปิดดู เพียงลำดับแรกของหน้า ใบหน้านางก็แดงซ่าน มันเป็นภาพบุรุษหนุ่มกับสตรีซึ่งมังกรขนาดใหญ่ กำลังดันเข้าหว่างกลางร่องเนื้อฉ่ำเยิ้มของสตรีนางหนึ่ง ภาพต่อๆ มาเป็นภาพของสตรีกับบุรุษอื่นอีกมากมาย ในลีลาทาทางต่างๆ
“นี่คือหนังสืออันใด” อี้อึ้งหลบตากล่าว นางเคอะเขินเสียจนมิกล้ามองหน้าบุรุษแซ่เล็ก
“มันคือตำราโบราณที่สูญหายไปหลายชั่วคน หากสตรีใดร่ำเรียนเคล็ดวิชาจากตำรานี้ จะปรากฏวิทยายุทธสูงส่ง จะสำเร็จเคล็ดวิชาสุดยอด ลมปราณมีกำลังเหนืออาชาร้อยตัว จะถึงขั้นเหาะเหินเดินอากาศและมีพลังที่จะรักษาอาการเจ็บป่วยผู้คนได้ รวมถึงจะมีอายุยืนยาว”
“มันดีเช่นนี้หรือ มีตำราเช่นนี้ด้วย”
“เพียงแต่....”
“เพียงแต่อันใด”
บุรุษแซ่เล็กก้มหน้า มันลังเลยากจะกล่าว
“เพียงแต่อันใด ฮุ้นกอ บอกข้าเถิด แล้วข้าจะสมนาคุณท่าน”
บุรุษแซ่เล็กได้ยินดังนั้น มังกรของเขาก็ผงาดง้ำ เขาเผลอหลับตานึกถึงเรือนร่างของโฉมสะคราญเบื้องหน้า เผลอครางเสียงหลง “นี่เราไม่ได้พบกันนานเพียงใด น่ำเจ็ง”
“อี้เอ็ง”
“อี้เอ็ง ข้าปรารถนาในตัวเจ้ายิ่งนัก”
“ถ้าเช่นนั้นก็รีบบอกข้าเร็วเถิด”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มันลังเลอีก รีบกล่าว “ก็ได้ ข้าจะบอก คืออันว่า หากสตรีนางใดต้องการสำเร็จวิทยายุทธชั้นสูงนี้ ต้องเดินทางเสาะหาบุรุษตามคำแนะนำในตำราและให้เขาถ่ายทอดพลังหยางอย่างน้อยหนึ่งคราว”
“มิยากนี่ ฮุ้นกอ
“มันมิใช่เพียงคนเดียว ผู้ปรารถนาสำเร็จวิชา ต้องให้บุรุษถ่ายทอดพลังหยางถึงหมายคาดว่า คือบุรุษที่เกิดแตกต่างกันถึงทุกนักษัตร ในอดีตยังมิมีสตรีนางใดสำเร็จวิชานี้ มักจะขาดใจ พลังลมปราณสิ้นสุดเสียก่อนจะครบ”
“มันยากขนาดนั้นเลยหรือ ฮุ้นกอ”
“ยากขนาดนั้นสิ ข้าถึงได้ต้องการมาทำลาย มิให้สตรีนางใดได้อ่าน โดยเฉพาะเจ้า”
“ฮุ้นกอก็รู้ ข้าเคยพบพานกับท่านห้าครั้งภายในไม่กี่ชั่วยาม มังกรของท่านก็ตัวน้อยเสียเมื่อไหร่ แค่ข้านึกภาพบทรักครานั้น ข้าก็ ก็” นางรู้สึกถ้ำน้อยของตัวเองชุ่มฉ่ำเสียแล้ว
“เช่นนั้นเรามารำลึกถึงความหลังกันเถอะ”
กล่าวจบบุรุษแซ่เล็กรีบถลาไปหานาง รีบแกะสายรัดออก
“เราจะ.. จะ... ตรงกลางแจ้งนี้เลยหรือ”
“ดีสิ กลางแจ้ง ตื่นเต้นดี ข้าชอบ เจ้าจะลองดูดีหรือไม่”
อี้เอ็งเกิดความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา นางจึงตอบรับคำเชื้อชวน “ดีสิ ฮุ้นกอ
“เช่นนั้นแล้ว เรามิควรชักช้า ข้าปรารถนาในตัวเจ้ามิใช่น้อย”
เล็กเซี่ยวฮุ้นเอื้อมมือปลดสายรัดนางออก พลางลูบไล้ปทุมถันของนางอย่างเบามือ เม็ดบัวน้อยสู้มือ
ขณะที่มือของนางก็คว้าจับมังกรร้ายของบุรุษ มันผงกศีรษะสู้พลางขยายใหญ่จนนางกำไม่รอบ แม้นางจะเคยเห็นมาแล้ว ทว่าเมื่อเห็นอีกครา ใจก็เต้นแรง
นางรูดขึ้นรูดลง พลางมองศีรษะมังกรที่บานใหญ่และกลมมน ลำตัวของมันเล่าก็แน่นตึง มีเส้นเลือดปูนโปนราวกับเถาวัลย์พันรอบ ดูแล้วนางหายใจหนัก เมื่อนึกว่ามันต้องเข้าไปในตัวนาง นางตื่นกระสัน ใจเต้นแรง นางเผลอกำและรูดเข้ารูดลงแรงขึ้น
บุรุษนั้นถึงกับครางออกมา “โอ้ว... ข้าชอบๆ”เล็กเซี่ยวฮุ้นไม่ยอมแพ้ เขาก้มลงใช้ริมฝีปากลูบไล้ไปตามซอกคอของนาง พลางขบกัดเบาๆ จากทางซ้ายค่อยๆ ลากริมฝีปากไล้ไปทางขวา นางถึงร้องฮือๆ ลมหายใจเริ่มขาดช่วงมือขวาของบุรุษแซ่เล็กลดลงไปสัมผัสถ้ำน้อยของอี้เอ็งที่บัดนี้ราวกับน้ำพุเริ่มสาย ก่อนจะใช้นิ้วกลางสัมผัสแผ่วเบาขึ้นลงๆ เขาทำอยู่นานจนน้ำพุกลายเป็นน้ำตก บุรุษงอนิ้วกลางเป็นตะขอก่อนจะดันเข้าไปช้าๆ นางถึงกับตาลุกวาว ห่อปาก ร้อง ฮู้ๆ ร่างกระตุก ปากร่ำร้อง “เสียว เสียว อย่าหยุดนะ ฮุ้นกอ”“เดี๋ยวเจ้าจะเสียวกว่านี้อีก” บุรุษกล่าวจบริมฝีปากของเขาก็ขบกัดเม็ดบัวน้อย แล้วห่อลิ้น วนรอบเม็ดบัว ก่อนจะดูดเน้น เสียงดังจ๊วบ มังกรของบุรุษผงกศีรษะ บุรุษรู้สึกแน่นตึงอยากดันมังกรร้ายเข้าถ้ำนางแซ่อี้ยังคงกำรอบมังกรและลูบไล้ขึ้นลง พลางใช้นิ้วโป้ง นิ้วชี้และนิ้วนางลูบศีรษะมังกร มังกรคลายน้ำอมฤตเหนียวออกมา เธอป้ายน้ำนั้นไปรอบศีรษะมังกรร้าย บุรุษแซ่เล็กถึงกับครางออกมาไม่หยุดหย่อนบุรุษไม่ยินยอมแพ้นาง บุรุษคุกเข่า ศีรษะเขาอยู่กลางหว่างขานาง ระดับนั้นเองที่เขาเห็นคูหาถ้ำเต็มตาพลางสูดปาก นางแอ่นเอวท้าทายพลางกล่าวรวบรัด“
และแล้วสตรีชุดขาวพร้อมกระบี่ในมือก็ปรากฏร่างขึ้น สตรีนั้นปรบมือเป็นจังหวะสองสามหน “สุดยอด ลีลาของท่านทั้งสองทำข้าแทบอยากร่วมด้วยเลย ถ้าข้าไม่คิดถึงภารกิจที่ต้องสะสาง” “บัดซบ ลามก ท่านคือผู้ใด บังอาจทำร้ายฮุ้นกอข้า” อี้อึ้งกล่าวตอบโต้ “มันสมควรตายยิ่ง ข้าเพียงสั่งสอนมันไม่ให้แส่หาเรื่อง” สตรีชุดขาวกล่าวเสียงดังขึ้น “รีบส่งตำรามาให้ข้า” อี้อึ้งรีบสวมใส่อาภรณ์และเก็บตำราเข้ากับตัว สตรีนางนั้นเสือกระบี่เข้าใส่ แต่ร่างนั้นกลับต้องหยุดนิ่งกลางอากาศ เล็กเซี่ยวฮุ้นลุกขึ้นมาเสือกกระบี่เข้าใส่จุดตายของนาง ก่อนที่ตนเองจะกระอักโลหิตชุดใหญ่ อี้อึ้งรุดเข้าหา “ฮุ้นกอ ท่าน” โดยมิใส่ใจร่างสตรีนางนั้น “อี้อึ้งไม่ต้องห่วงข้า ข้าจะสกัดลมปราณรักษาตัว มันสามารถประคองชีวิตข้าได้หลายเดือน แม้ข้าจะถูกจุดตายก็ตาม ร่างข้าเคลื่อนไหวได้เพียงช่วงบน แต่เจ้าไม่ต้องห่วงข้า ข้ายังไม่ตาย ข้าอยากอยู่กับเจ้าให้นานที่สุด ข้าขอเพียงอย่างเดียว ได้โปรดอย่าศึกษาตำรา” “ทำไม” “ข้าหวงเจ้ายิ่งนัก ข้ามิอาจให้เจ้าพบพานบุรุษใดอีกแล้ว”
“ท่าน ท่าน ท่านจะไม่ไปใช่ไหม” เมื่อสตรีนางนั้นเห็นปึงเฮียงเฉยชา นางจึงพลันจากไป ปึงเฮียงถอนใจ ก่อนจะหันมากล่าวกับอี้อึ้ง “ขอตัวสักประเดี๋ยว แต่งกายให้เรียบร้อยแล้วออกมาต้อนรับท่าน” อี้อึ้งมองบุรุษแซ่ปึงเข้าไปด้านใน เมื่อนึกว่าบุรุษต้องแต่งกาย คำว่าแต่งกายกระตุ้นภาพมังกรร้ายสะบัดตัวอยู่นอกผ้าเมื่อครู่ ทำให้นางแอบหน้าแดงซ่าน ชั่วลัดนิ้วมือเดียว ปึงเฮียงก็ออกมา เขารีบกล่าว “เสร็จแล้ว” “รวดเร็วยิ่งนัก” “แต่อย่างอื่นข้าช้านะ” “อย่างอื่นอันใด” “อย่างที่นางเห็นไงล่ะ” อี้อึ้งนึกถึงคำว่าอันใด ปีชวด อายุ 20 นางถึงร่ำร้องในใจ ฮุ้นกอ ข้าพบแล้ว! วิกาลยาวนานยังไม่สิ้นสุด แต่ในสายลมได้พัดพากลิ่นอายของอรุณมาพร้อมกับอี้อึ้ง นางคล้ายหลับตาไม่ลง ตลอดนิทราอันข่มตาไม่หลับ นางเฝ้าคิดหาแต่วิธีเข้าหาบุรุษแซ่ปึง นับแต่อายุสิบสามเป็นต้นมา นางเอียงอายต่อหน้าเพศบุรุษเสมอ มิเคยคิดเป็น “กิ่งดอกซิ่งแดง” แม้แต่คราเดียว จนกระทั่งพบฮุ้นกอที่ถอนพิษและสอนเพศรสให้นางเต็มที่ นางกล้าสบสายตาบุรุษทุกนามในแผ
กล่าวจบมันดึงมือนางจับหน้าอกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นตึง มันจับมือนางลูบไล้ไปตามร่างกายตนเอง แล้วค่อยๆ ต่ำลงไปที่ตรงหว่างกลางขา นางรู้สึกตื่นเต้น เมื่อมือของนางนั้นลูบไล้อยู่นอกผ้า แม้สัมผัสนั้นจะไม่ถูกมังกรร้ายโดยตรง แต่นางกลับตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกนางลูบไล้อยู่บนผ้าสักครู่ มันจับมือนางสอดเข้าไปใต้ร่มผ้าแล้วกล่าวว่า “มังกรของข้าต้องการให้เจ้าได้เห็น”เมื่อมังกรร้ายเผยร่างออก ลำตัวมันช่างใหญ่หนา เต็มไปด้วยเส้นปูดโปนรัดแน่น ราวกับเถาวัลย์ขึ้นหนาพันรอบมังกรนางลูบไล้พลางคิดถึงฮุ้นกอ แต่ของบุรุษคนนี้แข็งราวกับไม้มากกว่าฮุ้นกอเสียอีก และเถาวัลย์กันเกี่ยวก็เกาะเกี่ยวไปทั่วลำตัวที่คล้ำและแข็งกว่าฮุ้นกอนางกำมันเต็มมือ แล้วรูดขึ้นลง จากช้าๆ ช้าๆ ค่อยๆ แรงขึ้นๆบุรุษแซ่ปึงแหงนหน้าสูดปาก หลับตาพริ้มอย่างเป็นสุขนางกำมันแน่นขึ้น รูดขึ้นลงเร็วขึ้น มันยิ่งห่อปาก เม้มปาก กัดริมฝีปากสลับไปมา“หยุดเถอะ เดี๋ยวมังกรข้าคงต้องพ่นพิษแน่ๆ”นางหยุดแล้ววนนิ้วรอบศีรษะมังกร เค้นเอาพิษใสๆ ที่เยิ้มอยู่ทั่วศีรษะ นางก้มลงใช้ริมฝีปากเล็มน้ำนั้นทำเอาเขาถึงกับร้อง โอ้วๆ นางปล่อยศีรษะมังกรเข้าเต็มปากนางสองสามครั้
บุรุษแซ่ลี้เห็นอี้อึ้งก้มหน้างุด อมยิ้ม จึงได้ใจ ยื่นมือสัมผัสกับปทุมถันของนางผ่านๆ อย่างแผ่วเบา นางรู้สึกว่าบุรุษแซ่ลี้ตั้งใจ จึงทำทีเป็นเอียงอาย อาชายังคงควบไปข้างหน้า ช่วงแรกท่านนายอำเภอเพียงแต่ควบอาชาอย่างเพลิดเพลิน ขณะต่อมากลับล้วงมือไปภายใต้ชุดเขียวของนาง ปทุมถันของนางเหมาะมือเขามาก เขาลูบไล้ เค้นคลึง แล้วใช้ปลายนิ้วชี้เขี่ยยอดเม็ดบัว จนนางหลับตา ปล่อยให้เขาลูบไปมาไม่หยุดหย่อน อี้อึ้งซึ่งหันหน้าซบกับแผ่นอกของเขา นายอำเภอยิ่งได้ใจ เขาส่งเสียงพอใจ เมื่อเห็นนางเริ่มกระเส่าอีอึ้งเห็นบุรุษเป็นเช่นนี้จึงลอบยิ้มแล้วนางจึงค่อยๆ ลดมือลงกุมอาชายักษ์ของเขา เขารู้ดี จึงขยับขาออกห่างให้นางได้กุมเจ้าอาชายักษ์ได้เต็มมือ “ข้าชอบ” บุรษแซ่ลี้กล่าวพลางรวบนางขึ้นนั่งคร่อมบนตัวเขา แล้วกล่าว “เรามาควบม้ากันเถอะ” เขายกนางขึ้น ให้หันหน้าไปทางด้านหน้า แล้วจับอาชาให้ตรงกับปากถ้ำ ก่อนจะปล่อยตัวนางลง เป็นจังหวะที่ม้าขึ้นเขา อาชาประจำตัวของเขาจึงดันพรวดเข้าปากถ้ำจนสุด เขาและนางต่างร้องอย่างเปี่ยมสุข “ข้าเสียว โกวเนี้ยะ เจ้าชอบไหม”
วิกาลล่วงเข้าแล้ว บนฟ้าไร้เดือนไร้ดาว เมฆทึบ ลมแรง แต่ในลานตึกกลับมีโคมไฟ แม้ดวงไฟริบหรี่ บัดเดี๋ยวกระพริบบัดเดี๋ยววูบดับ มองราวกับมนต์ดำทำงาน ยังมีทหารนายหนึ่งกำลังเหยาะอาชาพ่วงพีสง่างาม อี้อึ้งเห็นแล้วนึกถึงท่านนายอำเภอเมื่อหลายราตรีที่ผ่านมา ทว่าทหารนายนี้พลันควบขี่เร็วขึ้น ดังเร่งรุดไปจากสถานที่นี้ ถูกต้องแล้ว นักเลงโจรรายหนึ่งปิดหน้าพรางกายเพิ่งออกจากอาคารหลังหนึ่ง เห็นชัดว่ามิใช่คนดี ทหารนายนั้นจึงเข้าจู่โจมจับกุมโจรได้เพียงไม่เกินสิบกระบวนท่า “นายท่านอ้วงเลาะ ขอได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย” โจรนายนั้นกล่าววาจาอย่างนบนอบ “เจ้ารู้นามข้าด้วย” นายทหารหนุ่มใหญ่กล่าวอย่างสงสัย “ข้ามิเพียงทราบชื่อท่าน ยังทราบว่าท่านคือนายทหารคนสนิทของท่านเจ้าเมือง ข้ายังทราบว่าท่านเกิดปีขาล เป็นบุตรของท่านเจ้าเมืองคนก่อน” “เจ้ารู้เรื่องข้ามากมาย ไฉยเลยจะทราบไปเพื่ออะไร” “ท่านเป็นผู้พิทักษ์ราษฎรผู้มีชื่อเสียง ไฉนเลยไม่ควรทราบชื่อท่าน” อี้อึ้งหลบกายอยู่มุมตึก ฟังแล้วหูผึ่ง “ถ้าเช
เขาพานางไปมุมอาวุธสามง่ามตั้งอยู่ “สามง่ามคือเช่นนี้”พูดจบบุรุษก้มลงห่อลิ้นและเกร็งไว้ ก่อนจะแทรกเข้าเนินสวาท นางถึงกับร้องอู้อี้ในลำคอ เขาผงกหัวเข้าออก จากช้าๆ กลายเป็นเร่งเร็วขึ้นสักพักบุรุษเพิ่มง่ามที่สองด้วยการใช้นิ้วกลางกดลงไปในถ้า เขาทั้งห่อลิ้นชักเข้าออกและนิ้วกลางที่ดึงเข้าออกพร้อมกันอี้อึ้งสะบัดศีรษะไปมาอย่างพึงพอใจ แล้วเขาก็เอื้อมซ้ายมากุมปทุมถันของนางแล้วบีบเบาๆ ก่อนจะเร่งแรงขึ้น“นี่ไง สามง่าม สามอย่างพร้อมๆ กัน”นางถูกเร่งเร้าเช่นนี้ จนกระทั่งนางเกร็งไปหมดทั้งตัวแล้วกระตุกร่าง ก่อนจะหมดลมราวหมดแรง“ไปที่อาวุธใดอีก”“ของ้าวกับกระบอง”“จัดไป”บุรุษพาอี้อึ้งไปที่ง้าว นางก้มลงมองว่าง้าวว่าจะคืออะไร“ข้าขอตรงนี้ก่อน” กล่าวจบ บุรุษจับมังกรร้ายของตนถูไปบริเวณปากถ้ำ เขาร้องออกมาเบาๆ “เสียว เสียวดี”ก่อนจะบอกต่อ “ต่อไป ง้าวล่ะนะ แม่นาง”บุรุษจัดการงอนิ้วกลางเป็นครึ่งวงกลมแล้วเขี่ยเม็ดมณีก่อนเบาๆ สี่ห้าครั้ง จากนั้นก็เกร็งนิ้วแล้วกดลงเข้าไปภายในถ้ำของนางนางสะดุ้งโหยง สูดปาก แอ่นกายรับ ท่อนล่างของนางกระเด้งขึ้นลงรับสู้กับนิ้วของเขา เขาเร่งแรงขึ้นๆ
รัตติกาลของเมืองหางโจวช่างเงียบเชียบ สุขสงบ อี้อึ้งมักใช้เวลาหลังเล็กเซี่ยวฮุ้นผู้เป็นสามีเข้าห้วงนิทรารมณ์แล้ว ลอบโคจรพลังลมปราณ พลังหยางที่นางสะสมมาสามนักษัตร ส่งผลให้นางรู้สึกถึงความกระปี้กระเปร่าและกำลังภายในที่เพิ่มพูนมากขึ้น นางสามารถยกของหนักได้คราวละมากๆ เดินเหินได้รวดเร็ว คล่องแคล่ว ได้ระยะทางที่ไกลและนานมากยิ่งขึ้น คืนนั้นอี้อึ้งโคจรพลังลมปราณเพื่อรักษาเล็กเซี่ยวฮุ้น ตัวบุรุษผู้เป็นสามีเองก็ค้นพบว่า พลังลมปราณนางกล้าแกร่งขึ้น นั่นทำให้ผู้เป็นสามี ขยับกายได้มากขึ้น เรี่ยวแรงที่หายไปพลันกลับมา ที่สำคัญ เขาพูดจาได้แล้ว “ขอบใจเจ้ามาก” บุรุษพลันกล่าว “ไฉน เจ้าถึงมีพลังลมปราณที่ดุดันและกล้าแข็งถึงเพียงนี้” เล็กเซี่ยวฮุ้นสงสัย“ข้าฝึกเดินลมปราณทุกคืน ก่อนพี่ท่านจะเข้านอน ข้าไม่เคยละเว้น” “มิน่าเล่า อย่างนี้นี่เอง ยังไง เจ้าอย่าหักโหม นัก พักผ่อนเยอะๆ นะ หากข้าหายดี ข้าจะดูแลเจ้าเอง” “ฮุ้นกออย่าได้กังวล ข้ามิได้ลำบากเลย” ช่วงเวลาดึกดื่นหลังสามีเข้านอนและนางโคจรพลังลมปราณเพื่อฝึกฝนเสร็จเรียบร้อย นางมักขบคิดหาบุรุษ
หนุ่มลูกน้องกระแทกอย่างบ้าคลั่งและเมามันอยู่พักใหญ่มันพานางไปที่เตียง ตัวมันนั่งลง ปล่อยคามังกรไว้ นางหมุนตัวไปทางเท้าของมันมังกรของมันจึงอยู่ในท่าที่นางจะควบขี่ได้โดยง่าย นางจึงโยกขึ้นโยกลงโยกไปทางซ้าย หมุนไปทางขวา“โอ้ว เสียวยิ่งนัก แม่นาง” มันตะโกนร้อง “มันดีอย่างนี้ได้เช่นกัน”นางผลักตัวเองออก ก่อนหันหน้ามาหามัน “ข้าชอบให้เจ้าถึงร่วมกันกับข้าทางด้านหน้า”“มิอาจมีปัญหา” มันกล่าวนางแอ่นกาย หยัดเกร็ง พลางเสียวซ่านตัวเกร็งไปทั่งสรรค์พางกาย ขยี้ปทุมถันของตนไปตามอารมณ์มุ่งหมายขณะที่มันดันมังกรเข้าถ้ำเป็นจังหวะครั้งแล้วครั้งเล่า กระแทกกระทั้นอย่างแรงไม่หยุด แล้วมันก็ดันมังกรเข้าครั้งสุดท้ายสุดแรงเกิด ร่างมันก็กระตุกเฮือกครั้งใหญ่ ก่อนจะปล่อยน้ำพลังหยางเข้าสู่ร่างกายนางนางกลับกอดร่างบุรุษแน่น ยกขาก่ายกอดรวบรัดสะโพกมันไว้ มันกระตุกอีกสองสามครา ก่อนจะฟุบร่างลงซบอกนางมันถอนกายออกเพื่อนมันอีกคนเข้าหานาง จับสะโพกนางให้โด่งเด่น แล้วดันมังกรของตนเข้าบ้างเป็นท่าสุนัขที่มันชื่นชอบนางสูดลมหายใจเข้าออก “เอาสิ อย่าช้า ข้ายังต้องการของพวกเจ้า”มันคนนี้จับสะโพกนาง โยกคลึงมังกรของตนบดเข้ากับส
ย่งฟางครางเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ แล้วที่สุดนางก็ร้องลั่นห้อง“ข้า ไม่ เคย เสียว อย่าง นี้ มา ก่อน เล ย ย ย ย ย ย ย ดี ที่สุด เลยย ย โอ้ว ย๊ากกกกกก”นางปล่อยน้ำรักผสมกับน้ำของบุรุษไหลมาตามง่ามขาหมิงป้าก้มลงซุกไซร้ไปตามใบหน้านาง ซอกคอนาง แล้วขบกัดเบา นางถึงร้องอีกคราฝ่ายหมิงจางเห็นดังนั้นจึงเล้าโลมนางอีก เขาเลียข้อเท้านาง มือก็วนคลึงสะโพกแล้วแอบสอดลิ้นตวัดเลียไปรอบถ้ำนางด้านหลัง ย่งฟางถึงกับเสียวสะดุ้งเป็นอีกความรู้สึกที่นางเพิ่งเคยได้รับหมิงจางอุ้มนางวางลงกับเก้าอี้ที่มีผ้าไหมรองตรงกลางห้อง เขาก้มลงกวาดลิ้นไล้ไปรอบปากถ้ำและรอบประตูหลัง นางแอ่นกายขึ้น แหงนหน้าสูดปากร้องอีกครา หมิงป้ายทำวนสลับไปมาเช่นนี้ อย่างมิหยุดหย่อนหมิงจางดูดเลียถันนางจากซ้ายย้ายไปขวา มันใช้มืออีกข้างคลึงเม็ดบัวนาง ขณะที่ปากก็ดูด ดุน วนเลียเม็ดบัวอีกข้าง สลับไปมาเช่นนี้อู่อีกพักหนึ่งลูกน้องคนสนิทยืนรูดมังกรขึ้นลง นางแหงนหน้ามองมันแล้วร้องวู้ มังกรมันกำยำเต็มไปด้วยหนามรัด มันจับมังกรมันถูไถไปตามขานางได้สักพัก ลูกน้องคนสนิทก็ถอยห่าง เพราะนางจ้างมันมา“เจ้าต้องรอ” หมิงปู้กล่าวหมิงปู้ว่าแล้วก็เดินไปถอดสายรัดนางอ
“พวกท่านเป็นแต่บุรุษ” “ใช่สิ พวกข้าบุรุษทั้งแท่ง” “ข้า รำไม่ได้หรอก” “หาไม่รำ ข้าจะฟ้องมารดาท่านเรื่องแอบมองมังกรของเขามังกรที่ถูกรูดขึ้นรูดลงด้วย ลองคิดดูสิ มารดาเจ้าจะเป็นเช่นไร” ย่งฟางนึกถึงมังกรกำยำใหญ่ยาวในมือนั้นแล้วร้อนวุบวาบ แอบหน้าแดง หมิงป้ายจึงพูด “ถึงกับหน้าแดงเชียว ฮ่าๆ” ย่งฟางยิ่งมีใบหน้าที่แดงมากขึ้น หมิงจางจึงถาม “ไหนลองบอกข้าหน่อยสิ เมื่อเจ้าเห็นมังกรเขาแล้ว เจ้าทำสิ่งใดต่อจากนั้น” นางก้มหน้าหลบ “ข้า ข้า มิได้ทำสิ่งใด” “เจ้ามิได้มีอารมณ์ร้อนหรือ” “มี” “แล้วเจ้าไม่ขจัดมันให้หมดหรือ” “ขจัด? ข้าทำไม่เป็น” “นี่เจ้า อย่าบอกนะว่าทำไม่เป็น” “ข้าไม่รู้จักว่ามันคืออะไร” ทั้งสี่คนหัวร่อขึ้น หมิงป้ายถึงกับพูด “โถ เจ้านี่ไร้เดียงสานัก” กล่าวจบเขาก็กระซิบที่หูนาง เคราที่เพิ่งโกนออกไปมันแหลมทิ่ม ทำเอานางจักกะจี้และรู้สึกแปลกๆ “ข้าจะสอนให้” “อย่างไร” “อย่างนี้ไง” หมิงป้ายเอื้อมไปลูบที่ต้นขานาง เขาลูบแผ่วๆจ
มังกรที่บุรุษกำอยู่นั้นขยายใหญ่ ขณะที่บุรุษหลับตาพริ้ม เขาสาวมันขึ้นลง มังกรที่ขยายใหญ่ก็เผยให้เห็นศีรษะที่แดงก่ำ เขาสูดปาก โก่งเอว หน้าท้องเขาแบนราบและเต็มไปด้วยกล้ามมัดเล็กๆ มังกรนั้นก็ยาวใหญ่พ้นมือที่กำไว้ล้นเหลือ จนนางลอบมองมือตนเองที่อาจจะเล็กกว่ามังกรของเขาก็เป็นได้ เขาสาวๆ มังกรขึ้นลงอยู่นั้นพักหนึ่งก็ต้องหยุดลง เมื่อบุรุษนายหนึ่งเดินผิวปากส่งเสียงมา มันคือหมิงป้าย คุณชายใหญ่ของพวกมันนั่นเอง บุรุษคนนั้นรีบชำระกาย เลิกสนใจมังกรตัวเองและมันก็ค่อยๆ เล็กลง บุรุษชำระกายอย่างรวดเร็วและออกจากห้องนั้น ขณะที่คุณชายใหญ่ผิวกายมาถึงห้องชำระกาย “ใครอยู่” “ข้าผู้น้อย หลินอันขอรับนายท่าน” “อืม มิมีอันใด ข้าแค่เดินเล่นผ่านมา เจ้าชำระกายอยู่หรือ ตามสบายเถิด” “ผู้น้อยธุระเสร็จแล้วนายท่าน” กล่าวจบเขาก็เปิดประตูออกมาและคำนับนายน้อย ก่อนจะเร่งเดินรุดๆ จากไป นายน้อยของพวกมันเดินไปอีกทาง พวกมันหายไปแล้ว ย่งฟางถอนหายใจอย่างเสียดาย นางกลับไปที่เตียง นั่งลงแล้วหลับตานึกถึงมังกรนำมือชายผู้นั้น ท้องน้อยนางถึงกับร้อนวูบวาบ นางไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่
พี่เขยบอกให้นางแนบสะโพกลงกับเตียงแล้วเขาก็ออกแรงโยกต่อ พี่เขยเอ่ยปากพูดแต่คำว่ารัก รัก รัก ขณะที่บั้นท้ายก็ยังไม่หยุดสอย เขายกสะโพกตัวเองขึ้นสูง แล้วกระแทกลงอย่าป่าเถื่อนบ้าคลั่ง“ชอบไหม ชอบไหม”“ข้าชอบท่านพี่ แรงอีก แรงอีก อย่าหยุด ขอร้อง อย่าหยุด”นางถูกพี่เขยกระแทกใส่อีกนับไม่ถ้วน แล้วอึดใจต่อมานางก็ทนไม่ไหว นางตัวเกร็งกระตุกเฮือกๆๆ แรงมาก จากนั้นความสุขสุดยอดที่นางปรารถนามาแสนนานก็แล่นพล่านไปทั่วทั้งร่าง รู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ชั้นสูงสุดยิ่งกว่าครั้งไหนๆ และห้วงเวลาเดียวกันนี้พี่เขยก็ตัวกระตุกปล่อยน้ำพลังหยางอันร้อนผ่าวเข้ามาในตัวนางด้วยพร้อมกัน ในที่สุดนางก็เป็นของพี่เขยจริงๆ แล้ว นางร้องยินดีในใจพอเสร็จสมกันไป ทั้งสองคนก็นอนหอบกอดกันบนเตียง นางมีความสุขที่สุดโลก แต่ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกแย่ที่ตัวเองเพิ่งทำเรื่องเลวทรามแย่งแฟนของพี่สาวมา แล้วตอนนี้คงกลับตัวไม่ได้แล้วเพราะโดนเปิดบริสุทธิ์ไปแล้ว จินเหนียงเผลอร้องไห้ออกมาพี่เขยตกใจใหญ่ เขาถามว่าเกิดอะไรขึ้น นางบอกไปตรง ๆ ว่าเสียใจที่ทำเรื่องไม่ดีแย่งแฟนพี่สาว พี่เขยนิ่งไปพักหนึ่งแล้วก็กอดจินเหนียงแน่น นาทีนั้นเองที่พี่สาวเป
นางลองทำตามแบบมึนงง เพราะกำลังเสียว พอผ่านไปสักพักจินเหนียงก็เริ่มตัวเกร็งทนไม่ไหว พี่เขยเร่งมือเร็วจี๋จนนางตัวกระตุกเฮือก แต่ต้องยกมือขึ้นปิดปากเพราะกลัวเสียงครางหลุดออกไป แล้วนางก็นั่งหอบเพราะถึงสวรรค์คานิ้วของพี่เขยไปหนึ่งรอบพี่เขยบอกว่าให้ช่วยทำให้เขาบ้าง นางจึงช่วยรูดมือเร็วถี่กว่าเดิม พี่เขยมีสีหน้าพอใจ แต่น่าเสียดายที่ครู่เดียวพี่สาวก็ปักผ้าเสร็จเสียก่อน นางจึงต้องรีบถอนมือ รีบดึงชายกระโปรงตัวเองลง แต่พอหันไปมองพี่เขยก็ต้องใจหายวาบ เพราะดูแล้วไม่น่าจะจับมังกรยาวใหญ่กลับเข้าไปในกางเกงได้ เคราะห์ดีที่พี่เขยหัวไวรีบคว้าเอาหมอนมาวางทับปิดเอาไว้ได้ทัน พี่สาวที่เดินผ่านไปจึงไม่เห็นสิ่งผิดปกติ หลังจากวันนั้นทั้งสองก็พยายามหาโอกาสใกล้ชิดกันอยู่เสมอ แต่พี่สาวกลับยิ่งประกบพี่เขย เรียกว่าประกบติดแจ เหมือนราวกับเอะใจ แต่ยังจับคาหนังคาเขาไม่ได้ ทั้งสองจึงไม่มีโอกาสจริงจัง มีแค่โอกาสเล็กๆ น้อยๆ อย่างเวลาเดินสวนกันพี่เขยก็จะรวบนางไปกอดแล้วจูบปาก บางครั้งก็ตีก้น หรือขยำถันนางเล่น นางเองก็ทำทีเป็นเอียงอาย เก้อเขิน ปัดป้องไปบ้าง บางครั้งเมื่อแอบนึกถึงใต้ชายผ้าของพี่เขย หน้ามันก็แดงขึ้นมาเองจริ
พอพี่เขยอ้าปากงับตรงเม็ดบัว นางก็สะดุ้งแอ่นอกร้องครางออกมาดังมาก มันเสียวมากจริง ๆ เสียวยิ่งกว่าที่เคยคิดจินตนาการเอาไว้เป็นร้อยเท่าพี่เขยเองก็เหมือนจะถูกใจ เขาอ้าปากดูดดังจ๊วบ ๆ ไม่หยุดนางได้แต่แอ่นถันให้พี่เขยดูดด้วยความเสียว แถมพี่เขยยังใช้มือทั้งบีบทั้งขย้ำใส่แบบหนัก ๆ จนนางกระตุกแรง ๆ สูดปากร้องซี้ดเพราะเสียวเหมือนจะขาดใจตายเสียให้ได้แล้วพี่เขยก็ทรุดตัวลงนั่ง จับขานางข้างหนึ่งพาดบ่า แล้วจู่โจมหน้าปากถ้ำอย่างฉับพลัน“ไม่เอาพี่ มันสกปรก … อึ๊ยยยยยย … พี่ … ซี้ดดสสสสสสส … อูยยสสสส” จินเหนียงอ้าปากกว้าง แล้วหลับตา กัดริมฝีปากด้วยความเสียวพี่เขยทั้งดูด ทั้งเลียปุ่มหน้าปากถ้ำอยู่นานพอสมควร นางแอ่นเด้งเอวรับทุกการตวัดลิ้นของพี่เขย ก่อนที่เขาจะขยับตัวลุกขึ้น“หันหลังสิ เหนียงยี่” พี่เขยสั่งจินเหนียง ประโยคนี้ที่จินเหนียงอยากได้ยินจากปากของพี่เขยมานานแล้ว นางเคยฟังแต่พี่เขยสั่งพี่เซียงนางจึงรีบหันหลัง“ถ่างขาสิ น่าน โก่งสะโพกหน่อย ยกขึ้นด้วย อูว ของเจ้าโดดเด่นย้อยคล้อยมาทางด้านหลังมากเลยนี่ มันน่านัก!” พี่เขยพูดอย่างหื่นกระหายแล้วพี่เขยก็จับขาซ้ายของนางขึ้นไปพาดไว้บนบ่า นางส่งเสียงร
จินเหนียงยืนตัวเกร็งกลืนน้ำลายดังอึก พี่เขยเริ่มเบียดใส่นางหนักขึ้น ดุ้นมังกรแข็งๆ แนบเข้ามาในร่องก้นแล้วแอ่นเบียดซ้ำไปซ้ำมา นางรู้สึกได้เลยว่าของพี่เขยร้อนมากแล้วมันก็กำลังขยายตัวขึ้นทีละน้อย นางรู้สึกหวิวๆ เสียวจี๊ด ใจลุ้นระทึกอยากรู้ว่าถ้าโดนของพี่เขยใส่เข้ามาจะเป็นยังไง มันจะช่วยระบายอารมณ์ได้หรือเปล่าพี่เขยยืนแอ่นเบียดอย่างนั้นโดยไม่พูดสักคำ นางได้ยินแต่เสียงหอบหายใจของพี่เขย ตอนนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเสียงหอบของใครดังกว่า รู้แต่ว่านางเริ่มอยู่นิ่งไม่ได้ สะโพกเริ่มแอ่นเด้งเข้าหาดุ้นแข็งๆ ของพี่เขยแบบไม่ต้องบังคับ มันเป็นของมันเอง ส่วนพี่เขยก็เริ่มกระแทกใส่แรงขึ้นแรงขึ้นครู่ใหญ่จินเซียงพี่สาวก็เดินออกมาจากด้านใน พี่เขยที่กำลังแอ่นเบียดใส่ก้นจินเหนียงอย่างเมามันก็ส่งเสียงหงุดหงิดออกมาคำหนึ่งแล้วรีบถอยหนีออกไป นางต้องรีบใช้มือยันกับกำแพงไว้เพราะรู้สึกหมดแรงยืน สัมผัสร้อน ๆ แข็ง ๆ ที่มันแนบกับก้นเหมือนยังติดอยู่ไม่หายไปไหน ตอนนี้นางไม่กล้ามองหน้าพี่สาวเลยเพราะกลัวถูกจับได้ แต่ยังดีที่พี่สาวแค่เดินผ่านไปไม่ได้ทักอะไรพอพี่สาวเดินเข้ามา พี่เขยที่น่าจะมีอารมณ์เต็มที่ก็จูงมือพี่สาวเข้า
ยิ่งพี่เขยสาวขึ้นสาวลง หน้าตาเต็มไปด้วยอารมณ์ใคร่ อารมณ์ของนางก็ยิ่งปั่นป่วยจนต้องหนีบสองขาเข้าหากัน ภายในถ้ำของนางเปียกแฉะไปหมดแล้วยืนมองต่อมาอีกอึดใจ พี่เขยก็ส่งเสียงครางปล่อยพลังพลางใส่แพรพรรณของนางจนชุ่มฉ่ำ นางกลืนน้ำลายดังอึกรู้สึกเหมือนอยากลิ้มรสน้ำแห่งพลังหยางของพี่เขยแล้วจังหวะนั้นที่พี่เขยเพิ่งรูดมังกรเสร็จสม เขาหันมาเห็นนางเข้าก็สะดุ้งตัวโยน นางยืนมองพี่เขยตัวแข็งทื่อ สายตาเหมือนจะโดนสะกดที่ดุ้นมังกรอันเขื่อง สายตาไม่สามารถมองไปทางอื่นได้ พี่เขยขณะตกใจมือก็ยังกำมังกรที่แม้มันจะคายพิษแล้วแต่ก็ยังแข็งผงาดเต็มมือพี่เขยยืนอึ้งครู่หนึ่งก็รีบโยนชุดแพรพรรณของนางลงตะกร้าในห้อง แล้วใส่กางเกงเดินออกจากห้องเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้นนางสะดุ้งตื่นรีบหมุนตัวเดินออกไปด้านนอก นางกำลังกลัว นางไม่ได้กลัวพี่เขย แต่กลัวว่าตัวเองกำลังเกิดอารมณ์ถึงขีดสุด จะพาลสั่งให้ใจทำเรื่องไม่ดีงามหลังจากเลี่ยงหนีออกมาด้านนอกแล้ว จินเหนียงก็ยืนพิงผนังหอบหายใจถี่หนัก ยิ่งพยายามสะกดอารมณ์ตัวเองเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกร่างกายร้อนวุบวาบ มันร้อนวูบวาบหวิวๆ แปลกๆ หน้าอกก็แน่นๆ คัดๆ ส่วนตรงนั้น ตรงถ้ำยิ่งแล้วใหญ่ นางรู้