กล่าวจบมันดึงมือนางจับหน้าอกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นตึง มันจับมือนางลูบไล้ไปตามร่างกายตนเอง แล้วค่อยๆ ต่ำลงไปที่ตรงหว่างกลางขา นางรู้สึกตื่นเต้น เมื่อมือของนางนั้นลูบไล้อยู่นอกผ้า แม้สัมผัสนั้นจะไม่ถูกมังกรร้ายโดยตรง แต่นางกลับตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
นางลูบไล้อยู่บนผ้าสักครู่ มันจับมือนางสอดเข้าไปใต้ร่มผ้าแล้วกล่าวว่า “มังกรของข้าต้องการให้เจ้าได้เห็น”
เมื่อมังกรร้ายเผยร่างออก ลำตัวมันช่างใหญ่หนา เต็มไปด้วยเส้นปูดโปนรัดแน่น ราวกับเถาวัลย์ขึ้นหนาพันรอบมังกร
นางลูบไล้พลางคิดถึงฮุ้นกอ แต่ของบุรุษคนนี้แข็งราวกับไม้มากกว่าฮุ้นกอเสียอีก และเถาวัลย์กันเกี่ยวก็เกาะเกี่ยวไปทั่วลำตัวที่คล้ำและแข็งกว่าฮุ้นกอ
นางกำมันเต็มมือ แล้วรูดขึ้นลง จากช้าๆ ช้าๆ ค่อยๆ แรงขึ้นๆ
บุรุษแซ่ปึงแหงนหน้าสูดปาก หลับตาพริ้มอย่างเป็นสุข
นางกำมันแน่นขึ้น รูดขึ้นลงเร็วขึ้น มันยิ่งห่อปาก เม้มปาก กัดริมฝีปากสลับไปมา
“หยุดเถอะ เดี๋ยวมังกรข้าคงต้องพ่นพิษแน่ๆ”
นางหยุดแล้ววนนิ้วรอบศีรษะมังกร เค้นเอาพิษใสๆ ที่เยิ้มอยู่ทั่วศีรษะ นางก้มลงใช้ริมฝีปากเล็มน้ำนั้น
ทำเอาเขาถึงกับร้อง โอ้วๆ นางปล่อยศีรษะมังกรเข้าเต็มปากนางสองสามครั้ง
แล้วดูดเน้นๆ จนปากตอบ ก่อนจะกลืนลงคออีกรอบแล้วห่อปากรูดเข้ารูดออกด้วยปากของนางจนนับครั้งไม่ถ้วน
ก่อนจะหยุด นางพลันนึกได้ว่า ต้องให้เขาปล่อยพลังหยางในร่างนางเท่านั้น
ทว่าบุรุษกลับเข้าใจไปตรงข้าม เมื่อเห็นนางลุกลงจากโต๊ะ เปลี่ยนเป็นท่ายืน พลางกดศีรษะเขาลง บุรุษผู้ชำนาญย่อมเข้าใจว่าต้องทำตนเยี่ยงใด บุรุษคุกเข่าแล้วแหงนหน้าขึ้นมองพลางรีบกล่าว
“เม็ดมณีของนางน่าดอมดมนัก ข้าขอเถอะนะ”
กล่าวจบบุรุษแซ่ปึงไม่รอช้า ส่งลิ้นกวาดไล้ไปรอบๆ คูหาถ้ำ ตวัดปลายลิ้นขึ้นลง เล็มดูด ขบ เม้มเม็ดมณีอย่างช้าๆ นางผวาเฮือกครั้งแล้วครั้งเล่าที่เม็ดมณีของนางถูกลิ้นและริมฝีปากเขาขบดูด
บุรุษแซ่ปึงลุกขึ้นยืน พลันกล่าว “หันหลังให้ข้าสิ”
นางยินยอมทำตาม เขาก้มลงกวาดลิ้นไล้ไปรอบคูหาและรอบประตูหลัง วนสลับไปมาเช่นนี้
นางไม่เคยลิ้มรสชาตินี้มาก่อน ถึงกับแหงนหน้า มันรึงรัดเสียวซ่านแผ่กระจายไปทั่วเรือนร่าง นางถึงขีดสุดแล้ว “ข้าไม่ไหวแล้ว”
นางปล่อยหยาดเยิ้มแห่งความสุขออกมา
บุรุษแซ่ปึงมิรอช้ารีบลุกขึ้นดันมังกรร้ายพรวดเข้าไป น้ำตกที่เต็มภายในถ้ำทำให้มันส่งมังกรสู่สุดถ้ำได้โดยง่าย
“ลึกถึงใจไหม แม่นาง ข้าชอบถ้ำของเจ้ายิ่งนัก มันตุบๆ ตอดๆ ข้าดีแท้ โอ้ว”
“ข้าขอแรงๆ นะ แรงนะๆ ข้าชอบใจยิ่งนัก”
นางผลักมันออก ก่อนหันหน้ามาหามัน “ข้าชอบให้เจ้าถึงร่วมกันกับข้าทางด้านหน้า”
“มิอาจมีปัญหา” มันกล่าว
ก่อนมันจะดันมังกรเข้าถ้ำอีกครา แล้วกระแทกอย่างแรงไม่หยุด แล้วมันก็ดันมังกรเข้าครั้งสุดท้ายสุดแรงเกิด ร่างมันก็กระตุกเฮือกครั้งใหญ่ ก่อนจะปล่อยน้ำพลังหยางเข้าสู่ร่างกายนาง
นางกลับกอดร่างบุรุษแน่น ยกขาก่ายกอดรวบรัดสะโพกมันไว้เพื่อมิให้พลังหยางหลุดหาย มันกระตุกอีกสองสามครา ก่อนจะฟุบร่างลงซบอกนาง
เสียงลมหายใจมันขาดเป็นห้วงๆ มันล้มลงนอนข้างตัวนางบนพื้นห้อง นางรีดพลังมันจนหมดสิ้น
สำเร็จแล้ว อี้อึ้งคิดพลุกพล่านภายในใจอย่างมีความสุข
บุรุษเค้นคลึงปทุมถันนางไม่ยอมปล่อยมืออยู่นาน
หลังจากใช้เวลาตามหาบุรุษคนที่สอง กว่าสามสิบราตรี อี้อึ้งก็พบสมมาดปรารถนา
มันคือบุรุษรูปกายสูงใหญ่ ไว้เคราครึ้มทั่วใบหน้า นับว่าองอาจยิ่งนัก เนื่องเพราะมันคือขุนนางกินเงินหลวง นามว่า ลี้กุนจิบ ดำรงตำแหน่งนายอำเภอ แถมยังหล่อเหลา แม้อายุอานามจะล่วงเข้าสามสิิบปลายแล้วก็ตาม
ทว่าอาภัพ เมื่อฮูหยินของบุรุษแซ่ลี้ตกหลังม้า ท่อนล่างขยับไม่ได้ นางมิอาจทำหน้าที่ภรรยาได้เลย จึงอนุญาตให้ลี้กุนฮิบสมหวังในเพศรสตามใจชอบ
ในเวลานั้นถนนสายยาวของเมืองอันคึกคัก พลันมีบุรุษสวมเสื้อสีขาว ถุงเท้าขาว ใบหน้าซูบซีดราวกับเจ็บป่วย บุรุษนั้นเดินไล่มือจนกระทั่งถึงหน้าโรงเตี๊ยม พลางช้อนตามองแว้บหนึ่งในใจ ถอนใจยาวรำพึง
“อาชาประเสริฐ ประเสริฐจริงๆ เป็นของผู้ใดเล่า” บุรุษพลันถามเสี่ยวเอ้อที่เดินออกมาส่งแขก
“ท่านมิรู้จริงๆ หรือ ว่าเป็นของท่านนายอำเภอ โน่น ท่านมาแล้ว”
เสี่ยวเอ้อชี้ไปยังลี้กุนฮิบ
“ท่านนายอำเภอมักแวะมาพักผ่อนทุกเย็น เมื่อสักครู่ท่านออกไปชำระความชาวบ้านทะเลาะกัน ท่านกลับมากินดื่มที่ร้านของนายข้าทุกวัน”
บุรุษชุดขาวคล้ายนักศึกษารีบกุมมือคารวะท่านนายอำเภอ ที่บัดนี้เดินผ่านหน้า
เสี่ยวเอ้อรีบเข้าประจบ “ท่านนายอำเภอเชิญ” แล้วก้มตัว ผายมือ อี้อึ้งเห็นร่างสูงใหญ่แลมีอำนาจ บัดแรกนางพอใจในฐานะราษฎรที่มีนายอำเภอดูผึ่งผาย ราษฎรดูอุ่นใจ แต่ทว่าเมื่อเสี่ยวเอ้อกล่าวต่อ
“ท่านนายอำเภอเกิดฉลู เมื่อวานเพิ่งครบรอบวันคล้ายวันเกิดท่าน ท่านแจกจ่ายขนมทอดรูปวัวแก่ราษฎร ท่านมีน้ำใจประเสริฐเสียจริง”
อี้อึ้งมองตามท่านนายอำเภออย่างสนใจ ร่างกำยำสูงใหญ่ มีราศี พลันกระตุ้นอารมณ์บางอย่างแก่นาง อี้อึ้งคิดการหาวิธีเพื่อเข้าหาท่านนายอำเภอ จึงติดสินบนพนักงานผู้น้อยเพื่อทราบอุปนิสัย
“ท่านนายอำเภอชอบขี่ม้าทุกเย็น” พนักงานผู้น้อยกว่า “ท่านชมชอบสีเขียว”
นอกจากนี้ยังสืบทราบอีกว่า ท่านชมชอบดรุณีน้อย โดยเฉพาะดรุณีน้อยแสนร่าเริง และเขามักไปขี่ี่ม้าเที่ยวเล่นบริเวณหลังเขา ที่นายอำเภอปลูกกระท่อมน้อยไว้ผ่อนคลายหลังขี่ม้า ดรุณีน้อยอี้อึ้งจึงแต่งด้วยชุดเขียว สีที่เขาชื่นชอบเป็นพิเศษ
ยามนั้นอาทิตย์อัศดง อี้อึ้งทำทีขี่ม้าชมวิวิว ไปโดยรอบ แล้วบังเอิญหลุดเข้าไปในที่ๆ ของลี้กุนจิบ
เสียงลี้กุนจิบมาแต่ไกล “โกวเนี้ย เจ้ามาทำอะไรในสถานที่ของข้า”
“สถานที่ของท่านหรือ ข้าขอโทษ” พูดจบ นางเอียงอาย ก้มหน้าไร้เดียงสา
บุรุษแซ่ลี้เพิ่งเห็นใบหน้าและท่าทีของอี้อึ้งเต็มตาครานี้ เขารู้สึกชมชอบดรุณีชุดเดียวนางนี้เป็นพิเศษ จึงชวนนางขี่ม้าเที่ยวเล่น
บุรุษแซ่ลี้จึงโอบเอวนางแล้วตวัดด้วยกำลังแขนพานางนั่งบนหลังอาชาในบัดเดียว นางหันหน้าเข้าหาเขาอย่างเอียงอาย
“นายท่าน ท่านจะพาข้าควบอาชาจริงหรือ”
“ข้าจะควบเจ้าด้วย”
บุรุษแซ่ลี้เห็นอี้อึ้งก้มหน้างุด อมยิ้ม จึงได้ใจ ยื่นมือสัมผัสกับปทุมถันของนางผ่านๆ อย่างแผ่วเบา นางรู้สึกว่าบุรุษแซ่ลี้ตั้งใจ จึงทำทีเป็นเอียงอาย อาชายังคงควบไปข้างหน้า ช่วงแรกท่านนายอำเภอเพียงแต่ควบอาชาอย่างเพลิดเพลิน ขณะต่อมากลับล้วงมือไปภายใต้ชุดเขียวของนาง ปทุมถันของนางเหมาะมือเขามาก เขาลูบไล้ เค้นคลึง แล้วใช้ปลายนิ้วชี้เขี่ยยอดเม็ดบัว จนนางหลับตา ปล่อยให้เขาลูบไปมาไม่หยุดหย่อน อี้อึ้งซึ่งหันหน้าซบกับแผ่นอกของเขา นายอำเภอยิ่งได้ใจ เขาส่งเสียงพอใจ เมื่อเห็นนางเริ่มกระเส่าอีอึ้งเห็นบุรุษเป็นเช่นนี้จึงลอบยิ้มแล้วนางจึงค่อยๆ ลดมือลงกุมอาชายักษ์ของเขา เขารู้ดี จึงขยับขาออกห่างให้นางได้กุมเจ้าอาชายักษ์ได้เต็มมือ “ข้าชอบ” บุรษแซ่ลี้กล่าวพลางรวบนางขึ้นนั่งคร่อมบนตัวเขา แล้วกล่าว “เรามาควบม้ากันเถอะ” เขายกนางขึ้น ให้หันหน้าไปทางด้านหน้า แล้วจับอาชาให้ตรงกับปากถ้ำ ก่อนจะปล่อยตัวนางลง เป็นจังหวะที่ม้าขึ้นเขา อาชาประจำตัวของเขาจึงดันพรวดเข้าปากถ้ำจนสุด เขาและนางต่างร้องอย่างเปี่ยมสุข “ข้าเสียว โกวเนี้ยะ เจ้าชอบไหม”
วิกาลล่วงเข้าแล้ว บนฟ้าไร้เดือนไร้ดาว เมฆทึบ ลมแรง แต่ในลานตึกกลับมีโคมไฟ แม้ดวงไฟริบหรี่ บัดเดี๋ยวกระพริบบัดเดี๋ยววูบดับ มองราวกับมนต์ดำทำงาน ยังมีทหารนายหนึ่งกำลังเหยาะอาชาพ่วงพีสง่างาม อี้อึ้งเห็นแล้วนึกถึงท่านนายอำเภอเมื่อหลายราตรีที่ผ่านมา ทว่าทหารนายนี้พลันควบขี่เร็วขึ้น ดังเร่งรุดไปจากสถานที่นี้ ถูกต้องแล้ว นักเลงโจรรายหนึ่งปิดหน้าพรางกายเพิ่งออกจากอาคารหลังหนึ่ง เห็นชัดว่ามิใช่คนดี ทหารนายนั้นจึงเข้าจู่โจมจับกุมโจรได้เพียงไม่เกินสิบกระบวนท่า “นายท่านอ้วงเลาะ ขอได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย” โจรนายนั้นกล่าววาจาอย่างนบนอบ “เจ้ารู้นามข้าด้วย” นายทหารหนุ่มใหญ่กล่าวอย่างสงสัย “ข้ามิเพียงทราบชื่อท่าน ยังทราบว่าท่านคือนายทหารคนสนิทของท่านเจ้าเมือง ข้ายังทราบว่าท่านเกิดปีขาล เป็นบุตรของท่านเจ้าเมืองคนก่อน” “เจ้ารู้เรื่องข้ามากมาย ไฉยเลยจะทราบไปเพื่ออะไร” “ท่านเป็นผู้พิทักษ์ราษฎรผู้มีชื่อเสียง ไฉนเลยไม่ควรทราบชื่อท่าน” อี้อึ้งหลบกายอยู่มุมตึก ฟังแล้วหูผึ่ง “ถ้าเช
เขาพานางไปมุมอาวุธสามง่ามตั้งอยู่ “สามง่ามคือเช่นนี้”พูดจบบุรุษก้มลงห่อลิ้นและเกร็งไว้ ก่อนจะแทรกเข้าเนินสวาท นางถึงกับร้องอู้อี้ในลำคอ เขาผงกหัวเข้าออก จากช้าๆ กลายเป็นเร่งเร็วขึ้นสักพักบุรุษเพิ่มง่ามที่สองด้วยการใช้นิ้วกลางกดลงไปในถ้า เขาทั้งห่อลิ้นชักเข้าออกและนิ้วกลางที่ดึงเข้าออกพร้อมกันอี้อึ้งสะบัดศีรษะไปมาอย่างพึงพอใจ แล้วเขาก็เอื้อมซ้ายมากุมปทุมถันของนางแล้วบีบเบาๆ ก่อนจะเร่งแรงขึ้น“นี่ไง สามง่าม สามอย่างพร้อมๆ กัน”นางถูกเร่งเร้าเช่นนี้ จนกระทั่งนางเกร็งไปหมดทั้งตัวแล้วกระตุกร่าง ก่อนจะหมดลมราวหมดแรง“ไปที่อาวุธใดอีก”“ของ้าวกับกระบอง”“จัดไป”บุรุษพาอี้อึ้งไปที่ง้าว นางก้มลงมองว่าง้าวว่าจะคืออะไร“ข้าขอตรงนี้ก่อน” กล่าวจบ บุรุษจับมังกรร้ายของตนถูไปบริเวณปากถ้ำ เขาร้องออกมาเบาๆ “เสียว เสียวดี”ก่อนจะบอกต่อ “ต่อไป ง้าวล่ะนะ แม่นาง”บุรุษจัดการงอนิ้วกลางเป็นครึ่งวงกลมแล้วเขี่ยเม็ดมณีก่อนเบาๆ สี่ห้าครั้ง จากนั้นก็เกร็งนิ้วแล้วกดลงเข้าไปภายในถ้ำของนางนางสะดุ้งโหยง สูดปาก แอ่นกายรับ ท่อนล่างของนางกระเด้งขึ้นลงรับสู้กับนิ้วของเขา เขาเร่งแรงขึ้นๆ
รัตติกาลของเมืองหางโจวช่างเงียบเชียบ สุขสงบ อี้อึ้งมักใช้เวลาหลังเล็กเซี่ยวฮุ้นผู้เป็นสามีเข้าห้วงนิทรารมณ์แล้ว ลอบโคจรพลังลมปราณ พลังหยางที่นางสะสมมาสามนักษัตร ส่งผลให้นางรู้สึกถึงความกระปี้กระเปร่าและกำลังภายในที่เพิ่มพูนมากขึ้น นางสามารถยกของหนักได้คราวละมากๆ เดินเหินได้รวดเร็ว คล่องแคล่ว ได้ระยะทางที่ไกลและนานมากยิ่งขึ้น คืนนั้นอี้อึ้งโคจรพลังลมปราณเพื่อรักษาเล็กเซี่ยวฮุ้น ตัวบุรุษผู้เป็นสามีเองก็ค้นพบว่า พลังลมปราณนางกล้าแกร่งขึ้น นั่นทำให้ผู้เป็นสามี ขยับกายได้มากขึ้น เรี่ยวแรงที่หายไปพลันกลับมา ที่สำคัญ เขาพูดจาได้แล้ว “ขอบใจเจ้ามาก” บุรุษพลันกล่าว “ไฉน เจ้าถึงมีพลังลมปราณที่ดุดันและกล้าแข็งถึงเพียงนี้” เล็กเซี่ยวฮุ้นสงสัย“ข้าฝึกเดินลมปราณทุกคืน ก่อนพี่ท่านจะเข้านอน ข้าไม่เคยละเว้น” “มิน่าเล่า อย่างนี้นี่เอง ยังไง เจ้าอย่าหักโหม นัก พักผ่อนเยอะๆ นะ หากข้าหายดี ข้าจะดูแลเจ้าเอง” “ฮุ้นกออย่าได้กังวล ข้ามิได้ลำบากเลย” ช่วงเวลาดึกดื่นหลังสามีเข้านอนและนางโคจรพลังลมปราณเพื่อฝึกฝนเสร็จเรียบร้อย นางมักขบคิดหาบุรุษ
“ข้าน้อยเอง คุณชาย ข้านำอาหารว่างมาส่ง แต่เผลอหลุดมือทำตก”คุณชายเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะกล่าว “เจ้านี่ช่างซุ่มซ่ามเสียจริง เข้ามานี่! คุณชายบัณฑิตเสียงดังอี้อึ้งทำเป็นหวาดกลัว “ข้าน้อยผิดไปแล้ว จะทำงานชดใช้ค่าถ้วยชามและกาน้ำชาของท่าน อย่าลงโทษข้าน้อยเลย”“ข้ามีวิธีที่ดีกว่า” กล่าวจบคุณชายเดินมาหยุดต่อหนี้อึ้ง พลันเอื้อมไปลูบไล้ปลายผมนางด้วยฝ่ามือ แล้วไล้ลูบมาต่อที่ใบหน้า ริมฝีปากนางอี้อึ้งยืนนิ่ง ทำทีเป็นตัวสั่น มองเรือนร่างสูงโปร่ง ผิวขาว คิ้วคม ดวงตาเรียวใหญ่ นางนึกภายใต้ร่มผ้านั้น เขาจะบึกบึนแค่ไหน แต่ไม่หรอก บัณฑิตผู้คร่ำเคร่งกับตำราจะสักแค่ไหนเชียว“ไม่ต้องกลัว ข้าแค่ลงโทษเจ้าเล็กน้อย”“อย่าแรงนักนะท่าน”“เจ้าชอบอย่างไหน รุนแรงหรือค่อยเป็นค่อยไป”“ค่อยเป็นค่อยไป” นางตอบคุณชายหัวร่อ “เจ้าทราบหรือว่าข้าจะลงโทษเจ้าเช่นไร”“มิทราบ ข้าน้อยอ่อนต่อโลก ต้องให้คุณชายสั่งสอน”“มานี่ มาใกล้ๆ ข้า”แล้วคุณชายก็ให้นางนั่งบนเก้าอี้รับประทานของว่าง “หลับตาสิ”“ท่านจะลงโทษข้าอย่างไร”คุณชายเดินกลับไปที่โต๊ะลิ้นชักแล้วล้วงของบางอย่างออกมา อี้อึ้งรอคอยอย่างใจจดใจจ่อคุณชายเดินกระหยิ่มยิ้มย่อง แ
นางก้มลง เข้ารีบจ่อปาก แล้วนางก็งับเข้าไปจนสุด แล้วออกแรงดดู เขาถึงผงะ ร้อง“เสียว ดีมาก ปากเจ้าดีแท้ ไม่แพ้ในถ้ำเจ้าเลย”นางออกแร่งดูด มือก็กำรูดขึ้นรูดลง“เบา เบา ข้าจะพ่นเสียก่อน”เขาดึงนางขึ้น “ข้าอยากพ่นน้ำในกายเจ้า” ว่าแล้วก็บอกให้นางหงาย “ไปที่ขอบหน้าต่างสิ”นางทำตามอย่างว่าง่าย เขาจับนางอ้าขาออก แล้วมือขวาก็จับเนินสวาทของนางขยี้ ขยำ“โอ้ว มันได้อีกความรู้สึกเลย นายท่าน”“เดี๋ยวเจ้าจะดีกว่านี้”บุรุษวางขานางพาดบ่าทั้งสอง แล้วดันมังกรที่ฉ่ำเยิ้มพรวดเดียวเข้าไปมิดลำเขาออกแรงโยก ควง วนและกระแทก ปากเขาก็พร่ำแต่พูดว่า “ดีเหลือเกิน ของเจ้า สวรรค์ ข้าเสียวที่สุดในชีวิต โอ๊ย”นางจับคอเขาแน่น บัณฑิตจอหงวนอุ้มนางเข้าเอว แล้วยกนางขึ้น นางยกเอวขึ้นสูงแล้วปล่อยลงมากระแทกเข้าเต็มมังกร เขาถึงร้องพลางสูดปากบุรุษไม่ยอมแพ้ เมื่อนางยังคงโยกขึ้นโยกลง เขาเดินพานางไปที่ผนังห้อง แล้วปล่อยนางลง ยกขานางพาดแขนเขาเพียงข้างเดียว แล้วส่งมังกรเข้าภายในถ้ำอย่างต่อเนื่องมันไม่ยอมหยุด นางก็กระเด้งเอวสวนไม่ยอมหยุดเช่นกันบุรุษร้อง “ข้าขอปล่อยในกายเจ้านะ”แล้วเขาก็ออกแรงโหมเข้าใส่นาง มังกรเข้าออกจนถ้ำปลิ้นไปม
อี้อึ้งกลับบ้านในค่ำคืนนั้นอย่างอ่อนเพลีย บัณฑิตจัดหนักอย่างยิ่ง ราวกับอดอยากปากแห้งมาแต่ชาติปางก่อน อี้อึ้งถึงหมดแรงไปทำงานไม่ไหวในวันรุ่งขึ้น คุณชายคงไปขอร้องมารดาของตนให้มาตาม แต่อี้อึ้งกลับอ้างว่าป่วย ไม่สามารถทำงานได้ ขอลาหยุด ทว่าหลังจากหายป่วยอี้อึ้งโคจรพลังลมปราณ พลันพบว่าสะดวกรวดเร็วกว่าเดิม นางรู้ตัวว่าต้องเดินหน้าต่อไปแล้ว ต้องรีบสะสมพลังหยางจากบุรุษนักษัตรคนต่อไปทว่ารุ่งขึ้นและวันถัดๆ ไป คุณชายยังคงให้คนมาตามนางไปทำงานที่บ้าน มันนับเป็นการเซ้าซี้ไม่หยุดหย่อน จึงตัดสินใจย้ายบ้านหนีคุณชายในดึกดื่นคืนนั้นที่เชิงเขานอกเมือง คือสถานที่นางเลือก อี้อึ้งหอบเล็กเซี่ยวฮุ้นไปด้วยนางปลูกกระท่อมเอง ขุดบ่อน้ำเอง พลังหยางได้นำเชื้อไฟแห่งบุรุษมาเติมเต็มแก่นางทว่าเช้าวันหนึ่งเมื่อนางตื่นมากลับรู้สึกหนักที่เท้า มันยกขึ้นก็จริง แต่ขยับเขยื้อนไม่สะดวก ทว่ายังจำเป็นต้องไปหาไม้ฟืนมาสุมไฟประกอบอาหารขากลับนางถึงล้มลง ลุกไม่ขึ้น ยิ่งโคจรลมปราณกลับยิ่งขาหนัก เท้าหนัก ร่างกายหนักแน่น ลุกไปไม่ขึ้นเสียทั้งตัวหลังจากพักผ่อนใต้ร่มไม้ใหญ่ นางเริ่มมีแรงพอฮึดได้บ้าง อย่างไรเสียเมื่อเดินไป
ไม่หยุดปาก ซินแสกวาดลิ้นรอบเนินอีกรอบรอบแล้วรอบเล่าจนนางบิดตัวอย่างร้อนเร่า ซินแสสอดนิ้วกลางเข้าถ้ำ แล้วดึงเข้าดึงออก จากช้า เริ่มเร็วขึ้นและแรงขึ้น“ข้าอยากได้มังกรท่าน รีบเข้าเถอะ”นางดึงเขาให้ลุกยืน ซินแสยกขานางพาดกับกิ่งไม้กิ่งหนึ่งซึ่งยื่นออกมาบริเวณนั้น แล้วจับมังกรของตนออกมาจากร่มผ้ามันเป็นมังกรที่ยาวใหญ่ เต็มไปด้วยเถาวัลย์จนปูดโปน มันกำลังผงกศีรษะหงึกๆซินแสจับมังกรจ่อปากถ้า แล้วก้มดูดริมฝีปากนาง ย้ายไปขบติ่งหูนาง แล้วกัดต้นคอเบาๆ อี้อึ้งถึงกับบิดเอวอย่างเร่าร้อน นางจิกเกร็งแผ่นหลังซินแสจนเป็นรอยแดง ซินแสกล่าวอู้อี้ “โอ้ว ดี อู้ เสียว ข้าขออุ้มเจ้าหน่อยนะ”แล้วซินแสก็อุ้มนางเข้าเอว เขากระเด้งกระดอนตัวเองประหนึ่งกำลังกระแทกมังกรเข้าถ้ำ นางช่วยเขาด้วยการกอดเอวไว้แน่นและโยกตัวขึ้นลง มือก็จับคอรัดแน่นหนาไม่ยอมปล่อยสักพักเขาก็ปล่อยนางลงกับพื้นหญ้า ทว่าแข้งขายังรัดพันเอวนางไว้ ด้วยท่าทีเช่นนี้ราวกับงูพันร่าง แก่นกายของซินแสยังคงอยู่แน่นเต็มถ้ำ เขาขยับโยกทีหนึ่ง นางก็โยกหัวโยกคลอนเสียวซ่านทีหนึ่งท่ามกลางอากาศเย็นสบายของฤดูชิวเทียน ซินแสลุกขึ้นปลดเสื้อผ้าตนเองออก เขาถอดเสื้อนางเอ
“มากสิ”“ของข้าใหญ่ใช่ไหม ดูสิ หัวมันบานใหญ่ เจ้าคงต้องเจ็บมาก ข้าจะค่อยเอาเข้าช้าๆนะ”ว่าแล้วเขาก็ดันเข้าไปช้าๆ เมื่อได้ครึ่งตัวมังกรเขาก็ขยับทีหนึ่ง นางทำเป็นร้องว่าเสียว อย่าหยุด ดันเข้าไปอีก นางกล่าว เขาก็ทำตามทันใดนั้นประตูห้องก็เปิดออกบุรุษที่เข้ามาในห้องคือ บุรุษทั้งสองคนเมื่อวาน พร้อมกับอีกหกคนที่นางไม่รู้จัก เป็นบุรุษสาม สตรีสามนางมองอย่างแปลกใจ แต่การที่นางไม่ยอมลุกออกจากห้อง นี่สิแปลก บุรุษคนพี่เมื่อวานเข้ามาทักทายนางเหมือนไม่เห็นว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น “ท่านพี่ท่านนี้เกิดนักษัตรจอนะ ข้าตามมาให้ท่านได้พูดคุยด้วย ส่วนอีกท่านนั้น นักษัตรกุน อีกคนที่สมชุดเขียวนักษัตรระกาเช่นกัน ข้าเอ่ยเท่านี้ล่ะกัน เจ้าคงเข้าใจดี” กล่าวจบ เขาก็เดินไปรินน้ำชาให้สตรีอีกสามนาง ส่วนบุรุษคนน้องก็เดินเข้ามาคุยกับอี้อึ้งเหมือนทักทายกันราวกับไม่เห็นภาพก่อนหน้านี้ ทุกคนทำเหมือนไม่เห็นภาพก่อนหน้านี้หมด แต่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นและอะไรจะเกิดต่อไป นางยังงุนงงที่เขารู้ได้อย่างไรว่านางต้องการหาบุรุษนักษัตรและรู้ได้อย่างไรว่านางต้องการนักษัตรใด ที่สำคัญเขาร
เมื่อบุรุษคนน้องขยับกระแทกส่งมังกรของตนไม่ยุดยั้ง โอ้ว อ้า สุดยอด ของนางแน่นดีเหลือเกิน“อย่าหยุด ข้าจะถึงอีกแล้ว แรงๆ แรงๆ อ๊ากกกกกก”บุรุษคนน้องกระแทกเข้าไปสุดนางถึงกับถลึงตาโตเมื่อพบว่าสวรรค์มาอีกแล้วน้ำสวรรค์ของทั้งสามปะปนกันไหลนองออกจากถ้ำนาง นางหน้ามืดตามัว ไม่เคยเลยที่จะพบพานกับบุรุษทั้งสองพร้อมกันเช่นนี้มาก่อน มันช่างเป็นประสบการณ์ที่ดีเลิศเยี่ยมยอดมากมันดีเช่นนี้นี่เอง นางร้องในใจ พลังหยางพร้อมกันจากสองนักษัตร โอ้ว ข้า รู้สึกดีมากคิดแล้วนางรู้สึกอุ่นท้องน้อย พลังแห่งความเสียวซ่านแปลกประหลาดที่นางไม่เคยประสบมาก่อนมันพุ่งขึ้นมา นางรู้ตัวตัวว่านางกำลังจะ...นางลุกขึ้นจ่อถ้านางกับปากของเขา“เลีย เลียเม็ดมณี เลียสิ เลีย”บุรุษคนพี่รีบเลียดูดเม็ดมณี โดยไม่ถามไถ่ นางบดขยี้เม็ดมณีกับปากและลิ้นของเขาอย่างบ้าคลั่ง เขาเลียเสียงจ๊วบจ้าบ นางแทบบ้าคลั่ง ก่อนจะจับหัวของเขาขยำเส้นผม ดันปากของเขาจนกระแทกถ้ำของนาง จ่อแน่นชิดแล้วนางก็ถึงสวรรค์ติดๆ กันอีกครั้ง “มันช่างดีเลิศอะไรเช่นนี้”อี้อึ้งบดเบียดถ้ำของนางกับปากของเขาไม่หยุดหย่อน เช่นเดียวกับเขาที่ตามเลียถ้ำไม่หยุดเช่นกัน จนมังก
บุรุษวาดลิ้นเลียซอกคอ ไล่ไปตามคางจากด้านซ้ายย้ายมาทางขวา แล้วไล่ไต่ลงมาที่ถัน เขาปลดสายรัดเอวนางออก แล้วกุมถัน ก่อนจะขยำบีบเบาๆ แล้วคีบยอดถันนางด้วยนิ้วชี้กับนิ้วกลาง ก่อนแตะนิ้วเข้าหากันเบาๆเขาปล่อยที่คลึงออก ปากของบุรุษคนโตก้มลงมางับยอดถัน อมและดูดยอดถันเบาๆ เขาส่งลิ้นตวัดเลียเม็ดบัวที่อยู่ในปาก พลางขบกัดสลับกับดูด เขาละปาก พลางเอ่ย “ถันนางน่าดูดมาก จับของข้าสิ” เขาดึงมือนางให้มากุมมังกรของเขา นางไม่กุมเปล่า ยังขยับรูดขึ้นรูดลง เขาส่งเสียงอู้อี้ ซี๊ดซ้าดๆในเวลานั้นนางยังยืนอยู่ เขาละจากถันแล้วเลียไปรอบถัน ก่อนจะไต่ลงมาเรื่อย บุรุษวนลิ้นเลียสะดือนาง แล้วต่ำลงมาเนินหญ้าที่ปกคลุมราวแพรไหม “หอมนัก ข้าขอดมดอมหน่อยนะ” บุรุษคนโตส่งลิ้นเลียไปตามเนินถ้ำด้านนอก จมูกก็สูดดมอย่างแรง ส่งเสียงฟึดฟัด “หมอ หอมยิ่งนัก ข้างในจะหอมแค่ไหน ข้าขอลองหน่อย” แล้วเขาก็ส่งลิ้นตวัดที่เม็ดมณี พลางขบเบาๆ นางร้องซี๊ดออกมา แล้วกดหัวเขา บุรุษไม่รีบร้อนส่งลิ้นไปที่อื่น ยังคงเลียไปรอบปากถ้ำและสลับมาเม้มที่เม็ดมณี อี้อึ้งดันถอยมาน
อาทิตย์แดงฉานลอยค้างอยู่กลางเวหา แสดงว่าอากาศแจ่มใส ฟ้าสีฟ้ากระจ่างใส อี้อึ้งลดสายตาลงมองต้นหลิวภายในเคหะสถานซึ่งตนหยุดพักมาร่วมเดือนแล้ว นางเฝ้าปรนนิบัติฮุ้นกออันเป็นที่รัก แน่นอนนางย่อมไม่ลืมที่จะโคจรลมปราณอย่างสมดุล จนบัดนี้นางมีกำลังกล้าแข็งยิ่งนัก นางช่วยฮุ้นกอของนางโคจรพลังทุกค่ำคืน จนบัดนี้เขาเริ่มลุกขึ้นเดินเหินและก้าวย่างเป็นระยะทางสั้นๆ ได้แล้ว พูดจาลิ้นไม่คับปาก ยิ้มแย้มมีความสุขอยู่ตลอดแล้วก็ถึงวันที่อี้อึ้งต้องตามล่าพลังหยางจากบุรุษนักษัตรคนต่อไป ซึ่งก็คือ นักษัตรมะแมแล้ว ก่อนหน้านี้สองสามวันอี้อึ้งได้ข่าวว่าสำนักเจิ้งหมิง อันเป็นสำนักฝึกวรยุทธมีชื่อเสียงของมณฑล จัดประลองกำลังของคนในสำนักและเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้าชมการปะทะกำลังด้วย ผู้ชนะแต่ละอันดับจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นศิษย์เอกของสำนักไล่ตามกันมา อี้อึ้งหมายตาว่านางอาจจะได้พบปะกับบุรุษจำนวนมากและหนึ่งในนั้นน่าจะมีนักษัตรปีมะแมที่จะมอบพลังหยางให้นางได้ “คนเป็นร้อยเป็นพัน ต้องมีบ้างซี่” นางรำพึง อี้อึ้งแต่งกายให้รวบรัด สุภาพ ดูภายนอกคล้ายชายมากกว่าหญิง เพื่อป้องกันคำครหา นางเดินทา
นางหันหลังให้อยู่ รู้สึกวาบหวิวอยู่ในใจ บุรุษยกขานางแนบเข้าหากัน ขณะที่ตนเองจับท่อนขานางไว้แล้วโยกเอวขึ้น โยกเอวเข้าบุรุษมันยกนางขึ้นสูงแล้วหมุนตัวนางมาหาเขา ทั้งสองหันหน้าเข้าหากัน แล้วบุรุษก็ยกเท้าทั้งสองขึ้นจูบก่อนจะยกพาดบ่าขณะที่เอวก็โยกมังกรเข้าไป เอวไปทางซ้าย ย้ายมาทางขวา เปลี่ยนเป็นยกสะโพกหมุนควง แล้วหมุนควง ควง หมุน โยกเข้า โยกออกนางลุกขึ้นแล้วนอนโอบกอดเขา ขณะที่มังกรยังคาถ้ำอยู่ เขาจึงกดสะโพกดันมันเข้าไป จนสุด ครั้งแล้วครั้งเล่า นางหยัดลุกมาอยู่บนตัวเขา แล้วทีนี้ล่ะ นางต้องการพลังหยางจากเขาแล้วนางจัดการเร่งเร้า คลึง โยก ส่ายเอว ก่อนจะกระแทกขึ้นลงอย่างแรง อย่างแรงหนแล้ว หนเล่าช่างวาดร้อง โอย เด้งสวนนางไม่ยอมแพ้ เขายกเอวตัวเองจนลอยเด้งสวนกลับ นางกดมันลงแล้วกระแทกใส่เป็นการศึกที่ห้าวหาญจนเหงื่อโทรมกายด้วยกันทั้งคู่ แล้วนางก็ล้มลงกอดเขา โอวนางกระดกขึ้นกระดกลงใส่มังกรเขาอย่างรวดเร็วและถี่ยิบแล้วเขาก็ไม่สามารถเก็บกัดพลังหยางไว้ได้ต่อไป เขาปล่อยมันพุ่งเข้าใส่ตัวนางร่างเขากระตุก เกร็ง สีหน้าเหยเก แต่เต็มไปด้วยความสุขสมนางกอดเขาแน่น เก็บสะสมพลังหยาง เขาพูดกระซิบที่หูนาง “ข้าม
และอีกอึดใจบุรุษก็ซบลงกับบ่านาง เขาปล่อยพลังหยางอีกรอบ มันยังเยอะท้นล้นนองออกมาตามง่ามขา เขาถึงกับคราง กัดบ่านาง ดูดที่รอยกัด จนนางเสียวซี๊ดอีกรอบ“เข้าต่อเถอะ ข้ากำลังจะถึงอีก”บุรุษรีบดันมังกรเข้าไปอีก มันยังแข็งคาไม่ยอมเล็ก บุรุษกระแทกอีกเจ็ดแปดที นางก็ถึงสวรรค์อีกรอบ“สุดยอด อย่าเอาเปรียบข้า ข้ายังไม่ถึง” บุรุษกล่าวแล้วจับนางอุ้ม เขาเข้าเอว อุ้มนางเดินในท่าลิงอุ้มแตง เขากระแทกเข้าใส่ถ้ำนางขณะที่พานางเดินทั่วศาลหนแล้วหนเล่าครั้งแล้วครั้งเล่า“ข้าหายใจแทบไม่ออกแล้ว สุดยอด”“เหนื่อยหรือ”“ยังไหว”“ท่านแข็งจริงๆ มันยังคับแน่นไม่เลิก ”“ของเจ้าก็เด็ดสุด ข้า... ข้า ข้าจะถึงแล้ว”ข้า ข้า ข้า ข้า ข้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆโอ๊ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!บุรุษดึงมังกรจากถ้ำนาง กดศีรษะนางลง แล้วยัดมังกรเข้าปาก นางรีบอ้าอมไว้ แล้วดูดอย่างแรง น้ำแห่งรักพ่นออกมาเต็มปากนาง อี้อึ้งรับพลังหยางเต็มใบหน้า“ของข้าหอมไหม” บุรุษถาม“หอมที่สุดเลย”บุรุษชมชอบยิ่งนัก เขาดึงนางขึ้นจูบ กอด แล้วรัดนางเสียแน่น “ข้ารักเจ้า ไปอยู่กับข้านะ ข้าจะเลี้ยงดูเจ้าอย่างดี”อี้อึ้งยิ้ม ไม่กล่าวตอบ นางจูบไซร้ไปตามใบหน้าเขา บุรุษขยำปทุม
ทว่าอี้อึ้งสนใจกับกลิ่่นอื่นมากกว่า มันมาจากบุรุษขายน้ำผู้นี้แน่นอน อี้อึ้งคิด“ท่าน” อี้อึ้งถาม “ท่านขายอันใดอีก นอกจากน้ำเก๊กฮวย”“มิมี ข้าขายเพียงอย่างเดียวมาสี่ห้าปีแล้ว”“มิใช่แน่ ข้าได้กลิ่นหอมแปลกบางอย่าง”บุรุษผู้นั้นหัวร่อเบาๆ “อ๋อ”“ท่านร้องอ๋อ ด้วยเหตุอันใด”“มีมีอะไรหรอกท่าน มันเป็นกลิ่นจากกายข้านี่เอง ใครๆ ก็พูดเช่นนั้น”อี้อึ้งมีสีหน้าแปลกใจ“ข้าเดินเหงื่อท่วมทั้งวัน เทวดาท่านจึงให้ข้ามีกลิ่นกายที่หอมละมั้ง”“แปลก” นางเอ่ย “แทนที่จะเป็นหญิง”“ใช่แล้ว ซินแสท่านหนึ่งผูกดวงข้าตั้งแต่เด็ก บอกแก่มารดาข้าว่า ข้าเกิดปีมะเส็ง อายุ 21 ข้าเป็นงูที่มีหนี้ จะประสบความยากจนตั้งแต่เด็กจนถึงหนุ่ม วิธีแก้คือ ต้องขายน้ำ หรือเกี่ยวข้องกับสิ่งของที่เกี่ยวกับน้ำพลันที่อี้อึ้งได้ยิน นางถึงกับดีใจ สู้เดินตามหามานานร่วมเดือน จู่ๆ ก็พบกับคนปีมะเส็งและอายุไม่เกิน 22 เสียด้วยแบบคาดไม่ถึงนางคิดหาวิธีรวบรัดเพื่อจะได้พลังหยาง นางมองไปเห็นศาลเจ้าอยู่เบื้องหน้า จึงกล่าวชักชวน“ข้ากระหายน้ำ แต่ก็เมื่อยน่าดู ท่านช่วยตามข้าไปที่ศาลเจ้าข้างหน้าหน่อยได้ไหม ข้าจะได้ถือเป็นการพักเสียด้วยในตัว”“อ้อ ได้ แม่
ไม่หยุดปาก ซินแสกวาดลิ้นรอบเนินอีกรอบรอบแล้วรอบเล่าจนนางบิดตัวอย่างร้อนเร่า ซินแสสอดนิ้วกลางเข้าถ้ำ แล้วดึงเข้าดึงออก จากช้า เริ่มเร็วขึ้นและแรงขึ้น“ข้าอยากได้มังกรท่าน รีบเข้าเถอะ”นางดึงเขาให้ลุกยืน ซินแสยกขานางพาดกับกิ่งไม้กิ่งหนึ่งซึ่งยื่นออกมาบริเวณนั้น แล้วจับมังกรของตนออกมาจากร่มผ้ามันเป็นมังกรที่ยาวใหญ่ เต็มไปด้วยเถาวัลย์จนปูดโปน มันกำลังผงกศีรษะหงึกๆซินแสจับมังกรจ่อปากถ้า แล้วก้มดูดริมฝีปากนาง ย้ายไปขบติ่งหูนาง แล้วกัดต้นคอเบาๆ อี้อึ้งถึงกับบิดเอวอย่างเร่าร้อน นางจิกเกร็งแผ่นหลังซินแสจนเป็นรอยแดง ซินแสกล่าวอู้อี้ “โอ้ว ดี อู้ เสียว ข้าขออุ้มเจ้าหน่อยนะ”แล้วซินแสก็อุ้มนางเข้าเอว เขากระเด้งกระดอนตัวเองประหนึ่งกำลังกระแทกมังกรเข้าถ้ำ นางช่วยเขาด้วยการกอดเอวไว้แน่นและโยกตัวขึ้นลง มือก็จับคอรัดแน่นหนาไม่ยอมปล่อยสักพักเขาก็ปล่อยนางลงกับพื้นหญ้า ทว่าแข้งขายังรัดพันเอวนางไว้ ด้วยท่าทีเช่นนี้ราวกับงูพันร่าง แก่นกายของซินแสยังคงอยู่แน่นเต็มถ้ำ เขาขยับโยกทีหนึ่ง นางก็โยกหัวโยกคลอนเสียวซ่านทีหนึ่งท่ามกลางอากาศเย็นสบายของฤดูชิวเทียน ซินแสลุกขึ้นปลดเสื้อผ้าตนเองออก เขาถอดเสื้อนางเอ
อี้อึ้งกลับบ้านในค่ำคืนนั้นอย่างอ่อนเพลีย บัณฑิตจัดหนักอย่างยิ่ง ราวกับอดอยากปากแห้งมาแต่ชาติปางก่อน อี้อึ้งถึงหมดแรงไปทำงานไม่ไหวในวันรุ่งขึ้น คุณชายคงไปขอร้องมารดาของตนให้มาตาม แต่อี้อึ้งกลับอ้างว่าป่วย ไม่สามารถทำงานได้ ขอลาหยุด ทว่าหลังจากหายป่วยอี้อึ้งโคจรพลังลมปราณ พลันพบว่าสะดวกรวดเร็วกว่าเดิม นางรู้ตัวว่าต้องเดินหน้าต่อไปแล้ว ต้องรีบสะสมพลังหยางจากบุรุษนักษัตรคนต่อไปทว่ารุ่งขึ้นและวันถัดๆ ไป คุณชายยังคงให้คนมาตามนางไปทำงานที่บ้าน มันนับเป็นการเซ้าซี้ไม่หยุดหย่อน จึงตัดสินใจย้ายบ้านหนีคุณชายในดึกดื่นคืนนั้นที่เชิงเขานอกเมือง คือสถานที่นางเลือก อี้อึ้งหอบเล็กเซี่ยวฮุ้นไปด้วยนางปลูกกระท่อมเอง ขุดบ่อน้ำเอง พลังหยางได้นำเชื้อไฟแห่งบุรุษมาเติมเต็มแก่นางทว่าเช้าวันหนึ่งเมื่อนางตื่นมากลับรู้สึกหนักที่เท้า มันยกขึ้นก็จริง แต่ขยับเขยื้อนไม่สะดวก ทว่ายังจำเป็นต้องไปหาไม้ฟืนมาสุมไฟประกอบอาหารขากลับนางถึงล้มลง ลุกไม่ขึ้น ยิ่งโคจรลมปราณกลับยิ่งขาหนัก เท้าหนัก ร่างกายหนักแน่น ลุกไปไม่ขึ้นเสียทั้งตัวหลังจากพักผ่อนใต้ร่มไม้ใหญ่ นางเริ่มมีแรงพอฮึดได้บ้าง อย่างไรเสียเมื่อเดินไป