Home / รักโบราณ / ในห้วงฝันแห่งรักร้าย / ตอนที่1 คุณหนูสามแห่งจวนเสนาบดี

Share

ในห้วงฝันแห่งรักร้าย
ในห้วงฝันแห่งรักร้าย
Author: ฉู่เฉียว

ตอนที่1 คุณหนูสามแห่งจวนเสนาบดี

last update Last Updated: 2025-02-10 18:31:04

...วังหลวงแคว้นต้าถัง รัชศกหลู่อี้ที่แปด ฮ่องเต้เฉิงฮ่าวฉี...

ภายในวังหลวงอันหรูหรางามวิจิตร บ่งบอกถึงความมั่งคั่งร่ำรวยและความฟุ้งเฟ้อของราชวงศ์ผู้ปกครองแคว้น แปดปีที่ฮ่องเต้เฉิงฮ่าวฉี ยึด ครองบัลลังก์ วังหลวงแห่งนี้ก็ได้กลายเป็นสวรรค์บนดินที่มีอยู่จริง

แต่ทว่าภายหลังกำแพงหรูหราสูงตระหง่าน คล้ายดังเป็นเส้นแบ่งแยกดินแดนระหว่างชนชั้นวรรณะเอาไว้ได้อย่างชัดเจน เพราะมันช่างต่างกันราวขุมนรกกับสรวงสวรรค์ สภาพความเป็นอยู่ของราษฎรชนชั้นรากหญ้าด้านหลังกำแพงล้วนแร้นแค้น เรียกได้ว่าย่ำแย่จนน่าเวทนา ถูกกดขี่ข่มเหง เอารัดเอาเปรียบจากเหล่าขุนนางและชนชั้นสูง ขอทาน เหล่าคนพเนจร และเด็กกำพร้า คนเร่ร่อนเพิ่มมากขึ้นทุกปี

สำหรับประชาชนชาวต้าถัง แปดปีที่ผ่านมาคือการตกนรกที่ยาวนานอย่างแท้จริง

ภายนอกกำแพงเมืองหลวงในเวลานี้นั้นเงียบสงบ เหล่าชาวบ้านชาวเมืองต่างหลบลี้ซ่อนกายอยู่เพียงในเรือน เฝ้ามองหิมะที่โปรยปรายลงมาอย่างท้อแท้สิ้นหวัง หลายชีวิตกำลังจะอดตายและอีกหลายชีวิตก็กำลังจะหนาวตาย พวกเขาเหล่านั้นต่างก็ภาวนาให้ฤดูกาลที่แสนทรมานนี้พัดผ่านพ้นไปเสียที และภาวนาให้ชีวิตของพวกเขาหลุดพ้นจากการปกครองอันเลวร้ายของทรราชด้วยเช่นกัน

ในขณะที่ผู้คนต่างหลบซ่อนตัวจากอากาศที่หนาวเหน็บ ท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายลงมาบางเบากลับมีรถม้าคันหนึ่งแล่นมาจอดด้านหน้าเรือนที่ตั้งอยู่บนเนินเขา สตรีเรือนร่างงามระหงนางหนึ่งก้าวลงมายืนจ้องมองเรือนขนาดกลางที่รอบด้านนั้นโอบล้อมไปด้วยต้นไผ่ โดยมีสตรีอีกนางคอยถือร่มกระดาษยืนอยู่ไม่ห่างกาย

แม้จะสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นที่เสียดลึกเข้าไปถึงกระดูก แต่นางหาได้นำพาต่อความหนาวที่แสนทรมานนั้น

นางก็เป็นคนอีกผู้หนึ่งที่หวังให้ความเลวร้ายในชีวิตทั้งหมดผ่านพ้นไป พัดผ่านไปพร้อมกับฤดูเหมันต์ที่กำลังจะสิ้นสุดนี้

นัยน์ตาคู่งามจ้องมองภาพเบื้องหน้าอย่างเหม่อลอย ไม่สนต่อความหนาวที่โอบล้อมรอบกาย ส่วนลึกในดวงตาดำขลับไหวระริก

...คิดถึง...

คำคำนี้ผุดขึ้นมาภายในใจ เท้าเล็กในรองเท้าปักที่เริ่มเปียกชื้นจึงค่อยๆ ก้าวไปด้านหน้ามาหยุดยืนอยู่หลังบานประตูที่ขวางกั้นนางไว้

หลังจากบ่าวชายเข้ามาไขแม่กุญแจที่คล้องไว้ด้วยโซ่ตรวนเส้นใหญ่ออก บานประตูก็เปิดแง้มออกจากกันเล็กน้อย ฝ่ามือเล็กขาวผ่องจึงยกขึ้นผลักบานประตูสีคล้ำ สัมผัสเพียงเบาๆ ประตูบานใหญ่ก็เปิดออกกว้าง เสียงบานประตูเสียดสีฝืดเคืองบ่งบอกถึงอายุการใช้งานได้เป็นอย่างดี

ภาพเบื้องหน้าคือเรือนขนาดกลางที่ดูคุ้นตา และให้ความรู้สึกคุ้นเคย ภายในอกรู้สึกอุ่นวาบจนต้องเร่งสาวเท้าเดินเข้าไปด้านใน ก้าวเดินไปตามทางเดินทอดยาวที่จำได้ว่าเดิมนั้นปูด้วยกระเบื้องสีขาวแต่ตอนนี้กลับกลายเป็นสีน้ำตาลหม่น บางจุดมีร่องรอยด่างดวงดำคล้ำดูสกปรก จนมองไม่เห็นสีเดิม

สองข้างทางที่ในอดีตเต็มไปด้วยหมู่มวลดอกไม้งามนานาชนิดที่เจ้าของเรือนชื่นชอบ แข่งกันชูช่อส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วทั้งเรือน แต่ช่างน่าเสียดายเหลือเกิน บัดนี้มันกลายเป็นเพียงภาพความทรงจำ พื้นที่ที่เคยงดงามกลับรกครึ้มไปด้วยต้นหญ้าและเถาวัลย์ที่เกี่ยวพันกันจนหนาแน่น จนกลัวว่าจะมีสัตว์มีพิษอาศัยอยู่ ทุกสิ่งที่ปรากฏล้วนบ่งบอกว่าเรือนหลังนี้ ไร้การดูแลมาเนิ่นนาน

มันถูกปล่อยปละละเลยตั้งแต่ที่นายหญิงของจวนจากไป

หญิงสาวยังคงก้าวเดินไปข้างหน้า เข้าไปยังตัวเรือนที่พักอาศัย จุดหมายปลายทางคือห้องเล็กที่ตั้งอยู่สุดโถงทางเดิน

"บ่าวไปชงชาร้อนๆ มาให้นะเจ้าคะ"

เมื่อพาผู้เป็นนายเข้ามาถึงในเรือน บ่าวตัวน้อยที่ติดตามมาด้านหลังก็ขอปลีกตัวออกไปด้วยใบหน้าเป็นกังวล กลัวเหลือเกินว่าต้องลมหนาวเช่นนี้ผู้เป็นนายจะล้มป่วยลง

หญิงสาวทำเพียงพยักหน้าให้อีกฝ่ายก่อนจะก้าวเดินต่อไป แต่ยิ่งเดินเข้าไปใกล้มากเท่าไหร่จังหวะการก้าวเดินและความหนักอึ้งยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ระยะทางที่เพียงก้าวไม่กี่ก้าวก็ถึงจุดหมายกับคล้ายดังนานชั่วกัปชั่วกัลป์

แต่แล้วในที่สุดนางก็สามารถพาตัวเองมาหยุดยืนอยู่ด้านหน้าห้องห้องนั้น มือเรียวสั่นน้อยๆ เลื่อนประตูบานเล็กให้เปิดออกกว้าง ดวงตาคู่งามไหวระริกจ้องมองภาพวาดเก่าซีดบนฝาผนังที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าทันทีที่บานประตูเปิดออก

ภาพนั้นถึงแม้จะเก่าซีดจางลงตามกาลเวลาแต่ความงดงามของสตรีในรูปภาพยังคงไม่จางหาย ร่างบอบบางทรุดกายลง คุกเข่าตรงหน้าแผ่นป้ายวิญญาณที่จารึกชื่อของสตรีผู้อยู่ในความทรงจำ อยู่ในห้วงคำนึงความคิดถึง จารึกอยู่ในดวงใจของนางเสมอมา ริมฝีปากอวบอิ่มคลี่แย้มเป็นรอยยิ้มบางเบาเอื้อนเอ่ยราวกระซิบ

"ท่านแม่ ลูกมาเยี่ยมท่านเจ้าค่ะ ท่านคงจะเหงามากใช่หรือไม่"

ภาพร่างเล็กของเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบนั่งคุกเข่า แผ่นหลังเล็กยืดตรงอยู่ในชุดไว้ทุกข์สีขาว ซ้อนทับเข้ามาในความทรงจำ รอบกายของเด็กน้อยโอบล้อมไปด้วยความหม่นหมอง ร่างเล็กๆ นั้นดูบอบบางโดดเดี่ยวและอ้างว้าง ใบหน้าหวานละมุนจิ้มลิ้มส่อเค้าว่าในภายหน้าจะต้องเป็นสตรีที่งดงามล่มเมืองนั้นหม่นเศร้า ใบหน้าเล็กๆ ยังคงมีร่องรอยของคราบหยาดน้ำตาเปรอะเปื้อนอยู่เต็มสองข้างแก้ม นัยน์ตาคู่งามที่มักจะเปล่งประกายเจิดจ้ากระจ่างใส เจิดจรัสเสียยิ่งกว่าดวงดาราบนท้องฟ้า บัดนี้แดงก่ำ รอบดวงตาบวมช้ำ บ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวนั้นผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก

เด็กหญิงตัวน้อยนางกำลังนั่งจ้องมองป้ายวิญญาณของมารดาผู้ล่วงลับที่ร่างพึ่งจะถูกฝังกลบลงผืนดินด้วยความโศกเศร้าอาดูร ภาพนั้นสร้างความเวทนาสงสารต่อบ่าวไพร่ภายในเรือน จนต้องหลั่งน้ำตาตามเจ้านายตัวน้อยอย่างไม่อาจที่จะอดกลั้น

เด็กหญิงผู้นี้มีนามว่า จ้าวหลี่เชี่ยน ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นคุณหนูสูงศักดิ์ของจวนตระกูลจ้าว คุณหนูสามบุตรีของขุนนางผู้ที่กำลังเรืองอำนาจ ท่านเสนาบดีคนใหม่แห่งแคว้นต้าถัง จ้าวจ่งชิว

หลังจากกราบไหว้ป้ายวิญญาณของผู้เป็นมารดา ร่างบอบบางของสาวน้อยในวัยแรกแย้มก็เดินทอดน่องไปตามโถงทางเดินของเรือนที่นางเคยใช้ชีวิตในวัยเด็ก สายลมหนาวในเหมันต์ฤดูพัดลอดผ่านเข้ามาปะทะใบหน้างามระลอกแล้วระลอกเล่า หอบเอาความทรงจำในอดีตให้หวนกลับมาอีกครั้ง

นางผู้ได้ชื่อว่าเป็นทายาทคนหนึ่งของนายท่านตระกูลจ้าว จ้าวจ่งชิว รองเสนาบดีหนุ่มอนาคตไกลแห่งแคว้นต้าถังในขณะนั้น แต่กลับเติบโตอยู่เรือนนอกเมืองตั้งแต่เล็ก ไร้ซึ่งการเหลียวแลจากผู้เป็นบิดา

นางผู้เป็นบุตรแทบจะนับครั้งได้กับการได้เจอหน้ากันกับบิดา และทุกครั้งที่พบเจอกันนั้น มันช่างดูห่างเหินเย็นชาราวกับคนแปลกหน้า ไร้ซึ่งความเมตตาเอ็นดูในดวงตาของชายผู้ให้กำเนิด มีเพียงความเกลียดชังที่นางสัมผัสได้

ความเกลียดชังที่นางเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นจากสาเหตุใด

ตั้งแต่จำความได้ข้างกายของนางมีเพียงมารดาที่มีตำแหน่งเป็นภรรยารองของบิดา นางรับรู้เพียงเท่านั้น ถึงแม้จะเคยถามมารดาว่าเหตุใดมารดาจึงต้องอยู่ที่นี่ เหตุใดพวกนางถึงไม่อยู่ร่วมกันกับบิดาที่จวนตระกูลจ้าว แต่นางก็ไม่เคยได้รับคำตอบ มีเพียงนัยน์ตาโศกเศร้าของมารดาเท่านั้นที่ตอบกลับมา นั่นจึงทำให้นางไม่อยากที่จะทราบถึงสาเหตุอีก

นางและมารดาอาศัยอยู่ในเรือนนอกเมืองแห่งนี้โดยมีกฎข้อห้ามสารพัด ซึ่งนางเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงได้เป็นเช่นนั้น นางคิดว่ามันคล้ายดังกรงขังเสียมากกว่า เรือนหลังนี้ตั้งอยู่ห่างไกลจากบ้านเรือนของผู้อื่น ห้อมล้อมไปด้วยป่าไผ่และถูกขวางกั้นไว้ด้วยกำแพงอิฐสูงอีกชั้นหนึ่ง อีกทั้งยังมีคนของบิดาคอยเฝ้าอย่างแน่นหนา คนในเรือนไม่สามารถออกไปนอกอาณาเขตโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งผู้ที่จะอนุญาตให้ก้าวเท้าออกจากเรือนได้มีเพียงผู้เดียวคือผู้เป็นบิดาเท่านั้น

ซึ่งนางและมารดาไม่เคยได้รับอนุญาตให้ย่างเท้าออกจากเรือน หากจะกล่าวให้ถูกต้องคงเป็นมารดาของนางเสียมากกว่าที่ไม่เคยที่จะย่างเท้าออกจากเรือน ส่วนตัวของนางนั้นมักจะลอบหนีออกไปเที่ยวเล่นนอกเรือนอยู่เสมอ

แต่เรือนแห่งนี้กลับเป็นที่เดียวที่นางเรียกมันว่า บ้าน สถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำมากมายเกี่ยวกับมารดาผู้เป็นที่รัก เรือนที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

นางเมื่อครั้งยังเป็นเพียงแค่เด็กหญิงตัวน้อยวิ่งเล่นไปรอบๆ เรือนอย่างสนุกสนาน แต่แล้ววันหนึ่งความหดหู่โศกเศร้าก็ได้ปกคลุมไปทั่วเรือน เมื่อนายหญิงของเรือนจากไปไม่มีวันกลับ นายหญิง ว่านจื่อ จากไปแล้ว ทิ้งบุตรสาวตัวน้อยให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ต้องเผชิญกับชะตากรรมเพียงลำพัง เด็กหญิงที่เคยสดใสร่าเริง เฉลียวฉลาด ช่างพูดช่างเจรจา เป็นที่รักของทุกคนในเรือน กลับกลายเป็นเด็กที่เงียบขรึมเก็บเนื้อเก็บตัว

นางยังจำได้ดีไม่มีวันลืม ในปีที่นางอายุครบเจ็ดขวบ ภายในเรือนวันนั้นร้อนระอุไปด้วยไฟแห่งอารมณ์ บิดามารดาของนางมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง นางได้ยินเพียงเสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของมารดาแต่กลับไม่อาจเข้าไปช่วยเหลือมารดาได้ ในวันนั้นมีคนของบิดาเต็มไปหมด

นางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมารดา หลังจากบิดากลับไปนางรีบเข้าไปหามารดา กอดกายสั่นเทาของท่านเอาไว้แน่น นางไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายบนร่างกายของมารดา แต่ท่านกลับร้องไห้ออกมาราวกับเจ็บปวด

ในดวงตาคู่ที่เหมือนกันกับนางราวกับถอดแบบออกมาปรากฏร่องรอยของความเจ็บช้ำ มันเต็มไปด้วยความสะเทือนใจ เสียใจ โหยหา และคิดถึง มันปะปนกันจนนางรู้สึกสับสน แต่สิ่งที่นางมั่นใจว่าตนนั้นมองไม่ผิด คือความรู้สึกเหล่านั้นไม่ใช่ความรู้สึกที่มารดามีให้ผู้เป็นบิดาอย่างแน่นอน

แล้วมารดาก็ล้มป่วยลงตั้งแต่บัดนั้น ท่านกลายเป็นคนซึมเศร้า มักจะร้องไห้ไม่ยอมพูดจาและเหม่อลอยอยู่เสมอ ผ่านไปไม่ถึงครึ่งปีมารดาก็จากไป

เมื่อสิ้นมารดาภายในเรือนราวกับมีเมฆดำเข้ามาปกคลุม และนางก็ได้รู้ว่าความสูญเสียครั้งใหญ่นั้นมันหาใช่จุดสิ้นสุดของความทุกข์ทรมานของนาง แต่มันเป็นแค่เพียงการเริ่มต้น

หลังจากมารดาจากไปบิดาก็รับนางกลับเข้าสู่จวนตระกูลจ้าว กลายเป็นคุณหนูสามจ้าวหลี่เชี่ยนผู้น่าสงสารที่อาภัพต้องกำพร้ามารดา

เรือนแห่งนี้ถูกปิดตาย ป้ายวิญญาณของมารดาถูกทิ้งเอาไว้ให้โดดเดี่ยว ข้ารับใช้เก่าแก่ผู้ซื่อสัตย์ต้องไปเป็นบ่าวใช้แรงงานในจวนตระกูลจ้าว

นางจะโดดเดี่ยว จะลำบากได้เช่นไร แม้สิ้นมารดาแต่บิดาคือผู้ที่มากด้วยอำนาจและทรัพย์สินเงินทอง ชีวิตนางมันต้องน่าอิจฉาเสียมากกว่าน่าสงสาร ใครหลายคนอาจจะคิดเช่นนั้น

แต่ไหนเลยใครจะรู้ ว่าตำแหน่งคุณหนูสูงศักดิ์ที่ผู้คนอิจฉานั้น แท้จริงแล้วมันเป็นแค่เพียงเปลือกนอก เป็นหน้ากากที่ต้องสวมเท่านั้น ความสุขในฐานะคุณหนูสามของจวนมันไม่มีอยู่จริง

เด็กหญิงที่ผู้คนต่างอิจฉาริษยาในวาสนา เพราะได้กลายมาเป็นบุตรสาวของขุนนางมากอำนาจ ท่านเสนาบดีคนใหม่ของแคว้นต้าถัง

นางไม่รู้ว่าภายนอกนั้นเกิดอะไรขึ้น รู้เพียงว่าแคว้นต้าถังถูกปกครองด้วยฮ่องเต้พระองค์ใหม่ และบิดาของนางได้เลื่อนตำแหน่งเป็นถึงเสนาบดีแห่งแคว้น

ภายในจวนอันใหญ่โตโอ่อ่า จ้าวหลี่เชี่ยนกลับเป็นเพียงตัวกาลกิณีของตระกูล ถูกคนในจวนตั้งแง่รังเกียจ บิดาเกลียดชังและกราดเกรี้ยวทุกครั้งยามเห็นหน้านาง นางต้องใช้ชีวิตอยู่โดยไม่มีปากเสียง แม้กระทั่งบ่าวไพร่ในจวนก็ไร้ซึ่งความเคารพยำเกรง กลายเป็นที่รองรับอารมณ์รองมือรองเท้าให้บรรดาเหล่าพี่สาวน้องสาวต่างมารดาบุตรของฮูหยินเอกและอนุของบิดา นางมักจะถูกกลั่นแกล้งจากคนเหล่านั้นอยู่เสมอ ชีวิตของนางต้องอยู่บนความหวาดผวาและหวาดกลัว

แล้วเด็กหญิงผู้น่าอิจฉาผู้นั้นก็ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา

นางใช้ชีวิตอยู่ในจวนตระกูลจ้าวตั้งแต่อายุย่างเข้าแปดขวบ ได้รับการเลี้ยงดูโดย แม่นมผิง บ่าวคนสนิทของมารดาผู้ที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อนาง ใช้ชีวิตตามแบบแผนที่ผู้เป็นบิดาขีดเอาไว้ วันเวลาล่วงเลยจนกระทั่งนางจะมีอายุครบสิบห้าปีเต็มในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นางจึงใช้โอกาสนี้ร้องขอต่อฮูหยินเฒ่าผู้มีศักดิ์เป็นท่านย่าของนางที่พอจะมีเมตตาต่อนางอยู่บ้าง กลับมาเคารพป้ายวิญญาณของมารดาก่อนที่จะปักปิ่น

เวลาเจ็ดแปดปีในตระกูลจ้าวสอนให้นางกลายเป็นสตรีที่เข้มแข็งและรู้จักอดทน เปลี่ยนเด็กหญิงไร้เดียงสาให้เรียนรู้ชีวิตมากขึ้น

จ้าวหลี่เชี่ยนหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า มือเรียวกระชับเสื้อคลุมตัวหนาที่ห่อหุ้มกายบางแน่นขึ้น เมื่ออากาศหนาวเย็นจากข้างนอกพัดโชยผ่านเข้ามากระทบกาย อยากซึมซับช่วงเวลาสงบสุขที่ตลอดแปดปีในตระกูลจ้าวไม่เคยได้พานพบให้นานขึ้น

เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็ทำได้เพียงมองไปรอบๆ เรือนแห่งนี้ที่ดูเก่าทรุดโทรมลงไปมากเลยทีเดียว ดวงตากลมโตหวานซึ้งทอดมองออกไปนอกหน้าต่างที่กำลังมีหิมะโปรยปรายบางเบา อีกไม่นานก็จะสิ้นสุดฤดูหนาวที่แสนจะทรมานนี้ ฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตใหม่กำลังจะมาเยือน อีกไม่กี่วันจะถึงวันปักปิ่นของนาง นางหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผ่านพ้นวันปักปิ่นนี้ไป ชีวิตของนางจะได้เริ่มต้นใหม่ เช่นดังต้นไม้ที่ทิ้งใบเสมือนตายไปแล้ว แต่เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิก็ผลิใบใหม่และลำต้นได้ฟื้นขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

เมื่อผ่านพ้นการปักปิ่น ชีวิตหลังจากนั้นย่อมหมายถึงการแต่งงานออกเรือน นางวางแผนจะใช้เรื่องนี้พาตัวเองออกจากสถานที่อันเหน็บหนาวเช่นจวนตระกูลจ้าว หากไร้วาสนาไม่พบเจอบุรุษที่พึงใจก็เพียงหาบุรุษธรรมดาสักคนหนึ่งมาแต่งด้วยแล้วหย่าขาดภายหลัง ย่อมไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนาง ซึ่งแน่นอนว่าบิดาย่อมไม่ยินยอมให้นางแต่งให้บุรุษที่ไร้ประโยชน์สำหรับเขา หมากที่เขาอุตส่าห์ทนชุบเลี้ยงมาจะปล่อยไปโดยง่ายโดยไม่ได้รับผลประโยชน์กลับคืนมาได้อย่างไรกัน เขาย่อมที่จะให้นางตบแต่งกับผู้ที่เขาเลือกและนางยังต้องเป็นเบี้ยให้เขา แต่หากนางสร้างเรื่องที่ทำให้ผู้เป็นบิดาไม่อาจที่จะปฏิเสธเล่า คนผู้นั้นที่เกลียดชังนางเป็นทุนเดิมคงรีบขับไล่นางออกจากตระกูลของเขาแทบไม่ทันเป็นแน่

Related chapters

  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่2 วีรบุรุษช่วยเหลือสาวงาม

    "คุณหนู คุณหนูเจ้าคะ"เสียงอันคุ้นเคยของบ่าวคนสนิทดังขึ้น ทำให้ผู้ที่กำลังวาดฝันถึงอนาคตละสายตาจากภาพเบื้องหน้า หันกลับมามองบ่าวคนสนิทผู้ที่คอยอยู่เคียงข้างนางมาตลอดตั้งแต่วัยเยาว์ถิงถิง เด็กสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับนาง อดีตเด็กหญิงกำพร้าตัวผอมบาง ใบหน้าซูบตอบสกปรกมอมแมม เด็กหญิงที่มารดารับเข้าเรือนมาเพราะความเวทนาสงสารจ้าวหลี่เชี่ยนรู้สึกถูกชะตากับถิงถิงตั้งแต่แรกเห็น หลังจากนั้นอีกฝ่ายจึงกลายมาเป็นเพื่อนเล่นและบ่าวข้างห้องให้กับนาง ต่อมาก็กลายเป็นผู้พิทักษ์ เป็นผู้ที่คอยปกป้องนางมาตลอดตั้งแต่มารดาได้จากไป และเพราะปกป้องนางจึงทำให้อีกฝ่ายใช้ชีวิตในจวนอย่างยากลำบากตลอดมาทว่าตอนนี้ถิงถิงตัวน้อยได้กลายเป็นสตรีที่มีใบหน้างดงามมากเลยทีเดียว สำหรับนาง ถิงถิงไม่ใช่เพียงแค่บ่าวรับใช้ แต่อีกฝ่ายเป็นดั่งสหายสนิท เป็นดั่งพี่น้อง เป็นคนที่นางรักและไว้ใจมากที่สุดเทียบเท่ากับแม่นมผิง"มีอันใดหรือถิงถิง"จ้าวหลี่เชี่ยนเอ่ยถามเด็กสาวที่เติบโตมาพร้อมกับนางด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีท่าทางอึดอัดคับข้องใจ"ก็เจ้าบ่าวหน้าเหม็นผู้นั้นน่ะสิเจ้าคะ ทั้งๆ ที่เราพึ่งจะมาถึงกันได้ไม่นานแท้ๆ แต่กลั

    Last Updated : 2025-02-10
  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่3 ของขวัญวันปักปิ่น

    ในเช้าวันที่อากาศเริ่มจะสดใส หิมะที่โปรยปรายมาอย่างยาวนานหยุดตกไปได้หลายวันแล้ว ลำแสงแรกแห่งการผลัดเปลี่ยนฤดูสาดส่องลงมากระทบยอดหญ้าที่แตกยอดใหม่ดูงดงามจับตาและในเช้าวันนี้ก็มีเรื่องที่ทำให้จ้าวหลี่เชี่ยนต้องแปลกใจ เมื่อมีคำสั่งจากบิดาให้นางย้ายออกจากเรือนร้างท้ายจวนแห่งนี้ไปยังเรือนเหลียนฮวาที่กว้างขวางและงดงาม อีกทั้งยังมอบอาภรณ์และเครื่องประดับล้ำค่ามาให้นางมากมาย ให้อิสระในการออกนอกจวนกับนาง บ่าวรับใช้ของมารดาถูกส่งกลับมาให้รับใช้นาง รวมถึงส่งบ่าวรับใช้อีกหลายคนมาคอยปรนนิบัติรับใช้นางเทียบเท่ากับบุตรคนอื่นๆ แต่นางคิดว่าส่งมาเพื่อจับตาและควบคุมนางต่างหาก"เกิดอะไรขึ้น"เสียงหวานเอ่ยขึ้นแผ่วเบาคล้ายดังจะถามตัวเองเสียมากกว่าถิงถิงสบสายตากับผู้เป็นนายแล้วส่ายหน้าน้อยๆ อย่างจนปัญญา คาดเดาไม่ถูกถึงการกระทำทั้งหมดของท่านเสนาบดีผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดาของผู้เป็นนาย นางที่เติบโตมาพร้อมกับคุณหนู อยู่ข้างกายคุณหนูตลอดเวลาย่อมรับรู้สิ่งที่ผู้เป็นนายต้องเผชิญ รับรู้ได้ว่ามันมีบางอย่างไม่ถูกต้อง มันผิดปกติและไม่ชอบมาพากลอย่างรุนแรงแต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนางก็พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างคุณหนู ปกป

    Last Updated : 2025-02-11
  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่4 เจ้าของปิ่นปักผม

    หลังจากพิธีปักปิ่น ชีวิตของจ้าวหลี่เชี่ยนในจวนตระกูลจ้าวก็ดูเหมือนจะดีขึ้นมาก ชีวิตความเป็นอยู่ล้วนสุขสบาย นางได้รับการดูแลเอาใจใส่ที่ดีเช่นดังคุณหนูตระกูลใหญ่ผู้หนึ่งแต่สิ่งที่ทำให้นางไร้ความสุข คือบรรดาแม่สื่อที่ถูกส่งมายังจวนตระกูลจ้าว นางหวั่นเกรงทุกครั้งที่มีผู้มาทาบทามสู่ขอ แต่ก็นับว่าสวรรค์ยังมีเมตตาต่อนางที่คุณหนูใหญ่ของจวนยังไม่ได้ออกเรือน นั่นจึงเป็นข้ออ้างที่บิดาของนางใช้ตอบกลับไป ทั้งที่ความจริงแล้วยังไม่มีผู้ใดที่เข้าตาและมีผลประโยชน์ตรงตามที่เขาต้องการต่างหากวันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนให้สตรีที่ไร้ตัวตนในจวนตระกูลจ้าว สตรีผู้ที่ถูกผู้คนลืมเลือน บัดนี้นางได้กลายเป็นยอดพธูของเมืองหลวง เป็นสตรีที่ถูกขนานนามว่างดงามเป็นหนึ่ง ความงามลือเลื่องจนเป็นที่กล่าวขาน มีบุรุษมากมายที่หมายปองนาง รวมถึงบุรุษที่นางคิดเสมอว่าเขาอยู่ไกลเกินเอื้อมสำหรับนาง บุรุษที่สายตาของนางมักจะมองดูเขาเสมอยามอีกฝ่ายมาเยือนจวนตระกูลจ้าว"ข้าคิดไม่ผิดจริงๆ ว่ามันเหมาะสมกับเจ้า เจ้า งดงามมาก"เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยดังขึ้นด้านหลังทำให้โฉมงามที่กำลังชื่นชมความงดงามของหมู่มวลบุปผาต้องหันกลับไปมองบุรุษผู้มีรูปร่างหน้

    Last Updated : 2025-02-11
  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่5 ทุกอย่างคือการหลอกลวง

    "คุณหนูเจ้าคะ"เสียงเรียกของบ่าวคนสนิทที่ดังขึ้น ทำให้ผู้ที่จมอยู่กับความฝันเมื่อคืนนี้ถึงกับสะดุ้ง ใบหน้างามนั้นไม่ใคร่จะสดใสนัก เมื่อคืนนางฝันร้าย ในฝันนั้นรอบกายของนางปกคลุมไปด้วยม่านหมอกหนาจนมองไม่เห็นสิ่งใด มองเห็นเพียงเงาร่างสูงใหญ่ของคนผู้หนึ่ง เขาเดินเข้ามาหานางอย่างคุกคาม แต่นางกลับไม่อาจที่จะหลีกหนีได้ ราวกับทั้งร่างของนางถูกพันธนาการเอาไว้ นางถูกคนผู้นั้นใช้มีดอันคมกริบกรีดลงมาบนหัวใจ โลหิตสีแดงพุ่งทะลักออกมาอย่างน่ากลัว ในฝันนั้นนางทั้งเจ็บปวดและรู้สึกหวาดกลัว หัวใจของนางบีบรัดจนแทบจะหายใจไม่ออก นั่นจึงทำให้เช้าวันนี้ของนางไม่สดใสอย่างที่ควร นางรู้สึกไม่ค่อยจะดีนักราวกับมันมีลางบอกเหตุ"มีอะไรเช่นนั้นหรือถิงถิง"เสียงหวานที่ฟังดูอ่อนแรงเอ่ยถามคนสนิท"คนจากเรือนใหญ่มาแจ้งว่าท่านเสนาบดีเรียกให้คุณหนูไปพบเจ้าค่ะ"ถิงถิงรายงานผู้เป็นนายของตนทันทีหลังจากที่ก้าวเข้ามาทรุดกายลงใกล้ๆ มองนายของตนอย่างเป็นห่วงนางรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างไรก็ไม่รู้ รับรู้มาว่าวันนี้ท่านเสนาบดีถูกเรียกให้เข้าวังตั้งแต่รุ่งสาง และทันทีที่กลับมาจากเข้าเฝ้าฝ่าบาทก็เรียกหาคุณหนูของนางทันที นั่นยิ่งทำให้นางมั่

    Last Updated : 2025-02-11
  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่6 แท้จริงแล้วเขาคือบุรุษน่าชัง

    ท้องฟ้าที่เคยสว่างสดใสทุกครายามที่แหงนเงยใบหน้าขึ้นมอง ในวันนี้กลับมืดครึ้มไปด้วยเมฆฝน มันมืดดำจนดูน่ากลัว พาให้หมู่มวลบุปผางามรอบกายที่มักจะชูช่อเบ่งบานอย่างงดงามดูหม่นหมองไร้ชีวิตชีวา คล้ายดังชีวิตของนางในตอนนี้จ้าวหลี่เชี่ยนเหม่อมองผืนฟ้าเบื้องหน้าที่อึมครึมไปด้วยเมฆฝนด้วยดวงใจที่บอบช้ำ รู้สึกเจ็บปวดจนแทบจะแหลกสลาย นางช่างโง่งมนัก โง่งมจริงๆ ที่หลงมัวเมาในรักจนโดนบุรุษผู้นั้นหลอกลวง เหยียบย่ำดวงใจจนแหลกเหลวการถูกบิดาใช้เป็นเครื่องมือใช้เป็นหมากในการแสวงหาอำนาจไม่เจ็บเท่าโดนบุรุษทำให้เจ็บช้ำใจ นางช่างน่าขันเสียจริงจ้าวหลี่เชี่ยนหัวเราะออกมาทั้งที่หยาดน้ำตานั้นไหลอาบแก้ม ตั้งแต่วันนั้นน้ำตาของนางยังคงไม่หยุดไหลยามเมื่อคิดถึงคนผู้นั้น จากผู้ที่มอบรอยยิ้มให้นางกลับกลายเป็นผู้ที่ทำให้นางมีน้ำตาเสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นด้านหลัง ทำให้นางรีบเช็ดน้ำตาออกจากแก้มนวล เอ่ยออกมาโดยที่ไม่หันกลับไปมองอีกฝ่าย"ถิงถิงบอกแล้วอย่างไรว่าข้าอยากอยู่คนเดียวสักพัก"นางไม่อยากให้ถิงถิงเห็นน้ำตา รู้ดีว่าอีกฝ่ายรักและเป็นห่วงนางมากแค่ไหน รู้ดีว่าตนนั้นทำให้คนที่รักและหวังดีกับนางนั้นทุกข์ใจเพียงใด แต่ความเงี

    Last Updated : 2025-02-12
  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่7 หลบหนี

    จ้าวหลี่เชี่ยนวิ่งฝ่าสายฝนที่โหมกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา ไม่สนใจว่ามันอาจจะทำให้นางล้มป่วย นางขอเพียงแค่ไปให้พ้นจากคนผู้นั้นโดยเร็วที่สุดก็พอแล้วหัวใจของนางเจ็บปวดและบอบช้ำอย่างหนัก นางรู้สึกสับสนไปหมด ไม่อาจที่จะสลัดคนผู้นั้นออกจากความคิดได้เลยฝ่ามือเล็กกอบกุมหัวใจที่ปวดร้าวจนเจ็บแน่น นางไม่อาจทนแบกรับความผิดหวังและเสียใจนั้นได้ไหว เพียงก้าวเข้ามาในเรือน ร่างบอบบางก็อ่อนปวกเปียกทรุดฮวบลงกับพื้นรอบกายมืดมนไปหมด นางหมดสติไปด้วยความโศกเศร้าที่ท่วมท้นหยาดน้ำตายังคงนองใบหน้าเมื่อฟื้นคืนสติจ้าวหลี่เชี่ยนพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในเรือนของนางเอง แต่ทันทีที่ลืมตาขึ้นเสียงที่คุ้นเคยก็เอ่ยเรียกนางพร้อมกับสัมผัสอบอุ่นเข้ามากอบกุมมือของนางเอาไว้"คุณหนูฟื้นแล้วหรือเจ้าคะ"ใบหน้าของหญิงวัยกลางคนตรงหน้าทำให้น้ำตาที่แห้งเหือดไปแล้วไหลออกมาอีกครั้ง ความรักความห่วงใยและร่องรอยความโศกเศร้าในดวงตาของอีกฝ่ายทำให้นางรู้สึกผิด"แม่นมผิง ข้าขอโทษเจ้าค่ะที่ทำให้ท่านต้องทุกข์ใจ"จ้าวหลี่เชี่ยนลุกขึ้นนั่งตามการประคองของสตรีที่ใบหน้ายังคงมีร่องรอยของความเหนื่อยล้า ใบหน้าซีดขาวนั้น

    Last Updated : 2025-02-12
  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่8 เทพบุตรถอดรูป

    ตั้งแต่วันนั้นชีวิตของจ้าวหลี่เชี่ยนในจวนตระกูลจ้าวเป็นเสียยิ่งกว่านักโทษ นางถูกกักบริเวณอยู่ในเรือนเหลียนฮวาไม่ให้พบผู้ใด รอวันที่ราชโองการมาถึงนางก็จะถูกส่งตัวเข้าวังหลวงทันทีวันนี้นางได้ย่างเท้าออกจากเรือนเหลียนฮวาเป็นครั้งแรก เนื่องจากฮูหยินเฒ่ารู้สึกเวทนาจึงเรียกให้มาสนทนาและรับประทานอาหารร่วมกันที่เรือนใหญ่ นางจึงได้รู้ว่าแม่นมผิงนั้นยังถูกกักขังส่วนถิงถิงนั้นถูกขายออกไป นั่นจึงทำให้นางรู้สึกเศร้าโศกและเป็นกังวล จึงได้ลอบให้บ่าวที่เป็นคนของมารดาตามหาถิงถิงวันนี้ทั้งวันจ้าวหลี่เชี่ยนยังคงคอยปรนนิบัติดูแลฮูหยินเฒ่า และอีกฝ่ายนั้นเกิดอยากจะกินแกงไหลบัวขึ้นมา ถงฮูหยิน ฮูหยินใหญ่ตระกูลจ้าวลูกสะใภ้ผู้กตัญญูจึงโยนหน้าที่นั้นให้นางและบุตรสาวของตน โดยให้เหตุผลว่าหากนางได้ทำอะไรเสียบ้างนางจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน ซึ่งแน่นอนจุดประสงค์ที่แท้จริงก็คือการฉวยโอกาสนี้กลั่นแกล้งนาง ถึงแม้ว่าพอจะทำใจเอาไว้บ้างแล้ว แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายคิดจะเล่นงานกันรุนแรงถึงเพียงนี้คุณหนูใหญ่จ้าวเสวี่ยเฟย ผู้เป็นพี่สาวนั้นเกลียดชังนางไม่ต่างจากฮูหยินใหญ่ผู้เป็นมารดา หากมีโอกาสย่อมไม่พลาดที่จะกลั่นแกล้งให้นางต้องเจ็บตัว

    Last Updated : 2025-02-13
  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่9 วันสถาปนาฮองเฮา

    วังหลวงดินแดนแห่งสรวงสวรรค์ในวันนี้ดูอู้ฟู่งดงามตระการตาขึ้นไปอีกหลายเท่า เพราะวันนี้มีพิธีการอันยิ่งใหญ่คือการสถาปนาฮองเฮาของแผ่นดินพระองค์ใหม่ หลังจากที่บัลลังก์หงส์ว่างเว้นมานาน ในที่สุดก็มีสตรีที่สามารถกุมพระทัยผู้ครองแคว้นแม้วังหลังจะเต็มไปด้วยเหล่าสนมและหญิงงามมากมายสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามา แต่สตรีเหล่านั้นกลับมิได้ถูกเลือก ไม่อาจที่จะได้ครอบครองบัลลังก์หงส์ แต่สตรีที่จะได้ดำรงตำแหน่งสูงสุดอยู่เหนือสตรีทั้งปวงกลับเป็นเพียงสตรีเยาว์วัยนางหนึ่งสตรีโฉมงามวัยเพียงสิบหกปี สตรีผู้ที่มีใบหน้างดงามปานล่มเมือง นางคือฮองเฮาพระองค์ใหม่องค์ที่สองในรัชศกนี้คันฉ่องทองคำบานใหญ่สูงจรดเพดาน สะท้อนให้เห็นเงาร่างของสตรีผู้มีความงามพิสุทธิ์ งดงามเย้ายวนราวกับนางจิ้งจอก เรือนร่างสะโอดสะองอยู่ในชุดอาภรณ์ล้ำค่าควรเมือง อาภรณ์ที่ถูกตัดเย็บขึ้นมาอย่างประณีตชุดตัวในคือผ้าไหมเรียบลื่นสีแดงสด ผ้าไหมที่ต้องใช้เวลาถึงสิบปีถึงจะได้เส้นไหมเพียงพอมาถักทอเป็นผืนผ้าขึ้นมาได้หนึ่งผืน อาภรณ์ที่ให้ความรู้สึกเย็นสบายเมื่อได้สวมใส่ บัดนี้ห่อหุ้มอยู่บนเรือนร่างอวบอิ่มขาวนวลเนียนราวกับน้ำนม คลุมทับด้วยชุดพระ

    Last Updated : 2025-02-13

Latest chapter

  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่20 อีกหน้าที่หนึ่งของบ่าวคนงาม

    "ถิงถิง"ลู่เจียวเอ่ยเรียกเด็กสาวผู้ที่หิ้วตะกร้าจนตัวเอียงทันทีที่อีกฝ่ายเดินเข้ามา พร้อมทั้งเดินเข้าไปรั้งให้อีกฝ่ายถอยห่างออกมาจากหน้าเรือน"พี่ลู่เจียวมีอันใดหรือเจ้าคะ"ถิงถิงเอ่ยถามสตรีที่มีท่าทางกระสับกระส่ายอีกทั้งยังมองไปทางเรือนนอนของนางด้วยสายตาประหลาดจนน่าสงสัย"ท่านแม่ทัพมาที่นี่"คำตอบที่ได้รับทำให้นางแทบจะปล่อยมือจากตะกร้าสานที่ด้านในนั้นเต็มไปด้วยของกินและขนมมากมาย หากอีกฝ่ายไม่ยื่นมือมาประคองเอาไว้คาดว่าของกินเหล่านี้คงไปกองอยู่บนพื้นเป็นแน่"ทะ ท่านว่าอย่างไรนะเจ้าคะ""ท่านแม่ทัพมาที่นี่"ลู่เจียวเอ่ยย้ำกับอีกฝ่าย สายตานั้นมองไปยังเรือนพักของนางและผู้เป็นนาย บ่งบอกให้ถิงถิงรู้ว่าตอนนี้คนที่ถูกกล่าวถึงกำลังอยู่ในห้องนั้นกับคุณหนูของนางลู่เจียวที่มักจะมาพูดคุยกับสองนายบ่าวอยู่เสมอ ทันได้เห็นแผ่นหลังของท่านแม่ทัพหายเข้าไปในเรือนนอนของทั้งสองหลังจากที่เห็นว่าถิงถิงเดินหายไปทางโรงครัว นางรออยู่ครู่หนึ่งก็ไม่เห็นว่าท่านแม่ทัพจะกลับออกมา แต่กลับมีเสียงหนึ่งที่เล็ดลอดออกมาแทน และเสียงนั้นนางรู้ดีว่าด้านในนั้นกำลังเกิดสิ่งใดขึ้น จึงตั้งใจรอถิงถิงอยู่ตรงนี้"เอ่อ ถิงถิงเช่นนั

  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่19 มิอาจทานทน

    คล้อยหลังร่างเล็กของถิงถิง ร่างสูงใหญ่ของบุรุษผู้หนึ่งก็เดินออกมาจากมุมมืด สาวเท้าตรงไปยังห้องที่สาวใช้ตัวน้อยพึ่งจะเดินออกมา แล้วผลักประตูแทรกตัวเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจว่ามีสตรีอีกนางหนึ่งกำลังเดินตรงมาเสียงเปิดปิดประตูทำให้คนที่หันกลับไปนั่งมองดวงจันทร์อีกครั้งหลังจากที่คนของตนผลุบหายไปโดยไม่ยอมหยุดฟังคำทัดทานมีสีหน้าฉงน นึกแปลกใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงได้กลับมาเร็วนัก เพราะโรงครัวกับเรือนหลังนี้ใช่ว่าจะอยู่ใกล้กัน หรือทางจะไม่สะดวกผู้ที่ริจะเป็นแมวจอมตะกละจึงกลับมาตั้งหลักคิดได้ดังนั้นเรียวปากอวบอิ่มก็คลี่ออกจากกันเป็นรอยยิ้มขัน จ้าวหลี่เชี่ยนหันกลับมาหมายจะกล่าววาจาเย้าหยอกบ่าวของตนสักสองสามคำที่อีกฝ่ายไม่ยอมฟังกันตั้งแต่แรก แต่เมื่อเห็นว่าผู้ที่เข้ามาหาใช่คนที่ตนคิด รอยยิ้มบนริมฝีปากอิ่มกลับแข็งค้าง ก่อนจะหุบฉับลง ความตื่นตระหนกปรากฏบนใบหน้างาม เมื่อคนตรงหน้าคือคนใจร้ายที่หายหน้าไป บุรุษใจทมิฬผู้เป็นเจ้าของจวนและผู้ที่กุมชะตาชีวิตของนาง"ท่านแม่ทัพ"จ้าวหลี่เชี่ยนเอ่ยเรียกคนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าน้ำเสียงสั่นเครือจนสัมผัสได้ กายบอบบางลนลานลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย หัวใจของ

  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่18 ถูกกลั่นแกล้ง

    จ้าวหลี่เชี่ยนถูกอีกฝ่ายกลั่นแกล้งให้ทำงานหนัก ไม่มีเวลาแม้แต่จะนั่งพัก จนมือที่อ่อนนุ่มพุพองและมีบาดแผล แต่นางก็เริ่มที่จะชินเสียแล้ว ใช่ว่านางจะไม่เคยลำบากเช่นนี้มาก่อนเสียหน่อย ตู้ซูลี่ก็ไม่ต่างกับเหล่าพี่สาวของนางมากนัก จะว่าไปการมาทำงานอยู่ที่นี่ก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน แม้จะมีคนคอยจับตามอง แต่นางยังพอมีช่องทางที่จะสืบหาข่าวกับคนภายนอกได้บ้างและนางยังมีโอกาสที่จะหาทางหลบหนีออกไป แม้ตอนนี้นางจะยังไม่พบลู่ทางก็ตาม ส่วนเรือนบ่าวรับใช้ที่อาศัยอยู่ถึงแม้จะไม่สะดวกสบายแต่ก็ยังดีที่ยังมีที่ให้ซุกหัวนอนจ้าวหลี่เชี่ยนนั่งเหม่ออยู่ที่โต๊ะขนาดเล็กริมหน้าต่างที่กลายมาเป็นมุมโปรดของนาง สายตาจับจ้องไปยังดวงจันทราที่เคลื่อนตัวสูงขึ้น นางมาอาศัยอยู่ในเรือนบ่าวไพร่แห่งนี้ร่วมสัปดาห์แล้ว กลายเป็นบ่าวรับใช้คนใหม่ในจวนตระกูลเหอภายในห้องแคบแห่งนี้มีเพียงเตียงนอนขนาดเล็กคับแคบหนึ่งหลังที่นางกับถิงถิงต้องนอนเบียดกันในยามค่ำคืนและโต๊ะเก้าอี้อีกหนึ่งชุดเพียงเท่านั้น พื้นที่ภายในห้องเมื่อวางหีบที่เอาไว้ใช้เก็บข้าวของส่วนตัวก็มีที่ว่างให้พอได้เดินสวนกันเสียงดนตรีจากเรือนใหญ่ที่ดังแว่วมาตามสายลม ทำให้ร่างบ

  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่17 คุณหนูตู้ซูลี่

    "เก็บออกไปให้หมด""ท่านจะทำอะไรเจ้าคะ หยุดเดี๋ยวนี้"...เสียงเอะอะโวยวายที่ดังขึ้นด้านในเรือนนอน ทำให้คิ้วเรียวสวยได้รูปขมวดเข้าหากัน เสียงหนึ่งนั้นย่อมเป็นของลู่เจียวผู้ที่คอยดูแลนางตั้งแต่เข้ามาอาศัยอยู่ในเรือนหลังนี้ ส่วนอีกเสียงหนึ่งนั้นนางมั่นใจว่าไม่เคยได้ยินเสียงของอีกฝ่ายมาก่อนจ้าวหลี่เชี่ยนวางสิ่งที่กำลังทำอยู่ในมือลง ในวันนี้นางที่ทนอุดอู้อยู่เพียงในเรือนและทนต่อความกังวลที่มีต่อเรื่องแม่นมผิงไม่ไหวจึงนำผ้าเช็ดหน้าออกมาปักอยู่ในสวนด้านหลังเรือนเพื่อให้จิตใจของตัวเองสงบ สายตานั้นจับจ้องไปยังที่มาของเสียง นางไม่รู้ว่าด้านในนั้นกำลังเกิดสิ่งใดขึ้น เรือนที่มักจะเงียบเหงาอยู่เสมอบัดนี้มีผู้ใดมาเยือนกันเมื่อก้าวเข้าไปด้านหน้าเรือนเพื่อดูว่าเกิดสิ่งใดขึ้น ภาพที่เห็นเบื้องหน้าของนางคือความวุ่นวายภายในห้องนอนของนางที่ดูคับแคบลงถนัดตาเมื่อมีสตรีนับสิบนางอยู่ในนั้นสตรีผู้หนึ่งที่แต่งกายด้วยอาภรณ์งดงามกำลังสั่งให้บ่าวไพร่สตรีสองนางขนข้าวของเครื่องใช้ของนางออกมาจากเรือนนอน และที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือบ่าวสตรีอีกสองนางที่มีรูปร่างสูงใหญ่กำลังจับตัวถิงถิงคนของนางกดเอาไว้กับพื้นไม่ให้เข้าไ

  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่16 บอบช้ำกายใจ

    ความรู้สึกปวดร้าวตามร่างกายที่เกิดขึ้นหลังจากที่ลืมตาตื่นขึ้นมา โดยเฉพาะส่วนสงวนกลางร่าง ทำให้ริมฝีปากอิ่มที่ยังคงบวมช้ำหลุดเสียงร้องออกมาแผ่วเบาจ้าวหลี่เชี่ยนขยับกายบอบบางได้อย่างยากลำบากจนนางไม่อยากที่จะลุกขึ้น ข้างกายนั้นไร้เงาของบุรุษผู้ที่ลงทัณฑ์นางอย่างเอาแต่ใจเมื่อคืนนี้ ความเย็นชืดที่สัมผัสได้บ่งบอกว่าคนผู้นั้นได้ลุกจากไปนานแล้ว หรือเขาอาจจะออกไปทันทีหลังจากที่ตักตวงความหอมหวานจากนางจนพอใจ เหลือทิ้งเอาไว้เพียงร่องรอยความบอบช้ำบนร่างกายและความเหนอะหนะจากคราบความใคร่ผสมกลิ่นกายของเขาที่ยังตลบอบอวลริมฝีปากแดงช้ำเม้มเข้าหากันแน่น เมื่อรู้สึกได้ว่าขอบตาของนางร้อนผ่าวขึ้น ความโดดเดี่ยวอ้างว้าง น้อยเนื้อต่ำใจประเดประดังเข้ามาให้รู้สึกหนาวเหน็บจนต้องกระชับผ้าห่มคลุมกายจนแน่น แต่มันก็ไม่ได้ทำให้นางรู้สึกดีขึ้นเลย"คุณหนู คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ"เสียงอันคุ้นเคยที่เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรนระคนห่วงใย พร้อมกับเจ้าของคำถามนั้นปราดเข้ามากุมมืออ่อนนุ่มของนางเอาไว้ นั่นทำให้จ้าวหลี่เชี่ยนลืมเลือนความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทั้งจากทางร่างกายและจิตใจไปชั่วขณะ"ถิงถิง"เพราะสตรีเบื้องหน้าคือบ่า

  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่15 สมปรารถนา

    ชายหนุ่มโอบอุ้มร่างงามระหงเข้าไปในห้องอาบน้ำโดยที่ริมฝีปากนั้นไม่ละไปจากใบหน้างาม เขายังคงจูบซับไปทั่วราวกับหลงใหลนางนักหนา สัมผัสอ่อนโยนนั้นทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นไหว อยากจะให้ความรู้สึกอ่อนหวานอยู่เช่นนี้ตลอดไปเขาโอบอุ้มนางลงไปในถังน้ำด้วยกัน สายน้ำอุ่นที่หอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้โอบล้อมไปรอบกายของคนทั้งสอง ความใกล้ชิดในบรรยากาศเช่นนี้ก่อให้เกิดความรู้สึกวาบหวาม ปรารถนาที่จะแนบชิดกันให้มากขึ้นฝ่ามือหนาหยาบลูบไล้ไปตามเรือนร่างงามที่เปียกน้ำ ความงดงามที่เขาปรารถนาจะครอบครองมาตลอด เนื้อผ้าบางเบาแนบลู่ไปกับร่างงาม สัดส่วนเย้ายวนปรากฏสู่สายตาชายหนุ่ม หน้าอกอวบอิ่มนุ่มหยุ่นเต็มไม้เต็มมือเหมาะเจาะลงตัวกับเอวเล็กคอดกิ่วรับกับสะโพกผายเต่งตึงกลมงอน ทั้งเนื้อทั้งตัวนุ่มละมุนหอมกรุ่น ผิวพรรณขาวนวลเนียนผุดผ่อง ไม่ปฏิเสธเลยว่า เขาหลงใหลในเรือนร่างนี้ตั้งแต่ที่ช่วยนางขึ้นจากน้ำเมื่อครั้งที่นางถูกพี่สาวต่างมารดากลั่นแกล้ง เรือนร่างสะโอดสะองติดอยู่ในความทรงจำติดตรึงอยู่ภายในใจตลอดมา และตอนนี้เรือนกายที่น่าหลงใหลนั้นกำลังปรากฏอยู่เบื้องหน้า อยู่ในอ้อมแขนของเขาและกำลังรอให้เขาเชยชมเหอไป๋เหยียนไ

  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่14 อาบน้ำกันเถอะ

    จ้าวหลี่เชี่ยนก้าวขาที่สั่นเทาพาเรือนร่างเย้ายวนในอาภรณ์เปิดเปลือยเดินเข้าไปหาบุรุษหนุ่มวัยฉกรรจ์ผู้ที่ใช้สายตาจ้องมองนางราวกับจะกลืนกิน นางรู้ดีว่าหลังจากนี้จะเกิดสิ่งใดขึ้น เขาไม่คิดจะปล่อยนางแน่อาการวูบๆ วาบๆ บางเบาที่เกิดขึ้นกับนางในตอนนี้ คงเป็นเพราะน้ำชาที่ลู่เจียวส่งให้นางดื่ม มันคงมียาปลุกกำหนัดผสมอยู่ แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น นางก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอีกฝ่าย เพราะนางรู้ดีว่าลู่เจียวหาได้ไม่หวังดีกับนาง จากความรู้สึกที่เกิดขึ้นหาได้รุนแรง มันคงเป็นเพียงยาปลุกกำหนัดฤทธิ์อ่อนเท่านั้น และมันช่วยให้นางรู้สึกดีอีกด้วย นางเป็นเพียงดรุณีน้อยวัยสิบหก การต้องรับมือกับชายหนุ่มที่แข็งแกร่งและเขายังมีอายุเยอะกว่านางกว่าหนึ่งรอบ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแต่ในเมื่อไร้ซึ่งทางเลือก จึงข่มกลั้นความกระดากอายและความหวาดหวั่น เดินเข้าหาเจ้าของเรือนกายทรงพลังไอร้อนผ่าวจากเรือนร่างกำยำเข้าโอบล้อมนางทันทีที่เข้าใกล้ ทำให้ร่างกายนางนั้นสั่นสะท้าน เมื่อมายืนชิดใกล้กับอีกฝ่ายเช่นนี้ยิ่งเห็นว่าเขานั้นตัวสูงใหญ่กว่านางมากนัก นั่นทำให้นางอดที่จะรู้สึกหวาดหวั่นและหวาดกลัวขึ้นมาไม่ได้ดวงตาเจ้าเล่ห์หวานเชื่

  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่13 หญิงบำเรอของท่านแม่ทัพ

    "นายหญิง ท่านแม่ทัพส่งอาภรณ์มาเจ้าค่ะ"จ้าวหลี่เชี่ยนละสายตาจากภาพผีเสื้อตัวน้อยที่พากันโบยบินอย่างอิสระ ดมดอมตอมกลิ่นดอกไม้แสนสวยอย่างเพลิดเพลินจนน่าอิจฉา หันมามองเจ้าของคำพูดนั้น คำเรียกขานที่อีกฝ่ายใช้เรียกนางมันช่างฟังขัดหูเหลือเกิน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อีกฝ่ายเอ่ยเรียกนางเช่นนี้ แต่ถึงแม้นางจะเอ่ยห้ามเช่นไรอีกฝ่ายก็ไม่ฟัง กล่าวว่าในเมื่อถูกส่งมารับใช้นางก็ควรแล้วที่ต้องเอ่ยเรียกนางเช่นนี้ นางจึงต้องปล่อยเลยตามเลยดวงตาเศร้าหมองของหญิงสาวที่ตนต้องดูแลทำให้คนที่เดินถืออาภรณ์เข้ามาอดรู้สึกสงสารไม่ได้ลู่เจียว สตรีวัยประมาณยี่สิบปีผู้ที่คอยรับใช้หญิงสาวตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาในจวนแม่ทัพแห่งนี้ เดินเข้ามาพร้อมกับวางอาภรณ์ที่ถืออยู่ในมือลงตรงหน้าผู้ที่ต้องสวมใส่มันในคืนนี้ แม้จะรู้สึกเวทนาสงสารอีกฝ่ายมากเพียงใดแต่นางก็ต้องทำตามคำสั่งของผู้เป็นนาย"ท่านแม่ทัพแจ้งว่าอาภรณ์สำหรับใส่ในคืนนี้เจ้าค่ะ ท่านลุกขึ้นมาชำระกายก่อนเถอะนะเจ้าคะ บ่าวเตรียมน้ำเอาไว้แล้ว"คำพูดนั้นทำให้จ้าวหลี่เชี่ยนสะท้านในอก ในที่สุดนางก็ไร้ซึ่งทางเลือก ยอมเอาตัวเองแลกกับชีวิตบ่าวของตนและแลกกับการที่อีกฝ่ายจะตามหาแม่นม

  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่12 แม่ทัพเหอไป๋เหยียน

    เหอไป๋เหยียน แม่ทัพหนุ่มวัยฉกรรจ์ในวัยสามสิบ เขาไม่ได้มีสิ่งใดต้องทำอย่างที่เอ่ยกับสตรีนางนั้น แต่กลับมาทรุดกายลงนั่งคุกเข่าอยู่ในหอบรรพชนสกุลเหอเพราะรู้สึกสับสนและว้าวุ่นใจ ในที่สุดเขาก็ทำผิดกับผู้ที่ล่วงลับ วิญญาณของบรรพบุรุษคงกำลังสาปแช่งเขา เขาจึงได้รู้สึกเจ็บปวดและทรมานอยู่เช่นนี้ ถึงแม้จะแก้แค้นทวงความยุติธรรมกลับคืนให้ตระกูลได้สำเร็จ แต่แล้วอย่างไร ในเมื่อเขาไม่อาจตัดใจพรากชีวิตสายเลือดของศัตรู อีกทั้งยังไม่อาจปล่อยมือจากนาง นำนางมาอยู่ข้างกาย ลุ่มหลงดังคนโง่แต่เขาก็ไม่เคยลืมความแค้นในอดีต ไม่เคยลืมความรู้สึกเจ็บปวดยามเมื่อสูญเสียคนที่รักเขาคือคุณชายรองตระกูลเหอ ตระกูลแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ที่ถูกฆ่าล้างตระกูลเมื่อแปดปีก่อนด้วยวิธีสกปรก เรื่องราวการตายของคนในครอบครัว ทุกคนที่เขารัก แทบทำให้ชายหนุ่มในตอนนั้นเจ็บปวดจนแทบเสียสติ เขาสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปพร้อมกัน ทุกชีวิตสังเวยให้กับการก่อกบฏในครั้งนั้นบิดาและพี่ใหญ่ของเขาเป็นนักรบที่เก่งกาจ ปกป้องนายเหนือหัวจนตัวตาย แม้ทั้งสองจะเก่งกล้าเพียงใดแต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ บิดาและพี่ชายถูกสังหารในห้องทรงอักษรพร้อมกับอดีตฮ่องเต้และฮองเฮาผู้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status