กู้ซีนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งแล้วตอบเสียงเบาว่า “พลังอำนาจคือทุกสิ่ง!”“ทุกสิ่ง?” หยวนชิงหลิงยิ้มประชด “เกรงว่าไม่นะ ข้ารู้จักคนที่มีพลังอำนาจมากมายหลายคน แต่ว่าพวกเขาก็ไม่ได้มาวึ่งทุกสิ่ง”“พลังอำนาจ แต่เดิมล้วนไม่มีที่สิ้นสุด”ใช่สิ การเป็นจักรพรรดิ เป็นใหญ่เหนือฟ้าดิน พลังอำนาจจะมีที่สิ้นสุดได้อย่างไร?ไม่รู้เหมือนกันว่าอวี่เหวินห่าวเองจะเป็นแบบนั้นไหม?นางถามกู้ซี “ข้าเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างท่านอ๋องฉู่กับเจ้าไม่เลวเลย พวกท่านรู้จักกันมานานแล้วไหม?”กู้ซียิ้ม ๆ “เติบโตมาด้วยกันพ่ะย่ะค่ะ”“ความผูกพันธ์วัยเด็ก ช่างล้ำค่าและหาได้ยากยิ่ง เช่นนี้เรื่องราวเมื่อก่อนของเขากับฉู่หมิงชุ่ย ท่านเองก็รู้สินะ?”“รู้ รู้ทั้งหมด” เขามองหยวนชิงหลิงอย่างเรียบเฉย “พระชายาคิดจะถามอะไรพ่ะย่ะค่ะ?”“ไม่มีอะไรต้องถาม เรื่องราวของพวกเขา ข้าไม่อยากรู้” หยวนชิงหลิงกล่าว กู้ซีก็คาดไม่ถึง“กระหม่อมคิดว่าพระชายาอยากรู้ว่าในใจของท่านอ๋องคิดยังไง”หยวนชิงหลิงหันหัวมายิ้มให้เขา “ไม่หาเรื่องใส่ตัว คือคติประจำใจการเป็นคนของข้า”กู้ซีมองดูนางอย่างครุ่นคิด ไม่หาเรื่องใส่ตัว? รู้เรื่องท่านอ๋องกับฉู่หมิงชุ่ย
“นายท่านเจ้าขา พวกบ่าวมาเพื่อปรนิบัติท่านเจ้าค่ะ!” เสียงออดอ้อนมารยาของนางคณิกาที่ดังอยู่ข้างหูพวกนางที่มาเกาะติดอยู่บนตัวเขาในชั่วพริบตานั้นเอง อวี่เหวินห่าวรู้แค่ว่าความโกรธทั้งหมดหลั่งไหลเข้ามาในร่าง โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และตะโกนเสียงดังออกมาด้วยความโกรธ “ซูยี่!”ซูยี่รอรับรางวัลอยู่ที่หน้าประตูด้วยความยินดีปรีดาเมื่อได้ยินเสียงตะโกนของท่านอ๋อง ยังคิดว่าคงเป็นเสียงฟ้าร้อง จึงเงยหน้ามองท้องฟ้าคนที่ยืนอยู่ด้านข้างอย่างชีหลัวถึงกับหน้าเปลี่ยนสีเป็นอันมากและรีบสาวเท้าก้าวเข้าไปซูยี่ที่เพิ่งได้สติรีบเดินตามเข้าไป เกิดอะไรขึ้น? อัปลักษณ์เกินไป? ไม่เข้าตาท่านอ๋อง? แต่แม่เล้าบอกว่าสองคนนี้เป็นนางคณิกาพิเศษระดับสูงแล้วเขาได้พยายามทุ่มเทจัดหาสิ่งดีที่สุดให้ท่านอ๋องแล้วในห้องหลังจากผ่านลมพายุฝน ซูยี่อย่างเศร้า ๆ รับตัวสองนางคณิกาในชุดหวาบหวิวคุ้มกันพวกนางกลับไปยังหอฉินโหล่วระหว่างทางเดิน กู้ซีกับหยวนชิงหลิงก็มาพอดีหยวนชิงหลิงเห็นซูยี่พาหญิงสาวสองคนมา ไม่เหมือนกับพวกผู้หญิงที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี แต่งหน้าหนาเตอะ พรมน้ำหอมฉุนจมูก ท่าทางเขินอาย เลิกคิ้วเล็กน้อย ให้ความรู้สึกที
อวี่เหวินห่าวอารมณ์เสียอยู่ในห้อง กินอะไรไม่ลง วันนี้อยู่ที่สำนักตรวจการมองดูศพผู้ตายทั้งวัน ได้ยินเกี่ยวกับการรื้อคดีฆาตกรรมหมู่ แต่ก็ไม่มีเบาะแสอะไรเพิ่มเติม ในใจทั้งกังวลทั้งหงุดหงิด กลับมาเจอซูยี่ทำเรื่องเสื่อมเสียแบบนี้ จึงระงับความโกรธไม่ได้และระเบิดออกมา“ถังหยางอยู่ไหน?” หลังจากเขาอารมณ์เสียแล้วถามชีหลัวด้วยความโกรธชีหลัวตอบอย่างระมัดระวังว่า “ทูลท่านอ๋อง ใต้เท้าถังออกไปข้างนอกแล้วตั้งแต่วันนี้ตอนเย็น”เขาคิดว่าถังหยางน่าจะไปรับหยวนชิงหลิงแล้ว จึงพูดต่อไป “เจ้าไปบอกคนในจวน ให้เขาบอกใต้เท้าถัง ถ้ากลับมาแล้วให้มาที่ตำหนักเสี่ยวเยว่ทันที”“เพคะ!” ชีหลัวรีบออกไป ราวกับได้ถูกปลดปล่อยหลังจากอวี่เหวินห่าวอาบน้ำ นั่งอยู่ในห้องดื่มชามองออกไปที่ด้านนอก ถังหยางทำไมยังไม่กลับมา? ถังหยางไม่กลับมา นางก็ยังไม่ได้กลับมาเช่นกันหนึ่งก้านธูปผ่านไป ถังหยางรีบร้อนเข้ามา “ท่านอ๋อง ท่านเรียกหากระหม่อมหรือ?”“ไปไหนมา?” อวี่เหวินห่าววางแก้วชา เงยหน้ามองเขาและแกล้งทำเป็นไม่ถามว่าเขารับหยวนชิงหลิงมาแล้วหรือยังถังหยางตอบว่า “วันนี้กระหม่อมไปหาหัวหน้าหมู่บ้านมา ใช่สิ เทศกาลเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้
นางต้องปฏิบัติกับเขาถึงเพียงนี้เลยหรือ?เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าชอบแบบนี้สินะ!”เขาหันหลังเดินออกไปด้านหลัง ได้ยินเสียงหยวนชิงหลิงทำความเคารพเขา “ทูลลาท่านอ๋อง!”อวี่เหวินห่าวโกรธเสียจนริมฝีปากสั่นไปหมด และรีบสาวเท้ายาว ๆ เดินออกไปอะไรกัน? ข้าต้องทะนุถนอมเจ้ารึ?หยวนชิงหลิงยืนอยู่ที่บันไดหิน มองแผ่นหลังของเขานางไม่ให้เขาสัมผัสตัวเอง เพราะรู้สึกว่าเขาสกปรกเห็นนางเป็นตัวอะไร? เมื่อกี้เพิ่งมีช่วงเวลาดี ๆ กับสองสาว กลับมาก็มาหานางเพื่อเยาะเย้ยนาง นางไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของเขานะนางกลับห้องอย่างช้า ๆ นางข้าหลวงฉีถามเสียงเบา “พระชายา ท่านจำเป็นต้องทำกับท่านอ๋องถึงเพียงนี้เลยหรือ?”หยวนชิงหลิงมองแม่นมฉี “เมื่อครู่ข้ายังทำความเคารพไม่พอหรือ?”แม่นมฉีเงียบพูดไม่ออกพอ จนมากเกินพอด้วยซ้ำ!อวี่เหวินห่าวหายใจกระฟัดกระเฟียดกลับตำหนักเสี่ยวเยว่ รู้สึกลมหายใจติดขัดอยู่ในลำคอ ทำยังไงมันก็ไม่ดีขึ้นเมื่อวานยังดูรักใคร่ผูกพันธ์กันดี วันนี้กลับเปลี่ยนไปแบบนี้ นางคิดว่านางเป็นใครกัน?เอื้อมมือไปแตะต้องก็ไม่ได้ งั้นใครกันที่เจ้าไปทูลเสด็จย่าว่าไม่เคยได้เคียงคู่ร่วมหอ?คิดถึงตอนนางเลิ
ดวงตาของอวี่เหวินห่าวเปลี่ยนไปเป็นกลมโต กลมโตเหมือนไข่มุกดำเม็ดแวววาว “เจ้าบอกว่า...เจ้ากับหยวนชิงหลิงเห็นซูยี่พาสตรีสองนางออกไปหรือ?”“เห็นแน่นอน พวกข้าไม่ใช่คนตาบอดนะพ่ะย่ะค่ะ” กู้ซีตอบอย่างไม่พอใจอวี่เหวินห่าวร้อง อ่อ ออกมา “นี่สินะนางถึงโกรธ?”ในแววตาของเขาดูมีความสุขไม่น้อยเลยทีเดียว“ไม่ควรโกรธหรือ?” กู้ซีตั้งอกตั้งใจพูดเกลี้ยกล่อม “ไม่ใช่ว่าข้าว่าท่าน จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องออกไปหาคนข้างนอกเลย ท่านมีตำแหน่งเป็นอะไร? ในจวนไม่ต้องมีอะไรแบบนี้? ถึงกับต้องทำลายชื่อเสียงตัวเองแบบนี้เลยหรือ?”อวี่เหวินห่าวทำท่าเหมือนคนได้รับการสั่งสอน “ข้ารู้แล้ว ครั้งหน้าจะไม่เกิดขึ้นอีก เจ้ากลับจวนอ๋องหวยไปก่อน คืนนี้ข้าจะไปรับนางเอง”“พ่ะย่ะค่ะ ต้องไปรับ เมื่อคืนวานตอนนางออกมา นางเหลียวซ้ายแลขวา ไม่รู้ว่าผิดหวังขนาดไหน ผลสุดท้ายหลังจากกลับถึงจวนยังเห็นสตรีสองนาง จะไม่ให้นางโกรธได้อย่างไร?”อวี่เหวินห่าวรู้สึกว่าตัวเองสมควรตายเสียจริงเมื่อคืนวาน จริง ๆ แล้วไปรับนางได้ ก็เขาแค่แกล้งเล่นตัวกู้ซีที่ให้คำแนะนำเสร็จก็ออกไปทันทีตอนเย็นก่อนตะวันตกดิน อวี่เหวินห่าวถึงที่จวนอ๋องหวยพอดีหยวนชิ
พูดจบเขาก็ลากข้อมือหยวนชิงหลิง “ไป ข้าจะอธิบายกับเจ้าบนรถม้า”“ปล่อยมือข้า!” หยวนชิงหลิงโกรธจนหน้าเขียว มือสกปรกของเขานี่ ต้องถูกตัดไม่ช้าก็เร็วท่ามกลางสายตาผู้คนมากมายที่จ้องมองมา หยวนชิงหลิงถูกเขาลากขึ้นรถม้าวันนี้สารถีไม่ใช่ซูยี่ หลังจากเรื่องเมื่อคืนวานนี้นั้น ซูยี่ได้เข้าสู่สภาพลาพักร้อนเป็นที่เรียบร้อย“เจ้านี่ตกลงจะให้โอกาสข้าอธิบายหน่อยได้ไหม?” อวี่เหวินห่าวจ้องมองใบหน้าแดงก่ำของนางจากการดิ้นรนขัดขืน หยวนชิงหลิงพูดว่า “ท่านปล่อยข้าก่อน มิฉะนั้นก็ไม่ต้องมาพูดกัน ข้าจะไม่ฟังคำท่านสักคำ”อวี่เหวินห่าวปล่อยนาง และถามอย่างจริงจังว่า “ในใจของเจ้า เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนเช่นนั้นหรือ?”“ไม่ใช่ว่าในใจข้าคิดว่าท่านเป็นคนเช่นนั้น ข้าเห็นเองกับตา” หยวนชิงหลิงตอบอย่างเรียบเฉย“เจ้าเห็นอะไรด้วยตาตัวเอง? เจ้าไม่ใช่เห็นซูยี่พาสตรีสองนางนั้นเดินออกไป แต่เป็นเรื่องราวก่อนหน้าที่ซูยี่พานางไปต่างหาก?”หยวนชิงหลิงหน้าขาวซีดมองเขา “ใช่ ก่อนหน้านั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น? ข้าไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง แต่ข้าก็ไม่ใช่คนโง่ ข้าคิดได้”“คิดว่าอะไร?” เขากระเถิบเข้าไปใกล้ ลมหายใจทั้งหมดเป่ารดลงข้างหน้า เกื
สองวันมานี้อ๋องซุนก็ไปจวนอ๋องหวย และพาพระชายาซุนไปด้วยพระชายาซุนช่างสวยสง่า แข็งแกร่งงดงาม รูปร่างก็ดีมาก ยืนอยู่ข้างอ๋องซุนแล้ว ให้ความรู้สึกเหมือนโฉมงามกับเจ้าชายอสูรพระชายาซุนไม่ได้มาบ่อย แต่มาทีไรก็เตรียมอาหารเสริมของฝากมามากมาย มองดูก็รู้เลยว่านางใช้ใจเตรียมมาอย่างพิถีพิถัน เพราะของฝากที่นางนำมา ล้วนเป็นอาหารเสริมตัวยาที่ช่วยเรื่องโรคปอดฉู่หมิงชุ่ยเคยมาแล้วครั้งหนึ่งพร้อมกับอ๋องฉีอวี่เหวินหลิงเฝ้าจับตาดูนางตลอดเวลา แม้แต่ตอนนางเข้าห้องเยี่ยมอ๋องหวย ก็จับตาดูนางอย่างใกล้ชิด เกรงว่านางจะก่อเรื่องฉู่หมิงชุ่ยกับหยวนชิงหลิงก็พูดจากันไม่กี่คำ แต่ก็สุภาพมีมารยาทมาก ถามไถ่อาการป่วยของอ๋องหวย ย่อตัวขอบคุณหลังจากนั้นก็เดินจากไป ทั้งสองราวกับไม่เคยเกิดเรื่องบาดหมางกันมาก่อนท่าทีของอ๋องหวยเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนที่สุดผ่านคืนวันที่หมอหลวงเคยบอกไปแล้ว แต่เขายังมีชีวิตอยู่ดีและไม่ได้ไอเป็นเลือดอีก อาการไอยังคงมีอยู่บ้างแต่ก็น้อยลงมาก เขายังไม่สามารถลงไปเดินกับพื้นได้คนที่มีความสุขที่สุดก็คือพระสนมหลู่เฟย ไม่กี่วันมานี่นางได้บูชาหยวนชิงหลิงราวกับเทพเจ้า หยวนชิงหลิงอยากกินอยากใช้อะไร
หยวนชิงหลิงมองเขา “เมื่อกี้ข้าพึ่งซาบซึ้งใจเองนะ”“จะซาบซึ้งตื้นตันก็ไม่มีประโยชน์ ข้าไม่มีเงิน” เขาถอนหายใจยาว ๆ “ทุกวันนี้ทุกเดือนข้ามีเงินแค่หนึ่งถึงสองตำลึงเงินไว้ใช้เอง”เขาลากแผ่นหลังอันหนักอึ้งของเขา และเดินจากไปอย่างช้า ๆในใจของหยวนชิงหลิงรู้สึกสับสน ทำไมข้างนอกถึงมีข่าวลือแบบนี้ได้? มองดูแล้ว นางต้องถามถังหยางไม่ก็ซูยี่ซะแล้วกู้ซีส่งนางกลับจวนอ๋องแล้ว นางก็ให้แม่นมฉีเรียกหาซูยี่มาที่นี่แม่นมฉีกล่าวว่า “ซูยี่ไม่ได้อยู่ที่จวนอ๋องแล้วเพคะ”“ไม่ได้อยู่ที่จวนอ๋อง ท่านอ๋องสั่งให้เขาไปทำธุระข้างนอกหรือ?” หยวนชิงหลิงถามด้วยความประหลาดใจ“ไม่ใช่เพคะ ซูยี่ก่อเรื่องสร้างความรำคาญพระทัยให้ท่านอ๋อง ท่านอ๋องทรงกริ้ว ไล่ให้เขาออกไป” แม่นมฉีตอบกลับเช่นนี้หยวนชิงหลิงรู้สึกคาดไม่ถึงเป็นอย่างมาก “เขาทำอะไรหรือ?”น่าเสียดายอยู่บ้าง ซูยี่เองก็เป็นคนที่ซื่อสัตย์จริงใจ ถึงแม้ว่าจะดูเชื่อถือไม่ได้ก็เถอะแม่นมฉีตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เจ้าซูยี่นี่ปากไม่มีหูรูด ทำงานไม่น่าเชื่อถือ ไม่รู้ว่าไปเอาความคิดพิเรนท์ ๆ มาจากไหน เตรียมสตรีสองนางไว้ที่ห้องท่านอ๋อง ท่านอ๋องทรงกริ้ว เลยให้เขากับส