และแล้ววันศุกร์ที่รอคอยก็มาถึง ฉันลางานครึ่งวันพร้อมกับรีบไปโรงพยาบาลเพื่อฟังผลตรวจ Nift รวมถึงเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ด้วย
“สวัสดีค่ะ...คุณหมอ”
“สวัสดีค่ะ...นี่คือผลการตรวจเลือดของคุณแม่นะคะเลือดจางนิดหน่อยนอกนั้นไม่มีปัญหาอะไรค่ะ”
“เอ่อ...โรคติดต่ออะไรก็ไม่มีใช่ไหมคะคุณหมอ”
“ใช่แล้วค่ะคุณแม่มีแต่เลือดจางส่วนผล Nift ทารกในครรภ์ก็ปกติทุกอย่างรวมถึงสามารถทราบเพศลูกได้ด้วยนะคะหรือว่าคุณแม่อยากจะลุ้นเองตอนคลอด” คุณหมอบอกกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างไมตรี
“บอกมาเลยดีกว่าค่ะจะได้เตรียมตัวซื้อของถูก”
“ยินดีอีกครั้งนะคะคุณแม่ได้ลูกชายค่ะ”
“ลูกชาย...สมบูรณ์แข็งแรงดีทุกประการนะคะ” ฉันถามย้ำกับคุณหมออีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
“สมบูรณ์แข็งแรงดีค่ะแต่ว่าการตรวจ Nift ตรวจได้แค่ความผิดปกติทางพันธุกรรมส่วนเรื่องสมองพัฒนาการต่างๆเราต้องดูอีกทีค่ะแต่อยากให้คุณแม่ทำใจให้สบายเพราะอายุตอนตั้งครรภ์ไม่มากไม่น่าจะมีปัญหาอะไรพักผ่อนให้เพียงพอไม่เครียดทำใจให้สบายเท่านี้ก็เพียงพอแล้วค่ะ”
“ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ”
“12 สัปดาห์ตั้งครรภ์ทางเราจะออกสมุดสุขภาพแม่และเด็กให้ซึ่งจะมี 2 ภาษาไทยและอังกฤษคุณแม่ควรพกติดตัวตลอดเวลารวมทั้งทุกครั้งที่มาโรงพยาบาลด้วยเผื่อมีอุบัติฉุกเฉินทางโรงพยาบาลจะได้ทราบถึงประวัติการตั้งครรภ์ อีกอย่างสะดวกเวลาเดินทางไปต่างประเทศด้วย เพราะในสมุดจะมีรายการการฉีดวัคซีนของบุตร ประวัติการตั้งครรภ์ น้ำหนัก และโรคแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ด้วยค่ะ”
“มีโรคแทรกซ้อนด้วยหรือคะ”
“มันขึ้นแล้วแต่ละบุคคลด้วยค่ะไม่ว่าจะครรภ์เป็นพิษเบาหวานความดันเลือดจางสามารถเกิดขึ้นได้แต่ไม่ได้เกิดกับทุกคนที่ตั้งครรภ์ค่ะ”
“ส่วนคุณแม่มีเลือดจางก็ควรจะเสริมอาหารจำพวกตับเครื่องในในปริมาณที่เหมาะสมไม่ควรทานอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินไปเราจะค่อยๆแก้ไขไปด้วยกันหวังว่าก่อนไตรมาสที่ 3 อาการเลือดจางจะดีขึ้นนะคะ”
“ขอบคุณมากค่ะคุณหมออีก 2 สัปดาห์เจอกันค่ะ”
โอ๊ยอยากจะกรี๊ด!!! อย่างน้อยฉันก็ไม่โชคร้ายมีโรคติดต่อจากเพศสัมพันธ์ในครั้งนั้นตอนแรกที่ตื่นขึ้นมาก็เห็นซากถุงยากที่ใช้แล้วโยนทิ้งไว้บนพื้นไม่คิดว่าไอ้บ้านั่นจะสด! แถมยังได้ลูกชายที่สมบูรณ์แข็งแรงอีกต่างหากอย่างน้อยในชีวิตก็ยังมีเรื่องดีๆให้น่ายินดีอยู่บ้างไหนๆก็จะเป็นคุณแม่เเล้วต้องไปถอยรถสักคันมาเอาไว้รับส่งลูกแล้วล่ะขอเป็นรถประตูสไลด์สักคันสะดวกเวลาขึ้นลงดี
เวลาผ่านไปไวจนเข้าสู่สัปดาห์ที่ 24 ของการตั้งครรภ์เนื่องจากว่าฉันเป็นคนตัวผอมสูงดูยังไงก็ไม่เหมือนคนท้องเหมือนคนที่พึ่งกินหมูกระทะอิ่มใหม่ๆเท่านั้นยิ่งชุดกระโปรงบานที่ความยาวสั้นเหนือเข่าพลางหน้าท้องได้ดีทีเดียวแต่เพราะพรุ่งนี้วันศุกร์มีนัดตรวจเบาหวานซึ่งต้องลาทั้งวันจึงตัดสินมาบอกและปรึกษากับพี่ปุ้ยก่อนที่จะลาคลอด
“สวัสดีค่ะพี่ปุ้ย”
“เอ้านั่งลงก่อนมีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ”
“คือ...เจเจท้องได้ 6 เดือนละค่ะก่อนหน้านั้นเจสาบานเลยนะคะว่าไม่ได้คิดจะปกปิดแม้แต่เจเองยังไม่รู้ตัวเลยค่ะว่าท้องเลยอยากจะมาปรึกษาวางแผนการทำงานและเรื่องลาคลอดด้วยนะคะ”
“หา...แต่งงานเมื่อไหร่เงียบมากเลยนะเราพี่ไม่รู้เลยก็ว่าสาวๆสวยๆแบบนี้ทำไมถึงโสด”
“เจยังไม่ได้แต่งงานหรอกค่ะคือ...เจแยกทางกับพ่อของลูกก่อนที่จะรู้ตัวว่าตัวเองท้องซะอีก”
“เอ้า...แล้วบอกเขาหรือยังเขาควรมีส่วนในการรับผิดชอบนะลูกทั้งคนอย่าหาว่าพี่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของเราเลยนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะมันไปด้วยกันไม่ได้จริงๆแล้วอีกอย่างเจไม่อยากเอาเรื่องลูกมาผูกมัดเขาไว้ด้วยบางทีตอนนี้เขาอาจจะมีครอบครัวใหม่ไปแล้วก็ได้ที่เห็นและเป็นอยู่ตอนนี้ก็ไม่ได้แย่” ฉันโกหกคำโตใครจะกล้าบอกว่าท้องไม่มีพ่อไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นพ่อของลูกในท้องแต่ก็อย่างที่บอกเกิดเขามีครอบครัวอยู่แล้วล่ะฉันไม่ดูเลวยิ่งกว่าเหรอ
“เอาล่ะแต่มีอะไรก็บอกพี่ได้เสมอนะอย่าเกรงใจแล้วกำหนดคลอดเมื่อไหร่เตรียมตัวหรือยังแล้วคนอื่นๆในแผนกรู้ไหมตายแล้วนี่พี่กำลังใช้งานคนท้องอยู่หรือเปล่าเนี่ย”
พี่ปุ้ยวางมือทาบอกทำหน้าตาตกใจเพราะอย่างที่บอกว่าก่อนหน้านี้บริษัทเร่งโปรเจกต์ให้เสร็จตามเดดไลน์จนทำโอทีกันหลายวันติด
“เจยังไม่กล้าบอกใครเลยค่ะมาบอกพี่ปุ้ยก่อนรอพี่ๆอีก 2 คนกลับมาจากญี่ปุ่นค่อยคุยทีเดียวดีกว่าค่ะ ส่วนเรื่องคลอดถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดกำหนดคลอดราว ๆ ต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ค่ะ เจจะลาคลอดสัก 3 เดือนแต่ในระหว่างนี้ก็สามารถทำงานที่บ้านได้นะคะ”
“โอ๊ยเจ...อย่าห่วงเรื่องงานเลยห่วงเรากับลูกเถอะตัวคนเดียวด้วยเรื่องงานไม่มีปัญหาอะไรเลยความจริงงานแบบเราทำที่ไหนได้ด้วยซ้ำเอาเป็นว่าคลอดอะไรเสร็จหลัง 3 เดือนค่อยว่ากันจะทำที่บ้านหรืออะไรยังไง”
“ขอบคุณมากๆค่ะพี่ปุ้ย”
“แล้วเจจะขอลาพรุ่งนี้นะคะมีนัดตรวจเบาหวานค่ะ”
สำหรับคุณแม่ที่ไม่มีประวัติเป็นเบาหวานมาก่อนควรได้รับการตรวจคัดกรองเบาหวานอย่างน้อยหนึ่งครั้งระหว่างตั้งครรภ์วิธีการตรวจอาจแตกต่างกันบ้างในแต่ละที่แต่ที่ใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันคือการตรวจด้วยการดื่มน้ำตาล 50 กรัมคุณแม่อาจงดหรือไม่งดอาหารและน้ำแล้วแต่ที่มาดื่มน้ำตาลที่โรงพยาบาลเสร็จรอเจาะเลือดหลังจากนั้น 1 ชั่วโมงถ้าผลเลือดผ่านก็จบแค่นั้นส่วนเกินเกณฑ์ต้องตรวจขั้นตอนถัดไปโชคดีที่ผลตรวจของฉันผ่านฉลุยพออายุครรภ์ 28 สัปดาห์ขึ้นไปก็จะเปลี่ยนมานัดทุกสัปดาห์
เคอิกรุป ประเทศญี่ปุ่น“เพราะอะไรถึงกลายเป็นผู้ชายสองคนที่มาศึกษาดูงานในครั้งนี้เกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นแล้วทำไมปภาดาถึงไม่มาเธอถือว่าเป็นพนักงานใหม่ควรจะนั่งอยู่ที่นี่ไม่ใช่คนที่เคยมาแล้ว...”“ขออภัยค่ะท่านประธาน” เลขาสาวตอบเสียงสั่น“ทาง LEO GROUP แจ้งมาว่าเธอป่วยไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานได้จึงส่งสองคนนี้มาแทน”“ขออภัยอีกครั้งค่ะ” เลขาตอบพร้อมโค้งคำนับอยู่กับที่“เอาล่ะ...ไม่ใช่ความผิดของคุณออกไปได้”“ป่วยเหรอ...ช่างเถอะ” ริวอิจิไม่คิดจะใส่ใจอีกเพราะแฟ้มตรงหน้าที่กองสูงพะเนินให้เขาต้องอ่านอย่างละเอียดและจรดลายเซ็นลงไปอยู่หลายแฟ้มอีกทั้งอาการป่วยที่เป็นอยู่หายไปปลิดทิ้งหลังครบ 3 เดือนเหมือนโปรแกรมที่ถูกตั้งเวลาไปหาหมอก็ไม่เจอสาเหตุนอนซมกินอะไรไม่ได้นอกจากกะเพราไรส์ซึแถมอาหารการกินต้องเปลี่ยนใหม่หมดชาที่เคยดื่มทุกวันอย่าง ‘ซีลอน’ ต้องเปลี่ยนมาเป็น ‘ชาจัสมิน’ ไม่รู้ว่าร่างกายเขาเสพติดอะไรกับกลิ่นของดอกมะลิมากมายห้องนอนห้องทำงานรวมถึงในรถต้องเปลี่ยนมาใช้กลิ่นนี้หมดกระเพาะก็ดูจะแข็งแรงขึ้นกินเผ็ดได้เยอะขึ้นจนคนรอบข้างยังแปลกใจเดือนหน้ามีงานที่ยุโรปหล่อและรวยแบบเขาไม่ควรมานั่งจมจ่อมอยู่ก
คอนโดเล็ก ๆ สองห้องนอนแห่งนี้บนพื้นกลับเต็มไปด้วยกล่องพัสดุและถุงเสื้อผ้า รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ที่ฉันไปเดินเลือกซื้อมาก่อนหน้า จัดการจัดแจงทำห้องให้เจ้าตัวเล็ก นี่แหละนะที่เขาเรียกว่ารักตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า วันหยุดของฉันหมดไปกับการจัดแต่งห้อง ซักเสื้อผ้าเตรียมไว้ให้เจ้าตัวเล็กในท้องที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ ไม่รู้ว่าจะให้ชื่ออะไรดี รวมไปถึงชื่อเล่น เพราะการอยู่คนเดียวอาจมีเรื่องฉุกเฉินเกิดได้ตลอดเวลาฉันเลยปรึกษาคุณหมอที่ฝากท้องด้วยเรื่องเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อีกทั้งได้บอกกล่าวกับรปภ.ที่ทำหน้าที่อำนวยความปลอดภัยอยู่หน้าตึก บางทีฉันอาจปวดท้องคลอดกลางดึกอะไรทำนองนั้น อีกทั้งฉันไม่อยากไปนอนแหง็กรออยู่ที่โรงพยาบาล ฉันตั้งใจว่าจะคลอดธรรมชาติ เพราะว่าฟื้นตัวได้เร็ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นกับดุลยพินิจของหมอละกัน หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น พอจัดของเสร็จสรรพก็มานั่งจิบน้ำส้ม เปิดดูรายชื่อจากหนังสือตั้งชื่อเด็กพร้อมความหมาย อาจเป็นเพราะว่าเหนื่อยมาทั้งวันหรืออย่างไรไม่ทราบ ร่างบางของคุณแม่ยังสาวก็ผล็อยหลับที่โซฟาทั้งอย่างนั้นอีกฟากหนึ่งของซีกโลกริวอิจิเองก็นั่งซังกะตายอยู่ที่โซฟาภายในห้องสูทของโรงแ
หลังจากที่บริษัทเงียบเหงามานานเพราะสายเม้า สายชวนตี้อย่างเอแคร์ต้องไปศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น แผนกของเราก็เงียบเหงาลงไปอย่างมาก ประจวบกับที่หน้าท้องของฉันเองก็เริ่มนูนออกมาจนเห็นได้ชัด เสื้อผ้าชุดกางเกงก่อนหน้าก็เปลี่ยนมาเป็นชุดคลุมท้องที่ยาวจนถึงน่อง แล้วสวมทับด้วยเสื้อคลุมอีกที เพราะเป็นท้องแรกและฉันเองก็มีรูปร่างที่ผอมอยู่แล้ว จึงดูไม่เหมือนคนท้องสักเท่าไหร่ แม้น้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้นแต่รูปร่างกลับไม่ได้อ้วนขึ้น คิดว่าน่าจะลงพุงเสียมากกว่า ตอนนี้ก็กินมากไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน เพราะเจ้าตัวน้อยในท้องก็โตวันโตคืนเริ่มเบียดกระเพาะอาหาร รวมไปถึงอวัยวะต่าง ๆ พี่ ๆ ในทีมที่ผ่านการมีลูกมาก่อนอย่างพี่สจี พี่น้ำตาล รวมไปถึงพี่ปุ้ยพี่รู้ข่าวต่างก็ตกใจที่ฉันท้อง เอาจริงฉันก็ขอโทษขอโพยพี่ ๆ ในทีม แถมยังรู้สึกผิดมาก ๆ คล้ายกับว่าปกปิดกับบริษัทเรื่องที่ฉันท้องก่อนทำงานความจริงฉันไม่รู้ตัวว่าตัวเองท้องด้วยซ้ำเฮ้อ! หลังจากนั้นก็เหมือนแต่ละคนแต่ละฝ่ายรวมไปถึงฉันต่างวางแผนการทำงานใหม่รวมไปถึงการลาคลอดอีกทั้งยังต้องหาพี่เลี้ยงเด็กเพิ่มอีกคน…ดีที่พี่สจีมีคอนแทกต์พี่เลี้ยงที่เคยดูแลลูกแกมาให้แถมยังรับรอ
“ค่า/ครับ” ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานตรงหน้าให้เสร็จแม้จะรู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองอยู่ทางด้านหลังของใครบางคนก็ตามแต่ฉันเลือกที่จะไม่ใส่ใจเพราะยังไงก็ต้องมีคนอดใจไม่ไหวเอ่ยปากถามขึ้นมาก่อนแน่ๆส่วนฉันนั้นก็จะตอบคำถามในขอบเขตที่ตอบได้และไม่รู้สึกลำบากใจ และก็เป็นอย่างที่คิดเมื่อพักเที่ยงฉันก็บิดขี้เกียจก่อนจะเก็บของทำท่าจะลุกขึ้นแต่เหมือนว่าภพจะตั้งท่ารออยู่แล้ว“เจ”“หือ”“ไปทานข้าวด้วยกันไหม”“อ้อ…ได้สิ”“ภพอยากกินอะไรเจอะไรก็ได้” ฉันถามอย่างเป็นกันเองแม้ว่าก่อนหน้าพวกเราจะไม่เคยไปทานข้าวด้วยกันสักครั้งก็ตาม “แล้วแต่เจแล้วกัน” ฉันเลยเลือกร้านอาหารตามสั่งที่คนไม่พลุกพล่านแถมยังคิวไม่เยอะเพราะแถวนี้เป็นย่านออฟฟิศบางบริษัทก็กำหนดให้พักเที่ยงตอนสิบเอ็ดโมงหรือบ่ายโมงเพื่อแก้ปัญหาเรื่องความแออัดและจำนวนร้านอาหารไม่ได้มากพอที่จะรองรับพนักงานหลายร้อยชีวิตที่นี่ เขียนเมนูที่อยากทานก่อนเอ่ยถามคนตรงข้าม “ภพจะเอาอะไร”“เอาเหมือนเจนั่นแหละง่ายดีเร็วด้วย” ฉันพยักหน้าก่อนจะส่งชื่อเมนูให้พนักงานเสิร์ฟก่อนจะก้มหน้าดื่มน้ำเปล่าตรงหน้าฉันสูดหายใจก่อนจะเอ่ย “ภพมีอะไรอยากจะถามเจหรือเปล่าถามได้ไม่ต้องเก
ริวอิจิจ้องมองแผ่นหลังบางนั้นอย่างไม่วางตาพร้อมกับบัตรนักศึกษาที่เขากำลังถืออยู่ในมือ อีกทั้งยังมีรูปถ่ายติดไว้อีกด้วย ไม่ถึงหนึ่งปีไม่น่าเชื่อว่าหญิงสาวในรูปกับตัวจริงจะแตกต่างกันถึงเพียงนี้ ในรูปก็ถือว่าดูดี แต่ทว่าตัวจริงเพียงแค่ด้านข้างก็จัดได้ว่าสวย เขาไม่ทันได้สังเกตอย่างอื่นเพราะสาวเจ้าสะพายกระเป๋าผ้าไว้ด้านข้างพอดี แต่ที่ริวอิจิยังติดใจไม่หายตรงชายหนุ่มข้างกาย ไม่รู้ว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์ใดกันอยู่แน่ อีกอย่างถึงแม้เขาจะเป็นคนเจ้าชู้คาสโนว่าแต่เขาก็เลือกกินเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนที่มีเจ้าของอยู่แล้วอย่างแน่นอนเขาละสายตาที่มองตามอีกฝ่ายจนหายลับไปกับมุมตึกก็กลับมามองบัตรในมืออีกครั้งก่อนจะเสียบไว้ในกระเป๋าหน้าอกของตัวเองพี่นุ้ยย้ำนักย้ำหนาว่าต้องตรงต่อเวลาเพราะท่านประธานเป็นคนตรงต่อเวลาฮัลโหล! นี่มันเลยเวลามาเกือบสิบนาทีอยู่แล้วอีกอย่างฉันต้องทำหน้าที่ล่ามด้วยเพราะระหว่างที่ฉันลาคลอดจะมีน้องฝึกงานเข้ามาทำหน้าที่แทนตรงนี้พอดีซึ่งจะมาในวันจันทร์หน้าอีกสามวันนับตั้งแต่วันนี้ฉันจะต้องทำหน้าที่ล่ามพ่วงด้วยอีกหนึ่งตำแหน่งแม้ว่าภพและเอแคร์พอจะพูดญี่ปุ่นได้บ้างก็ตามเซ็งชะมัดฉันก้มม
อะไรวะ! ไปกินรังแตนที่ไหนมา ก่นด่าในใจยังไม่จบประโยคก็เห็นคุณเลขาเดินออกไปเสียแล้ว เหลือเพียงฉันกับท่านประธานที่ไม่แม้แต่จะเอ่ยแนะนำตัวอย่างเป็นกันเองเอาว่ะเป็นไงเป็นกันฉันเงยหน้าพร้อมกับส่งยิ้มการเมืองไปให้พร้อมกับเอ่ยแนะนำตัว “สวัสดีค่ะดิฉันปภาดาเป็นเจ้าหน้าที่แผนก System engineer และจะมาทำหน้าที่ล่ามในช่วงเวลาสามวันนี้ค่ะ”“สามวัน?” ฉันเริ่มใจชื้นเมื่อเห็นว่าอิตาประธานขี้เก๊กตอบสนองสักทีแต่สายตาที่มองมายังท้องของฉันก่อนจะทำท่ากอดอกนั้นหมายความว่ายังไงหรือว่าไม่อยากจ่ายเงินเดือนเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ช่วงลาคลอดป้ายบนโต๊ะที่เลี่ยมทองด้วยภาษาอังกฤษนั้นTAKEI RYUIJIฉันมองป้ายชื่อนั้นอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะเอ่ยตอบตามความจริงด้วยภาษาญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ“วันจันทร์หน้าจะมีล่ามคนใหม่มาทำหน้าที่แทนดิฉันค่ะ”“เพราะอะไร”“วันจันทร์ฉันลาหยุดไปหาหมอค่ะ”“คุณ…ท้อง?”“คะ” ฉันไม่แน่ใจกับคำถามของท่านประธานมากนักเลยเผลอโพล่งออกไป“ผมถามว่าคุณท้องเหรอครับ”“อ่า…ใช่ค่ะ” พอฉันตอบว่าใช่คล้ายกับเห็นว่าสีหน้าท่านประธานยิ่งย่ำแย่มีทั้งความโกรธปนตกใจก่อนจะแสร้งตีหน้าขรึมทำเหมือนไม่ได้แสดงมีหน้าเมื่อครู่ออกมาถ้าฉั
“ถ้าไม่มีอะไรดิฉันขอตัว” ฉันพูดพร้อมกับโค้งให้เขาสี่สิบห้าองศาเท่าที่สภาพร่างกายจะอำนวยเพราะติดพุงอะนะอย่างน้อยฉันก็โล่งใจที่ตามหาพ่อเด็กเจอสองเท้าที่กำลังจะหันหลังเดินเป็นอันสะดุดเมื่อได้ยินประโยคที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมา“งั้นก็จดทะเบียนสมรสกัน”“หา?” ฉันหน้าเหวอแถมยังอึ้งจนทำอะไรไม่ถูกนี่เขากำลังจะเล่นเกมพ่อแม่ลูกกันหรือยังไง“งั้นก็จดทะเบียนสมรสกับฉัน”“คุณบ้าหรือเปล่าจดทะเบียนสมรสนะไม่ได้เล่นขายของ”“ฉันไม่ได้บ้า” พอเห็นสีหน้าที่จริงจังของเขาฉันยกมือขึ้นกอดท้องตัวเองคล้ายกับแม่นกที่กางปีกปกป้องลูกนกด้วยสัญชาตญาณ“คุณเป็นถึงประธานบริษัทคุณมีเงินคุณจะมาติดใจอะไรกับเด็กคนนี้ถ้าคุณกลัวเรื่องสมบัติคุณร่างสัญญามาเลยก็ได้ฉันสัญญาว่าเด็กคนนี้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเคอิกรุปเป็นอันขาด…ถ้าคุณยังไม่พอใจงั้นเดือนหน้าฉันจะยื่นเรื่องลาออกจากที่นี่”“…” ริวอิจิไม่เข้าใจเขาอ่อนข้อให้แม่ของลูกขนาดนี้อีกทั้งยังเสนอให้จดทะเบียนสมรสกับเขาด้วยแถมอีกฝ่ายยังปฏิเสธหัวชนฝาผู้หญิงคนนี้มักน้อยเกินไปแล้ว“ผมไม่ใช่คนที่ไข่แล้วทิ้งยังไงผมก็ต้องรับผิดชอบ”“ฉันว่าคุณกลับไปคิดให้ถี่ถ้วนรอบคอบอีกสักคืนค่อยกลับมาคุยกันใ
พอเขาเห็นคอนโดฉันก็ตินั่นนี่บ่นมาตลอดทางบ่นเก่งยิ่งกว่าผู้หญิงอย่างฉันอีกสุดท้ายก็ต้องให้เขาเข้าห้องมาด้วย!“น้ำอยู่ในตู้เย็น” ฉันบอกก่อนจะนั่งเอนหลังอยู่บนโซฟาอีกอย่างเหมือนเท้าฉันจะบวมด้วยยิ่งเจ้าตัวเล็กใกล้คลอดฉันก็ยิ่งนอนไม่หลับกินไม่เท่าไหร่ก็จุกแถมยังต้องฉี่บ่อยมากกว่าเดิมการอยู่คนเดียวไม่ใช่ทางเลือกที่ดีก็จริงแต่ฉันไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนจึงได้แต่ต้องทำอะไรคนเดียวฉันหลับตาพักเหนื่อยโดยมีคนแปลกหน้าที่ได้ชื่อว่าเป็นท่านประธานบริษัทรวมไปถึงพ่อของลูกที่เดินไปทั่วก่อนจะได้ยินเสียงสวบสาบแก้วน้ำเย็นวางกระทบกับโต๊ะแก้วฉันลืมตาก็เห็นเขานั่งอยู่บนพื้นแถมยังจ้องขาฉันอยู่อย่างนั้น“จะทำอะไร” ฉันถามเสียงแข็ง“เท้าคุณบวมขนาดนี้คุณยังไปทำงานอีก”“ฉันยังไหวน่า”“คุณใช้ชีวิตที่ผ่านมายังไงเนี่ย” ฉันกำลังจะอ้าปากเถียงหุบปากฉับเมื่อฝ่ามืออุ่นกำลังยกขาของฉันไปพาดที่ต้นขาของตัวเองพร้อมกับบีบนวดให้ด้วยน้ำหนักมือที่พอดีไม่หนักไม่เบาจนเกินไป“คุณ!” ฉันทำท่าจะยกเท้าออกแต่กลับถูกเจ้าของฝ่ามือนั้นยึดเอาไว้“อย่าดื้อ”“คุณต้องการอะไร” ฉันกอดอกถามเขาด้วยความสงสัยพอได้ยินว่าฉันจะไม่จดทะเบียนสมรสกับเขาเด็ดขาดเ
จิรัติกรมางานแต่งเพื่อนชาวญี่ปุ่นด้วยความไม่คาดคิด ไม่คาดคิดว่าเพื่อนเขาจะสละโสดเร็วกว่าใคร ๆ ในรุ่น ก็แหงล่ะ…เจ้าชู้ประตูดินเสียขนาดนั้น แต่พอมาเจอเจ้าสาวในวันนี้ เขายังรับรู้ได้เลยว่าเพื่อนรักของเขามีความสุขในการแต่งงานครั้งนี้จริง ๆ แถมลูกชายยังน่ารักน่าชัง อ้วนท้วนสมบูรณ์เชียวนึกถึงตอนที่มาขอให้ช่วยรวบหัวรวบหางสาวเจ้าแล้วก็อดขำไม่ได้เพื่อนเขาถึงต้องลงทุนมากมายเพื่อทะเบียนสมรสฉบับเดียวแทนที่จะเป็นหญิงสาวคนนั้นที่ต้องอ้อนวอนขอทะเบียนสมรสจากริวอิจิน่ะส่งเพื่อนเข้าประตูวิวาห์พลันอดที่จะคิดถึงตัวเองไม่ได้…แล้วชีวิตคู่ของเขาจะเป็นแบบไหนเจ้าสาวจะเป็นใครแม้ว่าไม่เคยฉุกคิดเรื่องนี้ในหัวมาก่อนเลยก็ตามความคิดในหัวแตกกระเจิงเมื่อเจอใครบางคนคนคนนั้นที่ติดอยู่ในหัวของเขาแมวขโมย! สองแขนของปานประดับถูกกระชากอย่างแรงหลังจากที่เธอเพิ่งจะเรียงจานชามบนโต๊ะได้ไม่นาน“อะ” ฉันร้องเสียงหลงแถมยังต้องตกใจจนหน้าขาวซีดเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใครโลกมันจะกลมเกินไปแล้วอีกอย่างฉันเองก็คอยระมัดระวังตัวตลอด…“ไง” เขาถามด้วยใบหน้าราบเรียบแต่แววตากลับวาวโรจน์“คะ” ฉันตีเนียนแต่มือไม้เย็นจนเกือบจะถือถาดในมือไว้ไม
งานแต่งงานของฉันกับริวอิจิที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นการแต่งงานแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ศาลเจ้าแห่งหนึ่งในโตเกียว เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ ซึ่งคุณนายเคอิเป็นคนขอเอาไว้เนื่องจากเราแต่งงานที่ไทยกันมาแล้ว เลยอยากจะจัดงานแบบญี่ปุ่นบ้าง ฉันเลือกชุดกิโมโนสีขาว ส่วนเจ้าบ่าวเป็นสีดำ พิธีการค่อนข้างเคร่งครัดและเป็นระเบียบ แขกเหรื่อจะต้องยืนยันว่าจะมาร่วมงานเพราะชุดอาหารนับตามจำนวนคนและแพงมาก แม่เจ้า! รวมไปถึงของชำร่วยที่แขกเหรื่อจะเป็นคนเลือกเอง แต่สำหรับฉันพิธีการเรียบง่ายแต่กลับอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เหมือนเป็นการบอกกล่าวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าฉันจะมาเป็นสะใภ้ของที่นี่ ทุกคนให้การต้อนรับฉันอย่างดีไม่น่าเชื่อว่าฉันจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้งในสถานะที่แตกต่างออกไปในตอนแรกฉันมาเยือนโตเกียวด้วยวีซ่านักเรียนแต่พอมาอีกครั้งกลับมาในสถานะภรรยาของชาวญี่ปุ่นจัดงานเสร็จสรรพใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ฉันชอบความเรียบง่ายเลยไม่ได้จัดการฉลองที่โรงแรมอีกอีกอย่างเราก็มีลูกเล็กด้วยกระเตงออกงานทั้งวันคงเหนื่อยน่าดูที่สำคัญเจ้าเด็กอ้วนยังติดพี่เลี้ยงมากๆอีกด้วยพี่ไผ่เองตอนนี้ก็เปรียบเสมือนญาติอีกคนที่เข้าร่วมพิธีการในครั้ง
อีกทั้งฉันเองก็ขอร้องว่า…ไม่ต้องใส่ซองอะไรมาให้อีกอย่างทุกคนก็เสียสละวันหยุดมางานกันแล้วไหนจะเสื้อผ้าหน้าผมอีกแต่ทุกคนกลับมีของขวัญชิ้นเล็กชิ้นน้อยติดมือมาให้อยู่ดีคุณนายเคอิเองก็ยิ้มแช่มชื่นแม้จะมีอุปสรรคทางภาษาแต่เอแคร์เองก็พูดควบสองภาษาเพื่อให้คนทั้งงานเอนจอยไปด้วยกันแถมเพื่อนรักอย่างจิรัติกรเองก็มาร่วมงานด้วย“ไง” จิรัติกรเอ่ยทักเจ้าบ่าวข้างกายฉันพลางส่งของขวัญในมือให้“ขอบใจ” “งานสำคัญของนายทั้งทีฉันต้องมาอยู่แล้วน่า”“ยินดีด้วยนะครับคุณ…เอ่อ”“เจค่ะ”“ยินดีด้วยนะครับคุณเจ” “ขอบคุณมากค่ะ” แถมเขายังเข้ามาหยอกล้อเจ้าตัวน้อยที่นั่งหันหน้าบนเป้นั่งคาดเอวด้วยความเอ็นดู“นี่มันริวอิจิฉบับจิ๋วชัดๆ” เขาว่าพลางหัวเราะในคอแต่พลันสายตาก็เบิกกว้างเมื่อเห็นพนักงานที่คอยเติมอาหารและเครื่องดื่มในงาน“ขอตัวก่อนนะครับ” “ค่ะ” ฉันผายมือให้เขาเข้าไปในงานก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มลูกน้อยที่แทะยีราฟตัวสีเหลืองอย่างมันเขี้ยวโดยไม่รู้เลยว่าบริเวณหลังร้านคนสองคนกำลังมีปากเสียงกันอยู่ เพราะเน้นความเรียบง่ายห้าโมงเย็นทุกอย่างก็เป็นอันสิ้นสุดนิ้วนางข้างซ้ายของฉันและเขาต่างประดับด้วยแหวนแต่งงานที่เราต่างแลกแห
“แต่พี่ก็ดีใจนะ อย่างน้อยเจก็ไม่ได้ตัวคนเดียวเหมือนอย่างตอนแรก ให้ตาย! ตอนแรกพี่เป็นห่วงอยู่เหมือนกัน หลังคลอดเราจะอยู่ยังไงกันสองคน พอรู้ว่าน้องเจมีคนคอยดูแลพี่ก็เบาใจ” พี่น้ำตาลที่ผ่านการมีลูกเต้ามาก่อนเอ่ยพร้อมกับเดินมาตบต้นแขนให้กำลังใจฉันยิ้มทั้งน้ำตา“ขอบคุณนะคะแต่ยังไงก็ยังเป็นเจคนเดิมไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป” ทุกคนพยักหน้าให้ “วันหลังเอาอากิระมาให้พี่ๆอุ้มบ้างพวกเราจะได้กอดหอมตอนยังเด็กนี่แหละ” เอแคร์ว่า“โตขึ้นมาพี่สาวคนนี้จองตัวเป็นผู้จัดการดาราเลยนะคะ” บรรยากาศผ่อนคลายลงมากภพที่ยังพูดน้อยเหมือนเดิมเอ่ยเพียงสองสามประโยค“ยินดีด้วยนะเจ”“ขอบคุณนะภพ” จะว่าไปเขาเป็นคนแรกๆก็ว่าได้ที่รู้ว่าพ่อในท้องของผู้หญิงตรงหน้าเป็นใครเป็นการพบกันโดยบังเอิญไม่ว่าจะรถของหญิงสาวที่ท่านประธานคนใหม่ใช้อยู่เนืองๆไหนจะตอนที่คนทั้งสองไปซื้อของด้วยกันตอนแรกเขาทั้งตกใจและคาดไม่ถึง…ตอนแรกเขายอมรับว่าสนใจผู้หญิงคนนี้อยู่เหมือนกันแต่เหมือนเจ้าหล่อนก็ไม่เปิดโอกาสให้ใครหน้าไหนได้เข้าหามีกำแพงบางๆกั้นเอาไว้หากเธอไม่ท้องหรือมีครอบครัวไปเสียก่อนเขาก็ยังหวังว่าเราจะมีโอกาสได้สานต่อ…“แหมน้องภพมองตาละห้อยเชียวพ
ริวอิจิส่งข้อความมาบ้างแต่เราก็แทบไม่ได้คุยกันเลยตารางชีวิตแต่ละคนยุ่งสุดๆแต่แล้วความทรมานในการรอคอยก็สิ้นสุดลงเมื่อได้ยินเสียงกดออดที่หน้าห้องเมื่อเห็นในมอนิเตอร์ว่าเป็นใครฉันก็เปิดประตูให้อย่างเร็วรี่แม้ใบหน้าเขาจะเหนื่อยล้าสุดๆแต่กลับยิ้มแฉ่งเข้ามากอดและอุ้มฉันจนตัวลอย“ว้ายเล่นอะไรคะเนี่ย” ฉันแหวใส่เขาเมื่อถูกอุ้มจนเท้าไม่ติดพื้นแถมในตอนนี้เจ้าตัวน้อยเริ่มจะคว่ำแล้วคอกเด็กที่สั่งทำเอาไว้ก็ได้ฤกษ์ใช้เสียที“อากิระคุง” เสียงมาก่อนตัวริวอิจิที่สองมือหอบข้าวของพะรุงพะรังมามากมายก็ไม่ลืมที่จะรีบไปล้างมือหมายจะรีบมาอุ้มลูกชายแต่โดนฉันเบรกไว้ก่อน“ไปอาบน้ำก่อนดีกว่าคะ” พ่อหมาทำหน้าละห้อยเหงื่อไหลโทรมกายขนาดนั้นอีกอย่างเชื้อโรคก็เยอะด้วยกันไว้ดีกว่าแก้เครื่องฟอกอากาศทำงานอย่างเงียบเชียบบริเวณข้างๆคอกเด็กฉันรีบไปอุ้มเจ้าก้อนมาไว้แนบอกนั่งหันหน้าออก“ปะป๊ากลับมาแล้วดีใจไหมครับ” เจ้าก้อนดิ้นดุ๊กดิ๊กมือเท้าปัดป่ายกลางอากาศอย่างน่ารักฉันอุ้มเขาไม่กี่อึดใจอากิระคุงก็ถูกริวอิจิอุ้มไปฟัดในคอกเด็กสองพ่อลูกคุยกันงุ้งงิ้งอยู่นานสองนานส่วนฉันก็รีบกลับมาเคลียร์งานที่ค้างไว้ต่อพี่ไผ่เองก็เก็บของเตรียมต
“แค่ก แค่ก ๆ” เมื่อเขาถอนออก ฉันสำลักหน้าดำหน้าแดง อีตาบ้ากดมาได้! ฉันทำได้เพียงก่นด่าเขาในใจเท่านั้น ไม่นานแผ่นหลังก็แนบติดกับประตู ชุดนอนกระโปรงถูกถกมากองไว้ที่เอว ขาข้างหนึ่งพาดบนท่อนแขนแกร่ง ยืนอย่างหมิ่นเหม่เพื่อให้เขาตอกอย่างถนัดถนี่“อื้อ” ฉันครางเครือแทบไม่เป็นภาษาเข็มยักษ์นี้ไม่รู้ว่าจะทำให้ฉันหายไข้หรือว่าป่วยเพิ่มกันแน่ยิ่งเข้าสุดออกสุดอย่างนี้ฉันจิกเล็บกับต้นแขนเขาอย่างแรงเมื่อเอวสอบเร่งจังหวะไม่ว่าจะเสียงเฉอะแฉะของน้ำลายน้ำหล่อลื่นส่วนล่างที่เชื่อมต่อกันอยู่หรือเสียงเนื้อกระทบเนื้อต่างก็พาอารมณ์พุ่งทะยานสุดกู่ริมฝีปากจูบคลอเคลียกันไม่ห่างช่วงล่างเองก็เช่นกันฉันตบต้นแขนเขาเป็นเชิงให้เปลี่ยนท่าก่อนจะผลักเขาลงกับเตียงกว้างถอดชุดนอนทิ้งลงพื้นอย่างไม่ไยดีก้าวเข้าไปควบคี่กลายเป็นคนคุมเกมและจังหวะเสียเอง สองมือสอดประสานกันเพื่อให้ฉันพยุงตัวแถมเขายังกระเด้งเอวขึ้นมาตอบรับจังหวะของฉันอีกที “อึกอื้อ” เสียงปักปักของเนื้อกระทบเนื้อดังไปทั่วห้องนอนฉันหลับตาพริ้มคอเชิดแหงนเมื่อจุดกระสันถูกแทงย้ำๆอย่างไม่ปรานีย้ำๆจุดนั้นไม่กี่ทีฉันก็ตัวสั่นกระตุกหอบเสียงครางเครือเท้าแขนไว้ข้างศีรษะเขา
“แล้วฝั่งของคุณล่ะ” ฉันชั่งใจ…เพื่อนร่วมงานมีแค่ไม่กี่คน เพื่อนหลายคนที่เคยสนิทก่อนหน้าก็ห่างหายกันไปตามกาลเวลา จะร่อนการ์ดส่งไปให้ก็กะไรอยู่…ฉันค่อนข้างเป็นคนคิดมาก อีกอย่างไม่ค่อยได้ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันจู่ ๆ จะส่งการ์ดไปให้เขาจะหาว่าฉันอยากได้เงินใส่ซองไหมนะ“คิดอะไรขนาดนั้น”“ก็…”“ไม่รู้สิคะนอกจากเพื่อนร่วมงานแล้วก็คงไม่มีใครอีกอย่างญาติฝั่งพ่อแม่ก็ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้วค่ะตั้งแต่ท่านเสีย” เขาโอบกอดฉันเข้ามาในอ้อมแขน“แต่ตอนนี้คุณไม่ได้ตัวคนเดียวอีกแล้วนะมีผมอากิระแล้วก็แม่ผมที่เป็นหนึ่งในครอบครัวของคุณ”“ขอบคุณมากค่ะ” ฉันยิ้มตอบเขาด้วยใจจริงไม่น่าเชื่อว่าความบังเอิญความเมาหรือผีผลักในคืนนั้นที่ทำให้เราทั้งสองได้มาเจอกันได้มาใช้ชีวิตคู่ด้วยกันและสร้างครอบครัวที่อบอุ่นไปพร้อมกันตลอดกาลมีจริงหรือไม่…นั่นไม่ใช่คำตอบที่ฉันเฝ้าหาคำตอบอีกต่อไปเพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันเฝ้าหา…อยู่ตรงหน้านี้แล้วเราแพลนทุกอย่างไว้ล่วงหน้าหลังจากที่ริวอิจิกลับมาจากญี่ปุ่นก็จะจัดงานแต่งที่ประเทศไทยหลังจากนั้นค่อยกลับไปจัดที่ญี่ปุ่นต่อจะว่าปุบปับก็ไม่เกินจริงหลังจากนั้นไม่กี่วันฉันและเขาก็มาฟิตติ้งชุดเจ้
พอรู้ว่าต้นเดือนหน้าจะเริ่มงานตารางชีวิตของฉันก็ต้องจัดการใหม่หมดรวมไปถึงเวลาที่ให้พ่อของลูกด้วย“ทำไมไม่ลาหนึ่งปีไปเลยคุณจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่”“ไม่ดีกว่าค่ะฉันอยากทำงานไม่อยากแบมือขอเงินคุณ” ฉันพูดออกไปตามจริงใช้เงินเขามันก็ดีอยู่หรอกแต่อย่างว่า…เราต้องมีเก็บสำรองด้วยอีกอย่างฉันเพิ่งเริ่มชีวิตการทำงานได้ไม่ถึงปีเสียดายวิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาใช้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องกลายมาเป็นแม่คนเสียแล้ว “เป็นถึงคุณนายเคอิ” เขาพูดพร้อมกับบีบจมูกที่เชิดรั้นของฉันตอนนี้เจ้าหมูน้อยก็เข้าเต้าอยู่แถมมือป้อมๆนั้นยังกำของเล่นในมือไว้แน่น“เงินของคุณนี่คะไม่ใช่เงินฉันสักหน่อย” “แต่ผมเต็มใจให้คุณใช้นะ…ใช้เท่าที่คุณต้องการยังได้” ฉันมองค้อนเขา“ทราบค่ะว่าคุณรวย”“แถมยังหล่อเหลามากอีกด้วย” ชมเองชงเองเหลือจะเชื่อฉันรู้ว่าเขาน่ะรวยมากขนาดไหนแล้วยังไงล่ะ…เกิดวันไหนเขาหมดใจกับฉันขึ้นมาทวงเงินที่ฉันใช้ไปทำไงล่ะทีนี้…สมองพลันนึกถึงกรุปแม่บ้านที่ว่าขึ้นมาที่แม่บ้านคนไทยต่างประสบปัญหาต่างๆกับสามีชาวญี่ปุ่นแล้วการที่ฉันไม่ได้เอาแต่พึ่งพาเขามากเกินไปเพื่อเป็นการเหลือทางรอดให้กับตัวเอง “สัปดาห์หน้าผมจะกลับไปเคลียร์งา
“อะอ๊ะ” แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปขัดถูหลังให้เล่าเขาต้องการคนขัดหลังให้ที่ไหนต้องการรวบหัวรวบหางเหยื่อเสียมากกว่า…แต่จะว่าไปฉันก็เป็นเหยื่อที่เต็มใจให้ถูกกินซะด้วยสิหากเขาเป็นกองไฟฉันก็พร้อมจะเป็นน้ำมันให้มันเผาไหม้พวกเราสองคนไปพร้อมกัน แถมเจ้าหมูน้อยยังนอนหลับปุ๋ยในเปลอย่างฝันหวานเหมือนว่าเมื่อคืนพ่อลูกทำข้อตกลงอะไรกันเอาไว้อย่างนั้นเจ้าหมูน้อยรีบตื่นมาช่วยแม่หน่อยเร็ว!!!พ่ออากิระผิวปากออกจากห้องนอนมาในตอนเจ็ดโมงเช้าร่างกายไม่มีท่าทีเหนื่อยอ่อนไม่เหมือนแม่ของลูกที่แทบจะลืมตาไม่ขึ้นวันนี้เขาคงไปทำงานสายหน่อยรอจนกว่าพี่เลี้ยงลูกจะมาช่วยไม่ได้นี่นะก็แม่ของลูกสวยขนาดนั้นใครจะอดใจยั้งมือไหว…ก็อย่างที่เคยบอก…เราสองคนเข้ากันได้ดีดีมากเสียด้วยดีกว่าที่คิดไว้เสียอีก ;pเขาจัดแจงทำอาหารเช้าไว้ให้ภรรยาดูแลลูกน้อยเมื่อพี่เลี้ยงมาถึงก็แปะมือเปลี่ยนกะเขาออกไปทำงานก่อนจะออกจากห้องแวะไปดูคุณเขาเสียหน่อยอีกฝ่ายนอนหลับอุตุจะว่าไปสองแม่ลูกนอนท่าเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยนเขาหยิกจมูกที่เชิดรั้นของเธอเบาๆก่อนจะกระซิบที่ข้างหู “ผมไปทำงานก่อนนะอย่านอนตื่นสายล่ะ” ฉันงัวเงียแม้ว่าร่างกายจะอ่อนเปลี้ยแต่ยังไงลูก