Share

บทที่ 1042

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
แคว้นซีหนี่ว์

หูย่วนเอ๋อร์ได้รับจดหมายลับของเฟิ่งจิ่วเหยียน

โอวหยางเหลียนดูใส่ใจมาก ถามอย่างร้อนรน “นางพูดว่าอย่างไร?”

หลังจากหูย่วนเอ๋อร์อ่านจดหมายแล้ว ท่าทีเคร่งขรึมและซับซ้อน

นางเงยหน้าขึ้นมองอวหยางเหลียน บนใบหน้าชราของฝ่ายหลังเต็มไปด้วยความวิตกกังวล

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? นางจะกลับมาหรือไม่?”

หูย่วนเอ๋อร์ตอบ “แม่ทัพน้อยยังมีน้องสาวฝาแฝดคนหนึ่ง ชื่อเวยเฉียง นางอยากให้น้องสาวคนนี้มาแทนตนเอง นั่งตำแหน่งประมุขไปก่อน”

โอวหยางเหลียนฟังแล้ว สีหน้ายิ่งวิตกกังวล

“ทำเช่นนี้ได้อย่างไร? ตกลงกันแล้ว นางจะกลับมาเป็นประมุข นางจะให้ตัวปลอมคนหนึ่งมาได้อย่างไร?”

หูย่วนเอ๋อร์แก้คำพูดนาง

“ไม่ใช่ตัวปลอม เฟิ่งเวยเฉียงก็เป็นสายเลือดของตระกูลเฟิ่ง”

อวหยางเหลียนตำหนินาง

“ข้าจะไม่รู้ความสัมพันธ์นี้หรือ? ทว่า ให้คนมาแทน หากมีใครรู้...”

“เรื่องนี้ คนยิ่งรู้น้อยยิ่งดี” หูย่วนเอ๋อร์ขัดจังหวะที่นางกำลังพูด น้ำเสียงแน่วแน่ “ขอให้ภายในแคว้นนั้นไม่มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น ก็เพียงพอแล้ว แม่ทัพน้อยเป็นฮองเฮาแคว้นหนานฉี ยอมยังมีเรื่องสำคัญอื่นต้องทำ”

โอวหยางเหลียนถอนหายใจ

“อย่างไรนี่ก็ไม่ใช่แผนการที่ดีในระ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (7)
goodnovel comment avatar
Mintra Manutsa
อ่านต่อไม่ได้
goodnovel comment avatar
Nam Nam
เราก็คิดแบบนี้เหมือนกัน
goodnovel comment avatar
Orawin
ฮองเฮาช่วยได้ สนมเจียไม่ต้องกลัวนะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1043

    ปัง!ประตูใหญ่ตระกูลหลี่ถูกคนเตะเปิดออกพวกข้ารับใช้หันไปมองคนที่มาอย่างประหลาดใจ “เจ้า เจ้าเป็นผู้ใด!”มือเฟิ่งจิ่วเหยียนข้างหนึ่งจูงมือหยวนเจียเฉียว มืออีกข้างหนึ่งปล่อยชายกระโปรง ชักเท้าที่เตะประตูกลับมา ดวงตาที่เย็นชาโหดร้ายไม่พูดอะไรมาก ยกมือขึ้นมา ทหารข้างหลังบุกเข้าไปข้ารับใช้ตระกูลหลี่พยายามขวางรั้ง ก็ไม่เกิดประโยชน์“รีบไปเรียนใต้เท้า!”หยวนเจียเฉียวเห็นเช่นนี้แล้ว ในใจร้อนรุ่มนางมองใบหน้าด้านข้างของเฟิ่งจิ่วเหยียน พูดขึ้นมาอย่างร้อนใจ “ฮองเฮา ลูกของข้า...”เฟิ่งจิ่วเหยียนหันมามองนาง แววตาไม่แสดงออกถึงอารมณ์ใด“เขาจะไม่มีอันตราย”ไม่นาน อู๋ไป๋อุ้มเด็ก เดินผ่านฝูงคน มาถึงตรงหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนกับหยวนเจียเฉียว“นายท่าน เด็กคนนี้ว่าง่ายมาก ข้าน้อยเป็นคนแปลกหน้าอุ้มเขา เขาก็ไม่ร้องไห้ไม่โวยวาย”หยวนเจียเฉียวรีบรับลูกชายของตนเองมา ในดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตา ร่วงหล่นตกทีละเม็ดราวกับมุกนางจูบหน้าผากลูก ขอบคุณเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างตื้นตัน“ฮองเฮา ขอบพระทัย! ขอบพระทัยท่านที่ช่วยลูกชายของข้าไว้!”ทว่านางไม่เข้าใจ ฮองเฮารู้สถานการณ์ที่แท้จริงของนางได้อย่างไร?เพื่อความปลอด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1044

    ห้องลับในห้องหนังสือของตระกูลหลี่ มีคนตายวางอยู่หลายคนและยังเป็นหญิงสาวรูปงาม!พวกนางต่างนอนบนเตียงของตนเอง ดูแวบเดียว เหมือนเป็นศพเมื่อตรวจสอบดู ล้วนยังมีลมหายใจเฟิ่งจิ่วเหยียนรีบให้หมอมาตรวจรักษาทว่าในใจ มีความคิดคาดเดานางเคยเห็นแม่ของจางฉวน สตรีคนนั้นก็อยู่ในสภาพคนตายทั้งเป็น “นอนหลับ” นานหลายปีหลังจากหมอหลวงตรวจดูแล้ว เกิดจากพิษมนุษย์โอสถสตรีเหล่านี้ มีอาการคล้ายกับแม่ของจางฉวนหมอที่เมืองซาง ไม่เคยรู้จักพิษมนุษย์โอสถดังนั้น หมอจึงไม่ได้สรุปผลการตรวจอย่างชัดเจน“สตรีเหล่านี้มีร่องรอยการถูกวางยาพิษ ทว่าทักษะการแพทย์ข้าน้อยไม่ดี ตรวจไม่รู้ว่าเป็นพิษอะไร”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองการตกแต่งรอบ ๆ ภายในห้องลับนี้ เป็นม่านโปร่งสีแดงอบอุ่น งดงามมีเสน่ห์นางเสนอ “ฝ่าบาท ขอให้ทรงหาหมอสูติดี ๆ มาตรวจให้ละเอียดอีกครั้ง”เซียวอวี้ก็คิดเช่นนี้ห้องลับนี้ประหลาด ไม่มีทางมีไว้เพื่อเก็บคนตายทั้งเป็นเท่านั้นหลังผ่านไปคู่หนึ่ง หมอสูติมาถึงเฟิ่งจิ่วเหยียนสั่งให้บุรุษคนอื่นหลบไปเซียวอวี้ออกไปแล้ว เน้นย้ำให้นางระวังให้มากไม่ช้า การตรวจดูของหมอสูติมีผลสรุปแล้ว“ทูลฮองเฮา หญิงสาวเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1045

    เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่ได้มั่นใจอย่างเต็มที่“มนุษย์โอสถของตระกูลหลี่ ยังไงก็เป็นของพ่อหลี่หยวน”“ศิษย์พี่กับหลี่หยวนไปมาหาสู่กัน ไม่แน่ว่า ตอนที่เขามาตระกูลหลี่ แล้วบังเอิญเจออะไรบางอย่าง”ทว่าเรื่องเหล่านี้ จะว่าไปก็ล้วนเป็นเพียงความคิดของนางท่าทีเซียวอวี้เคร่งขรึม“คนตายทั้งเป็นเหล่านั้น สามารถอยู่ได้นานหลายปีขนาดนี้จริง ๆ หรือ?”นับจากพ่อของหลี่หยวนมาจนถึงหลี่หยวน อย่างน้อยก็หลายปีแล้วเฟิ่งจิ่วเหยียนก็สงสัยสิ่งนี้“ต้องรอวันที่ความจริงกระจ่าง จึงค่อยสามารถคลายความสงสัยได้”พูดอยู่ดี ๆ นางก็เปลี่ยนเรื่องพูด“ท่านจะสืบเรื่องนี้พร้อมกับหม่อมฉันจริง ๆ หรือ? ราชกิจในวัง ไม่ส่งผลกระทบหรือ?”เซียวอวี้ตอบนางอย่างจริงจัง“แผ่นดินไม่มีกษัตริย์ไม่ได้ ทว่าไม่ได้กำหนดให้กษัตริย์ต้องเฝ้าอยู่ในวัง ยิ่งต้องไปเยี่ยมเยียนราษฎร ทำความเข้าใจความเป็นอยู่ของประชาชน ถึงสามารถปกครองแผ่นดินได้ดียิ่งขึ้น”“นับจากที่เราขึ้นครองราชย์ ออกมาเยี่ยมเยียนราษฎรน้อยครั้งมาก”“ที่ผ่านมาแผ่นดินวุ่นวาย ราชสำนักจัดสรรงบประมาณ บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย ตลอดการเดินทางมาทางเหนือในครั้งนี้ จับกุมตัวขุนนางทุจริตเป็

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1046

    หลังจากผ่านไปครึ่งเดือนเซียวอวี้พาเฟิ่งจิ่วเหยียนมาถึงหมู่บ้านจู๋ซานหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ เป็นสถานที่ตั้งรังมนุษย์โอสถตอนที่เมิ่งสิงโจวเคยสืบ และก็เป็นสถานที่เซียวอวี้ เคยช่วยชีวิตหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ในตอนนั้นหมู่บ้านจู๋ซานอุดมไปด้วยหน่อไม้ช่วงฤดูหนาว ซึ่งมีหน่อไม้ฤดูหนาวอยู่มากมายตามท้องตลาด เห็นพ่อค้าแม่ค้าขายหน่อไม้ฤดูหนาวอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งพอดี เฟิ่งจิ่วเหยียนมีสหายยุทธภพคนหนึ่งอยู่ในหมู่บ้านจู๋ซาน จึงไปเยี่ยมเยือนนางไม่คิดจะพาเซียวอวี้ไปด้วยอย่างไรคนในยุทธภพ ส่วนใหญ่ไม่ชอบคบหากับคนราชสำนัก ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นถึงฝ่าบาทเซียวอวี้รู้ว่านางมีสหายมากมาย จึงไม่พูดอะไรนางไม่อยากพาเขาไป เขาจะแอบตามไปไม่ได้หรือ?ดังนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนเพิ่งออกไป เซียวอวี้ก็แอบตามไปแล้วตามมาจนถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งเขากับเฉินจี๋หลบอยู่ข้างหลังต้นไม้ เห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนเข้าไปในบ้านชาวนาหลังหนึ่งเฉินจี๋เห็นฝ่าบาททำตัวเหมือนโจร ก็ถามด้วยเสียงเบา“ฝ่าบาท ท่านต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรือ?”บอกกับฮองเฮาโดยตรง ๆ ว่าเขาก็อยากตามไปด้วย ก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ?สีหน้าเซียวอวี้เคร่งขรึม“เราเป็นห่วงค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1047

    เซียวจั๋วหวังดีมาเปิดสำนักศึกษาเอกชนในหมู่บ้าน ตอนนี้มีลูกศิษย์เพียงคนเดียวออกจากบ้านวันนี้ ก็คือรีบไปรับสมัครนักเรียนกลับตกอยู่ในสภาพใครเห็นใครก็รำคาญเวลานี้ เขาก็รู้สึกท้อใจอยู่บ้างเซียวอวี้ดูด้วยความสนุกสนานอย่างไม่กลัวเรื่องใหญ่ ไล่ถามเฟิ่งจิ่วเหยียน“เหตุใดพวกเขาถึงรำคาญเขา?”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจังงานเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงกำลังคึกคัก พาลูกคนอื่นไปยังสำนักศึกษาเอกชน เท่านี้ก็ช่างเถอะ เขาใช้ไข่ไก่หลอกล่อเด็ก หลายครั้งที่ทุกคนในหมู่บ้านเห็นเป็นคนค้ามนุษย์“ให้ผลงานภาพวาดประดิษฐ์ตัวอักษร เด็กในหมู่บ้านดูไม่รู้เรื่อง นำไปใช้ก่อไฟ ถูกเขาเทศนาเหมือนสวดมนต์“สร้างสำนักศึกษาเอกชนมาถึงตอนนี้ มีนักเรียนเพียงคนเดียว ยังมาเพราะเห็นแก่ไก่ที่เขาเลี้ยงไว้ จนถึงตอนนี้ยังไม่รู้ตัวหนังสือสักตัว ทว่าเนื้อกลับเพิ่มขึ้นไม่น้อย...”เซียวจั๋วยกมือข้างหนึ่งกุมหน้าผาก“ขอร้องท่านไม่ต้องพูดแล้ว”เซียวอวี้หันไปมองเซียวจั๋ว ท่าทีแลดูเจ็บใจที่ไม่สามารถหลอมเหล็กให้กลายเป็นเหล็กกล้าได้อย่างน้อยก็เป็นคนตระกูลเซียวของเขา กลายเป็นสภาพเช่นนี้ได้อย่างไรเพิ่งพูดเสร็จ เด็กอ้วนท้ว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1048

    แววตาเฟิ่งจิ่วเหยียนเยือกเย็น ในสมองปรากฏศพไม่ครบถ้วนของศิษย์พี่ถึงแม้ไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง ก็สามารถนึกภาพจากการบอกเล่าของอาจารย์ความน่าสยดสยองนั้น...นางหันไปมองเซียวอวี้ น้ำเสียงแหบแห้ง“ระวังหน่อย อย่างไรก็ไม่ผิด”“ที่สำคัญคือ หม่อมฉันไม่อยากให้คนอื่นที่ไม่รู้เรื่องเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง”สภาพของศิษย์พี่ เป็นการเตือนหากนางไม่มีความสามารถปกป้องทุกคน ก็ไม่ควรที่จะเปิดเผยเรื่องราวออกไปเซียวอวี้ฟังนางอธิบาย แล้วก็ยื่นแขนออกไปโอบกอดนางไว้“แม่หญิงของเราช่างเป็นคนมีจิตใจเมตตา”……ในโรงพักแรมทั้งสองคนทานมื้อค่ำแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนพูด “หม่อมฉันได้ให้ตงฟางซื่อเดินทางมา ถึงตอนนั้นให้ท่านบอกเล่ารูปลักษณ์ของคนนั้น”ต่อให้เซียวอวี้จำได้เพียงรูปลักษณ์คนนั้นคลุมหน้า ตงฟางซื่อก็สามารถวาดภาพได้อย่างคร่าว ๆ เซียวอวี้คิดถึงผู้เฒ่าผมขาวในตอนกลางวันคนนั้น พร้อมถามเฟิ่งจิ่วเหยียนเหมือนไม่ได้ตั้งใจ“เหล่าสวี่คนนั้น เป็นใครหรือ? เจ้ารู้จักกับเขาได้อย่างไร?”คนที่อายุมากแล้วคนหนึ่ง แลดูไม่มีอะไรพิเศษ ไม่เหมือนคนในยุทธภพเฟิ่งจิ่วเหยียนเล่าตามตรง“เขาเป็นนักตีดาบคนหนึ่ง ตอนที่หม่อมฉัน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1049

    โครม!ช่วงที่กลไกถล่มลงมา ทุกคนต่างหนีกันไม่ทัน จึงร่วงลงมาที่พื้นด้านล่างอู๋ไป๋จับเฉินจี๋แน่นตั้งแต่ต้นยันจบ คนทั้งสองจึงตกลงมาด้วยกันสิ่งแรกที่เฟิ่งจิ่วเหยียนทำก็คือยืนให้มั่นคง จากนั้นนางก็เปิดตะบันไฟตามหาเซียวอวี้เหล่าองครักษ์ที่เหลือก็ตอบสนองด้วยการลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว“คุ้มครองฝ่าบาทและพระนาง!”เฟิ่งจิ่วเหยียนหาเซียวอวี้พบเป็นคนแรก อย่างไรจุดที่สองคนตกลงมาก็อยู่ไม่ห่างกันนางพยุงเขาขึ้นมา แล้วเป็นห่วงว่าเค้าจะบาดเจ็บหรือไม่เป็นอย่างแรกเซียวอวี้สงบนิ่งเป็นอย่างมาก“ไม่เป็นไร”“นั่นเป็นเพราะว่าท่านทับข้าน่ะสิ” เซียวจั๋วค่อย ๆ ลุกขึ้นเซียวอวี้ : ?เฟิ่งจิ่วเหยียนมองสำรวจไปรอบ ๆ ทันที นางอยากรู้ว่าที่นี่คือที่ไหน แล้วจะออกไปได้อย่างไรแสงจากตะบันไฟของหลาย ๆ คนรวมอยู่ด้วยกัน ทำให้ข้างล่างนี้สว่างขึ้นบ้างเซียวอวี้นึกขึ้นได้จึงพูดกับเฟิ่งจิ่วเหยียน“ที่นี่คือรังมนุษย์โอสถ เรารู้ว่าทางเข้าอยู่ไหน หลังจากเข้าไปในถ้ำ เดินตรงเข้าไปด้านใน จะมีบันไดลับจุดหนึ่งลงไปด้านล่าง นึกไม่ถึงว่าด้านบนจะมีกลไกด้วย”รังมนุษย์โอสถถูกราชสำนักทำลายทิ้งแล้ว ทว่าก็ยังเหลือสิ่งของเดิมอยู่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1050

    เลี่ยอู๋ซินร่างกายบาดเจ็บสาหัส ยืนได้ไม่นานเซียวอวี้จึงอนุญาตให้เขานั่งพูดองครักษ์ประคองเขาให้นั่งลง เขาพูดตอบ “ตอนนั้นกระหม่อมกับสิงโจวสืบคดีมนุษย์โอสถด้วยกัน เขาถูกคนชั่วทำร้ายจนตาย หลายปีมานี้กระหม่อมจึงซ่อนตัวและคอยสืบคดีนี้อย่างลับ ๆ มาตลอด “ทว่า...แค่ก คนพวกนั้นซ่อนตัวดีเกินไป” เลี่ยอู๋ซินบาดเจ็บสาหัส พูดได้ไม่กี่ประโยคก็ไอ เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง “ถ้าเช่นนั้นเบาะแสที่เจ้าสืบพบคงมีน้อยมากสินะ?” เลี่ยอู๋ซินพยักหน้า “พ่ะย่ะค่ะ” “เช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึงกลับมาที่นี่?” เซียวอวี้จี้ถามเขา เลี่ยอู๋ซินตอบ “พอหาเบาะแสใหม่ไม่เจอ กระหม่อมจึงได้แต่กลับมาที่นี่แล้วเริ่มตรวจสอบใหม่อีกครั้ง สองวันก่อนตอนที่กระหม่อมเพิ่งจะมาถึงที่นี่ ก็โดนกลไกจนตกลงมา “โชคดีที่พกอาหารแห้งติดตัวมาด้วย จึงไม่ถึงกับอดตาย “เพียงแต่บาดเจ็บสาหัสไปเสียหน่อย หากพวกพระองค์ไม่ได้เข้ามาและช่วยเหลือกระหม่อมเอาไว้ เกรงว่ากระหม่อมคงได้ตายที่นี่แล้วพ่ะย่ะค่ะ” ขณะที่พูด ราวกับว่าเขากำลังจมเข้าสู่ความทรงจำ เขาเงยหน้ามองขึ้นไปข้างบน “ตอนนั้นกระหม่อมกับสิงโจวพลัดหลงกันตรงนี้ เพื่อที่จะช่วยก

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1138

    คำพูดของเฟิ่งจิ่วเหยียน กระตุ้นให้มู่หรงจ่างจี๋เผยธาตุแท้ออกมาอย่างหมดเปลือก เขาจับกรงประตูคุก ราวกับอยากฉีกคนที่ยืนอยู่ข้างนอกออกเป็นสองท่อน “เจ้าคนต่ำช้า! กล้าสาปแช่งไท่จู่อย่างนั้นรึ!” “หากไม่ใช่เพราะปฐมจักรพรรดิต่อสู้ก่อตั้งแผ่นดินนี้ขึ้นมา พวกเจ้ายังจะมีวันนี้ได้หรือ? “โดยเฉพาะเจ้า! เจ้าเด็กสกุลเซียว! หากเจ้ายังอยากให้ไท่จู่มีชีวิตอยู่ ก็รีบปล่อยข้าไปเสีย!” สีหน้าเซียวอวี้เยือกเย็น แววตาสงบนิ่ง “ปฐมจักรพรรดิ ตอนนี้อยู่ที่ใด” มู่หรงจ่างจี๋ไม่เชื่อใจเขา “ปล่อยข้าออกไป! มิฉะนั้น เจ้าจะกลายเป็นคนทรยศต่อแผ่นดิน!” น้ำเสียงเซียวอวี้สงบใจเย็น อดกลั้นอารมณ์ขุ่นเคืองไว้“หากไท่จู่ยังมีชีวิตอยู่ ย่อมเป็นเรื่องดี ทว่า เจ้าต้องบอกเรา พระองค์อยู่ที่ใดกันแน่!” มู่หรงจ่างจี๋จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเซียวอวี้ เขาครุ่นคิดอยู่นาน ก่อนจะเอ่ยสถานที่ออกมาในที่สุด...ภูเขาลิ่วจื่อ ภูเขาลิ่วจื่อแห่งนี้ ตั้งอยู่ในเมืองหลวง เซียวอวี้รีบนำคนเดินทางไปด้วยตนเองทันที เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่วางใจ เกรงว่ามู่หรงจ่างจี๋จะวางกับดักหรือซ่อนกลไกไว้ในภูเขาลิ่วจื่อ ดังนั้น นางจึงตัดสินใจต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1137

    เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดต่อไป “ความผิดข้อที่สอง ลอบปลงพระชนม์เชื้อพระวงศ์” มู่หรงจ่างจี๋ปฏิเสธเสียงแข็ง “ฮ่าๆ... เจ้าเด็กโง่เขลา พูดจาเหลวไหล! ฝ่าบาท แม้นต้องการให้ข้าตาย ก็ไม่เห็นต้องใส่ร้ายกันถึงเพียงนี้กระมัง!” สีหน้าของเขาดูแน่วแน่ไม่หวาดหวั่น ทว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดตามตรง “คนที่เจ้าลอบสังหารคือ ผู้ใกล้ชิดปฐมจักรพรรดิในตอนนั้น” คำพูดนี้ แม้นแต่เซียวอวี้ยังต้องตกตะลึง มู่หรงจ่างจี๋เคยสังหารผู้ใดกัน? จิ่วเหยียนรู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร? เวลานี้ มู่หรงจ่างจี๋กลับเงียบสงบผิดปกติ สายตาจับจ้องเฟิ่งจิ่วเหยียน “ฝ่าบาทเคยตรัสถึงหายนะจากศิลาทิพย์ นับจากสถาปนาแคว้นหนานฉี เหล่าผู้ใกล้ชิดปฐมจักรพรรดิต่างล้มตายอย่างลึกลับ ในเวลานั้นทุกคนเชื่อว่า เป็นเพราะคำสาปของศิลาทิพย์ แต่แท้จริงแล้ว คนเหล่านั้นถูกเจ้ามู่หรงจ่างจี๋ทำร้ายต่างหาก!” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดออกมา นัยน์ตามู่หรงจ่างจี๋หดลงทันที น้ำเสียงของนางราบเรียบ ผู้คนรอบข้างกลับตื่นตระหนกร้อนรน “หากข้าคาดเดาไม่ผิด ตอนนั้นปฐมจักรพรรดิทรงประชวรนัก เจ้ามัวแต่แสวงหาวิธีเป็นอมตะ หลงมัวเมาในศาสตร์มาร ใช้เลือดของผู้ใกล้ชิดไท

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1136

    นักพรตอาวุโสคนนั้น เป็นนักพรตปลอมที่เฟิ่งจิ่วเหยียนจัดหามา เขาเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาจากแคว้นฉู่ ทว่ามีอายุยืนยาวสามร้อยกว่าปีเป็นเรื่องจริง ใช้แผนการนี้ เพียงเพื่อล่อตัวการของคดีมนุษย์โอสถ เพราะนางสันนิษฐานว่า เป้าหมายสูงสุดของคนผู้นั้น คือการมีชีวิตเป็นอมตะ ดังนั้น คราวนี้จะต้องประสบความสำเร็จให้จงได้ เฟิ่งจิ่วเหยียนใจเต้นระส่ำ กระสับกระส่ายไม่เป็นสุข เซียวอวี้พูดเตือนนาง “ยาเย็นหมดแล้ว ดื่มยาเสียก่อน” ……ค่ำคืนล่วงเลยไป มีข่าวจากข้างนอกวังมารายงาน...ตามหานักพรตอาวุโสคนนั้นเจอแล้ว เมื่อเซียวอวี้กับเฟิ่งจิ่วเหยียนได้ยินข่าวนี้ ต่างก็รู้ว่าต้องมีอีกข่าวหนึ่งตามมาด้วย “ฝ่าบาท พวกหยิ่นเอ้อร์ได้จับตัวคนร้ายไว้แล้วพ่ะย่ะค่ะ บัดนี้กำลังนำตัวไปยังคุกเทียนเหลาเพื่อสอบสวนพ่ะย่ะค่ะ!” อารมณ์เซียวอวี้กระวนกระวาย เขาร้อนรุ่มใจ อยากรู้ความจริงเป็นอย่างไรกันแน่ ไม่อาจทนรอจนถึงรุ่งสาง เขากับเฟิ่งจิ่วเหยียนรีบมุ่งหน้าไปยังคุกเทียนเหลาทันที ครึ่งชั่วยามต่อมา ภายในคุกเทียนเหลา พวกเขาได้เจอคนที่ลักพาตัวนักพรตอาวุโสเฒ่าไป และเป็นไปได้สูงว่านี่คือผู้อยู่เบื้องหลัง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1135

    ปลายเดือนสี่ คดีมนุษย์โอสถจบลงในที่สุด ผู้บงการตัวจริงคือมู่หรงสวี้ ส่วนคนอื่น ๆ ในตระกูลมู่หรงล้วนพ้นผิด เหล่าสมาชิกของขบวนการมนุษย์โอสถ ล้วนถูกตัดสินโทษประหาร รอการลงดาบในฤดูใบไม้ร่วง เมื่อข่าวแพร่ออกไป ชาวบ้านต่างพากันพูดถึงเรื่องนี้ไม่ขาดปาก “ในที่สุด เรื่องนี้ก็จบลงสักที!”“ศาลต้าหลี่ทำคดีเก่งกาจยิ่งนัก!” “เรื่องฉาวโฉ่ของตระกูลมู่หรงช่างมีมากมายจริง ๆ หากพูดว่าคนอื่น ๆ ในตระกูลไม่เกี่ยวข้อง ข้าไม่เชื่อเด็ดขาด” “ข้าก็คิดเช่นนี้ ไม่แน่มู่หรงสวี้อาจเป็นแค่แพะรับบาป!” อย่างไรเสีย เมื่อความจริงถูกเปิดเผย ทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง ไม่ต้องหวาดกลัวว่าจะถูกลักพาตัวไปทำมนุษย์โอสถอีกต่อไป ภายใต้แสงตะวัน ทุกสิ่งยังคงดำเนินไป ต้นเดือนห้า เมืองหลวงเกิดข่าวลือใหม่ ตามโรงน้ำชาและโรงสุรา ผู้คนต่างพากันพูดคุยถึงเรื่องที่กำลังเป็นที่สนใจ “พวกเจ้ารู้หรือไม่ เมื่อหลายวันก่อนมีนักพรตผู้หนึ่งเดินทางมาถึงเมืองหลวง บอกว่ามีวิชาทำให้มีชีวิตเป็นอมตะ ผู้คนพากันไปกราบไหว้จนธรณีประตูของเขาแทบพัง!” “ล้วนเป็นเรื่องเหลวไหล ในใต้หล้าจะมีชีวิตเป็นอมตะได้อย่างไรกัน” “ข้ายัง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1134

    เซียวอวี้ตามความคิดของเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ทัน เมื่อครู่ยังพูดถึงมู่หรงจ่างจี๋อยู่แท้ ๆ ทำไมตอนนี้ถึงวกไปพูดถึงปฐมจักรพรรดิได้? ทว่าเขาก็ยังตอบนาง “ไท่จู่ฝังที่สุสานตะวันออก” เพื่อป้องกันการถูกปล้นสุสาน สุสานปฐมจักรพรรดิมีทั้งหมดสิบสามแห่ง ล้วนมีเวรยามคอยเฝ้าปกป้องแน่นหนา ความจริง ทั้งสิบสามแห่งนั้นล้วนเป็นของปลอม สถานที่ฝังพระศพที่แท้จริง มีเพียงจักรพรรดิในแต่ละยุคเท่านั้นที่ล่วงรู้ เฟิ่งจิ่วเหยียนนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฝ่าบาท ทรงเปิดสุสานได้หรือไม่เพคะ?” เซียวอวี้ขมวดคิ้วทันที“ไม่ได้” ปฐมจักรพรรดิเสด็จสวรรคตไปนานแล้ว เขาจะทำลายความสงบของท่านได้อย่างไร เฟิ่งจิ่วเหยียนก็เข้าใจ คำขอนี้ทำให้เขาลำบากใจ ทว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความจริงของคดีมนุษย์โอสถ นางพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ผู้ที่ต้องการมีชีวิตอมตะที่แท้จริง อาจไม่ใช่มู่หรงจ่างจี๋ แต่เป็นปฐมจักรพรรดิ” เซียวอวี้ตกตะลึงอย่างมาก อ้าปากเล็กน้อย “จิ่วเหยียน เจ้าพูดจาเลอะเลือน “เจ้าหมายความว่า คนที่อยู่เบื้องหลังคดีมนุษย์โอสถ คือปฐมจักรพรรดิอย่างนั้นหรือ?” เรื่องนี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1133

    ก่อนหน้านี้เฟิ่งจิ่วเหยียนเคยสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับบันทึกบรรพบุรุษของตระกูลมู่หรง จึงเคยเห็นภาพวาดนี้มาก่อน ตามบันทึกกล่าวไว้ว่า ปฐมจักรพรรดิทรงขยายดินแดนรวบรวมแผ่นดิน โดยได้รับการสนับสนุนจากมู่หรงจ่างจี๋ที่ยอมสละยุทธสัมภาระ มู่หรงจ่างจี๋ในวัยเพียงสี่สิบ ดำรงตำแหน่งอัครเสนาบดีได้ไม่ถึงสามปี ก็จากโลกนี้ไปตลอดกาล ภาพบุคคลที่อยู่เบื้องหลังที่ตงฟางซื่อวาดขึ้นมาในตอนนี้ ใบหน้าคล้ายคลึงกับมู่หรงจ่างจี๋อย่างมาก เซียวอวี้ก็นำภาพวาดมาเทียบกัน เขามองภาพวาดในมือ แล้วก็มองภาพวาดที่บันทึกไว้ ถึงจะไม่เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว แต่ก็มีความคล้ายถึงเก้าส่วนจากสิบ! เขาสบตากับเฟิ่งจิ่วเหยียน “อาจเป็นเพียงคนหน้าคล้ายกัน หรือไม่ก็อาจเป็นบุตรนอกสมรสของตระกูลมู่หรงที่ถูกทอดทิ้งไว้ข้างนอก”อย่างไรก็ตาม เขาไม่เชื่อว่ามู่หรงจ่างจี๋จะยังมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนเดินทางท่องยุทธภพมานาน เคยพบเจอเรื่องราวประหลาดมามากมาย ที่แคว้นฉู่มีชายชราท่านหนึ่ง อายุมากถึงสามร้อยกว่าปี นักพรตอาวุโสของสำนักเทพยุทธ์ มีอายุยืนยาวถึงสองร้อยสิบเจ็ดปี แคว้นหนานฉีสถาปนาราชวงศ์มายาวนานกว่าสองร้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1132

    หลังจากที่เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ความจริงเรื่องที่เซียวอวี้รับนางกลับมา เป็นเพราะกลัวว่านางจะไปแคว้นซีหนี่ว์แล้วไม่กลับมาอีก ก็นิ่งเงียบอยู่นานขณะที่เซียวอวี้กำลังครุ่นคิดว่าจะยอมรับผิดอย่างไร จู่ ๆ นางก็จุมพิตเบา ๆ ที่ริมฝีปากเขาเขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเฟิ่งจิ่วเหยียนก้มลงจุมพิตเขาอีกครั้ง การกระทำดูนุ่มนวล เต็มไปด้วยความรู้สึกปลอบโยน“เรื่องนี้ไม่อาจตำหนิท่านได้ ท่านไม่เชื่อ เป็นเพราะหม่อมฉันให้ความเชื่อมั่นกับท่านไม่มากพอ“ถานไถเหยี่ยนมีทักษะในการพูด และมักจะทำให้คนหลงเชื่อได้ง่าย“ทว่า ฝ่าบาท หม่อมฉันจะบอกท่านให้ชัดเจนว่า ในใจของหม่อมฉัน ที่ที่มีคนในครอบครัวอยู่ ที่นั่นถึงจะเป็นบ้าน“ท่านเป็นสามีของหม่อมฉัน แม้จะไม่ใช่เครือญาติที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่ท่านเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตที่เหลืออยู่ต่อจากนี้ของหม่อมฉัน“ต่อให้แคว้นซีหนี่ว์จะดีเพียงใด ก็ยังไม่สำคัญเท่ากับท่าน”เซียวอวี้นิ้วมือสั่นเทา“จริงหรือ?”ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ จึงถามอีกครั้ง: “เราเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตเจ้าจริง ๆ หรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนถามกลับ: “ไม่ใช่ท่าน แล้วจะเป็นใครได้เพคะ?”เรื่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1131

    ในที่ประชุมเช้าเหล่าขุนนางที่ร่วมประชุมรู้สึกโกรธเคืองเป็นอย่างยิ่ง พากันเรียกร้องให้ตรวจสอบตระกูลมู่หรงอย่างเข้มงวด“ฝ่าบาท ในเมื่อได้สืบพบความผิดปกติภายในหอบรรพบุรุษของตระกูลมู่หรง อีกทั้งยังค้นพบรังมนุษย์โอสถที่จวนของมู่หรงสวี้ เช่นนั้นก็ต้องตรวจสอบคนอื่นในตระกูลมู่หรงอย่างเข้มงวดด้วย!” “กระหม่อมเห็นด้วย! จะต้องไม่ใช่การกระทำของมู่หรงสวี้เพียงผู้เดียวเป็นแน่ คนอื่น ๆ ในตระกูลมู่หรงต่อให้ไม่มีส่วนร่วมโดยตรง ก็มีความผิดฐานปกปิด! ความผิดฐานละเลยไม่ตรวจสอบ!”เริ่มต้นหลังจากเกิดความวุ่นวายที่วิหารบรรพบุรุษ ตระกูลมู่หรงก็ไม่ต่างจากสภาพของกำแพงที่คลอนแคลนและถูกผู้คนผลักให้ล้มลงตอนนี้คดีมนุษย์โอสถทำให้ขุนนางที่ไม่มีความผิดหลายคนถูกโยงเข้ามาเกี่ยวข้อง และสร้างความวุ่นวายจนทำให้ผู้คนตื่นตระหนก ทุกคนจึงสะสมความคับแค้นมาเป็นเวลานานในเมื่อสืบพบตัวการที่กระทำความผิด ก็ต้องลงโทษให้หนัก ถึงจะระงับความโกรธแค้นของราษฎรได้ดังนั้นแล้ว ตระกูลมู่หรงจึงถูกคุมขังทั้งตระกูลอีกครั้งครั้งก่อนก็มีบิดาของมู่หรงหลัน---มู่หรงเหลียนสละชีพปกป้องทั้งตระกูลครั้งนี้ โอกาสรอดชีวิตของตระกูลมู่หรงมีน้อยเห

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1130

    ณ ห้องทรงพระอักษร“ฝ่าบาท รุ่ยอ๋องและพระชายาถูกช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัยแล้ว! รุ่ยอ๋องกำลังรอเข้าเฝ้าอยู่หน้าประตูตำหนัก มีเรื่องสำคัญจะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ”ได้ยินเช่นนั้น เซียวอวี้จึงรีบสั่งให้รุ่ยอ๋องเข้ามาในตำหนักทันทีไม่นาน รุ่ยอ๋องก็มาถึงเขาทำความเคารพทันที: “กระหม่อม ถวายบังคมฝ่าบาท!”เซียวอวี้เห็นสภาพร่างกายและจิตใจของเขายังดีอยู่ ในใจก็คลายกังวลลงบ้าง“ปลอดภัยก็ดี”รุ่ยอ๋องสีหน้าดูคร่ำเคร่ง“ฝ่าบาท สาเหตุที่กระหม่อมถูกจับ เป็นเพราะพวกเขาต้องการเลือดของกระหม่อม นี่ทำให้กระหม่อมนึกถึงการตายของบิดา”เซียวอวี้กลับเพิ่งได้ยินเรื่องเช่นนี้เป็นครั้งแรกเขาจ้องมองไปที่รุ่ยอ๋อง “ต้องการเลือดของเจ้าเพราะเหตุใด? แล้วพวกเขาได้ไปหรือไม่?”รุ่ยอ๋องส่ายศีรษะ“กระหม่อมไม่รู้สิ่งใดเลย เพียงแต่สงสัยว่า คนที่สังหารบิดากระหม่อม และจับตัวกระหม่อม อาจจะเป็นพวกเดียวกัน”เซียวอวี้คิ้วขมวดแน่นความคับข้องใจที่ถูกใส่ร้ายของท่านอ๋องผู้เฒ่า เขาเข้าใจเป็นอย่างดีฮ่องเต้องค์ก่อนก็ทรงเสียพระทัยมาตลอดและเนื่องด้วยความผิดพลาดในอดีตที่เป็นข้อเตือนใจนี้ ทุกครั้งที่มีคนกล่าวหาว่าเมิ่งสิงโจวมีกองก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status