Share

บทที่ 1041

Penulis: อี้ซัวเยียนอวี่
เฟิ่งจิ่วเหยียนประหลาดใจมาก เซียวอวี้เคยเห็นศิษย์พี่ได้อย่างไร?

หลังออกมาจากหอบรรพบุรุษ นางดึงเซียวอวี้ไปตรงมุมที่มีคนน้อย เพื่อให้เขาเล่าเรื่องนี้ให้ละเอียด

“ท่านไม่ได้ดูผิดใช่หรือไม่? เคยเห็นศิษย์พี่ของหม่อมฉันจริง ๆ หรือ?”

เซียวอวี้ตอบด้วยท่าทีจริงจัง

“ใช่เขา

“ตอนนั้นเราออกตรวจเยี่ยมราษฎร วันที่ช่วยชีวิตหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ เคยเห็นคนที่บนภาพ

“แม้เพียงชั่วพริบตาเดียว เราก็จำได้อย่างแม่นยำ”

เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้ว

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ เป็นหวงกุ้ยเฟยที่ถวายตัวยับยั้งพิษวารีสวรรค์ให้กับเขา

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์เดิมก็คือมนุษย์โอสถ

เฟิ่งจิ่วเหยียนคำนวณเวลา

หากฝ่าบาทจำไม่ผิด ฉะนั้น วันที่เขาเจอกับศิษย์พี่ คือตอนที่ศิษย์พี่พบเจออันตราย

นางถามต่อไป

“สถานการณ์ตอนนั้นเป็นอย่างไร?”

เซียวอวี้หวนคิด

“ปีนั้น หลิงเยี่ยนเอ๋อร์เป็นมนุษย์โอสถที่หนีออกมา หลังจากเราช่วยชีวิตนางไว้ ก็ได้รู้ว่ามีคนกำลังฝึกมนุษย์โอสถ จึงนำกองกำลังทหารไปกวาดล้างพวกโจร

“เมื่อไปถึงที่นั่น เจอศิษย์พี่ของเจ้า

“ตอนนั้นไม่รู้สถานะของเขา ได้ต่อสู้กับเขา ดึงผ้าคลุมหน้าของเขาลงมา น่าเสียดายที่ปล่อยเขาหนีไปได้”

ตอนนี้คิดดูแล้ว ห
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1042

    แคว้นซีหนี่ว์หูย่วนเอ๋อร์ได้รับจดหมายลับของเฟิ่งจิ่วเหยียนโอวหยางเหลียนดูใส่ใจมาก ถามอย่างร้อนรน “นางพูดว่าอย่างไร?”หลังจากหูย่วนเอ๋อร์อ่านจดหมายแล้ว ท่าทีเคร่งขรึมและซับซ้อนนางเงยหน้าขึ้นมองอวหยางเหลียน บนใบหน้าชราของฝ่ายหลังเต็มไปด้วยความวิตกกังวล“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? นางจะกลับมาหรือไม่?”หูย่วนเอ๋อร์ตอบ “แม่ทัพน้อยยังมีน้องสาวฝาแฝดคนหนึ่ง ชื่อเวยเฉียง นางอยากให้น้องสาวคนนี้มาแทนตนเอง นั่งตำแหน่งประมุขไปก่อน”โอวหยางเหลียนฟังแล้ว สีหน้ายิ่งวิตกกังวล“ทำเช่นนี้ได้อย่างไร? ตกลงกันแล้ว นางจะกลับมาเป็นประมุข นางจะให้ตัวปลอมคนหนึ่งมาได้อย่างไร?”หูย่วนเอ๋อร์แก้คำพูดนาง“ไม่ใช่ตัวปลอม เฟิ่งเวยเฉียงก็เป็นสายเลือดของตระกูลเฟิ่ง”อวหยางเหลียนตำหนินาง“ข้าจะไม่รู้ความสัมพันธ์นี้หรือ? ทว่า ให้คนมาแทน หากมีใครรู้...”“เรื่องนี้ คนยิ่งรู้น้อยยิ่งดี” หูย่วนเอ๋อร์ขัดจังหวะที่นางกำลังพูด น้ำเสียงแน่วแน่ “ขอให้ภายในแคว้นนั้นไม่มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น ก็เพียงพอแล้ว แม่ทัพน้อยเป็นฮองเฮาแคว้นหนานฉี ยอมยังมีเรื่องสำคัญอื่นต้องทำ”โอวหยางเหลียนถอนหายใจ“อย่างไรนี่ก็ไม่ใช่แผนการที่ดีในระ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1043

    ปัง!ประตูใหญ่ตระกูลหลี่ถูกคนเตะเปิดออกพวกข้ารับใช้หันไปมองคนที่มาอย่างประหลาดใจ “เจ้า เจ้าเป็นผู้ใด!”มือเฟิ่งจิ่วเหยียนข้างหนึ่งจูงมือหยวนเจียเฉียว มืออีกข้างหนึ่งปล่อยชายกระโปรง ชักเท้าที่เตะประตูกลับมา ดวงตาที่เย็นชาโหดร้ายไม่พูดอะไรมาก ยกมือขึ้นมา ทหารข้างหลังบุกเข้าไปข้ารับใช้ตระกูลหลี่พยายามขวางรั้ง ก็ไม่เกิดประโยชน์“รีบไปเรียนใต้เท้า!”หยวนเจียเฉียวเห็นเช่นนี้แล้ว ในใจร้อนรุ่มนางมองใบหน้าด้านข้างของเฟิ่งจิ่วเหยียน พูดขึ้นมาอย่างร้อนใจ “ฮองเฮา ลูกของข้า...”เฟิ่งจิ่วเหยียนหันมามองนาง แววตาไม่แสดงออกถึงอารมณ์ใด“เขาจะไม่มีอันตราย”ไม่นาน อู๋ไป๋อุ้มเด็ก เดินผ่านฝูงคน มาถึงตรงหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนกับหยวนเจียเฉียว“นายท่าน เด็กคนนี้ว่าง่ายมาก ข้าน้อยเป็นคนแปลกหน้าอุ้มเขา เขาก็ไม่ร้องไห้ไม่โวยวาย”หยวนเจียเฉียวรีบรับลูกชายของตนเองมา ในดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตา ร่วงหล่นตกทีละเม็ดราวกับมุกนางจูบหน้าผากลูก ขอบคุณเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างตื้นตัน“ฮองเฮา ขอบพระทัย! ขอบพระทัยท่านที่ช่วยลูกชายของข้าไว้!”ทว่านางไม่เข้าใจ ฮองเฮารู้สถานการณ์ที่แท้จริงของนางได้อย่างไร?เพื่อความปลอด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1044

    ห้องลับในห้องหนังสือของตระกูลหลี่ มีคนตายวางอยู่หลายคนและยังเป็นหญิงสาวรูปงาม!พวกนางต่างนอนบนเตียงของตนเอง ดูแวบเดียว เหมือนเป็นศพเมื่อตรวจสอบดู ล้วนยังมีลมหายใจเฟิ่งจิ่วเหยียนรีบให้หมอมาตรวจรักษาทว่าในใจ มีความคิดคาดเดานางเคยเห็นแม่ของจางฉวน สตรีคนนั้นก็อยู่ในสภาพคนตายทั้งเป็น “นอนหลับ” นานหลายปีหลังจากหมอหลวงตรวจดูแล้ว เกิดจากพิษมนุษย์โอสถสตรีเหล่านี้ มีอาการคล้ายกับแม่ของจางฉวนหมอที่เมืองซาง ไม่เคยรู้จักพิษมนุษย์โอสถดังนั้น หมอจึงไม่ได้สรุปผลการตรวจอย่างชัดเจน“สตรีเหล่านี้มีร่องรอยการถูกวางยาพิษ ทว่าทักษะการแพทย์ข้าน้อยไม่ดี ตรวจไม่รู้ว่าเป็นพิษอะไร”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองการตกแต่งรอบ ๆ ภายในห้องลับนี้ เป็นม่านโปร่งสีแดงอบอุ่น งดงามมีเสน่ห์นางเสนอ “ฝ่าบาท ขอให้ทรงหาหมอสูติดี ๆ มาตรวจให้ละเอียดอีกครั้ง”เซียวอวี้ก็คิดเช่นนี้ห้องลับนี้ประหลาด ไม่มีทางมีไว้เพื่อเก็บคนตายทั้งเป็นเท่านั้นหลังผ่านไปคู่หนึ่ง หมอสูติมาถึงเฟิ่งจิ่วเหยียนสั่งให้บุรุษคนอื่นหลบไปเซียวอวี้ออกไปแล้ว เน้นย้ำให้นางระวังให้มากไม่ช้า การตรวจดูของหมอสูติมีผลสรุปแล้ว“ทูลฮองเฮา หญิงสาวเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1045

    เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่ได้มั่นใจอย่างเต็มที่“มนุษย์โอสถของตระกูลหลี่ ยังไงก็เป็นของพ่อหลี่หยวน”“ศิษย์พี่กับหลี่หยวนไปมาหาสู่กัน ไม่แน่ว่า ตอนที่เขามาตระกูลหลี่ แล้วบังเอิญเจออะไรบางอย่าง”ทว่าเรื่องเหล่านี้ จะว่าไปก็ล้วนเป็นเพียงความคิดของนางท่าทีเซียวอวี้เคร่งขรึม“คนตายทั้งเป็นเหล่านั้น สามารถอยู่ได้นานหลายปีขนาดนี้จริง ๆ หรือ?”นับจากพ่อของหลี่หยวนมาจนถึงหลี่หยวน อย่างน้อยก็หลายปีแล้วเฟิ่งจิ่วเหยียนก็สงสัยสิ่งนี้“ต้องรอวันที่ความจริงกระจ่าง จึงค่อยสามารถคลายความสงสัยได้”พูดอยู่ดี ๆ นางก็เปลี่ยนเรื่องพูด“ท่านจะสืบเรื่องนี้พร้อมกับหม่อมฉันจริง ๆ หรือ? ราชกิจในวัง ไม่ส่งผลกระทบหรือ?”เซียวอวี้ตอบนางอย่างจริงจัง“แผ่นดินไม่มีกษัตริย์ไม่ได้ ทว่าไม่ได้กำหนดให้กษัตริย์ต้องเฝ้าอยู่ในวัง ยิ่งต้องไปเยี่ยมเยียนราษฎร ทำความเข้าใจความเป็นอยู่ของประชาชน ถึงสามารถปกครองแผ่นดินได้ดียิ่งขึ้น”“นับจากที่เราขึ้นครองราชย์ ออกมาเยี่ยมเยียนราษฎรน้อยครั้งมาก”“ที่ผ่านมาแผ่นดินวุ่นวาย ราชสำนักจัดสรรงบประมาณ บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย ตลอดการเดินทางมาทางเหนือในครั้งนี้ จับกุมตัวขุนนางทุจริตเป็

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1046

    หลังจากผ่านไปครึ่งเดือนเซียวอวี้พาเฟิ่งจิ่วเหยียนมาถึงหมู่บ้านจู๋ซานหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ เป็นสถานที่ตั้งรังมนุษย์โอสถตอนที่เมิ่งสิงโจวเคยสืบ และก็เป็นสถานที่เซียวอวี้ เคยช่วยชีวิตหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ในตอนนั้นหมู่บ้านจู๋ซานอุดมไปด้วยหน่อไม้ช่วงฤดูหนาว ซึ่งมีหน่อไม้ฤดูหนาวอยู่มากมายตามท้องตลาด เห็นพ่อค้าแม่ค้าขายหน่อไม้ฤดูหนาวอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งพอดี เฟิ่งจิ่วเหยียนมีสหายยุทธภพคนหนึ่งอยู่ในหมู่บ้านจู๋ซาน จึงไปเยี่ยมเยือนนางไม่คิดจะพาเซียวอวี้ไปด้วยอย่างไรคนในยุทธภพ ส่วนใหญ่ไม่ชอบคบหากับคนราชสำนัก ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นถึงฝ่าบาทเซียวอวี้รู้ว่านางมีสหายมากมาย จึงไม่พูดอะไรนางไม่อยากพาเขาไป เขาจะแอบตามไปไม่ได้หรือ?ดังนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนเพิ่งออกไป เซียวอวี้ก็แอบตามไปแล้วตามมาจนถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งเขากับเฉินจี๋หลบอยู่ข้างหลังต้นไม้ เห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนเข้าไปในบ้านชาวนาหลังหนึ่งเฉินจี๋เห็นฝ่าบาททำตัวเหมือนโจร ก็ถามด้วยเสียงเบา“ฝ่าบาท ท่านต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรือ?”บอกกับฮองเฮาโดยตรง ๆ ว่าเขาก็อยากตามไปด้วย ก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ?สีหน้าเซียวอวี้เคร่งขรึม“เราเป็นห่วงค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1047

    เซียวจั๋วหวังดีมาเปิดสำนักศึกษาเอกชนในหมู่บ้าน ตอนนี้มีลูกศิษย์เพียงคนเดียวออกจากบ้านวันนี้ ก็คือรีบไปรับสมัครนักเรียนกลับตกอยู่ในสภาพใครเห็นใครก็รำคาญเวลานี้ เขาก็รู้สึกท้อใจอยู่บ้างเซียวอวี้ดูด้วยความสนุกสนานอย่างไม่กลัวเรื่องใหญ่ ไล่ถามเฟิ่งจิ่วเหยียน“เหตุใดพวกเขาถึงรำคาญเขา?”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจังงานเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงกำลังคึกคัก พาลูกคนอื่นไปยังสำนักศึกษาเอกชน เท่านี้ก็ช่างเถอะ เขาใช้ไข่ไก่หลอกล่อเด็ก หลายครั้งที่ทุกคนในหมู่บ้านเห็นเป็นคนค้ามนุษย์“ให้ผลงานภาพวาดประดิษฐ์ตัวอักษร เด็กในหมู่บ้านดูไม่รู้เรื่อง นำไปใช้ก่อไฟ ถูกเขาเทศนาเหมือนสวดมนต์“สร้างสำนักศึกษาเอกชนมาถึงตอนนี้ มีนักเรียนเพียงคนเดียว ยังมาเพราะเห็นแก่ไก่ที่เขาเลี้ยงไว้ จนถึงตอนนี้ยังไม่รู้ตัวหนังสือสักตัว ทว่าเนื้อกลับเพิ่มขึ้นไม่น้อย...”เซียวจั๋วยกมือข้างหนึ่งกุมหน้าผาก“ขอร้องท่านไม่ต้องพูดแล้ว”เซียวอวี้หันไปมองเซียวจั๋ว ท่าทีแลดูเจ็บใจที่ไม่สามารถหลอมเหล็กให้กลายเป็นเหล็กกล้าได้อย่างน้อยก็เป็นคนตระกูลเซียวของเขา กลายเป็นสภาพเช่นนี้ได้อย่างไรเพิ่งพูดเสร็จ เด็กอ้วนท้ว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1048

    แววตาเฟิ่งจิ่วเหยียนเยือกเย็น ในสมองปรากฏศพไม่ครบถ้วนของศิษย์พี่ถึงแม้ไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง ก็สามารถนึกภาพจากการบอกเล่าของอาจารย์ความน่าสยดสยองนั้น...นางหันไปมองเซียวอวี้ น้ำเสียงแหบแห้ง“ระวังหน่อย อย่างไรก็ไม่ผิด”“ที่สำคัญคือ หม่อมฉันไม่อยากให้คนอื่นที่ไม่รู้เรื่องเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง”สภาพของศิษย์พี่ เป็นการเตือนหากนางไม่มีความสามารถปกป้องทุกคน ก็ไม่ควรที่จะเปิดเผยเรื่องราวออกไปเซียวอวี้ฟังนางอธิบาย แล้วก็ยื่นแขนออกไปโอบกอดนางไว้“แม่หญิงของเราช่างเป็นคนมีจิตใจเมตตา”……ในโรงพักแรมทั้งสองคนทานมื้อค่ำแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนพูด “หม่อมฉันได้ให้ตงฟางซื่อเดินทางมา ถึงตอนนั้นให้ท่านบอกเล่ารูปลักษณ์ของคนนั้น”ต่อให้เซียวอวี้จำได้เพียงรูปลักษณ์คนนั้นคลุมหน้า ตงฟางซื่อก็สามารถวาดภาพได้อย่างคร่าว ๆ เซียวอวี้คิดถึงผู้เฒ่าผมขาวในตอนกลางวันคนนั้น พร้อมถามเฟิ่งจิ่วเหยียนเหมือนไม่ได้ตั้งใจ“เหล่าสวี่คนนั้น เป็นใครหรือ? เจ้ารู้จักกับเขาได้อย่างไร?”คนที่อายุมากแล้วคนหนึ่ง แลดูไม่มีอะไรพิเศษ ไม่เหมือนคนในยุทธภพเฟิ่งจิ่วเหยียนเล่าตามตรง“เขาเป็นนักตีดาบคนหนึ่ง ตอนที่หม่อมฉัน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1049

    โครม!ช่วงที่กลไกถล่มลงมา ทุกคนต่างหนีกันไม่ทัน จึงร่วงลงมาที่พื้นด้านล่างอู๋ไป๋จับเฉินจี๋แน่นตั้งแต่ต้นยันจบ คนทั้งสองจึงตกลงมาด้วยกันสิ่งแรกที่เฟิ่งจิ่วเหยียนทำก็คือยืนให้มั่นคง จากนั้นนางก็เปิดตะบันไฟตามหาเซียวอวี้เหล่าองครักษ์ที่เหลือก็ตอบสนองด้วยการลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว“คุ้มครองฝ่าบาทและพระนาง!”เฟิ่งจิ่วเหยียนหาเซียวอวี้พบเป็นคนแรก อย่างไรจุดที่สองคนตกลงมาก็อยู่ไม่ห่างกันนางพยุงเขาขึ้นมา แล้วเป็นห่วงว่าเค้าจะบาดเจ็บหรือไม่เป็นอย่างแรกเซียวอวี้สงบนิ่งเป็นอย่างมาก“ไม่เป็นไร”“นั่นเป็นเพราะว่าท่านทับข้าน่ะสิ” เซียวจั๋วค่อย ๆ ลุกขึ้นเซียวอวี้ : ?เฟิ่งจิ่วเหยียนมองสำรวจไปรอบ ๆ ทันที นางอยากรู้ว่าที่นี่คือที่ไหน แล้วจะออกไปได้อย่างไรแสงจากตะบันไฟของหลาย ๆ คนรวมอยู่ด้วยกัน ทำให้ข้างล่างนี้สว่างขึ้นบ้างเซียวอวี้นึกขึ้นได้จึงพูดกับเฟิ่งจิ่วเหยียน“ที่นี่คือรังมนุษย์โอสถ เรารู้ว่าทางเข้าอยู่ไหน หลังจากเข้าไปในถ้ำ เดินตรงเข้าไปด้านใน จะมีบันไดลับจุดหนึ่งลงไปด้านล่าง นึกไม่ถึงว่าด้านบนจะมีกลไกด้วย”รังมนุษย์โอสถถูกราชสำนักทำลายทิ้งแล้ว ทว่าก็ยังเหลือสิ่งของเดิมอยู่

Bab terbaru

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1162

    กองทัพแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้ง อาศัยว่ามีปืนมังกรไฟ แผดเสียงเกรี้ยวกราด “เร่งเปิดประตูเมือง หาไม่แล้ว อย่าหมายว่าผู้ใดจะรอดชีวิต!” เฉินจี๋ล่วงรู้ฤทธานุภาพของปืนมังกรไฟ เขอเสนอ “ฝ่าบาท ถอยทัพก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” คาดว่าฮองเฮาก็มิปรารถนาให้ฝ่าบาทตกอยู่ในอันตราย สายตาเซียวอวี้ล้ำลึก ดวงตาฉายแววเยืยกเย็น “สั่งให้ทหารทั้งหมดล่าถอยออกไปยี่สิบลี้ก่อน” ฤทธานุภาพแห่งปืนมังกรไฟ มิใช่อันที่มนุษย์จะสามารถต้านรับได้ ดังนั้น จึงไม่อาจเผชิญหน้าตรง ๆ …… ณ ชายแดนด้านตะวันตกแคว้นหนานฉี ฝนพรำไม่ขาดสายหลายวันติดกัน จนแผ่นดินชุ่มโชกเป็นโคลนเหลว ปืนมังกรไฟมีน้ำหนักมาก ล้อรถจมลึกลงพื้นดิน หนึ่งแรงคนมิอาจเข็นขยับได้โดยง่าย ครั้นข่าวล่วงรู้ถึงหูหนานซานอ๋อง เขาถึงโกรธทั้งร้อนใจ “ในยามสำคัญ เหตุใดถึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้!” ฮ่องเต้ยังอยู่ในแคว้นซีหนี่ว์ หากแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งบุกโจมตี ใครจะรับรองความปลอดภัยของฝ่าบาท! “ท่านอ๋อง ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะสายฝน...” “อย่าพูดไร้สาระ เร่งหาไม้กระดาน หาก้อนหิน เร่งขนส่งปืนมังกรไฟไปยังแคว้นซีหนี่ว์ให้ได้โดยเร็ว!” หนานซานอ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1161

    แม่ทัพแคว้นเจิ้งหาได้โง่เขลา เขารู้แจ้งแก่ใจว่าจุดประสงค์ของเป่ยเยี่ยนคืออะไร จึงกลับคำข่มขู่ราชทูตเป่ยเยี่ยน “หากไม่มีปืนมังกรไฟ พวกเราอย่างมากก็เพียงพ่ายศึกและยอมจำนน หรือไม่ก็รู้ว่ามิอาจต่อสู้การร่วมมือระหว่างกองทัพแคว้นซีหนี่ว์กับแคว้นหนานฉี ก็เพียงถอนทัพกลับเสียก็พอ “ทว่า สถานการณ์ของเป่ยเยี่ยน หาใช่ง่ายดายเช่นนี้ไม่ “แคว้นหนานฉีชนะศึกกับทั่วแว่นแคว้น กำลังอิทธิพลเพิ่มพูน ตอนนี้แคว้นซีหนี่ว์กับแคว้นหนานฉีเชื่อมสัมพันธ์กัน พันธไมตรีแน่นแฟ้นมิอาจทำลาย “หากแคว้นหนานฉีกลืนกินแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้แล้วไซร้ ทั่วทั้งแดนตะวันตกย่อมตกอยู่ในอำนาจแห่งแคว้นหนานฉี ครานั้นเป่ยเยี่ยนจักสูญเสียพันธมิตรทางใต้และทางตะวันตก กลายเป็นโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่ง!” สายตาราชทูตเป่ยเยี่ยนฉายแววบูดบึ้ง แม่ทัพคนนี้ที่เชี่ยวชาญเพียงการศึก กลับมีสติปัญญาอยู่บ้าง แม่ทัพแคว้นเจิ้งเห็นราชทูตจนถ้อยคำ จึงพูดต่อถึงข้อดีข้อเสีย “ราชทูตนำความทูลฮ่องเต้เป่ยเยี่ยน รีบยืมปืนมังกรไฟมาโดยไว เช่นนี้ยังมีโอกาสสังหารฮ่องเต้ฉีได้ หากแคว้นหนานฉีวุ่นวาย เป่ยเยี่ยนจึงจักมีโอกาสโต้กลับแคว้นหนานฉี ช่วง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1160

    ราชทูตเป่ยเยี่ยนเตรียมการมาก่อนล่วงหน้าก่อนหน้านั้นแต่ละแคว้นล้อมโจมตีแคว้นหนานฉี มิคาดคิดว่าแคว้นซีหนี่ว์ทรยศพันธมิตร ละทิ้งสัตยาบัน แปรพักตร์กลางสมรภูมิ หันมาร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับแคว้นหนานฉียามนี้แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งมุ่งหมายโจมตีแคว้นซีหนี่ว์ เป่ยเยี่ยนย่อมสนับสนุนสุดกำลังมิอาจสั่นคลอนแคว้นหนานฉี ทว่าแคว้นซีหนี่ว์เพียงแคว้นเดียว ย่อมมิใช่เรื่องยากเมื่อแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งล่วงรู้เจตนารมณ์ของราชทูตเป่ยเยี่ยน ก็บังเกิดความปลื้มปีติเป็นล้นพ้นพวกเขาถามอย่างตื่นเต้น“ฮ่องเต้เยี่ยนยินดีให้ยืม ‘ปืนมังกรไฟ’ จริง ๆ หรือ?”ยามนี้พวกเขาโจมตีเมืองอย่างยากลำบาก หากได้ปืนมังกรไฟมาหนุนเสริม ศึกครั้งนี้ย่อมดุจดั่งพยัคฆ์ติดปีก!เพียงแต่ได้ยินมาว่า ปืนมังกรไฟนั้นเป็นอาวุธลับแห่งเป่ยเยี่ยน เป่ยเยี่ยนจะยอมให้ยืมจริง ๆ หรือ?พวกเขาอดสงสัยไม่ได้ราชทูตเป่ยเยี่ยนยิ้มแย้ม พลางหยิบสัญญาฉบับหนึ่งออกมาเห็นดังนี้ เหล่าขุนพลแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งต่างจ้องมองหน้ากันด้วยความฉงนใจจากนั้นราชทูตก็พูดอธิบาย“เป่ยเยี่ยนกับสองแคว้นเป็นพันธมิตรต่อกัน บัดนี้สงครามปะทุ เป่ยเยี่ยนย่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1159

    หลังจากส่งฮ่องเต้ไปไกลเป็นพันลี้ กองทัพเดินทางออกไปแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนยังคงยืนอยู่ที่เดิม ยืนอยู่นานก็ไม่ยอมจากไปอู๋ไป๋เอ่ยเตือนเบา ๆ“ประมุขแคว้น ควรเสด็จกลับวังได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”เฟิ่งจิ่วเหยียนถึงได้ดึงสายตากลับมาในพระราชวังเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ง่ายที่จะมีเวลาว่าง นายหญิงเฟิ่งจึงมาขอเข้าพบช่วงหลายวันมานี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนเพิ่งจะทำหน้าที่ประมุขแคว้น จึงยุ่งจนไม่มีเวลาจะแยกร่างไปทำสิ่งใด แม้แต่เวลาที่จะนั่งคุยกับมารดาก็ยังไม่มีนายหญิงเฟิ่งเข้าใจเป็นอย่างดี และไม่มารบกวนนางจนกระทั่งวันนี้ ที่กองทัพออกเดินทาง นายหญิงเฟิ่งถึงได้มาพบนางคนอื่นอาจไม่รู้ ทว่านายหญิงเฟิ่งกลับจำได้ว่า คนโปรดคนใหม่ของประมุขแคว้นที่สวมหน้ากากผู้นั้น ก็คือฮ่องเต้หนานฉีนายหญิงเฟิ่งไม่คาดคิดว่า ฮ่องเต้จะทรงเสด็จตามจิ่วเหยียนมาแคว้นซีหนี่ว์ อีกทั้งยังออกรบเพื่อแคว้นซีหนี่ว์ นี่เป็นเรื่องที่หนึ่งอีกเรื่องหนึ่งที่นางไม่คาดคิดก็คือ จิ่วเหยียนของนาง ในที่สุดก็ตั้งครรภ์แล้วนายหญิงเฟิ่งมองพินิจจิ่วเหยียนด้วยดวงตาที่มีน้ำตาเอ่อคลอ โดยเฉพาะส่วนท้องที่นูนขึ้นมา พลางสะอื้นอยู่หลายครั้ง“ในเมื่อตั้งครรภ์แล้ว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1158

    ก่อนอาหารมื้อค่ำ เซียวอวี้กลับมาถึงวังหลวงตรงตามเวลาเขายังนำผลไม้อบแห้งที่เฟิ่งจิ่วเหยียนชอบกินมาด้วยถึงแม้ใบหน้าเขาจะแสดงออกอย่างเรียบเฉย เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับรับรู้ได้ถึงความขุ่นเคืองใจที่ข่มไว้ของเขายังมี กลิ่นคาวเลือดจาง ๆ ที่อยู่บนตัวเขาด้วยอาหารมื้อค่ำถูกจัดวางบนโต๊ะแล้ว ทั้งสองคนนั่งอยู่ตรงข้ามกัน และมีข้าหลวงคอยรับใช้ เพื่อคอยตักอาหารให้พวกเขาเฟิ่งจิ่วเหยียนให้ข้าหลวงออกไปก่อน และถามเซียวอวี้ตามตรง“วันนี้ไปตรวจเยี่ยมค่ายทหาร ไม่ราบรื่นหรือเพคะ?”เซียวอวี้ปากหนักไม่ยอมรับ พร้อมกับเปิดห่อผลไม้ให้นาง“อ่านฎีกาจบแล้วหรือ?” เขาถามโดยเปลี่ยนเรื่องเฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นเขาไม่อยากเอ่ยถึงอีก จึงไม่ถามต่อจากที่เขาถาม นางยิ้มอ่อน ๆ“ฎีกาไม่มีวันอ่านจบ ของวันนี้อ่านจบ ก็ยังมีของพรุ่งนี้อีก”เซียวอวี้ก็ยิ้มเช่นกัน พลางยกมือขึ้นลูบใบหน้านาง แววตาดูอ่อนโยนสงบนิ่ง“หากเป็นฮ่องเต้ทรราช ก็คงไม่ต้องเหนื่อยเช่นนี้”หลังมื้อค่ำเฟิ่งจิ่วเหยียนอ้างว่าจะไปห้องทรงพระอักษรเพื่ออ่านฎีกาต่อ แท้จริงแล้วกลับให้อู๋ไป๋ไปที่ค่ายทหาร เพื่อสืบดูว่า วันนี้เซียวอวี้พบปัญหาใดอู๋ไป๋กลับหลักแหลม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1157

    ตอนนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนเป็นประมุขแคว้น หากเซียวอวี้ต้องการจะพบนาง ก็ต้องรอให้คนไปกราบทูลก่อนสิ่งนี้ทำให้เขาไม่คุ้นเคยอย่างยิ่งทว่า กฎก็คือกฎที่หนานฉี แม้ว่าจิ่วเหยียนจะสูงส่งเป็นถึงฮองเฮา หากต้องการจะเข้าไปในห้องทรงพระอักษร ก็ยังไม่อาจทำได้ตามใจชอบ“จะออกเดินทางเมื่อใด?” บนบัลลังก์มังกร คำถามของเฟิ่งจิ่วเหยียนที่ถามขึ้นกะทันหัน ขัดจังหวะความคิดของเซียวอวี้ เซียวอวี้เงยหน้าขึ้นมองนาง ถึงแม้ในตำหนักจะไม่มีคนนอก เขายังคงรู้สีกว่า ระหว่างตนเองกับจิ่วเหยียน ราวกับมีบางอย่างคั่นกลางอยู่บางที นั่นอาจจะเป็นช่องว่างทางสถานะผู้ที่เป็นกษัตริย์ แน่นอนว่าย่อมเป็นผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูง ต่อให้ใกล้ชิดดั่งคนที่นอนร่วมหมอน ก็ไม่อาจก้าวข้ามช่องว่างนี้ได้ไม่น่าแปลกใจที่ก่อนหน้านี้จิ่วเหยียนก็ยกเรื่องนี้มาเป็นอุปสรรค ไม่ยอมเป็นฮองเฮาของเขาเซียวอวี้พยายามทำให้ตนเองกลับมามีสภาพจิตใจที่เป็นปกติตามเดิม“เสบียงถูกส่งไปก่อนแล้ว วันนี้เราจะไปตรวจเยี่ยมค่ายทหาร หากราบรื่น พรุ่งนี้ก็จะออกเดินทาง”เฟิ่งจิ่วเหยียนด้านหนึ่งก็ฟังเขาพูด อีกด้านหนึ่งก็อ่านฎีกานางทำหลายอย่างพร้อมกัน ช่างดูยุ่งเหลือเกิน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1156

    นอกชายแดนแคว้นซีหนี่ว์ แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้ส่งกองกำลังออกรบแล้ว กองทัพมืดฟ้ามัวดิน เห็นได้ชัดว่าเป็นสงครามที่เดิมพันด้วยความอยู่รอดและล่มสลายของทั้งสองแคว้นก่อนเคลื่อนทัพ แม่ทัพใหญ่ตรวจสอบความพร้อมของทหาร เพื่อสร้างความฮึกเหิม“ทหารทุกคน! วันนี้จะเป็นวันที่จะลบล้างความอัปยศ! หากไม่อยากตกเป็นทาสของแคว้นล่มสลาย และไม่อยากถูกสตรีบัญชาการ ก็จงต่อสู้สุดชีวิต! ทำลายชายแดนของแคว้นซีหนี่ว์ เคลื่อนกำลังเข้าไป จนเข้าไปถึงเมืองหลวง และจับตัวประมุขแคว้นของพวกนางมา!”ทั้งสามกองทัพเปล่งเสียงขานรับโดยพร้อมเพรียง“ลบล้างความอัปยศ! จับตัวประมุขแคว้นซีหนี่ว์!”ทันใดนั้น ทหารสอดแนมก็มารายงาน“ท่านแม่ทัพ พบกองทัพของแคว้นซีหนี่ว์ นำทัพโดยหูย่วนเอ๋อร์!”หูย่วนเอ๋อร์เป็นหนึ่งในแม่ทัพผู้องอาจของแคว้นซีหนี่ว์ และยังเป็นแม่ทัพคู่ใจของอดีตประมุขแคว้นซีหนี่ว์ด้วยก่อนหน้านี้ได้ยินสายลับมารายงานว่า ประมุขแคว้นคนปัจจุบันไม่ชอบหูย่วนเอ๋อร์ และจับนางไปคุมขังไว้ในคุกเหตุใดคนผู้นี้ถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่ชายแดน?หรือว่าข่าวจากสายลับจะผิดพลาด?แม่ทัพใหญ่ของทั้งสองแคว้นถามด้วยความสงสัย“หรืออาจจะเป็น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1155

    กลุ่มขุนนางที่ถูกจับกุม แต่ละคนบ้างก็ตกใจ บ้างก็โกรธแค้น บ้างก็คุกเข่าร้องขอชีวิตทันที“เฟิ่งจิ่วเหยียน! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาจับหม่อมฉัน! หม่อมฉันคือขุนนางอาวุโสสามสมัย!”“หม่อมฉันไม่ได้คิดจะก่อกบฏ...ประมุขแคว้น พวกเขาจะต้องจับคนผิดอย่างแน่นอน!”“ประมุขแคว้นโปรดไว้ชีวิต โปรดไว้ชีวิตด้วย! หม่อมฉันเลอะเลือนไปชั่วขณะ หม่อมฉันไม่กล้าอีกแล้ว!”ขุนนางคนอื่นถอยห่าง แทบไม่อยากเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนที่ถูกจับโอวหยางเหลียนก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว เอ่ยต่อเฟิ่งจิ่วเหยียน“ประมุขแคว้น ตั้งแต่อดีต ขุนนางที่ก่อกบฏทรยศแผ่นดินมีความผิดสมควรตาย หม่อมฉันคิดว่า ควรรีบประหารชีวิตพวกเขาทันที ไม่อาจให้ความเมตตาได้!”โอวหยางเหลียนอายุมากแล้ว ทว่านางทำสิ่งต่าง ๆ อย่างเด็ดขาดชัดเจนเฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่ใช่คนใจอ่อนเช่นกันนางเพิ่งจะเป็นประมุขแคว้น แต่ก็รู้ว่า ความวุ่นวายภายในแคว้นซีหนี่ว์ ล้วนเกิดจากคนที่ไม่จงรักภักดีเหล่านี้หากไม่สังหาร ก็ไม่เพียงพอที่จะยุติความวุ่นวายภายในได้หากไม่สังหาร ก็ไม่เพียงพอที่จะเตือนใจให้กับคนอื่นได้เฟิ่งจิ่วเหยียนสั่งให้ข้าหลวงอ่านความผิดของคนเหล่านี้ อ่านจบทีละคน ก็สังหารท

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1154

    จันทร์เสี้ยวลอยลงต่ำ ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูงณ พระราชวังแคว้นซีหนี่ว์ในที่ประชุมเช้า เหล่าขุนนางมองไปยังคนที่อยู่บนบัลลังก์มังกร ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย และความประหลาดใจขุนนางผู้หนึ่งเอ่ยถามอย่างใจกล้า“คนที่นั่งอยู่บนนั้น เจ้าเป็นใคร! แล้วประมุขแคว้นอยู่ที่ใด!”คนที่อยู่ด้านบน ถึงแม้หน้าตาจะคล้ายกับประมุขแคว้น ทว่าส่วนท้องนูนออกมา เห็นชัดว่าเป็นลักษณะของการตั้งครรภ์ คนผู้นี้กับประมุขแคว้นเมื่อหลายวันก่อนผู้นั้น ไม่ใช่คนเดียวกันโดยสิ้นเชิงความแตกต่างที่เห็นชัดเช่นนี้ ขอเพียงไม่ใช่คนตาบอด ก็มองออกชัดเจนหลังจากมีคนหนึ่งออกหน้า คนอื่น ๆ ก็พากันเกิดความสงสัยตามมา“รีบบอกมา เจ้าเป็นใครกันแน่!”“เจ้าคนชั่วอาจหาญ กล้าสวมรอยเป็นประมุขแคว้น ยังไม่รีบลงมาอีก!”“ประมุขแคว้นเล่า? ทหารรักษาพระองค์อยู่ที่ใด รีบไปตามหาประมุขแคว้น!”ในราชสำนักเริ่มเกิดความวุ่นวายก่อนหน้านี้หูย่วนเอ๋อร์ก็ถูก “ขัง” อยู่ในคุก มิได้เข้าร่วมประชุมเช้าของวันนี้ จึงมีเพียงโอวหยางเหลียนเท่านั้นที่รู้ความจริงในที่นี้โอวหยางเหลียนยืนอยู่ตรงนั้น โดยไม่เอ่ยสิ่งใดจากนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนที่อยู่บนบัลลังก์มังกรก

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status