แชร์

หวนคืน 1.1

ผู้เขียน: จ้าวฮุ่ยอิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-03 01:39:57

ในขณะเดียวกัน

 ยุคอดีต

 เมืองหลวงหยง 

 ภายในราชสำนักฉินและทั่วทั้งแคว้นเวลานี้อยู่ในระหว่างไว้ทุกข์ให้แก่อดีตเจ้าผู้ครองแคว้น อิ๋งหรงหรือฉินเหรินกง ซึ่งสวรรคตลงอย่างกะทันหัน เมื่อทรงทราบข่าวชัยชนะของแคว้นฉินเหนือแคว้นต้าเหลียง โดยการนำทัพขององค์ชายอิ๋งหยางพระโอรสผู้ถูกเนรเทศไปพำนักอยู่ชายแดน ตั้งแต่มีพระชนมายุเพียงห้าพระชันษา โดยที่มิได้พานพบพระพักตร์ระหว่างพ่อกับลูกแม้แต่ครั้งเดียว

ด้วยฉินเหรินกงเจ้าผู้ครองแคว้นฉิน พระราชบิดาทรงเสียพระทัยในการจากไปของฮองเฮาเป็นยิ่งนัก พระนางสิ้นพระชนม์ทันทีที่ได้พบกับพระโอรสองค์โต ทรงมอบความรักให้อดีตฮองเฮาและองค์ชายอิ๋งหยางและพยายามปกป้องทุกอย่างเพื่อให้ปลอดภัย แต่ก็มิอาจต้านทานแรงกดดันของเหล่าขุนนางภายราชสำนักได้ ด้วยองค์ชายอิ๋งหยางทรงมีดวงพิฆาตชีวิตผู้คนและจะทำให้แคว้นถึงคราวล่มสลายหากขึ้นเป็นผู้ครองแคว้นสืบต่อไป

อดีตเจ้าผู้ครองแคว้นพยายามช่วยพระโอรสมาโดยตลอด ทรงตัดพระทัยมิพานพบองค์ชายอิ๋งหยางเพื่อให้ลูกน้อยอยู่ใกล้อดีตฮองเฮาของพระองค์ซึ่งคือพระมารดา แต่แล้วความรักของคนเป็นแม่มิอาจทนความคิดถึงลูกน้อยได้ พระนางแอบไปพบพระโอรสเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ประสูติออกมาและสุดท้ายก็มิรอดพ้นจากความตาย สิ้นพระชนม์ทันทีที่ได้พานพบพระพักตร์พระโอรสในขณะที่สวมกอดลูกน้อยเอาไว้แนบอก

และนั่นทำให้ฉินเหรินกงจำต้องส่งองค์ชายอิ๋งหยาง ซึ่งเป็นตัวแทนความรักที่หลงเหลืออยู่ของฮองเฮาผู้ทรงรักอย่างสุดหัวใจไปพำนักอยู่ชายแดนตลอดกาล เพื่อแลกกับการให้มีพระชนม์ชีพอยู่ต่อไป มิต้องถูกประหารตามฎีกาของเหล่าชาวเมืองและขุนนางในราชสำนักต้าฉินนำทูลเกล้าถวายกำจัดพระโอรสปีศาจเพราะประสูติดวงพิฆาตทำลายเมือง 

สาสน์ลับมอบให้พระโอรสน้อยกำชับให้อุทิศพระชนม์ชีพเพื่อปกป้องแคว้นฉินจนถึงวาระสุดท้าย และสนับสนุนพระอนุชาทุกพระองค์ซึ่งจะต้องก้าวขึ้นเป็นผู้ครองแคว้นสืบต่อไป ห้ามมิให้หวนกลับคืนเมืองหลวงและราชสำนักอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้เพื่อปกป้องพระชนม์ชีพของพระโอรสให้ดำรงอยู่ต่อไปนั่นเอง

ทว่าทันทีที่อดีตเจ้าผู้ครองแคว้นทรงทราบข่าวร้าย ว่าพระโอรสองค์โตได้รับบาดเจ็บสาหัสจนสิ้นพระชนม์ในสนามรบ เนื่องจากพระอาการที่ถูกพบครั้งแรกขององค์ชายใหญ่พระทัยหยุดเต้นไปแล้ว แต่กลับมีสัญญาณชีพปรากฏขึ้นมาอีกราวปีศาจไม่มีวันตาย แต่ถึงกระนั้นทรงมีพระอาการวิกฤตเป็นยิ่งนักและโอกาสจะมีพระชนม์ชีพอยู่นั้นหามีไม่

ประกอบกับข่าวปลอมของเหล่าขุนนางที่สนับสนุนองค์ชายอิ๋งเหว่ย พระโอรสที่ประสูติจากพระสนมและภายหลังได้รับแต่งตั้งกลายเป็นฮองเฮาพระองค์ใหม่แทนอดีตฮองเฮาผู้ล่วงลับ พยายามปล่อยข่าวทุกวิถีทางโหมกระพือกระจายไปทั่วแคว้น ว่าองค์ชายใหญ่แห่งแคว้นฉิน ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิในราชบัลลังก์อย่างแท้จริงสิ้นพระชนม์ทันทีกลางสนามรบ มิรู้ข่าวใดจริงและข่าวใดเท็จทำให้ฉินเหรินกงตกพระทัยและเสียพระทัยอย่างยิ่งยวดในคราเดียวกัน จนพระทัยวายเสด็จสวรรคตทันทีกลางท้องพระโรงในขณะที่ทรงออกว่าราชการ

ซึ่งเป็นไปตามแผนการขององค์รัชทายาทอิ๋งเหว่ยและบรรดาขุนนางที่อยู่ฝ่ายสนับสนุนองค์ชายรองผู้นี้ เนื่องจากองค์ชายอิ๋งหยาง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานับตั้งแต่เริ่มนำทัพในขณะที่ทรงมีพระชนมายุเพียงแค่สิบสี่พระชันษาเท่านั้นพระองค์ก็ออกล่าดินแดนน้อยใหญ่อย่างบ้าคลั่ง โดยเฉพาะห้าปีที่ผ่านมาสามารถบุกยึดดินแดนน้อยใหญ่มาได้มากกว่าถึงเจ็ดสิบแคว้น แผ่ขยายอำนาจของแคว้นฉินไปอย่างกว้างใหญ่ไพศาล 

จนชาวเมืองฉินต่างยกย่อง ตลอดจนแคว้นน้อยใหญ่พากันกลัวเกรงเมื่อล่วงรู้ว่าองค์ชายอิ๋งหยางเป็นผู้นำทัพ “แม่ทัพปีศาจ” คือสมญานามอันเลื่องลือที่ทั่วทุกสารทิศต่างมอบให้และพากันกล่าวขาน ทำให้เจ้าผู้ครองแคว้นพระราชบิดาทรงมีความคิดเปลี่ยนไป 

หากแคว้นฉินได้เจ้าผู้ครองแคว้นที่เต็มไปด้วยพระปรีชาทางด้านกำลังทหารและการปกครองย่อมแข็งแกร่งกว่าเจ้าผู้ครองแคว้นที่เก่งในทางการทูต แต่ในเรื่องการนำทัพออกศึกสงครามและปกครองกำลังคนเป็นเรือนแสน องค์ชายอิ๋งเหว่ยหาได้แข็งแกร่งเฉกเช่นพระเชษฐาแต่อย่างใด สติปัญญาปานกลาง มิได้ปราดเปรื่องเป็นที่น่ายกย่อง แต่มีข้อดีตรงที่กล้าได้กล้าเสียและหนักไปทางฉลาดแกมโกงเสียมากกว่า

ครั้นอดีตเจ้าผู้ครองแคว้นพระราชบิดาทรงหมายพระทัยให้พระโอรสองค์โตหวนกลับคืนสู่อ้อมอกดั่งเดิม เพื่อขึ้นปกครองแคว้นตามสิทธิอันชอบธรรมตั้งแต่แรกประสูติและด้วยผลงานอันยิ่งใหญ่เกรียงไกรจากฝีพระหัตถ์ การทำสงครามตลอดระยะเวลาสิบเอ็ดปีที่ผ่านมา จนองค์ชายอิ๋งหยางก้าวเข้าสู่พระชนมายุปีที่ยี่สิบห้าจึงเห็นควรให้กลับคืนสู่ราชสำนักหลังจากเสร็จศึกกับต้าเหลียง 

พระวรกายสูงโปร่งของเจ้าผู้ครองแคว้นฉินพระองค์ใหม่ ฉินรุ่ยกงหรือพระนามเดิมอิ๋งเหว่ย ทรงยืนทอดพระเนตรอยู่บนกำแพงเมือง ซึ่งสามารถทอดพระเนตรทิวทัศน์ของพื้นดินอันกว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งกำลังแผ่ขยายอำนาจอยู่ในขณะนี้ เมืองหลวงหยงกำลังเจริญรุ่งเรืองและมีความเจริญอย่างต่อเนื่องแบบก้าวกระโดด 

พระเนตรสีดำสนิทกวาดสายพระเนตรไปทั่วบริเวณอย่างปลอดโปร่งพระทัย โดยมีพระวรกายสูงใหญ่ของพระอนุชา องค์ชายสามหรืออิ๋งเฟิง ทรงยืนอยู่เคียงข้างซึ่งองค์ชายสามประสูติจากพระมารดาในตำแหน่งพระสนมชั้นฟูเหริน ทั้งสองพระองค์ทรงยืนทอดพระเนตรแคว้นฉินอันยิ่งใหญ่ไปด้วยพร้อมกัน 

ท่ามกลางความคิดหลากหลายบังเกิดขึ้นอยู่ภายในพระทัยของผู้เป็นเชษฐาที่สมหวังได้ขึ้นปกครองแคว้นสมดั่งพระทัย ในขณะที่พระอนุชาต้องแสร้งเข้าร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อวางแผนช่วงชิงให้พระองค์ก้าวขึ้นปกครองแคว้นแทน ในยามนี้สถานการณ์แลดูสงบแต่มีคลื่นใต้น้ำก่อตัวพร้อมเป็นพายุหมุนอยู่ตลอดเวลาเพื่อทำลายล้างอีกฝ่ายให้วอดวาย

“เจ้าสาม! สายลับที่ส่งไปแทรกซึมหาข่าวในกองทัพรายงานผลล่าสุดมาให้เจ้าหรือไม่ ตกลงเจ้าพี่ปีศาจสิ้นพระชนม์ลงแล้วจริงๆ ตามแผนที่วาง หรือเป็นเพียงแค่ข่าวลวงให้ข้าหลงดีใจเล่นไปวันๆ” สุรเสียงรับสั่งถามย้ำเพื่อความแน่พระทัย 

องค์ชายสามพระนามอิ๋งเฟิงแสยะยิ้มเหยียดออกมาบางๆ เมื่อเจ้าผู้ครองแคว้นองค์ปัจจุบันผู้ขึ้นชื่อได้ว่าเกรงกลัวพระเชษฐาพระองค์ใหญ่จะหวนกลับมาทวงสิทธิอันชอบธรรมกลับคืนไปตลอดทุกลมหายใจเข้าออกความหวาดระแวงปรากฏอยู่ในความคิดคำนึงตลอดเวลา

“ตอนนี้เสด็จพี่ได้รับการสถาปนาขึ้นปกครองแคว้นแล้ว เหตุใดจึงยังหวั่นเกรงเจ้าพี่อิ๋งหยางอยู่อีกพ่ะย่ะค่ะ ป่านนี้คงนอนเป็นปุ๋ยไปพร้อมกับซากศพของเหล่าทหารต้าเหลียงไปแล้ว ข่าวลือต่างๆ นานาโหมกระพือไปทั่วทุกสารทิศ มิดีพระทัยหรือไรที่กำจัดเสี้ยนหนามออกไปได้เสียที สิ่งที่ควรจะทำจากนี้ต่อไปคือแต่งตั้งฮองเฮาขึ้นปกครองฝ่ายในจะดีกว่ามาเสียเวลาคิดเรื่องนี้นะพ่ะย่ะค่ะ”

ถ้อยรับสั่งของพระอนุชาทำให้พระพักตร์หันกลับมาทอดพระเนตรครั้นทรงได้ยินเช่นนั้น

“เจ้าช่างแน่ใจกับข่าวสารที่ส่งมารายงานเสียนี่กระไร ตรงกันข้ามกับข่าวที่ข้าล่วงรู้มาอย่างสิ้นเชิง ว่าตอนนี้กองทัพของอิ๋งหยางซึ่งรั้งทัพอยู่เขตชายแดน กระจายกำลังทหารเพื่อนำหมอหลวงไปรักษาอาการบาดเจ็บของพระเชษฐาปีศาจของเราทั้งสอง จนถึงเมืองผิงหยางแล้ว เช่นนี้จะให้ข้านิ่งนอนใจได้เยี่ยงไรในเมื่อจู่ๆ ได้ยินข่าวล่าสุดรายงานกลับมาเช่นนี้” รับสั่งพลางส่ายพระพักตร์ไปมาติดๆ กัน

ในขณะที่คนฟังยังคงยืนนิ่งเฉยไม่ร้อนรนกระสับกระส่ายแม้แต่น้อย

“อย่าวิตกไปเลยเสด็จพี่ อิ๋งหยางอยู่ได้ไม่นานหรอกเพราะหมอหลวงและบรรดาผู้ช่วยที่ติดตามไปด้วยในกองทัพเป็นคนของพวกเรา บาดแผลที่ได้รับบาดเจ็บจากการทำศึกกับต้าเหลียงจะทำให้อิ๋งหยางพบกับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสและต้องตายในอีกไม่ช้าอย่างแน่นอน” องค์ชายสามกราบทูลรายงานกลับไป

“เจ้าอย่าบอกนะว่าแอบใช้ยาพิษลอบปลงพระชนม์! ข้าสั่งแล้วมิใช่หรือว่าห้ามใช้วิธีสกปรกเช่นนี้หาไม่แล้ว จะทำให้การขึ้นครองแคว้นของข้าต้องมัวหมองเพราะใช้วิธีการสกปรกกำจัดผู้มีสิทธิในราชบัลลังก์ ลำดับแรก ทั่วแคว้นต่างล่วงรู้ดีว่าอิ๋งหยางมีสิทธิอันชอบธรรมที่เหนือกว่าข้า เพียงแค่เกิดช้ากว่าไม่กี่วันก็ต้องกลายเป็นองค์ชายรอง” รับสั่งด้วยความอัดอั้นตันพระทัยเป็นยิ่งนัก

“ทรงกลัวด้วยเหตุผลเพียงแค่นี้หรอกรึ!” องค์ชายสามรับสั่งถามกลับไป

และนั่นทำให้เจ้าผู้ครองแคว้นหนุ่มทอดพระเนตรอนุชาเขม็ง

“หรือเจ้าคิดว่าข้ามิควรระแวดระวัง ตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมาทั่วทุกแคว้นรวมไปถึงชาวเมืองฉินต่างพากันยกย่องอิ๋งหยางถึงความเก่งกาจไปทั่วทุกสารทิศ จนหลงลืมไปว่าคนผู้นั้นแท้จริงแล้วคือดวงพิฆาตที่เกิดมาเพื่อทำลายชีวิตของผู้คนและแคว้นนี้! ข้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ เหตุใดใยเจ้าจึงมิทุกข์ร้อนแต่ประการใด” รับสั่งถามกลับไปด้วยความสงสัย

หึหึหึหึ!!! เสียงพระสรวลดังออกมาจากภายในพระศอเบาๆ

“ก็ข้าคือองค์ชายสามหาใช่เจ้าผู้ครองแคว้นดั่งเช่นฝ่าบาท ไฉนเลยจะต้องเป็นทุกข์เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเล่าพ่ะย่ะค่ะ แต่ไหนแต่ไรมากระหม่อมเองก็มิได้สนใจสิทธิในราชบัลลังก์ลำดับที่สามของตนอยู่แล้ว เพราะตำแหน่งนี้ช่างไกลจากความเป็นจริงเสียนี่กระไร เพราะหากจะก้าวขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองแคว้นนี้ก็หมายถึงอิ๋งหยางและฝ่าบาทต่างหลีกทางให้แก่อนุชาผู้นี้หรือไม่ก็สวรรคตไปก่อนด้วยกันทั้งคู่... แต่จะเป็นเช่นนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ” รับสั่งแฝงเร้นความนัยสายพระเนตรวาววับเปล่งรังสีอำมหิตท่ามกลางรอยแย้มเยือนอันเสแสร้งว่ามิได้หมายปองตำแหน่งเจ้าผู้ครองแคว้นนี้แม้แต่น้อย

“ได้ยินเช่นนี้ก็ดีข้ารู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง แล้วนี่อิ๋งหยางจะต้องจบชีวิตลงจริงๆ ตามแผนที่วางเอาไว้แน่นอนใช่หรือไม่” รับสั่งถามย้ำกลับไปเพื่อความแน่พระทัย

“จริงแท้แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ! ไม่ต้องทรงกังวลพระทัย” สุรเสียงเน้นย้ำหนักแน่นตอบกลับไป

“แผลที่อิ๋งหยางได้รับบาดเจ็บ ได้ยินมาว่าแปลกประหลาดนัก มีเศษบางอย่างฝังแน่นลึกอยู่ภายในกายไม่สามารถนำออกมาได้ ดังนั้นเพียงแค่ใช้ตัวยาที่ทำให้แผลยิ่งอักเสบและลุกลามออกเป็นกว้าง เชื่อเถอะว่าจะต้องทำอันตรายรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตแน่นอน ไม่จำเป็นต้องนำยาพิษมาใช้แต่ประการใด เพียงเท่านี้ก็สามารถจบชีวิตของอิ๋งหยางได้อย่างแนบเนียนมิมีผู้ใดสงสัยแม้แต่น้อย ตายทั้งเป็นอย่างช้าๆ”

พระพักตร์คมคายที่เต็มไปด้วยความกังวลเมื่อครู่ค่อยๆ แปรเปลี่ยนไปโดยพลันครั้นทรงได้ยินเช่นนั้น

“เจ้าฉลาดมากอิ๋งเฟิง มิเสียแรงที่ข้าและเจ้าเติบใหญ่มาด้วยกัน” รับสั่งชมเชยพระอนุชา

“มันแน่นอนอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะกระหม่อมจะต้องช่วยเสด็จพี่อย่างเต็มที่ เหตุใดจะต้องละเว้นชีวิตอิ๋งหยางให้กลับมาทวงทุกสิ่งทุกอย่างคืนกลับไปเล่า อนุชาของฝ่าบาทผู้นี่แหละหายอมให้เกิดเหตุการณ์นั้น ผู้ใดขวางข้ามันจะต้องตาย” รับสั่งพลางทอดพระเนตรเชษฐาต่างพระมารดาเขม็ง 

รอยแสยะยิ้มเหยียดปรากฏขึ้นบนพระพักตร์เมื่อสามารถทำให้เจ้าผู้ครองแคว้นองค์ปัจจุบันไว้วางพระทัย มิเคลือบแคลงสงสัยพระองค์ ว่าแท้จริงแล้วทรงหมายปองกระหายใคร่ก้าวขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองแคว้นฉินอันยิ่งใหญ่นี้ให้จงได้ ดังนั้นการกำจัดพระเชษฐาองค์ใหญ่ให้พ้นทางการขึ้นสู่อำนาจอยู่ในแผนการอยู่แล้ว และผู้ที่จะต้องถูกกำจัดรายต่อไปก็คืออิ๋งเหว่ย พระเชษฐาผู้มีสิทธิอันชอบธรรมลำดับที่สองทรงยืนอยู่ตรงพระพักตร์ในขณะนี้

“เออ... จริงสิฝ่าบาท กระหม่อมได้ยินมาว่าทรงคัดเลือกฮองเฮาพระองค์ใหม่แทนพระชายาเอกที่สิ้นพระชนม์เพราะมีประสูติกาลพระราชธิดาได้แล้ว เหตุใดครานี้จึงทรงเลือกธิดาของเสนาบดีจางฟง แทนที่จะทรงเลือกองค์หญิงจากแคว้นเอี้ยน ที่รั้งตำแหน่งพระชายารองของฝ่าบาทอยู่ในขณะนี้” องค์ชายสามรับสั่งถามกลับไปด้วยความสงสัย

ในขณะที่พระเชษฐาถึงกับเปล่งเสียงพระสรวลออกมาทันใดครั้นทรงได้ยินอนุชากราบทูลถามกลับมา

“ไม่น่าเชื่อว่าคนเช่นเจ้าจะตามความคิดของข้าไม่ทัน เห็นทุกเรื่องล้วนคาดเดาได้ล่วงหน้าทุกครา เหตุใดเรื่องนี้เจ้ากลับทำให้ข้าแปลกใจยิ่งนักที่มิล่วงรู้ว่าข้าคิดเยี่ยงไรจึงเลือกธิดาของเสนาบดีจางฟงแต่งตั้งให้เป็นฮองเฮา… ลองทบทวนดีๆ สิอิ๋งเฟิง” รับสั่งย้อนถามกลับไป

ในขณะที่พระอนุชาพระพักตร์ตึงขึ้นมาโดยพลันครั้นทรงได้ยินเช่นนั้น ว่าพระองค์มิสามารถทัดเทียมความคิดได้เท่าทันแต่ก็เพียงครู่เดียว องค์ชายจอมเจ้าเล่ห์ค่อยๆ แย้มพระโอษฐ์บางๆ พร้อมรับสั่งตอบกลับไป

“ถ้าเช่นนั้นกระหม่อมขอบังอาจกราบทูลตามความคาดเดาเอาเองก็แล้วกันพ่ะย่ะค่ะ”

“อือฮึ!… ตามสบายข้าอนุญาต” พระเชษฐารับสั่งตอบกลับไปพลางทอดพระเนตรอนุชาเอื้อนเอ่ยถ้อยเจรจา

“ข้อแรกที่กระหม่อมแปลกใจและคาดเดาเอาเองว่า ทรงพึงพอพระทัยธิดาของเสนาบดีจางฟงผู้นี้อย่างยิ่งยวด ได้ยินเสียงเล่าลือโจษขานกันต่อๆ มาว่านางมีรูปโฉมงดงามที่ยากจะปรากฏให้เห็นในผืนแผ่นดินนี้เลยทีเดียว งดงามถึงขนาดล่มแคว้นล่มเมืองได้เลยเชียว” รับสั่งพร้อมทอดพระเนตรพระเชษฐากลับไป

ในขณะที่อีกฝ่ายพยักพระพักตร์ขึ้นลงติดๆ กัน สีพระพักตร์แฝงเร้นแววขบขัน

“การข่าวของเจ้าละเอียดยิ่งนัก ล่วงรู้เบื้องลึกถึงเพียงนี้เชียว” รับสั่งพลางพระสรวลออกมา

“แต่กระหม่อมไม่เข้าใจฝ่าบาทอยู่ดี ธิดาของเสนาบดีจางฟงผู้นี้นางมิเคยปรากฏกายให้คนทั่วไปพบเห็นง่ายๆ แม้แต่ประตูของจวนสกุลจางยังมิเคยย่างก้าวออกมาแค่เพียงครึ่งก้าวก็ยังมิปรากฏ ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในสำนักชีเพื่อสวดภาวนาขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่างทำตัวคร่ำครึเสียนี่กระไร ดังนั้นทรงอธิบายให้กระจ่างได้หรือไม่ว่าฝ่าบาทพึงพอพระทัยนางได้เยี่ยงไรและไปพบกันตอนไหนจนตัดสินพระทัยแต่งตั้งเป็นฮองเฮา” รับสั่งถามกลับไปด้วยความอยากรู้

ในขณะที่พระเชษฐาทรงแย้มพระโอษฐ์กว้างเมื่อล่วงรู้ว่า ครานี้อนุชาของพระองค์ที่ได้ชื่อว่าฉลาดเฉลียวยิ่งนักและเป็นนักจอมวางแผนอีกผู้หนึ่งไม่สามารถล่วงรู้เหตุผลในการแต่งตั้งฮองเฮาซึ่งมาจากสกุลจางในครั้งนี้

“นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้ามิสามารถตามความคิดของข้าได้ทัน ฝ่ายข่าวที่เจ้าส่งแทรกซึมไปทั่วทั้งวังและตามสืบพฤติกรรมของทุกคนเห็นทีต้องสับเปลี่ยนครั้งใหญ่เสียแล้วนะอิ๋งเฟิง”

รับสั่งของพระเชษฐาทำให้องค์ชายหนุ่มยืนนิ่งไปชั่วขณะเมื่อทรงล่วงรู้ว่าพระองค์มีสายข่าวแทรกซึมคอยสืบสถานการณ์ทุกอย่างลับๆ

“เพิ่งฉลาดขึ้นมาได้แล้วเหรออิ๋งเหว่ย เห็นทีข้าประเมินเจ้าต่ำเกินไปแล้วชะล่าใจว่าโง่งมมีแต่ความหวาดระแวง ไม่นึกว่าจะล่วงรู้การกระทำของข้าทุกอย่าง เห็นทีข้าจะต้องระวังเจ้ามากกว่านี้เสียแล้ว” อนุชาโฉดรำพึงอยู่ภายในพระทัย

“เห็นจะเป็นจริงดั่งตามที่ฝ่าบาทมีรับสั่งเป็นแน่ สายข่าวของกระหม่อมต้องรีบสับเปลี่ยนใหม่เสียแล้ว หาไม่จะสืบข่าวเพื่อมารายงานสถานการณ์ในแว่นแคว้นให้พระองค์ทรงทราบล่าช้าเป็นแน่” องค์ชายสามรับสั่งให้เข้าใจว่าทรงทำทุกอย่างเพื่อพระเชษฐามาโดยตลอด

ท่ามกลางพระพักตร์ที่เต็มไปด้วยความพึงพอพระทัยของฉินรุ่ยกง ครั้นทรงได้ยินเช่นนั้น

“จัดการตามใจเจ้าเถิด เพราะคนที่ได้ผลประโยชน์ก็คือข้าเช่นเดิมมิใช่เจ้า... ใช่หรือไม่” รับสั่งถามย้ำกลับไป

อนุชาจอมเจ้าเล่ห์แสยะยิ้มเหยียดออกมาบางๆ 

“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท” รับสั่งพร้อมก้มพระพักตร์ถวายคำนับ พระทนต์ขบเข้าหากันจนแน่นด้วยความขุ่นเคืองในพระทัยอย่างยิ่งยวด พร้อมพระสุรเสียงของเชษฐารับสั่งสำทับตามติดมา

“เอาเป็นว่าเรื่องที่ข้าแต่งตั้งธิดาจากสกุลจางให้เป็นฮองเฮา แทนที่จะแต่งตั้งองค์หญิงจากต้าเอี้ยนนั้นก็เพราะเพื่ออำนาจและความมั่นคงที่จะต้องมีในราชสำนัก” รับสั่งตอบพระอนุชากลับไป

“เป็นเพราะเหตุใดเล่าพ่ะย่ะค่ะ” อนุชารับสั่งถามกลับไปทันทีด้วยความอยากรู้

“ก็เพราะว่าอัครเสนาบดีจางฟงอยู่ฝ่ายเดียวกันกับอิ๋งหยาง และข้ารู้มาว่าพยายามทำทุกอย่างเพื่อนำคนผู้นั้นกลับมาครองแคว้นให้จงได้ อำนาจในราชสำนักอยู่ในกำมือของจางฟงทั้งหมด หากข้าต้องการความมั่นคงก็จะต้องได้คนของสกุลจางเข้ามาหนุนนำอำนาจ ดังนั้นนางจึงถูกข้าเลือก ส่วนเรื่องความงามที่เล่าลือมิได้อยู่ในความคิดของข้าแม้แต่น้อย หน้ายังไม่เคยเห็นด้วยซ้ำไป” รับสั่งตอบกลับไปตามความเป็นจริง พร้อมยกพระหัตถ์ตบลงบนพระอังสะอนุชา

“วันนี้เจ้าพ่ายแพ้ให้แก่ข้า ความฉลาดของเจ้ามิสามารถตามเท่าทันเจ้าผู้ครองแคว้น ดังนั้นคืนนี้ต้องถูกลงโทษด้วยการดื่มสุราเป็นเพื่อนข้า ไม่เมาไม่เลิกเลี้ยงฉลองให้กับอิ๋งหยาง เชษฐาผู้น่าสงสารของข้าและเจ้า”

รับสั่งพร้อมเปล่งเสียงพระสรวลดังก้องด้วยความพึงพอพระทัย ทรงพระดำเนินหันพระวรกายเสด็จกลับเข้าพระตำหนักส่วนพระองค์โดยมีสายพระเนตรอันน่าสะพรึงกลัวของผู้เป็นอนุชาจับจ้องด้วยความรู้สึกชิงชังอย่างยิ่งยวด

“หัวเราะไปเถอะอิ๋งเหว่ย! อีกไม่นานข้าจะทำให้เจ้าไปนั่งหัวเราะในปรภพแทน!” รับสั่งลอดไรพระทนต์ พระเนตรชำเลืองไปที่องครักษ์คนสนิทซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลจากพระองค์ ทำหน้าที่คอยถวายการอารักขาอยู่ตลอดเวลา

“ได้ยินแล้วใช่หรือไม่ว่าจะต้องจัดการอย่างไรต่อไป” รับสั่งออกมาเบาๆ

ร่างสันทัดขององครักษ์ค่อยๆ ก้าวออกมาจากจุดที่ยืนอยู่ 

“ทรงมีพระบัญชาให้ลงมือเมื่อใดพะย่ะค่ะ” องครักษ์คนดังกล่าวทูลถามกลับไป

“ทันที! อย่าให้ธิดาของเสนาบดีจางฟงก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งฮองเฮา เก็บให้เงียบอย่าให้เหลือร่องรอยแต่อย่างใด ให้นางหายสาบสูญอย่างไร้ตัวตน เพราะผู้ที่จะต้องได้ตำแหน่งนี้ไปจะต้องเป็นพระชายารอง องค์หญิงจากต้าเอี้ยนเท่านั้น นางเป็นฐานกำลังสำคัญที่จะทำให้ข้าได้ขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองแคว้นนี้!” รับสั่งหมายมั่นพระทัย 

พระโอษฐ์แสยะยิ้มเหยียดพลางเชิดพระพักตร์ขึ้นสูงทอดสายพระเนตรชมทิวทัศน์แคว้นฉินอันยิ่งใหญ่กับแผนการใหญ่ ที่ทรงวางไว้มานานหลายปี เป้าหมายที่ทรงใฝ่ฝันเอาไว้คือการขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองแคว้นสืบต่อไปหลังจากกำจัดพระเชษฐาทั้งสองพระองค์สำเร็จตามแผน

“อีกไม่นานแผ่นดินนี้จะต้องเปลี่ยนเจ้าผู้ครองแคว้นพระองค์ใหม่แล้ว แผนกำจัดอิ๋งเหว่ยช่างง่ายดายเสียนี่กระไร กำจัดอิ๋งหยางยังยากยิ่งกว่านับร้อยเท่าพันทวี แต่ถึงกระนั้นชีวิตของคนผู้นั้นก็ถูกข้าทำลายสมดั่งใจ เหลือเพียงแค่รอฟังข่าวว่าลมหายใจสุดท้ายหลุดลอยคราใดเท่านั้น” สิ้นสุรเสียงรับสั่ง

องค์ชายโฉดตะเบ็งเสียงพระสรวลออกมาดังกึกก้อง กำแพงเมืองแห่งแคว้นฉินที่สูงใหญ่ถูกสร้างขึ้นเพื่อประกาศศักดาให้แคว้นน้อยใหญ่ได้ล่วงรู้ว่า ยิ่งใหญ่และมีอำนาจจนกลบรัศมีแคว้นใหญ่ๆ ที่มีกำลังทัดเทียมกันอยู่ในขณะนี้

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   หวนคืน 1.2

    ในขณะเดียวกันฮั่นจง เมืองหน้าด่านชายแดนแคว้นฉิน ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความวิตกของรองแม่ทัพ บ่งบอกสถานการณ์ตอนนี้ได้เป็นอย่างดีว่าภายในเวลานี้ กำลังทหารที่กระจายไปทั่วบริเวณค่ายทหารและกระจายออกเป็นวงกว้างจนไปถึงฮั่นจง ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านของชายแดนแคว้นฉิน ข่าวการหายตัวไปของแม่ทัพปีศาจผู้เลื่องลือไปทุกสารทิศ เริ่มจะปิดเอาไว้ไม่อยู่เสียแล้ว ตลอดสามวันที่ผ่านมา กำลังทหารกระจายค้นหาแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นฉินแทบพลิกแผ่นดินเลยก็ว่าได้ ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน หมุนเวียนสลับเวรผลัดเปลี่ยนกันค้นหาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางดวงตาที่เต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มของรองแม่ทัพคนสนิท จนมิยอมเอ่ยถ้อยเจรจาใดๆ ออกมาเลยตลอดระยะเวลาที่องค์ชายอิ๋งหยางทรงหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย หากทรงไม่ปรากฏพระวรกายตลอดกาล ขวัญและกำลังใจของทหารมิเหลือสิ้นเป็นแน่แท้ ท่ามกลางคบไฟที่กำลังเริ่มจุดให้แสงสว่างขึ้นมาอีกครา เมื่อแสงแห่งดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ก้าวเข้าสู่เวลาแห่งรัตติกาลมาเยือน ท้องฟ้าสีครามเบื้องบนเริ่มสลัว ความมืดเริ่มคืบคลานปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ ทันใดนั้นเอง “ท่านรองแม่ทัพ!” เสียงทหารรักษาการณ์ดังขึ้นพร้อมก้าวเดินนำหน้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ฝาแฝดจากยุคอดีต 1.1

    ยุคอดีต “อันอัน!!!” สุรเสียงรับสั่งชื่อเล่นสตรีที่ช่วยชีวิตพระองค์ พร้อมพระหัตถ์ยื่นออกไปราวกับว่าพยายามจะไขว่คว้านางมีอันต้องหยุดชะงักโดยพลัน ห้องพักในยุคอนาคตค่อยๆ แปรเปลี่ยนกลายเป็นภายในกระโจมที่ประทับเข้ามาแทนที่ พระหัตถ์ยังคงยกค้างอยู่เช่นนั้นโดยที่องค์ชายหนุ่มมิทรงขยับพระวรกายเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย พระเนตรนิลกาฬจับจ้องอยู่แต่ทิศทางซึ่งตรงกับประตูห้องพักในโลกอนาคตอยู่เช่นนั้นนิ่งนาน ก่อนจะรู้สึกพระองค์เมื่อทรงได้ยินเสียงของเหล่าทหารดังอยู่นอกกระโจม “รีบเข้าไปในกระโจมเร็วเข้า! ได้ยินเสียงท่านรองแม่ทัพเรียกองค์ชายใหญ่เอ็ดอึงไปหมด” สิ้นเสียงพูดคุย ทหารชั้นนายกองจำนวนหลายนายเปิดผ้ากระโจมซึ่งปิดประตูทางเข้าออกอย่างรวดเร็ว ติดตามด้วยเสียงที่บ่งบอกว่าดีใจมากมายยิ่งนัก “องค์ชายใหญ่เสด็จกลับมาแล้ว! พระองค์ทรงหายไปไหนมาพ่ะย่ะค่ะ!” เหล่านายกองต่างพากันส่งเสียงเอ็ดอึงเป็นการใหญ่ ก่อนจะพากันยืนแปลกใจไปตามๆ กันเมื่อเห็นร่างของรองแม่ทัพยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่เช่นนั้น “ท่านรองแม่ทัพ! เหตุไฉนจึงยืนนิ่งราวกับหินเช่นนี้… หรือว่า!!!” นายกองแต่ละนายหันกลับมามองหน้ากันทันที ทุกสายตาเหลือบไปเห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ฝาแฝดจากยุคอดีต 1.2

    ในขณะเดียวกัน ช่วงเวลานี้ราชวงศ์โจวซึ่งเคยปกครองแคว้นต่างๆ มากมายเริ่มเสื่อมถอย ไร้สิ้นอำนาจปกครองแคว้นน้อยใหญ่ในเวลานี้ได้แต่อย่างใด หลังจากกษัตริย์โจวผิงหวางย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่ลั่วอี้ (ลั่วหยาง) ดินแดนทางทิศตะวันตกทั้งหมดตกเป็นของแคว้นฉิน ซึ่งได้ผนวกแคว้นหรือดินแดนชนเผ่าหรงจู่ซึ่งอยู่ชายแดนราชวงศ์โจวกลายเป็นมหาอำนาจทางตะวันตก ในขณะที่ดินแดนซานซีเป็นของแคว้นจิ้น ดินแดนซานตงเป็นของแคว้นฉู่และแคว้นหลู่ ดินแดนหูเป่ยเป็นของแคว้นฉู่ ดินแดนเป่ยจิงและหูเป่ยตอนเหนือเป็นของแคว้นเยี้ยน ต่อมาดินแดนทางตอนใต้แม่น้ำฉางเจียง (แม่น้ำแยงซีเกียง) เป็นของแคว้นอู๋และแคว้นเย่วและแคว้นอื่นๆ หลังจากแคว้นใหญ่ๆ ทั้งหมดผนวกเอาแคว้นเล็กๆ ในราชวงศ์โจวมาเป็นดินแดนของตน ทำให้เริ่มมีอำนาจมากขึ้นเปลี่ยนเป็นแคว้นใหญ่ และเริ่มต้นเปิดฉากที่มาของสงครามแห่งการแย่งชิง เต็มไปด้วยความโหดร้ายของการแก่งแย่งอำนาจกันของแคว้นใหญ่ๆ เพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ ซึ่งในเวลานี้แคว้นใหญ่ที่มีอำนาจและแผ่ขยายอิทธิพลไปทั่วหล้ามีด้วยกันสิบแคว้น อันได้แก่ แคว้นฉู่ แคว้นฉี แคว้นจิ้น แคว้นเอี้ยน แคว้นเยี่ยน แคว้นเยว่ แคว้นเจิ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ฝาแฝดจากยุคอดีต 1.3

    บริเวณชายป่า ขบวนเสด็จของว่าที่ฮองเฮาบัดนี้ได้ตั้งกระโจมที่ประทับบริเวณเขตชายป่าดงดิบของเมืองผิงหยาง โดยเลือกตั้งกระโจมใกล้กับลำธารเพื่อสามารถใช้เป็นสถานที่อาบน้ำชำระล้างกายและกักเก็บน้ำสะอาดไว้ใช้ดื่มในระหว่างการเดินทาง ด้วยต้องใช้เวลาอีกสองวันก็จะถึงเมืองหยงซึ่งเป็นเมืองหลวง ด้วยอาณาเขตพื้นที่ของเมืองผิงหยางกว้างใหญ่พอๆ กับเมืองหยง จึงต้องใช้เวลาในการเดินทางพอสมควร อีกทั้งเส้นทางหลักเกิดดินถล่มทำให้ไม่สามารถผ่านไปได้ จำเป็นต้องใช้เส้นทางอ้อมขุนเขาจึงจะเข้าสู่เขตเมืองหยง ท่ามกลางป่าดงดิบและสัตว์ป่าที่ออกมาหาอาหาร ต่างเดินมาให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ กวางตัวขนาดใหญ่ถูกล่ามาทำเป็นอาหารในค่ำคืนนี้ โดยทีมล่าคือองครักษ์ทั้งหกนายขององค์ชายสามอิ๋งเฟิ่ง เริ่มลงมือตามแผนที่วางเอาไว้เพื่อลอบสังหารจางเจี๋ยอี้ ว่าที่ฮองเฮาพระองค์ใหม่ในค่ำคืนนี้ กวางเลิศรสถูกย่างจนเกรียมส่งกลิ่นหอมฟุ้ง ถูกตัดแบ่งแจกจ่ายให้กับทุกคนอย่างทั่วถึงโดยหารู้ไม่ว่าในเนื้อกวางดังกล่าวได้วางยาทำให้หลับอย่างแรงซึ่งได้มาจากแคว้นเอี้ยนของพระชายารองซึ่งเป็นองค์หญิงแห่งแคว้น และพระนางเพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นพร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ฝาแฝดจากยุคอดีต 1.4

    ในขณะเดียวกัน ยุคปัจจุบัน ร่างไร้วิญญาณของโฉมงามล่มแคว้น ถูกเชือกมัดรอบกลางลำตัวติดกับหินขนาดใหญ่เพื่อใช้ถ่วงน้ำหนัก วางทับไว้บนร่างโดยมีบุรุษชุดดำอุ้มส่วนหัวและปลายเท้า เหวี่ยงไปมาติดๆ กันอยู่เพียงครู่ก่อนจะโยนลงไปในแม่น้ำทันที ตูม!!! ร่างนั้นจมดิ่งลงสู่ก้นแม่น้ำอันหนาวเย็นอย่างรวดเร็ว พร้อมเสียงเพรียกหาของจางเจี๋ยอี้เจ้าของร่างไร้วิญญาณดังกล่าวดังอยู่ใต้ก้นแม่น้ำนั้น “อันอัน! อันอัน!” เสียงเพรียกหาน้องสาวฝาแฝดออกมาจากดวงวิญญาณของจางเจี๋ยอี้ ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ “อันอัน! ตื่นได้แล้ว!” เสียงเรียกปลุกให้ตื่นจากภวังค์แห่งการหลับใหล เฮือกกก!!! จางเพ่ยอันสะดุ้งจนสุดตัว ดวงตาเปิดขึ้นพร้อมกะพริบตาปริบๆ มองไปรอบบริเวณ และพบว่าเธอกำลังนั่งอยู่บนรถตู้ของศูนย์วิจัย และรถจอดนิ่งสนิทอยู่บนสะพานข้ามแม่น้ำหวงโหวเพื่อเดินทางกลับเข้านครซีอาน หลังจากออกสำรวจสุสานแห่งใหม่จนเสร็จสิ้นภารกิจ “ที่แท้ฉันก็ฝันไป! แต่ทำไมครั้งนี้ถึงได้ฝันเห็นอดีตชาติของตัวเอง ชาติที่แล้วเรามีฝาแฝดด้วยอย่างนั้นเหรอ แต่ทำไมพี่สาวของฉันถึงได้ตายอย่างน่าเวทนาเช่นนั้น ทำไมต้องถูกฆ่า! แล้วทำไมถึงเพิ่งมาเห็นเหต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ฝาแฝดจากยุคอดีต 1.5

    เมื่อจู่ๆ จางเพ่ยอันก็หมดสติไปต่อหน้าต่อตาของเพื่อนร่วมงาน ร่างของหญิงสาวถูกช่วยชีวิตเบื้องต้นอย่างเร่งด่วนเพื่อทำให้เธอกลับมาหายใจได้อีกครั้ง ท่ามกลางสายตาของจางเพ่ยอันที่ยืนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า เมื่อรถฉุกเฉินของโรงพยาบาล มาถึงทันทีที่มีการแจ้งจากทีมงาน ทีมแพทย์ฉุกเฉินรีบช่วยกันปั้มหัวใจอย่างเร่งด่วนเพื่อให้คนไข้กลับมาหายใจได้ดั่งเดิม “หัวใจหยุดเต้นไปประมาณหนึ่งนาทีเศษๆ เห็นจะได้ ตอนนี้ปั้มหัวใจกลับคืนมาได้แล้วแต่อาการยังน่าเป็นห่วง ความดันต่ำยังไม่ยอมขึ้นเลย รีบนำขึ้นรถเร็วๆ เข้า” ทีมแพทย์ฉุกเฉินเอ่ยน้ำเสียงเคร่งเครียดก่อนจะรีบยกร่างของสาวน้อยวัยใสขึ้นเปล “นี่ฉันตายแล้วอย่างนั้นเหรอ” หญิงสาวเอ่ยออกมาทันทีเมื่อเห็นทีมแพทย์คลี่ผ้าสีขาวคลุมร่างของเธอเอาไว้อย่างมิดชิด ใบหน้าถูกสายออกซิเจนครอบเอาไว้เพื่อช่วยให้เธอได้หายใจสะดวก พร้อมยกร่างขึ้นไปไว้บนรถฉุกเฉินของโรงพยาบาล ท่ามกลางเสียงร่ำไห้ของเพื่อนร่วมงาน “ทำไมอันอันถึงได้เป็นแบบนี้... คุณหมอทำไมจู่ๆ ถึงได้ล้มฟาดพื้นทั้งยืนแบบนั้นคะ” หัวหน้าทีมวิจัยถามทีมแพทย์ช่วยเหลือด้วยความตื่นตระหนก “เป็นอาการหัวใจวายเฉียบพลันครับ เกิดข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ฝาแฝดจากยุคอดีต 1.6

    ยุคอดีต ฮั่นจง เมืองชายแดนแคว้นฉิน จวนแม่ทัพ พระวรกายสูงใหญ่ขององค์ชายปีศาจอิ๋งหยาง ในฉลองพระองค์สีดำทะมึนทรงนั่งประทับภายในห้องพระบรรทม โดยมีหมอในเมืองฮั่นจง มาถวายการรักษาบาดแผลแปลกประหลาดที่อยู่บริเวณพระอุระ ผ้าพันแผลผืนใหม่ถูกนำมาพันรอบพระวรกายใหญ่ด้วยมืออันสั่นเทาของคนเป็นหมอ เมื่อต้องถวายการรับใช้องค์ชายปีศาจซึ่งเป็นที่เลื่องลือไปทั่วทุกแคว้น “เจ้ากลัวข้ามากอย่างนั้นรึ มือจึงสั่นเทาอยู่ตลอดเวลา ข้าคงเป็นปีศาจมากกระนั้นสิ” รับสั่งถามสุรเสียงเย็นยะเยียบ สายพระเนตรจับจ้องใบหน้าหมอที่มาทำการรักษาพระองค์อยู่ในขณะนี้เขม็ง ในขณะที่คนเป็นหมอรีบทรุดกายลงพื้นก้มคำนับไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองแต่อย่างใดด้วยความกลัวเกรง แม้ว่าในขณะนี้องค์ชายอิ๋งหยางจะสวมหน้ากากสีเงินปิดบังพระพักตร์เอาไว้ก็ตามที แต่มิอาจลดทอนความน่ากลัวและน่าเกรงขามของพระองค์ลดน้อยถอยลงไปได้เลย “กะ… กระหม่อมสมควรตายพ่ะย่ะค่ะที่แสดงอาการออกมาเช่นนั้น ตะ... แต่… แต่กระหม่อมก็กลัวพระองค์จริงๆ มิขอปิดบังแต่ประการใด บรรดาหมอทั่วเมืองฮั่นจงต่างมีความรู้สึกไม่แตกต่างจากกระหม่อมแม้แต่น้อย” “เช่นนั้นรึ!”รับสั่งออกมาสั้นๆ พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ฝาแฝดจากยุคอดีต 1.7

    แม่น้ำเฟิ่ง แม่น้ำเฟิ่งอยู่ในเขตรอยต่อระหว่างเมืองผิงหยางและเมืองหยง ขวางกั้นระหว่างสองเมืองใหญ่ของแคว้นฉิน บริเวณต้นแม่น้ำมีบ้านหลังไม่ใหญ่ไม่เล็กถูกสร้างขึ้นอยู่ริมลำธารฝั่งเขตเมืองหยง ภายในบริเวณกว้างขวางมีรั้วรอบขอบชิด จัดแบ่งเป็นสัดเป็นส่วน มีเรือนนอนแยกเป็นกิจจะลักษณะ เรือนครัวและห้องโถงเล็กๆ จัดวางไว้อย่างสวยงาม ตัวบ้านทำจากไม้ไผ่เขียวยืนต้นสูง เนื้อแข็งแรงทานทน ทำให้บ้านออกมาสวยงามและน่าอยู่ ภายในห้องนอนบนเตียงไม้ไผ่ปูด้วยเสื่อกลางเก่ากลางใหม่ทาบทับด้วยฟูกนอน ปรากฏร่างระหงของหญิงสาวนางหนึ่งนอนหมดสตินานกว่าห้าวัน บริเวณหน้าอกและคอมีผ้าพันแผลราวกับว่าได้รับบาดเจ็บ ใบหน้าสวยงดงามบัดนี้แลดูขาวซีดเซียว ริมฝีปากอิ่มไร้สิ้นสีเลือดเจือจางด้วยเพราะทั่วร่างถูกพิษและเพิ่งถูกขับออกไปจนหมด ร่างอวบของสตรีสูงวัยอายุประมาณห้าสิบเศษๆ นามว่าฉางอี๋นั่วกำลังเป่ายาซึ่งเคี่ยวมาอย่างต่อเนื่องอยู่เป็นเวลานาน โดยมีชายสูงวัยแลดูมีอายุนั่งอยู่บนโต๊ะกลางห้องกำลังค่อยๆ จิบน้ำชาพลางมองคนเจ็บที่ถูกช่วยขึ้นมาจากก้นแม่น้ำเมื่อห้าวันก่อน “ท่านพี่! แม่นางผู้นี้หมดสติเข้าวันที่ห้าแล้ว ยังไม่ยอมฟื้นขึ้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03

บทล่าสุด

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   องครักษ์หน้าสวย ขันทีหน้าหวาน 1.6

    พระราชวังหลวงภายในพระตำหนักบูรพา “พัง! พังหมด! วอดวายย่อยยิบมิมีชิ้นดี! หอเฟิ่งอี้ที่ข้ากับเสด็จแม่อุตส่าห์สร้างขึ้นมา ถูกอิ๋งหยางสั่งปิดอย่างถาวร เช่นนี้เงินมหาศาลที่เคยได้รับสูญสลายหายไปเพียงชั่วพริบตา!” สุรเสียงขององค์ชายอิ๋งเฟิ่งดังกึกก้องภายในพระตำหนักบูรพาของรัชทายาทแห่งแคว้นฉิน พร้อมพระดำเนินกลับไปกลับมาอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่องค์ชายอิ๋งเหว่ยได้แต่นั่งกุมขมับอยู่เช่นนั้น เมื่อได้ล่วงรู้ข่าวการปรากฏพระวรกายของพระเชษฐาพระองค์ใหญ่มาพร้อมกับพระบัญชาอันเฉียบขาดดั่งเช่นทุกครั้งที่ทรงลงมือทำอะไรแล้ว รวดเร็วฉับไวมิทันได้ให้ตั้งตัวแม้แต่น้อย พระบัญชาที่แฝงเร้นความโหดเหี้ยมในคราเดียวกัน ด้วยหากขัดขืนพระบัญชามีคำสั่งลากไปบั่นคอจนริบเรือนพร้อมเสียบหัวประจานกลางเมืองหลวงเลยทีเดียว เป็นที่ประหวั่นพรั่นพรึงเป็นยิ่งนัก ในขณะเดียวกันทรงได้รับการยกย่องและเทิดทูนในคราเดียวกัน “เจ้าจะโวยวายออกมาก็เปล่าประโยชน์อิ๋งเฟิ่ง ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเจ้าไร้ฝีมือที่จะจัดการอิ๋งหยางให้สิ้นซาก นักฆ่าแต่ละคนล้วนไร้น้ำยา

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   องครักษ์หน้าสวย ขันทีหน้าหวาน 1.5

    จวนสกุลไป๋ จวนขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กของพ่อค้าขายข้าวสาร ทว่า ใหญ่ที่สุดในแคว้นฉิน ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเฟิ่งที่ไหลทอดยาวไปสมทบกับแม่น้ำฮวงโหว พื้นที่ภายในมีขนาดเล็กกว่าจวนสกุลฮัวไม่มากนัก แต่ถ้าหากนับพื้นที่ซึ่งติดกับริมแม่น้ำแล้วไซร้กว้างใหญ่กว่าจวนสกุลฮัวหลายเท่าเลยทีเดียว บริเวณริมแม่น้ำปรากฏเรือขนาดใหญ่สามารถเดินทางล่องแม่น้ำ และบรรจุข้าวของหนักได้เป็นอย่างดีไม่เว้นแม้กระทั่งสัตว์ขนาดใหญ่เช่นม้าหรือวัว เรือลำดังกล่าวมีผู้คนเข้าออกอยู่ตลอดเวลา ราวกับว่าเตรียมความพร้อมอยู่ทุกเมื่อหากมีภัยมาถึงตัว ปัง!!! เสียงดังกระหึ่มบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างยิ่งยวดได้เป็นอย่างดี พระวรกายสูงใหญ่ของรัชทายาทหนุ่มจากแคว้นต้าหลู่ ทรงยืนสูงตระหง่านอยู่กลางห้องโถงของจวนสกุลไป๋ ถูกสร้างขึ้นให้เป็นสถานที่ประทับแห่งที่สองซึ่งเป็นความลับสุดยอด ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงออกมาอีกและมีทางหนีได้หลายเส้นทางเตรียมพร้อมตลอดเวลา พระพักตร์หล่อเหลาบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัด ครั้นทรงได้ยินรายงานจากเหล่าองครักษ์กลับมารายงานผลการค้นหาสมบัติที่พระองค์เสียเงินซื้อมาถึงหนึ่งพันเตาปี้

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   องครักษ์หน้าสวย ขันทีหน้าหวาน 1.4

    ในเวลาเดียวกันในขณะที่จางเพ่ยอันกำลังยืนครุ่นคิดถึงอัครเสนาบดีใหญ่จางฟง ผู้เป็นบิดาของตนในภพชาตินี้ โดยมิทันสังเกตพี่หยางหยางของเธอ กำลังเดินตรงมาหาก่อนจะหยุดยืนลงตรงหน้าพร้อมยกมือจับศีรษะน้องน้อยพลางโยกไปมาเบาๆ“คิดอะไรอยู่เจ้าตัวเล็ก!” รับสั่งถามกลับไปด้วยความอยากรู้ในท่าทีที่เหม่อลอยของน้องน้อยในขณะนั้น จางเพ่ยอันรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติดั่งเดิมพร้อมถามกลับไปทันที “พี่หยางจำเรื่องราวของท่านได้จนหมดสิ้นแล้วใช่ไหม จึงสามารถวางแผนการต่างๆ อะไรตั้งมากมายถึงเพียงนี้มิหนำซ้ำยังวางออกมาเป็นขั้นเป็นตอนเลยทีเดียว” พระพักตร์หล่อเหลาพยักขึ้นลงติดต่อกัน พระโอษฐ์คลี่ยิ้มออกมาบางๆ “ความทรงจำของข้าที่หายไปจดจำได้จนหมดสิ้น จำได้แม้กระทั่งเจ้านั่นแหละเป็นคนทำให้ข้าหัวฟาดพื้นจนความจำเลือนหายไป” “หา!... จำได้ด้วยเหรอ” จางเพ่ยอันพึมพำเสียงอ่อยๆ ท่ามกลางเสียงหัวเราะเบาๆ อยู่ในลำคอจากพี่ชายแสนดี “แต่ถึงแม้ความทรงจำเดิมจะหวนกลับคืนมา ความรู้สึกที่ข้ามีต่อเจ้าและความรักที่ได้รับจากท่านตาท่านยาย กับการใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางหุบเขาในบ้

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   องค์รักษ์หน้าสวย ขันทีหน้าหวาน 1.3

    “หา!... ให้ข้าเป็นขันที!” เสียงน้องชายหน้าสวยโวยวายขึ้นมาโดยพลัน ครั้นได้ยินพี่หยางหยางกล่าวออกมาเช่นนั้น พระเนตรคู่สวยขององค์ชายปีศาจเหลือบไปทอดพระเนตรน้องชายหน้าสวยอยู่เพียงครู่ ครั้นทรงได้ยินเสียงโวยวายของคนเป็นน้องดังแทรกขึ้นมา “เจ้าอยู่เฉยอันอัน!” รับสั่งเพียงสั้นๆ กลับไป พลางหันกลับไปทอดพระเนตรทหารคนสนิท “ข้าจะปลอมตัวเป็นองครักษ์และอันอันจะเป็นขันทีแอบแฝงอยู่ในราชสำนักสักระยะ เพื่อสืบข่าวบางอย่างที่อยากล่วงรู้มาโดยตลอด อีกทั้งเพื่อตัดไฟตั้งแต้ต้นลมมิให้บรรดาน้องชายต่างแม่ของข้าเหล่านั้นริอ่านแข็งข้อกับข้าขึ้นมาได้อีก! มีหลายสิ่งที่คิดเอาไว้นานแล้วและอยากลงมือเสียที ในที่สุดโอกาสก็มาถึง” ตุ้บ!!! พู่กันอยู่ในมือที่กำลังจดบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ขององค์ชายอิ๋งหยางรวมไปถึงเหตุการณ์โดยรวมของแคว้นฉิน ซึ่งจางเพ่ยอันคอยบันทึกอยู่เป็นประจำทุกวันร่วงหล่นจากมือของตัวเองทันใดเมื่อได้ยินว่าจะต้องกลายเป็นขันที ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจก่อนจะรู้สึกตัว “โอ๊ย! ไม่เอานะ! ไม่เอานะ! ทำไมต้องให้ข้าไปเป็นขันทีด้วย ตำแหน่งนี้ข้าต้องโดนตอนนะ... พี่หยาง ใจคอท่านจะส่งข้าให้ไปตอนอย่างนั้นเหรอ... แ

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   องครักษ์หน้าสวย ขันทีหน้าหวาน 1.2

    ห้าวันผ่านไปจวนแม่ทัพ พระวรกายใหญ่ขององค์ชายอิ๋งหยางนั่งอยู่บนตั่งที่ประทับ ทรงอ่านรายงานสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมาซึ่งพระองค์หายสาบสูญไปอยู่บ้านน้อยริมลำธาร ใช้ชีวิตชาวป่ากับสองผู้เฒ่าและน้องชายหน้าหวานมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ในยามนี้ความเคลือบแคลงสงสัยในตัวของน้องน้อยยังมิเสื่อมคลายลงไปแม้แต่น้อย หากแต่พระองค์เลือกที่จะแอบสังเกตการณ์เอาไว้อย่างเงียบๆ หลังจากที่ทรงหมดพระสติบรรทมไปเสียดื้อๆ ทำให้น้องชายหน้าหวานรอดพ้นจากการถูกพระองค์จับแก้ผ้าเพื่อสำรวจร่างกาย จึงทำให้ล่วงรู้ว่าทรงถูกน้องน้อยจัดการให้มีสภาพเช่นนั้น อีกทั้งองค์ชายปีศาจทอดพระเนตรน้องชายกระตือรือร้นจัดการต้มยาด้วยตัวเองอ้างว่าเพื่อช่วยรักษาพิษที่อยู่ภายในพระวรกายให้หายเป็นปกติในเร็ววัน พระองค์จึงต้องแสร้งเล่นตามน้ำไปด้วยเพื่อจับให้ได้คาหนังคาเขาด้วยอย่างใจเย็นกว่าครั้งที่แล้วมา ในขณะที่จางเพ่ยอันหาวิธีการที่จะทำให้พี่หยางหยางคลายความสงสัยในตัวเธอว่าแท้จริงแล้วเป็นบุรุษหรือสตรีกันแน่ หญิงสาวพลิกตำราสูตรยาลับพร้อมสมุนไพรสุดวิเศษที่ผู้เฒ่าหยงอู่จัดไว้ในห่อผ้าและได้อธิบายให้หลานสาวคนสวยถึงวิธี

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   องครักษ์หน้าสวย ขันทีหน้าหวาน 1.1

    พี่หยาง!!!” จางเพ่ยอันร้องเรียกชื่อพี่ชายปีศาจจนสุดเสียง สองมือพยามยามผลักมือหนาที่กำลังง่วนอยู่กับการแก้เชือกผูกสาบเสื้อของเธออยู่ตลอดเวลา “ทะ... ท่านไม่ต้องแก้เสื้อให้ข้าหรอก! ข้าบอกว่าไม่เป็นอะไร... พี่หยางเชื่อข้าเถอะ!” เธอพยายามอธิบายกลับไป “ข้าไม่เชื่อ! เจ้ามีพิรุธยิ่งนักโดยเฉพาะตรงหน้าอก! จะต้องถูกคนโฉดผู้นั้นทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ มาเถิดอันอันพี่หยางขอดูหน่อย… จะได้ช่วยรักษาเจ้าให้เป็นปกติดั่งเดิม... มา... มา” จู่ๆ ถ้อยรับสั่งขององค์ชายปีศาจพลันเชื่องช้าลง เปลือกพระเนตรเริ่มปรือและค่อยๆ พร่ามัวขึ้นมา พระองค์ทอดพระ เนตรใบหน้าแสนสวยของน้องชายเริ่มพร่าเลือนพร้อมพระวรกายเริ่มโงนเงน “นี่ข้าเป็นอะไรไป! อันอัน! อันอัน!” รับสั่งเพรียกหาน้องชายหน้าสวยพร้อมสะบัดพระเศียรไปมาอย่างแรงติดต่อกันเพื่อขับไล่ความมึนงงและอาการพร่าเลือนที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ทันทีที่หญิงสาวเห็นอาการพี่หยางหยางแสดงออกมาเช่นนั้น เธอล่วงรู้ได้ทันทีว่าฤทธิ์ของยาสลบที่เพิ่งฉีดเข้าไปนั้นเริ่มออกฤทธิ์แล้ว และมิเสียเวลารอช้าจางเพ่ยอันสวมบทบาทตีเนียนทันใด “พี่หยางท่านเป็นอะไรอย่างนั้นรึ! เห็นไหมข้าเตือนแล้วว่าอาการข

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   เจ้าเป็นหญิงหรือเป็นชาย 1.3

    ท่อนแขนเรียวสวยของหญิงสาวถูกพี่หยางหยางดึงรั้งให้ร่างงามหันกลับมาเผชิญหน้าตามเดิม ท่ามกลางความตกใจของอีกฝ่าย “เฮ้ย! เฮ้ย!พี่หยางจะทำอะไร!”หญิงสาวร้องโวยวายพร้อมร่างเล็กๆ ถูกจับให้หันกลับมายืนอยู่ตรงหน้าคนตัวโตที่กำลังจ้องเขม็งอยู่ในขณะนี้ “เจ้าเป็นอะไรรึ! เหตุใดวันนี้แลดูชอบกลนัก แสดงท่าทีประหลาดก็หลายครา ตกใจก็ง่ายดาย แล้วนี่กระไรหน้าแดงก่ำถึงเพียงนี้เชียว... หรือว่าเจ้าเป็นไข้รึ!” รับสั่งพร้อมพยายามจะลุกจากฟูกบรรทมเพื่อสำรวจร่างกายน้องชายหน้าสวย ทั้งๆ ที่พระวรกายยังคงเปลือยเปล่าอยู่เช่นนั้น มีเพียงผ้าห่มของหญิงสาวปิดเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่ ดวงตากลมโตเบิกกว้างครั้นเห็นร่างเปลือยจะหลุดพ้นจากผ้าห่มผืนน้อย มือเรียวสวยรีบตรงเข้าไปตะครุบผืนผ้าก่อนจะพันรอบพระวรกาย “ว้าย! ไม่ต้อง! ไม่ต้อง! ไม่ต้องยืน!!!” จางเพ่ยอันหวีดร้องออกมาด้วยความลืมตัว แปะ! หยดเลือดสีแดงก่ำไหลออกมาจากรูจมูกของเธอโดยพลัน เมื่อใบหน้าแสนสวยเกือบแนบชิดกับแผงอกกว้างที่อัดแน่นด้วยกล้ามเนื้อเรียงตัวอย่างสวยงาม “อือหือ แข็งปั้ก! แข็งไปหมด!” หญิงสาวพูดพลางยกปลายนิ้วขึ้นสัมผัสตรงปลายจมูกของเธอทันใด “โอ้โฮ!ความดันขึ้นถึงขี

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   เจ้าเป็นหญิงหรือเป็นชาย 1.2

    เวลาผ่านไปนานกว่าสองชั่วยาม แผลจากลูกธนูบริเวณหน้าอกและหน้าขาขององค์ชายปีศาจได้รับการรักษาเป็นที่เรียบร้อย ลูกธนูอาบยาพิษถูกนำออกมาจากพระวรกายเป็นผลสำเร็จ บาดแผลเย็บโดยใช้ไหมละลายเรียบเนียนและสวยงามเรียงตัวเป็นระเบียบ บาดแผลดังกล่าวถูกปิดทับด้วยผ้าก๊อซขนาดใหญ่ก่อนจะทาบทับด้วยแผ่นปลาสเตอร์ที่สามารถตัดแบ่งได้ด้วยกรรไกรอันคมกริบจากยุคปัจจุบันทำการปิดทับชั้นสุดท้ายเพื่อป้องกันมิให้ถูกสิ่งสกปรก และตามด้วยผ้าพันแผลที่ทำมาจากผ้าฝ้ายถูกนำมาพันโดยรอบอย่างสวยงามทั้งบริเวณหน้าอกและหน้าขาขององค์ชายปีศาจ “เสร็จเรียบร้อยแล้ว! อาการของพี่หยางไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว แผลที่หน้าอกและหน้าขาของท่าน ข้าจะคอยดูแลเปลี่ยนผ้าและล้างแผลให้เอง ส่วนยาพิษที่ได้รับเข้าไปใช้ยาของท่านตาทำการล้างพิษกินติดต่อกันอีกสักสองสามวัน พิษร้ายในตัวของพี่หยางก็หมดสิ้นแล้ว” หญิงสาวกล่าวอย่างภาคภูมิใจในฝีมือทางการแพทย์ของตนเอง ในขณะที่คนจากยุคอดีตต่างพากันเงียบงันไปตามๆ กันเมื่อได้เห็นการรักษาที่มิเคยพานพบมาก่อน เครื่องมือหลายอย่างสร้างความฉงนสนเท่ห์ให้แก่ทุกสายตาที่อยู่ภายในห้องดังกล่าวเป็นยิ่งนัก แม้จะอยู่ในสนามรบมามากก็ตาม แ

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   เจ้าเป็นหญิงหรือเป็นชาย 1.1

    ห้องนอนท่านแม่ทัพ เพียงไม่นานจางเพ่ยอันก้าวข้ามธรณีประตูมาหยุดยืนอยู่กลางห้องพระบรรทม ในขณะที่โม่โฉวและองครักษ์ติดตามกำลังสาละวนถอดฉลองพระองค์ที่เต็มไปด้วยโลหิตของผู้คนมากมาย ที่องค์ชายปีศาจสังหารผู้คนนับตั้งแต่หอเฟิ่งอี้เป็นต้นมาจนถึงจวนสกุลฮัวจนสิ้นชีพไม่ต่ำกว่าร้อยชีวิตเลยทีเดียว ร่างอรชรหยุดชะงักทันทีเมื่อเธอเห็นฉลองพระองค์ขององค์ชายหนุ่มถูกปลดออกจากพระวรกาย ตุ้บ!!! ฉลองพระองค์ถูกถอดออกจนเผยให้เห็นพระอุระกว้างเต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออัดแน่น ลูกธนูอาบยาพิษเสียบเข้าไปจนลึกเหลือเพียงส่วนปลายที่ถูกหักเอาไว้เพียงน้อยนิด บริเวณบาดแผลเต็มไปด้วยเลือดสีดำในขณะที่พระวรกายท่อนล่างกำลังถูกรองแม่ทัพดึงส่วนที่เป็นกางเกงผ้าตามมาติดๆ พรึบ!!! กางเกงถูกดึงออกจากพระวรกายอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสายตาของจางเพ่ยอันที่เห็นพี่หยางหยางเปลือยกายต่อหน้าต่อตาเธออยู่ในขณะนี้ “อ๋อย!!! พะ… พะ... พี่... พี่หยาง... หูยย! เห็นหมดเลย” หญิงสาวรำพึงออกมาเบาๆ ใบหน้าหวานลึกล้ำแดงก่ำขึ้นมาโดยพลันเมื่อได้เห็นพระวรกายเปลือยเปล่าขององค์ชายปีศาจปรากฏอยู่ตรงหน้าของเธอในขณะนี้ ก่อนจะรู้สึกตัวเมื่อได้ยินเสียงของโม่โฉวร้องเรียก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status