Home / โรแมนติก / แม่ทัพร้ายโหยหารัก / ฝาแฝดจากยุคอดีต 1.4

Share

ฝาแฝดจากยุคอดีต 1.4

last update Last Updated: 2025-01-03 01:40:45

ในขณะเดียวกัน

 ยุคปัจจุบัน

ร่างไร้วิญญาณของโฉมงามล่มแคว้น ถูกเชือกมัดรอบกลางลำตัวติดกับหินขนาดใหญ่เพื่อใช้ถ่วงน้ำหนัก วางทับไว้บนร่างโดยมีบุรุษชุดดำอุ้มส่วนหัวและปลายเท้า เหวี่ยงไปมาติดๆ กันอยู่เพียงครู่ก่อนจะโยนลงไปในแม่น้ำทันที

  ตูม!!! ร่างนั้นจมดิ่งลงสู่ก้นแม่น้ำอันหนาวเย็นอย่างรวดเร็ว พร้อมเสียงเพรียกหาของจางเจี๋ยอี้เจ้าของร่างไร้วิญญาณดังกล่าวดังอยู่ใต้ก้นแม่น้ำนั้น

  “อันอัน! อันอัน!” เสียงเพรียกหาน้องสาวฝาแฝดออกมาจากดวงวิญญาณของจางเจี๋ยอี้ ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ

  “อันอัน! ตื่นได้แล้ว!” เสียงเรียกปลุกให้ตื่นจากภวังค์แห่งการหลับใหล

  เฮือกกก!!! จางเพ่ยอันสะดุ้งจนสุดตัว ดวงตาเปิดขึ้นพร้อมกะพริบตาปริบๆ มองไปรอบบริเวณ

  และพบว่าเธอกำลังนั่งอยู่บนรถตู้ของศูนย์วิจัย และรถจอดนิ่งสนิทอยู่บนสะพานข้ามแม่น้ำหวงโหวเพื่อเดินทางกลับเข้านครซีอาน หลังจากออกสำรวจสุสานแห่งใหม่จนเสร็จสิ้นภารกิจ

  “ที่แท้ฉันก็ฝันไป! แต่ทำไมครั้งนี้ถึงได้ฝันเห็นอดีตชาติของตัวเอง ชาติที่แล้วเรามีฝาแฝดด้วยอย่างนั้นเหรอ แต่ทำไมพี่สาวของฉันถึงได้ตายอย่างน่าเวทนาเช่นนั้น ทำไมต้องถูกฆ่า! แล้วทำไมถึงเพิ่งมาเห็นเหตุการณ์ในอดีตเอาตอนนี้แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยที่จะเห็นเหตุการณ์ในอดีตหรือในอนาคตของตัวเราแม้แต่ครั้งเดียว แปลกจริงๆ เลย” หญิงสาวนั่งรำพึงอยู่ภายในใจก่อนจะได้ยินเสียงหัวหน้าทีมร้องเรียกเธอขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมเปิดประตูรถตู้

  “อันอัน! ออกไปข้างนอกตัวรถกันก่อนเถอะ จู่ๆ รถเป็นอะไรก็ไม่รู้ดับขึ้นมาเฉยๆ ซะงั้น ต้องถึงเวลาขอใช้งบประมาณใหม่จัดหาซื้อรถเอาไว้ออกนอกพื้นที่เพิ่มแล้ว ดูสิจอดเสียกลางสะพานอยู่แบบนี้จะได้ถึงบ้านกันเมื่อไรก็ไม่รู้พวกเรา” หัวหน้าทีมวิจัยซึ่งเป็นสาวใหญ่บ่นกระปอดกระแปด พลางก้าวลงจากรถตู้

  จางเพ่ยอันได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ กลับไปด้วยเพราะยังงุนงงกับความฝันที่เห็นอดีตชาติของตัวเองอยู่ในขณะนั้น เธอก้าวลงจากรถตามเพื่อนร่วมงานไปติดๆ พร้อมเสียงของหัวหน้าวิจัยเอ่ยขึ้น

  “จริงสิอันอัน... เดี๋ยวโบราณวัตถุที่ได้มาจากสุสานใหม่ ฉันมอบให้เธอรับผิดชอบทั้งหมดเลยนะ รักษาให้ดีๆ นี่เป็นวัตถุโบราณลอตแรกที่เพิ่งได้จากสุสานที่เพิ่งขุดพบ”

  คำกล่าวของหัวหน้าทีมวิจัยทำให้คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันครั้นได้ยินเช่นนั้น

  “ไม่ใช่นะคะหัวหน้า วัตถุโบราณที่นำกลับมาด้วยในครั้งนี้เป็นล็อตที่สองค่ะ ลอตแรกเป็นปิ่นหยกที่ขุดพบในสุสานแห่งใหม่ หัวหน้ามอบให้อันอันตรวจสอบและประเมินอายุจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะออกนอกพื้นที่ก็ส่งงานให้หัวหน้า แต่เมื่อสามวันก่อนกลับนำมาให้หนูเก็บไว้บอกว่าลืมเอาไว้บนรถ ละ... แล้ว... ตอนนี้ปิ่นโบราณอันนั้นก็… หะ… หาย” หญิงสาวยังไม่ทันพูดจบ หัวหน้าทีมวิจัยเอ่ยสวนกลับมาทันที

  “นี่เธอเป็นอะไรไปอันอัน ทำงานอดหลับอดนอนมากเกินไปหรือเปล่า หรือวัตถุโบราณมีมาให้ตรวจสอบมากเกินไปจนจำอะไรสับสน ปิ่นโบราณที่ไหนกัน ไม่มีบันทึกรายการวัตถุโบราณที่ขุดพบในสุสานแห่งใหม่นี้เลยนะ และไม่เคยได้รับวัตถุโบราณจากสุสานที่เพิ่งขุดพบมาก่อนหน้านี้ด้วย แปลกจริงๆ เลยเด็กคนนี้… นอนซะบ้างนะเรา” หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวพร้อมส่ายหน้าไปมาพลางยกมือตบลงบนบ่าของหญิงสาวเบาๆ เป็นการให้กำลังใจ

  ในขณะที่จางเพ่ยอันถึงกับยืนนิ่งงันไปทันทีครั้นได้ยินคำกล่าวของหัวหน้างานเอ่ยออกมาเช่นนั้น

  “เกิดอะไรขึ้นกับฉัน! ทำไมปิ่นหยกของท่านแม่ทัพที่จู่ๆ ก็หายไปพร้อมกับเจ้าของ ราวกับว่าไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน แล้วทำไมฉันถึงได้รู้และเห็นคนเดียว” หญิงสาวยกนิ้วขึ้นกัดเล็บตัวเองพลางครุ่นคิดทบทวนไปมา ก่อนจะหยุดโดยพลันพร้อมดวงตาเบิกกว้างขึ้นมาทันที

  “หรือเหตุการณ์ที่ฉันเห็นคือภาพในอนาคตของท่านแม่ทัพ ไม่ใช่ภาพอดีตอย่างนั้นเหรอ” หญิงสาวกล่าวพึมพำแต่แล้วใบหน้าสวยใสน่ารักกลับต้องฉงนขึ้นมาอีกครา

  “แต่เขาเป็นคนในยุคอดีตภาพที่ฉันเห็นจะต้องเป็นเหตุการณ์ในอดีตของเขาไม่ใช่เหตุการณ์ในอนาคตถึงจะถูกสิ มีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นกับตัวเราหรือเปล่าหว่า” หญิงสาวยืนพึมพำพร้อมใช้ความคิดอย่างหนัก

  “เหตุการณ์ที่เจ้าเห็นในอดีตยังไม่เกิดขึ้น มันคือเหตุการณ์เบื้องหน้าที่จะเกิดขึ้นกับคนผู้นั้นอันอัน” เสียงหวานของสตรีกระซิบแผ่วชิดริมหูของหญิงสาว

  และเสียงกระซิบดังกล่าวจางเพ่ยอันได้ยินอย่างชัดเจน เธอค่อยๆ หันใบหน้ากลับไปมองยังทิศทางที่ได้ยินเสียงกระซิบนั้น ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนก เมื่อร่างเลือนรางของผู้หญิงสวมชุดโบราณสีดำสลับแดง บ่งบอกว่าเป็นสตรีชั้นสูงสังเกตได้จากอาภรณ์ที่สวมใส่และเครื่องประดับที่อยู่บนเรือนกาย

  ดวงวิญญาณของจางเจี๋ยอี้ ค่อยๆ ปรากฏออกมาให้น้องสาวฝาแฝดได้เห็น ทั่วร่างเปียกชุ่มเพราะศพถูกถ่วงน้ำ และจิตสุดท้ายเฝ้าคิดถึงน้องสาวฝาแฝดจนสูญสิ้นลมหายใจ จึงทำให้ดวงวิญญาณกลับมาปรากฏต่อหน้าน้องสาวของนางในชาติที่แล้วทันทีที่ชีพดับสูญ

  “อันอัน! น้องพี่” จางเจี๋ยอี้เอ่ยออกมาทันทีที่พานพบน้องสาวฝาแฝดที่กลับชาติมาเกิดใหม่ในยุคปัจจุบันนี้แล้ว แม้ว่ารูปโฉมจะเปลี่ยนไปหากแต่ดวงจิตยังคงเป็นดวงเดิม

  “เจี๋ยเจี๋ย!” หญิงสาวเรียกชื่อเล่นพี่สาวฝาแฝดเมื่อชาติที่แล้วออกมาทันที 

  หยาดน้ำตาเอ่อล่นคลอเบ้าเมื่อสภาพดวงวิญญาณของพี่สาวฝาแฝดช่างน่าเวทนายิ่งนัก ดวงจิตในอดีตชาติของเธอซึ่งเป็นลูกสาวฝาแฝดของอัครเสนาบดีจางฟงและฮูหยินเจียงกลับมาทันที และเป็นที่น่าประหลาดยิ่งนัก เมื่อชื่อและแซ่ของเธอในชาติปัจจุบันเหมือนกับ จางเพ่ยอัน ในอดีตชาติของเธออย่างไม่คาดฝัน

  “ในที่สุดเราสองพี่น้องก็ได้พบกันเสียที” พี่สาวฝาแฝดจากยุคอดีตกล่าวพร้อมยื่นมือรอรับน้องสาวของนาง

  ใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยรอยยิ้มพยักหน้าขึ้นลงติดๆ กัน ชาตินี้หญิงสาวเป็นเด็กกำพร้าเติบโตโดยไร้ญาติขาดมิตรแต่ชาติที่แล้วเธอมีทั้งพ่อและแม่คอยเลี้ยงดูและยังมีพี่สาวฝาแฝดอีกด้วย ความอบอุ่นที่เฝ้าโหยหามาตลอด ทำให้จางเพ่ยอันมิเสียเวลาขบคิดแม้แต่น้อย หญิงสาวยื่นมือสัมผัสกับพี่สาวฝาแฝดในยุคอดีตก่อนจะเดินตามหลังมาติดๆ พร้อมดวงจิตของจางเพ่ยอันหลุดลอยออกจากร่างทั้งๆ ที่กำลังยืนพิงราวสะพานขณะที่ใช้ความคิดอยู่ในขณะนั้น

  ร่างระหงยืนโงนเงนไปมาก่อนจะทรุดฮวบลงกับพื้นคาราวสะพานทันที 

  “ว้ายยยย!!! อันอัน! อันอัน!” เสียงของเพื่อนร่วมงานหวีดร้องดังก้องระงมด้วยความตกใจสุดขีด

Related chapters

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ฝาแฝดจากยุคอดีต 1.5

    เมื่อจู่ๆ จางเพ่ยอันก็หมดสติไปต่อหน้าต่อตาของเพื่อนร่วมงาน ร่างของหญิงสาวถูกช่วยชีวิตเบื้องต้นอย่างเร่งด่วนเพื่อทำให้เธอกลับมาหายใจได้อีกครั้ง ท่ามกลางสายตาของจางเพ่ยอันที่ยืนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า เมื่อรถฉุกเฉินของโรงพยาบาล มาถึงทันทีที่มีการแจ้งจากทีมงาน ทีมแพทย์ฉุกเฉินรีบช่วยกันปั้มหัวใจอย่างเร่งด่วนเพื่อให้คนไข้กลับมาหายใจได้ดั่งเดิม “หัวใจหยุดเต้นไปประมาณหนึ่งนาทีเศษๆ เห็นจะได้ ตอนนี้ปั้มหัวใจกลับคืนมาได้แล้วแต่อาการยังน่าเป็นห่วง ความดันต่ำยังไม่ยอมขึ้นเลย รีบนำขึ้นรถเร็วๆ เข้า” ทีมแพทย์ฉุกเฉินเอ่ยน้ำเสียงเคร่งเครียดก่อนจะรีบยกร่างของสาวน้อยวัยใสขึ้นเปล “นี่ฉันตายแล้วอย่างนั้นเหรอ” หญิงสาวเอ่ยออกมาทันทีเมื่อเห็นทีมแพทย์คลี่ผ้าสีขาวคลุมร่างของเธอเอาไว้อย่างมิดชิด ใบหน้าถูกสายออกซิเจนครอบเอาไว้เพื่อช่วยให้เธอได้หายใจสะดวก พร้อมยกร่างขึ้นไปไว้บนรถฉุกเฉินของโรงพยาบาล ท่ามกลางเสียงร่ำไห้ของเพื่อนร่วมงาน “ทำไมอันอันถึงได้เป็นแบบนี้... คุณหมอทำไมจู่ๆ ถึงได้ล้มฟาดพื้นทั้งยืนแบบนั้นคะ” หัวหน้าทีมวิจัยถามทีมแพทย์ช่วยเหลือด้วยความตื่นตระหนก “เป็นอาการหัวใจวายเฉียบพลันครับ เกิดข

    Last Updated : 2025-01-03
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ฝาแฝดจากยุคอดีต 1.6

    ยุคอดีต ฮั่นจง เมืองชายแดนแคว้นฉิน จวนแม่ทัพ พระวรกายสูงใหญ่ขององค์ชายปีศาจอิ๋งหยาง ในฉลองพระองค์สีดำทะมึนทรงนั่งประทับภายในห้องพระบรรทม โดยมีหมอในเมืองฮั่นจง มาถวายการรักษาบาดแผลแปลกประหลาดที่อยู่บริเวณพระอุระ ผ้าพันแผลผืนใหม่ถูกนำมาพันรอบพระวรกายใหญ่ด้วยมืออันสั่นเทาของคนเป็นหมอ เมื่อต้องถวายการรับใช้องค์ชายปีศาจซึ่งเป็นที่เลื่องลือไปทั่วทุกแคว้น “เจ้ากลัวข้ามากอย่างนั้นรึ มือจึงสั่นเทาอยู่ตลอดเวลา ข้าคงเป็นปีศาจมากกระนั้นสิ” รับสั่งถามสุรเสียงเย็นยะเยียบ สายพระเนตรจับจ้องใบหน้าหมอที่มาทำการรักษาพระองค์อยู่ในขณะนี้เขม็ง ในขณะที่คนเป็นหมอรีบทรุดกายลงพื้นก้มคำนับไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองแต่อย่างใดด้วยความกลัวเกรง แม้ว่าในขณะนี้องค์ชายอิ๋งหยางจะสวมหน้ากากสีเงินปิดบังพระพักตร์เอาไว้ก็ตามที แต่มิอาจลดทอนความน่ากลัวและน่าเกรงขามของพระองค์ลดน้อยถอยลงไปได้เลย “กะ… กระหม่อมสมควรตายพ่ะย่ะค่ะที่แสดงอาการออกมาเช่นนั้น ตะ... แต่… แต่กระหม่อมก็กลัวพระองค์จริงๆ มิขอปิดบังแต่ประการใด บรรดาหมอทั่วเมืองฮั่นจงต่างมีความรู้สึกไม่แตกต่างจากกระหม่อมแม้แต่น้อย” “เช่นนั้นรึ!”รับสั่งออกมาสั้นๆ พ

    Last Updated : 2025-01-03
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ฝาแฝดจากยุคอดีต 1.7

    แม่น้ำเฟิ่ง แม่น้ำเฟิ่งอยู่ในเขตรอยต่อระหว่างเมืองผิงหยางและเมืองหยง ขวางกั้นระหว่างสองเมืองใหญ่ของแคว้นฉิน บริเวณต้นแม่น้ำมีบ้านหลังไม่ใหญ่ไม่เล็กถูกสร้างขึ้นอยู่ริมลำธารฝั่งเขตเมืองหยง ภายในบริเวณกว้างขวางมีรั้วรอบขอบชิด จัดแบ่งเป็นสัดเป็นส่วน มีเรือนนอนแยกเป็นกิจจะลักษณะ เรือนครัวและห้องโถงเล็กๆ จัดวางไว้อย่างสวยงาม ตัวบ้านทำจากไม้ไผ่เขียวยืนต้นสูง เนื้อแข็งแรงทานทน ทำให้บ้านออกมาสวยงามและน่าอยู่ ภายในห้องนอนบนเตียงไม้ไผ่ปูด้วยเสื่อกลางเก่ากลางใหม่ทาบทับด้วยฟูกนอน ปรากฏร่างระหงของหญิงสาวนางหนึ่งนอนหมดสตินานกว่าห้าวัน บริเวณหน้าอกและคอมีผ้าพันแผลราวกับว่าได้รับบาดเจ็บ ใบหน้าสวยงดงามบัดนี้แลดูขาวซีดเซียว ริมฝีปากอิ่มไร้สิ้นสีเลือดเจือจางด้วยเพราะทั่วร่างถูกพิษและเพิ่งถูกขับออกไปจนหมด ร่างอวบของสตรีสูงวัยอายุประมาณห้าสิบเศษๆ นามว่าฉางอี๋นั่วกำลังเป่ายาซึ่งเคี่ยวมาอย่างต่อเนื่องอยู่เป็นเวลานาน โดยมีชายสูงวัยแลดูมีอายุนั่งอยู่บนโต๊ะกลางห้องกำลังค่อยๆ จิบน้ำชาพลางมองคนเจ็บที่ถูกช่วยขึ้นมาจากก้นแม่น้ำเมื่อห้าวันก่อน “ท่านพี่! แม่นางผู้นี้หมดสติเข้าวันที่ห้าแล้ว ยังไม่ยอมฟื้นขึ้น

    Last Updated : 2025-01-03
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   พระเชษฐาปีศาจ 1.1

    ในขณะเดียวกัน เมืองหลวง พระราชพิธีฝังพระศพ ขบวนแห่พระศพอดีตเจ้าผู้ครองแคว้น กำลังตั้งขบวนเป็นแถวยาวออกจากตำหนักส่วนกลางเพื่อเคลื่อนขบวนไปยังสุสานหลวงของราชวงศ์ บรรดาพระโอรสที่ประสูติจากอดีตเจ้าผู้ครองแคว้นรวมด้วยกันสิบห้าพระองค์ ทยอยเสด็จมาเข้าร่วมขบวนโดยมีเจ้าผู้ครองแคว้นองค์ปัจจุบัน ฉินรุ่ยกงพระดำเนินนำหน้าพระอนุชาทั้งหมด หากจะว่ากันไปแล้วฉินรุ่ยกงกับองค์ชายอิ๋งหยางพระเชษฐาทรงพระอ่อนชันษาเพียงแค่ห้าวันเท่านั้น จึงทำให้กลายเป็นองค์ชายรอง ซึ่งแคว้นฉินได้จัดลำดับเชื้อพระวงศ์เอาไว้อย่างชัดเจน และต่างล่วงรู้กันดีว่าแท้จริงแล้ว เจ้าผู้ครองแคว้นพระองค์จริงจะต้องเป็นองค์ชายอิ๋งหยาง พระเชษฐาองค์โตซึ่งประสูติจากฮองเฮาพระองค์แรก “พิธีฝังพระศพของอดีตเจ้าผู้ครองแคว้น หากองค์ชายใหญ่ไม่ได้รับบาดเจ็บเช่นนั้น ผู้ที่จะต้องถือป้ายวิญญาณและพระดำเนินนำหน้าพระองค์แรกจะต้องเป็นองค์ชายอิ๋งหยาง ตามโบราณราชประเพณีใช่หรือไม่” “ตามโบราณราชประเพณีเป็นเช่นนั้นมิผิดแต่อย่างใด” “แต่พระองค์จวนเจียนสิ้นพระชนม์แล้วถึงอย่างไรก็มิอาจมาร่วมพิธีได้อยู่ดี” “อย่ามาเลย ขืนมาคงวุ่นวายเป็นแน่ ฝ่าบาทจะต้องอยู

    Last Updated : 2025-01-04
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   พระเชษฐาปีศาจ 1.2

    ณ บ้านน้อยริมลำธาร “คุณยายเอาอีก!” เสียงหวานส่งเสียงเจื้อยแจ้วร้องขอข้าวจากฮูหยินฉางที่กำลังตักข้าวให้หญิงสาวจนพูนชาม จางเพ่ยอันรีบเอื้อมมือรับชามข้าวด้วยความดีใจ พลางใช้ตะเกียบที่ทำจากไม้ไผ่คีบข้าวเข้าปากด้วยความหิว เนื้อปลาย่างจนสุกหอมน่ากินและน้ำแกงปลา เพื่อบำรุงกำลังทำให้หญิงสาวเจริญอาหารอย่างยิ่งยวด “คุณยายทำกับข้าวอร่อยจังเลยค่ะ อร่อยมากๆ อร่อยจริงๆ นะ” เธอพูดชมไม่ขาดปากพร้อมพุ้ยข้าวไปด้วย สองสามีภรรยาหันไปมองหน้ากันก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ เมื่อฟังคำพูดของสาวน้อยตรงหน้าไม่เข้าใจ ในขณะที่จางเพ่ยอันเริ่มจะรู้สึกตัวว่าเธอพูดอะไรผิดไปหรือไร ใยผู้อาวุโสทั้งสองจึงได้นั่งเงียบงันอยู่เช่นนั้น “เอ่อ... หนูพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า ทำไมตากับยายถึงนั่งมองหน้าแบบนั้นคะ” หญิงสาวเอ่ยถามกลับไปพร้อมเคี้ยวข้าวที่อยู่ในปากพลางยกน้ำแกงซดตามไปด้วย ก่อนจะได้ยินหยงอู่เอ่ยขึ้น “แม่หนู... เจ้าเป็นคนแคว้นใดรึ เป็นชาวเมืองฉินหรือเปล่า เหตุใดถ้อยเจรจราของเจ้าจึงแลดูแปลกชอบกลนัก ข้าและฮูหยินพยายามตั้งใจฟังเจ้าพูดอยู่เป็นนานแต่ก็หาเข้าใจถ้อยคำของเจ้าแต่อย่างใด” ครั้นหญิงสาวได้ยินเช่นนั้นตะเกียบที่กำลังคี

    Last Updated : 2025-01-04
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   แผนทวงคืน 1.1

    พระตำหนักจินไท่ (ตำหนักที่ประทับฉินรุ่ยกง) “ปัง!” เสียงพระหัตถ์กระทบลงบนโต๊ะตรงพระพักตร์ด้วยความพิโรธอย่างยิ่งยวด “บัดซบสิ้นดี! ข้าไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว เจ้าอิ๋งหยางเจาะจงมาปรากฏตัวในวันนี้ ตั้งใจหักหน้าข้าชัดๆ” สุรเสียงรับสั่งเกรี้ยวกราด พระพักตร์สั่นระริกอยู่ตลอดเวลา ก่อนจะเงยขึ้นทอดพระเนตรพระอนุชาซึ่งนั่งอยู่บนตั่งที่ประทับตรงข้ามกับพระองค์ “เป็นไงล่ะ! เจ้าแผนการมากไม่ใช่เหรอ ผลงานออกมาให้เห็นแล้ววันนี้ อิ๋งหยางไม่เป็นอะไรเลย! อาการจวนเจียนใกล้ตายหาปรากฏให้เห็น ตรงกันข้าม ข้า! รวมไปถึงพวกเจ้าทุกคนที่จะพากันตาย!” รับสั่งถามพระอนุชากลับไป ในขณะที่องค์ชายสามทรงครุ่นคิดอย่างหนักว่าเหตุใดแผนลอบสังหารจึงพังไม่เป็นท่าเช่นนี้ ครั้นทรงได้ยินพระเชษฐารับสั่งถามด้วยพระอารมณ์กราดเกรี้ยวกลับมาเช่นนั้น ความอดทนที่เก็บกดเอาไว้ภายในมาโดยตลอดเริ่มจะเอาไม่อยู่เสียแล้ว “เลิกโวยวายจะได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ ก่อนจะเที่ยวโทษผู้อื่นทรงมองพระองค์เองด้วยเถอะว่าสามารถต้านทานอำนาจของอิ๋งหยางได้หรือไม่ ขนาดยังไม่ได้ทำอ

    Last Updated : 2025-01-05
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   แผนทวงคืน 1.2

    3 เดือนผ่านไป ณ บ้านหลังน้อยริมลำธาร “อันอันเอ๊ย!!!” เสียงเรียกของฮูหยินผู้เฒ่าดังขึ้นอยู่หน้าประตูห้องนอนของหลานสาวคนสวย “เสร็จแล้วท่านยาย!” เสียงหวานตอบกลับมาพร้อมประตูห้องนอนเปิดออกกว้าง จางเพ่ยอัน ยืนส่งยิ้มแก้มแทบแตกก่อนจะค่อยๆ หุบลงโดยพลันพลางก้มลงสำรวจตัวเองเมื่อฮูหยินฉางยืนมองเสื้อผ้าที่เธอกำลังสวมใส่อยู่บนเรือนร่างอยู่ในขณะนี้ ด้วยเพราะเสื้อผ้าสตรีแม้จะเป็นหญิงชาวบ้านธรรมดาก็ตาม แต่ด้วยรูปโฉมอันงดงามยิ่งของร่างนี้จึงทำให้โดดเด่นเป็นอันตรายต่อตัวนางอย่างยิ่งยวด ยามอยู่บ้านน้อยริมลำธาร แม้หญิงสาวจะสวมใส่เสื้อผ้าสีพื้นธรรมดาแต่ก็ไม่มีผู้ใดมาพบเห็นแต่อย่างใด หากแต่วันนี้เป็นวันที่เธอจะต้องเดินทางนำสมุนไพรที่หายากและของป่านำไปส่งที่ร้านยาและโรงหมอในเขตเมืองหลวงซึ่งเป็นลูกค้าประจำ ภายในหนึ่งเดือนจะเข้าเมืองหลวงเพียงหนึ่งครั้งเพื่อนำสมุนไพรที่หายากไปส่ง ซึ่งในเวลาที่ผ่านมาสองสามีภรรยาจะเดินทางเข้าเมืองหลวงไปพร้อมกัน แต่คราวนี้หยงอู่เกิดหกล้มก้นกบกระแทกพื้นทำให้เดินไม่ได้ หากจะทิ้งเอาไว้ที่บ้านเพียงผู้เดียวฮูหย

    Last Updated : 2025-01-05
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   หยางหยาง 1.1

    เมืองหลวงหยงเมืองหลวงใหญ่แห่งแคว้นฉินอันรุ่งเรืองในเวลานี้ คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายหลากหลาย ที่ทยอยเข้ามาตั้งรกรากบนผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ จากอดีตซึ่งเคยเป็นเพียงแคว้นนอกสายตา ห่างไกลและมีพื้นที่ส่วนใหญ่ทุรกันดาร ชาวแคว้นฉินเป็นเพียงกลุ่มคนเร่ร่อน ดำรงอยู่ได้ด้วยการเลี้ยงสัตว์ แต่ในขณะเดียวกัน เป็นนักต่อสู้และมีน้ำอดน้ำทนสูง สามารถอดทนต่อความยากลำบากได้ทุกข์สภาวะ ทว่าเพียงไม่กี่ร้อยปีจากแคว้นเล็กๆ กลับยิ่งใหญ่และขยายอาณาเขตครอบครองดินแดนแถบตะวันตกได้ทั้งหมด โดยเฉพาะในช่วงระยะสิบปีที่ผ่านมา ได้ทำสงครามปราบชนเผ่าชวนหรงซึ่งเป็นศัตรูคู่อาฆาตมาอย่างยาวนานได้อย่างราบคาบและบุกตีดินแดนเล็กๆ รวมไปถึงแคว้นใหญ่ในยุคนั้นได้เป็นผลสำเร็จมากมาย ขยายอำนาจออกไปจนกลายเป็นหนึ่งในสิบแคว้นใหญ่ที่มีอิทธิพลสูงในขณะนั้น และจางเพ่ยอัน ดวงวิญญาณของหญิงสาวในยุคอนาคต จากปีคริสต์ศักราช 2018 ได้หวนคืนกลับมาในยุคอดีตกาลและที่สำคัญเป็นยุคในอดีตชาติของเธอที่เคยถือกำเนิดมาแล้วเมื่อหลายพันปีก่อน ซึ่งเธอเป็นถึงบุตรสาวฝาแฝดของอัครเสนาบดีจางฟง และมีชื่อแซ่ในชาตินี้ว่าจางเพ่ยอัน เช่นเดียวกับชาติปัจจุบัน ทว่าในชาติอดีต

    Last Updated : 2025-01-06

Latest chapter

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   คนมันจะแห้ว!!! 1.2

    พระวรกายสูงเสด็จพระดำเนินจากสถานที่ประทับจากเบื้องบนลงมายืนเผชิญหน้ากับขุนนางใหญ่ที่ประกาศออกมาอย่างชัดเจนว่าอยู่คนละฝ่ายกับพระองค์ในเวลานี้ “เพราะเหตุใด! เจ้าจึงเห็นปีศาจตนนั้นดีกว่าข้า! ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากเสด็จพ่อ! หากต้องยึดถือตามกฎมณเฑียรบาลดั่งคำของเจ้า เช่นนี้แล้วหากอิ๋งหยางตายข้าก็ไม่มีวันได้ขึ้นครองแคว้นอย่างนั้นรึ!” รับสั่งตวาดถามกลับไป ขุนนางใหญ่ยกยิ้มตรงมุมปากออกมาเล็กน้อย “หากองค์ชายใหญ่สิ้นพระชนม์ลงก็ต้องมีพระศพยืนยันพ่ะย่ะค่ะ ตราบใดที่มิปรากฏพระวรกายออกมา พิธีถวายสัตย์ปฎิญาณกระหม่อมก็ไม่อนุญาตให้จัดขึ้นได้อีกต่อไป” จางฟงกราบทูลกลับไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ ท่ามกลางสายพระเนตรของว่าที่เจ้าผู้ครองแคว้น ที่บ่งบอกได้ว่าอยากใช้ดาบฟันปากขุนนางตรงพระพักตร์ให้ดับดิ้นไปเลยทีเดียว “ในฐานะเป็นผู้ดูแลและควบคุมกฎมณเฑียรบาลของแคว้นขอแนะนำพระองค์ว่าอย่าทรงกระทำการอะไรให้เป็นที่บั่นทอนพระราชอำนาจให้ลดน้อยถอยลงไปกว่านี้ จนประชาชนและเหล่าข้าราชบริพารเสื่อมความศรัทธามิอาจยอมรับพระองค์ขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองแคว้นสืบต่อไปได้” สิ้นเสียงถ้อยกราบทูลของอัครเสนาบดีใหญ่ที่ดังก้องไปทั่วท้องพระโ

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   คนมันจะแห้ว!!! 1.1

    เมืองหลวง ภายในท้องพระโรง ปัง!!!! เสียงพระหัตถ์ฟาดลงบนตั่งที่ประทับดังกึกก้องไปทั่วทั้งท้องพระโรง ท่ามกลางสายตาของบรรดาขุนนางน้อยใหญ่ทุกระดับชั้นเข้ามาประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน ด้วยในวันนี้เป็นงานพระราชพิธีถวายคำสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นพิธีการสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับเจ้าผู้ครองแคว้น ด้วยเจ้าผู้ครองแคว้นพระองค์ใหม่จะต้องผ่านการยอมรับจากเหล่าขุนนาง รวมไปถึงเชื้อพระวงศ์ที่มีสิทธิ์ขึ้นครองแคว้นตามลำดับของรัชทายาทซึ่งระบุเอาไว้ตามกฎมณเฑียรบาล และดูเหมือนว่าพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณในวันนี้มิอาจมีขึ้นได้เสียแล้ว “พวกเจ้าพูดอะไรออกมา! เหตุใดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณจึงมิอาจกระทำได้ ใยจึงมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น!” ฉินรุ่ยกงว่าที่เจ้าผู้ครองแคว้นพระองค์ใหม่ แสร้งรับสั่งตวาดถามให้แลดูเป็นพอพิธี ว่าพระองค์ทรงพิโรธอย่างยิ่งยวดที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน มิอาจทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณนี้ได้ พระองค์กวาดสายพระเนตรไปทั่วทั้งท้องพระโรง ท่ามกลางเหล่าขุนนางน้อยใหญ่และเชื้อพระวงศ์ชายทุกพระองค์ต่างมาจนครบเกือบทุกพระองค์ ความเงียบงันแผ่เข้ามาปกคลุมโดยรอบเมื่อไร้สิ้นถ้อยเจรจาใดๆ กราบทูล “นี่พวกเจ้าทุกคนต่างเป็นใบ้กันหรืออย่

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ดวงพิฆาต 1.3

    ถ้อยคำของท่านผู้เฒ่าทำให้จางเพ่ยอันรู้สึกทึ่งในความรู้ความสามารถของหยงเซี๊ยะอย่างยิ่งยวด และเธอเพิ่งจะล่วงรู้เดี๋ยวนี้เองว่า ตนเองเกิดดวงพิฆาตเช่นเดียวกับองค์ชายปีศาจ หญิงสาวหันกลับไปมองคนที่กำลังนั่งรอคอยอยู่บนเรือที่กำลังมองเธออยู่ในขณะนี้เช่นกัน “หรือนี่คือเหตุผลที่เราได้กลับมาอีกครั้ง” หญิงสาวรำพึงออกมาเบาๆ “เจ้ารีบไปนำองค์ชายเข้าบ้านเถอะ ไม่ต้องห่วงเรื่องว่าใครจะตายต่อไปอีกแล้วเพราะตอนนี้เจ้าทั้งสองอยู่ด้วยกัน ผู้คนรอบข้างที่อยู่ใกล้เจ้าและได้พานพบหน้าองค์ชายก็ไม่ต้องตายอีกต่อไปแล้ว” หยงอู่บอกหลานสาว จางเพ่ยอันยืนฟังด้วยความสงบแต่ถึงกระนั้นก็อดสงสัยไม่ได้ “แสดงว่าข้ากับท่านแม่ทัพที่เกิดดวงพิฆาตทั้งคู่ มาอยู่ด้วยกันเช่นนี้เป็นผลดีกับคนรอบข้างด้วยหรือท่านตา” หญิงสาวถามกลับไปด้วยความอยากรู้ “เป็นผลดีอย่างแน่นอน เพราะเท่าที่ผ่านมามีผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องตายลงไปโดยไม่รู้ตัวเพียงแค่พบหน้าองค์ชายผู้นั้น และตัวเจ้าเองก็อยู่กับผู้ใดเนิ่นนานกว่าครึ่งเหมันต์ไม่ได้เพราะจะทำให้คนรอบข้างพบแต่ความหายนะ ครานี้มิมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกต่อไปแล้ว ตราบใดที่เจ้าทั้งสองยังคงอยู่ด้วยกันและคว

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ดวงพิฆาต 1.2

    ทันทีที่องค์ชายปีศาจได้ยินถ้อยคำของชายชราตะโกนกลับมาเช่นนั้น พระองค์หันกลับไปทอดพระเนตรสองผู้เฒ่าทันทีด้วยความแปลกพระทัยระคนสงสัย ในขณะที่อีกฝ่ายรีบดึงร่างฮูหยินของตนหันหลังกลับไม่ยอมมองพระพักตร์ของพระองค์เช่นกัน “นี่มันเกิดอะไรขึ้น! ทำไมข้าจึงได้ยินเรื่องเช่นนี้ ใบหน้าของข้าต้องสาปอย่างนั้นหรอกรึ” รับสั่งด้วยความสงสัยพร้อมหันกลับไปทอดพระเนตรหนุ่มน้อยตรงพระพักตร์ที่กำลังนั่งนิ่งงันด้วยความตื่นตระหนกในสิ่งที่เธอเพิ่งได้รับรู้และได้เห็น สองมือยังคงจับพระพักตร์ของพระองค์อยู่เช่นนั้น “น้องชาย! เจ้าเป็นอะไรไป เหตุใดจึงเงียบงันและนิ่งเฉยเช่นนี้ อีกทั้งท่านตาของเจ้ายังบอกว่าข้าเป็นผู้ถูกสวรรค์สาป ผู้ใดเห็นหน้าต้องตายทุกคนเป็นเช่นนั้นจริงรึ!” ครั้นจางเพ่ยอันได้ยินรับสั่งขององค์ชายปีศาจเช่นนั้น อาการตื่นตระหนกที่ได้เห็นภาพในอดีตของพระองค์และถ้อยรับสั่งที่ถามกลับมา ทำให้หญิงสาวฉุกคิดขึ้นมาโดยพลัน “ผู้ใดเห็นหน้าต้องตายโดยพลันทันทีที่พานพบ ตำนานโบราณบันทึกเอาไว้แบบนั้น ที่เราเห็นภาพเมื่อกี้มันก็ใช่ ละ… แล้ว... ทำไมฉันเห็นหน้าเขาแล้วยังอยู่อีกล่ะ... เฮ้ย!… เป็นไปได้ยังไง! ทำไมถึงยังไม่ตาย!!!”

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ดวงพิฆาต 1.1

    เสียงหัวเราะดั่งเช่นบุรุษแผดดังกึกก้องและถ้อยเจรจาของจางเพ่ยอัน ทำให้สองผู้เฒ่ารู้สึกแปลกใจขึ้นมาทันใดครั้นได้ยินเช่นนั้น รวมไปถึงองค์ชายปีศาจก็ด้วยเช่นกัน “เหตุใดเจ้าจึงกล่าวว่าสวรรค์เข้าข้าง มีสิ่งใดเกิดขึ้นรึอันอัน!!!” หยงอู่ตะโกนถามหลานสาวกลับไป และนั่นทำให้จางเพ่ยอันรู้สึกตัวขึ้นมาทันที เธอรีบกลบเกลื่อนอาการดีใจของตัวเองให้เลือนหายไปโดยพลัน ด้วยสิ่งที่กล่าวออกมาเมื่อครู่นั้นมิสามารถบอกกับผู้ใดได้ ว่าเธอต้องขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับบุรุษซึ่งในภายภาคหน้าคือเจ้าผู้ครองแคว้นอันยิ่งใหญ่สืบต่อไป และนั่นจะทำให้หญิงสาวสามารถบันทึกเรื่องราวของพระองค์เอาไว้ได้ ว่าแท้จริงแล้วทรงเป็นผู้ใดในประวัติศาสตร์ที่ถูกหลงลืม หรือแท้จริงแล้วพระองค์คือบุคคลในประวัติศาสตร์ที่ได้รับการบันทึกแต่มีการเรียกขานพระนามผิดเพี้ยนไปจากเดิมนั่นเองความดีใจมิได้เกิดขึ้นเพราะอยากใกล้ชิดบุรุษหล่อเหลาแต่ดีใจเพราะจะได้ศึกษาและล่วงรู้รายละเอียดทุกอย่างของคนตรงหน้าในขณะนี้นั่นเอง หญิงสาวค่อยๆ ฉีกยิ้มหวานส่งให้องค์ชายใหญ่แห่งแคว้นฉิน พร้อมยกมือเรียวตบลงบนบ่ากว้างของพระองค์พรึบ!!!! ทันทีที่มือเรียวสวยของเ

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   สวรรค์เข้าข้าง 1.4

    ณ บ้านน้อยริมลำธาร“ท่านตา! ท่านยาย! ข้ากลับมาแล้ว!!!” เสียงตะโกนก้องดังอยู่ริมฝั่งไม่ห่างจากบ้านน้อยเท่าใดนัก ร่างระหงของหญิงสาวในคราบบุรุษถอดหน้ากากหนังสีดำออกจากใบหน้าของเธอทันทีที่เรือเข้าเทียบท่าอยู่ตรงหน้าบ้านในเวลาเย็นย่ำซึ่งเป็นตามกำหนดระยะเวลาของเธอที่ให้ไว้กับท่านผู้เฒ่าทั้งสอง พร้อมโบกมือไปมาตามนิสัยของเธอด้วยความร่าเริงเพียงครู่ฮูหยินฉางค่อยๆ เดินออกมาจากตัวบ้านด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดีใจ เมื่อล่วงรู้ว่าหลานสาวคนสวยของนางกลับถึงบ้านน้อยกลางเขาด้วยความปลอดภัย“อันอันมาแล้ว! ท่านตาของเจ้าเพิ่งจะเอ่ยถึงเมื่อครู่นี้เอง... โอ๊ย! ดีใจจริงๆ จะได้หมดห่วงเสียที คืนนี้ตากับยายจะได้นอนหลับสนิทเสียทีแม่คุณของยาย” ฮูหยินฉางกล่าวพลางตรงเข้าสวมกอดร่างอรชรซึ่งอยู่ในคราบของบุรุษเอาไว้แนบอกด้วยความโล่งใจอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะเหลือบไปเห็นข้าวของมากมายเต็มลำเรือด้วยความตื่นตระหนกมากกว่าความดีใจเสียมากกว่า“อันอัน! เจ้าไปเอาข้าวของพวกนี้มาจากไหน เหตุใดจึงมากมายเช่นนี้ แล้วคนเรือที่จ้างเอาไว้ไปอยู่เสียที่ใดกันเล่า ใยจึงเห็นเจ้าเพียงผู้เดียวเช่นนี้” ฮูหยินฉางถามกลับไปแทบจะไม่ได้หายใจ ในขณะ

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   สวรรค์เข้าข้าง 1.3

    เหวอ!!!! เสียงอุทานดังลั่นอย่างตื่นตระหนกออกมาโดยพลันฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!!! เสียงแหวกว่ายคล้ายอาวุธพุ่งตรงมาจากริมฝั่งแม่น้ำอย่างไม่คาดฝันฉึก ฉึก ฉึก ฉึก!!! ลูกธนูจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งตรงหมายปักเข้าที่ร่างของบุรุษที่กำลังวิ่งหนีจนมาถึงริมฝั่งแม่น้ำ ก่อนจะหันหลังกลับใช้ดาบกวัดแกว่งไปมาเพื่อมิให้ฝูงลูกธนูเสียบไปทั่วกายทว่าลูกธนูบางส่วนกลับเล็ดลอดพุ่งตรงมายังลำเรือซึ่งจอดนิ่งสนิทอยู่ในขณะนั้นฉึก! ฉึก! ฉึก! ลูกธนูพุ่งตรงปักเข้าที่หน้าอกของคนเรือถึงสามดอกเลยทีเดียว จนผงะถอยหลังต่อหน้าต่อตาของหญิงสาวซึ่งกำลังนั่งตกตะลึงที่จู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นอย่างไม่คาดฝันตูม!!! ร่างของคนเรือที่ถูกลูกธนูปักจนผงะถอยหลังร่วงหล่นไปจากเรืออย่างรวดเร็ว“ท่านลุง!!!” จางเพ่ยอันตะโกนร้องเรียกคนเรือจนสุดเสียงด้วยความตกใจสุดขีดและนั่นทำให้บุรุษที่กำลังโดนตามล่าหันกลับมามองเรือลำน้อยที่กำลังลอยลำอยู่กลางแม่น้ำในขณะนั้นทันที ก่อนจะใช้วิชาตัวเบากระโดดลอยละลิ่วมุ่งตรงไปที่เรือดังกล่าวอย่างรวดเร็วตุบ!!! ร่างสูงใหญ่ยืนจังก้าค้ำศีรษะอยู่ตรงหน้าของจางเพ่ยอัน ท่ามกลางความตกตะลึงของหญิงสาว“เฮ้ย! อะไรกันนี่! เป็นท่านอ

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   สวรรค์เข้าข้าง 1.2

    ทันใดนั้นเองสายพระเนตรเหลือบไปกระทบกับกลุ่มคนที่คอยติดตามองค์ชายปีศาจและองครักษ์ซึ่งคอยถวายอารักขาพระองค์เพียงแค่สองนาย ซึ่งตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมากลุ่มคนเหล่านั้นเพียรเฝ้าหาโอกาสหมายกำจัดองค์ชายใหญ่ให้สิ้นพระชนม์ตามที่ได้รับคำสั่ง ในขณะที่จางเพ่ยอันอาศัยจังหวะที่ตัวเล็กและบอบบาง รีบเดินหลบฉากเข้าไปปะปนกับชาวบ้านที่เริ่มเดินหนาแน่นแทรกเข้ามา เป็นเหตุให้เธอคลาดสายพระเนตรจากองค์ชายอิ๋งหยางไปโดยพลัน ครั้นทรงหันกลับมาทอดพระเนตรอีกครา บุรุษร่างเล็กพลันเลือนหายไปในเหล่าฝูงชน“หายไปแล้ว!” รับสั่งออกมาทันที“องค์ชายพวกนั้นตามมาทันแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” องครักษ์เฝ้าคอยตามเสด็จรีบกราบทูลรายงานทันใด“รู้แล้ว! พวกเจ้าพากันแยกย้ายออกค้นหาเด็กหนุ่มที่ข้าคุยด้วยเมื่อสักครู่ ไม่ว่ายังไงก็ตามจับตัวมาให้ได้!” รับสั่งกำชับ“แต่พระองค์จะทรงอยู่เพียงลำพังนะพ่ะย่ะค่ะ หากพวกกระหม่อมออกแยกย้ายพากันค้นหาเด็กหนุ่มผู้นั้นตามพระบัญชา” องครักษ์ผู้ติดตามกราบทูลถามกลับไปด้วยความเป็นห่วงพระพักตร์ภายใต้หน้ากากหนังสีดำหันกลับมาทอดพระเนตรองครักษ์ทั้งสองทันที“ไป! นักฆ่ากระจอกเหล่านั้นทำอะไรข้าไม่ได้หรอก! รีบไปจับเด็กห

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   สวรรค์เข้าข้าง 1.1

    “เจ้ารู้จักชื่อของข้า!” รับสั่งถามกลับไปพร้อมสายพระเนตรลุกโชนวาววับอย่างน่าสะพรึงกลัวพระหัตถ์หนาอีกข้างหมายพระทัยตรงเข้าบีบลำคอเล็กๆ ของบุรุษตรงพระพักตร์เหวอออ!!! จางเพ่ยอันซึ่งสามารถเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้ารีบทิ้งพระหัตถ์ใหญ่ของพระองค์อย่างรวดเร็ว“ท่านจะบีบคอข้าทำไม ข้ารู้ทันหรอกนะ!” หญิงสาวโวยวายต่อว่ากลับไปทันทีพร้อมยกมือของเธอจับลำคอของตัวเองเอาไว้มิให้ถูกบีบ ท่ามกลางความแปลกพระทัยขององค์ชายปีศาจ บุรุษร่างเล็กตรงพระพักตร์เหตุใดจึงล่วงรู้ว่าพระองค์ทรงหมายจะทำสิ่งใด“ล่วงรู้ได้อย่างไรว่าข้าหมายใจว่าจะทำเช่นนั้นกับเจ้า!” รับสั่งถามกลับไปทันทีพลางทอดพระเนตรเขม็ง“ข้าล่วงรู้ก็แล้วกัน! แต่ท่านสบายใจได้ปากของข้าไม่มีทางที่จะหาความตายใส่ตัวเองหรอกถ้าคิดอยากจะอยู่ต่อไปก็ต้องรูดซิปปากตัวเองให้สนิท” หญิงสาวพูดพลางทำท่าเอามือลากตรงมุมริมฝีปากอีกข้างไปยังอีกข้างประกอบให้พระองค์ได้ทอดพระเนตร“รูดซิปปาก!” รับสั่งทวนประโยคของหญิงสาวก่อนจะเดาเอาเองตามความคาดเดาของพระองค์“ถ้าข้าจะเดาความหมายของเจ้าคงหมายถึงปิดปากใช่หรือไม่” รับสั่งถามกลับไปด้วยความอยากรู้“ตามนั้น! ท่านเข้าใจถูกต้องแล้ว” จางเพ่ยอ

DMCA.com Protection Status