Share

หมอจำเป็น 1.4

last update Last Updated: 2025-01-02 05:13:34

เสียงเพ้อเรียกชื่อเล่นของเธอดังออกมาจากปากของคนที่กำลังนอนหมดสติยู่ในขณะนี้ จางเพ่ยอันถึงกับยืนนิ่งงันไปชั่วขณะครั้นได้ยินชื่อของตัวเองอย่างชัดเจน 

หญิงสาวค่อยๆ โน้มกายก้มลงจนชิดใบหน้าหล่อเหลาของคนเจ็บจากยุคอดีต พร้อมเงี่ยหูฟังว่าจะได้ยินอะไรออกมาจากปากอีกหรือไม่ ก่อนจะยืดกายยืนตัวตรงเช่นเดิมครั้นไม่ได้ยินอะไรอีกเลย

“แปลก! อีตาแม่ทัพรู้จักชื่อเล่นของเราได้ยังไง คงไม่ใช่กระมัง อาจจะเรียกชื่อผู้หญิงคนอื่นที่อยู่โลกเดียวกันกับเขาและบังเอิญไอ้เราดันไปมีชื่อเหมือนกันเข้าให้ด้วยความบังเอิญเสียมากกว่า มันจะต้องเป็นอย่างที่คิดเอาไว้แน่ๆ” หญิงสาวยืนพึมพำ รีบสลัดความคิดอื่นๆ ที่คอยแทรกเข้ามาโดยตลอดพร้อมยกมีดผ่าตัดขึ้นมาจ้องเขม็ง 

มือเรียวเอื้อมไปหยิบแมสก์ปิดปากที่วางอยู่ใกล้เครื่องมือผ่าตัด พร้อมนำมาสวมปิดบังใบหน้า เตรียมพร้อมลงมือผ่าเอาลูกกระสุนออกเป็นครั้งแรกในชีวิต ใบมีดกดลงพร้อมกรีดปากแผลให้เปิดออกกว้างทันทีก่อนจะชำเลืองไปทางคนเจ็บว่ามีปฏิกิริยาตอบโต้หรือไม่

“หมดสติแบบนี้ก็ดีค่อยยังชั่วหน่อย หวังว่าจะช่วยชีวิตของคุณได้ทันนะท่านแม่ทัพ” หญิงสาวรำพึงออกมาภายใต้แมสก์ปิดบังใบหน้า

ในขณะที่เวลาค่อยๆ เคลื่อนผ่านไปอย่างช้าๆ โดยหามีผู้ใดล่วงรู้เลยว่าเกิดช่วงเวลาซ้อนทับระหว่างยุคอดีตและยุคอนาคตอยู่ในขณะนี้ ร่างสันทัดขององค์รักษ์คนสนิทกำลังเดินนำหน้าหมอรักษาจากเมืองผิงหยางก้าวเข้ามาภายในกระโจมที่ประทับของแม่ทัพใหญ่

เป็นจังหวะเดียวกันที่จางเพ่ยอันสามารถผ่าเอาลูกกระสุนออกมาจากหน้าอกขององค์ชายจากยุคอดีตเข้าให้พอดี ลูกกระสุนถูกคีมเล็กๆ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับใช้ผ่าตัดนำออกจากร่างคนเจ็บได้เป็นผลสำเร็จ

“ออกมาแล้ว!” หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยความดีใจ พร้อมเสียงองครักษ์คนสนิทขององค์ชายอิ๋งหยางดังขึ้นอยู่ด้านหลังเมื่อก้าวเข้ามาภายในกระโจม

“อะไรกันนี่!!!!” เสียงนั่นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าตกใจมากมายเพียงใด ท่ามกลางความตกใจของจางเพ่ยอันที่กำลังยืนถือคีมซึ่งมีลูกกระสุนเพิ่งผ่าออกมา เธอหันกลับมามองร่างสันทัดขององครักษ์และหมอจากเมืองผิงหยางเข้าให้พอดี

“แย่แล้ว! พวกเขาเห็นฉัน” หญิงสาวกล่าวออกมาทันใด

ทว่ายังมิทันจะเอ่ยถ้อยเจรจา เสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกดังกระหึ่มขึ้นโดยพลัน

“ทหาร! องค์ชายหายไป! รีบแยกย้ายออกค้นหาเร็วเข้า!!!” เสียงองครักษ์คนดังกล่าวตะโกนก้องเอ็ดอึง พร้อมรีบค้นหาไปทั่วกระโจมที่ประทับ

“หายไปอย่างนั้นเหรอ ก็เขายังนอนอยู่ตรง... ตรงนี้... ไง” จางเพ่ยอันพูดได้เพียงแค่นั้น เธอรีบหันกลับไปมองร่างใหญ่ที่ยังนอนหมดสติอยู่บนเตียงด้วยความแปลกใจ พร้อมเสียงตะโกนสั่งการดังแทรกขึ้นมาทันที

“องค์ชายทรงได้รับบาดเจ็บสาหัสจนหมดพระสติเช่นนั้น เหตุใดจึงหายไปจากที่ประทับทรงพระดำเนินออกไปจากกระโจมตั้งแต่เมื่อไรกันเล่า ทหารอารักขา!!!” เสียงตะโกนเรียกหาทหารอารักขาดังก้อง

เพียงครู่ทหารอารักขาซึ่งเฝ้ารักษาการณ์อยู่ปากทางเข้ากระโจมที่ประทับทั้งสองนายรีบก้าวเข้ามาภายในอย่างรวดเร็วทันทีที่ได้ยินคำสั่ง

“ขอรับท่านรองแม่ทัพ” ทหารทั้งสองนายขานรับทันที

“พวกเจ้าทั้งสองคนยืนเฝ้ารักษาการณ์อยู่ตรงหน้าประตูทางเข้า เห็นองค์ชายออกมาจากกระโจมหรือไม่ แล้วเสด็จไปที่ใด ใยจึงไม่มารายงาน!” องครักษ์คนสนิทซึ่งมีตำแหน่งเป็นรองแม่ทัพตวาดเสียงดังขรม ท่ามกลางความแปลกใจของทหารอารักขาทั้งสองนาย

“พวกข้าสองคนยืนเฝ้ารักษาการณ์อยู่ด้านนอกตลอดเวลาไม่ได้เดินออกจากหน้าประตูไปที่ใดเลยขอรับ องค์ชายมิได้เสด็จออกจากกระโจมแม้แต่เพียงครึ่งก้าว กระทั่งพระสุรเสียงพวกข้าทั้งสองก็มิได้ยินแม้เพียงสายลมพาดผ่านก็มิปรากฏแต่อย่างใด”

ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้นรองแม่ทัพคนสนิทซึ่งเป็นองครักษ์อารักขาขององค์ชายอิ๋งหยางในคราเดียวกัน หันกลับไปมองภายในกระโจมทันใด

“อะไรนะ! ถ้าเช่นนั้นพระองค์ทรงหายไปได้อย่างไรกัน เป็นไปไม่ได้ที่จู่ๆ จะทรงหายไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นนี้ รีบกระจายกำลังทหารค้นหาองค์ชายใหญ่เร็วเข้า!!!” เสียงสั่งการออกไปอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้นเอง

ม้าเร็วจากเมืองหลวงวิ่งตรงดิ่งผ่านประตูทางเข้าของค่ายทหารมาอย่างรวดเร็ว พร้อมร่างของทหารสื่อสารกระโดดลงจากหลังม้า วิ่งตรงมาทางกระโจมที่ประทับขององค์ชายใหญ่แห่งแคว้นฉิน

“รายงาน!!!!” เสียงตะโกนดังก้อง ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้ารองแม่ทัพคนสนิทขององค์ชายใหญ่

“ท่านรองแม่ทัพ! มีข่าวด่วนจากทางราชสำนักต้องรายงานให้องค์ชายใหญ่ทรงทราบ” ทหารสื่อสารเอ่ยออกมา

ในขณะที่อีกฝ่ายยืนนิ่งไปชั่วขณะครั้นได้ยินเช่นนั้น

“องค์ชายใหญ่ทรงได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งตอนนี้มิรู้ว่าเสด็จออกจากกระโจมที่ประทับไปอยู่แห่งหนใดกำลังกระจายกำลังแยกย้ายตามหาพระองค์อยู่ แล้วนี่ฝ่าบาทส่งหมอหลวงจากราชสำนักมารักษาพระอาการบาดเจ็บใช่แล้วหรือไม่” เสียงนั้นเอ่ยถามเต็มไปด้วยความคาดหวัง

“ข้านำข่าวจากราชสำนักมารายงานให้องค์ชายใหญ่ทรงทราบ ฝ่าบาทเสด็จสวรรคตแล้วท่านรองแม่ทัพ”

“อะไรนะ!” คำกล่าวที่เต็มไปด้วยความตกใจเอ่ยออกมาทันที

“ฝ่าบาทสวรรคตด้วยสาเหตุใด!” รองแม่ทัพถามกลับไปโดยพลัน 

“ทันทีที่ฝ่าบาททรงล่วงรู้ว่าองค์ชายใหญ่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็หมดพระสติและสวรรคตลงทันที ทำให้ตอนนี้องค์รัชทายาทอิ๋งเหว่ย ขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทนและมีพระบัญชามิให้ส่งหมอหลวงจากราชสำนักมารักษาพระอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด ทรงมีรับสั่งว่าเหตุที่ฝ่าบาทสวรรคตเพราะองค์ชายใหญ่เป็นต้นเหตุ”

รองแม่ทัพถึงกับยืนนิ่งงันไปชั่วขณะเมื่อทหารสื่อสารรายงานสถานการณ์ทางเมืองหลวง

“องค์รัชทายาทพระทัยคับแคบเสียนี่กระไร ทุกวันนี้แคว้นฉินยิ่งใหญ่เหนือกว่าผู้ใดทั่วหล้า มิใช่เพราะองค์ชายใหญ่อย่างนั้นหรอกรึ!” องครักษ์คนสนิทซึ่งเป็นรองแม่ทัพในคราเดียวกันเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด 

“ตอนนี้รีบแยกย้ายค้นหาองค์ชายก่อนเถอะ มิรู้ว่าทรงหายไปได้เยี่ยงไร เรื่องอื่นค่อยปรึกษากันที่หลัง ทหาร! กระจายกำลังค้นหาให้ทั่ว!!!” เสียงสั่งการดังเอ็ดอึงไปทั่วบริเวณ พร้อมม้าศึกนับหลายสิบตัววิ่งออกจากค่ายทหารแยกย้ายกันค้นหาแม่ทัพใหญ่ของแคว้นฉินกันอย่างอลหม่าน

ท่ามกลางสายตาของจางเพ่ยอัน ซึ่งได้เห็นและได้ยินทุกถ้อยคำของผู้คนในยุคอดีตอย่างชัดเจน หญิงสาวก้มลงมองตัวเธอเองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าพลางหันกลับไปมองลูกกระสุนที่เพิ่งผ่าออกถูกคีมผ่าตัดคีบอยู่ให้เห็นเต็มสองตา หญิงสาวมองไปทั่วบริเวณด้วยความแปลกใจอย่างยิ่งยวด

“พวกเขาไม่เห็นฉันหรือนี่! ทั้งๆ ที่เรายืนฟังอยู่ใกล้ๆ ไม่ได้ขยับไปไหนเลย และพวกเขาก็ไม่เห็นท่านแม่ทัพด้วยทั้งๆ ที่ก็นอนอยู่ตรงหน้าแบบนี้เลยนะ... เฮ้ย! จะเป็นไปได้ยังไงกัน” หญิงสาวกล่าวพร้อมหันกลับไปมองคนเจ็บที่นอนหมดสติไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น

“นะ... นี่ท่านเป็นถึงองค์ชายใหญ่แห่งแคว้นฉินเลยเหรอท่านแม่ทัพ” หญิงสาวถามกลับไป

 “รัชทายาทอิ๋งเหว่ยอย่างนั้นเหรอ! เอ... ตรงกับเจ้าผู้ครองแคว้นสมัยไหนนะ... ทำไมฉันไม่เคยเห็นได้ยินหรืออ่านผ่านตาเลย ที่เคยอ่านมาจิ๋นซีฮ่องเต้ มาจากสกุลอิ๋ง เจ้าผู้ครองแคว้นล้วนแซ่อิ๋งทั้งสิ้น แต่ทำไมไม่เคยได้ยินชื่ออิ๋งเหว่ยเป็นเจ้าผู้ครองแคว้นฉินเลยหว่า เหมือนจะคลับคล้ายว่าเคยอ่านเจอเป็นเพียงลูกของพระสนมที่ถูกสถาปนาขึ้นเป็นฮองเฮาไม่ใช่เหรอ แต่ถึงยังไงก็ไม่ใช่ลูกคนโตอยู่ดี” แม่สาวน้อยยืนพึมพำก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเธอยืนคีบลูกกระสุนปืนอยู่นานแล้ว

“บ้าเอ๊ยอันอัน! มัวแต่ยืนคิดอะไรไปเรื่อยอีกแล้ว แผลยังไม่ทันได้เย็บเลยให้ตายสิ ยาแก้ปวดขวดไหน ยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ไข้อีก โอ๊ยสารพัดยา” หญิงสาวพูดไปค้นหาตัวยาเพื่อรักษาอาการขั้นตอนต่อไปอย่างไม่รอช้า 

ในขณะที่กำลังสาละวนกับการเย็บปิดปากแผลอยู่ในขณะนั้น เปลือกตาที่ปิดสนิทของคนเจ็บจากยุคอดีตค่อยๆ เคลื่อนไหวไปมา ขนตางอนยาวกระเพื่อมขึ้นลงพลางเปิดขึ้นมาอย่างช้าๆ พระเนตรสีนิลกาฬเต็มไปด้วยความพร่ามัว ทอดพระเนตรได้เพียงเลือนราง 

องค์ชายอิ๋งหยางทอดพระเนตรสตรีร่างอรชร มีหน้ากากสีเขียวปิดใบหน้าช่วงล่าง เห็นเพียงช่วงบนของใบหน้า ดวงตาคู่สวยจับจ้องอยู่ที่บาดแผลของพระองค์ตรงพระอุระ และเส้นไหมสำหรับเย็บบาดแผลที่สามารถละลายได้เองโดยไม่ต้องเสียเวลาตัดไหมแต่อย่าใด พระโอษฐ์ขยับขึ้นลงพยายามจะมีรับสั่งถาม

“เจ้าเป็นหมออย่างนั้นรึแม่นาง” องค์ชายใหญ่ได้แต่คิดอยู่ภายในพระทัย หากแต่ในความเป็นจริงแล้วไซร้มิสามารถเอ่ยถ้อยเจรจาใดๆ ออกมาได้เลย

ตัวยามากมายถูกส่งผ่านทางเส้นเลือด ขวดยาแก้อักเสบและยาฆ่าเชื้อถูกนำมาแขวนไว้บนราวอเนกประสงค์ ท่ามกลางสายระโยงระยาง หลังพระหัตถ์นอกจากจะถูกเข็มเจาะให้น้ำเกลือแล้ว ยังมียาแก้อักเสบแยกออกอีกหนึ่งสาย บริเวณข้อพับมีเข็มเจาะฝังลงไปเพื่อให้ตัวยาฆ่าเชื้อไหลเข้าสู่ร่างกายแทนการกินผ่านหลอดอาหารด้วยเพราะคนเจ็บอยู่ในอาการที่ไม่รู้สึกตัว 

พระเนตรสีนิลกาฬทอดพระเนตรแท่งสีเงินคล้ายเข็มมีสายน้ำพวยพุ่งออกมา ก่อนจะแทงเข้าไปที่ข้อพับอีกข้างของพระองค์เพื่อฉีดยาลดไข้และยาแก้ปวด เพื่อรักษาอาการอย่างเร่งด่วน บริเวณพระอุระบัดนี้ถูกปิดทับด้วยผ้าก๊อซสีขาวพร้อมแผ่นปลาสเตอร์ซึ่งด้านนอกเป็นกระดาษมีขนาดใหญ่สำหรับใช้ปิดแผลภายในโรงพยาบาล เพื่อปิดทับบาดแผลของพระองค์เพื่อมิให้ถูกน้ำ

“เฮ้อ! เสร็จเสียที” เสียงหวานของสตรีดังแทรกขึ้น

องค์ชายอิ๋งหยางทอดพระเนตรสตรีตรงพระพักตร์เพียงเลือนราง และสัมผัสได้ว่ามือเรียวสวยทาบทับลงบนหน้าผากของพระองค์เพื่อวัดระดับความร้อนของไข้

“ต้องคอยดูอาการกันวันต่อวัน หวังว่าจะดีขึ้นไม่มากก็น้อย แล้วถ้าหากไม่ดีขึ้นจะทำยังไงดีล่ะจางเพ่ยอัน ถ้าแม่ทัพผู้นี้เกิดตายเพราะฝีมือหมอจำเป็นของเธอละก็ จะบาปไหมเนี่ย” หญิงสาวยืนรำพึงรำพันโดยมิล่วงรู้ว่า ถ้อยเจรจาของเธอดังกล่าวองค์ชายหนุ่มทรงได้ยินจนหมดสิ้น ก่อนจะหมดสติไปอีกครา

ในขณะที่หญิงสาวกำลังยืนครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ภายในใจ เธอก้มลงมองตัวยาสำหรับใช้การรักษาพร้อมอุปกรณ์ทำแผลซึ่งในกระเป๋าปฐมพยาบาลเหลือเพียงน้อยนิด จางเพ่ยอันรีบหันกลับไปคว้าโทรศัพท์มือถือติดต่อเพื่อนสนิทซึ่งเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยปักกิ่งด้วยกัน และทันทีที่ปลายสายรับ

“ขอโทษนะเสี่ยวหง! ที่โทรมาหากลางดึกแบบนี้ พอดีมีเรื่องจะรบกวนเธอหน่อย มาหาฉันหน่อยสิ” หญิงสาวกล่าวพร้อมเริ่มต้นสนทนาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทซึ่งมีอาชีพเป็นเภสัชกรในโรงพยาบาลใหญ่ของรัฐ

 

 

Related chapters

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   หมอจำเป็น 1.5

    ตีห้าของเช้าวันใหม่ ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังอยู่นอกห้องพัก ใบหน้าที่ฟุบอยู่บนเตียงนอนฝั่งตรงกันข้ามในลักษณะนั่งกับพื้นค่อยๆ รู้สึกตัวพลางเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้าๆ เมื่อจางเพ่ยอันกลายร่างเป็นพยาบาลกะกลางคืนนอนเฝ้าคนเจ็บหลังจากทำหน้าที่เป็นหมอผ่าตัดด้วยสถานการณ์บังคับ “อันอัน! อยู่ห้องนี้หรือเปล่า! ฉันมาแล้ว!” เสียงของเพื่อนสนิทดังอยู่ด้านนอกได้ยินอย่างชัดเจน และนั่นทำให้ร่างระหงดีดตัวลุกขึ้นยืนทันที “เสี่ยวหงมาแล้ว! มาถึงเร็วเหมือนกันแฮะ รวดเร็วทันใจดีจริงๆ เลย” หญิงสาวกล่าวพร้อมมองร่างคนเจ็บจากโลกอดีตยังคงนอนหลับสนิทอยู่เช่นเดิม “ท่านแม่ทัพยังไม่หายไปแฮะ ป่านนี้ทางนั้นไม่วุ่นวายกันใหญ่แล้วเหรอ” หญิงสาวเอ่ยพึมพำพร้อมเสียงของเพื่อนสนิทดังขึ้นมาอีกครา “อันอัน!!!” ครานี้เสียงดังกว่าเดิม “มาแล้ว! มาแล้ว!” หญิงสาวส่งเสียงขานรับรีบก้าวออกจากเตียงเดินตรงไปทางประตูห้อง พร้อมเปิดต้อนรับเพื่อนสนิทของเธอทันใด ทันทีที่ประตูเปิดออก “เธอนอนขี้เซาตั้งแต่เมื่อไรอันอัน ปล่อยให้ฉันเรียกอยู่ได้ตั้งนานสองนาน” แม่เภสัชกรสาวเพื่อนสนิทของจางเพ่ยอัน นามว่าอู๋หง กล่าวพร้อมเดินแท

    Last Updated : 2025-01-02
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   หวนคืน 1.1

    ในขณะเดียวกัน ยุคอดีต เมืองหลวงหยง ภายในราชสำนักฉินและทั่วทั้งแคว้นเวลานี้อยู่ในระหว่างไว้ทุกข์ให้แก่อดีตเจ้าผู้ครองแคว้น อิ๋งหรงหรือฉินเหรินกง ซึ่งสวรรคตลงอย่างกะทันหัน เมื่อทรงทราบข่าวชัยชนะของแคว้นฉินเหนือแคว้นต้าเหลียง โดยการนำทัพขององค์ชายอิ๋งหยางพระโอรสผู้ถูกเนรเทศไปพำนักอยู่ชายแดน ตั้งแต่มีพระชนมายุเพียงห้าพระชันษา โดยที่มิได้พานพบพระพักตร์ระหว่างพ่อกับลูกแม้แต่ครั้งเดียว ด้วยฉินเหรินกงเจ้าผู้ครองแคว้นฉิน พระราชบิดาทรงเสียพระทัยในการจากไปของฮองเฮาเป็นยิ่งนัก พระนางสิ้นพระชนม์ทันทีที่ได้พบกับพระโอรสองค์โต ทรงมอบความรักให้อดีตฮองเฮาและองค์ชายอิ๋งหยางและพยายามปกป้องทุกอย่างเพื่อให้ปลอดภัย แต่ก็มิอาจต้านทานแรงกดดันของเหล่าขุนนางภายราชสำนักได้ ด้วยองค์ชายอิ๋งหยางทรงมีดวงพิฆาตชีวิตผู้คนและจะทำให้แคว้นถึงคราวล่มสลายหากขึ้นเป็นผู้ครองแคว้นสืบต่อไป อดีตเจ้าผู้ครองแคว้นพยายามช่วยพระโอรสมาโดยตลอด ทรงตัดพระทัยมิพานพบองค์ชายอิ๋งหยางเพื่อให้ลูกน้อยอยู่ใกล้อดีตฮองเฮาของพระองค์ซึ่งคือพระมารดา แต่แล้วความรักของคนเป็นแม่มิอาจทนความคิดถึงลูกน้อยได้ พระนางแอบไปพบพระโอรสเป็นครั้งแรกนับตั้งแต

    Last Updated : 2025-01-03
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   หวนคืน 1.2

    ในขณะเดียวกันฮั่นจง เมืองหน้าด่านชายแดนแคว้นฉิน ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความวิตกของรองแม่ทัพ บ่งบอกสถานการณ์ตอนนี้ได้เป็นอย่างดีว่าภายในเวลานี้ กำลังทหารที่กระจายไปทั่วบริเวณค่ายทหารและกระจายออกเป็นวงกว้างจนไปถึงฮั่นจง ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านของชายแดนแคว้นฉิน ข่าวการหายตัวไปของแม่ทัพปีศาจผู้เลื่องลือไปทุกสารทิศ เริ่มจะปิดเอาไว้ไม่อยู่เสียแล้ว ตลอดสามวันที่ผ่านมา กำลังทหารกระจายค้นหาแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นฉินแทบพลิกแผ่นดินเลยก็ว่าได้ ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน หมุนเวียนสลับเวรผลัดเปลี่ยนกันค้นหาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางดวงตาที่เต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มของรองแม่ทัพคนสนิท จนมิยอมเอ่ยถ้อยเจรจาใดๆ ออกมาเลยตลอดระยะเวลาที่องค์ชายอิ๋งหยางทรงหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย หากทรงไม่ปรากฏพระวรกายตลอดกาล ขวัญและกำลังใจของทหารมิเหลือสิ้นเป็นแน่แท้ ท่ามกลางคบไฟที่กำลังเริ่มจุดให้แสงสว่างขึ้นมาอีกครา เมื่อแสงแห่งดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ก้าวเข้าสู่เวลาแห่งรัตติกาลมาเยือน ท้องฟ้าสีครามเบื้องบนเริ่มสลัว ความมืดเริ่มคืบคลานปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ ทันใดนั้นเอง “ท่านรองแม่ทัพ!” เสียงทหารรักษาการณ์ดังขึ้นพร้อมก้าวเดินนำหน้

    Last Updated : 2025-01-03
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ฝาแฝดจากยุคอดีต 1.1

    ยุคอดีต “อันอัน!!!” สุรเสียงรับสั่งชื่อเล่นสตรีที่ช่วยชีวิตพระองค์ พร้อมพระหัตถ์ยื่นออกไปราวกับว่าพยายามจะไขว่คว้านางมีอันต้องหยุดชะงักโดยพลัน ห้องพักในยุคอนาคตค่อยๆ แปรเปลี่ยนกลายเป็นภายในกระโจมที่ประทับเข้ามาแทนที่ พระหัตถ์ยังคงยกค้างอยู่เช่นนั้นโดยที่องค์ชายหนุ่มมิทรงขยับพระวรกายเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย พระเนตรนิลกาฬจับจ้องอยู่แต่ทิศทางซึ่งตรงกับประตูห้องพักในโลกอนาคตอยู่เช่นนั้นนิ่งนาน ก่อนจะรู้สึกพระองค์เมื่อทรงได้ยินเสียงของเหล่าทหารดังอยู่นอกกระโจม “รีบเข้าไปในกระโจมเร็วเข้า! ได้ยินเสียงท่านรองแม่ทัพเรียกองค์ชายใหญ่เอ็ดอึงไปหมด” สิ้นเสียงพูดคุย ทหารชั้นนายกองจำนวนหลายนายเปิดผ้ากระโจมซึ่งปิดประตูทางเข้าออกอย่างรวดเร็ว ติดตามด้วยเสียงที่บ่งบอกว่าดีใจมากมายยิ่งนัก “องค์ชายใหญ่เสด็จกลับมาแล้ว! พระองค์ทรงหายไปไหนมาพ่ะย่ะค่ะ!” เหล่านายกองต่างพากันส่งเสียงเอ็ดอึงเป็นการใหญ่ ก่อนจะพากันยืนแปลกใจไปตามๆ กันเมื่อเห็นร่างของรองแม่ทัพยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่เช่นนั้น “ท่านรองแม่ทัพ! เหตุไฉนจึงยืนนิ่งราวกับหินเช่นนี้… หรือว่า!!!” นายกองแต่ละนายหันกลับมามองหน้ากันทันที ทุกสายตาเหลือบไปเห

    Last Updated : 2025-01-03
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ฝาแฝดจากยุคอดีต 1.2

    ในขณะเดียวกัน ช่วงเวลานี้ราชวงศ์โจวซึ่งเคยปกครองแคว้นต่างๆ มากมายเริ่มเสื่อมถอย ไร้สิ้นอำนาจปกครองแคว้นน้อยใหญ่ในเวลานี้ได้แต่อย่างใด หลังจากกษัตริย์โจวผิงหวางย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่ลั่วอี้ (ลั่วหยาง) ดินแดนทางทิศตะวันตกทั้งหมดตกเป็นของแคว้นฉิน ซึ่งได้ผนวกแคว้นหรือดินแดนชนเผ่าหรงจู่ซึ่งอยู่ชายแดนราชวงศ์โจวกลายเป็นมหาอำนาจทางตะวันตก ในขณะที่ดินแดนซานซีเป็นของแคว้นจิ้น ดินแดนซานตงเป็นของแคว้นฉู่และแคว้นหลู่ ดินแดนหูเป่ยเป็นของแคว้นฉู่ ดินแดนเป่ยจิงและหูเป่ยตอนเหนือเป็นของแคว้นเยี้ยน ต่อมาดินแดนทางตอนใต้แม่น้ำฉางเจียง (แม่น้ำแยงซีเกียง) เป็นของแคว้นอู๋และแคว้นเย่วและแคว้นอื่นๆ หลังจากแคว้นใหญ่ๆ ทั้งหมดผนวกเอาแคว้นเล็กๆ ในราชวงศ์โจวมาเป็นดินแดนของตน ทำให้เริ่มมีอำนาจมากขึ้นเปลี่ยนเป็นแคว้นใหญ่ และเริ่มต้นเปิดฉากที่มาของสงครามแห่งการแย่งชิง เต็มไปด้วยความโหดร้ายของการแก่งแย่งอำนาจกันของแคว้นใหญ่ๆ เพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ ซึ่งในเวลานี้แคว้นใหญ่ที่มีอำนาจและแผ่ขยายอิทธิพลไปทั่วหล้ามีด้วยกันสิบแคว้น อันได้แก่ แคว้นฉู่ แคว้นฉี แคว้นจิ้น แคว้นเอี้ยน แคว้นเยี่ยน แคว้นเยว่ แคว้นเจิ้

    Last Updated : 2025-01-03
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ฝาแฝดจากยุคอดีต 1.3

    บริเวณชายป่า ขบวนเสด็จของว่าที่ฮองเฮาบัดนี้ได้ตั้งกระโจมที่ประทับบริเวณเขตชายป่าดงดิบของเมืองผิงหยาง โดยเลือกตั้งกระโจมใกล้กับลำธารเพื่อสามารถใช้เป็นสถานที่อาบน้ำชำระล้างกายและกักเก็บน้ำสะอาดไว้ใช้ดื่มในระหว่างการเดินทาง ด้วยต้องใช้เวลาอีกสองวันก็จะถึงเมืองหยงซึ่งเป็นเมืองหลวง ด้วยอาณาเขตพื้นที่ของเมืองผิงหยางกว้างใหญ่พอๆ กับเมืองหยง จึงต้องใช้เวลาในการเดินทางพอสมควร อีกทั้งเส้นทางหลักเกิดดินถล่มทำให้ไม่สามารถผ่านไปได้ จำเป็นต้องใช้เส้นทางอ้อมขุนเขาจึงจะเข้าสู่เขตเมืองหยง ท่ามกลางป่าดงดิบและสัตว์ป่าที่ออกมาหาอาหาร ต่างเดินมาให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ กวางตัวขนาดใหญ่ถูกล่ามาทำเป็นอาหารในค่ำคืนนี้ โดยทีมล่าคือองครักษ์ทั้งหกนายขององค์ชายสามอิ๋งเฟิ่ง เริ่มลงมือตามแผนที่วางเอาไว้เพื่อลอบสังหารจางเจี๋ยอี้ ว่าที่ฮองเฮาพระองค์ใหม่ในค่ำคืนนี้ กวางเลิศรสถูกย่างจนเกรียมส่งกลิ่นหอมฟุ้ง ถูกตัดแบ่งแจกจ่ายให้กับทุกคนอย่างทั่วถึงโดยหารู้ไม่ว่าในเนื้อกวางดังกล่าวได้วางยาทำให้หลับอย่างแรงซึ่งได้มาจากแคว้นเอี้ยนของพระชายารองซึ่งเป็นองค์หญิงแห่งแคว้น และพระนางเพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นพร

    Last Updated : 2025-01-03
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ฝาแฝดจากยุคอดีต 1.4

    ในขณะเดียวกัน ยุคปัจจุบัน ร่างไร้วิญญาณของโฉมงามล่มแคว้น ถูกเชือกมัดรอบกลางลำตัวติดกับหินขนาดใหญ่เพื่อใช้ถ่วงน้ำหนัก วางทับไว้บนร่างโดยมีบุรุษชุดดำอุ้มส่วนหัวและปลายเท้า เหวี่ยงไปมาติดๆ กันอยู่เพียงครู่ก่อนจะโยนลงไปในแม่น้ำทันที ตูม!!! ร่างนั้นจมดิ่งลงสู่ก้นแม่น้ำอันหนาวเย็นอย่างรวดเร็ว พร้อมเสียงเพรียกหาของจางเจี๋ยอี้เจ้าของร่างไร้วิญญาณดังกล่าวดังอยู่ใต้ก้นแม่น้ำนั้น “อันอัน! อันอัน!” เสียงเพรียกหาน้องสาวฝาแฝดออกมาจากดวงวิญญาณของจางเจี๋ยอี้ ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ “อันอัน! ตื่นได้แล้ว!” เสียงเรียกปลุกให้ตื่นจากภวังค์แห่งการหลับใหล เฮือกกก!!! จางเพ่ยอันสะดุ้งจนสุดตัว ดวงตาเปิดขึ้นพร้อมกะพริบตาปริบๆ มองไปรอบบริเวณ และพบว่าเธอกำลังนั่งอยู่บนรถตู้ของศูนย์วิจัย และรถจอดนิ่งสนิทอยู่บนสะพานข้ามแม่น้ำหวงโหวเพื่อเดินทางกลับเข้านครซีอาน หลังจากออกสำรวจสุสานแห่งใหม่จนเสร็จสิ้นภารกิจ “ที่แท้ฉันก็ฝันไป! แต่ทำไมครั้งนี้ถึงได้ฝันเห็นอดีตชาติของตัวเอง ชาติที่แล้วเรามีฝาแฝดด้วยอย่างนั้นเหรอ แต่ทำไมพี่สาวของฉันถึงได้ตายอย่างน่าเวทนาเช่นนั้น ทำไมต้องถูกฆ่า! แล้วทำไมถึงเพิ่งมาเห็นเหต

    Last Updated : 2025-01-03
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ฝาแฝดจากยุคอดีต 1.5

    เมื่อจู่ๆ จางเพ่ยอันก็หมดสติไปต่อหน้าต่อตาของเพื่อนร่วมงาน ร่างของหญิงสาวถูกช่วยชีวิตเบื้องต้นอย่างเร่งด่วนเพื่อทำให้เธอกลับมาหายใจได้อีกครั้ง ท่ามกลางสายตาของจางเพ่ยอันที่ยืนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า เมื่อรถฉุกเฉินของโรงพยาบาล มาถึงทันทีที่มีการแจ้งจากทีมงาน ทีมแพทย์ฉุกเฉินรีบช่วยกันปั้มหัวใจอย่างเร่งด่วนเพื่อให้คนไข้กลับมาหายใจได้ดั่งเดิม “หัวใจหยุดเต้นไปประมาณหนึ่งนาทีเศษๆ เห็นจะได้ ตอนนี้ปั้มหัวใจกลับคืนมาได้แล้วแต่อาการยังน่าเป็นห่วง ความดันต่ำยังไม่ยอมขึ้นเลย รีบนำขึ้นรถเร็วๆ เข้า” ทีมแพทย์ฉุกเฉินเอ่ยน้ำเสียงเคร่งเครียดก่อนจะรีบยกร่างของสาวน้อยวัยใสขึ้นเปล “นี่ฉันตายแล้วอย่างนั้นเหรอ” หญิงสาวเอ่ยออกมาทันทีเมื่อเห็นทีมแพทย์คลี่ผ้าสีขาวคลุมร่างของเธอเอาไว้อย่างมิดชิด ใบหน้าถูกสายออกซิเจนครอบเอาไว้เพื่อช่วยให้เธอได้หายใจสะดวก พร้อมยกร่างขึ้นไปไว้บนรถฉุกเฉินของโรงพยาบาล ท่ามกลางเสียงร่ำไห้ของเพื่อนร่วมงาน “ทำไมอันอันถึงได้เป็นแบบนี้... คุณหมอทำไมจู่ๆ ถึงได้ล้มฟาดพื้นทั้งยืนแบบนั้นคะ” หัวหน้าทีมวิจัยถามทีมแพทย์ช่วยเหลือด้วยความตื่นตระหนก “เป็นอาการหัวใจวายเฉียบพลันครับ เกิดข

    Last Updated : 2025-01-03

Latest chapter

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ดวงพิฆาต 1.3

    ถ้อยคำของท่านผู้เฒ่าทำให้จางเพ่ยอันรู้สึกทึ่งในความรู้ความสามารถของหยงเซี๊ยะอย่างยิ่งยวด และเธอเพิ่งจะล่วงรู้เดี๋ยวนี้เองว่า ตนเองเกิดดวงพิฆาตเช่นเดียวกับองค์ชายปีศาจ หญิงสาวหันกลับไปมองคนที่กำลังนั่งรอคอยอยู่บนเรือที่กำลังมองเธออยู่ในขณะนี้เช่นกัน “หรือนี่คือเหตุผลที่เราได้กลับมาอีกครั้ง” หญิงสาวรำพึงออกมาเบาๆ “เจ้ารีบไปนำองค์ชายเข้าบ้านเถอะ ไม่ต้องห่วงเรื่องว่าใครจะตายต่อไปอีกแล้วเพราะตอนนี้เจ้าทั้งสองอยู่ด้วยกัน ผู้คนรอบข้างที่อยู่ใกล้เจ้าและได้พานพบหน้าองค์ชายก็ไม่ต้องตายอีกต่อไปแล้ว” หยงอู่บอกหลานสาว จางเพ่ยอันยืนฟังด้วยความสงบแต่ถึงกระนั้นก็อดสงสัยไม่ได้ “แสดงว่าข้ากับท่านแม่ทัพที่เกิดดวงพิฆาตทั้งคู่ มาอยู่ด้วยกันเช่นนี้เป็นผลดีกับคนรอบข้างด้วยหรือท่านตา” หญิงสาวถามกลับไปด้วยความอยากรู้ “เป็นผลดีอย่างแน่นอน เพราะเท่าที่ผ่านมามีผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องตายลงไปโดยไม่รู้ตัวเพียงแค่พบหน้าองค์ชายผู้นั้น และตัวเจ้าเองก็อยู่กับผู้ใดเนิ่นนานกว่าครึ่งเหมันต์ไม่ได้เพราะจะทำให้คนรอบข้างพบแต่ความหายนะ ครานี้มิมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกต่อไปแล้ว ตราบใดที่เจ้าทั้งสองยังคงอยู่ด้วยกันและคว

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ดวงพิฆาต 1.2

    ทันทีที่องค์ชายปีศาจได้ยินถ้อยคำของชายชราตะโกนกลับมาเช่นนั้น พระองค์หันกลับไปทอดพระเนตรสองผู้เฒ่าทันทีด้วยความแปลกพระทัยระคนสงสัย ในขณะที่อีกฝ่ายรีบดึงร่างฮูหยินของตนหันหลังกลับไม่ยอมมองพระพักตร์ของพระองค์เช่นกัน “นี่มันเกิดอะไรขึ้น! ทำไมข้าจึงได้ยินเรื่องเช่นนี้ ใบหน้าของข้าต้องสาปอย่างนั้นหรอกรึ” รับสั่งด้วยความสงสัยพร้อมหันกลับไปทอดพระเนตรหนุ่มน้อยตรงพระพักตร์ที่กำลังนั่งนิ่งงันด้วยความตื่นตระหนกในสิ่งที่เธอเพิ่งได้รับรู้และได้เห็น สองมือยังคงจับพระพักตร์ของพระองค์อยู่เช่นนั้น “น้องชาย! เจ้าเป็นอะไรไป เหตุใดจึงเงียบงันและนิ่งเฉยเช่นนี้ อีกทั้งท่านตาของเจ้ายังบอกว่าข้าเป็นผู้ถูกสวรรค์สาป ผู้ใดเห็นหน้าต้องตายทุกคนเป็นเช่นนั้นจริงรึ!” ครั้นจางเพ่ยอันได้ยินรับสั่งขององค์ชายปีศาจเช่นนั้น อาการตื่นตระหนกที่ได้เห็นภาพในอดีตของพระองค์และถ้อยรับสั่งที่ถามกลับมา ทำให้หญิงสาวฉุกคิดขึ้นมาโดยพลัน “ผู้ใดเห็นหน้าต้องตายโดยพลันทันทีที่พานพบ ตำนานโบราณบันทึกเอาไว้แบบนั้น ที่เราเห็นภาพเมื่อกี้มันก็ใช่ ละ… แล้ว... ทำไมฉันเห็นหน้าเขาแล้วยังอยู่อีกล่ะ... เฮ้ย!… เป็นไปได้ยังไง! ทำไมถึงยังไม่ตาย!!!”

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ดวงพิฆาต 1.1

    เสียงหัวเราะดั่งเช่นบุรุษแผดดังกึกก้องและถ้อยเจรจาของจางเพ่ยอัน ทำให้สองผู้เฒ่ารู้สึกแปลกใจขึ้นมาทันใดครั้นได้ยินเช่นนั้น รวมไปถึงองค์ชายปีศาจก็ด้วยเช่นกัน “เหตุใดเจ้าจึงกล่าวว่าสวรรค์เข้าข้าง มีสิ่งใดเกิดขึ้นรึอันอัน!!!” หยงอู่ตะโกนถามหลานสาวกลับไป และนั่นทำให้จางเพ่ยอันรู้สึกตัวขึ้นมาทันที เธอรีบกลบเกลื่อนอาการดีใจของตัวเองให้เลือนหายไปโดยพลัน ด้วยสิ่งที่กล่าวออกมาเมื่อครู่นั้นมิสามารถบอกกับผู้ใดได้ ว่าเธอต้องขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับบุรุษซึ่งในภายภาคหน้าคือเจ้าผู้ครองแคว้นอันยิ่งใหญ่สืบต่อไป และนั่นจะทำให้หญิงสาวสามารถบันทึกเรื่องราวของพระองค์เอาไว้ได้ ว่าแท้จริงแล้วทรงเป็นผู้ใดในประวัติศาสตร์ที่ถูกหลงลืม หรือแท้จริงแล้วพระองค์คือบุคคลในประวัติศาสตร์ที่ได้รับการบันทึกแต่มีการเรียกขานพระนามผิดเพี้ยนไปจากเดิมนั่นเองความดีใจมิได้เกิดขึ้นเพราะอยากใกล้ชิดบุรุษหล่อเหลาแต่ดีใจเพราะจะได้ศึกษาและล่วงรู้รายละเอียดทุกอย่างของคนตรงหน้าในขณะนี้นั่นเอง หญิงสาวค่อยๆ ฉีกยิ้มหวานส่งให้องค์ชายใหญ่แห่งแคว้นฉิน พร้อมยกมือเรียวตบลงบนบ่ากว้างของพระองค์พรึบ!!!! ทันทีที่มือเรียวสวยของเ

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   สวรรค์เข้าข้าง 1.4

    ณ บ้านน้อยริมลำธาร“ท่านตา! ท่านยาย! ข้ากลับมาแล้ว!!!” เสียงตะโกนก้องดังอยู่ริมฝั่งไม่ห่างจากบ้านน้อยเท่าใดนัก ร่างระหงของหญิงสาวในคราบบุรุษถอดหน้ากากหนังสีดำออกจากใบหน้าของเธอทันทีที่เรือเข้าเทียบท่าอยู่ตรงหน้าบ้านในเวลาเย็นย่ำซึ่งเป็นตามกำหนดระยะเวลาของเธอที่ให้ไว้กับท่านผู้เฒ่าทั้งสอง พร้อมโบกมือไปมาตามนิสัยของเธอด้วยความร่าเริงเพียงครู่ฮูหยินฉางค่อยๆ เดินออกมาจากตัวบ้านด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดีใจ เมื่อล่วงรู้ว่าหลานสาวคนสวยของนางกลับถึงบ้านน้อยกลางเขาด้วยความปลอดภัย“อันอันมาแล้ว! ท่านตาของเจ้าเพิ่งจะเอ่ยถึงเมื่อครู่นี้เอง... โอ๊ย! ดีใจจริงๆ จะได้หมดห่วงเสียที คืนนี้ตากับยายจะได้นอนหลับสนิทเสียทีแม่คุณของยาย” ฮูหยินฉางกล่าวพลางตรงเข้าสวมกอดร่างอรชรซึ่งอยู่ในคราบของบุรุษเอาไว้แนบอกด้วยความโล่งใจอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะเหลือบไปเห็นข้าวของมากมายเต็มลำเรือด้วยความตื่นตระหนกมากกว่าความดีใจเสียมากกว่า“อันอัน! เจ้าไปเอาข้าวของพวกนี้มาจากไหน เหตุใดจึงมากมายเช่นนี้ แล้วคนเรือที่จ้างเอาไว้ไปอยู่เสียที่ใดกันเล่า ใยจึงเห็นเจ้าเพียงผู้เดียวเช่นนี้” ฮูหยินฉางถามกลับไปแทบจะไม่ได้หายใจ ในขณะ

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   สวรรค์เข้าข้าง 1.3

    เหวอ!!!! เสียงอุทานดังลั่นอย่างตื่นตระหนกออกมาโดยพลันฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!!! เสียงแหวกว่ายคล้ายอาวุธพุ่งตรงมาจากริมฝั่งแม่น้ำอย่างไม่คาดฝันฉึก ฉึก ฉึก ฉึก!!! ลูกธนูจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งตรงหมายปักเข้าที่ร่างของบุรุษที่กำลังวิ่งหนีจนมาถึงริมฝั่งแม่น้ำ ก่อนจะหันหลังกลับใช้ดาบกวัดแกว่งไปมาเพื่อมิให้ฝูงลูกธนูเสียบไปทั่วกายทว่าลูกธนูบางส่วนกลับเล็ดลอดพุ่งตรงมายังลำเรือซึ่งจอดนิ่งสนิทอยู่ในขณะนั้นฉึก! ฉึก! ฉึก! ลูกธนูพุ่งตรงปักเข้าที่หน้าอกของคนเรือถึงสามดอกเลยทีเดียว จนผงะถอยหลังต่อหน้าต่อตาของหญิงสาวซึ่งกำลังนั่งตกตะลึงที่จู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นอย่างไม่คาดฝันตูม!!! ร่างของคนเรือที่ถูกลูกธนูปักจนผงะถอยหลังร่วงหล่นไปจากเรืออย่างรวดเร็ว“ท่านลุง!!!” จางเพ่ยอันตะโกนร้องเรียกคนเรือจนสุดเสียงด้วยความตกใจสุดขีดและนั่นทำให้บุรุษที่กำลังโดนตามล่าหันกลับมามองเรือลำน้อยที่กำลังลอยลำอยู่กลางแม่น้ำในขณะนั้นทันที ก่อนจะใช้วิชาตัวเบากระโดดลอยละลิ่วมุ่งตรงไปที่เรือดังกล่าวอย่างรวดเร็วตุบ!!! ร่างสูงใหญ่ยืนจังก้าค้ำศีรษะอยู่ตรงหน้าของจางเพ่ยอัน ท่ามกลางความตกตะลึงของหญิงสาว“เฮ้ย! อะไรกันนี่! เป็นท่านอ

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   สวรรค์เข้าข้าง 1.2

    ทันใดนั้นเองสายพระเนตรเหลือบไปกระทบกับกลุ่มคนที่คอยติดตามองค์ชายปีศาจและองครักษ์ซึ่งคอยถวายอารักขาพระองค์เพียงแค่สองนาย ซึ่งตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมากลุ่มคนเหล่านั้นเพียรเฝ้าหาโอกาสหมายกำจัดองค์ชายใหญ่ให้สิ้นพระชนม์ตามที่ได้รับคำสั่ง ในขณะที่จางเพ่ยอันอาศัยจังหวะที่ตัวเล็กและบอบบาง รีบเดินหลบฉากเข้าไปปะปนกับชาวบ้านที่เริ่มเดินหนาแน่นแทรกเข้ามา เป็นเหตุให้เธอคลาดสายพระเนตรจากองค์ชายอิ๋งหยางไปโดยพลัน ครั้นทรงหันกลับมาทอดพระเนตรอีกครา บุรุษร่างเล็กพลันเลือนหายไปในเหล่าฝูงชน“หายไปแล้ว!” รับสั่งออกมาทันที“องค์ชายพวกนั้นตามมาทันแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” องครักษ์เฝ้าคอยตามเสด็จรีบกราบทูลรายงานทันใด“รู้แล้ว! พวกเจ้าพากันแยกย้ายออกค้นหาเด็กหนุ่มที่ข้าคุยด้วยเมื่อสักครู่ ไม่ว่ายังไงก็ตามจับตัวมาให้ได้!” รับสั่งกำชับ“แต่พระองค์จะทรงอยู่เพียงลำพังนะพ่ะย่ะค่ะ หากพวกกระหม่อมออกแยกย้ายพากันค้นหาเด็กหนุ่มผู้นั้นตามพระบัญชา” องครักษ์ผู้ติดตามกราบทูลถามกลับไปด้วยความเป็นห่วงพระพักตร์ภายใต้หน้ากากหนังสีดำหันกลับมาทอดพระเนตรองครักษ์ทั้งสองทันที“ไป! นักฆ่ากระจอกเหล่านั้นทำอะไรข้าไม่ได้หรอก! รีบไปจับเด็กห

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   สวรรค์เข้าข้าง 1.1

    “เจ้ารู้จักชื่อของข้า!” รับสั่งถามกลับไปพร้อมสายพระเนตรลุกโชนวาววับอย่างน่าสะพรึงกลัวพระหัตถ์หนาอีกข้างหมายพระทัยตรงเข้าบีบลำคอเล็กๆ ของบุรุษตรงพระพักตร์เหวอออ!!! จางเพ่ยอันซึ่งสามารถเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้ารีบทิ้งพระหัตถ์ใหญ่ของพระองค์อย่างรวดเร็ว“ท่านจะบีบคอข้าทำไม ข้ารู้ทันหรอกนะ!” หญิงสาวโวยวายต่อว่ากลับไปทันทีพร้อมยกมือของเธอจับลำคอของตัวเองเอาไว้มิให้ถูกบีบ ท่ามกลางความแปลกพระทัยขององค์ชายปีศาจ บุรุษร่างเล็กตรงพระพักตร์เหตุใดจึงล่วงรู้ว่าพระองค์ทรงหมายจะทำสิ่งใด“ล่วงรู้ได้อย่างไรว่าข้าหมายใจว่าจะทำเช่นนั้นกับเจ้า!” รับสั่งถามกลับไปทันทีพลางทอดพระเนตรเขม็ง“ข้าล่วงรู้ก็แล้วกัน! แต่ท่านสบายใจได้ปากของข้าไม่มีทางที่จะหาความตายใส่ตัวเองหรอกถ้าคิดอยากจะอยู่ต่อไปก็ต้องรูดซิปปากตัวเองให้สนิท” หญิงสาวพูดพลางทำท่าเอามือลากตรงมุมริมฝีปากอีกข้างไปยังอีกข้างประกอบให้พระองค์ได้ทอดพระเนตร“รูดซิปปาก!” รับสั่งทวนประโยคของหญิงสาวก่อนจะเดาเอาเองตามความคาดเดาของพระองค์“ถ้าข้าจะเดาความหมายของเจ้าคงหมายถึงปิดปากใช่หรือไม่” รับสั่งถามกลับไปด้วยความอยากรู้“ตามนั้น! ท่านเข้าใจถูกต้องแล้ว” จางเพ่ยอ

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   หยางหยาง 1.2

    ในขณะเดียวกันยุคปัจจุบันนครซีอาน ณ โรงพยาบาลเกาซินร่างอรชรของหญิงสาวในวัยเพียงยี่สิบเอ็ดปี นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงคนไข้ โดยมีเครื่องวัดความดันและท่อนำส่งอาหารหล่อเลี้ยงร่างกายที่นอนหมดสติมานานกว่าหนึ่งเดือน ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ทำให้สาวน้อยจางเพ่ยอัน อยู่ในสภาพไม่ตายก็เหมือนตายหรือทางการแพทย์เรียกว่าสภาพผัก ท่ามกลางสายตาของเพื่อนร่วมงานจากศูนย์วิจัยที่เดินทางมาเยี่ยมหญิงสาว ต่างพากันยืนมองร่างที่กำลังนอนหลับใหลอยู่ในขณะนั้น ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเวทนาและสงสารอย่างยิ่งยวด “หัวหน้าไปพบคุณหมอเจ้าของไข้แล้วเป็นยังไงบ้างคะ อันอันมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมไหม และเมื่อไรจะฟื้นขึ้นมา นี่ก็เดือนกว่าเข้าไปแล้วที่อยู่ในสภาพแบบนี้” เพื่อนร่วมงานของแม่สาวน้อยเอ่ยถามกลับไปด้วยความอยากรู้ เฮ้อ! เสียงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่จากสตรีสาวใหญ่ซึ่งเป็นหัวหน้างานดังออกมาทันที “ความหวังว่าจะหายหรือกลับมาเป็นปกติดั่งเดิมไม่มีใครตอบได้หรอกแม้กระทั่งหมอเจ้าของไข้ก็ตอบไม่ได้ อันอันหัวใจล้มเหลวและหยุดเต้นไปนาน เธอตายไปแล้วตอนรถฉุกเฉินมาถึง แต่พอถูกปั้มหัวใจจนกลับมาหายใจได้อีกครั้งจะว่าโชคร

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   หยางหยาง 1.1

    เมืองหลวงหยงเมืองหลวงใหญ่แห่งแคว้นฉินอันรุ่งเรืองในเวลานี้ คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายหลากหลาย ที่ทยอยเข้ามาตั้งรกรากบนผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ จากอดีตซึ่งเคยเป็นเพียงแคว้นนอกสายตา ห่างไกลและมีพื้นที่ส่วนใหญ่ทุรกันดาร ชาวแคว้นฉินเป็นเพียงกลุ่มคนเร่ร่อน ดำรงอยู่ได้ด้วยการเลี้ยงสัตว์ แต่ในขณะเดียวกัน เป็นนักต่อสู้และมีน้ำอดน้ำทนสูง สามารถอดทนต่อความยากลำบากได้ทุกข์สภาวะ ทว่าเพียงไม่กี่ร้อยปีจากแคว้นเล็กๆ กลับยิ่งใหญ่และขยายอาณาเขตครอบครองดินแดนแถบตะวันตกได้ทั้งหมด โดยเฉพาะในช่วงระยะสิบปีที่ผ่านมา ได้ทำสงครามปราบชนเผ่าชวนหรงซึ่งเป็นศัตรูคู่อาฆาตมาอย่างยาวนานได้อย่างราบคาบและบุกตีดินแดนเล็กๆ รวมไปถึงแคว้นใหญ่ในยุคนั้นได้เป็นผลสำเร็จมากมาย ขยายอำนาจออกไปจนกลายเป็นหนึ่งในสิบแคว้นใหญ่ที่มีอิทธิพลสูงในขณะนั้น และจางเพ่ยอัน ดวงวิญญาณของหญิงสาวในยุคอนาคต จากปีคริสต์ศักราช 2018 ได้หวนคืนกลับมาในยุคอดีตกาลและที่สำคัญเป็นยุคในอดีตชาติของเธอที่เคยถือกำเนิดมาแล้วเมื่อหลายพันปีก่อน ซึ่งเธอเป็นถึงบุตรสาวฝาแฝดของอัครเสนาบดีจางฟง และมีชื่อแซ่ในชาตินี้ว่าจางเพ่ยอัน เช่นเดียวกับชาติปัจจุบัน ทว่าในชาติอดีต

DMCA.com Protection Status