ผู้อำนวยการทัพฟ้าและครูนับเก้าพาลูก ๆ ของตนมาเที่ยวบนดอย ณ ไร่กฤตกล้าธนาดรของหม่อมเจ้าภูวสินที่แม่ฮ่องสอน เนื่องจากลูกสาวคนโตกำลังจะไปหาประสบการณ์ทำงานที่ต่างประเทศและเรียนต่อปริญญาโทที่นั่น
ส่วนคนเล็กก็เพิ่งอยู่มหาลัยปีสอง แถมเพิ่งสอบปลายภาคเสร็จ พ่อแม่จึงหวังให้ลูก ๆ มีโอกาสได้คลายเครียดบ้าง "เฮ้ยไอ้ฟ้า มึงมาถึงเร็วจังวะ" เจ้าของไร่ชาบนดอยตะโกนเรียกเพื่อนสนิทที่เพิ่งลงมาจากรถกอล์ฟของรีสอร์ต "มาถึงช้าก็อดดื่มด่ำบรรยากาศสิวะ เออไนท์ เหนือ หวัดดีอาภูสิลูก" ทัพฟ้าบอกลูกสาวทั้งสองคน "สวัสดีค่ะอาภู" หลานสาวสองคนยกมือไหว้ด้วยกิริยาท่าทางอ่อนหวาน "หวัดดีลูกมาถึงเหนื่อย ๆ ไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ" "แล้วภาคีละวะ เห็นเพิ่งประกวดหนุ่มหล่อแห่งชาติอะไรมา ลูกมึงนี่ฮ็อตจริง ๆ จริงไหมยัยเหนือ" "ค...คะ พ่อถามเหนือทำไม เหนือไม่รู้" เหนือฟ้าสาวอวบผิวขาวอมชมพูถักเปียข้าง รีบปฏิเสธทันควัน "ทีตอนอยู่บ้านยังรู้เรื่องอยู่เลยนะ" ราตรีพี่สาวบีบแกมจ้ำม่ำของน้อง "เด็ก ๆ นี่กุญแจห้องพักจ้ะ" นับเก้าส่งคีย์การ์ดห้องพักให้ลูกสาวคนละอัน "พี่ไนท์น่าจะให้เหนือนอนด้วย ทำไมต้องนอนคนละหลังกัน เปลืองเงินเปลืองทอง" เหนือฟ้าสาวอวบบ่นพี่สาว เธอไม่เต็มใจที่จะนอนแยกห้องกับพี่ "โตเป็นสาวแล้วนะเรา ต้องหัดนอนคนเดียวให้เป็น" พี่สาวผิวสีน้ำผึ้งตัดบทแล้วแบกกระเป๋าเข้าบ้านพักของตัวเอง เหนือฟ้าลากกระเป๋าเข้าไปในห้องพัก แล้วรีบออกมาเดินเล่นคนเดียว เธอเห็นพ่อกับแม่กำลังนั่งชนแก้วสังสรรค์อยู่กับอาภูและอาต่าย จึงไม่อยากเข้าไปรบกวน ส่วนพี่สาวมาถึงก็ขลุกตัวนอนอยู่ในห้อง หญิงสาวในชุดเสื้อปาดไหล่แขนตุ๊กตาโชว์เนินอกขาวอวบเดินมาสั่งเครื่องดื่มที่คาเฟ่ของรีสอร์ท ขณะที่กำลังอ่านเมนูที่หน้าเคาน์เตอร์ บาริสต้าหนุ่มก็ชะโงกหน้าออกมา "รับอะไรดีครับคุณลูกค้า" "เอาข้าวโพดปั่นนมสดฮอกไกโดค่ะ" สาวแก้มยุ้ยเงยหน้าขึ้น พลันนั้นดวงตาคู่คมที่อยู่ห่างกับเธอเพียงไม่กี่เซนเกือบทำให้โลกทั้งใบแทบหยุดหมุน แม้กระทั่งหัวใจและร่างกายของเธอด้วย เพราะผู้ชายหล่อเหลาตรงหน้าคือ ภาคี พี่คีของสาว ๆ ทั้งประเทศ ฉายาหนุ่มหล่อแห่งชาติมาดขรึมแห่งยุค มีดีกรีเป็นถึงนักกีฬายิงปืนเก่า เก่งกีฬาแทบทุกประเภท เรียนจบปริญญาตรีจากควีนแลนดส์ มหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของโลกที่เลื่องลือด้านการเกษตร ดังนั้นเขาจึงเป็นผู้ชายที่ครบเครื่องทุกอย่างจนคิดว่าคนประเภทนี้ไม่น่ามีตัวตนอยู่จริง "นั่งรอพี่ก่อนนะ ใส่วิปครีมไหมครับ" เจ้าของร้านถามขณะที่ฝานข้าวโพดสีขาวลงโถปั่น "ใส่ค่ะ" เหนือฟ้าตอบสั้น ๆ แล้วนั่งลงที่เก้าอี้โดยไม่ได้ดูว่ามันเป็นเก้าอี้พลาสติกเก่ากึกที่จวนเจียนจะหักเต็มที โครม!!!!!! ขาเก้าอี้หักเป็นสองท่อน สาวร่างอวบหงายหลังกลิ้งขลุก ๆ ไปกองกับพื้น "โอ้ย.... ตูดแหกหมดแล้วมั้งเนี่ย" ภาคีรีบวิ่งออกมาจากเคาน์เตอร์บาร์ด้านในแล้วงัดร่างตุ้ยนุ้ยของหญิงสาวขึ้นมา "เฮ้ยน้อง....เจ็บไหม มานั่งตรงนี้ก่อน" ชายหนุ่มผมหยักศกมัดผมครึ่งหัวรวบตัวเธอขึ้นได้อย่างสบาย ๆ เหนือฟ้าตัวแข็งทื่อรีบคล้องมือไปที่หลังคอด้วยความตกใจ "เอ่อ...พี่ไม่หนักเหรอคะ" น้ำเสียงหวานใสกริ๊งถามแบบไม่สบตา ภาคียิ้มแล้ววางคนซุ่มซ่ามลงบนโซฟาหวายตัวยาว พร้อมกับชันเข่าหนึ่งข้างสำรวจใบหน้าจิ้มลิ้มและแก้มอวบอิ่มของสาวเก้าอี้หักตรงหน้า "ไม่หนักครับ แค่นี้พี่อุ้มไหว" เจ้าของเสียงนุ่มเอ่ย เพียงแค่ฉีกยิ้มมุมปากจนเห็นเขี้ยวขาวคม คนฟังก็ถึงถึงกับละลายกลายเป็นของเหลว บาริสต้าหนุ่มเดินไปล้วงบางอย่างในกล่องพลาสติก แล้วกลับมาพร้อมกับขวดยาหม่อง "เอาไว้นวดก้นนะ" อายชะมัด มาเจอคนหล่อขวัญใจสาวระดับประเทศแต่กลับมาทำทุเรศต่อหน้าด้วยการทำเก้าอี้ร้านเขาหัก "ขอบคุณค่ะ" สาวขี้อายพยักหน้ารับ เจ้าของร้านกาแฟจึงฉีกยิ้มกว้าง จากนั้นเดินกลับไปทำข้าวโพดปั่นต่อ และเพียงไม่กี่นาทีเครื่องดื่มที่เธอสั่งก็ถูกเสิร์ฟด้วยคนหล่ออีกครั้ง "ค่อย ๆ ดูดนะไม่ต้องรีบ เดี๋ยวจะสำลัก" เขาบอกแล้วเดินกลับไปรับออเดอร์จากลูกค้าที่มายืนสั่งเครื่องดื่มอีกสองสามคน "น่ารักจัง" หญิงสาวพูดพึมพำแล้วนั่งรอจังหวะที่คนโล่งถึงจะเดินไปจ่ายเงิน "มาจ่ายเงินค่าข้าวโพดปั่นค่ะ" "ห้าสิบห้าบาทครับ" ภาคีตะโกนบอกเพราะกำลังยุ่งกับการชงกาแฟอยู่ "งั้นวางเงินไว้ตรงนี้นะคะ" เหนือฟ้าหยิบแบงค์ยี่สิบสามใบเท่ากับหกสิบบาท เธอทิปพิเศษให้เขาห้าบาทแล้วจากไปเงียบ ๆ ช่วงเวลาโพล้เพล้หม่อมเจ้าภูวสินกับอากระต่ายเรียกทัพฟ้าและนับเก้ารวมทั้งลูกสาวอีกสองคนไปร่วม แจมหมูกระทะชมพระอาทิตย์ตกดินบนบ้านเนินเขา จังหวะที่เหนือฟ้ากับราตรีเดินตามพ่อแม่ขึ้นมาแล้วนั่งลงบนเสื่อที่ระเบียงชมดาวของบ้าน ตรงหน้ามีเตาและกระทะตั้งน้ำซุปรออยู่ก่อนแล้ว "พ่อครับขอโทษทีวันนี้ที่คาเฟ่ลูกค้าเยอะ" ภาคีโผล่มาแจมด้วย "อุ้ย" ราตรีสะกิดน้องสาวและยื่นมือไปสะกิดพ่อกับแม่อีกที ทั้งสามคนรู้ดีว่าเหนือฟ้ากำลังกรี๊ดกร๊าดภาคีอยู่ ผู้อำนวยการทัพฟ้ารีบกระซิบข้างหูหม่อมเจ้าภูวสิน ชายวัยกลางคนลุคเซอร์ผมยาวคลุมช่วงคอพอกับลูกชายรีบกระตุกยิ้มเห็นด้วยกับเพื่อนซี้ "ไม่เป็นไรลูก แต่คีทักทายอาฟ้ากับอานับก่อนสิลูก" พ่อผู้มีแผนลึกลุกขึ้นกระชับหัวไหล่ล่ำของลูกชาย "สวัสดีครับอาฟ้า อานับ ไม่เจอกันนานเลย อ้อแล้วก็นั่นพี่ไนท์ใช่ไหมครับ" ภาคียกมือสวัสดีทุกคน "จ้ะพี่เอง คีโตขึ้นเยอะเลยอ่ะ แถมหล่อระเบิดเถิดเทิงเลยด้วย จริงไหมเหนือฟ้าาาา" ราตรีหันไปถามน้องสาวที่นั่งหันหลังให้ภาคีอยู่ที่โต๊ะหมูกระทะด้านหลัง "แล้วนั่นลูกสาวคนเล็กของอาฟ้ากับอานับใช่ไหมครับ" หนุ่มมาดเซอร์เกริ่นถามแล้วพยายามจะมองหน้าสาวร่างอวบที่ดูละม้ายคล้ายคลึงกับลูกค้าข้าวโพดปั่นเมื่อตอนกลางวัน "เหนือฟ้ารักษามารยาทหน่อยสิลูก สวัสดีพี่คีเร็วเข้า" นับเก้าสะกิดไหล่ลูกสาว หญิงสาวไม่มีทางเลือกค่อย ๆ เบือนหน้าหันไปหาคนด้านหลัง เมื่อภาคีเห็นว่าเป็นสาวคนเดียวกันกับลูกค้าเก้าอี้หัก "อ๋อ ฮ่าฮ่า" จู่ ๆ เขาก็หลุดหัวเราะต่อหน้าทุกคนโดยไม่มีสาเหตุ สาวอวบชักสีหน้าไม่พอใจรีบหันหน้ากลับ "สวัสดีค่ะคุณภาคี" เหนือฟ้าอารมณ์เสียคิดว่าภาคีกำลังจะโพนทนาเรื่องที่เธอทำเก้าอี้พลาสติกนั่นหักจนกลายเป็นซากพลาสติก "สวัสดีครับ" เขาทักทายกลับแต่ก็ยังทำหน้ากลั้นขำใส่เธออยู่เหมือนเดิม เหนือฟ้าโมโหจึงลุกขึ้นแล้วพยายามจะเดินหนีไปให้ไกล "อ้าวยัยเหนือจะไปไหน" ราตรีตะโกนเรียกน้องสาว" "ไปทำธุระส่วนตัวค่ะ" เหนือฟ้าตะโกนกลับมา "สงสัยน้องคงจะโกรธผมมั้งครับ" ภาคีสารภาพ "แล้วไปเจอกันตอนไหน แล้วทำไรให้น้องโกรธเหรอ" หม่อมเจ้าภูวสินยกมือทาบอกตวัดคิ้วเข้มเป็นปม "น้องไปซื้อน้ำที่ร้านครับ แล้วก็ทำเก้าอี้ที่ร้านหัก แต่ไม่ใช่ความผิดน้องครับเก้าอี้มันเก่าแล้ว" "ฮะ..หักเลยเหรอ โธ่! น้องฉัน" ราตรีเวทนาน้องสาว การที่น้องมีน้ำหนักตัวทะลุเกือบเจ็ดสิบทำให้หลายคนมักจะบูลลี่น้องอยู่เสมอ และเธอเองก็ไม่ชอบไอ้พวกปากหอยปากปูเหล่านั้นเลยสักนิด "เดี๋ยวผมไปตามน้องกลับมาเองครับ" เขายิ้มแล้วรีบวิ่งตามสาวอวบที่เดินกระแทกเท้าด้วยความโกรธลงมาจากบ้านเนินเขาเหนือฟ้าเดินสะบัดสะบิ้งเตรียมเรียกรถกอล์ฟของรีสอร์ตตรงกลับห้องพัก แต่ภาคีเร็วกว่าเพียงแค่ฝ่ามือใหญ่หนายึดข้อมือเธอไว้ กระชากให้หันกลับไปด้วยกำลังเล็กน้อย ตัวของเธอก็ปะทะกับกล้ามอกแน่นเข้าอย่างจัง "จะไปไหน" "จะกลับห้องพักค่ะ เหนือไม่หิวแล้ว" โครก!!! คราก!!! อยู่ดี ๆ ไอ้ท้องบ้าก็เกิดทรยศขึ้นมา มิหนำซ้ำยังร้องซะเสียงดังน่าเกลียด ภาคีเม้มปากแน่นพยายามกลั้นขำ "อยากขำก็ขำเถอะค่ะ" เหนือฟ้าสะบัดหน้าโกรธแล้วก้มลงมองวงแขนบึกบึนที่รวบเอวเธอไม่ยอมปล่อย เหนือฟ้ายืนตัวเกร็ง "ตอนเด็ก ๆ เหนือคงจำไม่ได้ว่าขี่หลังพี่ประจำ อ้อนให้พี่อุ้มอยู่บ่อย ๆ" ภาคีรำลึกความหลังสมัยเหนือฟ้ามาวิ่งเล่นอยู่บนไร่ชาบนดอยของเขานานร่วมเดือนช่วงที่พ่อแม่ของเธอแวะมาพักผ่อนหย่อนใจที่นี่ "เด็กขนาดนั้นใครจะจำได้ ยังไงเหนือขอร่างกายคืนด้วยค่ะ" สาวอวบจิกตาขวาง "ทำไมรู้สึกไม่ค่อยอยากคืนซะแล้ว" หน้าขาวโน้มต่ำลงมาให้ริมฝีปากคลอเคลียอยู่แถวหน้าผาก เหนือฟ้ารีบดึงตัวออก แต่วงแขนแกร่งก็ผลักเข้ามาอีก "พี่ภาคี!" "น่ากลัวจัง ปล่อยก็ได้" เขายกแขนแต่เปลี่ยนเป็นรวบตัวเธอขึ้นสูงแทน "นี่....พี่คีปล่อย อุ้มเหนือทำไม
ภาคีขับรถกอล์ฟมาส่งเหนือฟ้าลงหน้าบ้านพัก เขาจอดรถและเดินตามหลังมา "เหนือ" "คะ...พี่คีมีอะไรเหรอ" "ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับเหนือฟ้า พี่ขอแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการ พี่ภาคี กฤตกล้าธนาดร อายุยี่สิบห้าปี สถานะโสด" "รู้มาตั้งนานแล้ว" สาวแก้มยุ้ยพูดพึมพำ "ว่าไงนะ" "เปล่าค่ะไม่มีอะไร งั้นราตรีสวัสดิ์ค่ะ" "ฝันดี" แผ่นหลังสูงขับรถกอล์ฟไปจอดที่มุมมืดเพื่อลอบมองดูสาวอวบที่กำลังแตะคีย์การ์ดเข้าห้อง พอมั่นใจว่าเธอปลอดภัยเขาถึงขับรถออกไป นี่เป็นครั้งแรกที่เหนือฟ้านอนคนเดียวในที่ต่างถิ่น หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอก็เปิดไฟสว่างไปทั่วห้อง ตั๊บแก!! ตั๊บตั๊บตั๊บแก" "ตุ๊กแกที่นี่ก้างติดคอหรือไง แต่บรรยากาศที่นี่วังเวงจัง ป่านนี้พี่ไนท์หลับหรือยังนะ" เหนือฟ้าแชตไปหาพี่สาว แต่ราตรีไม่อ่านข้อความของเธอ หญิงสาวจึงพยายามสวดมนต์เพื่อผ่อนคลายตัวเองก่อนนอนและฝืนข่มตา แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีอาการกลัวผียิ่งทำให้เธอกระสับกระส่าย จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงห้าทุ่ม "ฮือตายแน่นอนไม่หลับ" แฟ่ก! แฟ่ก! เหนือฟ้าสะดุ้งลุกดึงผ้าห่มมาคลุมจนมิดหัว "เสียงอะไรอ่ะ" ด้านนอกระเบียงมีแมวประจำรีสอร์ตแวะมา
ภาคีผลักประตูแล้วรีบกดล็อกสาวเท้าเข้ามาจนเหนือฟ้าวิ่งหนีไปอยู่มุมห้อง "พี่คีจะทำอะไร หยุดอยู่ตรงนั้นไม่ต้องเข้ามา" หนุ่มมาดเซอร์ท่าทางยียวนกวนประสาทเลิกคิ้วสูงแล้วพุ่งตัวเข้าใส่สาวอวบหลับตาปี๋ยกแขนป้องตัวเอง สองแขนเต็มด้วยมัดกล้ามคร่อมแนบหัวไหล่เปลือยขาว "ขี้แย ขี้ตกใจ ขี้ขางด้วย น่าฮักขนาด" "ขี้ขางอะไรเหนือไม่เข้าใจค่ะ" เหนือฟ้าหลุบตามองพื้นพยายามทำตัวลีบแบน "ฮ่าฮ่าบ่ะหนุนน้อย จะย่อขนาดเหรอครับ ตัวเท่านี้แหละพี่ชอบ" "ฮะ...ชอบ ชอบอะไร" หญิงสาวพยายามจะมุดออกจากวงแขนกว้าง แต่ภาคีก็ขยับตามตลอด "ชอบบ่ะหนุนไง อร่อยดี" "เหนือไม่ใช่ขนุน....เฮ้ยพี่คีนั่นจิ้งเหลนนี่คะ มันเข้ามาในห้องได้ยังไง" เหนือฟ้าแสร้งหลอกให้เขาตายใจ "ฮะไหน" เขาก็ช่างหลอกง่าย สาวอวบจึงได้โอกาสมุดตัวหนีออกจากวงแขนที่คร่อมยันผนังอยู่ "จะหนีไปไหน" ถึงจะหลงกลแต่ระดับความเร็วของเขาก็ต่างกันอยู่ดี เรียวแขนแกร่งรวบเอวเหนือฟ้าแล้วรั้งให้หันกลับมาปะทะกับตัวของเขา คราวนี้ภาคีใช้แขนสองข้างรัดตัวเธอไม่ต่างกับงูเหลือมเพศผู้ "พี่คีชอบใช้กำลัง" บ่นอุบอิบทำแก้มป่องจนอยากก้มลงฟัดให้ช้ำกันไปข้างนึง "เปล่านะ พี่ไม่ได้ชอบใ
อีกวันเดียวครอบครัวเวหะชลการก็จะเดินทางกลับกรุงเทพ ภาคีจึงมายืนดักรอเหนือฟ้าหลังเธอกินมื้อเช้ากับครอบครัวเสร็จ วันนี้เหนือฟ้าใส่ชุดเอี๊ยมกางเกงขายาวสวมหมวกปีกกว้าง มองเผิน ๆ ดูน่ารักเหมือนสาวชาวไร่ ขณะที่เธอกำลังเดินมาถึงตัวเขามากขึ้นเรื่อย ๆ หนุ่มผมยาวตัดสินใจคุกเข่าลงตรงหน้า "เหนือเป็นแฟนกับพี่นะ" ทั้งพ่อแม่พี่สาว ทุกคนมองเธอเป็นตาเดียวกันแล้วรีบซอยเท้าเดินหนีไปจากตรงนั้นเพื่อให้เธออยู่กับเขาสองคน "พี่คีอ่ะ...ลุกเถอะค่ะเหนืออาย" "ไม่ลุก จนกว่าเหนือจะตกลง" "ก็ได้ค่ะ เหนือจะเป็นแฟนกับพี่คี" สาวอวบอมยิ้มแล้วฉุดแขนภาคีขึ้นมา "นี่ดอกไม้ที่พี่ปลูกเอง" ดอกไม้สารพัดสายพันธุ์ช่อใหญ่อยู่ในมือของเขา เหนือฟ้ารีบดึงช่อดอกไม้ดังกล่าวมาอย่างว่องไว พราะไม่อยากยืนเป็นเป้าสายตาของใครต่อใคร "ขอบคุณค่ะ" "พรุ่งนี้จะกลับกรุงเทพแล้วใช่ไหม พี่แวะไปหาได้เปล่า" "เหนือปิดเทอมแค่สองอาทิตย์ก็ต้องกลับไปเรียนต่อแล้วค่ะ พี่คีจะไปหาก็ไปหาที่บ้านแทนได้ไหม คือเหนือไม่อยากให้คนอื่น ๆ นินทาพี่คี" "ใครเขาจะพูดอะไรก็ปล่อยให้พูดไปสิ พี่ไม่แคร์" ความจริงแล้วเธอหวงเขาต่างหากไม่อยากให้ใครเ
นิสิตสาวเดินลงมาจากตึกคณะโบกมือลาเพื่อน ๆ ในกลุ่มจากนั้นตรงไปที่ร้านน้ำปั่นเจ้าโปรดเพื่อสั่งข้าวโพดนมสดปั่น แต่ขาเจ้ากรรมกลับสะดุดกึก เพราะห่างจากเธอไม่กี่เมตรคือ สารถีรูปหล่อสุดฮ็อตที่กำลังยืนกินหม่าล่าอยู่ข้าง ๆ ร้านน้ำปั่น โดยที่รอบตัวเขามีแต่นักศึกษาชายหญิงที่กำลังยืนห้อมล้อมราวกับพบดาราดัง "ทั้งหมดเท่าไหร่ครับ ผมขอแสกนจ่ายนะ" ภาคีล้วงหาโทรศัพท์เพื่อแสกนจ่าย แต่ทันใดนั้นดาวมหาลัยอย่างลินินก็เสนอตัวด้วยการยื่นแบงค์พันส่งให้ชายหนุ่ม"หนึ่งร้อยบาทจ้ะพ่อหนุ่ม นี่จ้ะ" ป้าแม่ค้าบอกพลางหยิบคิวอาร์โค้ดให้ลูกค้าหนุ่มแสกนจ่าย"เดี๋ยวลิเลี้ยงมื้อนี้เองค่ะ" นิสิตคนสวยกล่าวด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจ เหนือฟ้าที่ยืนมองดูอยู่นั้นได้แต่ลอบถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ แล้วรีบยกกระเป๋าปิดหน้าเดินไปสั่งน้ำข้าวโพดแก้วโปรดโดยไม่สนใจภาคี"ไม่เป็นไรครับ ผมมีเงิน" ภาคีตัดบทแล้วหยิบโทรศัพท์มาแสกนจ่าย สายตาที่เขาตวัดมองลินินนั้นดูเย็นชาและแฝงด้วยความน่ากลัว โชคดีที่เธอแชตมาสั่งมาน้ำปั่นกับแม่ค้าก่อน พอไปถึงก็ได้รับน้ำข้าวโพดปั่นกลิ่นหอมพอดี ทำให้เธอสามารถหลบหลีกการปะทะกับผู้ห
เหนือฟ้านั่งบิดขี้เกียจอยู่ใต้โคมไฟสีส้มสลัว ดวงตากลมเริ่มพร่าเลือนจนภาคีที่กำลังจัดวางกับข้าวถึงต้องชะเง้อคอมองดูด้วยความกังวล "เสร็จแล้วครับ มากินได้เลย" หนุ่มมาดเซอร์ในชุดผ้ากันเปื้อนมัดจุกรวบเก็บผมไว้ครึ่งหัวเดินมาตามนิสิตแสนขยันในห้อง สาวอวบกลั้นยิ้มเพราะเธอโคตรโชคดีที่ได้เห็นหนุ่มฮ็อตขวัญใจสาวค่อนประเทศในสภาพพ่อบ้านกล้ามโต "รับทราบค่ะ" เหนือฟ้าเดินตรงไปที่โต๊ะกินข้าว มองข้าวซอยไก่ชามใหญ่และน้ำข้าวโพดปั่นนมสดฮอกไกโดกลิ่นหอมสองชุด ภาคีนั่งลงฝั่งตรงข้าม แล้วรินน้ำเปล่าเพิ่มให้เธออีกหนึ่งแก้ว ทำไมเขาช่างดีกับเธอมากมายขนาดนี้ ทั้งที่เธอทำตัวเย็นชากับเขาสารพัด แต่เขาก็ไม่โกรธเลยสักครั้ง "พี่คีทำอาหารน่ากินจัง" เหนือฟ้าบอกแล้วตักข้าวซอยไก่ร้อน ๆ คำแรกใส่ปาก ดวงตากลมถลึงมองเมนูดังกล่าวในชามตัวเอง แล้วเริ่มจ้วงกินคำใหญ่อย่างลืมตัว จนพ่อครัวหัวเราะร่วน "อร่อยใช่ไหม กินเยอะ ๆ นะเดี๋ยวจะผอมไป" เขาแซว "อร่อยมากค่ะ ไก่ก็เปื่อยมาก น้ำซุปก็จัดจ้าน กดไลก์ให้เลย" เหนือฟ้าฉีกยิ้มเคี้ยวแก้มตุ่ย ภาคีรู้สึกภูมิใจที่ทำให้สาวที่เขาลงท
เมื่อคืนเหนือฟ้านอนไม่ค่อยหลับเพราะอดคิดไม่ตกเรื่องที่เขาบอกมีแพลนจะเดินทางเร็ว ๆ นี้ วันนี้ก็เลยตื่นตั้งตีห้าครึ่ง ทั้งที่มีคาบเรียนแรกตอนแปดโมงเช้า นิสิตสาวอาบน้ำแต่งตัวมองหาชุดนักศึกษาที่เธอแขวนไว้กับตู้ กะว่าจะขอเตารีดของภาคีมาใช้รีดชุดตอนเช้า ทว่าชุดของเธอกลับไม่ได้แขวนไว้ที่เดิม เพราะมันถูกแขวนไว้ที่โต๊ะยืนรีดผ้ายิ่งไปกว่านั้นทั้งเสื้อและกระโปรงของเธอก็ถูกรีดจนเนี๊ยบไม่มีรอยยับรอยพับใด ๆ"ฝีมือพี่คีเหรอ" หญิงสาวพูดพึมพำพลางหยิบชุดนักศึกษามาใส่ แล้วคิดว่าจะทำมื้อเช้าให้เขารับประทาน เขาจะได้รู้ว่าเธอเองก็มีเสน่ห์ปลายจวักอยู่เหมือนกันผ่านไปเพียงสิบกว่านาทีไข่กระทะกับนมจืดก็ถูกเสิร์ฟบนโต๊ะกินข้าว แต่รอจนหกโมงครึ่งภาคีก็ยังไม่ตื่น เหนือฟ้าจึงเดินไปเคาะห้องทำงาน"พี่คีคะ พี่คีตื่นหรือยัง"เพราะเขาไม่ตอบเธอจึงค่อย ๆ บิดกลอนประตูเข้าไปแล้วเดินให้เงียบที่สุด แต่พอเห็นว่าเขานอนหลับฟุบอยู่หน้าจอคอม จึงเข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังไม่ตื่น เหนือฟ้าหยุดที่หน้าจอคอม มองดูบางสิ่งที่เขาทำค้างไว้ ผลปรากฏว่ามันคือเอกสารภาษาญี่ปุ่นล้วน ๆ ซึ่งเธออ่านไม่ออกเลยสักตัว"พี่คี เหนือมาปลุกไปกินมื้อเช้าค่ะ"
เหนือฟ้านอนร้องไห้ตาบวมจนถึงสามทุ่ม จึงลุกเดินไปอาบน้ำแล้วกลับมาอ่านชีตสรุปสำหรับการสอบเก็บคะแนนในสัปดาห์หน้า"เหนือ พี่จะเอาเสื้อผ้าไปซักให้ เปิดประตูให้พี่หน่อยครับ"คนด้านในแง้มประตูออกเพียงเล็กน้อย "เหนือซักเองได้ค่ะ พี่คีป่วยอยู่ก็ไปพักเถอะ"จังหวะที่กำลังจะปิดประตู ภาคีสังเกตเห็นดวงตาที่บวมช้ำ เขาจึงจับขอบประตูไว้ไม่ให้เหนือฟ้าปิด "เป็นอะไรรึเปล่า""ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ เหนือจะอ่านหนังสือสอบ" เหนือฟ้าพยายามดึงประตูที่ภาคีกำลังง้างออก แต่ด้วยสู้แรงคนตัวใหญ่กว่าไม่ได้ สุดท้ายจึงต้องยอมให้เขาเปิดประตูเข้ามาคนที่กำลังเสียใจรีบเดินหนีไปโต๊ะทรงกลมริมหน้าต่างห้องนอน พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล "เหนือ หันมาหาพี่หน่อย""พี่คีจะไปญี่ปุ่นเหรอคะ"ภาคีอึ้งคิ้วเข้มขมวดเข้ามากัน นึกย้อนไปถึงตอนที่เขาให้เธอไปหยิบยาในลิ้นชัก สงสัยคงจะไปเจอเอกสารมหาลัยที่ญี่ปุ่นกับพาสปอตที่เขาแอบเก็บไว้"ใช่ พี่จะไปเรียนต่อปริญญาโทที่นั่น""แล้วพี่คีคิดจะบอกเหนือเมื่อไหร่ หรือคิดจะบอกตอนที่เหนือถลำลึกไปมากกว่านี้" เหนือฟ้าเถียงเสียงสั่นพยายามเดินหนีไปที่อื่นไม่ให้เขาเห็น ภาคีรีบเดินไปดักหน้า ทำให้พบว่าดวงหน้าจิ้มลิ้ม
ทันทีที่แผ่นหลังของเหนือฟ้าแตะลงกับเตียงนอน จูบดุดันจึงได้ผละออก ภาคีถัดกายลงจากเตียงเกี่ยวปราการสุดท้ายออก เหนือฟ้ารีบสะบัดหน้าหนี ขณะที่เขาคลานกลับขึ้นมา แล้วใช้สองแขนคร่อมชิดอยู่กับหัวไหล่อวบ ริมฝีปากแดงฉานจรดลงมาบนผิวขาว ดวงตาหวานคมสะดุดเข้ากับรอยแผลเป็นนูนเล็ก ๆ ที่ต้นแขน กรามแกร่งบดข่มอารมณ์เดือดดาลที่กำลังปะทุอยู่ภายใน"ไปโดนอะไรมา" เขาอยากลองใจดูว่าเหนือฟ้าจะยอมสารภาพความจริงไหม"โดนกระจกบาดค่ะ" เธอยังคงกลบเกลื่อนไปเรื่อย"เหรอ" ภาคีลุกขึ้นแล้วนั่งขัดสมาธิ เขาหยิบมือของเหนือฟ้าแล้วก้มลงหอมซ้ำ ๆ เหมือนที่เคยชอบทำ "บอกว่าให้มานั่งนี่" เขาตบขาตัวเอง"ไม่เอาค่ะ เดี๋ยวพี่คีหนัก" เหนือฟ้าหยัดตัวขึ้นเหลือบมองแก่นกายที่กำลังแข็งตัวกลางซอกขา"งั้นก็มาลองดูว่าจะหนักแค่ไหน หรือคุณลูกค้าอยากให้คนอื่นมานั่งบนตักผม" เขาขู่แล้วยักคิ้วหลิ่วตาใส่"ไม่เอา" สาวอวบไม่ยอม สุดท้ายจึงต้องกัดฟันสู้แล้วลุกไปหาเขาทั้งที่ยังมีผ้าห่มปิดกายอยู่"ไม่ชอบผ้าเกะกะลูกตา" ภาคีดึงผ้าออก เหนือเบิกตาโตเมื่อผ้าห่มปลิวไปอยู่ข้างเตียง"พี่คีเดี๋ยวเหอะ เหนือเป็นลูกค้านะ ต้องตามใจลูกค้าสิคะ ว้าย..." ข้อมือขาวถูกฉุดใ
ภาคีกลับไปที่ร้านสะดวกซื้ออีกรอบแล้วซื้อถุงยางอนามัยพร้อมกับเครื่องดื่มมึนเมาสองสามกระป๋อง หลังจากคุยกับราตรีจบเขาก็รู้สึกเบลอไปหมด เขาไม่อยากเชื่อจริง ๆ ว่าคนที่เขารักสุดหัวใจปิดบังเรื่องเลวร้ายกับเขามาถึงสามปีเต็มภายในห้องพักของเหนือฟ้าเปิดไฟสว่างโล่ง หญิงสาวเอาแต่จ้องโทรศัพท์เผื่อว่าพี่สาวจะตัดสินใจโอนเงินมาให้ภายในคืนนี้ ตอนนี้เธอร้อนรุ่มไม่ใช่ว่าต้องการทำเรื่องอย่างว่า แต่กลัวยัยปูเป้นั่นฉกพี่คีของเธอไปกิน แต่ดูจากการที่พวกเขาแตะเนื้อต้องตัวกัน ป่านนี้น่าจะกินกันไปหลายรอบแล้วด้วยซ้ำผิดกับเธอถึงยังคงเก็บเวอร์จิ้นไว้ให้หนุ่มเหนือคนนี้เพียงคนเดียว ตึ๋ง!เงินจำนวน 500,000 บาทโอนเข้าบัญชีคุณเรียบร้อย"กรี๊ดดดด เงินมาแล้วโว้ย จะได้กินผู้ชายแล้วไอ้เหนือ" หญิงสาวกระดี๊กระด๊าเหลือบดูนาฬิกาแขวนบนผนังที่บอกเวลาตีหนึ่งพอดี "กินกันตอนตีหนึ่ง จะท้องอืดไหมนะ"เหนือฟ้าลูบวนไปทั่วหน้าท้องย้วย ๆ ของตนเองก๊อก! ก๊อก!สาวอวบรีบวาดขาลงจากเตียง หาวสองสามที ใบหน้าอ่อนเพลียเขย่งส่องตาแมว พลันนั้นหนังตาที่หนักอึ้งกลับเบาหวิวเหมือนปุยนุ่นในทันที คนระริกระรี้รีบเปิดประตูห้องออกไปแล้วยิ้มแฉ่งให้หนุ่มชาวไ
คนตัวสูงเพียงแค่พูดขู่ แต่เหนือฟ้ากลับคว้าโทรศัพท์โทรหาพี่สาว "พี่ไนท์เหนือขอยืมห้าแสน"ภาคีถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วเร่งฝีเท้าออกจากห้อง"เดี๋ยวพี่คี ไอ้ภาคี ไอ้คน..." เหนือฟ้าเดินตามไป แต่เขากลับปิดประตูกระแทกใส่หน้าเธออย่างแรง"เหนือจะเอาเงินตั้งมากมายไปทำอะไร" ราตรีกรอกเสียงกลับมาอย่างกังวล"เหนือจะซื้อพี่คี ซื้อกิน""ฮะ..บ้าเปล่าเนี่ย แล้วเจอคีที่ไหน ที่งานเอ็กซ์โปใช่ไหม""ใช่ค่ะ""เอางี้นะ พี่จะโอนเงินให้พรุ่งนี้ แต่เหนือต้องใจเย็นแล้วกลับไปนอนซะ ถ้ายังดื้ออีกพี่จะบอกความจริงกับพ่อแม่ว่าสามปีก่อนเหนือเจออะไรมา""ก็ได้ค่ะ ตกลง"หลังจากวางสายจากน้องสาวราตรีที่หัวไว ไหวพริบเป็นเลิศก็คิดแผนการซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว "ยังไงคงต้องบอกความจริงแล้วล่ะ ก่อนที่น้องสาวฉันจะประสาทแดก"ราตรีกลอกตามองบน ไอ้เด็กสองคนนี้มันเป็นอะไรกันนักหนา นักธุรกิจสาวในชุดเสื้อยืดเอวลอยสวมกางเกงวอร์มผ้าร่มคว้ากระเป๋ากล่องเหล็กที่เก็บข้อมูลทุกอย่างแล้วโทรตามทนายพิมุกต์กลางดึก"คุณพิคะ ช่วยไนท์หน่อย ถ้าคุณพิไม่มาด้วยไนท์กลัวว่าภาคีจะไม่เชื่อ ดังนั้นไนท์รวบกวนคุณพิหน่อยนะคะ"ราตรีขับรถไปรับพิมุกต์ที่บ้านแล้วเหยียบมิด
เหนือฟ้ารอให้คั่วกลิ้งเอาคีย์การ์ดห้องพักขึ้นมาให้แล้วตัดสินใจโทรไปสั่งอาหารเดลิเวรี่แทนที่จะลงไปหาข้าวที่ร้านสะดวกซื้อใต้โรงแรม หญิงสาวกดสั่งซูชิร้านโปรดที่ขายจนถึงห้าทุ่ม แล้วมานั่งกินคนเดียวที่บันไดหนีไฟ ขณะที่ภาคีเปิดประตูห้องพักออกมาเพื่อลงไปเช็กบูธที่ลูกน้องช่วยกันจัดว่าเป็นระเบียบดีหรือไม่พลันนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเจือยแจ้วดังมาจากทางบันไดหนีไฟ ซึ่งเสียงใส ๆ นี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเดินไปแอบฟัง"กินข้าวแล้วใช่ไหมเหนือ" ราตรีกรอกเสียงกลับมาผ่านทางโทรศัพท์"กินซูชิค่ะ""กินร้านนั้นมาสามปีแล้วนะ เมื่อไหร่จะเปลี่ยนร้านมั่ง พี่เห็นจนจะเอียนแล้ว""ก็มันเป็นร้านโปรดพี่คีนี่นา"ภาคีตวัดมองแผ่นหลังที่อยู่ในชุดเสื้อฮู้ดตัวหนาทันควัน เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนที่บอกเลิกกลับพยายามจะพูดและนึกถึงเขาอยู่ตลอด ทั้งที่ตัวเองเป็นคนตัดสายสัมพันธ์นั้นก่อนแท้ ๆ"บอกเลิกเขาแล้วยังไม่รู้จักมูฟออน แล้วนี่ฮ้อนจะตายไป ทำไปถึงใส่ชุดกันหนาวแขนยาวตลอด"เหนือฟ้ารีบตวัดหน้าไปดู แล้วเดินไปหาอีกฝ่ายที่ยืนพิงประตูบันไดหนีไฟอยู่ "เหนือไม่ได้ตั้งใจบอกเลิกนะคะ เหนือมีเหตุผล ส่วนเรื่องการแต่งตัวเหนือแค่อยากเปลี่ยนสไตล์
สามปีผ่านไปภายในงานเกษตรแฟร์เอ็กซ์โป 2026 ออกาไนซ์สาวร่างอวบผิวขากำลังวิ่งประสานงานตามบูธต่าง ๆ ตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย"คุณโรจน์คะ ประมาณช่วงสิบโมงของวันพรุ่งนี้เราจะเริ่มไลฟ์สดเริ่มที่บูธคุณโรจน์ก่อนนะคะ ยังไงเตรียมข้อมูลกับผลิตภัณฑ์ที่จะโปรโมตไว้ล่วงหน้าได้เลยค่ะ อาจจะมีทีมงานมาบรีฟให้เบื้องต้นก่อนสักหนึ่งชั่วโมงค่ะ""โอเคครับ ขอบคุณมากครับคุณเหนือ""พี่เหนือ ๆ ทางโน้นมีเรื่องกัน เหมือนว่าจะเจ้าหน้าที่ของเราจะติดป้ายผิด ทำให้บูธของผู้ประกอบการสลับกัน พี่เหนือไปเจรจาหน่อย เพราะอีกเจ้าเขาไม่ยอมย้าย""ได้เดี๋ยวพี่ไปคุยเอง" หัวหน้าทีมดูแลบูธอย่างเหนือฟ้ารีบสับขาตรงไปจุดเกิดเหตุ แต่เพราะช่วงที่ผู้ประกอบการแต่ละบูธกำลังเดินพลุกพล่านทำให้หญิงสาวเผลอไปชนเข้ากับใครบางคนปั้ก!"โอ้ย" เหนือฟ้ากุมแขนที่โดนตัวของอีกฝ่ายกระแทก"เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ" เสียงเข้มที่คุ้นเคยทำให้เจ้าหน้าที่จัดงานที่กำลังทำหน้าบิดเบ้ต้องรีบตวัดหน้าไปมองวินาทีที่ดวงตาสบประสานกับชายใต้แว่นสีดำสนิท หัวใจของเธอก็แทบจะหล่นวูบไปกองอยู่ที่พื้น ดวงตากลมสั่นระริกเมื่อเขาทำท่าทางเคร่งขรึมเมินเฉยเหมือนไม่รู้จักกัน"พี่คี ไม่ได้เจอ
เหนือฟ้านอนพักรักษาตัวเกือบหนึ่งเดือนเต็ม โชคดีที่อวัยวะภายในไม่ฉีกขาดหรือได้รับบาดเจ็บรุนแรง แต่ที่หนักหนาก็คือบริเวณดวงตา และใบหน้าทั้งหมดที่ฟกช้ำและปูดบวม รวมทั้งบาดแผลจากเศษแก้วที่ต้นแขนซึ่งอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นในอนาคต กับช่วงขาที่โดนเตะจนหักทำให้ต้องใส่เฝือกดามนานหลายเดือนยิ่งไปกว่านั้นราตรีเป็นบุคคลเดียวที่รู้ความลับนี้ เพราะเหนือฟ้าให้พี่สาวปกปิดเรื่องเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายจากพ่อแม่และทุกคน เธอจึงต้องมาอาศัยอยู่บ้านหลังใหญ่ของพี่สาว และอยู่ในความดูแลของพี่ตลอดเวลาจนกว่าจะไม่เหลือร่องรอยของบาดแผลต่าง ๆ ให้เห็น"ดีนะที่พี่แต่งเรื่องว่าเหนือเสียใจเรื่องภาคีก็เลยขอมาอยู่กับพี่ที่บ้านเพื่อคลายเหงา โชคดีอีกเรื่องก็คือ พ่อกับแม่ของเราดันไปล่องเรือรอบโลกหลายเดือน งานที่โรงเรียนจึงตกมาอยู่ที่พี่คนเดียวเลย นึกจะไปสวีตหวานกันก็ไปโดยไม่สนใจภาระหน้าที่กันเลยตาทัพกับยายนับเนี่ย"ราตรีบ่นขณะเซ็นเอกสารกองท่วมสูงพลางเหล่สายตามองน้องสาวที่กำลังนั่งทำงานย้อนหลังหลายชิ้นส่งอาจารย์ที่มหาลัยเนื่องจากต้องหยุดเพื่อรักษาตัว"แล้วอยู่ดี ๆ ทำไมพ่อกับแม่ถึงเลือกไปล่องเรือ คงไม่ใช่แผนพี่ไนท์ใช่ไหม" เหนือ
*มีฉากหดหู่โปรดทำใจดี ๆ"เมื่อคืนภาคีกล่อมเหนือฟ้าหลับ เขาทำเพียงตบ ๆ หลังเธอราวกับปลอบใจเด็กหญิงที่ยังไม่โต ถึงในใจอยากจะขึ้นไปนอนกอดเธอไว้ แต่กลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้เขากลัวว่าจะทิ้งเธอไม่ลง เวลาสามปีที่ญี่ปุ่นสำหรับเขามันช่างรู้สึกยาวนานเหมือนกับสามสิบปี แค่นึกถึงตอนที่ไม่ได้เจอเหนือฟ้า ไม่ได้จับมือ ไม่ได้จูบ เขาก็รู้สึกทรมานใจไปหมดสามวันที่เหลือก่อนจะถึงวันเดินทางภาคียังคงไปรับไปส่งเหนือฟ้าและดูแลจนถึงวินาทีสุดท้าย หลังเลิกเรียนเขาพาเธอไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า ดูหนัง และโยนโบว์ลิ่งด้วยกัน บ้างก็พาไปเดินเที่ยวตลาดนัดกลางคืนแวะกินเมนูเด็ดร้านดังเรียกได้ว่าทำครบกระบวนการของคนที่เป็นแฟนกันอย่างดีที่สุด"เหนือ พี่ให้ครับ" ภาคีไปเจอตุ๊กตาควายจากร้านขายตุ๊กตาแห่งหนึ่งที่ตลาด เขาจึงแวะซื้อมาฝากเหนือฟ้า"ตัวเท่าฝ่ามือเอง ราคาเท่าไหร่คะ" เหนือฟ้ากอดตุ๊กตาควายดำตัวเล็กแล้วก้มลงฟัดมันอย่างมันเขี้ยว"เจ็ดสิบเก้าบาทครับ""แพงเหมือนกันนะคะ เหนือนึกว่าตัวละห้าสิบบาทซะอีก""ก็มันเหลือตัวเดียวในร้านแล้ว พี่ก็เลยซื้อมา เหนือเก็บไว้เป็นตัวแทนพี่นะ" ภาคีฉีกยิ้มกว้างลูบหัวแฟนสาวอย่างอ่อนโยน"เอาควา
เสียงนาฬิกาปลุกของเหนือฟ้าดังขึ้นตั้งแต่ตีห้า เช้านี้เธอคิดจะทำอาหารให้ภาคีกินก่อนไปเรียน แต่หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย พอเปิดประตูออกจากห้องนอนกลับพบว่าพ่อครัวหนุ่มกำลังยืนผัดอะไรบางอย่างอยู่หน้าเตา สวมผ้ากันเปื้อนลายการ์ตูนรูปควาย เหนือฟ้าเดินตรงมาหาภาคีที่เตา ชะโงกหน้าลงไปดูเมนูส่งกลิ่นหอมในกระทะ "ผัดบ่ะหนุน ผัดแบบใส่พริกแกงเผ็ด ใช้ขนุนอ่อนหน่อย กินตอนร้อน ๆ อร่อยมาก น้องชายพี่ทำให้กินบ่อย" ภาคีบอกแล้วปิดแก๊สเทผัดขนุนอ่อนใส่จาน"พร้อมกินค่ะ หอมน่ากินมาก ๆ เลย""ผัดบ่ะหนุนอย่างเดียวเหรอที่น่ากิน คนทำล่ะ" ภาคีถามขณะเดินนำจานผัดเผ็ดขนุนกลิ่นหอมไปวางที่โต๊ะ โดยมีเหนือฟ้าทำหน้าที่คดข้าวสองจานตามไปทีหลัง"คนทำก็น่ากินอยู่นิดนึง" นิสิตสาวนั่งลงฝั่งตรงข้าม พูดเสียงเบาอย่างอาย ๆ"อนาคตพี่จะให้เหนือกินแล้วกันนะ"เขายังคงตะล่อมและหว่านล้อมให้เธอใจแตก โชคดีที่พี่คีไม่ชอบคนชอบบังคับฝืนใจ การคบหากับเขาจึงมีแต่ความสบายใจภาคีขับรถไปส่งเหนือฟ้าแถมยังแวะซื้อของกินมากมายให้เธอกินระหว่างช่วงพักกลางวัน"อิจฉาอ่ะ พี่คีดูแลเพื่อนรักแก้วดีขนาดนี้เลยเหรอ ดูดิของกินเพียบเลย แฟนแก้วนะทั้งขี้งกทั
เช้านี้เหนือฟ้าเดินทางไปมหาลัยด้วยตนเองโดยรถไฟฟ้าใต้ดินที่ติดกับคอนโด เพราะเมื่อคืนภาคีทำงานหามรุ่งหามค่ำ เธอจึงไม่อยากรบกวน แล้วปล่อยให้เขานอนหลับสนิทอยู่บนเตียงนิสิตสาวใช่เวลาในการสอบสามชั่วโมงเต็มตั้งแต่แปดโมงเช้าจนถึงสิบโมง แล้วเรียนต่อภาคบ่ายจนถึงสี่โมงเย็น ก่อนกลับจึงแวะซื้อของกินมากมายไปฝากเขา"คุณเหนือฟ้ารึเปล่าครับ" รปภ.หน้าคอนโดเดินเข้ามาดักหน้าแล้วก้มลงดูรูปในโทรศัพท์เพื่อตรวจสอบว่าใช่ตัวจริงหรือเปล่า"ใช่ค่ะ มีอะไรเหรอคะ""พอดีเจ้าของห้อง 909 ฝากคีย์การ์ดไว้ครับ เห็นว่ามีธุระด่วน""อ้อ ขอบคุณค่ะ" เหนือฟ้ารับคีย์การ์ดของภาคีมาจากมือของรปภ.แล้วเดินกลับห้องพักด้วยสีหน้าเป็นกังวล จึงตัดสินใจโทรไปหา"พี่คีอยู่ไหนคะ เหนือกลับมาถึงห้องแล้วนะคะ""ฮัลโหลเหนือ พี่ขอโทษนะ พี่ต้องบินด่วนกลับมาแม่ฮ่องสอน พอดีรถคนงานประสบอุบัติเหตุ คนงานบาดเจ็บสามคนพ่อเลยส่งพี่มาดูแลพวกเขา""แล้วเป็นอะไรกันมากไหมคะ""ยังไม่รู้เลยครับ พี่ต้องรอไปสอบถามอาการจากหมอที่โรงพยาบาลก่อน ยังไงสามสี่วันนี้เหนืออยู่คนเดียวไปก่อนนะ ถ้าอยู่คนเดียวไม่ได้ เหนือก็กลับไปนอนที่บ้านก่อน""ไม่เป็นไรค่ะ เหนืออยู่ได้ เดินทาง