โรงพยาบาลทั้งครอบครัวเดินทางมาให้กำลังใจภาคีในวันที่มีผ่าตัดทำหมันกับหมอที่โรงพยาบาล หลังจากที่เขาตัดสินใจจะหยุดการสืบพันธ์ุนี้เพราะเกรงว่าภรรยาจะเผลอท้องขึ้นมาอีกในอนาคต และเพื่อแสดงตนว่าเขาจริงใจที่จะเสียสละเพื่อเธอดังนั้นวิธีการนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพราะเขาอยากให้เหนือฟ้ารู้ว่าทายาททั้งหกคนของเขาจะเป็นของเธอตลอดไป และจะมีใครมีโอกาสแย่งชิงเขาไปจากเธอ"ปี้ปี้" หมูยอเดินเลาะไปมาเกาะแข้งเกาะขาพวกพี่ ๆ ขณะที่แป้งจี่นอนหลับอยู่บนตักแม่ ส่วนน้ำเงี้ยวนั้นนอนแผ่ยาวหนุนตักน่านฟ้าและนิ่มฟ้าเสมือนว่าพี่สาวพี่ชายเป็นเตียงนอนส่วนตัว"หมูยอคะมานั่งเฉย ๆ สิลูก" เหนือฟ้าอุ้มลูกชายสายปราดเปรียวที่ไม่ยอมหลับยอมนอน เอาแต่ปีนป่ายโซฟาไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย"หม่ำ ๆ" หมูยอเริ่มเดินเหนื่อยหนูน้อยหยิบขวดนมในกระเป๋าสัมภาระเด็กที่วางอยู่บนเก้าอี้ แล้วเปิดฝาขวดนมบริการตัวเอง"อะหยังป้อต้องตัดหำโตยก๊ะ" น่านฟ้าสงสัยตั้งแต่พ่อบอกว่ามีนัดตัดสิ่งที่อยู่ใต้หว่างขา เด็กชายก็มีคำถามกับเธออยู่ตลอด"ป้อตัดเพื่อคุมกำเนิดพวกเราจะได้มีกันแค่หกคนไงคะ ไม่ดีเหรอหรือหนูอยากมีน้องเพิ่ม" เหนือฟ้าหันไปอธิบายกับลูกชาย"อึ๋ย
ผู้อำนวยการทัพฟ้าและครูนับเก้าพาลูก ๆ ของตนมาเที่ยวบนดอย ณ ไร่กฤตกล้าธนาดรของหม่อมเจ้าภูวสินที่แม่ฮ่องสอน เนื่องจากลูกสาวคนโตกำลังจะไปหาประสบการณ์ทำงานที่ต่างประเทศและเรียนต่อปริญญาโทที่นั่น ส่วนคนเล็กก็เพิ่งอยู่มหาลัยปีสอง แถมเพิ่งสอบปลายภาคเสร็จ พ่อแม่จึงหวังให้ลูก ๆ มีโอกาสได้คลายเครียดบ้าง "เฮ้ยไอ้ฟ้า มึงมาถึงเร็วจังวะ" เจ้าของไร่ชาบนดอยตะโกนเรียกเพื่อนสนิทที่เพิ่งลงมาจากรถกอล์ฟของรีสอร์ต "มาถึงช้าก็อดดื่มด่ำบรรยากาศสิวะ เออไนท์ เหนือ หวัดดีอาภูสิลูก" ทัพฟ้าบอกลูกสาวทั้งสองคน "สวัสดีค่ะอาภู" หลานสาวสองคนยกมือไหว้ด้วยกิริยาท่าทางอ่อนหวาน "หวัดดีลูกมาถึงเหนื่อย ๆ ไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ" "แล้วภาคีละวะ เห็นเพิ่งประกวดหนุ่มหล่อแห่งชาติอะไรมา ลูกมึงนี่ฮ็อตจริง ๆ จริงไหมยัยเหนือ" "ค...คะ พ่อถามเหนือทำไม เหนือไม่รู้" เหนือฟ้าสาวอวบผิวขาวอมชมพูถักเปียข้าง รีบปฏิเสธทันควัน "ทีตอนอยู่บ้านยังรู้เรื่องอยู่เลยนะ" ราตรีพี่สาวบีบแกมจ้ำม่ำของน้อง "เด็ก ๆ นี่กุญแจห้องพักจ้ะ" นับเก้าส่งคีย์การ์ดห้องพักให้ลูกสาวคนละอัน "พี่ไนท์น่าจะให้เหนือนอนด้วย ทำไมต้องนอนคนละหลังกัน เปลือ
เหนือฟ้าเดินสะบัดสะบิ้งเตรียมเรียกรถกอล์ฟของรีสอร์ตตรงกลับห้องพัก แต่ภาคีเร็วกว่าเพียงแค่ฝ่ามือใหญ่หนายึดข้อมือเธอไว้ กระชากให้หันกลับไปด้วยกำลังเล็กน้อย ตัวของเธอก็ปะทะกับกล้ามอกแน่นเข้าอย่างจัง "จะไปไหน" "จะกลับห้องพักค่ะ เหนือไม่หิวแล้ว" โครก!!! คราก!!! อยู่ดี ๆ ไอ้ท้องบ้าก็เกิดทรยศขึ้นมา มิหนำซ้ำยังร้องซะเสียงดังน่าเกลียด ภาคีเม้มปากแน่นพยายามกลั้นขำ "อยากขำก็ขำเถอะค่ะ" เหนือฟ้าสะบัดหน้าโกรธแล้วก้มลงมองวงแขนบึกบึนที่รวบเอวเธอไม่ยอมปล่อย เหนือฟ้ายืนตัวเกร็ง "ตอนเด็ก ๆ เหนือคงจำไม่ได้ว่าขี่หลังพี่ประจำ อ้อนให้พี่อุ้มอยู่บ่อย ๆ" ภาคีรำลึกความหลังสมัยเหนือฟ้ามาวิ่งเล่นอยู่บนไร่ชาบนดอยของเขานานร่วมเดือนช่วงที่พ่อแม่ของเธอแวะมาพักผ่อนหย่อนใจที่นี่ "เด็กขนาดนั้นใครจะจำได้ ยังไงเหนือขอร่างกายคืนด้วยค่ะ" สาวอวบจิกตาขวาง "ทำไมรู้สึกไม่ค่อยอยากคืนซะแล้ว" หน้าขาวโน้มต่ำลงมาให้ริมฝีปากคลอเคลียอยู่แถวหน้าผาก เหนือฟ้ารีบดึงตัวออก แต่วงแขนแกร่งก็ผลักเข้ามาอีก "พี่ภาคี!" "น่ากลัวจัง ปล่อยก็ได้" เขายกแขนแต่เปลี่ยนเป็นรวบตัวเธอขึ้นสูงแทน "นี่....พี่คีปล่อย อุ้มเหนือทำไม
ภาคีขับรถกอล์ฟมาส่งเหนือฟ้าลงหน้าบ้านพัก เขาจอดรถและเดินตามหลังมา "เหนือ" "คะ...พี่คีมีอะไรเหรอ" "ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับเหนือฟ้า พี่ขอแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการ พี่ภาคี กฤตกล้าธนาดร อายุยี่สิบห้าปี สถานะโสด" "รู้มาตั้งนานแล้ว" สาวแก้มยุ้ยพูดพึมพำ "ว่าไงนะ" "เปล่าค่ะไม่มีอะไร งั้นราตรีสวัสดิ์ค่ะ" "ฝันดี" แผ่นหลังสูงขับรถกอล์ฟไปจอดที่มุมมืดเพื่อลอบมองดูสาวอวบที่กำลังแตะคีย์การ์ดเข้าห้อง พอมั่นใจว่าเธอปลอดภัยเขาถึงขับรถออกไป นี่เป็นครั้งแรกที่เหนือฟ้านอนคนเดียวในที่ต่างถิ่น หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอก็เปิดไฟสว่างไปทั่วห้อง ตั๊บแก!! ตั๊บตั๊บตั๊บแก" "ตุ๊กแกที่นี่ก้างติดคอหรือไง แต่บรรยากาศที่นี่วังเวงจัง ป่านนี้พี่ไนท์หลับหรือยังนะ" เหนือฟ้าแชตไปหาพี่สาว แต่ราตรีไม่อ่านข้อความของเธอ หญิงสาวจึงพยายามสวดมนต์เพื่อผ่อนคลายตัวเองก่อนนอนและฝืนข่มตา แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีอาการกลัวผียิ่งทำให้เธอกระสับกระส่าย จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงห้าทุ่ม "ฮือตายแน่นอนไม่หลับ" แฟ่ก! แฟ่ก! เหนือฟ้าสะดุ้งลุกดึงผ้าห่มมาคลุมจนมิดหัว "เสียงอะไรอ่ะ" ด้านนอกระเบียงมีแมวประจำรีสอร์ตแวะมา
ภาคีผลักประตูแล้วรีบกดล็อกสาวเท้าเข้ามาจนเหนือฟ้าวิ่งหนีไปอยู่มุมห้อง "พี่คีจะทำอะไร หยุดอยู่ตรงนั้นไม่ต้องเข้ามา" หนุ่มมาดเซอร์ท่าทางยียวนกวนประสาทเลิกคิ้วสูงแล้วพุ่งตัวเข้าใส่สาวอวบหลับตาปี๋ยกแขนป้องตัวเอง สองแขนเต็มด้วยมัดกล้ามคร่อมแนบหัวไหล่เปลือยขาว "ขี้แย ขี้ตกใจ ขี้ขางด้วย น่าฮักขนาด" "ขี้ขางอะไรเหนือไม่เข้าใจค่ะ" เหนือฟ้าหลุบตามองพื้นพยายามทำตัวลีบแบน "ฮ่าฮ่าบ่ะหนุนน้อย จะย่อขนาดเหรอครับ ตัวเท่านี้แหละพี่ชอบ" "ฮะ...ชอบ ชอบอะไร" หญิงสาวพยายามจะมุดออกจากวงแขนกว้าง แต่ภาคีก็ขยับตามตลอด "ชอบบ่ะหนุนไง อร่อยดี" "เหนือไม่ใช่ขนุน....เฮ้ยพี่คีนั่นจิ้งเหลนนี่คะ มันเข้ามาในห้องได้ยังไง" เหนือฟ้าแสร้งหลอกให้เขาตายใจ "ฮะไหน" เขาก็ช่างหลอกง่าย สาวอวบจึงได้โอกาสมุดตัวหนีออกจากวงแขนที่คร่อมยันผนังอยู่ "จะหนีไปไหน" ถึงจะหลงกลแต่ระดับความเร็วของเขาก็ต่างกันอยู่ดี เรียวแขนแกร่งรวบเอวเหนือฟ้าแล้วรั้งให้หันกลับมาปะทะกับตัวของเขา คราวนี้ภาคีใช้แขนสองข้างรัดตัวเธอไม่ต่างกับงูเหลือมเพศผู้ "พี่คีชอบใช้กำลัง" บ่นอุบอิบทำแก้มป่องจนอยากก้มลงฟัดให้ช้ำกันไปข้างนึง "เปล่านะ พี่ไม่ได้ชอบใ
อีกวันเดียวครอบครัวเวหะชลการก็จะเดินทางกลับกรุงเทพ ภาคีจึงมายืนดักรอเหนือฟ้าหลังเธอกินมื้อเช้ากับครอบครัวเสร็จ วันนี้เหนือฟ้าใส่ชุดเอี๊ยมกางเกงขายาวสวมหมวกปีกกว้าง มองเผิน ๆ ดูน่ารักเหมือนสาวชาวไร่ ขณะที่เธอกำลังเดินมาถึงตัวเขามากขึ้นเรื่อย ๆ หนุ่มผมยาวตัดสินใจคุกเข่าลงตรงหน้า "เหนือเป็นแฟนกับพี่นะ" ทั้งพ่อแม่พี่สาว ทุกคนมองเธอเป็นตาเดียวกันแล้วรีบซอยเท้าเดินหนีไปจากตรงนั้นเพื่อให้เธออยู่กับเขาสองคน "พี่คีอ่ะ...ลุกเถอะค่ะเหนืออาย" "ไม่ลุก จนกว่าเหนือจะตกลง" "ก็ได้ค่ะ เหนือจะเป็นแฟนกับพี่คี" สาวอวบอมยิ้มแล้วฉุดแขนภาคีขึ้นมา "นี่ดอกไม้ที่พี่ปลูกเอง" ดอกไม้สารพัดสายพันธุ์ช่อใหญ่อยู่ในมือของเขา เหนือฟ้ารีบดึงช่อดอกไม้ดังกล่าวมาอย่างว่องไว พราะไม่อยากยืนเป็นเป้าสายตาของใครต่อใคร "ขอบคุณค่ะ" "พรุ่งนี้จะกลับกรุงเทพแล้วใช่ไหม พี่แวะไปหาได้เปล่า" "เหนือปิดเทอมแค่สองอาทิตย์ก็ต้องกลับไปเรียนต่อแล้วค่ะ พี่คีจะไปหาก็ไปหาที่บ้านแทนได้ไหม คือเหนือไม่อยากให้คนอื่น ๆ นินทาพี่คี" "ใครเขาจะพูดอะไรก็ปล่อยให้พูดไปสิ พี่ไม่แคร์" ความจริงแล้วเธอหวงเขาต่างหากไม่อยากให้ใครเ
นิสิตสาวเดินลงมาจากตึกคณะโบกมือลาเพื่อน ๆ ในกลุ่มจากนั้นตรงไปที่ร้านน้ำปั่นเจ้าโปรดเพื่อสั่งข้าวโพดนมสดปั่น แต่ขาเจ้ากรรมกลับสะดุดกึก เพราะห่างจากเธอไม่กี่เมตรคือ สารถีรูปหล่อสุดฮ็อตที่กำลังยืนกินหม่าล่าอยู่ข้าง ๆ ร้านน้ำปั่น โดยที่รอบตัวเขามีแต่นักศึกษาชายหญิงที่กำลังยืนห้อมล้อมราวกับพบดาราดัง "ทั้งหมดเท่าไหร่ครับ ผมขอแสกนจ่ายนะ" ภาคีล้วงหาโทรศัพท์เพื่อแสกนจ่าย แต่ทันใดนั้นดาวมหาลัยอย่างลินินก็เสนอตัวด้วยการยื่นแบงค์พันส่งให้ชายหนุ่ม"หนึ่งร้อยบาทจ้ะพ่อหนุ่ม นี่จ้ะ" ป้าแม่ค้าบอกพลางหยิบคิวอาร์โค้ดให้ลูกค้าหนุ่มแสกนจ่าย"เดี๋ยวลิเลี้ยงมื้อนี้เองค่ะ" นิสิตคนสวยกล่าวด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจ เหนือฟ้าที่ยืนมองดูอยู่นั้นได้แต่ลอบถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ แล้วรีบยกกระเป๋าปิดหน้าเดินไปสั่งน้ำข้าวโพดแก้วโปรดโดยไม่สนใจภาคี"ไม่เป็นไรครับ ผมมีเงิน" ภาคีตัดบทแล้วหยิบโทรศัพท์มาแสกนจ่าย สายตาที่เขาตวัดมองลินินนั้นดูเย็นชาและแฝงด้วยความน่ากลัว โชคดีที่เธอแชตมาสั่งมาน้ำปั่นกับแม่ค้าก่อน พอไปถึงก็ได้รับน้ำข้าวโพดปั่นกลิ่นหอมพอดี ทำให้เธอสามารถหลบหลีกการปะทะกับผู้ห
เหนือฟ้านั่งบิดขี้เกียจอยู่ใต้โคมไฟสีส้มสลัว ดวงตากลมเริ่มพร่าเลือนจนภาคีที่กำลังจัดวางกับข้าวถึงต้องชะเง้อคอมองดูด้วยความกังวล "เสร็จแล้วครับ มากินได้เลย" หนุ่มมาดเซอร์ในชุดผ้ากันเปื้อนมัดจุกรวบเก็บผมไว้ครึ่งหัวเดินมาตามนิสิตแสนขยันในห้อง สาวอวบกลั้นยิ้มเพราะเธอโคตรโชคดีที่ได้เห็นหนุ่มฮ็อตขวัญใจสาวค่อนประเทศในสภาพพ่อบ้านกล้ามโต "รับทราบค่ะ" เหนือฟ้าเดินตรงไปที่โต๊ะกินข้าว มองข้าวซอยไก่ชามใหญ่และน้ำข้าวโพดปั่นนมสดฮอกไกโดกลิ่นหอมสองชุด ภาคีนั่งลงฝั่งตรงข้าม แล้วรินน้ำเปล่าเพิ่มให้เธออีกหนึ่งแก้ว ทำไมเขาช่างดีกับเธอมากมายขนาดนี้ ทั้งที่เธอทำตัวเย็นชากับเขาสารพัด แต่เขาก็ไม่โกรธเลยสักครั้ง "พี่คีทำอาหารน่ากินจัง" เหนือฟ้าบอกแล้วตักข้าวซอยไก่ร้อน ๆ คำแรกใส่ปาก ดวงตากลมถลึงมองเมนูดังกล่าวในชามตัวเอง แล้วเริ่มจ้วงกินคำใหญ่อย่างลืมตัว จนพ่อครัวหัวเราะร่วน "อร่อยใช่ไหม กินเยอะ ๆ นะเดี๋ยวจะผอมไป" เขาแซว "อร่อยมากค่ะ ไก่ก็เปื่อยมาก น้ำซุปก็จัดจ้าน กดไลก์ให้เลย" เหนือฟ้าฉีกยิ้มเคี้ยวแก้มตุ่ย ภาคีรู้สึกภูมิใจที่ทำให้สาวที่เขาลงท
โรงพยาบาลทั้งครอบครัวเดินทางมาให้กำลังใจภาคีในวันที่มีผ่าตัดทำหมันกับหมอที่โรงพยาบาล หลังจากที่เขาตัดสินใจจะหยุดการสืบพันธ์ุนี้เพราะเกรงว่าภรรยาจะเผลอท้องขึ้นมาอีกในอนาคต และเพื่อแสดงตนว่าเขาจริงใจที่จะเสียสละเพื่อเธอดังนั้นวิธีการนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพราะเขาอยากให้เหนือฟ้ารู้ว่าทายาททั้งหกคนของเขาจะเป็นของเธอตลอดไป และจะมีใครมีโอกาสแย่งชิงเขาไปจากเธอ"ปี้ปี้" หมูยอเดินเลาะไปมาเกาะแข้งเกาะขาพวกพี่ ๆ ขณะที่แป้งจี่นอนหลับอยู่บนตักแม่ ส่วนน้ำเงี้ยวนั้นนอนแผ่ยาวหนุนตักน่านฟ้าและนิ่มฟ้าเสมือนว่าพี่สาวพี่ชายเป็นเตียงนอนส่วนตัว"หมูยอคะมานั่งเฉย ๆ สิลูก" เหนือฟ้าอุ้มลูกชายสายปราดเปรียวที่ไม่ยอมหลับยอมนอน เอาแต่ปีนป่ายโซฟาไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย"หม่ำ ๆ" หมูยอเริ่มเดินเหนื่อยหนูน้อยหยิบขวดนมในกระเป๋าสัมภาระเด็กที่วางอยู่บนเก้าอี้ แล้วเปิดฝาขวดนมบริการตัวเอง"อะหยังป้อต้องตัดหำโตยก๊ะ" น่านฟ้าสงสัยตั้งแต่พ่อบอกว่ามีนัดตัดสิ่งที่อยู่ใต้หว่างขา เด็กชายก็มีคำถามกับเธออยู่ตลอด"ป้อตัดเพื่อคุมกำเนิดพวกเราจะได้มีกันแค่หกคนไงคะ ไม่ดีเหรอหรือหนูอยากมีน้องเพิ่ม" เหนือฟ้าหันไปอธิบายกับลูกชาย"อึ๋ย
ล่วงเลยมาจวบจนแฝดสามตัวป่วนอายุย่างเข้าวัยหัดอ้อแอ้ ความโกลาหลก็เพิ่มระดับขึ้นทำให้ในแต่ละวันพ่อแม่ต้องสลับกันควักยาดมตอนนี้บะแต๋งขึ้นประถมศึกษาชั้นปีที่หกส่วนนิ่มฟ้าและน่านฟ้าขึ้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง“เย้นิ่งเป็นฉาวแล้ว” นิ่มฟ้าสะบัดผมเปียของตัวเองขณะสวมชุดกระโปรงแบบไม่มีเอี๊ยม เด็กหญิงชะม้อยชะม้ายชายตามองกระจกขณะที่แม่ทำหน้าที่จัดทรงผมตามระเบียบของโรงเรียนที่กำหนดว่าต้องมัดผมให้เรียบร้อย“แก่แดดแก่ลมเกินไปแล้วนะแม่คนนี้” เหนือฟ้ายื่นมือมาบีบแก้มอูมของลูกสาว“ที่รักอาหารเช้าเสร็จแล้ว” ภาคีตะโกนเสียงดังขึ้นมาบนห้องนอนชั้นสาม สองแม่ลูกจึงพากันลงไปลิ้มรสมื้อเช้าขณะที่แฝดสาม บะแต๋งและน่านฟ้านั่งประจำตำแหน่งที่โต๊ะอาหารของใครของมันเรียบร้อย ที่คอของหมูยอ แป้งจี่และน้ำเงี้ยวมีผ้ากันเปื้อนลายลายการ์ตูนคนละสี ผมของทารกวัยหนึ่งขวบกว่าเริ่มดกดำคลุมทั้งหัว“หม่ำ ๆ” หมูยอกระแทกช้อนส้อมกับเก้าอี้กินข้าวที่มีกระบะสำหรับใส่ภาชนะอย่างร้อนใจ“ครับเสร็จแล้วลูก” ภาคีวางถ้วยบะหมี่ผักหมูน้ำลงบนกระบะกินข้าวของแฝดสาม แล้วยกจานข้าวผัดปลาแซลมอนจานใหญ่มาตั้งตรงกลางให้บะแต๋ง นิ่มฟ้าและน่านฟ้าบริการตัวเองทว่า
หนึ่งสัปดาห์ของการปิดเทอมที่เงียบเหงาทำให้นิ่มฟ้าที่ใจจดจ่อรอคอยต้องออกไปหากิจกรรมทำพร้อมกับพี่น้อง ช่วงเช้าเด็กหญิงนั่งรถซาเล้งออกมากับภาคีที่กระเต็งน้ำเงี้ยวไว้ในเป้อุ้มทารก ในรถพ่วงข้างยังมีส้มปู๋กับบะแว้งและบะแปปเจ้าแพะแคระติดสอยห้อยตามมาด้วย ส่วนบะแต๋งกับน่านฟ้านั้นไปทำงานกับแม่ที่โรงเลี้ยงวนิลา"เทพมาสไม่มาหาหนูแล้วเหรอ" จู่ ๆ พ่อก็ตัดสินใจถามเด็กหญิงที่กำลังใช้คราดขุดมันม่วงโอกินาว่า นิ่มฟ้าผงะเล็กน้อยกับคำถามที่เธอไม่อยากตอบเท่าไหร่"ดะดะ" แต่เพราะน้ำเงี้ยวเอียงคอมองพี่สาวที่กำลังทำหน้าจ๋อย พี่จึงยิ้มกว้างเพื่อให้น้องสบายใจ"บ่มาแล้ว จะไปตี้ไหนก็ไปเต๊อะนิ่งมุดออนแล้วเจ้า" หนูน้อยวัยอนุบาลที่มีวาจาฉะฉานประหนึ่งคนโตตอบพ่อด้วยความมั่นใจ แล้วกลับไปใช้คราดถากหญ้าถอนมันต่อ"เขาเรียกว่ามูฟออนจ้ะ ทำใจ๋เต๊อะความรักก็แบบนี้แหละน้า" ภาคีอุ้มน้ำเงี้ยวออกมาแล้วจับใส่สนับเข่าให้เจ้าตัวเล็กหัดคลานไปบนพื้นดินและได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มที่"ตะตะ" น้ำเงี้ยวเห็นใครบางคนกำลังกวักมือเรียก หนูน้อยสวมหมวกลายดอกไม้กับชุดผ้าหม้อฮ่อมสไตล์ล้านนารีบเร่งคลานแบบติดเทอร์โบไปหาเป้าหมายที่กำลังเปล่งแสงเร
ผ่านมาแล้วเกือบเจ็ดเดือนแล้วที่เหนือฟ้ากับภาคีได้กลายเป็นพ่อแม่ลูกหก แม้ในแต่ละวันทั้งคู่จะวุ่นวายกับการเลี้ยงเจ้าตัวเล็กต่างวัยทั้งหลาย แต่กลับไม่รู้เลยว่าการมีเด็กน้อยเหล่านี้เป็นภาระเพราะพวกเขามีพร้อมทุกอย่าง ทั้งเวลาอาชีพ เงินทองและความรักทว่ากลับมีเด็กหญิงเพียงคนเดียวที่กลายเป็นเด็กไม่สดใสร่าเริง เนื่องจากเธอเฝ้ารอคอยใครคนนั้นให้แวะเวียนมาหา โชคร้ายที่คำสวดอ้อนวอนและภาวนารวมทั้งการทำความดีของเธอไม่ได้ช่วยให้เทวดาคนโปรดปรากฏกายถึงแม้นี่จะเป็นวันปิดเทอมวันแรกของภาคเรียนที่หนึ่ง แทนที่นิ่มฟ้าจะดีใจแต่เธอกลับรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ไปโรงเรียน เพราะการไปเจอเพื่อน ๆ นั้นทำให้เธอได้พบกับความสนุกสนาน เสียงหัวเราะและพูดคุยของเพื่อนสนิทนั้นช่วยคลายความเหงาและความคิดถึงที่มีต่อเทพมาส“นิ่มฟ้าหนูมีการบ้านปิดเทอมหรือเปล่าคะ” เหนือฟ้าที่กำลังทำงุ่มง่ามวุ่นวายกับการเตรียมมื้อเช้าให้ทารกแฝดสามวัยอายุเจ็ดเดือนเศษอยู่หน้าเตาชะเง้อคอมองลูกสาวที่กำลังนั่งเฝ้าน้องในคอกกั้นโดยไม่พูดไม่จา “นิ่มฟ้าแม่ถามว่ามีการบ้านหรือเปล่าลูก” สาวอวบปิดเตาแก๊สแล้วล้างมือเดินไปดูอาการของลูกสาวที่ซึมเศร้าเหงาหงอยมาพักใ
หลังจากครูนับเก้าและผอ.ทัพฟ้าเดินทางกลับบ้าน เช้าวันต่อมาหม่อมเจ้าภูวสินและเจ๊ต่ายจึงแวะเวียนมาหาลูกชายกับลูกสะใภ้ บริเวณโต๊ะรับประทานอาหารของห้องพักเด็กแฝดสองคนกำลังรอพี่ชายทำอุ่นข้าวกล่องในไมโครเวฟให้กิน ระหว่างที่พ่อกำลังวุ่นวายกับการช่วยแม่ประคองน้องแฝดสามเข้าเต้า“มาแล้วข้าวกระเพราไก่ของนิ่มฟ้า ส่วนนี่ข้าวหมูกระเทียมของน่านฟ้า” บะแต๋งใช้ถุงมือกันร้อนหยิบกล่องข้าวมาวางตรงหน้าน้องสองคนที่ยังคงสะลืมสะลือเหมือนยังไม่พร้อมตื่นนอน เพราะพยาบาลกับหมอเดินเข้ามาเช็กความดันเช็ดสุขภาพแม่ตลอดทั้งคืน“บ่กิ๋นข้าวกา” บะแต๋งนั่งลงข้างน้องสาว หยิบหวีมาสางผมน้องที่ยุ่งกระเซอะกระเซิงเด็กหญิงทำหน้าจ๋อยส่งให้พี่ชาย เพราะเกือบหนึ่งอาทิตย์แล้วที่เธอเรียกเทวดาคนโปรดมาแต่เขากลับเบี้ยวไม่มาตามนัด“นิ่งตูดเต ป้อจายเตนิ่ง” นิ่มฟ้าผ่อนลมหายใจหนัก ๆ“ไผตี้ไหนทำย้ายฉิดใจ๋ก๋องปี้นิ่ง” น่านฟ้าถามพลางอมข้าวเก็บไว้ข้างแก้ม“อ้ายมาสทำย้ายใจ๋ปี้ ฉงฉัยมีฟันใหม่” เด็กหญิงคิดว่าเทวกุมารคงมีเด็กหญิงคนอื่นอยู่ในหัวใจ ถึงได้หมางเมินกับเธอเช่นนี้“ไม่หรอกน่า เทวดาก็มีภารกิจมากมายคงไม่มีเวลามาหาแฟนใหม่หรอก กิ๋นข้าวเต๊อะ” มื
9 เดือนต่อมาห้องคลอดบะแต๋ง นิ่มฟ้า น่านฟ้าและวงศาคณาญาติต่างนั่งลุ้นรอลุ้นกับทายาทคนใหม่ที่กำลังจะลืมตาดูโลก แต่มีเพียงคนเดียวที่เอาแต่เดินไปเดินมาจนทุกคนพากันเวียนหัว"หยุ๋ดเตวซะทีเต๊อะ อ้ายเมาหัวโจ้น ๆ แล้ว" บะแต๋งคว้าข้อมือน้องสาว"ก็นิ่งตื่นเต้นเจ้า" นิ่มฟ้าบอกพี่ชายพลางเหลือบมองหน้าประตูห้องคลอด"มานั่งตักอ้ายมา" บะแต๋งอุ้มน้องสาวนั่งลงบนตัก สวมกอดน้องแล้วจับมือที่เย็นเฉียบขึ้นมาเป่า"อ้ายแต๋งหนุนน้อยจะปดพัยก่อ" เด็กหญิงตบมือเปาะแปะลงบนมือพี่"ปลอดภัยสิครับ" พี่ชายกอดรัดน้องสาวแล้วโยกตัวเบา ๆ ขณะที่น่านฟ้าเพิ่งกลับมาจากร้านสะดวกซื้อพร้อมกับยายนับเก้าและตาทัพฟ้า เนื่องจากหม่อมเจ้าภูวสินกับเจ๊ต่ายติดธุระจึงส่งพ่อตาแม่ยายลูกชายมาแทน"น้องออกมารึยัง" เด็กชายนั่งลงพร้อมส่งเยลลี่รูปหมูให้พี่ชายกับพี่สาวกินเล่นระหว่างรอพ่อกับแม่"ยังเลย แต่เดี๋ยวก็คงออกมาแล้วล่ะ" บะแต๋งหันไปคุยกับน้องชายพลันนั้นไฟที่หน้าห้องคลอดก็ดับลงพร้อมกับประตูที่เปิดออก เตียงผู้ป่วยที่มีร่างเหนือฟ้านอนยิ้มแป้นชูสองนิ้วออกมาให้ลูกทั้งสามคนและครอบครัวของเธอและสามีขณะที่ภาคีเดินตามออกมาหลังสุดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับหย
เด็กหญิงเปิดโคมไฟดอกไม้ที่หัวเตียงนั่งพับเพียบไหว้พระแล้วเริ่มอธิษฐานถึงพระจันทร์กลมโตที่ซ่อนตัวอยู่หลังม่านเมฆสีเทา"อ้ายมาสฉา อ้ายมาสฉุดหย่อมาหานิ่งเต๊อะ" นิ่มฟ้าประสานมือแน่น มองท้องฟ้าที่เคลื่อนตัวผ่านหน้าต่างห้อง ทว่าเทพมาสกลับไม่ปรากฏกายเสียที หนูน้อยนั่งรอนอนรอจนตาแทบปิด แล้วรู้สึกน้อยอกน้อยใจที่เทวดาคนโปรดไม่ยอมมาหาแต่ช่วงเวลาเคลิ้มหลับเทพมาสกลับร่วงตุ้บลงมาบนเตียงของนิ่มฟ้าโป๊ก!หน้าผากของทั้งคู่เขกชนกัน"โอ๊ย! เจ๋บ ๆ" นิ่มฟ้าจับหน้าผากของตน ดวงตากลมใสสอดประสานกับคนด้านบน เทวกุมารรูปหล่อกะพริบตาปริบ ๆ นิ่มฟ้าได้โอกาสรวบกอดอีกฝ่ายเสมือนเป็นตุ๊กตาขนาดเท่ามนุษย์"ได้โอกาสเอาใหญ่เชียว" เขายิ้มแต่ก็ไม่ได้ห้ามปรามเด็กหญิง แต่รู้ดีว่าไม่เหมาะสมจึงรีบดึงตัวออกอย่างว่องไว"อ้าว หนีนิ่งตำไมล่ะ นิ่งกิ๊ดเติงหาอ้ายมาสเน้อ" นิ่มฟ้าคลานสี่ขามาถึงปลายเตียง แล้วนั่งพับเพียบเรียบร้อยทำหน้าจ๋อย"เป็นเด็กเป็นเล็กไม่สมควร" เขามักจะย้ำเรื่องความไม่สมควรจนเด็กหญิงจำได้ขึ้นใจ"ตำไมซอบอู้เรื่องไม่ฉมควร ไม่ฉมควรเป็นยังไงเจ้า""เอาไว้อธิบายวันหลังละกัน ตอนนี้ดึกมากแล้วน้องควรนอนหลับ" เทพมาสพยักพเยิดใ
ภารกิจที่ญี่ปุ่นจบลงอย่างรวดเร็วแม้ก่อนวันเดินทางภาคีต้องไปเป็นวิทยากรที่มหาลัยเก่าพร้อมกับพาบะแต๋งไปโชว์ตัว เนื่องจากคลิปที่เป็นไวรัลในญี่ปุ่นนั้นมีภาพการแสดงของบะแต๋งและหุยหุยรวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ทุกคนยังให้การต้อนรับและชื่นชมเขาและลูกชายอย่างอบอุ่น หลายคนยังออกปากว่าถ้ามีโอกาสจะไปเที่ยวที่ไร่พิทักษ์มหิงสาเพื่อชมการแสดงควายแคระหลังจากเดินทางถึงบ้าน ครอบครัวเขาและครอบครัวภรรยาต่างแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน ขณะที่เหนือฟ้ามีอาการเจ็ทแลคทำให้มีอาการอ่อนเพลีย ทั้งที่กลับมาได้เกือบสามวันแล้วแต่เธอกลับไม่สดใสร่าเริงนั่นจึงจนทำให้ภาคีเริ่มวิตกจริต"เหนือโอเคไหม ไม่สบายตัวตรงไหนบอกพี่นะ" เขาหยิบหวีมาสางผมที่พันกันยุ่งเหยิง รู้เลยว่าภรรยากำลังเหนื่อยล้าขนาดผมเผ้ายังไม่หวีให้เรียบร้อย"แค่เหนื่อยค่ะ แล้วเหนือก็รู้สึกกลัวด้วย ฮึก..ฮึก" เธอมักจะเห็นภาพตอนที่ตัวเองตกเลือดซ้ำ ๆ ในหัว ครั้งนั้นมันเหมือนฝันร้ายที่ฝังอยู่ในใจของเธอเรื่อยมา เหตุการณ์ในวันวานที่สูญเสียลูกคนที่สองไป"ไม่เป็นไรครับ ดีแล้วที่กลัว การที่เรากลัวไม่ใช่เรื่องเลวร้ายนะ และเวลาที่เหนือกลัวพี่จะได้รู้ว่าต้องดูแลเหนือยังไง" เข
กองถ่ายรายการให้เวลาเด็กทั้งสามคนซักซ้อม เหนือฟ้าที่นั่งกินผลไม้จนจุกจึงลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย เดินมาให้กำลังใจลูก ๆ“บะแต๋ง นิ่มน่านมาหาแม่เร็วค่ะ” เหนือฟ้ากวักมือเรียกแก๊งเด็กแสบจึงรีบสับขาไปหาอย่างไว“มีอะหยังบะหนุนน้อย” บะแต๋งกุมมือแม่“แม่แค่อยากให้กำลังใจครับ แม่เชื่อว่าพวกลูกทำได้” เหนือฟ้าลูบศีระษะเล็กของลูกทั้งสามคนละที“แต๋งทำได้ครับ” บะแต๋งโผเข้ากอดแม่ พิงหน้ากับท้องเพื่อขอกำลังใจจากน้องแฝดสามที่กำลังจะลืมตาดูโลกในอีกไม่ช้า “อ้ายขอกำลังใจ๋หน่อยเน้อละอ่อนทั้งหลาย” “น่านก็ตำได้ น่านไปฝึกฉ้อมกับปาขี้ก่อนเน้ออี่แม่” น่านฟ้าชูสองนิ้ววิ่งนำไปหาพ่อเป็นคนแรก ตามด้วยบะแต๋งเป็นคนที่สอง เหลือเพียงนิ่มฟ้าที่ยังยืนท่องภาษาญี่ปุ่นวนไปเวียนมาด้วยความไม่มั่นใจ“คนนี้ล่ะทำได้หรือเปล่า” เหนือฟ้ายื่นมือไปให้ลูกสาวจับ เด็กหญิงจับมือแม่มาหอมเพื่อสร้างกำลังใจให้ตนเอง“นิ่งตำอย่างอื่นได้จ้าว แต่นิ่งจำปาสายี่ปุ่งบ่ได้” นิ่มฟ้าบอกปัญหาที่ตนเองมีให้แม่ฟัง“เขาให้พูดว่า ชิอาวาเสะ เดส เนะ ก็แค่คำพูดเพียงหกคำเท่านั้นเอง เหมือนตอนที่หนูนับควายหกตัวนั่นแหละ”เพราะเธอรู้ดีว่าลูกสาวเห็นทุกอย่างเป็นควายไปซะหม